คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : โชคชะตานำพา (3)
ทันทีที่จอดจักรยานเรียบร้อย หญิงสาวก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนบ้านกำลังขนข้าว
ขนของมากองไว้หน้าห้อง
“พี่ดาวจะไปไหนเหรอคะ ทำไมขนของไปซะเยอะเลย”
หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องพักของสาวรุ่นพี่
“พี่จะกลับไปอยู่บ้าน ไม่อยากอยู่มันแล้วที่นี่มีแต่คนเฮงซวย”
ดาวประกาย ซึ่งยังอยู่ในอารมณ์โกรธตอบเพื่อนบ้านสาว
ขณะที่ลากกระเป๋าผ้าใบใหญ่โยนโครมลง ปราณปรียาถึงกับหน้าชากับคำว่าเฮงซวย
จึงได้แต่ยืนเงียบ
“โทษที พี่กำลังโมโห ไม่ได้ว่ากระต่ายนะ ว่าไอ้ผัวเฮงซวยของพี่ตะหาก”
คนปากร้ายเพิ่งคิดได้จึงรีบพูดแก้ตัว
ปราณปรียาได้แต่ยิ้มแห้งๆ กลับไป แต่ก็พอจะรู้อยู่ว่าดาวประกายนั้น
ปากคอเราะร้ายแค่ไหน
“แล้วจ่าสมยศ รู้ยังคะว่าพี่ดาวจะกลับบ้าน” ถามด้วยความเป็นห่วง
เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็เห็นสองสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันประจำ
“มันจะรู้อะไร กว่าจะกลับบ้านก็คงพรุ่งนี้เช้านู่นหละ
ดีแล้วสมน้ำหน้ามัน อยากเมาดีนักให้มันอยู่คนเดียวให้สมใจอยาก”
แม้จะพูดแบบไม่ใยดีแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าสามีน่าจะมาง้อตัวเองซะหน่อย
แม้ในใจจะนึกเป็นห่วงเพราะเมื่อตอนเช้ามืดเผลอทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ เนื่องจากโมโหที่เพื่อนโทรมาบอกว่าเห็นจ่าสมยศ
กับผู้หญิงซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์กันออกมาจากโรงแรมม่านรูด พอจ่าสมยศกลับมาจึงมีปากเสียงกัน
และดาวประกายหยิบจานกระเบื้องที่อยู่ใกล้มือในตอนนั้น
เขวี้ยงโดนหัวจ่าสมยศจนได้เลือด
ถึงจะสำนึกผิดแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ขอโทษเพราะจ่าสมยศในเวลานั้นก็โมโหมากเช่นกัน
พอคว้ารถได้ก็ขี่ออกไปทันที
ปราณปรียา พยายามเกลี้ยกล่อมให้ดาวประกายอยู่รอจ่าสมยศก่อน
แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เห็นด้วยและยืนกรานจะกลับท่าเดียว
หญิงสาวจึงทำได้เพียงขนของช่วย เมื่อรถกระบะรับจ้างวิ่งมาจอดที่หน้าบ้านพัก จนดาวประกายขึ้นรถออกไป
จึงเดินกลับมาที่ห้องของตน
พลันสายตาของหญิงสาวก็เหลือบไปเห็นรถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบด์สีดำสนิท
จอดอยู่หน้าห้องพักซึ่งอยู่ถัดจากห้องของเธอไปหนึ่งคูหา หญิงสาวรู้สึกคุ้นตากับรถคันนี้มากและเหตุการณ์เมื่อตอนเช้าก็ฉายซ้ำเข้ามาในความคิด
ปราณปรียาเดินข้ามห้องพักที่ไม่มีคนอยู่ตรงไปยังห้องถัดไป
เพื่อจะได้ดูเจ้ารถคันนั้นให้ชัดๆ ว่าเป็นคู่กรณีเมื่อตอนเช้าหรือไม่
และเมื่อเข้ามาดูใกล้ๆ ก็ยิ่งมั่นใจเพราะหญิงสาวจำเลขทะเบียนได้แม่นยำ
“ชัวร์เลย เจอตัวแล้วไอ้เด็กแสบ ฮึ่ม...จะเอาคืนยังไงดีน้า”
ปราณปรียา เดินกอดอก วนรอบรถคันนั้นไปมา
พลางใช้ความคิดว่าจะแก้เผ็ดเจ้าของรถคันนี้ยังไงดี เพราะจินตนาการไปว่าเจ้าของรถต้องเป็นเด็กแว้นแน่ๆ
ในขณะที่เจ้าของรถกำลังยืนมองการกระทำนั้นอยู่บนชั้นสองของห้องพัก
และแล้ว ภวินท์ ก็ต้องขมวดคิ้ว
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวผมยาวคนเมื่อเช้ากำลังปทุษร้ายเจ้าเพื่อนยากของเขาอยู่ ก่อนจะรีบสาวเท้าลงบันไดมาอย่างรวดเร็วเพื่อระงับเหตุ
ขณะที่ ปราณปรียา
กำลังใช้ลิปสติกสีแดงสดละเลงแต่งหน้า ทาปาก
ให้เจ้ามอเตอร์ไซด์เคราะห์ร้ายคันนั้นอย่างเมามัน
“ทำอะไรไม่ทราบ” ภวินท์ถามเสียงดังเกือบจะเป็นตะโกนทั้งที่ยังทำหน้าตาเฉย
เมื่อลงมาเห็นสภาพของ “เจ้าเข้ม” เพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก
ส่งผลให้ผู้กำลังก่อการร้ายถึงกับตกใจจนทำของกลางร่วงหลุดจากมือ กลิ้งไปตกอยู่แทบเท้าของชายหนุ่มผมยาวที่มองมาอย่างเอาเรื่อง
“ฮะ...เอ่อ...ปะ..เปล่าทำ” ปราณปรียา
ถึงกับติดอ่างเมื่อหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงห้าวทุ้ม
พร้อมกับยกมือขึ้นโบกเป็นพัลวัน ส่วนขาก็ก้าวถอยหลังแต่ช้ากว่า
เมื่อชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้พร้อมกับยึดข้อมือของผู้ต้องหาไว้
“นี่ไง หลักฐานคาตา
ทำความผิดซึ่งหน้ายังจะมาปฏิเสธอีก” ภวินท์ ยกมือของผู้ต้องหาหมาดๆ
ขึ้นโชว์ให้เจ้าของดู ปราณปรียามองดูมือที่เปื้อนเปรอะไปด้วยลิปสติกสีแดงของตัวเอง
แล้วก็ต้องหลับตาปี๋เมื่อชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะสิงร่างเธออยู่แล้ว
ฝ่ายผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ได้แต่กลั้นยิ้มขำเมื่อเห็นใบหน้าแดงระเรื่อนั้น
ในระยะใกล้เช่นนี้ทำให้เขาได้สังเกตหน้าตาของคู่กรณีชัดเจนขึ้น หญิงสาวมีผิวขาว
หน้าตาสะอาดเกลี้ยงเกลา ดวงตากลมโต ขนตางอนยาวนั่น คงจะเป็นคนดื้อรั้นใช้ได้ทีเดียว
“บอกมาซิ
โกรธแค้นอะไรนักหนาถึงได้ทำกับเจ้าเข้มซะเละเทะแบบนี้” ชายหนุ่มยังไม่เลิกแกล้งผู้ต้องหาสาว
หันมาสอบสวนเอาความจริง ทั้งที่พอจะรู้ถึงสาเหตุอยู่บ้าง
ปราณปรียา
หรี่ตาขึ้นข้างหนึ่งไม่กล้ามองหน้าเขาเต็มตา
“ปล่อยก่อนได้ไหม” ฉันจะฉี่ราดอยู่แล้ว คนอะไรดุชะมัด ก้มหน้าก้มตาพูดงึมงำอยู่ในลำคอ
“ขืนปล่อยก็หนีสิ...อย่ามาลูกไม้”
ชายหนุ่มกระซิบเสียงเย็นข้างใบหู ทำเอาหญิงสาวขนลุกซู่ ทั้งกลัว ทั้งประหม่า
เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกส่งผลให้เนื้อตัวสั่นเทา หญิงสาวพยายามรวบรวมสติทั้งหมดที่มี
แล้วก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่ชายหนุ่มคาดไม่ถึงและไม่ทันตั้งตัว
“โอ๊ย !
!” ภวินท์ หน้าหงายไปด้านหลัง พร้อมกับส่งเสียงแห่งความเจ็บปวดออกมา
เมื่อผู้ต้องหาใช้ศีรษะโหม่งเข้าที่ปลายคางของเขาอย่างแรง พร้อมกับผลักชายหนุ่มจนหงายหลัง
จึงเป็นโอกาสให้หญิงสาวได้เผ่นหนีกลับไปที่ห้องของตัวเองด้วยความว่องไว
พอเข้าไปในห้องได้ก็รีบล็อคกุญแจทันทีพร้อมกับวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านพัก
ล็อคประตูห้องนอนแล้วทรุดนั่งลงหลังพิงประตูหอบแฮ่กๆ ด้วยความตื่นเต้นระคนเหนื่อย
“ยัยแสบเอ๊ย” ภวินท์
กุมคางของตัวเองที่คาดว่าคงจะขึ้นรอยช้ำในอีกไม่ช้า
สายตามองตามการกระทำของหญิงสาวอย่างคาดโทษ
********************************
ใครชอบ ผู้กองภวินท์ หรือใครฟินกับน้องกระต่าย
อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ สุธา ด้วยนะค้า
สู้โว้ย ๆ ฮี่ ฮี่ ๆ ๆ
ความคิดเห็น