ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจรักภูธร

    ลำดับตอนที่ #5 : ทำความรู้จัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.64K
      8
      21 มิ.ย. 59

              

              หลังจากเหตุการณ์เมื่อช่วงเย็น ปราณปรียาก็ไม่กล้าออกจากห้องของตัวเอง เพราะกลัวว่าจะเจอหน้าคู่กรณีแล้วจะทำหน้าไม่ถูก นึกแล้วก็โทษตัวเองที่ทำอะไรวู่วามเหมือนเด็ก แทนที่ตัวเองจะเป็นเจ้าทุกข์ กลายเป็นคนผิดไปซะอย่างนั้น 

              ขณะที่หญิงสาวกำลังคุยโทรศัพท์กับมารดาตามที่เคยตกลงกันไว้ก่อนจะมาบรรจุ  บนชั้นสองของบ้าน  หูก็แว่วได้ยินเสียงเหมือนใครมาเปิดน้ำอยู่ทางหลังบ้าน  จึงเดินไปชะโงกหน้าดูที่หน้าต่างเห็นผู้ชายผมตัดสั้น ใส่แต่กางกางขาสั้นถึงเข่าตัวเดียว  กำลังล้างรถมอเตอร์ไซค์เคราะห์ร้ายคันนั้นอยู่ เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะหนึ่งทุ่มจึงทำให้มองเห็นไม่ชัด จึงวางสายเพื่อจะเพ่งสายตาดูให้ชัดๆ ใครกัน แต่ เอ๊ะ! นี่มันก๊อกน้ำบ้านเธอนี่นา เมื่อคิดได้อย่างนั้น ขาก็ก้าวลงมาไวเท่าความคิด

              “ทำอะไรของคุณเนี่ย” ปราณปรียา ส่งเสียงแวดด้วยความโมโห หลังจากผลักประตูหลังบ้านออกไปเต็มแรง  ผู้บุกรุกหาได้ตกใจกับการกระทำนั้นแม้แต่น้อย เขาทำเพียงหันหน้ามามองแล้วเลิกคิ้ว

              ปราณปรียา ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นว่าผู้บุกรุกเป็นใคร ตอนแรกที่ดูไม่ออกเพราะว่าชายหนุ่มตอนหัวค่ำยังผมยาวและหนวดเครารุงรังอยู่เลย แต่ชายหนุ่มในตอนนี้ตัดผมสั้นและหน้าตาสะอาดสะอ้านไร้ซึ่งหนวดเครา ทำให้หน้าตาดูเด็กลง และที่สำคัญเขาหน้าตาดีทีเดียว หญิงสาวหลงเพลินพิจารณาหน้าตาของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว

              “ยืนเฉยทำไม มาล้างรถช่วยกันสิครับ...คุณปราณปรียา” หญิงสาวตื่นจากภวังค์ หันมาจ้องหน้าชายหนุ่มที่มายืนอยู่ตรงหน้าจนจมูกแทบจะชนกับจมูกของเธอ จนต้องยกสองมือขึ้นยันหน้าอกของเขาเอาไว้

              “อี๋...ถอยออกไปเลยนะ มาใช้น้ำบ้านคนอื่นแล้วยังจะมาใช้เจ้าของบ้านอีกเหรอ” หญิงสาวถอยหลังหนึ่งก้าว พร้อมกับต่อว่า ในขณะที่มือยังดันอยู่ที่แผงอกของอีกฝ่าย ชายหนุ่มยังเงียบไม่ตอบโต้แต่สายตามองลงมาที่มือของเธอพร้อมรอยยิ้มล้อเลียน

     

     

              ปราณปรียา ลืมไปเลยว่าเขาไม่ใส่เสื้อ พอนึกได้ก็รีบกระโดดหนีแทบไม่ทันแถมยังหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย ภวินท์หันกลับไปใช้สายยางฉีดน้ำใส่ “เจ้าเข้ม” อย่างสบายใจ ไม่ได้สนใจว่าเจ้าของบ้านจะว่าอย่างไร

              หลังจากที่ปราณปรียาตั้งสติได้ ก็นึกขึ้นได้ว่าชายหนุ่มเรียกชื่อของเธอ แล้วเขารู้ได้อย่างไร

              “นี่ คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง” ขณะที่ถามก็พยายามมองไปทางอื่น เพราะอายที่จะมองดูกล้ามเนื้ออันสมบูรณ์แบบของเขา ที่เจ้าตัวไม่ได้สนใจความรู้สึกของคนอื่นเลย

              “ก็...ผมเป็นตำรวจนี่ก็ต้องรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว” ภวินท์ อธิบายทั้งที่ยังก้มๆ เงยๆ เช็ดรอยลิปสติกบนตัวเจ้าเข้มอยู่ จะให้บอกได้ไงว่าเขาโทรไปถามรุ่นน้องบน สน. ดูเหมือนตำรวจทั้งโรงพักจะรู้จักเจ้าหล่อนกันทุกคน ขืนบอกไปอย่างนั้นเจ้าตัวอาจจะเอาไปคิดได้ว่าเขากำลังสนใจในตัวเธอ

              ปราณปรียา คิดคล้อยตามว่าคงจะจริงอย่างที่ชายหนุ่มบอก ไม่มีเหตุผลที่เขาจะมาสืบประวัติของเธอ

              “นี่ อย่ามาเนียนแอบใช้น้ำบ้านคนอื่นฟรีๆ นะ” พอนึกได้ก็เดินเท้าสะเอวเข้าไปใกล้ ภวินท์ลุกยืนแล้วเดินเข้ามาเช่นกัน ส่งผลให้คนเก่งแต่ปากต้องถอยร่นกลับมายืนที่กรอบประตู

              “ยังจะให้บอกอีกเหรอว่ามาใช้น้ำที่นี่ทำไม คุณเป็นคนทำรถผมเลอะก็ต้องชดใช้สิ” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม ทำหน้าดุ

              “ทีเมื่อเช้านี้คุณทำฉันเกือบรถล้มหละ จะชดใช้ยังไง” คราวนี้หญิงสาวยืนกอดอกเถียงกลับบ้าง

              “แล้วล้มรึยังหละครับ” ทำเสียงล้อเลียน พร้อมกับใช้สายตาตรวจสอบคนตรงหน้า

              หญิงสาวต้องรีบเบือนหน้าหนีเมื่อมองเห็นแผงอกกว้างไร้อาภรณ์ห่อหุ้มของฝ่ายตรงข้าม พลันคิดว่าทำไมไม่รู้จักใส่เสื้อซะบ้างนะ มันจั๊กกะจี๋ลูกกะตา

              “แล้วทำไมไม่รู้จักใส่เสื้อเนี่ย” ปากเร็วเท่าความคิด พอพูดไปแล้วก็ได้แต่ทำเสียงอึ๊ยอ๊ายในลำคอ 

              “ใส่ทำไม เดี๋ยวก็เปียก” เขาเถียงกลับหน้าตาเฉย เหมือนการไม่ใส่เสื้อแล้วมาเดินอยู่บ้านคนอื่นเป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญชนทำกัน แถมยังเดินใกล้เข้ามาอีก พร้อมกับยื่นสายยางฉีดน้ำมาตรงหน้า

              “จะยืนเฉยอีกนานไหม มาช่วยกันล้างจะได้เสร็จๆ นี่ยังไม่รวมคดีทำร้ายร่างกายเจ้าของรถด้วยนะ” ข้อกล่าวหาที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้ทำเอาปราณปรียาถึงกับอ้าปากค้าง พร้อมกับกลอกตาไปมาอย่างเหลืออด ก่อนที่จะรีบดึงสายยางในมือของชายหนุ่มมาถือไว้ แล้วเดินไปล้างรถอย่างเสียไม่ได้ ส่งผลให้ชายหนุ่มยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ

              จากนั้นต่างฝ่ายก็ทำหน้าที่ของตน โดยเจ้าของรถเป็นคนแบ่งหน้าที่เสร็จสรรพ เขาเปลี่ยนให้หญิงสาวเป็นคนขัดรถแล้วตัวเองทำหน้าที่ฉีดน้ำ และคอยชี้นิ้วสั่งอีกคนที่จำใจต้องทำเพื่อจะได้เสร็จเร็วๆ ภวินท์แปลกใจตนเองเหมือนกันว่าทำไมถึงนึกอยากแกล้งผู้หญิงคนนี้นัก ทั้งที่ผ่านมาเขาเองแทบจะไม่เคยสนิทกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน 

             

     

              ปราณปรียา ต้องอาบน้ำชำระร่างกายอีกครั้งเมื่อกลับเข้ามาในห้อง เพราะกว่าจะล้างรถเสร็จทำเอาตัวเธอเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำ ทั้งยังต้องคอยหลบน้ำที่ชายหนุ่มแกล้งฉีดให้โดนตัวเธอ เล่นเอาทั้งเหนื่อยทั้งโมโห พอเสร็จภารกิจก็รีบไล่แขกไม่ได้รับเชิญกลับห้องทันที ซึ่งชายหนุ่มก็ยอมกลับแต่โดยดีเพราะเห็นว่าดึกแล้ว

              แม้จะรู้สึกเหนื่อยล้า แต่พอเข้านอนหญิงสาวก็ได้แต่ลืมตาอยู่ในความมืด เพราะสมองเอาแต่คิดถึงผู้ชายหน้าดุ ปากร้ายคนนั้น และเผลอนึกเลยไปถึงสรีระของบุรุษเพศ การสัมผัสใกล้ชิดกันที่ชายหนุ่มจงใจแกล้ง แต่คนถูกแกล้งกลับหน้าแดงและใจเต้นแรงทุกครั้งที่เข้าใกล้หรือแม้กระทั่งนึกถึง ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน ยิ่งนึกขึ้นมาก็ยิ่งรู้สึกเขินอายจนต้องดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงทั้งที่อากาศไม่ได้หนาวเลย

     

    ***************************************

    คอมเม้นท์กันมาบ้างนะคะ

    พอมีกำลังใจค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×