ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนี้ขอแค่มีเธอ [มี E-BOOK + เปิดจองเล่ม]

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 เจ็บที่ตัว ปวดที่หัวใจ (30%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.17K
      105
      22 ก.พ. 65

    1

    เจ็บที่ตัว ปวดที่หัวใจ

     

    อรุณวไลมองดูตัวเองที่สะท้อนหน้ากระจกเงา วันนี้ก็คงเป็นวันธรรมดาของมนุษย์เงินเดือนอย่างเธอ ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมมากนักนอกจากต้องหางานใหม่จนหัวหมุนแล้วมาจบที่การเป็นพนักงานถ่ายเอกสารที่สำนักงานแห่งหนึ่ง

    ชีวิตที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไม่ราบรื่นทำให้ต้องกัดฟันสู้ไปทุกขณะ คงจะต่างกับใครบางคนที่จากไปแล้วทิ้งเอาไว้เพียงใบหย่า ถอนใจเฮือกใหญ่แล้วหยิบยางรัดผมขึ้นมาหนึ่งเส้นจัดการมัดผมให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากห้องพัก

    หญิงสาวเดินทางไปที่ทำงานด้วยรถเมล์ที่เนืองแน่น มองถนนที่คับคั่ง มือเรียวลออคว้าเหล็กจับเอาไว้แล้วจ่ายค่าเดินทาง ทำอยู่อย่างนี้เป็นประจำทุกวัน

    พอถึงที่ทำงานก็ลงชื่อ ไม่เคยขาด ไม่เคยลาพักด้วยซ้ำ

    น้องเอ๋ย ถ่ายเอกสารชุดนี้ให้พี่ด้วยนะ เสร็จแล้วเอากาแฟไปให้หัวหน้าด้วยล่ะ

    ค่ะพี่วรรณ ยิ้มรับทำตามหน้าที่

    อรุณวไลเดินไปล้างมือในห้องน้ำ มองนาฬิกาข้อมือก็เที่ยงเศษพอดี ล้วงมือถือเครื่องบางออกมาจากกระเป๋ากางเกงเมื่อมีสายเรียกเข้า

    ค่ะแม่ กดรับอย่างไม่รีรอ

    พรุ่งนี้วันเสาร์ กลับบ้านไหมเอ๋ย มีคนบ่นคิดถึงอยู่แน่ะ

    แววตาที่เป็นแสงวาวดั่งแก้วเป็นประกายเมื่อรู้ดีว่าคนนั้นคือใครที่มารดาเล่าให้ฟัง

    เอ๋ยเก็บกระเป๋าเตรียมขึ้นรถทัวร์คืนนี้แล้วแม่ เช้ามืดคงจะถึงพอดี แม่ไม่ต้องออกมารับนะ

    ไปดีมาดีล่ะเอ๋ย แค่นี้นะลูก

    ค่ะแม่ ยิ้มกับหน้าจอมือถือ สูดลมหายใจเข้าปอดสู้กับงานอีกครึ่งวันที่เหลือ

    อรุณวไลเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เป็นคนพิษณุโลกแต่กำเนิด อาศัยอยู่กับมารดาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ทุกครั้งที่ถามหาพ่อ แม่ก็จะบอกเสมอว่าพ่อไปดีแล้ว

    มีคนนอนตื่นสาย ไม่ยอมลุกจากที่นอน มาลัยเดินมากระซิบบุตรีที่กำลังทำมื้อเช้าในครัว

    วันเสาร์อะแม่ ให้วันนึงแล้วกัน พูดไปหัวเราะไป แกงจืดเสร็จแล้วเอ๋ยจะไปปลุกค่ะ

    งานที่กรุงเทพฯ เป็นยังไงบ้างเอ๋ย โควิดรอบนี้หนักเลยสินะ คนก็ตกงาน เงินก็หายาก ๆ แต่อย่าไปคิดสั้นฆ่าตัวตายเชียวนะ

    ที่ทำงานก็เหมือนเดิมค่ะแม่ เป็นลูกจ้างเขา เขาใช้ทำอะไรก็ทำ เงินเดือนเก้าพันอะแม่ใช้ยังกับกับเอ๋ยเงินเดือนหลักแสน นี่เพิ่งไปฉีดวัคซีนมาแม่ ปวดแขนว่าจะลางานแต่กลัวเขาหักเงินเดือน เจ้านายก็ดุอย่างกับหมาร็อตไวเลอร์ เอะอะหักเงินเดือน เอะอะขู่ไล่ออก เมื่อวันก่อนเอ๋ยเข้างานสายสองนาทีจะหักเงิน หน้าเลือดฉิบหาย

    พอได้บ่นหรือระบายก็ทำให้สบายใจขึ้นมาบ้าง

    พี่ลัย ทำอะไรอยู่ เสียงทักทายของน้าน้อยข้างบ้านทำให้สองแม่ลูกออกไปดู

    หวัดดีค่ะน้าน้อย

    หนูเอ๋ย มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ดีแล้ว น้าไปตลาดเมื่อเช้าซื้อแกงเขียวหวานมาฝากพอดี

    ขอบคุณค่ะน้า แล้วนี่อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนไหม เอ๋ยผัดกะเพรา ทำแกงจืดไว้

    เอาเลย ๆ น้ารีบ ต้องรีบไปสงขลา ไปทำงานน่ะ

    ไกลจัง แล้วน้าเดินทางไปยังไงคะ

    รถตู้ ส่งถึงที่เลย ไกลหน่อยแต่มันคุ้มเพราะเขาจ่ายเงินเดือนเยอะนา น้าได้เดือนละห้าหกหมื่นเลย

    ได้กี่บาทนะน้า!” คนทำตาลุกวาวรีบเอ่ยถาม ทำไมเยอะจังเลย งานอะไร มีเผื่อเอ๋ยบ้างไหม เอ๋ยสู้งานที่กรุงเทพไม่ไหว เก้าพันโหดร้ายกับเอ๋ยมาก ทั้งค่าเช่าห้อง ค่าอยู่ค่ากิน ค่าเดินทาง ส่งให้แม่ได้เดือนละสามพันเอง

    เดี๋ยวน้าถามให้ เขากำลังต้องการคนอยู่

    ความหวังเอ๋ยอยู่กับน้าแล้วนะ

    รอแป๊บนึงลูก น้าโทร.หาคุณผู้หญิงบ้านนั้นก่อนว่าเขาจะรับคนเพิ่มไหม

    น้าน้อยเดินออกไปคุยโทรศัพท์ คนมีหวังกุมมือที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อจิตกวัดแกว่ง

    ไปอยู่สงขลาไกลบ้านมากนะเอ๋ย ทำไมไม่ลองหางานแถวบ้านเราดูล่ะลูก

    เอ๋ยกลัวไม่พอใช้ค่ะแม่ ภาระหนี้สินเรามันเยอะ ขอให้เอ๋ยได้งานนี้เถอะนะแม่ เอ๋ยอยากได้เงินจริง ๆ

    รอสักพักน้าน้อยก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม

    รับเพิ่มไหมคะน้าน้อย

    สะดวกไปสัมภาษณ์งานกับน้าที่สงขลาไหมล่ะ?

    แม่ เอ๋ยจะได้งานแล้ว!” อรุณวไลตะโกนลั่นบ้านด้วยความดีใจ

    ใจเย็น ๆ เอ๋ย เขายังไม่รับ แค่เรียกลงไปสัมภาษณ์งาน ปลายนิ้วของมาลัยปัดผมที่ระแก้มของบุตรี แม่ไม่อยากให้ลูกสาวของแม่ต้องเก้อนะ

    ปีนี้เอ๋ยมันอายุเท่าไรนะพี่อร

    ยี่สิบเก้าแล้วค่ะ เอ๋ยตกงานด้วย เมื่อก่อนทำงานกับสามีพอหย่ากันก็ลาออกที่บริษัทเขา แต่โดนฝ่ายเอชอาร์เล่นไม่แฟร์ เงินก็ไม่ได้ แล้วต้องมาหางานทำ เปลี่ยนงานไปเรื่อยจนมาเป็นพนักงานจ้างเหมาถ่ายเอกสาร ทำไปเพื่อหางานที่ดีกว่าค่ะ ถ้าจะลาออกเลยก็กลัวจะหางานไม่ได้ กลัวไม่มีอะไรกิน

    นี่ชีวิตหรืออะไรวะเอ๋ย ไป ๆ แต่งตัวเดินทางไปกับน้า ไม่ต้องขนของไปเยอะนะ ที่โน่นมีทุกอย่าง อยู่บ้านคนรวยอะเนอะ

    น้าน้อยเดินออกบ้านไป อรุณวไลก็หันมามองแม่แล้วกุมมือเอาไว้ เอาหลวงพ่อห้อยคอไปด้วยไหมแม่

    ลูกคนนี้ ส่ายหน้ายิ้ม ๆ

    อรุณวไลเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้าน แง้มประตูอย่างเบามือเพื่อไม่เป็นการรบกวนคนที่นอนหลับปุ๋ยบนเตียง มองแล้วยิ้มสุขใจเพราะนี่คือกำลังใจที่จะทำให้มีชีวิตต่อไปแล้วใช้อย่างมีความหมาย

    น้องอะอาย คือลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอ ตอนนี้น้องอายก็อายุได้สามปีเศษแล้ว วันที่เขายื่นใบหย่าให้ก็เป็นวันเดียวกันที่เธอเกือบจะเสียลูกไป อรุณวไลไม่ได้วางแผนเอาไว้หลังจากที่ผิดหวังกับการใช้ชีวิตคู่ เหมือนทุกอย่างมันต้องเริ่มใหม่ ก้าวเดินใหม่ในเส้นทางที่มันไม่ได้โรยด้วยดอกไม้ มันมีแต่ขวากหนามที่ฝ่าฟันมันไป และที่ปากกัดตีนถีบก็เพื่อคนที่นอนหลับกอดตุ๊กตาตัวเก่าบนเตียงทั้งนั้น


    มาแล้วค่าาา

    มาทุกวันนะคะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×