The witch ตำนานแม่มดลวงตา! - นิยาย The witch ตำนานแม่มดลวงตา! : Dek-D.com - Writer
×

    The witch ตำนานแม่มดลวงตา!

    โดย Labyss

    วันเวลาผ่านมาเกือบสองพันปี แม่มดที่นั่ง"บำเพ็ญตบะ"แบบที่ไม่มีแม่มดตนใดทำ ได้ตื่นขึ้นจากนิทรา(?) และได้รู้ว่า"โลก"มันเปลี่ยนไปแล้ว!!

    ผู้เข้าชมรวม

    1,097

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    1.09K

    ความคิดเห็น


    556

    คนติดตาม


    889
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  17 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  20 ม.ค. 58 / 08:22 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์เจ้าของบทความแต่เพียงผู้เดียว 
    ห้ามลอกเลียนแบบ!!


    คำเตือน : นิยายเรื่องนี้จับฉ่าย(?)กว่าที่ท่านคิด

    ___________
    สงสัยท่านคงต้องฝึกเดินใหม่ ร่างกายท่านไม่ได้ขยับยาวนานเกือบสองพันปี ไม่แปลกที่จะขยับไม่ค่อยได้ แก่แล้วก็เงี้

    ___________

    นี่ เจ้าหนู ข้าไม่รู้หรอกนะว่าพวกเจ้ามาทำอะไรตรงนี้ แต่เลิกทำท่ากลัวข้าสักที ก่อนที่ข้าจะอารมณ์เสียแล้วจับพวกเจ้าต้มกิน!”
    ___________
    "เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับแม่มดไหม?"
    ...ผู้ที่มอบวิญญาณให้ซาตาน ศึกษาศาสตร์มืด...
    ว่ากันว่าทุกอย่างเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนั้น
    ตอนที่เริ่ม...การกวาดล้างแม่มด
    ___________


    ตอนนี้รีไรท์ถึงตอนล่าสุดก่อนเริ่มรีไรท์แล้วนะคะ เนื้อหาบางส่วนเปลี่ยนแต่หลักๆยังคงเดิมค่ะ 
     

     

    1/1/58 แก้คำว่าภูติ>ภูต นะคะ ขออภัยค่ะ เพิ่งสังเกตว่าเผลอเติมสระอิลงไป 





     



     

     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "กาฝาก รับวิจารณ์นิยายแฟนตาซี"

    (แจ้งลบ)

    The witch ตำนานแม่มดลวงตา! ผู้เขียน Abyss เป็นชื่อเรื่องที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร จับทิศทางพล็อตไม่ถูก แต่รู้ว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ “แม่มด” แน่นอน ซึ่งหลังจากที่น้องอ่านมาหลายบท จึงรู้ว่าตำนานนี้ลวงตาผู้อ่านจริงๆ นะจ๊ะ ไม่เชื่อก็ลองดู แนวคิด ผู้เขียนบอกตั้งแต่ต้นเลยว่า “เรื่องนี้จับฉ่ายกว่าที่ท่านคิด” ซึ่งน้องเข ... อ่านเพิ่มเติม

    The witch ตำนานแม่มดลวงตา! ผู้เขียน Abyss เป็นชื่อเรื่องที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร จับทิศทางพล็อตไม่ถูก แต่รู้ว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ “แม่มด” แน่นอน ซึ่งหลังจากที่น้องอ่านมาหลายบท จึงรู้ว่าตำนานนี้ลวงตาผู้อ่านจริงๆ นะจ๊ะ ไม่เชื่อก็ลองดู แนวคิด ผู้เขียนบอกตั้งแต่ต้นเลยว่า “เรื่องนี้จับฉ่ายกว่าที่ท่านคิด” ซึ่งน้องเข้าใจว่าในความหมายของผู้เขียนคือนิยายเรื่องนี้เป็นการผสมผสานหลายอย่าง ทั้งแฟนตาซี แม่มด ภูติ เอลฟ์ คนแคระ ทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ซึ่งแบ่งแยกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน นับว่าเป็นแนวคิดที่ดีนะจ๊ะ โครงเรื่อง ในเมื่อแนวคิดมันเป็นการจับยำรวมกันหลายอย่าง โครงเรื่องจึงต้องเป็นการแบ่งแยกระหว่างโลกของเวทมนต์ซึ่งก็คือป่าที่มีพวกแม่มด ภูติ เอลฟ์ คนแคระ นานาชาติพันธุ์อาศัยอยู่ กับโลกของเทคโนโลยีจะเป็นอาณาเขตหรือเมืองของมนุษย์แทน โดยแม่มดซีลียา ผู้ซึ่งตื่นขึ้นจากการเข้าฌานมาหลายพันปี เธอสำรวจป่าไปเรื่อยจนกระทั่งหลุดเข้าไปในเมืองมนุษย์ซึ่งแตกต่างจากโลกที่เธอคุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง โดยรวมแล้วเป็นโครงเรื่องที่ดีนะจ๊ะ แต่ยังขาดความแยบยลอยู่ นั่นคือปมหรือแรงจูงใจที่ทำให้ซีลียาอยากสำรวจป่า หรืออยากเข้าไปในเมืองมนุษย์ เหตุผลมันยังดูอ่อนๆ อยู่จ้า ดำเนินเรื่อง เปิดเรื่องคล้ายกับการเล่านิทาน แล้วชักนำสู่เรื่องราวของแม่มดซีลียา อย่างที่น้องบอกไปในประเด็นโครงเรื่องเลย คือวางโครงดีแล้ว ดำเนินเรื่องก็โอเค แต่ยังขาดปมขัดแย้ง ซึ่งสำคัญมาก มันทำให้เรื่องดูมีสีสันขึ้นเยอะ ปมขัดแย้งที่ทำให้ตัวละครกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทำให้เรื่องดูสมเหตุสมผล ซึ่งเรื่องนี้ขาดจุดสำคัญตรงนี้ไป จะเห็นได้ว่าผู้เขียนปล่อยให้ซีลียาทำอะไรตามอำเภอใจ อยากสำรวจป่าก็ไป อยากจะเข้าเมืองมนุษย์ก็เข้า ทั้งที่ตัวเองก็ไม่คุ้นเคยแท้ๆ ไม่มีปูมหลังของซีลียาปรากฏ ว่าทำไมเธอจึงต้องบำเพ็ญตบะเป็นพันๆ ปีขนาดนั้น มีเหตุผลอะไร? และข้อสังเกตอีกข้อคือแม่มดซีลียาหลับใหลไปพันกว่าปีก็จริง แต่ทำไมเวอัสถึงแอบแซวว่าซีลียาแก่? เพราะเท่าที่อ่านดู เวอัส ซีริส แคริส เหมือนเป็นผู้รับใช้ที่ดูแลแม่มดซีลียามานาน ตั้งแต่ก่อนแม่มดซีลียาจะหลับใหลเสียด้วยซ้ำ ฉะนั้นมันต้องแก่พอๆ กันสิ? เพราะอยู่มาเป็นพันๆ ปีเหมือนกัน หรือเปล่า? ยังไงเดี๋ยวน้องจะรอผู้เขียนมาให้คำตอบทีหลังนะจ๊ะ ตัวละคร ซีลียา ตัวเอกดำเนินเรื่อง แม่มดผู้หลับใหลมานาน เวอัส ผู้รับใช้จอมขรึมของซีลียา ซีริส และ แคริส พี่น้องผู้รับใช้จอมจุ้นของซีลียา ลาดอน ผู้รับใช้หนุ่มของซีลียาอีกคน ไอเวส ผู้ชายจอมหยิ่งเอาแต่ใจ ในภาพรวมแล้ว ตัวละครในเรื่องนี้ยังค่อนข้างมีบุคลิกนิสัยไม่แน่นอนอยู่ สังเกตจากซีลียา ตัวเอกของเรื่อง ผู้เขียนบอกว่าซีลียามีอายุ 20 ปี (ก่อนที่จะเข้าฌานไปอีกพันปี) แสดงว่าวุฒิภาวะทางความคิดของซีลียาควรเป็นหญิงสาวที่โตพอสมควร แต่จากการกระทำที่น้องเห็น ซีลียายังเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต อารมณ์แปรปรวนง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ยังชอบคิดชอบทำอะไรเหมือนเด็กๆ อยู่เลย บทสนทนา น้องขอชื่นชมตรงที่ผู้เขียนรู้จักเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับตัวละคร “ข้า เจ้า ท่าน” พอไปเจอโลกสมัยใหม่จะก็มี “ฉัน เธอ นาย” คำศัพท์ตามสมัยของแต่ละท้องถิ่น แต่ตินิดหนึ่งตรงการจัดวางบทสนทนากับบทบรรยาย เพราะเวลาผู้เขียนใส่คำพูดตัวละครเสร็จ ก็ต่อท้ายด้วยการบรรยายเรื่องต่อเลย มักไม่บอกว่าใครพูด ซึ่งทำให้ผู้อ่านอาจงงได้ว่าประโยคนี้ใครพูด เช่น สมมติประโยคนี้ “แคสสส” แคริสยิ้มหวานให้แล้วตามหลังน้องสาวไปอย่างรวดเร็วฯ ถามว่าประโยคนี้ใครพูด? คนอ่านอาจเข้าใจได้ว่าแคริสพูดเพราะเห็นชื่อมันตามหลังมา แต่ความจริงแล้วประโยคนี้คือซีลียาต่างหากที่พูด แต่ผู้เขียนไม่ได้บอกไว้ กลับบรรยายเรื่องต่อเองไปเลย ให้ผู้อ่านต้องมาทำความเข้าใจเองทีหลังคนเดียว “...เพียงแต่ต้องทำการขอเจ้าป่าเสียก่อน” ตรงคำว่า “ทำการ” ควรตัดออกนะจ๊ะ ถึงผู้เขียนจะเห็นว่าตามสื่อโทรทัศน์ก็ใช้คำว่า “ทำการ” กันเยอะแยะ แต่น้องขอบอกมันคือคำฟุ่มเฟือยจ๊ะ ตามหลักการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องแล้ว ไม่ควรมีคำว่า “ทำการ” ฉากและบรรยากาศ การพร่ำพรรณนาฉากและบรรยากาศไม่ค่อยมีเท่าไหร่สำหรับเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ผู้เขียนจะบรรยายฉากอย่างง่ายๆ เน้นรวดเร็วทันใจเสียมากกว่า ประมาณให้รู้ว่าตอนนี้ตัวละครอยู่ในป่านะ อยู่ในถ้ำนะ มาถึงเมืองมนุษย์แล้ว แต่เมืองมนุษย์ดีกว่าเยอะเพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรา พวกเทคโนโลยี ตึกราบ้านช่อง ทำให้ผู้เขียนสามารถพรรณนาฉากเมืองมนุษย์ได้อย่างเห็นภาพชัดเจนกว่า ภาษา การใช้ภาษาในการบรรยายของเรื่องนี้ อย่างที่น้องเคยเจอในเรื่องอื่นที่เคยวิจารณ์เลย นั่นคือใช้ภาษาพูดในการบรรยาย ซึ่งถามว่าทำได้ไหม? มันก็ทำได้ หากแต่ความสละสลวยมันจะน้อยลง เช่น “เดินมาได้เกือบสิบกิโล” จะเห็นว่า “กิโล” ตรงนี้เป็นคำย่อจาก “กิโลเมตร” ซึ่งเป็นภาษาพูด ควรเขียนเต็มไปเลยนะจ๊ะ แค่เขียนกิโลเมตรเต็มๆ ก็เป็นภาษาเขียนแล้วจ๊ะ แต่ถ้าผู้เขียนรู้สึกแปลกๆ เมื่อเขียนเต็ม จนอยากหลีกเลี่ยงคำพวกนี้ ก็แค่เปลี่ยนประโยคใหม่ อาจพูดถึงช่วงเวลาแทน เช่น “หลังจากเดินเล่นในป่าไปหลายชั่วโมง” แค่นี้ก็หลีกเลี่ยงคำว่ากิโลเมตรไปได้แล้วจ้า อีกจุดหนึ่งที่น้องเจอบ่อยในนิยายหลายๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องนี้ นั่นคือการใส่ความคิดผู้เขียนลงไปในการบรรยาย มันดูออกนะจ๊ะ ผู้เขียนลองย้อนกลับไปดูประโยคที่บรรยายต่อท้ายคำพูดของตัวละคร บางส่วนอ่านดูมันจะคล้ายๆ แซวตัวละครที่ตัวละครพูดออกไปแบบนั้น ซึ่งจุดนี้ควรแก้ไขนะจ๊ะ พยายามไม่ใส่ความคิดของผู้เขียนลงไป ควรใช้ภาษาบรรยายแบบเป็นกลางให้มากที่สุดเข้าไว้ ถ้าอยากจะแทรกจริงๆ ก็ต้องแทรกให้แนบเนียน แต่ไม่ใช่แทรกด้วยการยัดเยียดความคิดใส่ตัวละครให้มันคิดแบบนั้นนะจ๊ะ สรุป โดยรวมแล้วเรื่องนี้แนวคิดและโครงเรื่องดี การดำเนินเรื่องยังขาดปมขัดแย้งหรือแรงจูงใจให้ตัวละครกระทำสิ่งนั้นๆ อยู่ ตัวละครยังไม่เห็นเอกลักษณ์ที่แน่นอนในหลายๆ ตัว การจัดวางบทสนทนากับบรรยายยังสับสน ทำให้งงได้ง่ายอยู่ ฉากและบรรยากาศถ้าเป็นตัวเมืองผู้เขียนจะพรรณนาได้ดีกว่าฉากในป่า ภาษาควรใช้ภาษาเขียนในการบรรยาย และลดการใส่ความคิดของผู้เขียนลงไปนะจ๊ะ   อ่านน้อยลง

    กาฝาก | 20 ก.พ. 56

    • 15

    • 7

    คำนิยมล่าสุด

    "กาฝาก รับวิจารณ์นิยายแฟนตาซี"

    (แจ้งลบ)

    The witch ตำนานแม่มดลวงตา! ผู้เขียน Abyss เป็นชื่อเรื่องที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร จับทิศทางพล็อตไม่ถูก แต่รู้ว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ “แม่มด” แน่นอน ซึ่งหลังจากที่น้องอ่านมาหลายบท จึงรู้ว่าตำนานนี้ลวงตาผู้อ่านจริงๆ นะจ๊ะ ไม่เชื่อก็ลองดู แนวคิด ผู้เขียนบอกตั้งแต่ต้นเลยว่า “เรื่องนี้จับฉ่ายกว่าที่ท่านคิด” ซึ่งน้องเข ... อ่านเพิ่มเติม

    The witch ตำนานแม่มดลวงตา! ผู้เขียน Abyss เป็นชื่อเรื่องที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร จับทิศทางพล็อตไม่ถูก แต่รู้ว่าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ “แม่มด” แน่นอน ซึ่งหลังจากที่น้องอ่านมาหลายบท จึงรู้ว่าตำนานนี้ลวงตาผู้อ่านจริงๆ นะจ๊ะ ไม่เชื่อก็ลองดู แนวคิด ผู้เขียนบอกตั้งแต่ต้นเลยว่า “เรื่องนี้จับฉ่ายกว่าที่ท่านคิด” ซึ่งน้องเข้าใจว่าในความหมายของผู้เขียนคือนิยายเรื่องนี้เป็นการผสมผสานหลายอย่าง ทั้งแฟนตาซี แม่มด ภูติ เอลฟ์ คนแคระ ทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ซึ่งแบ่งแยกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน นับว่าเป็นแนวคิดที่ดีนะจ๊ะ โครงเรื่อง ในเมื่อแนวคิดมันเป็นการจับยำรวมกันหลายอย่าง โครงเรื่องจึงต้องเป็นการแบ่งแยกระหว่างโลกของเวทมนต์ซึ่งก็คือป่าที่มีพวกแม่มด ภูติ เอลฟ์ คนแคระ นานาชาติพันธุ์อาศัยอยู่ กับโลกของเทคโนโลยีจะเป็นอาณาเขตหรือเมืองของมนุษย์แทน โดยแม่มดซีลียา ผู้ซึ่งตื่นขึ้นจากการเข้าฌานมาหลายพันปี เธอสำรวจป่าไปเรื่อยจนกระทั่งหลุดเข้าไปในเมืองมนุษย์ซึ่งแตกต่างจากโลกที่เธอคุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง โดยรวมแล้วเป็นโครงเรื่องที่ดีนะจ๊ะ แต่ยังขาดความแยบยลอยู่ นั่นคือปมหรือแรงจูงใจที่ทำให้ซีลียาอยากสำรวจป่า หรืออยากเข้าไปในเมืองมนุษย์ เหตุผลมันยังดูอ่อนๆ อยู่จ้า ดำเนินเรื่อง เปิดเรื่องคล้ายกับการเล่านิทาน แล้วชักนำสู่เรื่องราวของแม่มดซีลียา อย่างที่น้องบอกไปในประเด็นโครงเรื่องเลย คือวางโครงดีแล้ว ดำเนินเรื่องก็โอเค แต่ยังขาดปมขัดแย้ง ซึ่งสำคัญมาก มันทำให้เรื่องดูมีสีสันขึ้นเยอะ ปมขัดแย้งที่ทำให้ตัวละครกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทำให้เรื่องดูสมเหตุสมผล ซึ่งเรื่องนี้ขาดจุดสำคัญตรงนี้ไป จะเห็นได้ว่าผู้เขียนปล่อยให้ซีลียาทำอะไรตามอำเภอใจ อยากสำรวจป่าก็ไป อยากจะเข้าเมืองมนุษย์ก็เข้า ทั้งที่ตัวเองก็ไม่คุ้นเคยแท้ๆ ไม่มีปูมหลังของซีลียาปรากฏ ว่าทำไมเธอจึงต้องบำเพ็ญตบะเป็นพันๆ ปีขนาดนั้น มีเหตุผลอะไร? และข้อสังเกตอีกข้อคือแม่มดซีลียาหลับใหลไปพันกว่าปีก็จริง แต่ทำไมเวอัสถึงแอบแซวว่าซีลียาแก่? เพราะเท่าที่อ่านดู เวอัส ซีริส แคริส เหมือนเป็นผู้รับใช้ที่ดูแลแม่มดซีลียามานาน ตั้งแต่ก่อนแม่มดซีลียาจะหลับใหลเสียด้วยซ้ำ ฉะนั้นมันต้องแก่พอๆ กันสิ? เพราะอยู่มาเป็นพันๆ ปีเหมือนกัน หรือเปล่า? ยังไงเดี๋ยวน้องจะรอผู้เขียนมาให้คำตอบทีหลังนะจ๊ะ ตัวละคร ซีลียา ตัวเอกดำเนินเรื่อง แม่มดผู้หลับใหลมานาน เวอัส ผู้รับใช้จอมขรึมของซีลียา ซีริส และ แคริส พี่น้องผู้รับใช้จอมจุ้นของซีลียา ลาดอน ผู้รับใช้หนุ่มของซีลียาอีกคน ไอเวส ผู้ชายจอมหยิ่งเอาแต่ใจ ในภาพรวมแล้ว ตัวละครในเรื่องนี้ยังค่อนข้างมีบุคลิกนิสัยไม่แน่นอนอยู่ สังเกตจากซีลียา ตัวเอกของเรื่อง ผู้เขียนบอกว่าซีลียามีอายุ 20 ปี (ก่อนที่จะเข้าฌานไปอีกพันปี) แสดงว่าวุฒิภาวะทางความคิดของซีลียาควรเป็นหญิงสาวที่โตพอสมควร แต่จากการกระทำที่น้องเห็น ซีลียายังเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต อารมณ์แปรปรวนง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ยังชอบคิดชอบทำอะไรเหมือนเด็กๆ อยู่เลย บทสนทนา น้องขอชื่นชมตรงที่ผู้เขียนรู้จักเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับตัวละคร “ข้า เจ้า ท่าน” พอไปเจอโลกสมัยใหม่จะก็มี “ฉัน เธอ นาย” คำศัพท์ตามสมัยของแต่ละท้องถิ่น แต่ตินิดหนึ่งตรงการจัดวางบทสนทนากับบทบรรยาย เพราะเวลาผู้เขียนใส่คำพูดตัวละครเสร็จ ก็ต่อท้ายด้วยการบรรยายเรื่องต่อเลย มักไม่บอกว่าใครพูด ซึ่งทำให้ผู้อ่านอาจงงได้ว่าประโยคนี้ใครพูด เช่น สมมติประโยคนี้ “แคสสส” แคริสยิ้มหวานให้แล้วตามหลังน้องสาวไปอย่างรวดเร็วฯ ถามว่าประโยคนี้ใครพูด? คนอ่านอาจเข้าใจได้ว่าแคริสพูดเพราะเห็นชื่อมันตามหลังมา แต่ความจริงแล้วประโยคนี้คือซีลียาต่างหากที่พูด แต่ผู้เขียนไม่ได้บอกไว้ กลับบรรยายเรื่องต่อเองไปเลย ให้ผู้อ่านต้องมาทำความเข้าใจเองทีหลังคนเดียว “...เพียงแต่ต้องทำการขอเจ้าป่าเสียก่อน” ตรงคำว่า “ทำการ” ควรตัดออกนะจ๊ะ ถึงผู้เขียนจะเห็นว่าตามสื่อโทรทัศน์ก็ใช้คำว่า “ทำการ” กันเยอะแยะ แต่น้องขอบอกมันคือคำฟุ่มเฟือยจ๊ะ ตามหลักการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องแล้ว ไม่ควรมีคำว่า “ทำการ” ฉากและบรรยากาศ การพร่ำพรรณนาฉากและบรรยากาศไม่ค่อยมีเท่าไหร่สำหรับเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ผู้เขียนจะบรรยายฉากอย่างง่ายๆ เน้นรวดเร็วทันใจเสียมากกว่า ประมาณให้รู้ว่าตอนนี้ตัวละครอยู่ในป่านะ อยู่ในถ้ำนะ มาถึงเมืองมนุษย์แล้ว แต่เมืองมนุษย์ดีกว่าเยอะเพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรา พวกเทคโนโลยี ตึกราบ้านช่อง ทำให้ผู้เขียนสามารถพรรณนาฉากเมืองมนุษย์ได้อย่างเห็นภาพชัดเจนกว่า ภาษา การใช้ภาษาในการบรรยายของเรื่องนี้ อย่างที่น้องเคยเจอในเรื่องอื่นที่เคยวิจารณ์เลย นั่นคือใช้ภาษาพูดในการบรรยาย ซึ่งถามว่าทำได้ไหม? มันก็ทำได้ หากแต่ความสละสลวยมันจะน้อยลง เช่น “เดินมาได้เกือบสิบกิโล” จะเห็นว่า “กิโล” ตรงนี้เป็นคำย่อจาก “กิโลเมตร” ซึ่งเป็นภาษาพูด ควรเขียนเต็มไปเลยนะจ๊ะ แค่เขียนกิโลเมตรเต็มๆ ก็เป็นภาษาเขียนแล้วจ๊ะ แต่ถ้าผู้เขียนรู้สึกแปลกๆ เมื่อเขียนเต็ม จนอยากหลีกเลี่ยงคำพวกนี้ ก็แค่เปลี่ยนประโยคใหม่ อาจพูดถึงช่วงเวลาแทน เช่น “หลังจากเดินเล่นในป่าไปหลายชั่วโมง” แค่นี้ก็หลีกเลี่ยงคำว่ากิโลเมตรไปได้แล้วจ้า อีกจุดหนึ่งที่น้องเจอบ่อยในนิยายหลายๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องนี้ นั่นคือการใส่ความคิดผู้เขียนลงไปในการบรรยาย มันดูออกนะจ๊ะ ผู้เขียนลองย้อนกลับไปดูประโยคที่บรรยายต่อท้ายคำพูดของตัวละคร บางส่วนอ่านดูมันจะคล้ายๆ แซวตัวละครที่ตัวละครพูดออกไปแบบนั้น ซึ่งจุดนี้ควรแก้ไขนะจ๊ะ พยายามไม่ใส่ความคิดของผู้เขียนลงไป ควรใช้ภาษาบรรยายแบบเป็นกลางให้มากที่สุดเข้าไว้ ถ้าอยากจะแทรกจริงๆ ก็ต้องแทรกให้แนบเนียน แต่ไม่ใช่แทรกด้วยการยัดเยียดความคิดใส่ตัวละครให้มันคิดแบบนั้นนะจ๊ะ สรุป โดยรวมแล้วเรื่องนี้แนวคิดและโครงเรื่องดี การดำเนินเรื่องยังขาดปมขัดแย้งหรือแรงจูงใจให้ตัวละครกระทำสิ่งนั้นๆ อยู่ ตัวละครยังไม่เห็นเอกลักษณ์ที่แน่นอนในหลายๆ ตัว การจัดวางบทสนทนากับบรรยายยังสับสน ทำให้งงได้ง่ายอยู่ ฉากและบรรยากาศถ้าเป็นตัวเมืองผู้เขียนจะพรรณนาได้ดีกว่าฉากในป่า ภาษาควรใช้ภาษาเขียนในการบรรยาย และลดการใส่ความคิดของผู้เขียนลงไปนะจ๊ะ   อ่านน้อยลง

    กาฝาก | 20 ก.พ. 56

    • 15

    • 7

    ความคิดเห็น