ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจรักภูธร

    ลำดับตอนที่ #23 : เปิดเกมรุก

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 59


    มาต่อแว้วนะค้า...รักรีดเดอร์ทุกคนค่า จุ๊บ จุ๊บ
    ..............................................................................





                    หมวดศรุตยกถาดน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋วางตรงหน้าหมอสาวที่กำลังเปิดดูเอกสารในแฟ้มอยู่ แล้วก็ได้รับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามกลับมา

                    “ผมเห็นคุณกินประจำไม่ใช่เหรอ” หมวดศรุตบอกเสียงเรียบ ก่อนนั่งลงตรงข้ามกับพิมพ์ชนก

                    “คุณเห็นฉันกินตอนไหนไม่ทราบ” หมอสาวตอบทั้งที่สายตายังคงจ้องอยู่ที่เอกสารตรงหน้า

                    “อ้าว ผมเห็นคุณซื้อน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋เกือบทุกวันเลยนี่” เขาแย้งขึ้นมา เพราะเกือบทุกเช้าเขามักจะเห็นพิมพ์ชนกถือถุงที่เต็มไปด้วยน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋จากตลาดเช้ากลับไปที่โรงพยาบาลประจำ

                    “ก็ใช่ แต่ฉันไม่ได้กินเอง” คราวนี้พิมพ์ชนกสบตากับชายหนุ่มตรงหน้า ที่สายตาเต็มไปด้วยคำถาม

                    “ฉันซื้อไปฝากน้องๆ ที่ห้องฉุกเฉิน กับญาติคนไข้ต่างหากหละ” เป็นคำตอบที่คนฟังถึงกับอึ้งกิมกี่ทีเดียว นี่หมอพิมพ์ชนกที่เขาชอบปรามาสว่าเป็น ยัยหมอโรคจิต ก็มีมุมแบบนี้กับเขาด้วยหรือนี่

                    “ของแบบนี้กินทุกวันก็ไม่ได้ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่หรอกนะคะ คุณเองก็เตือนผู้กองบ้าง เห็นซื้อไปฝากกันทุกวันเหมือนกันไม่ใช่หรือ” พิมพ์ชนกเตือนด้วยความเป็นห่วงอีกคน มีแวววูบไหวในสายตาของผู้หมวดหนุ่มเพียงครู่ซึ่งหมอสาวไม่ทันสังเกต

                    “ว้าว น่ากินจังเลย ของนี้ท่านได้แต่ใดมา” เป็นเสียงของสายสมรที่ตาเป็นมันเมื่อมองเห็นของชอบตรงหน้าหมอสาว

                    “ข้าแอบฉกมาจากห้องครัวนี่เอง แม่นางตือโป๊ยก่าย” หมวดศรุตรีบรับมุกกลับไปทันควัน

                    “โอ้ยหมวด ชื่ออื่นไม่มีหรือไง เสี่ยวเหลียน เสี่ยวเตี๋ย ก็ว่าไปสิ อย่าให้พี่หมอนผอมบ้างเหอะ” สายสมรฟึดฟัดกับคำล้อเลียนของหมวดศรุต แล้วทำเนียนหยิบปาท่องโก๋ในถาดยัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากสองหนุ่มสาว

                    “อ้าวแล้วรูมเมทพี่หมอนไปไหนซะหละ แผลยังไม่หายดีหรือครับ” หมวดศรุตถามขึ้นหลังจากดึงสติกลับมาแล้ว สายสมรรีบยกน้ำเต้าหู้ซดโครกๆ ก่อนจะตอบคำถาม

                    “น้องต่ายเธอปวดเข่าค่ะ เมื่อวานแอบหนีพี่หมอนไปเล่นซนจนได้แผลกลับมา ก็เลยให้กินยาที่หมวดเอาไปให้แล้วนอนพักเผื่อดีขึ้น”

                    “ถ้าอย่างนั้นช่วงพักกลางวันพิมพ์จะแวะไปดูให้นะคะ” พิมพ์ชนกขันอาสาและตกลงกันว่าตอนเที่ยงจะแวะไปดูอาการของพัฒนากรสาวด้วยกัน จากนั้นจึงแยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่ของตน

     

                    ผู้กองภวินท์ใช้กล้องส่องทางไกลสังเกตการณ์ความเป็นไปของคนในค่าย ซึ่งตอนนี้ข้างล่างกำลังทำกิจกรรมกลางแจ้งกันอยู่โดยมีหมวดศรุตเป็นผู้นำกิจกรรม แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหนเขาก็แน่ใจว่ายังไม่เห็นแม้เงาของปราณปรียา ทำให้รู้สึกเป็นห่วงว่าเธออาจจะเจ็บแผลอย่างที่เขาคิดไว้แต่แรก

                    “อะแฮ่ม...เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้นายก็สนใจกิจการของน้าอรด้วย” อรุณสวัสดิ์ทักขึ้น แม้จะได้ยินเรื่องของภวินท์จากจ่าสมยศและหมวดศรุตมาบ้างแต่ไม่คิดว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะเป็นเอามากถึงเพียงนี้

                    “ฉันก็แค่ดูแลความเรียบร้อยก็เท่านั้น” ผู้กองหนุ่มรีบเก็บอุปกรณ์ทันที พร้อมกับทำหน้าเหรอหราใส่ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้พี่ของเขา ส่วนอีกคนทำหน้าไม่ชื่อถือคำพูดของผู้กองหนุ่มเอาซะเลย

                    “เหรอ” แกล้งลากเสียงยาวให้ดูจงใจ

                    “แล้วนายมาทำอะไรตรงนี้ ไม่ต้องไปคอยดูแลค่ายหรอกเหรอ” ผู้กองหนุ่มเฉไฉไปเรื่องอื่น เมื่อเจอสายตาสำรวจของคนตรงหน้า

                    “อ้าว ก็เห็นแล้วนี่ว่าข้างล่างเขาทำอะไรกันอยู่ ยังจะมาถามอีก” อรุณสวัสดิ์ยังไม่เลิกแขวะเจ้าคนปากแข็ง ปากแข็งได้ทุกเรื่องจริงๆ

                    “นายนี่จะทำตัวเหมือนไอ้ศรุตเข้าไปทุกวันแล้วนะ” ภวินท์ทำหน้าเหนื่อยหน่าย อรุณสวัสดิ์ถึงกับยิ้มขำเมื่อโดนเอาไปเปรียบเทียบกับหนุ่มจอมทะเล้นอย่างหมวดศรุต

                    “แล้วตกลงมีอะไรถึงขึ้นมาถึงนี่ได้” ผู้กองหนุ่มวกกลับมาที่ต้นเหตุการมาของอรุณสวัสดิ์ เพราะปกติจะติดต่อกันทางโทรศัพท์มากกว่า

                    “วันมะรืนพ่อกับแม่ฉันจะมาตรวจกิจการลูกชาย แล้วก็จะค้างที่นี่สักสองสามวัน” อรุณสวัสดิ์บอกเล่าด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ซึ่งภวินท์เองเข้าใจความรู้สึกของพี่ชายที่แก่กว่าไม่กี่เดือนคนนี้ดี

                    “ถึงคุณลุงจะไม่พูด แต่เค้าก็ภูมิใจในตัวนายนะ” นั่นเป็นคำพูดปลอบใจที่ทั้งคนพูดและคนฟังขมขื่นพอกัน

                    “น้าอรก็คงคิดเหมือนพ่อฉันนายว่าไหม” อรุณสวัสดิ์กล่าวเสริม และหัวเราะขื่นๆ ให้กับโชคชะตาของตัวเองกับผู้กองหนุ่มที่คล้ายๆ กัน

                    “แล้วตกลงนายชอบคนไหนหมอพิมพ์ หรือคุณกระต่ายแต่ฉันเชียร์หมอพิมพ์นะ” อรุณเอ่ยแซวขึ้นมาอีก

                    “ฉันกับหมอพิมพ์เป็นเพื่อนกัน แล้วทำไมนายต้องเชียร์หมอพิมพ์ด้วย” ผู้กองหนุ่มหรี่ตาถามด้วยความสงสัย

                    “ฉันว่าคุณกระต่ายเธอน่ารักดี ถ้านายชอบๆ กับหมอพิมพ์ไปฉันจะได้จีบคุณกระต่ายซะเองไง” อรุณเอ่ยทีเล่นทีจริง พร้อมกับจับสังเกตคนตรงหน้าและก็เป็นอย่างที่คิด

                    “เหอะ นายนี่จะหาเรื่องเจ็บตัวให้ได้ใช่ไหม” ภวินท์ทำเสียงเข่นเขี้ยวเมื่ออรุณยังเล่นไม่เลิก มีหรือที่คนอย่างอรุณสวัสดิ์จะดูเขาไม่ออกว่าคิดอย่างไร พอๆ กับที่เขาเองก็รู้จักนิสัยใจคอของญาติคนนี้ดี

                   

                    ปราณปรียารู้สึกเบื่อกับสภาพของตัวเองในตอนนี้เต็มทน เมื่อหัวเข่าที่แสดงอาการปวดขึ้นมาในวันนี้ทำให้เจ็บมากเวลาที่เดิน แต่พอมองออกไปข้างนอกเห็นทีมงานทำงานกันอย่างเต็มที่และเด็กๆ ที่มาเข้าค่ายอบรมก็สนุกสนานกับกิจกรรมนันทนาการของหมวดศรุต ก็ให้นึกอยากออกไปร่วมวงด้วย ว่าแล้วก็เดินลากขาและสังขารของตัวเองออกมาจากห้องพัก แต่ไปไหนได้ไม่ไกลก็เป็นอันสะดุดล้มเกือบหัวคะมำโชคดีที่มีผู้หวังดีเข้ามาประคองไว้ก่อน

                    “ขอบคุณค่ะ” ปราณปรียาเอ่ยขอบคุณเจ้าของมือเรียวยาวที่ช่วยเธอเอาไว้ ทั้งที่ยังไม่เห็นหน้าของผู้หวังดีด้วยซ้ำ

                    “ระวังหน่อยครับ ขาเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือครับ” เป็นเสียงของปลัดเอกภพนั่นเอง เพราะเขาตั้งใจจะมาดูอาการของปราณปรียาอยู่แล้วเหมือนกัน แต่เห็นว่าเธอเดินออกจากห้องมาแล้วจึงเดินตามมาทันได้ช่วยไว้พอดี

                    “ฉันเบื่อนี่คะ เห็นพวกคุณทำงานกันแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีประโยชน์ซะเลย” ปราณปรียาทำหน้าหงอย ขณะที่เอกภพประคองมานั่งยังม้านั่งใกล้ๆ และเขาก็นั่งลงข้างกันกับเธอ

                    “น้องกระต่ายไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ รักษาตัวเองให้หายไวๆ เรายังอยู่อีกหลายวัน” ปลัดหนุ่มกล่าวปลอบใจใช้มือเรียวของเขาลูบหลังมือหญิงสาวเบาๆ พร้อมกับสายตาหวานเยิ้มจนปราณปรียาขนลุกไปกับสัมผัสของเขา แต่หาใช่ด้วยอารมณ์พิศวาสแต่อย่างใดเธอรีบชักมือกลับโดยเร็วและนึกโทษตัวเองที่ออกจากห้องมาหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ ครั้นจะลุกหนีก็คงไม่แคล้วต้องให้ชายหนุ่มพยุงเช่นเคยจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งให้ขณะที่สมองครุ่นคิดหาวิธีหลุดพ้นจากสถานการณ์ตอนนี้

                    “แล้วปลัดเอกเตรียมเอกสารสำหรับอบรมเรียบร้อยแล้วหรือคะ” ปราณปรียาพยายามหาช่องทางเอาตัวรอด หันซ้ายหันขวาหาตัวช่วยแต่ดูเหมือนทุกคนกำลังยุ่งกันหมด

                    “ผมให้น้องธุรการที่มาด้วยจัดการแล้วครับ ของน้องกระต่ายมีอะไรให้ช่วยก็บอกนะครับ ผมจะให้น้องเขามาช่วยอีกแรง” เมื่อปลัดหนุ่มเปิดไฟเขียวให้ปราณปรียาจึงรีบใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ทันที

                    “ถ้าอย่างนั้นรบกวนปลัดเอกบอกน้องมาเตรียมเอกสารช่วยหน่อยได้ไหมคะ พอดีนึกได้ว่ายังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่”

                    เอกภพลุกขึ้นยืนเพื่อล้วงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงที่แน่นเปรี๊ยะของเขา พร้อมกับกดโทรศัพท์หาลูกน้องแต่ดูท่าว่าจะไม่มีคนรับ เพราะปราณปรียาสังเกตว่าเขากดต่อสายหลายครั้ง

                    “สงสัยจะไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ว่าแต่เอกสารที่ว่านี่อยู่ไหนครับเดี๋ยวผมช่วยจัดเอง” เอกภพอาสาช่วยเองเพราะติดต่อลูกน้องไม่ได้ในตอนนี้ ปราณปรียาถึงกับหน้าเสียขึ้นมาทันทีเมื่อทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด

                    “แล้วปลัดไม่มีบรรยายหรือคะ” ความพยายามของเธอยังไม่หมด ด้วยหวังว่าสายสมรหรือใครอาจผ่านมาทางนี้บ้าง

                    “เสร็จจากกิจกรรมกลางแจ้งเป็นชั่วโมงของหมอพิมพ์ครับ น้องกระต่ายไม่ต้องเป็นห่วงผมว่างถึงเที่ยงเลย” ปลัดหนุ่มบอกพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะเป็นโชคดีของเขาที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับสาวน้อยที่เขาเฝ้าเพียรขายขนมจีบมาหลายเดือน

                    “คือฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ พอดีรู้สึกเพลียขึ้นมาซะอย่างนั้น” ว่าแล้วก็ลุกพรวดพราดขึ้นยืน เข่าที่บวมอยู่แล้วก็เกิดปวดหนึบขึ้นมาทันที เอกภพทำท่าจะเข้ามาพยุงปราณปรียาเอาไว้แต่ก็ช้ากว่าผู้มาใหม่ นอกจากจะช้ากว่าแล้วปลัดหนุ่มยังต้องอ้าปากค้างกับภาพที่เห็นอีกด้วย เมื่อแม่กระต่ายน้อยที่เขากำลังไล่ต้อนอยู่เมื่อครู่ตัวลอยหวือขึ้นไปอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มอีกคนต่อหน้าต่อตา

                    “ว้าย ! ผะ ผู้กอง” ปราณปรียาขยำคอเสื้อของผู้กองหนุ่มด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ๆ เขาก็โผล่มาอุ้มเธอจนตัวลอยแถมยังทำหน้าตาถมึงทึงราวกับว่าโกรธใครมาสักสิบชาติ

                    “ขอตัวพาคนป่วยไปห้องพยาบาลนะครับ” ผู้กองหนุ่มพูดเสียงเรียบแต่ดูน่าเกรงขาม จนปลัดเอกภพเองไม่กล้าเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาแม้จะรู้สึกไม่ชอบใจนัก และภวินท์ก็ไม่ได้อยู่รอฟังคำตอบจากชายหนุ่มอีกคนเขาสาวเท้าอย่างรวดเร็วตรงไปยังห้องพยาบาลที่อยู่ถัดจากโรงนอน แม้ว่าเขาจะเดินเร็วแล้วก็ตามแต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาหลายคู่กลางสนามที่มองมายังเขาและเธอ

                    ปราณปรียาไม่รู้จะขอบคุณหรือจะโกรธเขาดีที่อุตส่าห์ช่วยให้พ้นจากปลัดเอกภพ แต่ต้องมารู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี และคงจะตกเป็นเรื่องเล่าไปอีกหลายวันทีเดียว นาทีนี้เธอทำได้เพียงก้มหน้าเข้าหาอกกว้างของผู้กองหนุ่มเพื่อลี้ภัยไปก่อน

                    “ถึงแล้วคุณ มุดเข้ามาขนาดนี้จะสิงผมหรือไง” ผู้กองหนุ่มก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กของคนที่เหมือนตั้งใจจะสิงร่างของเขาจริงๆ ปราณปรียาจึงส่งค้อนวงโตให้เป็นรางวัล

                    “ก็วางฉันลงสิ เอะอะก็เอาแต่อุ้มอยู่นั่นแหละ ฉันอายเป็นนะ” ปราณปรียาโวยวาย พักนี้จะโดนผู้ชายอุ้มบ่อยเกินไปละแถมยังเป็นผู้ชายคนเดิมอีกด้วย

                    “โดนอุ้มเป็นครั้งที่สองแล้วยังไม่ชินอีกหรือ สงสัยผมคงต้องอุ้มคุณให้นานขึ้น” ว่าแล้วก็กระชับวงแขนให้แน่นขึ้นอีกเป็นการลงโทษที่หญิงสาวปล่อยให้ปลัดขี้หลีนั่นจับมือถือแขน นี่ถ้าเขามาไม่ทันคนที่อุ้มปราณปรียาคงเป็นปลัดเอกภพเป็นแน่

                    “คุณจะบ้าหรือไง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” ปราณปรียาดิ้นรนอยู่ในวงแขนที่รัดแน่น พร้อมกับระดมกำปั้นทุบรัวไปที่หน้าอกแข็งแกร่งแต่เขาหาได้สะทกสะท้านกับแรงอันน้อยนิดนั้น จนคนทุบเหนื่อยและหยุดไปเอง

                    “มีแรงแค่นี้เองเหรอ” เขายิ้มขำกับสภาพของกระต่ายน้อยในอ้อมแขน ตอนนี้ผมเผ้าของปราณปรียายุ่งเหยิงไปหมดจนมองไม่เห็นหน้าตาบึ้งตึงของเธอ

                    “พอใจหรือยัง ถ้าพอใจแล้วก็กรุณาวางฉันลงด้วยค่ะ” ปราณปรียาพูดเสียงเย็นอย่างข่มอารมณ์เต็มที่ นี่ผู้กองภวินท์เห็นเธอเป็นอะไรกัน นึกอยากแกล้งก็แกล้ง นึกอยากอุ้มก็อุ้มง่ายๆ ทำราวกับว่าเธอเป็นของเล่นแก้เหงาของเขาอย่างนั้น

                    ฝ่ายผู้กองหนุ่มเมื่อเห็นว่าหญิงสาวชักจะโกรธจริงจังจึงวางเธอลงบนเตียงผู้ป่วยในห้องพยาบาลอย่างเบามือ ด้วยความรู้สึกผิดที่แกล้งเธอมากเกินไป แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อภาพที่เขาเห็นคือปลัดเอกภพถึงเนื้อต้องตัวปราณปรียาจนเขาต้องรีบย้ายตัวเองลงมาจากที่พำนักด้วยอารมณ์คุกรุ่น และตัดสินใจได้ในนาทีนั้นเองว่าเขาควรแสดงความรู้สึกออกมาให้ชัดเจนเสียที

                    “ไหนดูซิว่าแผลเป็นยังไงบ้าง” ผู้กองหนุ่มเฉไฉไปเรื่องอื่นเมื่อปราณปรียานั่งกอดอกแต่เอียงหน้าไปอีกทาง และพอเขาจับที่ขาเธอก็เบี่ยงขาหลบให้พ้นจากมือของเขา ภวินท์ลองอีกครั้งคราวนี้ปราณปรียากระเถิบตัวหนีออกไปที่ปลายเตียง เขาเองนึกไม่ถึงว่าคนที่ภายนอกดูอ่อนโยนหัวอ่อนแบบปราณปรียาเวลาดื้อขึ้นมาก็เอาเรื่องพอสมควร

                    “คุณรู้ไหมว่าตำรวจเขามีวิธีการทำให้ผู้ต้องหายอมรับผิดได้ยังไง” ผู้กองหนุ่มทำหน้าเคร่งขรึม พร้อมกับนั่งเบียดลงข้างๆ ปราณปรียาจนหญิงสาวต้องกระถดถอยหนีไปชิดผนังห้องด้วยท่าทางหน้าตาตื่น เพราะสีหน้าของผู้กองดูจริงจังจนเธอไม่แน่ใจว่าเขาจะหักคอเธอหรือเปล่า

                    ภวินท์ใช้มือข้างหนึ่งยันผนังห้องไว้เพื่อกักบริเวณผู้ต้องหาสาวที่กำลังมองการกระทำของเขาด้วยความตระหนกตกใจ ขณะที่มืออีกข้างกำหมัดยกขึ้นมาจ่ออยู่ที่หน้าของเธอ ปราณปรียาหมดหนทางหนีทำได้เพียงหลับตาปี๋รอคอยชะตากรรม ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะเป็นลมไปซะให้รู้แล้วรู้รอดไป หนีเสือปะราชสีห์ชัดๆ

                    ผู้กองหนุ่มยิ้มมุมปากกับท่าทางของปราณปรียา ก็ดูเถอะไม่ว่าเขาจะแกล้งอะไรไปการตอบสนองของหญิงสาวดูน่ามองสำหรับเขาไปหมด จมูกเล็กโด่งรั้นที่ชอบพ่นลมฟืดฟาดเวลาโดนแกล้ง ริมฝีปากอมชมพูที่เคยเถียงต่อปากต่อคำกับเขาน่าจะโดนลงโทษให้หลาบจำเสียบ้าง ขณะที่คิดเขาก็เผลอใช้นิ้วโป้งแตะไล้ไปที่ริมฝีปากสีสวยของคนตรงหน้า

    ปราณปรียาแปลกใจกับสัมผัสที่ได้รับจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาดูและเหมือนเธอโดนมนต์สะกดเมื่อสบเข้ากับสายตาคมของผู้กองหนุ่มที่ทำเอาหัวใจเธอแทบหยุดเต้นลงตรงนั้น

    “คุณ จะ ทำ อะไร คะ” ปราณปรียาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ขาดเป็นห้วงๆ เหมือนคนคอแห้งกระหายน้ำ ในขณะที่นั่งตัวเกร็งไม่กล้ากระดุกกระดิก ภวินท์เลิกคิ้วขึ้นอย่างยียวนก่อนทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง

    “โอ๊ย ! คนบ้าเจ็บนะ” ปราณปรียารีบกุมหูทั้งสองข้างไว้เมื่อหูข้างหนึ่งโดนผู้กองหนุ่มดีดเข้าให้ ส่วนผู้ก่อเหตุหัวเราะอย่างถูกใจกับท่าทางของเธอก่อนจะถอยห่างออกมา

    “วิธีลงโทษคนดื้อไง ครั้งต่อไปไม่ใช่ตรงนั้น แต่เป็นตรงนี้” เขาบอกด้วยท่าทางอารมณ์ดี พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ริมฝีปากเรียวยาวของตัวเอง ส่งผลให้หญิงสาวรีบเอามือปิดปากโดยอัตโนมัติ และยอมให้เขากระทำกับแผลบนหัวเข่าได้ตามใจชอบโดยไม่ปริปากสักคำ

    ผู้กองภวินท์เดินออกไปข้างนอกครู่หนึ่งก่อนกลับมาพร้อมกับลูกประคบที่นึ่งพออุ่นๆ เขาจัดการประคบลงบนรอยบวมช้ำบนหัวเข่าของปราณปรียาอย่างเบามือ เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวรู้สึกถึงความห่วงใยจากผู้ชายคนนี้ เธอรู้สึกถึงกระแสอบอุ่นทั้งที่หัวเข่าและค่อยๆ ลามเลียไปถึงหัวใจ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาทันได้สบตากับหญิงสาวแวบหนึ่งก่อนที่เธอจะแกล้งเบือนหน้าหนี เขาจึงได้แต่ก้มหน้าลงมาและยิ้มให้กับหัวเข่าบวมช้ำของเธอแทน

    “น้องต่ายเป็นยังไงบ้าง แล้วอะไร ยังไงคะ พี่หมอนงงอย่างแรง” สาวใหญ่ร่างอวบพูดขึ้นทันทีที่มาถึงหน้าประตูห้องพยาบาลที่เปิดกว้างอยู่แล้ว พร้อมกับหอบแฮ่กๆ เพราะเสร็จจากกิจกรรมกลางแจ้งก็รีบหอบสังขารมาเกาะติดสถานการณ์ทันที และอีกคนที่ตามมาติดๆ ก็คือปลัดเอกภพนั่นเอง

    “คือ...เอ่อ...คือ” ปราณปรียาไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายได้ในเวลานี้

    “คือผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้กระต่ายน้อยได้รับบาดเจ็บน่ะครับ”  ผู้กองภวินท์ลุกขึ้นเก็บอุปกรณ์พร้อมกับบอกเล่าด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ซึ่งนั่นคงจะไม่ทำให้คนฟังตกใจ เท่าสรรพนามเรียกขานที่เขาใช้เรียกปราณปรียา

    “กระต่ายน้อย ! !” ทั้งสามคนทวนคำพร้อมกัน พร้อมกับทำหน้าเหวอและหันมองปราณปรียาเป็นตาเดียว ส่วนเจ้าตัวทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้ นี่ผู้กองภวินท์จะเอาให้เธออับอายผู้คนจนตายไปเลยใช่ไหม แล้วดูสิยังมีหน้ายิ้มเยาะเย้ยกันอีก

    “ครับ เพราะอย่างนั้นผมเลยอยากจะดูแลอาการของเธออย่างใกล้ชิด” เขาพูดต่อหน้าตาเฉยและไม่สะทกสะท้านใดๆ แม้ว่าทุกคนในที่นั้นจะหันมามองที่เขารวมทั้งหญิงสาวคู่กรณีด้วย ผู้กองหนุ่มเปิดเกมรุกเดินหน้าประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ผมจอง คงมีแต่เด็กประถมเท่านั้นกระมังที่ดูไม่ออก

    “อะ..เฮ่อ ถ้าอย่างนั้นเชิญตามสบายเลยนะคะ พี่หมอนขอตัวไปดูอาหารกลางวันให้เด็กๆ ก่อนละกัน” สายสมรผู้ไหวพริบดีรีบหลบฉากพร้อมกับขว้าแขนปลัดเอกภพติดมือไปด้วย ทั้งที่อีกฝ่ายยังคงเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์อย่างสับสน แต่ก็ยอมเดินไปตามแรงฉุดของสายสมรแต่โดยดี

    “เดี๋ยวสิคะพี่หมอน พาต่ายกลับห้องก่อนค่ะ” ปราณปรียากวักไม้กวักมือตามหลังเพื่อนร่วมห้องที่สละเรือเอาตัวรอดไปก่อน

    “ไม่ต้องเรียกหาคนอื่นหรอก ก็บอกแล้วไงว่าผมจะดูแลคุณเอง” เขาบอกพร้อมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่ทำเอาคนฟังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ตามไปด้วย

    ...................................................................................................................................

    จัดหนักมาซะขนาดนี้ พี่ก็เขินตายกันพอดีสิคะผู้กอง

    เรียกมาได้ "กระต่ายน้อย" คริ คริ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×