The story of the Sun ,the Moon ,the Sky and the Sea
          *              *    *  ()()      *      *    *
                  *          *    ( .  . )  *            *      *
                      *        o(  , \"  ,,          *                   
                    *                        *                  *
        *                  *      * *                *       
                *                                *                *
 
(เรื่องราวของพระอาทิตย์ ดวงจันทร์ ท้องฟ้า และทะเล)
   
-------  ----- -    --  ----- ---    --  ------ --  -- 
                - --  -      --- --  -------  ------    --  --
                        --  - --  -- -  - -  --  -- -
                                --    --  -- -
    วันหนึ่ง ภายใต้บรรยากาศอบอุ่นของอ้อมอกของทะเลยามเย็น 
คลื่นระลอกเล็กๆลูกแล้วลูกเล่าเคลื่อนที่ตามแรงลม  หอบฟองคลื่น
สีขาวระยิบแสงเข้ากระทบฝั่ง  โขดหินทอดยาวไปตามชายทะเล
ไกลสุดลูกหูลูกตา  เม็ดทรายหอบตัวโยน กระเด็นไปตามแรงคลื่น
 
    มองตามสายฟองขาวที่ทอดยาวไกลออกไป มีบางสื่งเคลื่อนตัว
ขึ้นลง ต้านแรงคลื่นเอื่อยๆที่ปลายแรงของฟองคลื่นจะไปถึง 
เหมือนก้อนหินที่สีกลืนกับโขดหินใหญ่  หากแต่ว่า..มันคือปูตัวเล็กๆ 
ที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่มพอจะมีก้ามไว้อวดสายตาผู้คุกคามให้เกรงภัย 
ใกล้ๆกันนั้นเอง ในแอ่งน้ำเล็กๆกลางโขดหินที่คลื่นน้ำโยนตัวท่วมถึง
มีกุ้งน้อยตัวใสตากลมลอยล่องตัวเบาหวิวแหวกว่ายอย่างสำราญใจ
อยู่ในแอ่งน้ำนั้น
   
    ต่อเมื่อ..ได้แอบเข้าไปใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งถ้าเข้าไปใกล้
มากกว่านี้คงทำให้ทั้งสองหนีหายลงทะเลตามสัญชาตญาณ ทุกอย่าง
ดำเนินไปอย่างปกติตามครรลองของธรรมชาติ และเมื่อเสียงคลื่นที่
กระทบฝั่งเริ่มสงบ ด้วยความชินชาที่เข้ากลืนกินความตื่นเต้นในช่วงแรก
จนเกือบหมดไป จึงจะเริ่มได้ยินกระแสเสียง คล้ายกระซิบกระซาบเบาๆ
เมื่อลองตั้งใจฟังเพื่อหาต้นเสียง จึงได้รู้ว่าเป็นเสียงสนทนาของสิ่งมีชีวิต
ตัวเล็กทั้ง 2 ...ผู้ซึ่งสำราญอยู่กับบรรยากาศอบอุ่นยามเย็น ที่แอบเลี่ยง
หลบมุมมาเพื่อปล่อยวางพักกาย และผ่อนคลายจิตใจ
    ทั้ง 2 สนทนากันอย่างสำเริงสำราญ  โดยมิได้สนใจว่ามีใคร
แอบฟังอยู่..อย่างตั้งใจ 
    “เขาบอกว่า  ท้องฟ้ากับทะเล  เกิดมาเพื่อเป็นคู่กันใช่หรือเปล่า” 
กุ้งถามเปรยๆ 
ปูละสายตาจากเส้นขอบฟ้ามามองกุ้ง  ที่ลอยอยู่ในแอ่งน้ำในโขดหิน 
    “...หือ...???..”  “จริงเหรอ ?”  ปูทำหน้าสงสัยและอยากรู้ 
กุ้งจึงพูดต่อ  “ได้ยินเขาเล่ามาอีกทีนะ ...แต่เค้าว่านะ  ท้องฟ้ากับทะเล
ถ้าเป็นคู่กันจริงๆ  คงจะลำบากนะ  ดูสิ!  มีเส้นขอบฟ้ากั้นอยู่  ทำให้ทั้ง 2
ต้องอยู่กันแบบขนาน  แล้วเมื่อไหร่จะได้บรรจบกันสักทีก็ไม่รู้\" 
ปูหันกลับไปมองท้องฟ้า  เส้นขอบฟ้า  และทะเล 
    \"อืม...มันก็จริงของเธอนะ...แล้วอย่างงี้  ท้องฟ้าจะคู่กับใครหล่ะ\"
    \"เค้าว่าน่าจะคู่กับพระอาทิตย์\"  กุ้งตอบ 
    “ทำไมถึงเป็นพระอาทิตย์หล่ะ”  ปูถามต่อ 
    “เพราะพระอาทิตย์อยู่คู่กับท้องฟ้าตลอดน่ะสิ”  ปูทำหน้าสงสัยและ
พูดต่ออีกว่า 
    \"แต่ตอนกลางคืน  ฉันไม่เคยเห็นพระอาทิตย์เลยนะ\" 
    \"มันก็ใช่...แต่รุ่งเช้าพระอาทิตย์ก็มา  พระอาทิตย์ไม่จากไปไหน 
เขามาตามสัญญาทุกวัน\"  กุ้งพูดพลางมองพระอาทิตย์อย่างปลื้มใจ
(พร้อมกับยกอกสูดลมหายใจเหนือผิวน้ำ) 
ปูยิ้มพลางหันมามองดูตาที่ส่องประกายบริสุทธิ์ของกุ้ง...
    \"แล้วทะเลหล่ะ?\"  ปูอดสงสัยไม่ได้  \"เขาคงต้องเหงาแย่เลยสินะ\"
กุ้งทำหน้าเศร้า...  \"...อือ...\" (ถอนหายใจ)
    ไม่นานนักเมฆก้อนใหญ่อ้วนตุ๊ต๊ะ ค่อยๆหอบตัวมาแต่ไกลก็ผ่านมา
บดบังพระอาทิตย์ทั้งดวง  เหลือแต่สายแสงสีทองที่เล็ดลอดผ่านกลีบเมฆ
กระจายเส้นแสงทั่วทิศ 
    \"อ้าว...ไหงเป็นเงี๊ย!\"  ปูทำหน้าเซ็งและหันมามองกุ้งอย่างสงสัยและ
ไม่สบอารมณ์กับภาพที่เห็น 
กุ้งยิ้มและพูดว่า 
    \"อุปสรรคนิดหน่อย แค่ผ่านมา..เดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว\"
ปูยังไม่สบายใจ 
    \"แล้วพระอาทิตย์ต้องเจออย่างนี้บ่อยมั้ย\"
 
    \"จะว่าไปก็คงเจอทุกวันเลยแหล่ะ  ...แต่ไม่ต้องห่วงหรอก มาแล้วก็ไป\"
กุ้งพูดพลางยิ้มเหมือนรูล่วงหน้ากับสิ่งที่จะเกิดต่อไป
    ...เมฆก้อนใหญ่เริ่มแง้มเปิดทางให้พระอาทิตย์สว่างจ้าอีกครั้ง
(...ปูยิ้มแก้มปริ) 
    กุ้งยิ้มพลางใช้ขาหน้าถูกับหนวดที่ยาวลู่เลยหางไปด้านหลัง
เพื่อทำความสะอาด
    เสียงคลื่นยังคงกระทบฝั่งเช่นเดิม แต่เสียงพูดคุยของทั้งสองกลับดังชัด
กลบเสียงสากซัดของคลื่นทะเล จนไม่ต้องพยายามเอียงหูฟังเหมือนช่วงแรก
 
    โขดหินที่ยื่นลงทะเลปะทะฟองคลื่น  แตกกระเซ็น  สะท้อนแสงอาทิตย์ 
เป็นสีรุ้งสวยงาม  ปูกวาดสายตาเลาะเล็มเก็บภาพบรรยากาศ เท่าที่จะเก็บได้
หากมีกล่องใบใหญ่ๆสักใบที่สามารถเก็บภาพเหล่านี้ไว้เชยชมเมื่อกาลเวลา
ผ่านพ้นไปได้ เขาคงจะเป็นคนแรกที่จะสรรหากล่องนั้นไว้ในครอบครอง
ทันใดนั้นสายตาของปูก็สะดุดกับสีดำประหลาดที่ปลายสุดด้านซ้ายมือ
ของเส้นขอบฟ้า 
    \"นั่นอะไรเหรอ? 
    \"อ๋อ...ภูเขา\"  กุ้งตอบ 
    \"ภูเขาคงอยากช่วยเชื่อมต่อระหว่างท้องฟ้ากับทะเลสินะ...ดูสิ
มันยื่นมือขึ้นมาดึงเอาท้องฟ้าด้วย\"  ปูพูด 
กุ้งพูดขึ้นเบาๆในเชิงขัดนิดๆ ว่า 
    \"คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก  ดูดีๆสิ  ภูเขายิ่งสูงเท่าไหร่ท้องฟ้าก็ยิ่งหนีห่าง
ทะเลมากขึ้น\" 
ปูย่นคิ้วและทำหน้าเศร้า  \"สงสารทะเลเนอะ\" 
    ทะเลสวยกลับกลายเป็นทะเลเหงาไปทันที 
 
          (  (      ( (    (      (            )  )      )    )  )
          (  (        (  (        (                )    )    )          )        )
      (          (      (          (        (        )        )        )    )      )
        (      (              (        (      (        )        )    )    )  )
              (        (          ( (  (    (      )    )      )      )
                / /  /        /          /          /        / ///          //      //  /
      /    / //          //  /        ////          /// //  / //  ////    //  /  / /
        / /  /  / /    //        //// /  / //  //            // / /        ///  /  /
        /  / //  / // /      //        ///        /// /  / / / /  / //        /  /  /
      /  /  //  / /  // // /    /  // /    / /  /    //  / /    /    //  //    /  /  //
--------  --------  ----------  ---------- ---------    --------  ---
        ---  --          ---      --- -      ---- ----  - -- -  -      - -- - - -
                  -- - - -    - -- -  - - - ---      -- - - -- - -  - -
                          - -        - --          ---    --      -- -
                                  -    ---      -  --  -
    ท้องฟ้าเปลี่ยนสีตามม่านแสงของพระอาทิตย์  เมฆดำหอบท้องโย้เริ่มก่อตัว
ลอยต่ำ ไม่นานนักก็เริ่มเทหยดหยาดฝนกรีดรอยรั่วที่ปลายเส้นขอบฟ้า 
    ปูพูดขึ้น  \"ดูนั่น!  ดูนั่น!  ท้องฟ้ากับทะเลเชื่อมต่อกันแล้ว\" 
กุ้งพูดเบาๆแกมเศร้า 
    \"มันเป็นภาพลวงตาเพียงชั่วครู่เท่านั้น  เมฆหมอกแค่กลั่นแกล้งทะเล 
สิ่งที่เห็นไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของท้องฟ้าเลย\" 
...(ปู)  \"เหรอ??...เฮ้อ!\" (ถอนหายใจเฮือกใหญ่)   
    เมฆฝนจางหายไปในไม่ช้า...  เส้นขอบฟ้าสีเข้มชัดเจนแบ่งท้องฟ้า
กับทะเลเช่นเดิม  คลื่นเริ่มสงบ  พระอาทิตย์เคลื่อนตัวต่ำลง  แสงสาดส่อง
เปลี่ยนเป็นสีทองนวลๆ  เมฆก้อนเล็กๆลอยต่อเป็นฝ้าแพยาวรับกับแสงสีทอง 
สะท้อนเป็นสีใหม่แต่งแต้มท้องฟ้าหลากสีสันแล้วแต่เหลี่ยมมุมที่แตกต่างกันไป
    ปูหันข้างเดินลงไปในทะเลและแช่อยู่ในน้ำ เนิ่นนาน นิ่งเงียบจนกุ้งเริ่มเป็นห่วง
    \"...อุ่นดีเน๊อะ...สบายตัวจัง  อย่างน้อยทะเลก็ไม่ได้ไร้เพื่อนเสมอไป 
ดูนั่นสิ!  ทั้งฝูงปลา  ปะการัง  โขดหิน  พูดคุยกับทะเลทั้งวันเลย...\" 
    \"อือ..\"  กุ้งยิ้มกริ่ม รู้สึกเอิบอิ่มใจกับคำพูดเปรยๆอย่างสบายใจของปู 
ปูไต่กลับมาที่เดิม และเขยื้อนตัวลงแช่ในแอ่งอุ่นที่กุ้งลอยตัวอยู่
...กุ้งแบ่งที่ให้ปู   
    \"เธอจะกลับทะเลหรือยัง?\"  ปูถาม
    \"ยังหรอก\"  กุ้งตอบ  \"ต้องรอน้ำขึ้นก่อน  เดี๋ยวพอน้ำขึ้น ท่วมโขดหินนี้
เค้าก็จะว่ายน้ำกลับลงทะเล\" 
    \"งั้นเราจะอยู่เป็นเพื่อนนะ\"  ปูเสนอ 
    \"อือ...\" กุ้งยิ้มและพยักหน้า
    ปูเริ่มคำถามใหม่ 
    \"เมื่อคืนดวงจันทร์สวยมากเกือบจะเต็มดวงแล้ว  วันนี้ก็คงเต็มดวงสุกสว่าง
เหมือนคุกกี้ชุบน้ำผึ้ง...น่ากิน\" 
    \"เหรอ...อยากดูจัง  .....ฉันชอบดวงจันทร์\"  กุ้งบอก 
อยู่ๆ ปูก็นิ่งไปครู่หนึ่ง  เริ่มทำหน้างงและเปรยหัวข้อสนทนาใหม่
    \"พระอาทิตย์หายไปจากท้องฟ้า...ดวงจันทร์ก็แอบเข้ามาแทนที่...
อย่างนี้ท้องฟ้าก็ไม่เคยเหงาเลยสินะ    น่าอิจฉาเนอะ...
แต่...พระอาทิตย์รู้รึเปล่าน้า...ว่าท้องฟ้ามีเพื่อนใหม่\" ปูตั้งคำถาม 
กุ้งมองหาพระจันทร์  แต่ยังไม่เห็น
    \"เธอคิดว่าดวงจันทร์แอบมาจีบท้องฟ้าน่ะเหรอ\" 
    \"เอ่อ??...อือ...\" ปูพยักหน้า 
กุ้งพูดต่อ 
    \"จริงๆแล้วดวงจันทร์เป็นแค่เพียงเพื่อนที่คอยห่วงใยเท่านั้นเอง 
ในตอนกลางคืนท้องฟ้าจะเศร้ามากเลยนะ  ทั้งหนาว  ทั้งมืด 
มองอะไรไม่เห็นเลย  น่ากลัวมาก  ท้องฟ้าก็คงสั่นกลัวและ
เหงาเอาการเลยแหละ  ก็ได้ดวงจันทร์นี่แหละที่แอบมาดูแล...
แต่ก็ไม่ได้มาทุกวันหรอกนะ  บางครั้งดวงจันทร์ก็ต้องทำภารกิจของเขา 
จนต้องปล่อยให้ท้องฟ้าอยู่อย่างเหงาๆ เดียวดายในบางคืน\"
ปูฟังกุ้งเล่าอย่างตั้งใจ กุ้งตั้งข้อสงสัยที่น่าสนใจต่อ
    \"บางครั้งดวงจันทร์ก็มาผิดเวลา  โผล่มาตอนกลางวัน 
แอบส่องแสงจางๆอยู่ไกลๆ  ทั้งๆที่พระอาทิตย์ยังลอยเด่นคู่ท้องฟ้า\" 
    \"ดวงจันทร์เองก็คงเหงา ถึงได้ออกมาหาเพื่อน\"  ปูพูดด้วยน้ำเสียงเห็นใจ
และพูดต่อ 
    \"คืนเหงาของท้องฟ้าก็ไม่ได้เหงาสนิทซะทีเดียวหรอกนะ
เพราะในคืนที่ฟ้าโปร่งก็จะมีสะเก็ดดาวนับล้านห้อมล้อมจับกลุ่มคุยกันเสียงดัง 
บ้างก็ตะโกนข้ามขอบฟ้าทักทายกัน  บ้างก็ลอยผ่านขอบฟ้าลงมา
แช่น้ำทะเลเล่นแล้วกลายเป็นปลาดาวก็มี  แม่ของฉันบอกว่า
ฉันเองก็เกิดมาจากดาวที่หล่นลงทะเล ...บ่อยครั้งที่ฉันมานั่งเฝ้ามอง
ดวงดาวตอนกลางคืน  ว่าเมื่อไหร่จะมีน้องของฉันตามฉันมาสักที  นั่นๆ!!
ฉันชอบดาวดวงนั้นมากเลย มันเด่นสง่า และชอบขึ้นตอนหัวค่ำ
ฉันอยากใหมันตกลงมาและเกิดเป็นน้องชายของฉันจัง\"
ปูยกก้ามชี้ดาวดวงเด่นที่ขึ้นฝั่งตะวันตก 
    “ดวงนี้ชื่อดาวศุกร์”  กุ้งบอก  \"แต่ฉันอยากเรียกมันว่าดาวเพื่อน\" 
    \"ทำไมหล่ะ?\" ปูถาม 
    \"เพราะมันเป็นดาวดวงเดียวที่เป็นเพื่อนกับพระอาทิตย์  ดูสิ...
ทั้งกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวเฉกเช่นพระอาทิตย์..  ไม่ค่อยเจอดาวดวงไหน
ที่จะโผล่มาทักทายพระอาทิตย์ตอนกลางวันในตอนที่พระอาทิตย์
ทำงานอยู่นักหรอก พระอาทิตย์จึงไม่ค่อยมีเพื่อนบนฟ้าเลย จะมีก็แต่
เมฆที่คอยมาบดบังกลั่นแกล้ง\"  ปูนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลางมอง
พระอาทิตย์ดวงโตด้วยความรู้สึกสงสาร
    ปูเริ่มเปรยข้อสงสัยใหม่
    \"เมื่อวานฉันเห็นดวงจันทร์อีกดวงลอยอยู่ในน้ำทะเลด้วยแหละ 
แต่ไม่ยักจะเห็นพระอาทิตย์ในน้ำทะเลเลย  จะมีบ้างก็แค่แสงระยิบระยับ
ของดวงอาทิตย์ที่สะท้อนระลอกคลื่นเท่านั้นเอง...ทำไมน้า.?!?!?..
ฉันไม่เข้าใจเอาซะเลย...เฮ้อ!(ปูถอนหายใจ)...\"
กุ้งยิ้มและมองหน้าปูที่กำลังแสดงสีหน้างุนงง  แล้วพูดขึ้นว่า 
    \"ฉันพอจะรู้ความหมายของมันอยู่บ้าง  เธออยากรู้มั้ยล่ะ\"
ปูทำตาลุกวาวแสดงอาการสนใจ  และพยักหน้า  \"อือ...\"
กุ้งจึงเฉลยคำตอบให้ปูฟังว่า 
    \"เปรียบได้เหมือนว่าท้องฟ้ามองดวงจันทร์เป็นเพื่อน 
รู้และเข้าใจถึงการกระทำของเพื่อนทุกอย่าง  ทั้งในด้านดี(คือ
มองเห็นบนท้องฟ้า)และด้านไม่ดี(คือเงาสะท้อนบนน้ำทะเล) 
แต่ในตอนแรกท้องฟ้ามองพระอาทิตย์เป็นคนรักที่ไม่ว่าจะทำอะไร
ก็ถูกเสมอ (ความรักทำให้คนตาบอดน่ะ) และเมื่อคบกันนานขึ้น
ก็จะพบกับข้อเสียของพระอาทิตย์เป็นเงาสะท้อนลงบนน้ำทะเล
ในยามเย็นยังไงล่ะ...\"
      ท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ....  กุ้งและปูแช่อยู่ในแอ่งน้ำอุ่นๆ
จากการถ่ายเทความร้อนของโขดหิน  ปูเหยียดแข้งเหยียดขา
ยืดกล้ามไปด้านหน้าสุดเหยียดแล้วจึงหดขาและพับก้ามผ่อนคลาย 
กุ้งว่ายน้ำเข้ามาเกาะพักกับตัวปู  ทั้งคู่มองหน้ากันครู่หนึ่งและยิ้มให้กัน 
จากนั้นปูก็มองไปที่เส้นขอบฟ้า  กุ้งขยับเกาะปูแน่นแล้วมองไปที่
จุดเดียวกัน 
                            (  )            (  )              \\    i i   
                              \\    o  o    /                  \\\\  i  i 
                      /----  o oolooloo o  ----\\        (o)    i       
                    /----  o                  o  ----\\          Ll    i       
                      /----  o ooooooo o ----\\          Ll    ii       
                            /                      \\                }{    i i     
                                                                          i  i     
                                                                        i  i     
                                                                      i    i
                                                          (พยายามแล้วนะ)
    ทั้งคู่นิ่งอยู่อย่างนั้นนานมาก  รอยยิ้มแต่งเติมเต็มบนใบหน้า 
สายตาที่บ่งบอกถึงความสุข  ความสบายใจ...ไร้คำพูด  ปราศจากการ
ขยับเขยื้อน  ทุกอย่างนิ่ง...เงียบ  แต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกอบอุ่น
น้ำทะเลเริ่มสาดคลื่น  กระจายฟองสูงขึ้นเรื่อยๆจนถึงขอบโขดหิน
ที่ทั้งคู่อยู่  ไม่นานนักน้ำทะเลก็คงท่วมถึงแอ่งเล็กๆแห่งนี้ 
ทั้งคู่รู้ว่า  พรุ่งนี้อาจไม่มีช่วงเวลาแห่งมิตรภาพเช่นนี้ 
    ไม่บ่อยนักหรอกที่ข้าพเจ้าจะได้พบเห็นทั้งคู่ในที่แห่งนี้ 
เท่าที่จำได้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ข้าพเจ้าได้ผ่านมาเจอกุ้งกับปู
ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งครั้งแรกก็โน่น...นานมากเกือบปีได้แล้วมั้ง...
ครั้งนั้นข้าพเจ้าไม่ได้ใส่ใจที่จะฟังเสียงสนทนาเล็กๆ ที่ดังก้องทะเล
สร้างความอบอุ่นซาบซึ้งใจให้ผู้ที่ได้ฟังให้แอบอิจฉาได้อย่างนี้ 
    อนาคต  ปูก็คงทำหน้าที่ของปู  ...กุ้งก็เช่นกัน 
ในรอยยิ้มของทั้งคู่ข้าพเจ้าแอบเห็นความเศร้าเล็กๆที่กลั่นออกมา
จากหัวใจของกุ้ง  ...ข้าพเจ้าแอบได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ
ที่แฝงไว้ด้วยความอาลัยของปู  ข้าพเจ้าเล่าได้ไม่หมดหรอกนะ
ปูและกุ้งเขาคุยกันมากมายหลายเรื่อง  บางครั้งก็มีเสียงหัวเราะ หึๆๆๆ
หรือแม้แต่ ก๊ากๆ  เต็มอั้น บางครั้งก็เลียนเสียงนกร้อง ทำเสียงแข่ง
กับเสียงคลื่นกระทบฝั่ง พูดคุยจิปาถะ 
    มันเป็นการสนทนาที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นไอแห่งมิตรภาพที่บริสุทธิ์ 
น่ารัก  น่าอิจฉา  สิ่งที่หยิบยกมาเป็นแค่หัวข้อสนทนา  ทั้งพระอาทิตย์
ดวงจันทร์  ท้องฟ้า  และทะเล  มันไกลตัวมาก...มากจริงๆ 
แต่เพียงแค่ยื้อเวลาให้ยาวขึ้น...แค่ยื้อเวลา......ให้ยาวนานขึ้น.......
เพื่อที่จะได้เก็บเกี่ยวช่อรวงความสุขจากต้นความทรงจำ..ให้ได้มากที่สุด
...เท่าที่จะทำได้...........แค่นั้นจริงๆ  ...............
...(แล้วสายลมก็พัดผ่านไป)...
                                                                     
                                                           
                                                  .........บันทึกจากสายลม
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น