[ShortFic.Inazuma] Hunt-Challenge-Ghost !! - [ShortFic.Inazuma] Hunt-Challenge-Ghost !! นิยาย [ShortFic.Inazuma] Hunt-Challenge-Ghost !! : Dek-D.com - Writer

    [ShortFic.Inazuma] Hunt-Challenge-Ghost !!

    เมื่อความว่างการของ เมงาเนะ .. ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ภารกิจฉบับอินาสึมะ จึงเกิดขึ้น! (ไม่ต่างจากคนอวดผีบ้านเราหรอก)

    ผู้เข้าชมรวม

    1,882

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.88K

    ความคิดเห็น


    15

    คนติดตาม


    24
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ต.ค. 55 / 12:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




    Hunt-Challenge-Ghost



     



    ..เขาว่ากันว่า.. บางสถานที่..

    อาจจะมีวิญญานอยู่ก็เป็นได้!









    แปะไว้งั้นล่ะ.. ไม่งั้นโล่งเกิน





    เม้นต์ + ติชมกันด้วยก็ได้นะ~ 



    ปล. 
    เรื่องนี้ไรเตอร์ไม่แกล้งใส่เพลงล่ะ เดี๋ยวถูกต่อย.. 
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      [ShortFic.] อินาสึมะ ล่า-ท้า-ผี (คาเบยาม่าxโคงุเระ, โกเอ็นจิxฟุบุคิ, ฮิโรโตะxมิโดริคาวะ)

       

       

      ..เขาว่ากันว่า.. บางสถานที่..

      อาจจะมีวิญญานอยู่ก็เป็นได้!

       

       

      “นี่! พวกคุณว่า.. วิญญาณผีมีอยู่จริงรึเปล่าครับ” หนุ่มแว่นนาม เมงาเนะ คาเครุ เอ่ยถามขึ้นในขณะที่กำลังดูรายการคนอวดผีช่วงล่าท้าผี อยู่..

      “ไม่รู้ซิ.. อาจจะมีล่ะมั้ง” โคงุเระตอบ หยิบขนมใส่ปากอย่างไม่ยี่หระ สายตายังคงจับจ้องไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์เจอกันได้ทุกที่จริงจริ๊ง.. เมครึเปล่าฟร่ะ!

      “ผมว่าสถานที่จริงต้องน่ากลัวมากแน่ๆเลย” คาเบยาม่าที่ร่วมวงดูด้วยอยู่ห่างๆ เอ่ยขึ้นบ้าง ในมือกระชับถุงขนมและหมอนเอาไว้อย่างหนาแน่น

      “จะไปกลัวทำไมกันเล่า.. ก็แค่ลองของ ไม่มีผีโผล่ออกมาสักหน่อย” โคงุเระกล่าว

      “พิสูจน์กันมั้ยล่ะครับ ฮี่ๆ” หนุ่มแว่นขยับแว่นเล็กน้อย ประกายแว่นสะท้อนแสงปิ๊ง บ่งบอกถึงความคิดอันชั่วร้าย

      “อะไรอีกล่ะ คราวนี้ฉันไม่เชื่อใจนายแล้วนะ! ฉันลำบากแค่ไหนนายไม่รู้หรอก!!” โคงุเระขึ้นเสียงใส่หนุ่มแว่นข้างๆ เมงาเนะไม่รู้จริงๆ!! ว่าแผนการตลบหลังตัวเอง ของเจ้าแว่น คราวที่แล้ว มันทำให้เขารู้สึกขมขื่นแค่ไหนน่ะ!!

      “ฉันหมายถึง.. พิสูจน์กันมั้ย? ล่าท้าผีน่ะ”

      “หืมมม?” โคงุเระและคาเบยาม่าสบสายตากันโดยอัตโนมัติ..

       

      หาเรื่องอีกแล้ว.. !

       

       

      +++++

       

       

      ตัดภาพมายัง.. บ้านร้างแห่งหนึ่ง

      “เอาล่ะครับ.. ผม เมงาเนะ คาเครุ เป็นผู้บัญชาการช่วงล่าท้าผีในค่ำคืนนี้นะครับ และนี่คือคาเงโนะ จิน ญานดริฟท์ ผู้บัญชาการรับเชิญครับ” พูดพลางภายมือไปทางบุคคลหนึ่งในสมาชิกทีมไรมง ผู้ที่มีผมปิดหน้าตลอดการ ส่งผลให้เจ้าตัวแลเป็นคนลึกลับและคล้ายคลึงผีในเวลาเดียวกัน..

      “และขอขอบคุณผู้สนับสนุนรายการของเราอย่างเป็นทางการ ร้านราเม็งของคุณฮิบิกิครับ”

      แปะ แปะ แปะ แปะ..

      เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างร่อยหรอ.. ว่าแต่ว่า.. คุณฮิบิกิเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย?

      “และนี่คือผู้มาล่าท้าผี ของเราครับ.. มีทั้งหมดหกคน นั่นก็คือ คุณโคงุเระ คุณคาเบยาม่า คุณฟุบุคิ คุณโกเอ็นจิ คุณฮิโรโตะ และสุดท้าย.. คุณมิโดริคาวะครับ” สิ้นเสียงของเมงาเนะ ผู้ที่รับหน้าที่เป็นตากล้อง ก็แพนกล้องมายังผู้กล้าทั้งหกคน ที่ยืนตรงเรียงแถวหน้ากระดานประหนึ่งเคารพธงชาติ ณ เวลา8 นาฬิกา

      “และบ้านที่เห็นอยู่ด้านหลังของพวกเรานี่คือ บ้านร้างครับ มีประวัติเล่าขานว่า มีโจรบุกขึ้นบ้านแล้วฆ่าชิงทรัพย์แม่ลูกอ่อนคู่หนึ่ง ก่อนจะหั่นศพลูกแล้วเอาไปยัดไว้ในโถส้วม ส่วนเอาศพแม่ไปหมกไว้ในตู้เสื้อผ้าครับ..” สิ้นเสียงของเมงาเนะที่บรรยายสรรพคุณบ้านร้างอย่างเจื้อยแจ้ว ราวกับนกแก้วนกขุนทองกลับชาติมาเกิด เหล่าผู้กล้าทั้งหลายก็เริ่มมีท่าทีที่แตกต่างกันไป

      “โกเอ็นจิ อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวนะ” ฟุบุคิเด็กหนุ่มที่มีผิวพรรณขาวผ่องกระชับชายเสื้อของโกเอ็นจิ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ไว้แน่น

      “ฉันจะไม่ทิ้งนาย” ว่าพลางกุมมือของคนตัวเล็กกว่าไว้แน่น..

      “นี่! ฮิโรโตะนายไม่ต้องกลัวนะ.. ถ้าเจอนายเอาคมแฝกแสกหน้ามันเลย คิคิคิ” มิโดริคาวะว่าพลางตบหลังชายหนุ่มผิวซีดอย่างแรง.. จนทำให้คนถูกตีเบ้หน้าอย่างเห็นได้ชัด

      กลับจากล่าท้าผีไป.. คงต้องจัดผีผ้าห่มให้สักดอกแล้วล่ะ !

       

      ส่วนคู่ของโคงุเระ ยูยะ และ คาเบยาม่าคงไม่ต้องพูดถึง.. เดิมทีพวกเขากลัวผีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งมาอยู่ในสถานที่จริง โนสลิง โนสตั้นแบบนี้แล้ว.. ขี้ย้ายสมโนครัว ขึ้นสมองไปเป็นที่เรียบร้อย..

      “โคงุเระคุง..

      “ไม่ต้องกลัวนะ คาเบยาม่า นายต้องทำได้ เพื่อราเม็งฟรีไม่อั้น!!

      .. ท้ายที่สุดแล้วพวกเขามาเพราะราเม็งฟรีไม่อั้น! ของคุณฮิบิกิ นั่นเอง..

       

      “ว่าแต่ว่า.. ทำไมมากันแค่นี้ล่ะ? เมงาเนะคุง?” ฟุบุคิที่เงียบอยู่ถามขึ้น

      คนถูกถามสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะปรับโหมดให้อยู่ในโหมดปกติ..

      “อะ.. อ๋อ คือว่า..ฉันส่งเทียบเชิญไปแล้วไม่มีใครตอบรับน่ะ บอกว่าไม่ว่างแล้วก็ไม่สนใจค่าตอบแทนน่ะ..” เมงาเนะว่า.. สรุปได้ว่า พวกที่มาได้นั่นก็คือ เห็นแก่กิน และ ว่างการ ..

      “มิน่าล่ะทำไมถึงมาแค่หกคน” โกเอ็นจิกล่าว..

      เดิมทีเขาก็ไม่ได้สนใจจะเข้าร่วมอยู่แล้ว เพียงแต่ร่างบางข้างๆ เขาเกิดสนใจในความคิดบ้าบอของเจ้าพวกนั้นขึ้นมา.. หากจะทิ้งให้ไปคนเดียว ก็คงไม่ได้..

       

      “อ่า กล้องพร้อม! เครื่องมือสื่อสารพร้อมนะครับ! ใครจะเข้าไปเป็นคู่แรกครับ?” สิ้นเสียงของหนุ่มแว่นผู้บัญชาการจำเป็นในค่ำคืนนี้ เหล่าผู้กล้าทั้งหกคนก็หันมองกันโดยมิได้นัดหมาย

      “พวกนายเข้าไปก่อนเลย” โคงุเระกล่าว

      “ไม่ๆ พวกนายเข้าไปก่อนเถอะ” และอีกหลายเสียงที่ค้านกัน ดังขึ้นเรื่อยๆ จนผู้บัญชาการจำเป็นในค่ำคืนนี้ ต้องแสดงสปิริต และอำนาจการติดสินใจ..

       

       

      “ให้ทุกคนน้อยออกครับ! คู่ใครออกเข้าคนแรก ส่วนสองคนที่เหลือเป่ายิ้งฉุบกันครับ!!

       

       

      .

      .

      .

       

       

      แกร่บ แกร่บ..

      “อึ๋ยย.. เสียงใบไม้แห้งนี่น่าขนลุกชะมัดเลยแหะ” ตัวเล็กว่าพลาง ยกเท้าเหยียบลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยซากใบไม้แห้งอย่างแผ่วเบา ตามด้วยคนร่างยักษ์ที่เกาะไหล่ร่างเล็กแล้วเดินตามด้วยความกลัว..

      “มะ.. มืดจัง” คาเบยาม่าเอ่ยเสียงสั่น กดน้ำหนักลงบนฝ่ามือที่เกาะไหล่คนตัวเล็กอยู่

      “นี่จะกดไหล่ชั้นทำไม มันหนักนะเฟ้ย!!” โคงุเระหันขวับมาขึ้นเสียงทันทีก่อนจะปัดมือหนาของคาเบยาม่าออก

       

      บรู๊วววว์

       

      “จ๊ากกก! โฮรรรรรรร T[]T” ทั้งสองคนโผเข้าหากันโดยอัตโนมัติ.. เมื่อเสียงร้องอันโหยหวนของสุนัขในระแวกนั้นดังขึ้นมาประหนึ่งคอลลิ่งเมโลดี้..

      บ้าเอ๊ย! ยังไม่ทันเข้าบ้านเลย จะรีบหอนไปหนายยย!!!

      “ภารกิจแรกนะครับ ให้เดินไปตรงที่ใต้ต้นไม้นั่นนะครับ จะมีอุปกรณ์ทำพิธีอยู่ โคงุเระคุงกับคาเบยาม่าคุง ต้องทำการเปิดตาเห็นวิญญาณนะครับ..” เมงาเนะที่นั่งอยู่ในที่บัญชาการกล่าวด้วยความหนักแน่น..

      ให้ตายซิ! เป็นอะไรที่ตื่นเต้นชะมัดเลย!!

      “เอ่อ.. เดี๋ยวนะ เมงาเนะคุง.. เห็นวิญญาณนี่หมายถึง.. เห็นผีใช่ป่ะ?” โคงุเระกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ กวาดสายตามองอุปกรณ์ที่วางอยู่บนเสื่ออย่างระเกะระกะ..

       

      อื้อหือ.. ไม่มีคำบรรยายใดๆ ที่จะสามารถพรรณนาความรู้สึกที่ต้องเผชิญนี้อีกแล้ว..

       

      “อ่า.. โคงุเระคุง และ คาเบยาม่าคุง จุดธูปคนละหนึ่งดอกครับ..” พูดจบ คนร่างเล็กก็ทำการจุดธูปและว่าคาถาตามแผ่นกระดาษที่แปะหราอยู่ตรงโคนต้นไม้ก่อนจะปักธูปลงบนพื้นดินบริเวณนั้น..

      และเมื่อหันสายตามามองคนข้างๆอีกที.. ก็พบว่า คาเบยาม่ากำลังนั่ง.. นิ่ง..

      “เป็นอะไรไป? คาเบยาม่า?”

      “คะ.. คือว่า..

      “???” คนตัวเล็กหันความสนใจทั้งหมดไปยัง คาเบยาม่าที่นั่งอ้ำอึ้งอยู่ข้างๆ สายตาเบิกโพลงจับจ้องไปยังเหนือศีรษะผม ไปยังกิ่งก้านของต้นไม้ที่ถูกแยกออกมา บนนั้นมีร่างซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ผิวพรรณขาวซีดของผู้หญิงนั่งอยู่ ผมเผ้าบดบังใบหน้า และดอกชบาทัดเหนือหู..

       

       

      มาเฝ้าบ้านเป็นเพื่อนฉันหน่อยซิค่ะ..

       

       

      ชัดเจนครับ..

      “ว๊ากกกกก!!!” ผมกระโดดขี่คอคาเบยาม่า ก่อนจะให้คนตัวโตกว่าวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด!!

      เพิ่งจะปักธูปลงไปแท้ๆ!! ของแรงไปไหนครับ!!!

      “เฮ้ย! อย่าวิ่งครับ ตั้งสติครับ! อย่าวิ่งๆ” ฝ่ายบัญชาการเมื่อเห็นภาพของผู้กล้าที่สติกำลังกระเจิงเพราะอะไรที่พวกเขาไม่สามารถเห็นได้ ก็รีบติดต่อไปทางผู้ปฏิบัติภารกิจทันที..

      “หยุดก่อนครับ! เจออะไรมาครับ”

       

      “เขาอยู่ตรงนั้น..” คาเงโนะ จิน หรือ จิน ญานดริฟท์ หนึ่งในผู้บัญชาการชี้ไปที่จอมอนิเตอร์ ตรงจุดที่เขา และ ผู้ปฏิบัติภารกิจเห็นอยู่..

      “โอ้วว! เป็นวิญญาณเจ้าของบ้านที่ถูกฆาตกรรมหรือครับ!!” ประกายแววตาของเมงาเนะวาวโรจน์ด้วยความตื่นเต้น! อะไรกัน!! แค่เริ่มมาก็เจอแล้วงั้นเหรอ ? อั๊ยย๊ะ!

      “เปล่าครับ.. ผีขนุนที่สวนทุเรียนหลังบ้าน

       

       

      ………………..

       

       

       

      ตัดภาพมายังผู้กล้า ทีมแรก

      “คาเบยาม่า.. นี่นายวิ่งมาทางไหนเนี่ย?” คนตัวเล็กที่ตอนนี้ลงจากหลังของคนตัวใหญ่ที่โคตรจะขี้กลัวแล้ว ก็หันตัวสำรวจไปรอบๆตัวเอง..

      ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่มันดงทุเรียนชัดๆ!!

      “โหลๆ ยังได้ยินอยู่มั้ยครับ คุณโคงุเระ คุณคาเบยาม่า”

      “ได้ยินอยู่ๆ” โคงุเระตอบแทน.. ในตอนนี้หัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว เหงื่อที่เริ่มไหลลงมาเรื่อยๆ สายตาเลิ่กลั่กมองไปยังดงทุเรียนรอบๆ ด้วยความตื่นกลัว..

      “ตอนนี้พวกนายอยู่ที่ไหนกันน่ะ? ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในกล้องเลยนะ!” เมงาเนะกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด..

      “ว่าไงนะ!!!” โคงุเระและคาเบยาม่าเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน และทั้งสองก็มองหน้ากันอีกครั้ง โดยที่มิได้นัดหมาย..

      อ๊ากกกก!!! คาเบยาม่าแกพาฉันมาที่หน๊ายยยย!!!

      “บอกสภาพแวดล้อมโดยรอบมาทีซิ..

      “เอ่อ.. หันไปทางไหนก็เจอแต่ ต้นทุเรียน ทุเรียน และ ทุเรียน..” โคงุเระว่าพลางหมุนตัวไปรอบๆ พร้อมกับจิกสายตาไปมองคาเบยาม่าอย่างคาดโทษ.. ฝ่ายผู้บัญชาการทั้งสองก็ได้แต่มองหน้ากันด้วยความทึ่ง..

       

      โอ้!.. ไปโผล่ถึงรังแม่เลยทีเดียว..

       

      “แล้วพอจะหาทางออกได้รึเปล่าน่ะ?” ได้ยินดังนั้น โคงุเระจึงหันไปรอบๆ อีกครั้ง.. อืมม.. เหมือนเดิม มีแต่ต้นทุเรียน ทุเรียน และ.. เอ๊ะ?! อะไร.. ?

      “เดี๋ยวนะ”

      “คุณโคงุเระ..” โคงุเระทำท่าปางห้ามญาติเล็กน้อย คาเบยาม่าที่เห็นคนตัวเล็กผิดสังเกต.. จึงทำตามอย่างโคงุเระ เมื่อสายตาสะดุดไปยังจุดๆ หนึ่งที่แปลกตาที่สุด.. ด้วยสัญชาติยานในความอยากรู้ ทั้งสองจึงย่างกรายไปใกล้ๆ ยังจุดที่แตกต่างที่สุด..

       

      เมื่อฝ่าดงต้นทุเรียนก็พบกับ.. !!

       

      โอ้ววว !?! ต้นขนุนที่มีผ้าเจ็ดสีห่อหุ่มเอาไว้อย่างสวยฮาม..

       

      “เอ่อ.. เมงาเนะ ฉันเจอต้นขนุนด้วยละ.. นี่เป็นหนึ่งในภารกิจรึเปล่า?” เมื่อรับรู้ถึงความแตกต่างของสถานที่ร่างเล็กก็ทำการติดต่อกลับไปยังผู้บัญชาการทันที..

       

      ทว่า..

       

      “เฮ้! คาเงโนะ ทำไมสื่อสารกับทางฝั่งนั้นไม่ได้ล่ะ” หนุ่มแว่นที่ตอนนี้ลุกลี้ลุกลนกับเครื่องมือสื่อสารของตนเอง ที่จู่ๆก็เกิดอาการขาดการติดต่อกับทางฝั่งนั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..

      “ตัดการสื่อสารซินะครับ..” จิน ญานดริฟท์มองหน้าจอที่ปราศจากผู้กล้าทั้งหลาย และประมวลผลจากที่ได้ยินอีกฝั่งบอกมา..

      “เห?”

      “ก็พวกนั้นเขาบอกว่า.. อยู่ที่ดงทุเรียนแล้วนี่ครับ..

      ประหนึ่งว่า.. พวกเขาเข้าไปเหยียบยานแม่แล้วล่ะครับ..

       

       

      “ฮัลโหลๆ เฮ้! ได้ยินฉันมั้ย!!” โคงุเระที่พยายามติดต่อสื่อสารกับศูนย์บัญชาการและดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล ทำให้คนที่อยู่ข้างๆ ใจแป้วลงไปในทันที..

       “ขาดการติดต่อเหรอครับ!!

      ฮือออ.. รู้แล้วเฟ้ย! ไม่ต้องย้ำ TAT

      ไอ้บ้าเอ๊ย! หลอนจนไม่ไหวจะหลอนแล้วนะ!! นี่กะจะให้ฉี่ราดเลยรึไงกัน!!!

       

      แกร่บ.. แกร่บ..

      ในขณะที่ทั้งสองกำลังพยายามติดต่อกับศูนย์บัญชาการอย่างเอาเป็นเอาตาย ความหนาวเย็นยะเยือกและเอฟเฟ็คไดร์ไอซ์แอนด์เสียงเหยียบใบไม้ที่ลอยมาจากไหนไม่รู้ สร้างบรรยากาศให้ดูวังเวงและหลอนมากยิ่งขึ้น..

      ทั้งสองมองหน้ากัน.. ก่อนจะกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ.. ค่อยๆ หันหลังไปมองทางต้นเสียง..

       

      “จ๊ะเอ๋.. เบบี๋”

       

      “เบบี๋ที่หน้าคุณซิ ว๊ากกกก!!!” พูดจบทั้งสองก็รีบโกยอ้าวไปจากที่ตรงนั้นแทบจะทันที.. ทิ้งให้สาวน้อย(?) ที่ใบหน้าซูบกับเค้าโครงกระดูกหน้า เส้นผมที่ยุ่งเหยิงมีดอกชบาประดับอยู่ข้างหู ฉีกยิ้มปากถึงหู ต้อนรับเหล่าหนุ่มน้อยที่เข้ามาท้าผี ณ ที่แห่งนี้..

       

       

      “ว๊ากกก!!! เมงาเนะ! แกอยู่ได้ยินฉันมั้ย!! ตอบเซ่ !! ว๊ากกกกก” โคงุเระพูดพลางวิ่งพลาง จนมาถึงสถานที่ทำภารกิจครั้งแรก ตามด้วยร่างอ้วนที่วิ่งตามมาอย่างติดๆ โดยไม่ลดละ

      เสียงหอบดังระงมไปทั่วบริเวณ ใบหน้าที่ซีดเผือด และ ลักษณะทรงผมที่เปลี่ยนไปเป็นชี้ฟูของทั้งสองคน ส่งผลให้ดูทุลักทุเลมากยิ่งขึ้น..

      “อ๊ะ! การติดต่อกลับมาแล้ว เป็นไงบ้าง!” เมงาเนะรีบกรอกเสียงลงไปทันที เมื่อการติดต่อกลับมา และผู้ร่วมภารกิจทั้งสองคนกลับเข้ามาอยู่ในวงโคจรของกล้องเรียบร้อยแล้ว..

      “เจอผีเซ่! ถามได้.. โอย เหนื่อย” คนร่างเล็กตะคอกใส่อย่างแรง

      “ฮืออ.. คุณเมงาเนะผมไม่ไหวแล้วครับ” คาเบยาม่ากล่าวบ้าง พร้อมกับทรุดลงกับพื้นแล้วร้องไห้โฮไปในทันที.. ฮืออ ล่าท้าผีบ้าอะไรเล่า!! ไม่เอาแล้ว!

      “เอ๋? แต่ถ้ายกเลิกภารกิจ ที่พวกนายเผชิญมาจะสูญเปล่าแถมไม่ได้อะไรด้วยนะ” เมงาเนะกรอกเสียงไปตามสายเห็นใจเจ้าพวกนั้นอยู่หรอก.. แต่ทำยังไงได้ล่ะ..

      และเมื่อทั้งสองได้ยินคำว่า สูญเปล่าหูก็ผึ่งขึ้นทันที..

       

       

      สูญเปล่า = ไม่ได้อะไรเลย!

       

       

      จะบ้าเรอะ!!!!!!!!

       

      “ไม่ๆๆ ฉันจะไม่ยกเลิกภารกิจ! ถ้าที่ทำมามันสูญเปล่าฉันจะไม่ยกเลิกภารกิจ!!” โคงุเระประกาศกร้าว อะไรกัน! หลอนจนขี้ขึ้นสมองแถมไม่ได้อะไรอีก! อะไรมันจะมีแต่เสียกับเสียขนาดนั้นฟร่ะ!!!

      “โอเค.. งั้นเรารีบไปที่ภารกิจที่สองกันเถอะ.. เดินเข้าบ้านไปเลยนะ” เมงาเนะรีบสั่งการต่อทันที.. เพราะมีความคิดที่ว่า ถ้าอยู่ตรงนี้นานหน่อย.. ภารกิจต่อไป หรือ คู่ต่อไป ก็ยังไม่ได้เริ่มหรอก..

      “เล่าสภาพของบ้านด้วยครับ”

      “ก็.. ตอนนี้พวกเราเดินมาถึงหน้าประตูบ้านแล้วครับ.. มีบันไดไม้เก่าๆให้เดินขึ้นไปครับ” คราวนี้คาเบยาม่าเป็นผู้เล่าบ้าง เนื่องจาก.. ดูจากสีหน้าของร่างเล็กตอนนี้ ที่ดูเหมือนวิญญาณจะออกจากร่างได้ทุกเมื่อ..

       

      เอี๊ยดด.. อ๊าดด.. 

      คาเบยาม่าสะดุ้งสุดตัว เมื่อฝีเท้าสัมผัสกับพื้นบันไดไม้ จนเกิดเสียงเสียดสีดังลั่นขึ้นมา เพิ่มความหลอนและความน่ากลัวขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง..

      และทั้งคู่ ก็หยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตู ..

       

      แอ๊ดดด.. (คาราบาว)

      เมื่อเปิดประตูเข้าไป กลิ่นเหม็นอับ ก็ตีออกมาจนคนตัวเล็กแทบจะเป็นลมหัวทิ่มตกกระได ถ้าหากไม่ได้คนตัวใหญ่กว่ายืนกันไว้อยู่ทางด้านหลัง..

      “เปิดเข้าไปในบ้านแล้วนะครับ.. เห็นเครื่องเซ่นไหมครับ?” เมงาเนะกล่าวจากภาพที่เห็นในหน้าจอมอนิเตอร์ เป็นภาพของผู้กล้าทั้งสองที่ไม่ยอมยกเลิกภารกิจ ที่ยืนอยู่หน้าประตู ภายในบ้าน บนพื้นมีเสื่อที่วางเกี่ยวกับอาหารซึ่งเป็นของเครื่องเซ่น รวมไปถึงอุปกรณ์ในการทำภารกิจด้วย

      “จุดธูปกันคนละดอกนะครับ.. ไหว้แล้วปักลงไปบนอาหาร แล้วเรียกเขามากินข้าวด้วยกัน” โคงุเระถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเริ่มลงมือทำภารกิจ.. รีบทำให้เสร็จ จะได้กินราเม็งฟรี.. โคงุเระย้ำกับตัวเองอยู่ในใจ..

      ในขณะที่คาเบยาม่า เริ่มเทกับข้าวใส่ลงในจาน ก็สัมผัสได้ถึงอะไรที่เย็นเฉียบและเย็นมากๆ จับและกดลงที่ต้นแขน และเมื่อหันไปก็พบกับ เจ๊ชบาเจ้าเก่า หน้าเดิม แบบเดิมที่กำลังจับที่ต้นแขนของเขาอยู่..

       

      “ว๊ากกกกกกกกกก!

      “เฮ้ยย!!” ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนอธิบายแทบไม่ทัน.. เมื่อคาเบยาม่าหันไปพบกับนางผู้นั้น ด้วยความตกใจ ทำให้เขาเซถลา แล้วล้มทับคนตัวเล็กที่ง่วน อยู่กับการทำภารกิจที่สอง..

       

      ภาพที่ออกมา คือ คาเบยาม่าทับโคงุเระจนมิดตัว..  

       

      “โคงุเระคุง!!” คาเบยาม่ารีบลุกขึ้นประคองคนตัวเล็กที่ตอนนี้สลบไม่ได้สติอยู่.. เมื่อหันกลับไปมองทางต้นเหตุบัดนี้เธอได้หายไปแล้ว.. แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ..

      “โคงุเระคุง! โคงุเระคุง!” ร่างอ้วน พยายามเรียกสติคนตัวเล็กที่กำลังสลบมึน เอ๋อ ไม่ได้สติอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ผิวกายของคนตัวเล็กที่เย็นยะเยือก ทำให้คาเบยาม่าใจไม่ดีเข้าไปอีก..

      “คาเบยาม่า! โคงุเระคุงเป็นอะไรมากไหม” เมงาเนะที่เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีจึงรีบถาม.. มองร่างเล็กที่นอนไม่ไหวติงอยู่กับคาเบยาม่าแล้วหน้าเสีย..

      โคงุเระ!

      “โคงุเระคุงสลบไปครับ ฮือ.. ไม่น่าเลย” คาเบยาม่าพูดพลางร้องไห้พลาง.. ผู้บัญชาการได้แต่นั่งกุมขมับอยู่กับที่.. พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่..

      “คาเบยาม่าจะทำภารกิจต่อมั้ย?”

      “ฮืออออออออ!!!

      “คาเบยาม่า”

      “โฮรรรรรรรรรรร ~~~~~~~

      “โอเค.. ทีมงานเข้าไปรับครับ - -;” เมงาเนะหันไปพูดกับทีมงานจำเป็น ก่อนจะหันไปบอกคู่ที่สอง นั่นก็คือ..

       

      คุณโกเอ็นจิและคุณฟุบุคิ..

       

       

      “คุณโกเอ็นจิครับ คุณฟุบุคิครับ เดี๋ยวเตรียมตัวทำภารกิจเลยนะครับ” เมงาเนะ ผู้บัญชาการคนเก่ง(?) เดินไปบอกกับผู้กล้าคู่ต่อไป..  

      “ทำภารกิจกันเสร็จแล้วเหรอ?” โกเอ็นจิเอ่ยถาม

      “เปล่าหรอก.. ยกเลิกภารกิจน่ะครับ” เมงาเนะตอบพลางขยับแว่นเล็กน้อย..

      “โอเคครับ..” คราวนี้ฟุบุคิเป็นฝ่ายเอ่ยตอบแทน.. เมงาเนะพยักหน้ารับ ก่อนจะให้ทีมงาน ไปจัดแจงภารกิจที่จำเป็นต้องใช้ ในคู่ที่สอง..

       

      “โกเอ็นจิ.. นายอย่าทิ้งฉันนะ” ฟุบุคิ ชิโร่ ว่าด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะช้อนตามองร่างสูงกว่า ด้วยสายตาขอร้อง.. ฝ่ายร่างสูงที่มองอยู่ ก็ประคองใบหน้าของร่างบางเบาๆ แล้วเอ่ยยิ้มๆ..

      “ไม่ทิ้งหรอก” โกเอ็นจิยิ้มให้อีกครั้ง พร้อมกับขยี้ผมคนตรงหน้าเบาๆ อย่างน่าเอ็นดู .. ประหนึ่งรายการที่กำลังเผชิญอยู่.. เป็นรายการวีก็อตแมรี่อินเดอะบ้านร้าง

       

       

      *วีก็อตแมรี่ คือ รายการที่เกี่ยวกับคู่รักรายการหนึ่ง ในเกาหลี

       

       

      “ทั้งสองพร้อมแล้วนะครับ?”

      “ครับ” โกเอ็นจิและฟุบุคิตอบรับพร้อมกัน พร้อมกับหันไปมองกล้องที่แพลนมายังตัวเอง

      “ถ้าอย่างนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา.. เราไปทำการพิสูจน์ล่าท้าผีในคู่ที่สองตอนนี้เลยนะครับ” เมงาเนะที่ปรับสถานการณ์ได้แล้ว ก็ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการที่ดีต่อไป..

       

      “โอเคครับ.. คุณโกเอ็นจิและคุณฟุบุคิเห็นบ้านร้างตรงหน้าแล้วใช่ไหมครับ? เดินเข้าไปเลยครับ” สิ้นเสียงของเมงาเนะ โกเอ็นจิก็เดินตรงดิ่งไปยังบ้านหลังนั้น.. และไม่ลืมที่จะกุมมือฟุบุคิ ชิโร่ นางอันเป็นที่รักไว้แน่น ประหนึ่งเกรงผีจะฉุด..

      แต่ดูเหมือนโกเอ็นจิคงจะไม่รู้ว่า ผีที่พวกเราต้องเผชิญนั้น.. เป็นผู้หญิง และถ้าหากจะช่วงชิงใครสักคนไป.. คนๆ นั้นคงไม่พ้นที่จะเป็นโกเอ็นจิ.. 

      “เปิดประตูเข้าไปเลยครับ” สิ้นเสียงของผู้บัญชาการ ไม่ทันที่ฝ่ามือของโกเอ็นจิจะสัมผัสกับประตู ก็เกิดแรงลมมหาศาลทำให้ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง.. จนเกิดเสียงดังสนั่นสั่นไหว ไปทุกอณู..

      เผยให้เห็นสภาพข้าวของเครื่องเซ่นที่กระจัดกระจายตามพื้น ท่ามกลางความงุนงงของผู้ปฏิบัติภารกิจและทีมงาน..

      “เอ่อ..

      “นี่เป็นภารกิจของทีมแรกครับ ที่ทำไม่สำเร็จน่ะครับ เกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้นมาก่อนครับ..” เมงาเนะกล่าว ข้อสงสัยที่น่าจะเป็นประเด็นตอนนี้ .. ที่ทำให้ทั้งสองคน หยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตู..

      และฝ่ามือก็ยังคงประสานกันอยู่เช่นเดิม..

      “โศกนาฏกรรม? หรือว่า.. เหตุการณ์ฆาตกรรมของเจ้าบ้านครับ?” โกเอ็นจิเอ่ยคาดเดาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น

      “หรือว่า? ตรงนี้เป็นจุดที่โจรหั่นศพลูกน้อยก่อนนำไปหมกส้วมครับ?” คราวนี้เป็นฝ่ายฟุบุคิที่เอ่ยถามบ้าง..

       

      “เปล่าหรอกครับ.. เหตุโศกนาฏกรรม ช้างคาเบยาม่าล้มทับลิงโคงุเระครับ”

       

       

      ………………..

      ทุกคนอยู่ในความสงบ.. ไร้วาจาใดๆ จะเอื้อนเอ่ย..

       

       

       

      “เอ่อ.. แล้วเราต้องทำอะไรกับภารกิจที่ค้างอยู่นี้มั้ยครับ?” โกเอ็นจิ ที่ตั้งสติจากการถูกสตั้นได้ก็ทำการเอ่ยถามต่อ

      “ไม่ต้องครับ.. ข้ามไปเลย สิ่งที่พวกคุณจะต้องทำก็คือ การเข้าไปในตู้เสื้อผ้าที่ผู้ตายถูกหมกศพครับ..” สิ้นเสียงของเมงาเนะ ร่างเล็กก็เกิดอาการหยุดชะงักขึ้นมาทันที..

      “เป็นอะไรไป? ฟุบุคิ” โกเอ็นจิพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นสบตาร่างสูง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า..

      “ต้องไปอยู่ในนั้น.. ฉันกลัว” ประโยคหลัง ฟุบุคิเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิวกว่าเดิม โกเอ็นจิเผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ โอบกอบร่างเล็กเอาไว้แนบแน่น..

      ทำให้หนุ่มแว่น ผู้บัญชาการรายการล่าท้าผี แทบจะกระอักเลือดตาย..

      “ไม่เป็นไรหรอก.. ก็ฉันอยู่ข้างๆนายตลอดนี่” กล่าวด้วยรอยยิ้ม พร้อมประทับจูบลงบนหน้าผากคนตัวเล็กกว่าเบาๆ จนใบหน้าของฟุบุคิ เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอาย.. ก่อนจะซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้างของโกเอ็นจิ..

      “อะ.. เอ่อ ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับ แต่.. ช่วยลดความหวานลงนิสส์นึงครับ ล่าท้าผีครับ ไม่ใช่วีก็อตแมรี่ แหะๆ” เมงาเนะกรอกเสียงไปตามปลายสาย พร้อมกับหัวเราะแห้งๆ ทั้งสองคนจึงผละออกจากกันในทันที

      “อะ.. ขอโทษครับ”

      “ขอโทษจริงๆครับ”

      “ถ้าอย่างนั้น.. เดินตรงไปนะครับมันจะมีห้องอยู่ ให้เดินไปยังห้องทางซ้ายมือสุดนะครับ” เมงาเนะกล่าว โกเอ็นจิจึงคว้าข้อมือของฟุบุคิแล้วเดินตรงไปยังห้องที่มีเหตุการณ์ที่ถูกหมกศพไว้อยู่..

      “เข้าไปในห้องเลยครับ”

      “เข้ามาแล้วครับ” โกเอ็นจิกล่าว

      “ครับ.. เห็นตู้เสื้อผ้า ที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้องไหมครับ?”

      “เห็นครับ” โกเอ็นจิพูดพร้อมกับมองไปยังตู้เสื้อผ้าไม่เก่าๆ ผุๆพังๆ ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวตรงมุมห้อง ตรงพื้นของตู้ยังคงหลงเหลือคราบเลือดที่แห้งกรังติดไว้อยู่..

      “เอาล่ะครับ ภารกิจของทั้งสองคน คือ ให้เข้าไปอยู่ในตู้ครับ.. ฟุบุคิครับ เข้าไปครับ..

      “เห!?!” ฟุบุคิร้องเสียงหลงขึ้นมาในทันที ก่อนจะหันไปมองหน้าร่างสูง ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธอย่างแรง.. ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าอยู่กับพื้น..

      ไม่เอานะ! อยู่ในตู้แบบนั้น.. ไม่เอา!!!!

      “ทำไมล่ะ?เมงาเนะ ให้ฉันไปอยู่กับฟุบุคิคุงไม่ได้เหรอ?” โกเอ็นจิก้มลงไปลูบเรือนผมของร่างบางเบาๆ เป็นเชิงปลอบพร้อมกับขอร้องผู้บัญชาการไปด้วย..

      เมงาเนะที่ดูการทำภารกิจอยู่จากหน้าจอมอนิเตอร์ก็แทบจะลมจับอีกรอบ..

      ก็เล่นทำซะล่าท้าผีเสื่อมแบบนี้ มันน่ามั้ยเล่า!!!!

      “โอเคครับ.. คุณโกเอ็นจิเข้าไปด้วยก็ได้ครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นฟุบุคิที่นั่งซึมอยู่เมื่อครู่ก็ดีดตัวขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือของโกเอ็นจิเอาไว้..

      “รีบๆ จบภารกิจกันเถอะครับ.. ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร เพิ่งจะภารกิจแรกซะด้วย..

      “อื้ม.. ได้ซิ”

      “ถ้าอย่างนั้น ทั้งสองคน เข้าไปในตู้เสื้อผ้าเลยครับ ดับเทียนแล้วปิดตู้ด้วยนะครับ” ทั้งสองคนทำตามเมงาเนะ โดยการเข้าไปอยู่ในตู้ โดยให้ฟุบุคิพิงติดกับผนังตู้ มีโกเอ็นจิคร่อมร่างบางเอาไว้อยู่..

      “รู้สึกอย่างไรบ้างครับ? ทั้งสองคน”

      “รู้สึกอึดอัดและเหม็นอับนิดนึงครับ” โกเอ็นจิกล่าว.. เมื่ออยู่ไปได้สักพักหนึ่ง เขาก็รู้สึกเย็นวูบตรงท้ายทอย ส่วนฟุบุคิมือที่กอดโกเอ็นจิอยู่ ก็รู้สึกเหมือนถูกดึงออก..

       

      ทางฝ่ายผู้บัญชาการ

      “อ๊ะ! แย่แล้วล่ะครับคุณเมงาเนะ!!” คาเงโนะ ผู้บัญชาการกิตติมศักดิ์ ของเราก็โพล่งขึ้นมาเสียงดัง ก่อนจะชี้ไปยังจอมอนิเตอร์ห้องที่ทั้งสองคนอยู่..

      “ยัยผีขนุนตนนั้นเข้าไปในตู้เสื้อผ้าแล้วครับ..

       

      “เฮ้ยยยยยยยยยย!!

       

       

      กลับมาทางผู้กล้า

      “กะ.. โกเอ็นจิ ฉันรู้สึกเหมือนมีใครพยายามแกะมือฉันออก” ฟุบุคิกล่าวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่คร่อมตัวเองไว้อยู่.. แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบกับ..

       

      O[ ]O!!!!

       

      “นี่ผัวกู..”  ริวฝีปากสีซีดและแตกระแหงขยับช้าๆ เสียงที่แหบแห้งอย่างหลอนดังออกมาเบาๆ แต่กลับก้องอยู่ในโสตประสาทของฟุบุคิ ใบหน้าซีดเผือดแต่ไม่เห็นใบหน้าโดยรวมเพราะ มีผมที่ยาวปรกใบหน้าและดอกชบาเท่าฝาโอ่งหนีบไว้อยู่เหนือหู..

       

      “โกเอ็นจิเป็นของฉันต่างหาก!!!!” ฟุบุคิหลับตาแล้วแผดเสียงออกมาดังลั่นก่อนจะออกแรงถีบประตูอย่างแรง แล้วเบียดตูพุ่งออกมาข้างนอก แล้วคว้าข้อมือโกเอ็นจิให้ออกมาด้วย..

      “โกเอ็นจิเป็นของฉัน ได้ยินมั้ย!! ยัยผีแม่หม้าย!!” ฟุบุคิแผดเสียงอีกครั้ง ท่ามกลางความตกใจของโกเอ็นจิ เมื่อเห็นคนรักกำลังแผดเสียงใส่บางอย่างที่เขามองไม่เห็น อยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ที่ถูกเปิดออกกว้าง โดยสมบูรณ์..

      ร่างสูงของหญิงสาวตรงตู้เสื้อผ้าจ้องมอง คนตัวเล็กที่มีผิวพรรณขาวราวกับหิมะอย่างอาฆาตก่อนจะค่อยๆ เลือนหายไป..

      “กะ.. เกิดอะไรขึ้นครับ คุณฟุบุคิ” เมงาเนะผู้บัญชาการที่ตกใจกับสิ่งทีเกิดขึ้น รวบรวมสติก่อนจะเอ่ยถามฟุบุคิ ที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเผือด เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ..

      “อะ.. อ๋อ พอดีเจอผีแม่หม้ายน่ะครับ ทัดดอกชบา.. เขาคงอยากได้สามี” กล่าวพร้อมกับมองใบหน้าของร่างสูงด้วยความหวงแหน..

      “อ๋อ.. นั่นไม่ใช่ผีที่ถูกหมกหรอกครับ.. ผีขนุนน่ะ..

       

      ………………………..

      ฟุบุคิ.. ถูกสตั้น..

       

      “แต่.. ฉันดีใจนะ ที่นายพูดแบบนั้น” โกเอ็นจิ พูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ร่างบาง.. ร่างบางที่เหมือนเพิ่งได้สติจากากรถูกสตั้นเลิกคิ้วสูง.. ก่อนจะค่อยๆเข้าใจความหมายของโกเอ็นจิ..

      “อะ.. เอ่อ” ฟุบุคิรีบหันหลังให้กับร่างสูงแทบจะทันที.. เพื่อบดบังใบหน้าที่ขึ้นสี อย่างปิดไม่มิด.. “อ่ะ.. อ๊ะ”  ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่อถูกใครบางคน สวมกอดจากด้านหลัง..

      แม้จะเขิน.. แต่ก็รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก..

       

      “เอ่อ.. อะแฮ่มครับ.. ล่าท้าผีครับ โนก็อตแมรี่” เมงาเนะที่ดูทั้งสองปฏิบัติภารกิจผ่านไป อย่างทึ่งๆ ทั้งสองผละออกจากกันทันที เมื่อเมงาเนะทัก.. ก่อนจะกล่าวขอโทษที่เผลอตัว..

      แต่เห็น.. พวกคุณๆ ก็เผลอกันทุกรอบนั่นแหละ

       

      “คราวนี้ภารกิจสุดท้ายแล้วนะครับ.. ให้ไปที่ห้องน้ำนะครับ เราจะไปเล่นผีถ้วยแก้วกัน”

      “เอ๋? ไม่ใช่ภารกิจที่สองหรอกเหรอครับ?” ฟุบุคิเอ่ยท้วง ปกติภารกิจมันต้องมีสามอย่างไม่ใช่เหรอ?.. แล้วผีถ้วยแก้วอะไรไปเล่นในห้องน้ำ.. ?

      “หะ.. หา? เอ๋! แสดงว่าผมลืมให้พวกคุณทำภารกิจเปิดตาเห็นผีซินะครับ ขออภัยด้วยครับ.. แต่ว่า ถึงจะไม่เปิดตาก็เห็นแล้วซินะครับ.. งั้นไม่ต้องทำก็ได้ครับ” เมงาเนะรีบพูดตัดบทให้จบ.. ใจจริงอยากให้คู่นี้จบเร็วๆด้วยซ้ำ.. ก่อนที่จะกลายเป็นวีก็อตแมรี่อินเดอะบ้านร้างโดยสมบูรณ์..

      “ตรงไปที่ห้องน้ำเลยครับ” โกเอ็นจิและฟุบุคิ พยักหน้าก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำ..

       

      เมื่อมาถึงโกเอ็นจิและฟุบุคิก็สำรวจสถานที่โดยรอบ เป็นห้องน้ำเล็กๆ ไม่กว้างมาก มีส้วมแบบนั่งยองๆอยู่ตรงกลางห้องน้ำ ส่วนบนพื้นมีเพียงเศษฝุ่น ที่คนที่เป็นภูมิแพ้เข้ามาทำภารกิจอาจจะช็อกตายได้

      “จุดธูปคนละหนึ่งดอกครับ และปักลงบนกระถางครับ แล้วเอานิ้วชี้แตะลงบนที่ก้นแก้วแล้วเริ่มสวดมนต์ได้เลยครับ” ฟุบุคิและโกเอ็นจิทำตามเมงาเนะ ก่อนจะอ่านบทสวดที่มีเขียนไว้ให้อยู่ในกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่แนบไว้อยู่ด้วย.

      “ห้ามเอามือออกจากก้นแก้วนะครับ.. ถ้าเข้าใจแล้ว ถามเลยครับ” สิ้นเสียงของเมงาเนะ ทั้งคู่กับสบสายตากันทันที

      “ถามอะไรดีล่ะ?” ฟุบุคิเอ่ยถามโกเอ็นจิ ที่ทำหน้าครุ่นคิดอยู่..

      “อืม.. คุณเป็นใครครับ” เมื่อสิ้นสุดคำถามของโกเอ็นจิ แก้วก็เลื่อนไปเรื่อย.. ท่ามกลางความตกใจของร่างบางและโกเอ็นจิ.. แก้วเลื่อนไปตรงที่..

      ..

      ..

      ..เจ้?..

       

      เจ้? ฟุบุคิทวนคำนี้ในใจ เจ้เหรอ? เจ้ขายส้มตำหน้าปากซอยเหรอครับ? หากแต่แก้วไม่หยุดเพียงเท่านี้ แถมยังเลื่อนเร็วขึ้นเรื่อยๆ..

      “เจ้าที่?” โกเอ็นจิทวนคำเต็มขึ้นมา แก้วก็ยังคงเลื่อนต่อไปเรื่อยๆ.. และได้ความว่า..

       

       

       

      “เจ้าที่ต้นขนุน”

       

      -__-;; อ๋อ.. อิผีขนุน เมื่อคำที่ได้ออกมาชัดเจน ทั้งทีมงาน กองบัญชาการ และ ผู้ท้าชิงก็ร้องอ๋อ ในใจกันแทบจะทุกคน..

      “ถามอะไรต่อดีล่ะ?” ร่างบางเอ่ยถามโกเอ็นจิ แต่ไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร แก้วก็เลื่อนไปเอง.. จนทำให้ร่างบางและโกเอ็นจิมองหน้ากันด้วยความตื่นตะลึง..

      “อยากได้?..

      เธออยากอะไรกันนะ!!

       

      ..สามี”

       

      -_-;; ฟุบุคิสบสายตากับโกเอ็นจิอีกครั้งด้วยความเอือมระอา เมื่อหันไปมองรอบๆ ก็พบกับหญิงสาวเจ้าเก่า ตราวนี้เห็นเธออย่างชัดเจน ผมยาวปรกหน้า ผิวขาวซีด.. ห่มสไบสีแดงสดและโจงกระเบนสีเลือดหมู.. ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าส้วมซึม..

      “โกเอ็นจิคุง.. ฉันว่า.. เราพอเถอะ” ผมรีบหันมาบอกกับโกเอ็นจิ ก่อนจะหันไปทางกล้อง พยายามเลี่ยงที่จะไม่มองเธอคนนั้น

      “ถ้างั้นทั้งคู่สวดมนต์รอแล้วเอามือออกเลยครับ.. เดี๋ยวผมจะให้ทีมงานไปรับ” เมงาเนะพูดก่อนจะหันไปพยักหน้ากับทางทีมงาน “คู่ที่สาม เตรียมตัวเลยครับ!

      เมื่อมาถึงกองบัญชาการ รอบตัวโกเอ็นจิและฟุบุคิก็ถูกรายล้อมไปด้วยทีมงาน และ คนอื่นๆ..

      “เป็นยังไงบ้างครับ คุณโกเอ็นจิ คุณฟุบุคิ” คาเบยาม่าที่คอยถือพัดแล้วโบกให้กับโคงุเระที่ยังสลบไม่ได้สติอยู่ พลางถามคู่กล้าคู่ที่สองด้วยสายตานับถือ

      “อ่า.. เจอผีด้วยล่ะ เห็นคุณเมงาเนะบอกว่า เธอเป็นผีขนุนล่ะ เธอต้องการสามี” ฟุบุคิพูดตามเท่าที่ตัวเองรู้และนึกได้ในตอนนั้น.. คาเบยาม่าที่ได้ยิน ถึงกับซัดพัดลงกับพื้น แล้วพุ่งไปหาฟุบุคิ

      “ยัยผีตัวนั้นแหละ ที่ทำให้ผมตกใจแล้วล้มทับโคงุเระน่ะ!!” คาเบยาม่าตะโกนเสียงดัง พร้อมกับชี้ไปยังร่างเล็กที่กำลังหลับสบายอยู่บนแคร่ไม้

      “อ๋อ..” ฟุบุคิและโกเอ็นจิพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะหันสายตาไปสนใจยังคู่ที่สาม.. ฮิโรโตะกับมิโดริคาวะ..

       

       

      +++++

       

      “พร้อมแล้วยังครับ ทั้งสองคน” เมงาเนะทำหน้าที่ผู้บัญชาการอีกครั้ง กรอกเสียงลงไปยังเครื่องสื่อสาร และคอยดูการปฏิบัติภารกิจจากจอมอนิเตอร์ที่ตอนนี้ทั้งสองคน ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ที่คู่แรกปฏิบัติภารกิจ..

      “พร้อมเสมอครับ! เพื่อราเม็งฟรี!” มิโดริคาวะตอบเสียงใส ด้วยสีหน้าระรื่น คนที่อยู่ข้างๆ ได้แต่หันหลบไปอีกทางหนึ่งแล้วทำท่ากุมขมับ..

      “โอเคนะครับ.. งั้นเริ่มภารกิจแรกเลยนะครับ จุดธูปหนึ่งดอกเป็นการเปิดดวงตาให้เห็นวิญญาณ เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วให้นำขี้ธูปมาป้ายที่เปลือกตาครับ” คู่ที่สามทำตามอย่างเรียบๆ

      “ฮิโรโตะ นายว่าฉันจะเจอมั้ย?” มิโดริคาวะพูดพลางนำขี้ธูปมาป้ายตาอย่างลวกๆ

      “เดี๋ยวนะ.. ฉันกำลังใช้สมาธิ” ได้ยินดังนั้นมิโดริคาวะจึงหันไปมองคนข้างๆแทบจะทันที ก็พบกับ.. !

      ฮิโรโตะกำลังส่องกระจกและทำสมาธิในการป้ายขี้ธูปลงบนเปลือกตา..

       

      นี่นายคิดว่ากำลังทาอายแชโดว์อยู่รึไงน่ะห๊ะ!!!!!

       

      “โอเคแล้วนะครับ ไปภารกิจที่สองกันเลยครับ”

      “ห๊ะ!” เมื่อเมงาเนะกรอกเสียงลงไปตามสาย เสียงร้องของคนในกองบัญชาการก็ดังขึ้นทันที.. เมื่อหันไปมองรอบๆ ก็พบกับคาเบยาม่าที่จ้องจอมอนิเตอร์จนแทบจะทะลุเข้าไป..

      “ทำไมผ่านงายจัง..

      “จะไปรู้เรอะ” เมงาเนะบอกปัดๆ พร้อมกับหันไปสั่งการกับคู่ที่สาม คู่สุดท้ายของค่ำคืนนี้..

      “มาถึงภารกิจที่สองกันแล้วนะครับ ขึ้นไปบนบ้านนะครับ ภารกิจนี้มีชื่อว่า ส่องกระจกเห็นผีนะครับ เขาว่ากันว่า ถ้าหวีผมตอนเที่ยงคืนจะทำให้เห็นวิญญานครับ” เมงาเนะจากทางฝ่ายบัญชาการกล่าว มิโดริคาวะได้ยินดังนั้นก็กระตุกยิ้มขึ้นมา.. และได้คว้าข้อมือของฮิโรโตะ ก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนบ้าน..

       

      ท่ามกลางความงุนงง ของหญิงสาวที่เธอบอกว่า ตัวเองเป็นเจ้าที่ต้นขนุน..

      “เจ้าหัวเขียวนั่น มีตาหามีแววไม่!!เธอกระทืบเท้าครั้งหนึ่ง ก่อนร่างกายของเธอจะหายไป..

       

      “ว่าแต่.. ห้องไหนน่ะ เมงาเนะ?” มิโดริคาวะพูดพลางมองซ้ายแลขวา เพราะว่า ตรงที่เขายืนอยู่นั้นมีห้องเยอะซะเหลือเกิ๊นนน

      “เข้าไปในห้องน้ำครับ.. ปักเทียนเอาไว้ แล้วทำการหวีผมครับ” เมงาเนะกล่าวเสียงเรียบ และมองทั้งคู่ที่ผ่านภารกิจมาได้อย่างรวดเร็ว.. เมื่อเข้ามาภายในห้องน้ำ มิโดริคาวะก็ชะงักกึก.. ก่อนจะนั่งกอดเข่าข้างๆร่างสูง..

      “เป็นอะไรไป? มิโดริคาวะ”

      “วะ.. หวีผมน่ะ.. หมายถึง ฉันต้องหวีซินะ!!” มิโดริคาวะพูดทั้งที่ซุกหน้าอยู่กับเข่าตัวเอง

      “นายต้องทำได้!” ฮิโรโตะกล่าว พร้อมกับวางมือลงบนไหล่ของมิโดริคาวะ

      “ให้มิโดริคาวะคุง ไปนั่งลงหน้ากระจกตรงนั้นนะครับ แล้วทำการหวีผมนะครับ..” สิ้นสุดคำบัญชาการจากเมงาเนะร่างบางก็ค่อยๆลุกขึ้น ถอนหายใจเอือกหนึ่ง ก่อนจะทำการนั่งลงหวีผมตรงหน้ากระจกอย่างว่าง่าย..

      ไม่มีอะไรหรอกน่า.. ก็แค่หวีผมเองนี่นา..

       

      ฟึบ!

      กึก! มือที่หวีผมอยู่ของมิโดริคาวะชะงักกึก เมื่อเจ้าตัวบางอย่างสีขาวซีดๆ ผ่านทางกระจกไปแว้บๆ..

      ไม่มีอะไรหรอก.. เราคงคิดไปเอง..

      แหม! เราอุตส่าห์เจ๋งผ่านภารกิจแรกมาได้สบายๆ แบบนี้ มันคงไม่มีอะไรหรอกน่า.. ฮ่าๆๆ มั้งนะ -_-;

       

      ฟึบ.. ฟึบ.. 

       

      (O__O)\

       

      ..ชัดเจน..

      “จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!” ร่างบางลุกพรวดจากเก้าอี้ แล้ววิ่งโผเข้าหาอีกคนทันที..

      “เย้ย! อย่าวิ่งครับคุณมิโดริคาวะ อย่าวิ่งครับ ใจเย็นๆ” เมงาเนะที่บัญชาการอยู่ถึงกับตกใจ เมื่อผู้ที่ปฏิบัติภารกิจอย่างหลั่นล้า อย่างมิโดริคาวะคนนั้นเกิดอาการพรวดพราดกะทันหัน

      “มะ.. เมื่อกี้ ฉันเห็นเงาใครไม่รู้ สีขาวๆ ผ่านทางกระจกน่ะ!!” มิโดริคาวะตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อมองไปทางกระจกอยู่ก็พบว่า ตัวเองซบฮิโรโตะอยู่ในจุดตรงที่พบเงาสีขาวๆ..

      แล้วเมื่อหันมาทางความเป็นจริงไม่อิงกระจกแล้วก็ พบสัจธรรมอีกอย่างหนึ่งว่า..

      ไอ้ฮิโรโตะมันขาวซีดนี่หว่า.. แสดงว่าเงาที่เราเห็นนั่นก็..

       

      “ฮิ-โร-โตะ!!!

       

      มิโดริคาวะกดเสียงลงต่ำก่อนจะเน้นชื่อร่างสูงอย่างชัดถ้อยและชัดคำ ฮิโรโตะมองร่างบางตาปริบๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงใส

      “จ๋า~~~~” ไม่ว่าเปล่า มือที่โอบกอดมิโคริคาวะอยู่ก็ซุกซนไปเรื่อยๆ ทำให้เกิด..

      “อะ.. อ๊ะ! ฮิโรโตะ”

      “อะ.. อย่านะ! ปล่อยมือซิ!!

      “อะ.. อ๋ายยยย”

      ฝ่ายเมงาเนะที่บัญชาการอยู่เมื่อพบเห็นท่าทางเหล่านั้นถึงกับตะลึงค้าง หยิบจับอะไรไม่ค่อยถูก.. เมื่อตั้งสติได้ก็จัดการปรามทั้งสองก่อนจะเกิดฉากอีโรติกในบ้านร้าง..

      “อะ.. เอ่อทั้งสองครับ รายการล่าท้าผีครับ ไม่ใช่รายการเมื่อวานซืน ยังหื่นอยู่.. ขอความกรุณาด้วยครับ”เมงาเนะว่าพลางปาดเหงื่อพลาง..

      ให้ตายเถอะ!!! ไอ้แบบนี้มันยิ่งกว่าไอ้คู่วีก็อตแม่รี่อีก!!

      “อ้ะ! ขอโทษนะ” ฮิโรโตะกล่าวพร้อมกับยิ้มแห้งๆ

      “คุณมิโดริคาวะครับ เมื่อสักครู่มีอะไรไหมครับ?”

      “อะ.. อ๋อ ไม่มีๆ” มิโดริคาวะพูดพร้อมกับหันไปมองฮิโรโตะอย่างคาดโทษ..

       

      อีเผือกนะอีเผือก!  

       

      “ถ้าอย่างนั้น ไปห้องต่อไป เพื่อปฏิบัติภารกิจเลยนะครับ” เมงาเนะกล่าวอีกครั้งพร้อมกับหันไปบ่นกับ จิน ญานดริฟท์

      “เหมือนกันเลยทั้งสองคู่ คู่นึงก็ทำซะกลายเป้นวีก็อตแม่รี่ คู่นี้ก็ทำซะเหมือนเมื่อวานซืน ยังหื่นอยู่.. นี่ถ้าไม่ติดออกอากาศคงกลายเป็น รักบานฉ่ำกลางบ้านร้างไปแล้วแน่ๆ” หนุ่มแว่นค่อนคอดอย่างเหนื่อยใจ

      “นั่นซินะครับ”

       

      “อะ.. เอ่อ เมงาเนะคุง รู้สึกอึดอัดมากเลยล่ะ ในตอนนี้” มิโดริคาวะเอ่ยขึ้นหลังจากเหยียบเข้ามาในห้องที่ใช้ในการทำภารกิจต่อไปแล้ว.. บรรยากาศที่น่าอึดอัดมาคุซะจนไม่อยากอยู่ต่อ

      “เขารออยู่ก่อนแล้วครับ” คาเงโนะ ญานดริฟท์เอ่ยขึ้น

      “ผีขนุนน่ะเหรอครับ?” เมงาเนะถามย้ำจากคนข้างๆ

      “ไม่ใช่ครับ..

      “เอ่อ.. ทั้งสองครับ คุณ คาเงโนะ เขาบอกว่า เค้ามารออยู่ในห้องแล้วครับ” เมงาเนะถ่ายทอดคำพูดของคาเงโนะไปตามสาย ขณะนี้ฮิโรโตะยังคงจ้องเขม็งอยู่ ตรงหน้าของมิโดริคาวะ..

      “เขาทำผมทรงโมฮ็อกซ์ ใส่เสื้อสีเขียว กางเกงขาเดฟสีแดงรึเปล่าครับ? คุณคาเงโนะ” ฮิโรโตะหันไปมองทางกล้องและเอ่ยถามแขกรับเชิญในกองบัญชาการ

      “ใช่ครับ”

       

      ป๊าดดด! เซ้นส์แรงได้อีกครับ! มิโดริคาวะคิดในใจ

       

      “เขา..” ไม่ทันทีผู้บัญชาการกิตติมศักดิ์อย่าง จิน ญานดริฟท์จะได้พูดอะไร ฮิโรโตะก็แทรกขึ้นมาก่อน

      “เอามือสกปรกออกไปจาก เมีย ฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้ผีโมฮ็อกซ์!

      “เอ๋?!” มิโดริคาวะและเมงาเนะเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน มิโดริคาวะมองหน้าฝ่ายตรงข้าม อย่างไม่ละสายตา.. ผีเกาะฉันอยู่งั้นเหรอ? แล้วไอ้สีหน้าที่พร้อมจะเข้าไปบวกกับผีนั่นอะไร?!

       

      “ว่าแต่ว่า.. เจ้าผีตนนั้น มันใส่เสื้อยืดสีเขียวกับเดฟแดงจริงๆน่ะเหรอ?” เมงาเนะถามพลางขยับแว่น

      “ครับ”

      =[ ]=!!!!

       

      จะบ้าเรอะ! นรกเค้าปฏิวัติเปลี่ยนคอสตูมกันรึไง!!!

       

      เมงาเนะส่ายหัวอย่างแรงสองสามที ก่อนจะตั้งสติอีกครั้ง และทำหน้าที่ผู้บัญชาการของรายการล่าท้าผี (ที่ไม่แน่ใจว่ายังล่าท้าผีหรือเป็นวีก็อตแมรี่อินเดอะบ้านร้างไปแล้วรึยัง)ต่อไป

      “ทั้งสองคนเข้าไปปฏิบัติภารกิจที่สามเลยนะครับ ภารกิจที่สามจะเป็นการเล่นผีตะเกียบนะครับ ให้ทั้งสองทำภารกิจตามคู่มือ(?)การเล่นผีตะเกียบที่วางไว้ข้างๆเลยนะครับ” พูดจบ มิโดริคาวะกับฮิโรโตะก็ทำการทำพิธีเล่นผีตะเกียบ..

      “เสร็จแล้วครับ”

      “ให้ถามคำถามเลยครับ” เมงาเนะกล่าว..

      “ถามอะไรดีล่ะ” ฮิโรโตะเอ่ยถาม มิโดริคาวะเหลือบมองคนตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเผยยิ้มชั่วร้าย..

      ภารกิจที่สองทำไว้แสบนะอิเผือก!

      “ฉันกับฮิโรโตะใครหล่อกว่ากัน ถ้าฉันหล่อกว่าให้หุบเข้า ถ้าฮิโรโตะหล่อกว่าให้กางออก” สิ้นเสียงของมิโดริคาวะ.. ตะเกียบก็กางออกอย่างรวดเร็ว!

       

      ป๊าดดดด! ไม่ต้องตอบเร็วขนาดน้านก็ด้ายยย

       

      “ฮ่ะๆๆ”

      “นี่นายขยับตะเกียบใช่มั้ย?!” มิโดริคาวะกดเสียงให้ต่ำลงพูดแล้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ..

      อะไรกัน!! มันต้องเป็นชั้นเซ่!!

      “เอ๋? ฉันเปล่านะ” ตอบด้วยน้ำเสียงใสซื่อบริสุทธิ์ และ สัตย์จริง

      “เคาะตะเกียบครับ” เมงาเนะที่ตั้งสติได้จากการโดนสตั้น จากคำถามของชาเขียวคุง ก็เริ่มสั่งการอีกครั้ง..

       

      แป้ก แป้ก แป้ก แป้ก  

       

      “คำถามต่อไปคุณฮิโรโตะถามครับ”

      “อืม..” ฮิโรโตะทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อหันไปมองหน้าร่างบางตรงหน้าที่กำลังทำแก้มป่อง ไม่สบอารมณ์ในคำตอบ แล้วคำถามก็แล่นเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว!

      “มิโดริคาวะรักฉันหรือเปล่า? ถ้ารักฉันให้หุบเข้า ถ้าไม่รักให้กางออก”

      “เฮ้ยย!

       

      ตะเกียบหุบเข้าอย่างรวดเร็ว ประหนึ่งแดชลมกรดของคาเซมารุ!

       

      “นายขยับตะเกียบอีกแล้วใช่มั้ย!!” ร่างบางตะโกนถามคนตรงหน้าที่ตีหน้ายิ้มระรื่น ด้วยใบหน้าที่แดงจัด..

      “ฉันไม่ได้ขยับสักหน่อย”

      “ถ้าถามคำถามชี้ชะตามั้ยล่ะ!!

      “เอาเซ่! จะได้เลิกกล่าวหาฉันซักที” ฮิโรโตะตอบอย่างผู้เหนือกว่า มิโดริคาวะเม้มปากตัวเองแน่น ก่อนจะลงมือเคาะตะเกียบแล้วถามคำถามที่ตัดสินความจริง..

       

      “คำถามสองคำถามเมื่อครู่ ฮิโรโตะเป็นคนขยับตะเกียบใช่หรือไม่! ถ้าใช่ให้หุบเข้า ถ้าไม่ใช่ให้กางออก!! สิ้นเสียงของมิโดริคาวะ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ทั้งห้องที่ทั้งสองทำภารกิจอยู่ และ ทั้งฝ่ายบัญชาการ เพื่อรอดูคำตอบจากตะเกียบ..

       

      ตะเกียบกางออกอย่างชัดเจน!.

       

      -_____- <มิโดริคาวะ

      ^[+++]^ < ฮิโรโตะ

       

      “ทั้งสองคนเคาะตะเกียบครับ จบภารกิจแล้ว เดี๋ยวรอให้ทีมงานเข้าไปรับนะครับ” เมงาเนะกล่าวก่อนจะหันไปถอนหายใจกับจิน ญานดริฟท์

      “ผมล่ะเหนื่อยจริงๆเลย”

       

       

      “ชัดแล้วยังครับ? ชาเขียวของผม” ฮิโรโตะว่าพลางรวบเอวของร่างบางที่ยืนทำหน้าหงิกทั้งที่ยังเขินอยู่ข้างๆ มาแนบตัวก่อนจะขโมยหอมแก้ม คนที่อยู่ในอ้อมแขนเข้าไปฟอดใหญ่ ทำให้ทีมงานจำเป็น ทีมารับทั้งสองคนอึ้งกันไปเป็นแถบๆ

      “อย่างที่คุณเมงาเนะบอกจริงๆด้วย.. อย่างกับวีก็อตแมรี่ในบ้างร้างแน่ะ”

      “นั่นมันคู่ของคุณฟุบุคิกับคุณโกเอ็นจิตะหาก! นี่น่ะ.. เค้าเรียกเมื่อวานซืน ยังหื่นอยู่เว้ย!” ว่าพลางมองไปยังผู้ปฏิบัติภารกิจทั้งสองที่กำลังมีความสุขซะจน ไม่อยากขัดจังหวะ..

      ฮิโรโตะที่กำลังพยายามนัวเนีย มิโดริคาวะอยู่ ส่วนคุณชาเขียวของเราปากที่ยังร้องห้าม แต่สีหน้าของเขานี่คงฟิน ประหนึ่งกำลังจะขึ้นสวรรค์ชั้นสิบซะเหลือเกิน..

      “อ๊ะ! ฮิโรโตะอย่าเพิ่ง!!

      “อ๊ะ.. อ๊า~ ฮิโรโตะ”

       

      “เฮ้อ..”  ทีมงานถอนหายใจพร้อมกัน..

       

       

      +++++

       

       

      “เอ้า! นี่ราเม็งฉันเลี้ยงทุกคนนะ”

      “ห๋า!!” สิ้นเสียงของโค้ชฮิบิกิ เหล่าผู้ที่ไปปฏิบัติภารกิจถึงกับอ้าปากค้าง.. ว่าไงนะ! เลี้ยงทุกคน? หมายถึง ทุกคนในไรมงน่ะเหรอ!?!!

      “ก็ใช่นะซิ.. ฉันก็ฝากเมฝาเนะไปบอกทุกคนแล้วนี่ ว่าวันนี้ฉันเลี้ยงทุกคน” ฮิบิกิกล่าวอย่างไม่ใส่ใจและหันไปทำราเม็งต่อ.. ทุกคนที่หลงไปปฏิบัติล่าท้าผี ถึงกับหันมามองเมงาเนะด้วยสายตาอาฆาต!!

       

      “เม-งา-เนะ!!!!

       

      “จ๊ากก! ฮืออ ผมขอโทษครับ!!

       



       

      ++จบล่ะ++



       

      คาแรคเตอร์ตัวละคร อาจจะเพี้ยนๆ มั่วๆ มึนๆ ไปบ้างนะ.. เพราะว่า.. ไรเตอร์ันั่งแต่งไปนานๆ ก็มึนเองเหมือนกัน =_=;; 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×