คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : บทที่ 7 ใจร้าย 70%
ทุกครั้งเหมือนเดิม เธอเคาะประตูเป็นจังหวะแล้วเข้ามา ครั้งนี้ไม่แม้แต่จะเสียเวลา
หญิงสาวถอดเสื้อนอนกับกางเกงนอน เดินเปลือยมาหาคนที่นอนคอยบนเตียง
“ให้หลินเริ่มเลยไหมคะ” เจ้าของร่างบางขึ้นมานั่งคร่อมอย่างที่เขาเคยสอน
“ฉันไม่มีอารมณ์” เขาบอกน้ำเสียงเหนื่อย ๆ เจือสั่นเครือกับแววตาที่อ่อนล้า
“งั้นหลินใส่เสื้อผ้านะคะ”
“ไม่ต้องใส่
คืนนี้นอนกับฉันแล้วกัน”
“ได้ค่ะ” ปาลิดาเหมือนเก้อ ก่อนจะลุกขึ้นสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนใหญ่
ซ่อนตัวเอาไว้ข้างในนั้น
“ดูคุณเศร้าจนผิดตาไป
วันนี้มีเรื่องไม่สบายใจแน่ ๆ เลย เล่าให้หลินฟังได้ไหมคะ
คิดว่าหลินเป็นอากาศก็ได้ ไม่ต้องอายนะคะ”
“มันเป็นเรื่องที่ดีต่างหาก
วันนี้เดินไปเรือนหลังเล็กฉันเห็นน้องเคทออกมาวิ่งนอกบ้าน
ฉันเห็นรอยยิ้มของลูกที่สนุกกับการเล่น ได้ยินเสียงหัวเราะ มองเห็นฟันน้ำนมเรียงตัวอยู่ข้างหน้าแล้วน่ารักจัง
ฉันอยากจะทำได้มากกว่านั้น อยากวิ่งเข้าไปเล่นกับลูก อยากเข้าไปกอด แต่ฉันทำไม่ได้
มากสุดคือการได้ยืนมองลูกอยู่ไกล ๆ
มองโดยไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะได้เข้าไปกอดลูกอีกหรือเปล่า”
“อย่าคิดมากนะคะ
หลินว่าไม่นานหรอก คุณก็จะกลับมาเป็นปกติ ได้ดูแลน้องเคท หลินเชื่ออย่างนั้น”
“ทำไมมั่นใจในตัวฉันนักล่ะ
ทั้ง ๆ ที่สายตาคนอื่นมองตรงกันข้ามกับเธอ”
“ก็…”
ปาลิดายิ้มเพ้อฝัน “ในระหว่างที่ศึกษาเล่าเรียน
หลินจะนำวิชาที่ได้มาดูแลคุณอย่างดีที่สุดค่ะ”
“ฉันจะเป็นภาระเธอได้นะ” เขาว่า
“ไม่ใช่หรอกค่ะ
คุณคือของขวัญในชีวิตของหลินต่างหาก” เธอสารภาพความจริง
เพราะรู้สึกว่ามันใช่จริง ๆ
กลางดึกในคืนนั้น
ปาลิดานอนดิ้นขยุกขยิกขดตัวในผ้าห่ม มันก็ยังไม่อุ่นมากพอ จนกระทั่งปลายเท้าเย็น ๆ
ไปแตะขาของอธิปเข้าให้
ในความมืดสลัวเธอมองเห็นดวงตาคู่นั้นของเขาที่เพ่งมองความว่างเปล่าเบื้องหน้า
“โทษทีนะคะ
หลินหนาว” แล้วไม่ใช่แค่นั้น
ตัวเธอก็สั่นราวกับลูกนกเปียกน้ำ อธิปที่หันมามองแล้วรวบคนขี้หนาวมาซุกอก
กอดเอาไว้ด้วยอ้อมแขนของตัวเอง
“อุ่นขึ้นหรือยัง”
เธอแทบจะไม่ได้สนใจคำถามของเขาเลยด้วยซ้ำ
อ้อมแขนรัดเธออย่างกับงู มันแปลกแต่ก็จริงนะ
ที่เรือนกายของเขาที่อุ่นจนถึงร้อนนั้นทำเธอหายหนาวชั่วพริบตา
ปาลิดาเงยหน้ามองเขาที่ก้มลงมาถาม
“คุณอิชย์ลองกอดหลินสักหน้านาทีก่อนได้ไหมคะ
หลินจะได้บอกคุณว่ามันอุ่นหรือเปล่า”
เธอเจ้าเล่ห์กว่าที่เขาคิดเอาไว้อีกนะเนี่ย
แต่ก็เอาเถอะ
เขาต้องการทำอย่างนี้เหมือนกัน
ฝ่ามือเย็นเฉียบของปาลิดาเริ่มเลื่อนไปแตะแผงอกของอธิปที่ไม่ใส่เสื้อนอน
เขาหายใจแรงแล้วกอดเธอให้แน่นกว่าเก่า
ปาลิดารู้สึกตัวตื่นด้วยอาการเมื่อยขบ เมื่อคืนเขาบอกไม่มีอารมณ์ใช่ไหม เธอฟังไม่ผิดแน่ แต่ทำไมเขาถึงขย่มเธอไม่ยั้งครั้งแล้วครั้งเล่า
กินไม่รู้จักอิ่มขนาดนี้ ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน
ปลายนิ้วเรียวแตะลำคอระหงเบา
ๆ ลุกจากเตียงเดินไปยืนส่องกระจก เอียงคอมองว่ามีอีกตรงไหนหรือเปล่าที่เป็นรอยแดง
“เป็นรอยเยอะไหม” อธิปที่รู้สึกตัวตื่นก่อนหน้านี้แล้วเปล่งเสียงแหบห้าวถาม
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ
เดี๋ยวหลินใช้รองพื้นปิดนิดหน่อยก็น่าจะได้แล้วค่ะ หิวหรือยังคะ
วันนี้หลินมีเรียนตอนบ่าย มีเวลาอยู่กับคุณอิชย์จนถึงเที่ยงเลย”
เขาทำหน้าเซ็ง
เวลาที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระของคนอื่น ทำไมทุกคนถึงมองว่าเขาอยู่คนเดียวไม่ได้
“วันหยุดนี้ไปเที่ยวกันไหม”
คนที่ถูกชวนตาลุกวาว
“ที่ไหนคะ”
แล้วถามน้ำเสียงตื่นเต้น
“เธออยากไปไหนล่ะ”
“ทุกที่
ที่มีคุณอิชย์”
ปาลิดาสารภาพ
แล้วยิ้มให้ก่อนที่เธอจะเดินมาสวมใส่เสื้อผ้าลงไปชั้นล่างของบ้าน
อธิปครุ่นคิดอยู่นานสองนาน
เขารู้สึกดี ไม่หม่นหมอง ไม่คิดอยากฆ่าตัวตายเวลาที่มีปาลิดาอยู่ข้างกาย
มองเธอแล้วทำให้เขามองเห็นแม่
เคยคิดนะว่ามันจะไม่มีใครมาแทนที่คนที่เขารักสุดหัวใจได้
ใช่ มันไม่มี
แต่ปาลิดาคือคนที่มาเติมเต็ม
ซ่อมแซมส่วนสึกหรอในชีวิตของเขาต่างหาก
หลินยั่วเก่งกว่าที่คิดนะคะ
เหลือเขียนบทพิเศษก็จะจบแล้วค่ะ
คาดว่าเร็วสุดกลางเดือนหน้านะคะ เพราะโมต้องเช็ก ตรวจคำผิดค่ะ และกลับไปเก็บรายละเอียดอีกที จำนวนคำ 1 แสนคำขึ้นไปค่ะ
ความคิดเห็น