NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ด้วยรักที่ไม่เคยเลือนราง [มี E-BOOK + เปิดจองเล่ม]

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 1 ความรู้สึกที่หม่นไหม้ 70%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.5K
      10
      1 ก.ย. 65

    เวลาต่อมาหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ

    อธิปลุกขึ้นยืนดันเก้าอี้โคลงเคลง ในขณะนั้นสายตาของเขายังจ้องเธอไม่คลาด คิดอยู่ว่าไปทำอะไรให้เขาเจ็บแค้นใจนักถึงได้มาลงที่เธอซ้ำ ๆ

    พรุ่งนี้ถ้าทำอีกฉันจะตีให้หลังหัก เขาไม่ทำแค่ขู่แน่ แววตาเอาจริงขนาดนั้น

    มีเรื่องทุกวันจนได้สินะ สองคนนี้

    คุณป้าวราพร เป็นป้าของอธิปเดินมาทักทาย ในมือหิ้วขนมมามากมาย

    เธอหาเรื่องอะไรคุณอิชย์เขาอีก ถึงได้วีนบ้านแตกขนาดนี้

    หลินเปล่านะคะ เธอบอกเสียงอ่อยแววตาละห้อย

    หัวขโมยน่ะสิป้า อธิปหันไปมองสาวใช้ที่ยืนเรียงกัน นับตั้งแต่วันนี้นี่เป็นคำสั่งของฉัน ให้ทุกคนระวังของที่บ้านให้ดีแล้วกัน อย่าให้ของหาย หรือให้ฉันรู้ว่ายายหัวขโมยคนนี้ทำอีก

    หลินไม่ได้เป็นขโมยนะคุณอิชย์ หยุดกล่าวหาหลินสักทีเถอะ ปาลิดาพยายามปกป้องตัวเอง แต่เขาที่มองเธอเป็นคนผิดตั้งแต่แรกก็ไม่คิดจะเชื่อ ปรักปรำว่าเธอเป็นคนผิดทุกเรื่อง เขาเกลียดเพราะชังน้ำหน้าเธอ

    ฉันไม่เชื่อ!” อธิปบอกเสียงแข็ง คืนนี้เธอไม่ต้องกินข้าว

    ไม่ได้ หลินจะผิดหรือไม่ผิดอันนี้ป้าไม่รู้ แต่วิธีลงโทษของอิชย์ป้าไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด การทำร้ายร่างกายของคนอื่นมันเป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายไม่ควรทำกัน

    แต่หลินผิด เขาย้ำ

    ไม่เป็นไรค่ะคุณพร หลินจะไม่กินข้าว

    ไม่ได้ ต่อให้ฉันจะไม่ชอบหน้าเธอ แต่ฉันไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลขนาดนั้น ไปได้แล้วไป

    ปาลิดาค้อมหัวเดินออกไปอย่างเจียมตัว แม้ว่าน้ำเสียงไล่หลังของอธิปจะก่นด่าสักเพียงใด ว่าร้ายสักแค่ไหน ถากถางน้ำใจสักเท่าไร เธอจะพยายามไม่เก็บเอามาคิดหรือใส่ใจแล้วกัน

    พรุ่งนี้คุณหมอจะเข้ามาดูอาการ

    ผมไม่ได้ป่วย

    คนป่วยที่ไหนจะยอมรับตัวเอง อิชย์ต้องได้รับการรักษา เพราะถ้าไม่ ก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไป คิดดูสิว่าคนรอบข้างเขาทุกข์ใจแค่ไหน ทั้งคุณยาย ทั้งป้า เถอะนะ อย่าทำร้ายตัวเองด้วยวิธีแบบนี้เลย

    อธิปมีปัญหาทางจิต เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ป่วยจิตเภท

    รู้ไหม ปัญหามันอยู่ตรงไหน

    มันไม่เคยมีตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ

    มีสิ ปัญหาของโรคนี้คืออิชย์คิดว่าตนเองอาการดีขึ้น อิชย์คิดว่าหายแล้วและหยุดใช้ยาทำให้อาการกำเริบขึ้นมาอีก แล้วไง ทั้งหมอ ทั้งอิชย์จะต้องทำการเริ่มต้นรักษาใหม่ทั้งหมด

    ผมไม่ได้ป่วย!” เขาบอกกับป้าวราพรแล้วเดินขึ้นบันไดไปห้องนอนของตัวเอง

    ในยามค่ำคืนที่เงียบสงัด คนในบ้านมักจะได้ยินเสียงของอธิป บางครั้งเขาต้องทนกับอาการประสาทหลอน หูแว่ว มีภาพหลอนเกิดขึ้น บางคราก็พูดคนเดียว หัวเราะคนเดียว มีความหลงผิดและหวาดระแวง

    ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงโหยหวนคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดและเสียใจราวกับความรู้สึกทั้งหมดของเขามันหม่นไหม้ วังเวงใจ

    อธิปมีอาการผิดปกติทางจิตตั้งแต่อายุสิบห้า เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เขาสติขาดผึ่ง ไม่รับรู้สิ่งใด ต้องเข้ารับการักษาทันที จนอาการดีขึ้นจึงไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ มีคุณหมอและป้าวราพรคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

    อธิปเคยแต่งงานเมื่อเจ็ดปีก่อน มีลูกสาวที่น่ารักด้วยกันหนึ่งคน เธอชื่อเคธี หรือน้องเคทนางฟ้าตัวน้อยของคุณพ่ออิชย์อายุได้ห้าขวบ  เขากับภรรยาเลิกรากันเมื่อหกเดือนก่อน จึงพาลูกสาวกลับมาเมืองไทย ข่มความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ คิดว่าตัวเองหายดีจึงหยุดยาเองไม่รักษาต่อ

    ไม่นานมานี้อาการของการเจ็บป่วยของอธิปกำเริบ ทำให้คุณยายมิ่งขวัญแยกน้องเคธีออกห่างเพราะเกรงว่าจะโดนทำร้าย นั่นยิ่งทำให้เขาทนไม่ไหวกับการถูกมองเป็นผู้ป่วย ถูกมองเป็นตัวประหลาดที่ทุกคนต้องอยู่ห่าง   

    ทุกคนในบ้านเป็นห่วง คิดว่าเขาควรเข้ารับการรักษาทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยยา การฟื้นฟูสภาพจิตใจ หรือแม้กระทั่งการทำจิตบำบัด แต่อธิปก็ไม่แม้แต่จะยินยอม

    ในคืนวันเดียวกันคุณวราพรเรียกให้ปาลิดาเข้ามาพบ มองคนที่นั่งพับเพียบเบื้องหน้า

    คุณอิชย์ทำร้ายเธอหรือเปล่า

    ไม่ค่ะ ปาลิดาบอก เพราะนอกจากถูกเขาตีด้วยแส้หวายก็ไม่เคยทำอะไรมากไปกว่านั้น

    แผลหายดีหรือยัง แววบอกฉันแล้วว่าอะไรเป็นอะไร

    ทายาก็ดีขึ้นแล้วค่ะ

    อืม ที่เรียกมาหาก็เพราะมีเรื่องจะรบกวนเธอ จากนี้ไปงานและภาระหน้าที่ของเธอจะหนักขึ้น คือการดูแลคุณอิชย์ งานในบ้านไม่ต้องทำ หน้าที่หลัก ๆ ของเธอคือดูแลคุณอิชย์ เข้าใจนะ

    เอ่อ เธอหวั่นเกรงจะดูแลเขาไม่ดี

    เธอเป็นคนเดียวที่คุณอิชย์พูดด้วยบ่อยที่สุด แม้คำ ๆ นั้นมันจะเป็นดำด่าก็ตาม นอกจากเธอแล้วเขาก็ไม่ค่อยพูดกับใคร ต่อจากนี้ไปจะมีคุณหมอมาดูแลคุณอิชย์ แต่ไม่ได้อยู่ตลอด กลางคืนจะเป็นหน้าที่เธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยา อาหาร เธอต้องจัดการดูแลให้คุณอิชย์อย่างดีที่สุด ทำแค่นี้ ทำได้ไหม

    ปาลิดาฉุกคิดไปชั่วครู่ เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็เพราะคุณยายมิ่งขวัญท่านเอ็นดู ให้มาอยู่ที่นี่ฟรี ๆ ได้รับการศึกษาจากท่านที่คอยอุปการะ มีเงินเดือนที่ท่านจ่ายให้ทุกเดือน

    ค่ะ หลินจะทำให้ดีที่สุด เธอรับปาก แววตามุ่งมั่น ไม่รู้ว่าในแต่ละวันจะพบเจออะไรบ้าง แต่เธอก็พร้อมจะรับมือ

     

    เอาพี่อิชย์กับน้องหลินมาส่งค่า

    พรุ่งนี้แปดโมงเช้า เจอกันอีกรอบน้าาา

    ขอบคุณทุกการติดตามเลยค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×