ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : กานต์รวี
ตอนที่ 1
เม็ดฝนที่ตกลงมาจากฝากฟ้าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด สายลมที่พัดมาปนกับสายฝนที่โปรยปรายลงมา ร่างสูงโปร่งของ กานต์รวี ยืนมองดูภาพสายฝนที่โปรยปรายลงมาจากฝากฟ้า สายลมที่พัดมาปนกับสายฝนยิ่งทำให้อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ
ร่างสูงโปร่งของ กานต์รวี ยังคงยืนมองดูสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง ไอฝนที่อยู่บนกระจบบานใหญ่สูงจรดพื้น
“อดิศวร พวกแกจะต้องได้รับในสิ่งที่พวกแกทำไว้กับครอบครัวของฉัน”กานต์รวีเอ่ยขึ้นเบา ๆ แต่สายตายังคงมองออกไปนอกกระจกบานใสที่มีไอน้ำของฝนติดอยู่
ณ บ้านอดิศวร ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มเดินเข้าภายในห้องนั่งเล่นที่มี บวรและอิสรีย์ ที่นั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ชายหนุ่มเดินไปนั่งที่โซฟาตัวเล็กที่ติดกับผู้เป็นมารดานั่งอยู่ อิสรีย์ หันมาหาบุตรที่เพิ่งทรุดกายนั่ง
“นี่ตาวรรธน์ เมื่อไหร่จะแต่งงานกับหนูริษาสักทีล่ะลูก นี่ก็หมั้นกันมาตั้งนานแล้วนะ”อิสรีย์หันมาบอกกับบุตรที่นั่งโซฟาตรงข้าง ๆ กับเธอ
“ก็ผมยังไม่พร้อมนี่ครับคุณแม่ เอาเป็นว่าถ้าผมพร้อมเมื่อไหร่ผมจะบอกคุณพ่อกับคุณแม่นะครับ”
“แล้วไอ้ที่ว่าพร้อมน่ะเมื่อไหร่ล่ะห๊ะตาวรรธน์ พ่อกับแม่รออุ้มหลานอยู่นะ”ผู้เป็นบิดาเอ่ยขึ้นบ้าง เมื่อเห็นว่าบุตรชายพูดแต่คำเดิม ๆ ที่เคยพูดไว้
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับคุณพ่อว่าผมพร้อมเมื่อไหร่”
“เอาอีกแล้วนะตาวรรธน์”อิสรีย์หันมาดุบุตรชายของตน
“ก็คุณแม่ครับผมยังไม่พร้อมจริง ๆ นี่ครับ”
“เอ่อ...เรื่องของแกพ่อกับแม่ไม่สนแล้ว ไปเถอะคุณเราออกไปเดินเล่นกันดีกว่า”
“ไปค่ะอยู่ในห้องฉันก็เบื่อ”อิสรีย์เดินเกาะผู้เป็นสามีออกมาจากห้องนั่งเล่น ชายหนุ่มมองตามร่างของบิดามารดาที่เดินออกไป
รติวรรธน์หันกลับมาทางเดิมพร้อมกับคิดถึงเรื่องของวริษาคู่หมั้นสาวที่เค้ากับหล่อนหมั้นกันมาสามปีได้แล้ว แต่ทว่าชายหนุ่มได้เคยคิดขอวริษาแต่งงานสักที โดยที่เค้าเองก็ไม่รู้เพราะเหตุใดเหมือนกัน แต่ภายในใจของเค้าคิดเพียงว่า เค้าไม่ได้รักวริษาเลยสัก เค้าอาจรักวริษาแบบพี่น้อง หรือเพื่อนเท่านั้น
ก๊อก ๆๆๆ
เสียงเคาะประตูที่ดังเรียกสติของกานต์รวีให้คืนกลับหลังจากที่ดูเม็ดฝนที่ตกลงมา ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูห้องส่วนตัว ร่างของหญิงสูงวัยยืนอยู่ตรงหน้าของเค้า
“นมแจ่มมีอะไรเหรอครับ”ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสูงวัยอย่างนิ่มนวล
“นมจะมาเรียกคุณหนูให้ลงไปทานข้าวนะคะนี่ก็สายมากแล้ว นมกลัวว่าคุณหนู่จะเป็นโรคกะเพาะเอาค่ะ”
“ขอบคุณครับนม แต่ว่าผมยังไม่หิวนะครับ”
“แล้วคุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ นมเห็นไม่ลงไปข้างล่าง”ชายหนุ่มโผล่กอดร่างของหญิงสูงวัยที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างแนบแน่น
เพราะตอนนี้ที่บ้านหลังใหญ่หลังนี้กานต์รวีไม่เหลือใครอีกแล้วตั้งแต่อุบัติเหตุพลัดพลาดคนที่เค้ารักมากที่ไปถึงสองคน นั่นคือพ่อกับแม่ของเค้านั่นเอง ทางตำรวจบอกเค้าเพียงว่ารถของพ่อเค้าถูกตัดสายเบรก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเค้าก็หายไปพร้อมกับคนที่เค้ารัก จะเหลือก็เพียงนมแจ่มเท่านั้น
ร้านกาแฟที่หอมกรุนไปด้วยกลิ่นกาแฟสดที่อบอวลไปทั่วร้าน ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มคนหนึ่งเดินถือถาดกาแฟกับเค้กชิ้นไปเสิร์ฟให้กับลูกค้าหนุ่มรายหนึ่ง ซึ่งดูลักษณะแล้วคงไม่ใช่คนไทยแน่นอน
“ขอบคุณครับ”ลูกค้าหนุ่มเอ่ยขึ้น รเมศยิ้มรับอย่างไมรตรี
“นี่ขนาดมาเสิร์ฟให้ลูกค้าเองเลยเหรอผู้จัดการ”รเมศหันมาทางต้นเสียงที่เอ่ยก็พบว่าเป็นกานต์รวีเพื่อนรักของเค้านั่น รเมศถือกาแฟและเค้นที่กานต์รวีทานเป็นประจำมาวางไว้ตรงหน้าของชายหนุ่ม
“นี่แกมาได้ไงว่ะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นโผล่มา แล้ววันนี้อะไรเข้าสิงแกถึงมาหาฉันได้เนี๊ยะ”
“ฉันคิดถึงแกมั้งเลยมาหา”
“นี่ฉันจะดีใจหรือว่าเสียใจดีที่แกคิดถึงฉัน”
“เอ่อ...ฉันไม่คิดถึงแกก็ได้ฉันกลับล่ะ”กานต์รวีทำท่าจะลุกขึ้น แต่ก็ถูกรเมศฉุดไว้ก่อน
“แกจะรีบไปไหนว่ะไอ้กานต์ ฉันล้อเล่นแค่นี้ทำเป็นงอนไปได้นะ”กานต์รวีนั่งลงที่เดิม แต่พลันสายตาคู่คมของชายหนุ่มเห็นลูกค้าที่เพื่อนรักไปเสิร์ฟเมื่อสักครู่นี้หันมามองที่โต๊ะของเค้าอย่างไม่ล่ะสายตา
“นี่ไอ้เมศ ฉันว่าแขกโต๊ะนั้นของแกมันมองแกแปลก ๆ ว่ะ”ชายหนุ่มเอ่ยบอกแต่สายตายังมองไปที่โต๊ะนั้น รเมศมองตามที่กานต์รวีบอก ลูกค้าหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะของเค้ากับกานต์รวีไม่เท่าไรหันมายิ้มให้เค้า รเมศหันกลับมาทางกานต์รวีอย่างเดิม
“มิน่าล่ะมาได้ทุกวี่ทุกวัน”
“เค้ามาทุกวันเหรอ”
“อืมใช่ ทำไมเหรอไอ้กานต์”
“ฉันว่าเค้าชอบแกแน่เลยไอ้เมศ”
“จะบ้าเหรอไอ้กานต์ เค้าผู้ชาย ฉันก็ผู้ชายจะชอบได้ไงว่ะ”
“เอานา แกเชื่อฉันซิว่าเค้าชอบแก”รเมศหันไปมองโต๊ะที่ลูกค้าคนนั้นยังนั่งอยู่
******************************************************************************
ค่ำคืนที่เหน็บหนาวเพราะอากาศเย็นพร้อมกับมีลมพัดมาเบา ๆ ร่างสูงใหญ่ของรติวรรธน์ยืนมองดูยาวในยามค่ำคืนที่ตรงระเบียงที่ห้องนอนของเค้า ชายหนุ่มมองดูดาวที่ส่องแสงระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้าที่ไร้แสงอาทิตย์ จะมีก็
เพียงพระจันทร์เท่านั้นที่ส่องแสงสีนวลอ่อนให้ท้องฟ้าเปล่งประกายในยามราตรี
สีหน้าของรติวรรธน์บ่งบอกถึงความกังวลใจในเรื่องที่พ่อและแม่ของเค้าบอก แต่ก็จริงอย่างว่าเพราะว่าเค้ากับวริษาหมั้นกันมานานถึงคราวจะแต่งงานกันเสียทีเพื่อพ่อกับแมของเค้าสบายใจ แต่ความสุขของเค้าก็ต้องหายไปเพราะว่าเค้าไม่ได้รักเธอเลยสักนิด เค้ารักหล่อนแค่เพื่อน พี่น้องเท่านั้น แต่เพราะพ่อและแม่ของรติวรรธน์เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อแม่ของวริษาจึงให้ทั้งสองหมั้นกันและแต่งงานกันอย่างที่สองครอบครัวหวังเอาไว้
แสงแดดสีทองยามเช้าที่สดใสส่องมายังร่างที่นอนอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัว คิมหันต์ค่อยลุกออกจากเตียงนอนสีขาวนุ่มพร้อมบิดตัวเองไปมาเพื่อให้คลายกล้ามเนื้อก่อนจเดินเข้าไปในห้องน้ำ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดแบบสบาย ๆ พร้อมกับนึกหน้าของใครบางคนขึ้นมา
********************************************************************
“คุณหนูคะ....คุณหนู”เสียงของนมแจ่มเอ่ยชื่อของกานต์รวีพร้อมกับเคาะประตูของห้องนั้น ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มเดินออกมาเปิดประตูห้องส่วนตัว เมื่อประตูห้องดังกล่าวเปิดหญิงวัยกลางคนจึงเอ่ยขึ้นทันที
“ไปทานข้าวเถอะค่ะ นมเตรียมไว้ให้แล้ว”
“อีกห้านาทีผมตามลงไปนะครับนม”
“นี่คุณหนูจะไปไหนเหรอค่ะ แต่งตัวซะหล่อเชียว”
“กะว่าจะไปหาไอ้เมศมันหน่อยนะครับนม”
“จริงซิค่ะ เดี๋ยวนี้นมไม่เห็นคุณเมศเธอมาที่นี้เลยนะคะ”
“นมอยากเจอไอ้เมศไหมล่ะครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ กว่าเวลางานของคุณเมศเธอเปล่า ๆ “
“ไม่เป็นไรหรอกครับนม ไอ้เมศมันก็รักนมเหมือนกับผมนะครับ ถ้าผมบอกว่านมคิดถึงมันรับรองมันต้องหานมแน่นอน”
“คุณหนูก็พูดเกินไปแล้วค่ะ นมไม่ได้มีความสำคัญขนาดนั้นสักหน่อย”
“แต่นมมีความสำคัญกับผมมากนะครับนมอย่าลืมซิ”
“ค่ะ นมไม่ลืมหรอก ว่าแต่คุณรีบลงไปทานข้าวเถอะค่ะเดี๋ยวจะเย็นหมดแล้วไม่อร่อยนะคะ”
“ได้ครับนมเดี๋ยวผมตามลงไปนะครับ”
“อย่าช้านะคะคุณหนู”
“รับทราบครับนมแจ่มผู้น่ารัก”
“โถ่ คุณหนูนมแก่แล้วนะคะ”
“ใครบอกว่านนแก่ นมน่ะยังสาวอยู่เลย...ฮ่าฮ่า”ชายหนุ่มหยอกล้อหญิงวัยกลางคนอย่างมีความสุขอีกครั้งหนึ่ง
ร่างสูงใหญ่ของรติวรรธน์ก้าวเข้ามาในร้านกาแฟร้านหนึ่งแล้วเดินเข้าไปหาที่นั่งที่เป็นมุมสงบ พนักงานในร้านจึงเดินไปรับออเดอร์เมื่อร่างนั้นทรุดกายลงนั่ง
“รับอะไรดีคะ”พนักงานสาวเอ่ยถามชายหนุ่มที่นั่งดูเมนูของร้าน
“ผมขอเป็นลาเต้เย็นแล้วก็เค้กช็อคโกแลตครับ”รติวรรธน์เอ่ยสั่งเมื่อดูเมนูเรียบร้อยแล้ว
“กรุณารอสักครู่นะคะ”พนักงานสาวเอ่ยบอก ชายหนุมพยักหน้ารับแทนคำตอบ รติวรรธน์หยิบหนังสือที่ทางร้านจัดไว้ขึ้นมาอ่านเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไม่นานเท่าใดนักกาแฟและเค้กที่ชายหนุ่มสั่งไปก็ถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าของเค้า
“ขอบคุณมากครับ”
“มีอะไรขาดไหมค่ะ”
“ไม่มีครับ”
“ทานให้อร่อยนะคะ”พนักงานสาวเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกมาจากโต๊ะของชายหนุ่ม
*********************************************************
“อะไรนะคะคุณอิสรีย์ รติวรรธน์บอกว่ายังไม่พร้อมอีกแล้วเหรอค่ะ”
“คุณศจีคะ ดิฉันก็เร่งตาวรรธน์แล้วนะคะ”
“คุณอิสรีย์คะ ลูกชายของคุณพูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้วคะ คราวนี้ดิฉันไม่ยอมหรอกค่ะ ยังไงรติวรรธน์ก็จะต้องแต่งงานกับยัยริษาให้เร็วที่สุดค่ะ”ศจีเอ่ยอย่างเด็ดขาดเมื่อเห็นว่ารติวรรธน์ไม่ยอมแต่งงานกับบุตรสาวของของตนเองหลังจากที่หมั้นกันมานาน ตั้งแต่หมั้นกันมาเมื่อถามเรื่องแต่งงานกับชายหนุ่ม รติวรรธน์มักจะบอกว่ายังไม่พร้อมเสมอ ร่างบางของวริษาเดินเข้ามาภายในห้องที่มีศจีและอิสรีย์นั่งคุยกันอยู่
“หนูริษา”อิสรีย์เอ่ยเบา ๆ เมื่อเห็นหญิงสาวก้าวเข้ามาในห้อง
“คุณอากำลังจะบอกริษาว่าพี่วรรธน์ยังไม่พร้อมอีกแล้วใช่ไหมคะ”
“แต่ว่าหนูริษา”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณอาริษาชินล่ะค่ะ”
“หนูริษาไม่ต้องห่วงนะยังไงอาก็จะให้ตาวรรธน์แต่งงานกับหนูริษาให้ได้”
“คุณทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกันคุณอิสรีย์”ศจีเอ่ยบอกหลังจากที่นั่งฟังบุตรสาวกับอิสรีย์คุยกัน ศจีมองหน้าของอิสรีย์แวบหนึ่งก่อนเชิดหน้าไปทางอื่น หลังจากที่อิสรีย์ออกไปแล้ววริษาก็ทำหน้าและอาการไม่พอใจที่ชายหนุ่มยังไม่ยอมแต่งงานกับหล่อนเสียที
“ทำไมคะคุณแม่ ทำไมพี่วรรธน์ต้องบอกว่าตัวเองยังไม่พร้อมเสมอริษาเบื่อที่จะรอแล้วนะคะ”
“เอาเถอะน่ะยังไงเราก็ลองอีกสักตั้งหนึ่ง ถ้าคราวนี้ยังไม่พร้อมอีกล่ะก็แม่จัดการเอง”
“คุณแม่นี่ริษารอมากี่ปีแล้วค่ะ ยังไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย”
“เชื่อแม่เถอะ แม่ปล่อยให้ลูกของแม่ต้องหมั้นฟรี ๆ โดยที่ไม่มีการแต่งงานไม่ได้หรอก คอยดูเถอะถ้าคราวนี้ยังจะพูดว่ายังไม่พร้อมอีกเราจะเห็นดีกัน”ศจีเอ่ยบอกบุตรสาวแววตาที่ฉายออกมาอย่างเป็นประกาย
**********************************************************
“รับอะไรดีครับ”รเมศเอ่ยถามลูกค้าหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามานั่ง
“ผมขอเหมือนเดิมครับ”คิมหันต์เอ่ยบอกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเค้า รเมศมองร่างนั้นก็รู้ทันทีว่าลูกค้าคนนี้คือใคร
“กรุณารอสักครู่นะครับ”ชายหนุ่มเอ่บแล้วจึงเดินกลับไปที่เดิม คิมหันต์ยิ้มออกมากับท่าทางของรเมศ แก้วพนักงานสาวเห็นหน้าที่หงุดหงิดของนายจ้างหนุ่มก็อดสงสัยไม่ได้กับท่าทีแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“มาได้ทุกวี่ทุกวัน มาทำไมนักหนาก็ไม่รู้”ชายหนุ่มเอยบ่นพึมพำเบา ๆ
“พี่เมศบ่นอะไรอยู่หรือคะ”
“เปล่าไม่มีอะไรหรอกแก้วทำงานเถอะ”
“จริงหรือค่ะที่บอกว่าไม่มี”
“พี่จะโกหกทำไมล่ะ ไปทำงานได้แล้ว ไปเลย”รเมศเอ่ยบอกพนักงานสาวที่เอ่ยแซวเค้า
“ไปก็ได้ แต่อย่าให้รู้นะว่าพี่เมศมีอะไรปิดบังอยู่”ก่อนจะไปยังหันมาแซวชายหนุ่มต่อ กาแฟและเค้กถูกนำมาวางไว้ข้างหน้าของคิมหันต์
“ของได้รับครบไหมค่ะ”พนักงานสาวเอ่ยถามอเมื่อรู้ว่าคนที่มาเสิร์ฟให้เค้าไม่ใช่รเมศชายหนุ่มจึงนึกแปลกใจทันทีพร้อมสายตาที่ส่องหาชายหนุ่มคนนั้น
“แล้วผู้ชายคนที่มารับออเดอร์ไปไหนแล้วล่ะครับ”คิมหันต์เอ่ยถามพนักงานสาว
“อ๋อพี่เมศเหรอค่ะ เห็นบอกว่าปวดหัวเลยขอกลับก่อนนะคะ มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวคุณรอสักครู่นะครับ”ชาหยนุ่มเอ่ยบอกแก้วพร้อมกับเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษแล้วส่งให้พนักงานสาวไป
“ผมฝากนี่ให้กับเค้าด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ มีอะไรอีกไหมคะ”
“ไม่มีครับ”
“งั้นแก้วขอตัวก่อนนะคะ”แก้วเอ่ยบอกแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น รเมศที่นั่งอยู่ในห้องทำงานแก้วเดินเข้าพร้อมกับข้อความที่คิมหันต์เขียนไว้พนักงานสาวยื่นกระดาษแผ่นให้กับชายหนุ่มทันที รเมศรับกระดาษจากมือของหญิงสาวพร้อมกับบอกให้หญิงสาวออกไปก่อน รเมศอ่านข้อความในกระดาษอย่างสงสัย
“อะไรเนี๊ยะตาบ้านี่ชอบเราเหรอ ให้ตายซิเป็นผู้ชายดันมาชอบผู้ชายด้วยกันน่าขำชะมัด”รเมศหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องทำงานของเค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเค้าสักนิด
“เฮ้ย...นายเข้ามาได้ไงไม่มีมารยาทเอาเสียเลย นี่มันห้องทำงานของผมนะ”รเมศเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นคิมหันต์เข้ามาในห้องทำงานของเค้า
“พี่เมศอย่าไปว่าคุณคิมเค้าเลยค่ะ แก้วพาเค้ามาเอง”พนักงานสาวเดินเข้ามาบอกเค้า รเมศจึงหันไปมองที่แก้วแทนสลับมองหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
“นี่แก้วเอาคนนอกเข้ามาในห้องทำงานพี่ได้ยังไง”
“ก็แก้วเห็นว่าเค้าชอบพี่แก้วก็เลยพาเค้ามาคุยกับพี่ไง คุณคิมค่ะมีอะไรก็คุยพับพี่เมศได้เลยนะคะแก้วไม่แอบฟังหรอกค่ะแก้วไปก่อนนะคะเดี๋ยวงานเข้า”เมื่อเอ่ยจบหญิงสาวก็วิ่งออกมาจากห้องนั้นทันทีปล่อยให้สองหนุ่มเผชิยหน้ากันเอง รเมศหันไปมองหน้าของคิมหันต์อีกครั้ง
“คุณมีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าถ้าไม่มีผมจะได้ไปทำงาน”
“ผมว่าคุณคงได้อ่านมันแล้วใช่ไหมครับ”คิมหันต์เอ่ยถามชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเค้า รเมศหลบสายตาคู่คมของหนุ่มหล่อที่อยู่ตรงหน้า
“ข้อความที่ผมเขียนลงไปมันเป็นความรู้สึกของผมจริง ๆ”
“แล้วคุณมาบอกผมทำไม”
“ผมอยากให้คุณรู้ความรู้สึกของผมว่าทำไมผมถึงมาร้านของคุณทุกวัน”
“งั้นผมถามคุณจริง ๆ นะ ว่าทำไมคุณถึงชอบผมล่ะทั้ง ๆ ที่มีผูเช้หญิงให้คุณชอบมากมาย”
“ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ที่ผมรู้คือว่าผมชอบคุณ”
“คุณบ้าหรือเปล่ามาชอบผู้ชายด้วยกัน”
“ถ้าคุณไม่ชอบผมขอโทษก็แล้วกัน ต่อไปผมจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกผมขอตัว”คิมหันต์พูดเสียงอ่อย ๆ ก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานของรเมศ สายตาของชายหนุ่มมองร่างสูงใหญ่ที่ค่อย ๆ หายลับตาไปในที่สุด รเมศเป็นกังวัลอยู่ไม่น้อยในสิ่งที่ตนเองเอ่ยออกไปเมื่อสักครู่ ชาหยนุ่มหยิบกระดาษแผ่นขึ้นมาอ่านซ้ำไปซ้ำมาอย่างพิจารณา
“กานต์แกอยู่ไหนว่ะฉันมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย”
(ฉันก็กำลังจะไปหาแกอยู่ มีไรหรือเปล่าว่ะ)
“เอ่อ...รีบมาให้ไวก็แล้วกัน แค่นี้นะ”รเมศวางสายจากเพื่อนรักแต่สีหน้าของเค้ายังกังวลไม่หายเกี่ยวกับคิมหันต์ที่จู่ ๆ มาบอกว่าชอบเค้า
ร่างสูงใหญ่ของคิมหันต์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่สายตาก็มองพื้นน้ำที่ไหลไปอย่างไร้จุดหมาย สายลมที่พัดมาเบา ๆ กระทบกับร่างของเค้า ใบหน้าของคิมหันต์บ่งบอกถึงความผิดหวังอยู่ไม่น้อยจากการที่บอกรักรเมศ ขณะที่ชายหนุ่มนั่งคิดถึงเรื่องของรเมศก็มีมือของใครคนหนึ่งมาจับที่บ่าของเค้า คิมหันต์มองดูเจ้าของมือนั้นก็สร้างดีใจให้เค้าอยู่ไม่น้อยเพราะมือนั้นเป็นของรเมศนั่นเอง
“คุณจะมาตอกย้ำอะไรผมอีกล่ะครับ”
“ผมเปล่ามาตอกย้ำอะไรคุณสักหน่อย”ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมนั่งลงข้าง ๆ คิมหันต์
“ถ้าคุณไม่มาตอกย้ำผมเรื่องที่ผมรักคุณ แล้วคุณมาหาผมเพื่ออะไร”คิมหันต์เอ่ยแต่สายตายังคงมองสายน้ำที่ไหลไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย
“ผมไม่รู้ว่าจะพูดกับคุณยังไงดีเหมือนกัน แต่เอาเป็นว่าผมจะลองพิจารณาคุณดูก็แล้วกัน”เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าที่ตรึงเครียดเมื่อสักครู่หายไปแต่กลับมีรอยยิ้มขึ้นมาแทน คิมหันต์มองหน้าของรเมศที่มองมาที่เค้าเช่นกัน
“เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ”
“ก็อย่างที่ผมพูดไปนั่นแหล่ะ ว่าผมจะลองพิจารณาคุณดู”
“นี่คุณพูดจริงเหรอครับ”
“อืมจริง แต่มีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไรครับผมทำทุกอย่าง”
“คุณต้องไปที่ร้านผมทุกวันโอเคไหม”
“เพื่อคุณแล้วผมไปแน่ครับ แต่คุณอย่าเบื่อผมก่อนนะ”คิมหันต์ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขพร้อมกับกอดร่างที่เล็กกว่ามาแนบไว้ที่อกกว้างอันอบอุ่นของเค้า
*************************************************************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น