ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คุณตายเมื่อไหร่นั่นคือความสุขของผม
ตอนที่ 3
วริษาเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวอย่างกระวนกระวายอยู่ภายในใจ หล่อนนึกภาพที่รติวรรธน์จับมือถือแขนกานต์รวีคนที่หล่อนเกลียดที่สุดตอนนี้ วริษาหันหน้าไปทางกระจกที่มีเครื่องสำอางวางอยู่มากมาย
“กานต์รวีแกกล้าแย่งพี่วรรธน์ไปจากฉัน ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่ฉันจะให้แกไปอยู่ยมโลกกับพ่อแม่ของแก ฉันเกลียดแกกานต์รวี”วริษาเอ่ยออกมาเบา ๆ กับตนเองสองมือกำไว้แน่นแววตาที่เปล่งประกายดุจเปลวเพลิงที่ฉายออกมาทางแววตาของหล่อนเป็นที่น่ากลัวยิ่งนัก
ภายในห้องนั่งเล่นใหญ่ของอดิศวร รฐนนท์ที่เดินไปมาภายในห้องพร้อมมองดูโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของเค้าอย่างเป็นกังวล บวรและอิสรีย์เดินเข้าภายในห้องสองสามีภรรยามองหน้ากันอย่างงุนงงกับอาการของบุตรชายคนโต อิสรีย์เห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปหาทันที
“นนท์เป็นไรหรือเปล่าลูกแม่เห็นเดินไปเดินมาหลายรอบแล้ว”
“คือว่าผมโทรหาไอ้วรรธน์ไม่ติดตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับคุณแม่ ผมไม่รู้ว่าน้องมันเป็นไรหรือเปล่า”
“เอาน้าบางทีน้องอาจจะไปนอนที่คอนโดก็ได้นนท์ก็อย่าคิดมากเลยนะ”
“แต่คุณแม่ครับ”
“เชื่อแม่เค้าเถอะนนท์”
“ครับคุณพ่อ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”รฐนนท์เอ่ยบอกแล้วเดินออกมาจากห้องนั้น บวรโอบกอดภรรยายืนมองดูบุตรชายที่ลับไป
“คุณคะ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้านนท์จะรักน้องมากขนาดนี้”
“ไม่ดีหรือคุณ เจ้านนท์มันก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วคุณยังไม่ชินอีกเหรอ”
“ไอ้ดีนะมันก็ดีค่ะ แต่ฉันกล้วว่าตานนท์น่ะเป็นห่วงตาวรรธน์มากเกินไป”
“คุณก็อย่าไปคิดอะไรมากเราออกไปเล่นที่สวนกันดีกว่า”สามีภรรยาก็พากันเดินเข้าไปที่สวนภายในบ้าน ที่คอนโดของรติวรรธน์ กานต์รวีค่อย ๆ ลืมเปลือกตาขึ้นที่ละน้อย บนใบหน้ามีน้ำตาที่ไหลออกมาให้เห็นเป็นระยะ ๆ สองมือของเค้ากำไว้แน่นอย่างเจ็บใจเป็นที่สุด ร่างสูงใหญ่ของรติวรรธน์ก้าวออกมาจากห้องน้ำมีเพียงผ้าเช็ดตัวเท่านั้นที่อยุ่บนร่างกายของเค้า ชายหนุ่มเดินเข้ามาหากานต์รวีที่อยู่บนเตียงใหญ่นุ่ม
“ตื่นแล้วเหรอที่รัก”ไม่คำพูดใดใดออกจากปากของกานต์รวีแม้แต่คำเดียว
“คุณรู้ไหมเมื่อคืนคุณทำให้ผมมีความสุขมากเลยนะ”
“ไปตายซะรติวรรธน์”กานต์รวีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่กระด้าง
“อะไรอยู่ดีดีจะไล่...ผัว...ไปตายซะงั้น”
“ถ้าคุณตายเมื่อไหร่ เมื่อนั้นคือความสุขของผมจำไว้รติวรรธน์ อดิศวร”กานต์รวีเอ่ยพร้อมกับมองหน้าของรติวรรธน์ด้วยแววตาอย่างจิงจัง กานต์รวีถูกกระชากเข้ามาแนบชิดกับแผงอกใหญ่ของอีกฝ่าย
“ทำไมคุณอยากให้ผมตายนักหรือไงห๊ากานต์รวี”
“ใช่! ผมอยากให้คุณตายตายไปซะ”
“ผมจะบอกอะไรให้นะกานต์รวีว่ามันจะไม่มีวันนั้นเด็ดขาดจำไว้”เมื่อเอ่ยจบร่างกานต์รวีก็ถูกเหวี่ยงมาที่เตียงใหญ่พร้อมกับร่างของรติวรรธน์ที่โถมทับร่างเล็ก
“คุณไหมกานต์รวีว่าคุณน่ะ น่ากินไปทั้งตัวเลยรู้หรือเปล่า”รติวรรธน์ก้มลงมากระซิบที่หูของกานต์รวีอย่างแผ่วเบาพร้อมกับใช้บดขยี้เรียวปากเรียวอิ่มเอิบของกานต์รวีเพื่อครานหาความหวานจากเรียวปากที่นุ่มนวลพร้อมกับซุกไซ้ที่ซอกคอหอมอ่อน ๆ ก่อนจเลื่อนมาหูตามมาด้วยเรียวปากที่อวบอิ่มสีชมพูของกานต์รวีแล้วชิมความหวานจากร่างเล็กที่ชายหนุ่มทับทาบอยู่อย่างไม่รู้เบื่อ
*********************************************************************
“คุณหนูไปไหนนะรู้ไหมว่านมเป็นห่วงแค่ไหน”นมแจ่มเอ่ยขึ้นเบา ๆ ด้วยความเป็นห่วงเจ้านายน้อยของตนเองที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว ไม่นานเท่าใดนะรถหรูคันหนึ่งก็วิ่งมาจอดตรงหน้าบ้านที่นมแจ่มยืนอยู่ เมื่อเจ้ารถก้าวลงมายิ่งทำให้นมแจ่มตะลึกไปชั่วขณะเพราะนั่นคือ รติวรรธน์ อดิศวร
ชายหนุ่มเดินมาเปิดประตูรถอีกข้างที่มีร่างเล็กที่นอนสลบไสลอยู่โดยไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด รติวรรธน์ช้อนร่างนั้นพร้อมกับหันมาถามห้องของกานต์รวี เมื่อวางร่างเล็กเรียบร้อยแล้วจึงหันไปหานมแจ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก
“คุณวรรธน์มาที่นี่อีกทำไมคะ แล้วคุณหนูไปอยู่คุณวรรธน์ได้ยังไง”
“ไม่มีอะไรหรอกครับนม นมครับนมรู้ใช่ไหมว่าครอบครัวของผมไม่ได้เป็นคนให้คุณอาทั้งสองมาจบชีวิตลง แล้วไม่ได้อยากให้กานต์รวีเป็นแบบนี้”ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงวัยกลางคน นมแจ่มพยักเป็นการรับรู้ว่าเค้าพูดมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริงที่อดิศวรไม่ได้เป็นคนที่ทำให้พ่อและแม่ของร่างเล็กมาจบชีวิตตลงแบบนี้
หญิงวัยกลางคนพาชายหนุ่มสูงใหญ่มาที่ห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นห้องที่กานต์รวีเก็บอัฐิของผู้เป็นบิดาและมารดาไว้ที่นี้ รติวรรธน์มองดูโกฏเงินที่ตั้งอยู่ข้างพร้อมกับรูปของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน
“คุณอาครับผมต้องขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่เคยคิดเลยว่าคุณอาจะต้องเป็นแบบนี้ แต่คุณอาไม่ต้องเป็นห่วงกานต์รวีนะครับเพราะยังไงผมก็จะรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำกับเค้าไว้ทั้งหมด คุณอาคงให้อภัยในสิ่งที่ผมได้ทำลงไปกับลูกชายของคุณอาผมยินดีที่จะรับผิดชอบกานต์รวีทั้งหมดผมสัญญา”เมื่อเอ่ยจบชายหนุ่มก็ปักธูปลงพร้อมมองภาพนั้นอีกครั้ง แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เค้ามาทั้งหมดนั้นกานต์รวีได้ยินทุกอย่าง
“คุณจะมาโกหกอะไรพ่อกับแม่ผมอีกล่ะคุณรติวรรธน์”ทั้งรติวรรธน์ และนมแจ่มหันไปทางต้นเสียงที่มีร่างของกานต์รวีเดินเข้ามาภายในห้อง
“คุณกลับไปซะที่นี่ไม่ตอนรับคุณ และอีกอย่างคุณไม่ต้องมารับผิดอะไรผมทั้งนั้นเพราะผมไม่ต้องการมัน”
“คุณหนูคะ”
“นมครับเชิญแขกกลับให้ผมด้วย ผมขอตัวพักผ่อนก่อน”ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะก้าวก็ถูกมือใหญ่คว้าไว้ซะก่อน
“จะรีบไปไหนล่ะกานต์รวี”
“คุณปล่อยผมน่ะ แล้วคุณก็กลับไปได้แล้ว อิทธิวัตน์ไม่ตอนรับคนอย่างคุณจำไว้”
“เหรองั้นมานี่”นมแจ่มได้แน่ยืนตะลึกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร่างของกานต์รวีถูกเหวี่ยงเข้ามาในห้องนอนของเค้า รติวรรธน์ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาร่างเล็กที่ละน้อย
“คุณจะทำอะไรคุณรติวรรธน์”
“ผัวจะทำอะไรกับเมียตัวเองมันผิดด้วยเหรอ”
เพี๊ยะ....
เสียงฝ่ามือที่กระทบกับใบหน้าอย่างแรงทำให้รติวรรธน์หน้าหันไปตามฝ่ามือของกานต์รวีที่เพิ่งฟาดกระทบลงใบหน้าที่เลียบเนียนของเค้า
“คุณจำไว้นะ แม้ว่าสิ่งที่คุณได้ไปคือร่างกายของผม แต่ไม่มีวันได้ใจของผมเด็ดขาดแล้วผมก็จะทำให้อดิศวรพังพินาศเหมือนกับที่ผมได้เจอ”
“ทำไมกานต์รวี ทำไมคุณถึงได้เป็นแบบนี้”
“ก็เพราะพวกคุณนั่นแหละ คุณกลับไปซะคุณรติวรรธน์ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก”เมื่อเอ่ยจบกานต์รวีจึงหันหลบไปทางอื่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นน้ำตาที่กำลังไหลออกมา รติวรรธน์เดินออกมาจากห้องของร่างเล็กด้วยจิตใจที่หดหู่ เมื่อชายหนุ่มร่างใหญ่เดินออกไปจากห้องแล้วกานต์รวีจึงหันกลับมาพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
******************************************************************
ร่างสูงใหญ่ของรติวรรธน์เดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเท่าไร อิสรีย์เอ่ยบุตรชายคนเล็กที่เดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน รติวรรธน์เอนกายลงบนที่เตียงใหญ่สีเข้ม
“กานต์รวีนี่คุณเกลียดผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ”ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเบา ๆ
ก๊อก ๆๆๆ
รติวรรธน์หาจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงประตูดังเค้าจึงเดินไปเปิด ก็พบกับร่างของรฐนนท์ที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าตัวของผู้เป็นพี่ชายไม่สูงเท่าเค้าก็ตาม
“พี่นนท์มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“วรรธน์แกเป็นหรือเปล่าว่ะ มีอะไรบอกพี่ได้นะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับพี่นนท์ เมื่อคืนผมนอนไม่หลับน่ะ”
“เมื่อคืนแกไปนอนที่คอนโดมาเหรอ”
“ครับพี่มีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอก เมื่อวานฉันโทรหาแกไม่ติดก็เลยคิดว่าแกเป็นไร ถ้าไม่มีอะไรพี่ไปก่อนนะพอดีพี่นัดลูกค้าไว้”
“ครับพี่”รติวรรธน์ปิดประตูลงพร้อมกับถอนหายเฮือกใหญ่ออกมา
********************************************************
“อะไรนะ รติวรรธน์กับกานต์รวีเป็นแฟนกันอย่างงั้นเหรอริษา”ศจีอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อบุตรสาวบอกว่ารติวรรธน์บุตรชายคนเล็กของอดิศวร และกานต์รวีบุตรชายแห่งอิทธิวัฒน์เป็นแฟนกัน
“ค่ะคุณแม่ เมื่อวานริษาได้ยินพี่วรรธน์พูดแบบนั้น”
“แม่ไม่ยอมเด็ดขาด ยังไงแม่ก็ยอมให้เรื่องมันเป็นแบบนี้หรอก ริษาไปกับแม่”
“ไปไหนคะคุณแม่”
“ไปบ้านอดิศวร”เมื่อได้ยินว่าบ้านอดิศวรทำให้หญิงสาวแสยะยิ้มออกมาจากมุมปากด้วยความสะใจที่เป็นไปตามอย่างที่หล่อนหวังเอาไว้
“อะไรกันคะคุณศจี ตาวรรธน์นหรือคะที่เป็นแฟนกับกานต์รวี เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ”
“แต่มันเป็นไปแล้วคะคุณอิสรีย์ และดิฉันก็จะไม่ยอมให้ลูกสายของฉันต้องมาอับอายเพราะเรื่องแบบนี้เด็ดขาด”
“แล้วคุณศจีจะเอายังไงบอกมาเลยครับ”
“ให้รติวรรธน์แต่งงานกับวริษาซะ เรื่องนี้ก็จบ”
“ผมจะไม่แต่งงานกับริษาครับ”ทั้งหมดหันมาทางต้นเสียงที่เอ่ยอย่างดังพร้อมกับร่างรติวรรธน์ที่เดินเข้าภายในห้องนั้น แววตาของวริษาฉายออกมาอย่างผิดหวังปนกับความเจ็บใจอยู่ไม่น้อย แต่หล่อนก็เก็บอาการเหล่านั้นเอาไว้ไม่แสดงออกมาเพราะรู้ว่ายังไงมารดาของเธอก็ต้องจัดการเรื่องให้
“รติวรรธน์คุณพูดว่าอะไรนะ”
“ผมจะไม่แต่งงานกับวริษาครับ”
“ทำไมคะพี่วรรธน์ถึงแต่งงานกับริษาไม่ได้ เป็นเพราะคนที่ชื่อกานต์รวีใช่ไหมค่ะ”
“ไม่ใช่เพราะเค้าหรอกริษา”
“แล้วเพราะอะไร ทำไมถึงแต่งงานกันริษาไม่ได้”
“เพราะพี่รักเค้าไงริษา แล้วเราก็มีอะไรกันแล้วด้วย”คำพูดของชายหนุ่มทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นอึ้งไปชั่วขณะ น้ำใส ๆ ค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของวริษาโดยที่หล่อนไม่รู้ตัว
“ตาวรรธน์เมื่อกี้ลูกว่าอะไรนะ”
“ผมรักกานต์รวี และเราก็มีอะไรกันแล้วครับคุณแม่”
“คุณอิสรีย์ยังไงฉันไม่ยอมเด็ดขาด คุณต้องจัดการเรื่องนี้”ศจีเอยบอกกับอิสรีย์ก่อนจะหันมามองหน้าชายหนุ่ม
“เราได้เห็นดีกันแน่รติวรรธน์”หล่อนเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไป
“เราจะได้เห็นดีกันค่ะพี่วรรธน์”วริษาพูดเรียบ ๆ แล้วเดินออกไปด้วยความใจปนความแค้นสองมือกำไว้แน่นน้ำตาค่อย ๆ ปริ่มออกมาจากดวงตาคู่สวยของเธอ
“ตาวรรธน์มาคุยกับแม่หน่อยซิ”อิสรีย์ลากบุตรชายคนเล็กออกไปจากห้องนั้น
“ไหนลองบอกแม่มาซิว่าเรื่องที่พูดเมื่อครู่ไม่เป็นความจริง”
“คุณแม่ครับเรื่องที่ผมพูดเป็นความจริงครับ”
“ตาวรรธน์ ทำไมทำแบบนี้ล่ะลูก”
“คุณแม่ลืมไปแล้วหรือครับ ว่าเค้าจะ...”
“วรรธต์แม่รู้ แม่เข้าใจเค้า แต่สิ่งที่ลูกทำกับกานต์รวีแม่ไม่เห็นด้วย แล้วอีกอย่างกานต์รวีเป็นผู้ชาย และลูกก็เป็นผู้ชายสิ่งแม่รับไม่ได้เข้าใจไหมวรรธน์”
“แต่คุณแม่ครับ...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น พรุ่งนี้แม่จะพาวรรธน์ไปหากานต์รวี”หล่อนเอ่ยก็เดินเข้าไปในบ้านทันที ปล่อยให้รติวรรธน์นั่งหัวเสียอยู่คนเดียวในสวนที่เขียวขจี
มุมด้านในร้านกาแฟนของรเมศ คิมหันต์ รเมศและแก้วที่มองมายังร่างของกานต์รวีที่ไม่เหมือนเดิม สองหนุ่มมองหน้ากันอย่างสงสัยว่าเพื่อนรักอย่างกานต์รวีมีอะไรในใจหรือเปล่า รเมศทำท่าจะเดินไปถามเพื่อความแน่ใจแต่ก็ถูกคิมหันต์ดึงตัวไว้ซะก่อน
“คุณจะไปไหนเมศ”
“ผมจะไปถามกานต์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ผมรู้จักกับกานต์มาเค้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”
“ผมว่ารอสักพักไม่ดีกว่าหรือ ปล่อยเค้าสักแบบนี้ก่อนถ้าเค้ามีอะไรให้เราช่วยเดี๋ยวเค้าคงจะมาบอกเราเองไม่ดีกว่าเหรอ”
“อืม...มันก็จริงของคุณนะคิม เค้าเป็นว่าผมจะปล่อยให้นายกานต์สักพักถ้าไม่มีอะไรดีขึ้นมาผมจะไปถามเค้าเองโอเคไหมคิมหันต์”
“เรื่องนั้นก็แล้วแต่คุณซิ”คิมหันต์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ในใจก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่ากานต์รวีที่เค้ารู้จักไม่ใช่คนแบบนี้ เช่นเดียวกับรเมศที่เป็นห่วงเพื่อนเพราะตั้งแต่เค้ารู้จักกานต์รวีมาเค้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
ค่ำคืนที่ไร้แสงอาทิตย์ย่างก้าวเข้ามาอีกครั้ง กานต์รวีเหงนมองพระจันทร์ที่ส่องแสงสีนวลไปทั่วท้องฟ้าแม้ว่ามันจะไม่ได้ร้อนแรงเหมือนกับแสงอาทิตย์ก็ตาม แต่ในยามค่ำคืนแล้วแสงของพระจันทร์ก็ทำให้ท้องฟ้าที่มืดนั้นมีแสงสว่าง พร้อมกับดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้นเช่นเดียวกัน แต่ทว่าใจของกานต์รวีตอนนี้ใกล้จะเหมือนพระจันทร์สีนวลเข้าไปทุกทีตั้งแต่เจอแสงของอาทิตย์ที่แท้จริงอย่างรติวรรธน์
“ไม่ได้เราจะล้มเลิกความตั้งใจของเราตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด จำไว้นะกานต์รวีว่าแกต้องแก้แค้นแทนพ่อกับแม่ของแก ไม่ใช่มาอ่อนไหวแบบนี้ แกต้องเข้มแข็งเอาไว้กานต์รวี แกต้องเข้มแข็งอย่างอ่อนแอเด็ดขาด”กานต์รวีเตีอนสติของตนเองด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาออกมา นมแจ่มที่เผอิญผ่านมาได้ยินกับคำพูดของเจ้านายตัวน้อยของตนเองก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเจ้านายก็ไม่เหลือใครนอกจากหล่อนเพียงคนเดียว
“โธ่...คุณหนูของนมเมื่อไหร่จะรู้สักทีคะ ว่าจริง ๆ แล้วเป็นฝีมือของคุณศจีต่างหาก ไม่ใช่อดิศวร”นมแจ่มเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาที่สุด หญิงวัยกลางคนได้แต่ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเจ้านายน้อยของตนเองอยู่เสมอ แม้แต่ของให้ดวงวิญญาณของผู้เป็นพ่อและแม่คุ้มครองด้วยเช่นกัน
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงคะ นมไม่รู้จะบอกกับคุณหนูยังไงดี คุณทั้งสองช่วงคุ้มครองคุณหนูด้วยนะคะ”หญิงวัยกลางเอ่ยเบาพร้อมกับมองไปที่รูปของบุคคลทั้งสอง
ยามเช้าของวันใหม่แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องประกายไปทั่วพื้นปฐพีรถคันหรูวิ่งจอดสนิทที่หน้าบ้านของอิทธิวัตน์ อิสรีย์ก้าวจากรถพร้อมด้วยรฐนนท์ และรติวรรธน์ นมแจ่มจึงชฺญทั้งสามเข้ามานั่งข้างในบ้านก่อน อิสรีย์นั่งลงที่โซฟาตัวยาวใหญ่ รฐนนท์และรติวรรธน์นั่งตัวที่อยู่ข้าง ๆ ทั้งสามมองดูห้องรับแขกที่กว้างขวาง ไม่นานเท่าใดนักนมแจ่มก็นำน้ำมาให้กับบุคคลทั้งสาม
“นมแจ่มจ๊ะกานต์รวีอยู่ไหม ฉันอยากเจอน่ะ”
“จะดีหรือคะคุณอิสรีย์ ดิฉันว่า....”ยังไม่ทันที่นมแจ่มจะเอ่ยอะไรต่อเสียงของกานต์รวีก็ดังขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอกครับนม ในเมื่อเค้าอยากเจอผมนมมีอะไรก็ไปทำก่อนนะ”นมแจ่มพยักหน้าก่อนจะเดินออกมาจากห้องนั้น แต่ก็อดเป็นห่วงเจ้านายน้อยของตนเองไม่ได้แต่ก็ต้องหักใจเดินออกไป
“คุณอิสรีย์มีธุระอะไรหรือเปล่าถึงได้มาหาผมที่บ้าน”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ อิสรีย์
“คือว่าป้าอยากขอโทษหนูที่ลูกชายของป้าเอ่อ...”อิสรีย์เอ่ยติดขัดเรื่องที่คิดจะพูด
“ถ้าเรื่องนั้นไม่ไรหรอกครับผมไม่ถือ แล้วคุณอิสรีย์มีอะไรอีกหรือเปล่าครับ”กานต์รวีเอ่ยพร้อมกับชำเรืองมองมาที่รติวรรธน์ที่นั่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว
“พี่ก็ไม่รู้นะว่ากานต์จะเกลียดชังอะไรอดิศวรนักหนาทั้งที่เรื่องก็ผ่านมาหลายปีแล้ว”รฐนนท์เป็นคนเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“ตานนท์หยุดได้แล้ว”อิสรีย์เอ่ยดุบุตรชายคนโต
“ใช่สิ...ในเมื่อพวกคุณไม่ได้เป็นฝ่ายสูญเสียอะไรคุณก็พูดได้นะซิคุณรฐนนท์ แต่คุณเคยนึกจิตใจของผมบ้างไหมว่าความรู้สึกของผมมันเป็นยังไง ในเมื่อคุณจะมาพูดเรื่องนี้เชิญพวกคุณกลับไปเถอะผมขอตัว”กานต์รวีเอ่ยจบก็ลุกเพื่อจเดินออกไปจาก แต่กลับถูกมือใหญ่ของรติวรรธน์คว้าไว้ซะก่อน
“จะรีบไปไหนล่ะกานต์รวี”นั่นคือคำแรกที่ออกมาจากปากของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ แต่กานต์รวีกลับไม่มองหน้าของคน ๆ นั้นแม้แต่นิดเดียว รติวรรธน์ลุกยืนเต็มความสูงจึงทำให้รู้ว่าร่างที่อยู่ใกล้เค้าดูเล็กลงไปทันตา
“วรรธน์นั่งลูกจะทำอะไรน่ะ”อิสรีย์อุทานออกมาพร้อมกับดีดตัวลุกจากโซฟาตัวใหญ่ทันที
“นั่งสิ แกจะทำอะไรกานต์รวี”รฐนนท์เอ่ยเสริม
“ผมก็จะพาเมียผมไปคุยให้รู้เรื่องไงพี่นนท์”เมื่อได้ดังนั้น กานต์รวีจึงหันมามองหน้าผู้ชายคนนั้นทันที
“ใครเป็นเมียมิทราบคุณรติวรรธน์”
“ลืมง่ายจังเลยนะกานต์รวี เมื่อวานเรายังสนุกกันอยู่เลย”
“ไอ้วรรธน์แกทำแบบนั้นทำไมห๊ะ”
“พี่นนท์ก็เห็นไม่ใชเหรอครับว่าเค้าเกลียดครอบครัวเรามาขนาดไหน”
“วรรธน์แต่แม่ไม่เคยสอนให้ลูกใช้ความรุนแรงแบบนี้ ปล่อยน้องซะ”
“ไม่ครับแม่ ส่วนคุณมานี่กับผม”รติวรรธน์ลากกานต์รวีขึ้นไปบนห้องส่วนตัวของอีกฝ่าย พร้อมโยนร่างเล็กนั่นไปบนเตียงใหญ่ กานต์รวีหันมามองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ปลายเตียงอย่างเคีองแค้น
“แม่ผมมาที่นี่เพื่อมาคุยกับคุณดีดี แต่คุณกลับพูดกลับแม่ผมแบบนี้เหรอ”
“ทำไมผมพูดอะไร”
“คุณเหมือนไม่ให้เกียรติแม่ผม”
“วรรธน์อย่าทำอะไรน้องนะลูก”เสียงตะโกนของอิสรีย์ที่อยู่ภายนอกห้องพร้อมกับรฐนนท์ที่ยืนอยู่ข้างมารดา
“ไอ้วรรธน์แกอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ”รฐนนท์เอ่ยเสริม
“คะ...คุณจะทำอะไรคุณรติวรรธน์ คุณถอดทำไมใส่เดี๋ยวนี้นะ”กานต์รวีด้วยน้ำที่ตะกุกตะกักเมื่อเห็นอีกฝ่ายถอดเสื้อของตนเองออกพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้เค้าเรื่อย ๆ
“ยังไม่ชินอีกหรือกานต์รวี ผมคิดว่าคุณชินแล้วซะอีกนะ”รติวรรธน์พร้อมกับถาโถมร่างใหญ่ของตนเองมาทับร่างเล็กที่อยู่บนเตียงใหญ่
“มะ...ไม่นะ”นั่นคือเสียงสุดที่หลุดออกจากของกานต์รวีก่อนที่จะกลับกลายเป็นเสียงครางแทน
************************************************************************************
“นี่มันอะไรกันริษาบอกแม่มาซิว่ามันไม่จริงใช่ไหมลูก”ศจีกระวนกระวานภายในใจที่ชายหนุ่มเอ่ยบอกแบบนี้ว่าไม่แคร์สายตาแม้แต่ผู้เป็นมารดาและบิดาของตยเอง
“ถึงมันจะจริงริษาก็ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งพี่วรรธน์ไปจากริษาเด็ดขาด”
“ริษาจำไว้นะไม่ว่ายังไงแม่ก็ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาดูถูกลูกสาวของแม่หรอก ขนาดพ่อแม่ของมันเรายังทำได้จะกลัวอะไรกับมัน คอยดูเถอะสักวันแม่นี่แหละจะเป็นคนส่งมันอยู่ในยมโลกกับพ่อแม่ของมัน”ศจีเอ่ยบอกบุตรสาวด้วยแววตาที่หนักแน่น เช่นเดียวกับวริษาที่หล่อนก็ยังไม่ยอมให้ใครมาแย่งคนรักของหล่อนไปได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย หล่อนจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งในสิ่งที่หล่อนต้องการ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น