(SF) The First Snow (BJIN)
วันหิมะตกครั้งแรกของปีสำหรับคิมฮันบิน.. คืออีกวันที่เขาไม่มีใคร .. จนกระทั่งค้นพบหัวใจที่หายไปจนเจอ NO DRAMA :D
ผู้เข้าชมรวม
1,191
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
(SF) The First Snow (BJIN)
คนหลายคนมองว่าฤดูหนาวเป็นฤดูที่เลวร้ายที่สุดในรอบปี
ประวัติศาสตร์ วรรณคดี และเรื่องราวน่าเศร้าทั้งหลายมักจะเกิดขึ้นในฤดูหนาว
หิมะสิขาวที่ตกลงมาแม้นจะดูบริสุทธิ์ แต่เมื่อมันละลาย ... น้ำที่เจิ่งนองบนพื้นอาจทำให้เกิดอันตรายได้
ความหนาวเหน็บบาดลึกไปถึงกระดูกโดยไม่มีเครื่องนุ่งห่มใดๆ จะช่วยได้
ยิ่งสำหรับคนที่ “ไร้คู่” แล้วนั้น ... ความหนาวมันจะจับเข้าไปถึง “ขั้วหัวใจ” เลยล่ะ ...
........
.................................
“ฮยองมานั่งดราม่าอะไรตรงนี้วะ ?” เสียงอันทรงสเน่ห์บวกกับคำทักทายอันแสนสุภาพจากน้องเล็กจุนฮเวดังขึ้น พี่ใหญ่ตัวเล็กอย่างคิมจินฮวานถึงกับสะดุ้งก่อนจะว่าง Note 4 ลงบนพื้นห้องซ้อม
“ไอ้บ้า .. มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ตกใจหมด” จินฮวานตอบก่อนจะถอนหายใจฟึดฟัดออกมาเล็กน้อย จุนฮเวขมวดคิ้วมากกว่าเดิม
“เอ๊า ! ผมก็มาพร้อมเสียงปกติ จะให้ผมส่งเสียงมาก่อนทุกครั้งเหมือนหลานเหยินผู้กตัญญูไง๊ ?” จุนฮเวยังคงฮาร์ดคอร์ตอบคำถามด้วยสีหน้าเอาเรื่อง (คือจริงๆ ผมไม่ได้ฮาร์ดคอร์ และนี่เป็นหน้าปกติของผมฮะ : จุนเน่ได้กล่าวไว้)
“ใครวะ ?” ยุนฮยองที่เพิ่งเดินมาสมทบในห้องซ้อมพร้อมดงฮยอกเอ่ยถามอย่างงงๆ อะไรของมัน .. หลานเหยินผู้กตัญญู ?
“จิวานี่ฮยองงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!!!!” เสียงแหกปากเรียกระดับ 80 เดซิเบลดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะเกินเข้ามาด้วยเสื้อฮู้ดกับกางเกงชมพูลายดอก ที่ตัวเขาแอบไปขโมยของคังซึงยุนมาในขณะที่ทีมเอไปญี่ปุ่น
“ก็บ๊อบบี้ฮยองนี่ไง ... ไม่ลืมตาเลย ... โคตรเป็นหลานที่กตัญญู”
“.............................”
“............................................”
“.......................................................”
“กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!! ขอบคุณที่ชมวะครับ -^-“ คิมจีวอนเอ่ยยิ้มพลางตบหลังมักเน่เบาๆ
“มันด่ามึงนะ - -‘” ยุนฮยองผู้อินดี้แต่มุกล้ำทำหน้าเนือยๆ คนอะไรวะโดนน้องแซะแล้วยังอารมณ์ดี คนอื่นเขารับประทานจุดรอบห้องจนจะเป็นหมาดัลเมเชี่ยนละโว้ยย !!
เอ้ะ ...............
เดี๋ยวนะ .......
นี่มันหายไปไหนคนนึงรึเปล่า ????
“แล้วนี่ฮันบินไปไหนอ่ะ ?” จินฮวานมองหาคนสำคัญ... คนสำคัญของวงที่หายไป
“โน่นนนน ! ยืนชมวิวหิมะตกแล้วโทรหาที่รักมันอ่ะ มันยังจะหวังให้เค้ารับรักมันอยู่อีกเนอะ” คิมจีวอนส่ายหัวอย่างปลงๆ ผิดกับ
จินฮวานที่รู้สึกเส้นกระตุกและหน้าชาขึ้นมาทันที มือเรียวคว้าโทรศัพท์เครื่องโปรดก่อนจะอ่านอะไรบางอย่างเงียบๆ
“เฮ้ยใครวะฮยอง !?! นี่ลีดจะออกเรือนแล้วไม่ปรึกษาน้องนุ่ง งี้มันต้องตายยยย !!!!” กูจุนฮเวยืนกำหมัดชูไปบนฟ้า ดงฮยอกส่ายหัวให้กับลูกคู่ก่อนจะดึงกางเกงแทบหลุดเพื่อให้เจ้าตัวนั่งลงมา
“เขาเคยเป็นเด็กฝึกที่นี่แหละ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ท่านประธานส่งไปเรียนเมืองนอกเพื่อกลับมาทำงานในค่าย ตอนแรกก็เหมือนจะกิ๊กๆ กันหรอก แต่พอไปๆ มาๆ ไอ้คนของเราติสต์แตกบ้าแต่งาน รู้ตัวอีกทีเขาก็ไปเมืองนอกละ” ผู้สื่อข่าวคิมจีวอนรายงานเหตุการณ์
“อ่อออออ !!!! จำได้ละ ช่วงที่ผมเข้ามาใหม่ๆ มันแอบกินโซจูของฮยองจนเมาเละแก้ผ้าเดินรอบหอ แถมจู... อุ้กกกก !”
“มึง ... หุบ ... ปาก” คิมจินฮวานผู้ที่นานๆ ทีจะขึ้นมึงกูกับน้องได้ถอดถุงเท้าปิดปากผู้สื่อข่าวซงยุนฮยอง ขณะที่สองมักเน่ถึงกับตาโตในเรื่องที่ไม่เคยได้ยิน
“ฮยองโกรธหรอ !?! เห้ยดงฮยอกมึงถ่ายรูปเก็บไว้เร็วๆ จินฮวานฮยองโกรธจนหน้าแดงเลยเว้ย !” จุนฮเวสะกิดเพื่อนข้างๆ ที่กำลังง่วนกับการช่วยชีวิตยุนฮยอง
“แน่ใจว่าหน้าแดงเพราะโกรธ ???” รอยยิ้มกวนๆ พร้อมคำถามจากหลานกตัญญูดังขึ้น จินฮวานกวาดสายตาไปทางผู้เปิดประเด็นก่อนจะเอ่ยคำพูดที่แรงที่สุดในชีวิตออกมา .....
“จะฆ่าทิ้งให้หมดเลย.........”
..........
...................
....................................................
Jinhwan’s Part
สารภาพเลยครับ... ว่าตอนที่จุนฮเวถามว่าผมดราม่าอะไร คำตอบมันก็อยู่ในโทรศัพท์นี่ล่ะ
ผมกำลังนั่งอ่าน KaKao Story ของฮันบินที่คาดว่าเพิ่งอัพตอนที่เจ้าตัวเดินออกไปนอกห้อง จริงๆ พวกเรากำลังจะเข้ารับการประเมินประจำเดือนในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า แต่ในเมื่อมันเป็นวันที่หิมะตกครั้งแรกของปี.. ท่านประธานเลยโทรสายตรงจากญี่ปุ่นว่า
‘ห้ามซ้อมเด็ดขาด... ให้ใช้เวลาในวันนี้เติมความสุขที่หายไป สร้างกำลังใจในการเดินต่อไป’
ตอนฮันบินเดินมาบอกผมก็งงๆ นะครับ ... ความสุขที่หายไปงั้นหรอ ? ความสุขของผมล่าสุดคือการที่สมาชิกทั้งหกไปบ้านผมที่เกาะเชจู นั่งรอบล้อมคุณแม่ผมและฟังเรื่องราวที่แม่ได้กลายเป็นเพื่อนกับแฟนคลับผม จริงๆ เมนฮันบินน่ะครับ .. แต่เธอบอกแม่ว่า “รักเวลาที่ผมและฮันบินอยู่ด้วยกัน” .....
พวกคุณคิดว่าแม่ผมจะเก็ทมั้ยครับ ?? (เก็ทจ้า ! : รีดเดอร์)
นอกเรื่องละครับ ... ผมสามารถจับได้ทันทีว่าฮันบินกำลังเหงา เขาเคยพูดว่านอกจากครอบครัวและสมาชิกของเราแล้ว เขาก็ไม่มีใครที่จะเข้าใจหรือเขาไว้ใจได้ ขนาดเรื่องของอดีต (?) ที่รัก (?) ของเขา .. ยังมีแต่ผมและบ๊อบบี้ที่ได้เห็นสภาพเด็กหนุ่มวัย 17 เมาหัวทิ่ม ก่อนจะกอดผมร้องไห้และบอกว่าตัวเองเป็นคนปล่อยรักครั้งนั้นหลุดมือไป
ฮันบินยังไม่รู้ด้วยซ้ำครับ ... หลังจากสองปีผ่านไป ว่าคืนนั้นเขาทำอะไรกับผมไว้บ้าง
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำ ... ว่าเขาสร้างความเปลี่ยนแปลงในตัวผมอย่างที่ผมไม่เคยคิดมาก่อน
เขาไม่รู้เลยว่าผม ...
“เฮ้จินฮวาน ! ออกไปเล่นหิมะกันมั้ย ??” เท้ดดี้ฮยองวิ่งเอามือมาลูบหัวผม หลังเพลง Just Another Boy ของเราออกมา พี่เขาชื่นชมในตัวพวกเรามากขึ้นกว่าเดิม
“ไม่ดีกว่าครับฮยอง ผมออกมาตามหาฮันบินอ่ะครับ ฮยองเห็นมันมั้ยครับ ? ออกมานานเกินไปเดี๋ยวจะไม่สบายเอา ดูมันดิฮยอง.. ข้าวก็กินไม่ตรงเวลาแล้วยังจะออกไปตากอากาศหนาวๆ ฮยองรู่ป่ะครับว่าดึกๆ มันก็ทำแต่งานจน...”
“หยุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!! แหม่ .... นี่เป็นแม่หรือเป็นเมีย ? วู้ ! ช่วงนี้ฟิคบีจินยิ่งเยอะๆ อยู่” เท้ดดี้เบรกจินฮวานเมื่อเจ้าตัวชักออกอาการจนนักแต่งเพลงมีอายุแบบเขายังเขินแทน
“ฮ..ฮยองงงง !!! อ่านไรแบบนี้ด้วยหรอครับ !?! ไม่เอาอ่ะ..ผมไม่คุยด้วยละ !” ว่าแล้วผมก็สะบัดหน้าเดินหนีเสียงหัวเราะของเท้ดดี้ฮยอง แก้มทั้งสองข้างของผมมันร้อนจนยิ่งกว่าคนเป็นไข้ สงสัยต้องรีบกลับไปกินยานอนพักผ่อนแล้วล่ะ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมันไม่ดีต่อสุขภาพ (หัวใจ) จริงๆ !!
อ้ะ .. นั่นไงฮันบินกำลังนั่ง VDO Call กับฮันบยอลเบบี้ !!!!!!!
“ฮันบิ....” เสียงของผมหายเข้าไปในลำคอก่อนมือของผมจะชะงักอยู่ตรงที่จับ เมื่อผมได้เห็นว่าใครกำลังอุ้มน้องสาวที่คิมฮันบินหวงนักหวงหนา ....
ทำไมกันนะ .. ขอบตาผมมันร้อนๆ ยังไงพิกล ....
Hanbin’s Part
หลังจากที่ท่านประธานสั่งให้เราตามหา “ความสุขที่หายไป” ผมก็ออกมานั่งดูหิมะอยู่บนชั้นดาดฟ้าของบริษัท ครั้งสุดท้ายที่ได้ขึ้นมาคือตอนปาร์ตี้บาร์บีคิวเมื่อครั้งที่เด็กฝึกชายของวายจียังมี 11 คน จนตอนนี้เหลือแค่พวกเราแล้ว...
“ความสุขที่หายไป” งั้นหรอ ??
ผมเอื้อมมือออกไปรับเกล็ดหิมะที่ตกลงมาบนมือแห้งๆ ของผมก่อนจะจุดยิ้ม ในวันหิมะตกครั้งแรกเมื่อสี่ปีก่อนผมได้เจอกับใครคนหนึ่ง.. คนที่ทำให้วันหนาวๆ ดูอบอุ่นขึ้นมาทันที คนที่กลายมาเป็นรักแรกที่ไม่สมหวังของผม คนที่ผมทำร้ายจิตใจด้วยอาการบ้างานและอยากเดบิวต์จนลืมคิดถึงเขาไป
มารู้ตัวอีกที ... หิมะที่เคยสวยงามก็กลายเป็นสายน้ำที่ทำให้ผมลื่นล้มลงไปด้วยตัวของผมเอง
หลังจากนั้น... อาการเกลียดหน้าหนาวของผมก็เกิดขึ้น เวลาผ่านไปเกือบครบปีจนถึงหน้าหนาวอีกครั้ง ผมจำได้ว่าออกมานั่งตรงนี้พร้อมใครอีกคนหนึ่ง
‘นี่...นายร้องไห้หรอ ?? ตาแดงเลยอ่ะ ! เป็นอะไร ??’
‘ฉ..ฉัน.. ฮึก ฉันคิดถึงแม่ ฮึก.. ฉันอยากกลับเชจู’ เด็กผู้ชายร่างเล็กร้องไห้จนจมูกแดง ผมอมยิ้มบางๆ ก่อนจะวาดแขนไปโอบไหล่เขาไว้ เจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ว่าอะไร
“ร้องออกมาให้หมดบนนี้ล่ะ .. ตั้งใจซ้อมให้มากๆ แล้วถ้าเหงาเมื่อไหร่ ... นายยังมีฉันนะ”
ไม่รู้อะไรดลใจทำให้ผมพูดคำนั้นออกไป เจ้าตัวได้ยินคำนั้นก่อนจะกอดซุกผมเหมือนเด็กๆ ... ผมได้แต่โยกตัวไปมาเหมือนเวลาผมกล่อมฮันบยอล ใครจะไปคิดว่าเด็กผู้ชายขี้งอแงคนนั้น จะกลายมาเป็น “ฮยองผู้แสนดี” ในสามทหารเสือของผมในเวลาสองเดือนต่อมา
และก็เป็นวันหิมะตกครั้งแรกในปีถดมาเช่นกัน ที่ผมร้องไห้ซุกพี่เขาเหมือนเด็กๆ เมื่อคนไกลที่ผมเฝ้ารอบอกว่าเธอจะไม่กลับมา คำพูดที่ยังสื่อว่ารักกันแต่อะไรบางอย่างทำให้เป็นไปไม่ได้
‘ถามตัวเองก่อนนะคิมฮันบิน ว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา.. นายยังรอฉันจริงๆ รึเปล่า’ เธอยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะบอกผม ทั้งๆ ที่เธอรู้ดีว่าตลอดมาผมก็อยู่กันแค่สามหนุ่ม จะเป็นไปได้ยังไงถ้าผมจะมีใครอื่นนอกจากเธอ ... คืนนั้นผมเมามายไม่ได้สติและหันเข้าหาความอบอุ่นจากคนข้างกายให้มากที่สุด มากเสียจน...
“โอ้ป้า !!! บยอลมาแล้วววววววววว ^__________^” เสียงเจ้าน้องสาวสุดน่ารักรับโทรศัพท์ของคนที่ผมรอ..
“อ้าววว ! บยอลมาเล่นที่บ้านพี่เขาหรอคะ ? ซนรึเปล่า ?” ใบหน้าผมแต้มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อเจ้าตัวแสบทำปากจู๋แล้วส่ายหน้า รอยยิ้มของคนข้างๆ ทำให้ผมยิ้มตามไปด้วย
“นึกยังไงถึงโทรมา ?” เสียงแมนๆ ที่ขัดกับใบหน้าเอ่ยถามขึ้นก่อนจะตั้งกล้อง iPhone ให้พอดีกับตัวเองและบยอล
“ก็.. คิดถึง”
“.........”
“จำไม่ได้หรอวันหิมะตกครั้งแรกของเราไง” ผมเอ่ยเสียงแผ่วอย่างกล้าๆ กลัว กลัวอะไรที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ...
“แล้วนายล่ะฮันบิน... จำวันแรกที่หิมะตกของปีที่แล้วได้รึเปล่า ?” เสียงที่ฟังดูอ่อนนุ่มลงหลังจากที่เงียบสักครู่ ผมเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะพบว่าดวงตาอบอุ่นคู่นั้นไม่ได้สั่นไหว แม้จะมีหน่วยน้ำตาเล็กๆ เอ่อคลออยู่ก็ตาม
“ผ่านมาจะสองปีแล้วจากวันนั้น นายหาคำตอบให้ตัวเองได้รึยัง ?” รอยยิ้มอ่อนที่ไม่ได้เห็นมานานฉายบนใบหน้านั้น
“ฉัน ... รอเธอกลับมา” ผมตอบก่อนมองกลับไปในดวงตาใสๆ คู่นั้น ร่างบางถอนหายใจน้อยๆ
“ฉันก็กลับมาแล้วนี่ไง ...”
“.......”
“แต่ฉัน ... ไม่ใช่คนที่อยู่ตรงนั้น หัวใจของนายไม่ได้เต้นเพื่อฉันอีกแล้ว .. ใช่มั้ยฮันบิน ?”
“.......”
“ฮึก.ตาบ้อง ! จะต้องให้ฉันดราม่าสอนนายทำไมเนี่ย อย่าหลอกตัวเองหน่อยเลย น..นายน่ะ ... รักอีกคนนึงมาตั้งนานแล้วล่ะ ทำไมไม่รู้ตัวสักที” คนที่ผมมองผ่านกล้องกลืนอ้อนสะอื้นเล็กๆ ก่อนที่จะยิ้มตามเดิม
“ฮึกก.. ทำไมฮันบินนี่โอ้ป้าไม่รู้อะไรบ้างเลยยยยย ฮืออ.. บยอลล .. บยอลจะฟ้องจูเน่โอป้า ฟ้องคิมบับโอป้าให้เล่นงานพี่ฮันบินเลยย แงงงงง... บยอลจะหาพี่จินนี่ T___________T” น้องสาวตัวดีของผมร้องไห้เบะปากอย่างน่ารัก แต่แหม่... ถึงขั้นฟ้องไอ้จุนฮเวมารุมพี่ชายตัวเองเลยนะ !!
“ฮันบิ...!” เหมือนผมจะได้ยินเสียงเรียกตัวเองจากที่ไหนใกล้ๆ มากแต่หันไปก็หาไม่เจอ
“พี่จินนี่ฮวานนี่เบบี้ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ฮันบยอลผู้ตาดีมองเห็นเงาของคนที่หลบอยู่ตรงประตูกระจก ผมสะดุ้งไม่ต่างกับพี่จินฮวานที่ทำหน้าตกใจเดินออกมาเมื่อฮันบยอลเรียกหา
“บยอลคนเก่งร้องไห้ทำไมคะ ไหนบอกพี่จินสิ... หื้มมม ?” พี่จินฮวานใช้นิ้วลูบไปบนกล้องในเชิงเช็ดน้ำตาให้ฮันบยอล เจ้าตัวเล็กเอ่ยปากเจื้อยแจ้ว
“แงงง...โอป้าไม่ฉลาดเลยยย หม่ะม๊า..หม่ะม๊ากับออนนี่บอกว่าโอป้ากำลังอินเลิฟแต่ไม่รู้ตัว บยอลยังรู้เลยนะ !” ฮันบยอลหันไปหาคนที่อุ้มตนอยู่เป็นการขอเสียงสนับสนุน ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยการพยักหน้า
“อ่า..หรอคะ บยอลไม่ร้องเนอะ..เดี๋ยวออนนี่เหนื่อยนะคะ เธอกลับมานานยัง ? สบายดีมั้ย ?” จินฮวานทักทายอีกคนในฐานะเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกัน
“สามวันแล้วล่ะ แต่เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ต้องกลับไปแล้ว พอดีท่านประธานเรียกมาจัดการคนไม่ฉลาด ฮิๆ”
“จัดการอะไรฉัน ???” ผมรีบหันไปถามเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มโดนเผา
“อ้าว.. ยอมรับแล้วว่าโง่ ?” ครับ... นี่คือพี่จินฮวานครับ !! ผมถึงกับคว้าไหล่เขามาประจันหน้ากัน
“ฮยองตาแดง ! ร้องไห้ทำไม ? ไอ้เวรจุนฮเวแกล้งใช่มั้ย เดี๋ยวต้อง..!!”
“ฮันบินโอป้าพูดไม่เพราะ !!!!!” ฮันบยอลที่หยุดร้องไปแล้วหันมาชี้หน้าผม (ผ่านกล้อง) พี่จินฮวานส่งสายตาดุก่อนจะตบไหล่ผมโทษฐานทำตัวไม่น่ารักต่อหน้าน้อง
“เอ่อ.. ฉันไม่ขัดละ คุยกันไปแล้วกันนะ” พี่จินฮวานลุกออกไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของผม แต่ผมยังแอบเห็นว่าเจ้าตัวนั่งก้มหน้าอยู่มุมบันได
“คิมฮันบิน... ยอมรับตัวเองได้แล้วนะ รักใครชอบใครก็บอกเขาซะ อย่าปล่อยให้เวลาดีๆ มันผ่านไป อย่าให้คำว่าพี่น้องหรือเพื่อนร่วมงานมากั้นความรู้สึกให้ที่มีให้กัน อย่า... ให้มันเป็นแบบเรื่องของเราอีกนะ”
“.........” ผมรับฟังคำพูดเหล่านั้นก่อนจะคิดตาม ตลอดสามปีที่ผ่านมากับหัวใจที่ผมคิดว่าได้หายไป หัวใจดวงนั้นกลับมาบอกว่าผมควรจะให้มันกับเจ้าของที่แท้จริงได้แล้ว ในที่สุด.. ผมก็พูดคำๆ นึงที่ไม่เคยมีโอกาสได้พูด
“ฉันรักเธอนะ... รักแรกของฉัน” ผมยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจให้กับคนที่ยิ้มตอบมาด้วยคำๆ เดียวกัน คำที่ผมเฝ้ารอจากเธอมานับปี
“ทีนี้ก็ได้เวลาไปหา ... รักสุดท้าย ... ได้แล้วนะ !”
....................
.............................
มือนุ่มๆ ที่ลูบอยู่บนหัวผมกำลังทำให้ผมไม่อยากลุกไปไหน หากแต่แรงเขย่าแรงๆ กับเสียงเรียกชื่อดังลั่นทำให้ผมต้องลืมตามอง พี่จินฮวานเดินมาพร้อมผ้าห่ม เสื้อหนาว และผ้าพันคอยอกชุดก่อนจะจัดบ่นผมซะยกใหญ่
“ทำไมมานั่งหลับตากหิมะแบบนี้ ?? บ้าแล้วรึเปล่า ?? เพราะเขาไม่รับรักหรือไง ?” พี่จินฮวานพูดออกมา หน้าขาวๆ นั่นแดงจนผมอยากเอามือไปอังให้หายหนาว
“อืม... ผมบอกรักเขาไปแล้วล่ะ แต่โดนปฏิเสธแบบไม่มีสิทธิ์เลยแฮะ” ผมแค่นยิ้มออกมาเล็กน้อย ทีนี้ล่ะ... พี่จินฮวานปล่อยระเบิดลงมาตู้มใหญ่..
“ฮึก... คิมฮันบิน ! นายมันเสียสติไปแล้ว ! กับแค่ผู้หญิงไม่รักทำไมต้องมานั่งทำร้ายตัวเองอยู่ตรงนี้ ฮึก..นาย.. นายมันไม่ฉลาดอย่างที่บยอลว่าจริงๆ นั่นแหละ ท่านประธานสั่งให้หาความสุข ฮึก..แต่นายกลับ..อุ้บบ !”
หิมะที่ว่านุ่มเยี่ยงปุยนุ่ม... เทียบไม่ได้เลยกับริมฝีปากสั่นระริกที่ผมกำลังสัมผัสในตอนนี้ คนตรงหน้าของผมช็อคตัวแข็งไปกับการกระทำที่ผมใช้เพื่อหยุดคำพูดตัดพ้อของเขาไว้ แต่เขาจะรู้ไหมนะ... ว่าผมเองก็ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น
“ฮึก..ฮ..นายเห็นฉันเป็นของเล่นหรือไง ?? ต..ตั้งแต่คืนนั้นที่นายเมา นายก็..จ.จูบฉันแบบนี้ ไอ้บ้าฮันบิน !! เล่นกับความรู้สึกฉันมันสนุกมากใช่มั้ย !?” กำปั้นเล็กๆ ทุบลงมาที่อกของผมด้วยแรงที่ไม่เบานัก ผมจัดการรวบคนตัวเล็กมาไว้ในอ้อมกอดก่อนที่เขาจะยอมนิ่ง ด้วยความที่หมดแรงจะดิ้นต่อแล้ว
“ตัวเล็กครับ.. ผมเคยบอกรึยังว่าผมล้อเล่น ?”
“.............................................”
“ผมบอกตอนไหน .. ว่าตอนนั้นที่ผมจูบตัวเล็ก ผมไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัว ?”
“.........................” ผมได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นกับคำพูดที่ผมกำลังบอกเขา และสรรพนามที่เปลี่ยนไป
“ใช่... ผู้หญิงคนนั้นคือรักแรกของผม” ผมรีบกอดเจ้าตัวไว้เมื่อเริ่มออกแรงขัดขืนอีกครั้ง
“แต่คนที่เป็นรักเดียว และจะเป็นรักสุดท้ายของผม...”
“.........................” ผมเชยคางใบหน้าเรียวเล็กขึ้นมาให้สบตากัน ไม่ว่าตอนนี้หน้าพี่จินฮวานจะแดงเขินขนาดไหน เขายังมองตอบผมอย่างรอคอย
“รักสุดท้ายของผมคือคนที่จะตื่นนอนตอนเช้าด้วยกันทุกวัน กางร่มด้วยกันในวันฝนตก กอดผมในเวลาหนาว.. และจะเป็นคนที่ผมจุมพิตด้วยในวันหิมะตกครั้งแรก” ผมเอ่ยก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนกลีบเนื้อสีแดงหวานนั่นอย่างแผ่วเบา
“คนๆ นั้นคือพี่จินฮวาน ... คนๆ นั้นคือคุณ ... ผมรักคุณนะครับ ตัวเล็กขี้แง ขี้น้อยใจของผม <3”
หลังคำสารภาพรักที่ผมเก็บไว้มานานนับปี คนตัวเล็กค่อยคลี่ยิ้มออกทั้งน้ำตาก่อนจะโถมตัวเข้ากอดผมพร้อมสะอื้น เราสองคนยืนกอดมอบความอบอุ่นท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย จูบหวานนุ่มที่เป็นไปด้วยความรักที่เปรียบดั่งหิมะสีขาว ... ต่อไปนี้ผมจะไม่กลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว
ต่อจากนี้ไป.. ข้างกายของผมจะมีคนตัวเล็กชื่อคิมจินฮวาน
คนตัวเล็กที่สุดคนนี้ .. คือความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผม
รักนะครับตัวเล็ก <3
END
############## SPECIAL ##########################
“โถ่แม่ม.. กว่าจะรักกันได้นี่ลำบากคนอื่นเนอะ” ยุนฮยองและเดอะแก๊งค์ยืนส่องอยู่ตรงกระจกถึงกับบ่นออกมา
“วันไหนอดีตพี่สะใภ้มาบริษัท กูจุนฮเวคนนี้จะขอชาบูสักสิบจอก ! ในที่สุดรูมเมททั้งสองก็รักกันสักทีวะ.. มัวแต่เล่นหนังเกาหลีแอบมองกันไปมา กลิ้งไปมาจนเตียงยวบยาบเนี่ย !”
“เออ .... ว่าแต่ฮันบยอลยังว่ามึงหน้าโหดเป็นนักเลงเลยว่ะไอ้มักเน่จุนฮเว !” คิมจีวอนกล่าวก่อนจะขำกันยกทีม เป็นเวลาเดียวกันกับที่คู่รักคู่ใหม่เดินจับมือกันกลับเข้ามา
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว !!!!!!” เสียงต้อนรับบวกกับหนึ่งเสียงของเท้ดดี้ฮยองที่วิ่งมาเสริมทัพดังขึ้น ฮันบินจับมือคนตัวเล็กไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จินฮวานก้มหน้างุดก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงและสายตาพิฆาต
“ใครแซวนะแม่ม.... จะ ฆ่า ทิ้ง ให้ หมด เลย “
.................. ครับ !! คิมฮันบินยอมตายครับที่รัก <3
จบเถอะค่าาาาาา !!!!!! #bjinsnow
ผลงานอื่นๆ ของ * Shoot Anonymous * ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ * Shoot Anonymous *
ความคิดเห็น