ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Page 4 : Petition
มีใครเคยบอกไหมว่าช่วงระหว่างความเป็นกับความตาย
เราจะสามารถเห็นวิญญาณได้
ถึงแม้จะเป็นแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม
(เสียงจากปราณต์)
สายลมหนาวพัดผ่านผ้าม่านที่ปลิวไหวพร้อมกับสายฝนที่ตกกระทบลงมายังพื้นเบื้องล่างจนทำให้ผมสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาปิดหน้าต่างพร้อมกับร่างโปร่งใสของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งเขียนอะไรสักอย่างบนโต๊ะของผม
พี่คนนั้นเขาชื่อรพีนะครับ
"ฝนตกก็ไม่บอกกันเลยนะ"ถ้าเกิดผมความรู้สึกช้าเตียงก็คงเปียกไปแล้วแหละ เขาสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับทำท่าทีลนลาน "พี่ขอโทษ พี่แค่เขียนเพลินไปหน่อย"ชายหนุ่มตรงหน้ารีบขอโทษขอโพยพร้อมกับผมที่โบกมือว่าอย่าไปคิดอะไรมากพร้อมกับเดินกลับไปนอนต่อ
นานๆทีจะไม่ได้ออกไปเล่นดนตรีก็อยากจะหลับให้เต็มอิ่มหน่อย
เพล้ง!
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ยังงั้น
"พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจทำให้ปราณต์ตื่น"
ขนาดตายแล้วยังซุ่มซ่ามขนาดนี้ คิดไม่ออกเลยว่าถ้าหากคุณยังอยู่แล้วจะซุ่มซ่ามขนาดไหน
สเปคพี่เมลคือผู้ชายซุ่มซ่ามเหรอผมจะได้ทำมั่ง
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเก็บเองครับ"แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอกพูดเสร็จก็พลิกตัวแต่จะให้ทำยังไงมันก็ไม่หลับซะที
เฮ้อ! ลุกขึ้นมาแกะเพลงดีกว่าถ้าจะนอนไม่หลับขนาดนี้
"คุณจะยืมร่างผมไปส่งจดหมายเหรอ"ผมพูดขณะตัวเองพึ่งออกมาจากห้องน้ำเมื่อทำกิจวัตรส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย บนโต๊ะของผมที่เต็มไปด้วยกระดาษจำนวนมากและก็พี่รพีที่นั่งจ้องหน้าไม่พูดไม่จาอะไร
"ไม่ใช่หรอกครับ ยืมร่างนะไม่ใช่ยืมเงินที่จะมายืมกันง่ายๆขนาดนี้"
อา...นี่ผมโดนพี่เขาดุอยู่ใช่ไหม
"งั้นฝากนี่ให้เมลหน่อยสิ พี่จะพูดแบบนี้กับผมใช่ไหม"ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่กระดาษพร้อมกับจะหยิบแต่เขาก็ลอยมาขวางหน้าผม
ย้ำว่าลอย ไม่มีทางที่เขาจะเดินมาด้วยความไวแสงขนาดนี้เหรอ
"ไม่ใช่ซะหน่อย พี่ไม่ได้จะส่งอะไรทั้งนั้นแหละ"จ้า คนปากแข็งไม่ใช่สิผีปากแข็ง นอกจากจะซุ่มซ่ามแล้วยังปากแข็งที่หนึ่งอีก
"ถ้าไม่ผมจะไปแกะเพลงแล้วนะ"ผมพูดพร้อมกับหยิบกีตาร์ขึ้นมาหมายจะแกะเพลงตามที่ปากบอกแต่เขาก็ลอยมาขวางเอาไว้ "จริงๆพี่ก็อยากเอาจดหมายให้เมลนะ"เขาพูดเชื่องช้าพร้อมกับฝ่ามือที่กุมเข้าหากัน "แต่พี่กลัวทำให้เมลระแวงอีก"
"..."
"พี่ไม่อยากเห็นเมลเป็นแบบนั้น พี่ไม่อยากเห็นเมลร้องไห้"พี่รพีพูดด้วยน้ำเสียงสั่นไหวจนผมได้แต่กะพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ตามคนตรงหน้า
พี่เขาคงหมายถึงตอนอยู่ทะเลสินะ...
ผมจำได้ตอนนั้นพี่รพีรบเร้าเอาเป็นเอาตายว่าจะให้ผมไปทะเลเพราะเขารู้สึกไม่ค่อยดีแถมยังทึกทักว่าเป็นวิญญาณย่อมมีลางสังหรณ์อะไรทำนองนี้อยู่แล้วและก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
ตอนสามทุ่มของเช้าวันจันทร์ในขณะที่ผมกำลังเข้านอนหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวันอยู่ๆเขาก็วิ่งเข้าร่างพร้อมกับคำขอโทษที่ลอยมาตามสายลม
'พี่ขอโทษนะปราณต์'
วิญญาณของเขาในร่างของผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตมาที่ทะเลประจวบเหมาะกับร่างของพี่สเมลที่หายไปใต้ผืนน้ำ ผมตกใจมากในขณะที่พี่รพีกระโดดลงน้ำไปช่วยพี่เมลขึ้นมา
ผมถึงได้รู้ว่าทำไมคนใจเย็นทำอะไรงุ่มง่ามแบบเขาถึงได้เข้ามาสิงผมด้วยท่าทีรีบร้อนแบบนั้น
และเขาเองก็รู้เช่นกันว่าถ้าไม่ทำแบบนั้นผมคงช่วยอะไรไม่ได้มาก
เพราะผมว่ายน้ำไม่เป็น...
ถ้อยคำที่พี่รพีในร่างของผมพูดมันคงมีอะไรมากกว่าประโยคธรรมดา
"ไม่มีใครบอกคุณหรือไงว่าดึกดื่นป่านนี้เขาห้ามออกมาที่ทะเล"
ไม่อย่างนั้นพี่เมลคงไม่เศร้าแบบนั้นและพี่รพีคงไม่ร้องไห้ออกมาก่อนวิญญาณผมจะกลับเข้าร่าง "ปราณต์ไปนอนเถอะ เดี๋ยวพี่ไปเรียกน้องสมอล์ให้มารับ"พี่รพีพูดทำให้ผมนิ่งไปก่อนจะสาวเท้าเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
น้องงั้นเหรอ พี่สเมลมีน้องด้วยเหรอ
"แล้วพี่จะพูดอ้อมทำไม พี่จะให้ผมทำอะไรล่ะ"ผมเอ่ยถาม
"ปราณต์อยากจีบเมลไหม"เดี๋ยวนะนี่มันอะไรกันอยู่ๆก็มาเปลี่ยนบรรยากาศกันดื้อๆแบบนี้เลยเหรอ "ถ้าอยากจีบเดี๋ยวพี่ช่วยเธอเอง"เขาพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นพร้อมกับสายตาเปล่งประกาย
สรุปตอนมีชีวิตอยู่เขาตายเพราะเป็นไบโพล่าใช่ไหม ถึงได้เปลี่ยนอารมณ์ไวขนาดนี้
เหลือเชื่อไปเลยครับ นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งจะได้มาอยู่ใต้ชายคากับวิญญาณแบบนี้
แถมยังเป็นวิญญาณแฟนเก่าของคนที่ผมแอบชอบอีกต่างหาก
ครับ ผมชอบพี่เมล ชอบมาตั้งนานแล้วล่ะ
ชอบตั้งแต่เห็นครั้งแรกในหน้าเพจคิ้วบอยของมหาลัย ชอบจนไปติดตามในไอจีพร้อมกับตั้งแจ้งเตือนไว้เสร็จสรรพ ชอบจนต้องดูตารางงานว่าพี่จะไปออกงานวันไหน ชอบจนต้องซื้อดอกเดซีสีขาวมาให้ตอนเกษตรแฟร์เพราะรู้ว่าพี่เขาชอบ
แต่ใครจะคิดล่ะว่าภายใต้รอยยิ้มกว้างนั้นจะซ่อนน้ำตาเอาไว้
พี่สเมลที่อยู่ทะเลเหมือนพี่เมลที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ราวกับเป็นคนแปลกหน้าเพราะผมรู้จักแต่พี่สเมลคนสดใส มีรอยยิ้มดุจน้ำฝนชโลมจิตใจในวันที่แห้งแล้ง ไม่ใช่พี่เมลที่เศร้ามืดมนเหมือนท้องฟ้าตอนฝนตกหนักขนาดนี้
คงจริงอย่างที่เขาว่าไว้ว่าการที่เราเห็นคนๆหนึ่งยิ้มอย่างมีความสุขใช่ว่าเขาจะเป็นแบบนั้นเสมอไป นั้นอาจจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆของเขาก็ได้ใครจะรู้ล่ะ
ราวกับเขาให้เราเห็นแค่ยอดน้ำแข็งที่สว่างไสวมิใช่ให้เห็นเงาดำใต้ผืนท้องมหาสมุทธที่เหน็บหนาว
"พี่แน่ใจนะว่ามันจะไม่ดูน่ากลัว"ผมมองกระดาษสีชาที่พี่รพีชอบขีดเขียนอยู่ทุกค่ำคืนแต่วันนี้มันกลับมีลายมือของผมที่เขียนด้วยประโยคที่อยากสานสัมพันธ์กับเขาอย่างเปิดเผยจนต้องปิดหน้าตัวเอง
ผีชายหนุ่มยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆพร้อมกับถอดแว่นสายตามาเช็ดจนผมแอบมองเขาอย่างพิจารณาจะว่าไปจริงๆผมชอบทรงผมพี่รพีมากนะแบบไม่รู้สิมันไม่ใช่ทุกคนนะที่จะแสกกลางแล้วรอด
ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่
'Hello stranger'
คือคำหน้าซองจดหมายสีน้ำตาลพร้อมกับปิดผนึกด้วยปั๊มยางรูปดอกเดซีสีขาวสะอาดราวกับหลุดมาในยุคเก้าศูนย์ที่ผมค่อนข้างที่จะชอบมันในระดับหนึ่ง
โดยเฉพาะเพลงยุคนั้นผมชอบมากเลยล่ะ
ถ้าเกิดคุณอยากรู้ว่าผมเอาของพวกนี้มาจากไหนนะเหรอทั้งกระดาษ ซองจดหมาย ตราปั๊มยางที่น่ารักน่าชังแบบนี้ ผมไม่อยากบอกให้ตายสิ แต่จะบอกให้พวกคุณฟังก็ได้
หน้าหลุมศพพี่รพีน่ะ คุณฟังไม่ผิดหรอกก็เจ้าตัวเป็นคนบอกให้ผมเอามาเองนี่ ผมไม่ผิดซะหน่อย
"พอเสร็จก็เอาไปส่งให้เมล พี่เชื่อว่ายังไงเมลก็ต้องสนใจเธอแน่ๆเหมือนตอนนั้นแน่ๆ"แต่พี่ครับพี่อย่าบอกนะว่าตอนพี่จีบพี่ใช้วิธีนี้อะ
ไม่เอา ไม่ผ่าน ผมไม่ทำแล้ว!
"ไม่เอา ผมจะเขียนใหม่"ผมพูดพร้อมกับวางจดหมายซองนั้นไว้ที่เดิมพร้อมกับหยิบกระดาษแผ่นใหม่มาเขียนโดยไม่ฟังคำทัดทานของเขา "แต่ปราณต์ พี่ว่า..."
"ผมอยากจีบพี่เมลด้วยความเป็นผม"
"..."
"ไม่ใช่ใช้ความเป็นพี่มาจีบพี่เมล"พี่เมลต้องชอบในความที่ผมเป็นผม ไม่ใช่ชอบที่ผมมีกลิ่นอายพี่อยู่แบบนี้
ผมน่ะไม่อยากพูดเพื่อให้เขาเสียกำลังใจ ผมรู้ว่าพี่เขาคงไม่มีเจตนาทำแบบนั้น
"ผมขอโทษนะครับ"ผมพูดขึ้นแต่เขาก็ส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ"เขาพูดพร้อมกับเดินไปนั่งบนเตียงอย่างใจเย็น "พี่ขอโทษที่ยัดเหยียดมากเกินไป แต่ถ้าปราณต์อยากได้คำแนะนำอะไรก็ถามพี่ได้นะ"
"ขอบคุณนะครับ"ผมพูดพร้อมกับลงมือเขียนจดหมายอีกครั้งก่อนจะใส่ซองจดหมาย
'Dear, my daisy'
นี่แหละความเป็นผมเลย...
ถึงคุณผู้เป็นที่รักและดอกเดซีของผมในตอนฝนพร่ำ
อื้อหื้อ! แรงไม่ไหว
"แล้วผมต้องทำไงต่ออะพี่"
"ก็ลองเอาไปใส่ในตู้ไปรษณีย์ดูสิ ถ้าให้ต่อหน้าโดยที่ไม่ได้ทำความรู้จักกัน มันจะดูแปลกๆไหม"
"ใช่เลยครับ พี่เนี่ยไอเดียบรรเจิดสุดๆ"ว่าแต่เอาไปใส่ไว้ในตู้ยังไงดีสิ "ไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวพี่บอกทางไปร้านให้"ร้าน ร้านอะไรเหรอครับ "อะไรกันปราณต์ เธอชอบเขาแต่เธอไม่รู้ว่าเขาเปิดร้านดอกไม้เนี่ยนะ"พี่รพีพูดอีกครั้งทำให้ผมพยักหน้ารับ ก็พี่เมลไม่เคยสตอรี่หรือโปรโมตร้านอะไรเลยนี่หน่า
ผมดูกลายเป็นคนไม่ใส่ใจเขาไปเลยใช่ไหม ไม่ชอบเลยอะ
สายฝนเริ่มซาลงพร้อมกับผมที่เดินไปหยิบกุญแจรถเพื่อที่จะไปส่งจดหมายที่ร้านตามพี่รพีแนะนำ แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะที่จะได้เห็นเจ้าหญิงของผมอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้แบบนี้
มันต้องดีมากแน่ๆเลยครับ
กลิ่นดอกมะลิอ่อนๆลอยมาตามลมพอหันกลับไปมองก็เจอกับพี่รพีที่ยืนคอยอยู่ข้างรถ "ออกมาก็ไม่บอก ผมยังไม่ทันจะบอกเส้นทางเลย"
'ผมลืมนะ เอาเป็นว่าพี่ซ้อนท้ายผมละกัน'ผมตอบเขาในใจพร้อมกับออกรถโดยมีเขาเกาะไหล่อยู่ข้างหลังราวกับกลัวตายทั้งที่กลายเป็นวิญญาณไปแล้วแท้ๆ
"เลี้ยวขวาข้างหน้า"เขาบอกทำให้ผมขับตามก่อนจะมาหยุดที่หน้าร้านขายดอกไม้
'S.Flower'
ร้านที่ตกแต่งราวกับวิหารกรีกในเทพนิยายด้านหน้ามีพุ่มดอกไม้สีสันต่างๆที่ถูกตัดแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ตัวร้านเป็นสีส้มอ่อนๆผสมกับสีชมพูที่เข้ากันอย่างน่าประหลาดจนผมแอบทึ่งไปสักพัก
ผิดกับพี่รพีที่มองผมอย่างชื่นชมและหลงใหล รอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจนผมเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากเสียมารยาทไปแอบมองเขาแบบนั้น
แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ร้านยังไม่เปิด...
"เสร็จเรียบร้อย"ผมพูดพร้อมกับขี่มอเตอร์ไซต์ออกไปพลันความคิดบางอย่างก็ผุดเข้ามาในหัว"แล้วความปรารถนาสุดท้ายของพี่คืออะไรเหรอครับ"การที่วิญญาณยังไม่สลายหายไปก็คงมีอะไรติดค้างในใจ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเป็นเรื่องของพี่เมลแน่ๆ
แต่เรื่องอะไรล่ะที่ทำให้วิญญาณของเขาคอยเพียรอยู่รอบตัวเธอแบบนั้น
"พี่อยากให้เมลเจอคนดีๆ"
"..."
"คนที่รักเขา คนที่พร้อมจะดูแลเขาจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต คนที่สามารถทำในเขายิ้มได้ในตอนที่แย่ที่สุด"
"..."
"พี่จะได้อุ่นใจว่าพอพี่จากไปจริงๆแล้วสเมลเธอจะอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายได้อย่างมีความสุข"ยังก็แปลว่าพี่เขาจะหายไปก็ต่อเมื่อพี่เมลมีแฟนยังงั้นเหรอ
หรือไม่การที่เขาอยากจะให้ผมจีบพี่เมลก็เพราะอยากทำความปรารถนาสุดท้ายของตัวเองเป็นจริงจะได้หมดห่วงซะทีแบบนี้ใช่ไหม แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายนะสิ
ในเมื่อหัวใจของเมลยังมีแต่เขาแบบนี้
ผมขับรถมาจนถึงหอพักพอหันกลับไปพี่รพีก็หายไปแล้ว ผมงุนงงเล็กน้อยก่อนขับไปจอดในที่ประจำพร้อมกับกดลิฟต์ขึ้นห้องเหมือนเช่นทุกครั้ง
ติ้ง!
"ชั้นสี่ค่ะ"
แต่ที่ไม่เหมือนก็คงเป็นพี่รพีที่มายืนคอยอยู่หน้าลิฟต์เนี่ยสิที่ทำให้ผมตกใจ
"พี่รู้ว่าถ้าเมลมีใครสักคนอยู่ข้างๆมันต้องดีแน่ๆ"เขาพูดพร้อมกับค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าพร้อมกับส่ายหน้า
"ช่างเถอะ ถึงรู้ว่าเนื้อคู่ของเมลเป็นใครแต่พี่ก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้อยู่ดี"
"บอกผมหน่อยได้ไหม"ถ้าไม่ใช่ผมจะได้ตัดใจกลับมาเป็นแฟนคลับที่ดีไม่คิดเกินเลยกับเมนตัวเองแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้
"ไม่ได้หรอกครับ มันมีผลต่อโชคชะตาของเมล"
"...."
"แต่ใบ้ให้ว่าเธอก็มีดีเหมือนกันเพราะฉะนั้นอย่าถอดใจไปก่อนล่ะ"
คนไม่ใช่สิวิญญาณที่รู้ล่วงหน้ามาบอกแบบนี้ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย
ก็รู้ว่าพี่เมลอยู่สูงแค่ไหนแต่ไม่เป็นไรหรอกถึงคุณจะไม่ลงมาแต่ผมขึ้นไปหาได้นี่ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย แม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าตกลงมามันจะเจ็บแค่ไหน
แต่ไม่เป็นไรผมยอมหมดแหละครับ ต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ยังดีกว่าผมไม่ได้ทำอะไรเลย
"แล้วพี่คบกับพี่เมลได้ไงเหรอครับ"ผมเอ่ยถามตอนที่กลับมาถึงห้องพร้อมกับหยิบกีตาร์ขึ้นมาแกะเพลงใหม่ที่ต้องเล่นในคืนนี้ "ก็เมลทำสมุดเลคเชอร์ตก พี่เก็บได้ก็เลยถือวิสาสะเปิดดูว่าของใคร"
"...."
"ก็เห็นว่าชื่อสเมลคณะเกษตรพร้อมกับหน้าหลังที่เขียนว่าชอบพี่"พี่เมลชอบเขาก่อนเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย ตอนแรกผมนึกว่าพี่รพีจีบก่อนซะอีก
"แล้วพี่ก็ชอบเธอเหมือนกันก็เลยลองๆคุยกันดู"ชายหนุ่มผิวขาวซีดหน้าแดงเล็กน้อยพร้อมกับดันแว่นทรงสี่เหลี่ยมแก้เขิน
หรือว่าพี่เมลจะชอบผู้ชายแต่งตัวแบบนี้
ผมหันไปมองเสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซส์สีขาวกับกางเกงผ้าพอดีตัวรวมถึงรูปร่างผอมสูงขนาดนั้น แล้วหันมามองตัวเอง
โคตรแตกต่างเลยว่าไหม
ตัวผมทั้งสูงทั้งใหญ่พร้อมกับมัดกล้ามประปราย ใส่เสื้อยืดมือสองตัวละสิบบาทกับกางเกงยีนขาดเข่าจากร้านเดียวกัน
แล้วผู้ชายแบบผมจะพอมีสิทธิไหมเนี่ย
หรือไม่ถ้ายึดตามที่พี่รพีบอก ผมว่าเนื้อคู่จริงๆของพี่เมลอาจจะเป็นมิกซ์ก็ได้ ทั้งหน้าตา การแต่งตัวอะไรก็ไม่ได้ต่างจากชายหนุ่มตรงหน้าเท่าไหร่นัก
จากคู่จิ้นมาเป็นคู่จริงแบบนี้นะเหรอ
ไม่เอาหน่ายังไม่ทันได้เริ่มอะไรเลยด้วยซ้ำจะอกหักแล้วเหรอ
ติ้ง!
การแจ้งเตือนดังขึ้นทำให้ผมกดเข้าไปดูก็เห็นว่าในต๊อกติ๊กของBliningสังกัดที่พี่เมลอยู่ได้เพิ่มคลิปใหม่
"เมลไม่อยู่เหรอ"พี่รพีถามพอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับเขาที่ลอยมาตอนนั้นก็ไม่รู้ "อืม คงเข้าบริษัทแต่เช้า"ผมตอบพร้อมกับหันไปใส่ใจกับคลิปที่มีพี่สเมลแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีเหลืองอ่อนกำลังเต้นด้วยท่าทางน่ารักน่าชังจนผมแคปไม่ยั้งแล้วฝันก็พังทลายเมื่อมิกซ์ออกมาเต้นด้วยในตอนท้าย
ท่าทางสนิทสนมรวมถึงมิกซ์ที่นอกท่าเต้นมาดึงแก้มพี่เมลอีกนั้น
มันทำให้ผมหวง
"พี่ไม่หวงพี่เมลมั่งเหรอ"ผมถามพี่รพีที่ดูอยู่ข้างกัน เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนรอยยิ้มเศร้าๆจะปรากฏบนใบหน้า "ผมไม่มีสิทธิหรอก แค่เมลมีความสุขผมก็ดีใจแล้ว"ก็อย่างที่ว่าพี่รพีเขาหายไปในโลกแห่งความจริงแล้วเขาคงไม่ได้ยึดติดอะไรมากนอกจากอยากให้พี่เมลมีความสุข
แต่ผมไม่ใช่ไงผมยังอยู่มีเนื้อมีหนังมีความรู้สึกนึกคิดแต่จะให้เข้าไปหาแล้วบอกว่าชอบนะครับมันก็คงจะไม่ได้
หมายถึงผมนะปอดแหกทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
ผมกดออกจากแอปพลิเคชันนั้นก่อนจะเข้าไลน์มาแกะเพลงที่พี่หนูเจ้าของผับที่ผมเพิ่งได้งานหลังจากโดนพี่เจ้าของร้านเก่าไล่ออกเพราะเมียแกชอบเปย์ผมแค่นั้น ผมยังไม่ทันจะทำอะไรเลยด้วย...
แต่ตอนนี้ก็คงได้แต่หวังว่าร้านใหม่ที่ไปจะเงินดีเท่ากับร้านนั้นนะ
ไม่งั้นผมคงไม่มีเงินมาจ่ายค่าหอแน่ๆลำพังแค่เงินที่บ้านส่งมาเดือนละพันยังไงซะมันก็ไม่พออะไรอยู่แล้ว ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ ค่าเทอมที่ตัวเองเรียนอีก
โอ้โห้! ถึงจะเป็นมหาลัยเปิดก็เถอะแต่มันก็ต้องใช้เงินอยู่ดี
ใครกันนะบอกว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ก็ช่วยโอนมาให้ผมหน่อย สำหรับผมนะเงินซื้อได้เกือบทุกอย่าง
โดยเฉพาะความสุขยิ่งซื้อได้ดีเลยล่ะครับ
:)
+++++
Talk : ความปรารถนาสุดท้ายเพียงแค่อยากเห็นคุณมีความสุข ถึงความสุขนั้นจะไม่ใช่เราก็ตาม
#กลิ่นของคุณกี
@Choloris_
เราจะสามารถเห็นวิญญาณได้
ถึงแม้จะเป็นแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม
(เสียงจากปราณต์)
สายลมหนาวพัดผ่านผ้าม่านที่ปลิวไหวพร้อมกับสายฝนที่ตกกระทบลงมายังพื้นเบื้องล่างจนทำให้ผมสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาปิดหน้าต่างพร้อมกับร่างโปร่งใสของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งเขียนอะไรสักอย่างบนโต๊ะของผม
พี่คนนั้นเขาชื่อรพีนะครับ
"ฝนตกก็ไม่บอกกันเลยนะ"ถ้าเกิดผมความรู้สึกช้าเตียงก็คงเปียกไปแล้วแหละ เขาสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับทำท่าทีลนลาน "พี่ขอโทษ พี่แค่เขียนเพลินไปหน่อย"ชายหนุ่มตรงหน้ารีบขอโทษขอโพยพร้อมกับผมที่โบกมือว่าอย่าไปคิดอะไรมากพร้อมกับเดินกลับไปนอนต่อ
นานๆทีจะไม่ได้ออกไปเล่นดนตรีก็อยากจะหลับให้เต็มอิ่มหน่อย
เพล้ง!
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ยังงั้น
"พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจทำให้ปราณต์ตื่น"
ขนาดตายแล้วยังซุ่มซ่ามขนาดนี้ คิดไม่ออกเลยว่าถ้าหากคุณยังอยู่แล้วจะซุ่มซ่ามขนาดไหน
สเปคพี่เมลคือผู้ชายซุ่มซ่ามเหรอผมจะได้ทำมั่ง
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเก็บเองครับ"แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอกพูดเสร็จก็พลิกตัวแต่จะให้ทำยังไงมันก็ไม่หลับซะที
เฮ้อ! ลุกขึ้นมาแกะเพลงดีกว่าถ้าจะนอนไม่หลับขนาดนี้
"คุณจะยืมร่างผมไปส่งจดหมายเหรอ"ผมพูดขณะตัวเองพึ่งออกมาจากห้องน้ำเมื่อทำกิจวัตรส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย บนโต๊ะของผมที่เต็มไปด้วยกระดาษจำนวนมากและก็พี่รพีที่นั่งจ้องหน้าไม่พูดไม่จาอะไร
"ไม่ใช่หรอกครับ ยืมร่างนะไม่ใช่ยืมเงินที่จะมายืมกันง่ายๆขนาดนี้"
อา...นี่ผมโดนพี่เขาดุอยู่ใช่ไหม
"งั้นฝากนี่ให้เมลหน่อยสิ พี่จะพูดแบบนี้กับผมใช่ไหม"ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่กระดาษพร้อมกับจะหยิบแต่เขาก็ลอยมาขวางหน้าผม
ย้ำว่าลอย ไม่มีทางที่เขาจะเดินมาด้วยความไวแสงขนาดนี้เหรอ
"ไม่ใช่ซะหน่อย พี่ไม่ได้จะส่งอะไรทั้งนั้นแหละ"จ้า คนปากแข็งไม่ใช่สิผีปากแข็ง นอกจากจะซุ่มซ่ามแล้วยังปากแข็งที่หนึ่งอีก
"ถ้าไม่ผมจะไปแกะเพลงแล้วนะ"ผมพูดพร้อมกับหยิบกีตาร์ขึ้นมาหมายจะแกะเพลงตามที่ปากบอกแต่เขาก็ลอยมาขวางเอาไว้ "จริงๆพี่ก็อยากเอาจดหมายให้เมลนะ"เขาพูดเชื่องช้าพร้อมกับฝ่ามือที่กุมเข้าหากัน "แต่พี่กลัวทำให้เมลระแวงอีก"
"..."
"พี่ไม่อยากเห็นเมลเป็นแบบนั้น พี่ไม่อยากเห็นเมลร้องไห้"พี่รพีพูดด้วยน้ำเสียงสั่นไหวจนผมได้แต่กะพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ตามคนตรงหน้า
พี่เขาคงหมายถึงตอนอยู่ทะเลสินะ...
ผมจำได้ตอนนั้นพี่รพีรบเร้าเอาเป็นเอาตายว่าจะให้ผมไปทะเลเพราะเขารู้สึกไม่ค่อยดีแถมยังทึกทักว่าเป็นวิญญาณย่อมมีลางสังหรณ์อะไรทำนองนี้อยู่แล้วและก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
ตอนสามทุ่มของเช้าวันจันทร์ในขณะที่ผมกำลังเข้านอนหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวันอยู่ๆเขาก็วิ่งเข้าร่างพร้อมกับคำขอโทษที่ลอยมาตามสายลม
'พี่ขอโทษนะปราณต์'
วิญญาณของเขาในร่างของผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตมาที่ทะเลประจวบเหมาะกับร่างของพี่สเมลที่หายไปใต้ผืนน้ำ ผมตกใจมากในขณะที่พี่รพีกระโดดลงน้ำไปช่วยพี่เมลขึ้นมา
ผมถึงได้รู้ว่าทำไมคนใจเย็นทำอะไรงุ่มง่ามแบบเขาถึงได้เข้ามาสิงผมด้วยท่าทีรีบร้อนแบบนั้น
และเขาเองก็รู้เช่นกันว่าถ้าไม่ทำแบบนั้นผมคงช่วยอะไรไม่ได้มาก
เพราะผมว่ายน้ำไม่เป็น...
ถ้อยคำที่พี่รพีในร่างของผมพูดมันคงมีอะไรมากกว่าประโยคธรรมดา
"ไม่มีใครบอกคุณหรือไงว่าดึกดื่นป่านนี้เขาห้ามออกมาที่ทะเล"
ไม่อย่างนั้นพี่เมลคงไม่เศร้าแบบนั้นและพี่รพีคงไม่ร้องไห้ออกมาก่อนวิญญาณผมจะกลับเข้าร่าง "ปราณต์ไปนอนเถอะ เดี๋ยวพี่ไปเรียกน้องสมอล์ให้มารับ"พี่รพีพูดทำให้ผมนิ่งไปก่อนจะสาวเท้าเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
น้องงั้นเหรอ พี่สเมลมีน้องด้วยเหรอ
"แล้วพี่จะพูดอ้อมทำไม พี่จะให้ผมทำอะไรล่ะ"ผมเอ่ยถาม
"ปราณต์อยากจีบเมลไหม"เดี๋ยวนะนี่มันอะไรกันอยู่ๆก็มาเปลี่ยนบรรยากาศกันดื้อๆแบบนี้เลยเหรอ "ถ้าอยากจีบเดี๋ยวพี่ช่วยเธอเอง"เขาพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นพร้อมกับสายตาเปล่งประกาย
สรุปตอนมีชีวิตอยู่เขาตายเพราะเป็นไบโพล่าใช่ไหม ถึงได้เปลี่ยนอารมณ์ไวขนาดนี้
เหลือเชื่อไปเลยครับ นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งจะได้มาอยู่ใต้ชายคากับวิญญาณแบบนี้
แถมยังเป็นวิญญาณแฟนเก่าของคนที่ผมแอบชอบอีกต่างหาก
ครับ ผมชอบพี่เมล ชอบมาตั้งนานแล้วล่ะ
ชอบตั้งแต่เห็นครั้งแรกในหน้าเพจคิ้วบอยของมหาลัย ชอบจนไปติดตามในไอจีพร้อมกับตั้งแจ้งเตือนไว้เสร็จสรรพ ชอบจนต้องดูตารางงานว่าพี่จะไปออกงานวันไหน ชอบจนต้องซื้อดอกเดซีสีขาวมาให้ตอนเกษตรแฟร์เพราะรู้ว่าพี่เขาชอบ
แต่ใครจะคิดล่ะว่าภายใต้รอยยิ้มกว้างนั้นจะซ่อนน้ำตาเอาไว้
พี่สเมลที่อยู่ทะเลเหมือนพี่เมลที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ราวกับเป็นคนแปลกหน้าเพราะผมรู้จักแต่พี่สเมลคนสดใส มีรอยยิ้มดุจน้ำฝนชโลมจิตใจในวันที่แห้งแล้ง ไม่ใช่พี่เมลที่เศร้ามืดมนเหมือนท้องฟ้าตอนฝนตกหนักขนาดนี้
คงจริงอย่างที่เขาว่าไว้ว่าการที่เราเห็นคนๆหนึ่งยิ้มอย่างมีความสุขใช่ว่าเขาจะเป็นแบบนั้นเสมอไป นั้นอาจจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆของเขาก็ได้ใครจะรู้ล่ะ
ราวกับเขาให้เราเห็นแค่ยอดน้ำแข็งที่สว่างไสวมิใช่ให้เห็นเงาดำใต้ผืนท้องมหาสมุทธที่เหน็บหนาว
"พี่แน่ใจนะว่ามันจะไม่ดูน่ากลัว"ผมมองกระดาษสีชาที่พี่รพีชอบขีดเขียนอยู่ทุกค่ำคืนแต่วันนี้มันกลับมีลายมือของผมที่เขียนด้วยประโยคที่อยากสานสัมพันธ์กับเขาอย่างเปิดเผยจนต้องปิดหน้าตัวเอง
ผีชายหนุ่มยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆพร้อมกับถอดแว่นสายตามาเช็ดจนผมแอบมองเขาอย่างพิจารณาจะว่าไปจริงๆผมชอบทรงผมพี่รพีมากนะแบบไม่รู้สิมันไม่ใช่ทุกคนนะที่จะแสกกลางแล้วรอด
ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่
'Hello stranger'
คือคำหน้าซองจดหมายสีน้ำตาลพร้อมกับปิดผนึกด้วยปั๊มยางรูปดอกเดซีสีขาวสะอาดราวกับหลุดมาในยุคเก้าศูนย์ที่ผมค่อนข้างที่จะชอบมันในระดับหนึ่ง
โดยเฉพาะเพลงยุคนั้นผมชอบมากเลยล่ะ
ถ้าเกิดคุณอยากรู้ว่าผมเอาของพวกนี้มาจากไหนนะเหรอทั้งกระดาษ ซองจดหมาย ตราปั๊มยางที่น่ารักน่าชังแบบนี้ ผมไม่อยากบอกให้ตายสิ แต่จะบอกให้พวกคุณฟังก็ได้
หน้าหลุมศพพี่รพีน่ะ คุณฟังไม่ผิดหรอกก็เจ้าตัวเป็นคนบอกให้ผมเอามาเองนี่ ผมไม่ผิดซะหน่อย
"พอเสร็จก็เอาไปส่งให้เมล พี่เชื่อว่ายังไงเมลก็ต้องสนใจเธอแน่ๆเหมือนตอนนั้นแน่ๆ"แต่พี่ครับพี่อย่าบอกนะว่าตอนพี่จีบพี่ใช้วิธีนี้อะ
ไม่เอา ไม่ผ่าน ผมไม่ทำแล้ว!
"ไม่เอา ผมจะเขียนใหม่"ผมพูดพร้อมกับวางจดหมายซองนั้นไว้ที่เดิมพร้อมกับหยิบกระดาษแผ่นใหม่มาเขียนโดยไม่ฟังคำทัดทานของเขา "แต่ปราณต์ พี่ว่า..."
"ผมอยากจีบพี่เมลด้วยความเป็นผม"
"..."
"ไม่ใช่ใช้ความเป็นพี่มาจีบพี่เมล"พี่เมลต้องชอบในความที่ผมเป็นผม ไม่ใช่ชอบที่ผมมีกลิ่นอายพี่อยู่แบบนี้
ผมน่ะไม่อยากพูดเพื่อให้เขาเสียกำลังใจ ผมรู้ว่าพี่เขาคงไม่มีเจตนาทำแบบนั้น
"ผมขอโทษนะครับ"ผมพูดขึ้นแต่เขาก็ส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ"เขาพูดพร้อมกับเดินไปนั่งบนเตียงอย่างใจเย็น "พี่ขอโทษที่ยัดเหยียดมากเกินไป แต่ถ้าปราณต์อยากได้คำแนะนำอะไรก็ถามพี่ได้นะ"
"ขอบคุณนะครับ"ผมพูดพร้อมกับลงมือเขียนจดหมายอีกครั้งก่อนจะใส่ซองจดหมาย
'Dear, my daisy'
นี่แหละความเป็นผมเลย...
ถึงคุณผู้เป็นที่รักและดอกเดซีของผมในตอนฝนพร่ำ
อื้อหื้อ! แรงไม่ไหว
"แล้วผมต้องทำไงต่ออะพี่"
"ก็ลองเอาไปใส่ในตู้ไปรษณีย์ดูสิ ถ้าให้ต่อหน้าโดยที่ไม่ได้ทำความรู้จักกัน มันจะดูแปลกๆไหม"
"ใช่เลยครับ พี่เนี่ยไอเดียบรรเจิดสุดๆ"ว่าแต่เอาไปใส่ไว้ในตู้ยังไงดีสิ "ไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวพี่บอกทางไปร้านให้"ร้าน ร้านอะไรเหรอครับ "อะไรกันปราณต์ เธอชอบเขาแต่เธอไม่รู้ว่าเขาเปิดร้านดอกไม้เนี่ยนะ"พี่รพีพูดอีกครั้งทำให้ผมพยักหน้ารับ ก็พี่เมลไม่เคยสตอรี่หรือโปรโมตร้านอะไรเลยนี่หน่า
ผมดูกลายเป็นคนไม่ใส่ใจเขาไปเลยใช่ไหม ไม่ชอบเลยอะ
สายฝนเริ่มซาลงพร้อมกับผมที่เดินไปหยิบกุญแจรถเพื่อที่จะไปส่งจดหมายที่ร้านตามพี่รพีแนะนำ แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะที่จะได้เห็นเจ้าหญิงของผมอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้แบบนี้
มันต้องดีมากแน่ๆเลยครับ
กลิ่นดอกมะลิอ่อนๆลอยมาตามลมพอหันกลับไปมองก็เจอกับพี่รพีที่ยืนคอยอยู่ข้างรถ "ออกมาก็ไม่บอก ผมยังไม่ทันจะบอกเส้นทางเลย"
'ผมลืมนะ เอาเป็นว่าพี่ซ้อนท้ายผมละกัน'ผมตอบเขาในใจพร้อมกับออกรถโดยมีเขาเกาะไหล่อยู่ข้างหลังราวกับกลัวตายทั้งที่กลายเป็นวิญญาณไปแล้วแท้ๆ
"เลี้ยวขวาข้างหน้า"เขาบอกทำให้ผมขับตามก่อนจะมาหยุดที่หน้าร้านขายดอกไม้
'S.Flower'
ร้านที่ตกแต่งราวกับวิหารกรีกในเทพนิยายด้านหน้ามีพุ่มดอกไม้สีสันต่างๆที่ถูกตัดแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ตัวร้านเป็นสีส้มอ่อนๆผสมกับสีชมพูที่เข้ากันอย่างน่าประหลาดจนผมแอบทึ่งไปสักพัก
ผิดกับพี่รพีที่มองผมอย่างชื่นชมและหลงใหล รอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจนผมเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากเสียมารยาทไปแอบมองเขาแบบนั้น
แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ร้านยังไม่เปิด...
"เสร็จเรียบร้อย"ผมพูดพร้อมกับขี่มอเตอร์ไซต์ออกไปพลันความคิดบางอย่างก็ผุดเข้ามาในหัว"แล้วความปรารถนาสุดท้ายของพี่คืออะไรเหรอครับ"การที่วิญญาณยังไม่สลายหายไปก็คงมีอะไรติดค้างในใจ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเป็นเรื่องของพี่เมลแน่ๆ
แต่เรื่องอะไรล่ะที่ทำให้วิญญาณของเขาคอยเพียรอยู่รอบตัวเธอแบบนั้น
"พี่อยากให้เมลเจอคนดีๆ"
"..."
"คนที่รักเขา คนที่พร้อมจะดูแลเขาจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต คนที่สามารถทำในเขายิ้มได้ในตอนที่แย่ที่สุด"
"..."
"พี่จะได้อุ่นใจว่าพอพี่จากไปจริงๆแล้วสเมลเธอจะอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายได้อย่างมีความสุข"ยังก็แปลว่าพี่เขาจะหายไปก็ต่อเมื่อพี่เมลมีแฟนยังงั้นเหรอ
หรือไม่การที่เขาอยากจะให้ผมจีบพี่เมลก็เพราะอยากทำความปรารถนาสุดท้ายของตัวเองเป็นจริงจะได้หมดห่วงซะทีแบบนี้ใช่ไหม แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายนะสิ
ในเมื่อหัวใจของเมลยังมีแต่เขาแบบนี้
ผมขับรถมาจนถึงหอพักพอหันกลับไปพี่รพีก็หายไปแล้ว ผมงุนงงเล็กน้อยก่อนขับไปจอดในที่ประจำพร้อมกับกดลิฟต์ขึ้นห้องเหมือนเช่นทุกครั้ง
ติ้ง!
"ชั้นสี่ค่ะ"
แต่ที่ไม่เหมือนก็คงเป็นพี่รพีที่มายืนคอยอยู่หน้าลิฟต์เนี่ยสิที่ทำให้ผมตกใจ
"พี่รู้ว่าถ้าเมลมีใครสักคนอยู่ข้างๆมันต้องดีแน่ๆ"เขาพูดพร้อมกับค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าพร้อมกับส่ายหน้า
"ช่างเถอะ ถึงรู้ว่าเนื้อคู่ของเมลเป็นใครแต่พี่ก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้อยู่ดี"
"บอกผมหน่อยได้ไหม"ถ้าไม่ใช่ผมจะได้ตัดใจกลับมาเป็นแฟนคลับที่ดีไม่คิดเกินเลยกับเมนตัวเองแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้
"ไม่ได้หรอกครับ มันมีผลต่อโชคชะตาของเมล"
"...."
"แต่ใบ้ให้ว่าเธอก็มีดีเหมือนกันเพราะฉะนั้นอย่าถอดใจไปก่อนล่ะ"
คนไม่ใช่สิวิญญาณที่รู้ล่วงหน้ามาบอกแบบนี้ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย
ก็รู้ว่าพี่เมลอยู่สูงแค่ไหนแต่ไม่เป็นไรหรอกถึงคุณจะไม่ลงมาแต่ผมขึ้นไปหาได้นี่ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย แม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าตกลงมามันจะเจ็บแค่ไหน
แต่ไม่เป็นไรผมยอมหมดแหละครับ ต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ยังดีกว่าผมไม่ได้ทำอะไรเลย
"แล้วพี่คบกับพี่เมลได้ไงเหรอครับ"ผมเอ่ยถามตอนที่กลับมาถึงห้องพร้อมกับหยิบกีตาร์ขึ้นมาแกะเพลงใหม่ที่ต้องเล่นในคืนนี้ "ก็เมลทำสมุดเลคเชอร์ตก พี่เก็บได้ก็เลยถือวิสาสะเปิดดูว่าของใคร"
"...."
"ก็เห็นว่าชื่อสเมลคณะเกษตรพร้อมกับหน้าหลังที่เขียนว่าชอบพี่"พี่เมลชอบเขาก่อนเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย ตอนแรกผมนึกว่าพี่รพีจีบก่อนซะอีก
"แล้วพี่ก็ชอบเธอเหมือนกันก็เลยลองๆคุยกันดู"ชายหนุ่มผิวขาวซีดหน้าแดงเล็กน้อยพร้อมกับดันแว่นทรงสี่เหลี่ยมแก้เขิน
หรือว่าพี่เมลจะชอบผู้ชายแต่งตัวแบบนี้
ผมหันไปมองเสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซส์สีขาวกับกางเกงผ้าพอดีตัวรวมถึงรูปร่างผอมสูงขนาดนั้น แล้วหันมามองตัวเอง
โคตรแตกต่างเลยว่าไหม
ตัวผมทั้งสูงทั้งใหญ่พร้อมกับมัดกล้ามประปราย ใส่เสื้อยืดมือสองตัวละสิบบาทกับกางเกงยีนขาดเข่าจากร้านเดียวกัน
แล้วผู้ชายแบบผมจะพอมีสิทธิไหมเนี่ย
หรือไม่ถ้ายึดตามที่พี่รพีบอก ผมว่าเนื้อคู่จริงๆของพี่เมลอาจจะเป็นมิกซ์ก็ได้ ทั้งหน้าตา การแต่งตัวอะไรก็ไม่ได้ต่างจากชายหนุ่มตรงหน้าเท่าไหร่นัก
จากคู่จิ้นมาเป็นคู่จริงแบบนี้นะเหรอ
ไม่เอาหน่ายังไม่ทันได้เริ่มอะไรเลยด้วยซ้ำจะอกหักแล้วเหรอ
ติ้ง!
การแจ้งเตือนดังขึ้นทำให้ผมกดเข้าไปดูก็เห็นว่าในต๊อกติ๊กของBliningสังกัดที่พี่เมลอยู่ได้เพิ่มคลิปใหม่
"เมลไม่อยู่เหรอ"พี่รพีถามพอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับเขาที่ลอยมาตอนนั้นก็ไม่รู้ "อืม คงเข้าบริษัทแต่เช้า"ผมตอบพร้อมกับหันไปใส่ใจกับคลิปที่มีพี่สเมลแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีเหลืองอ่อนกำลังเต้นด้วยท่าทางน่ารักน่าชังจนผมแคปไม่ยั้งแล้วฝันก็พังทลายเมื่อมิกซ์ออกมาเต้นด้วยในตอนท้าย
ท่าทางสนิทสนมรวมถึงมิกซ์ที่นอกท่าเต้นมาดึงแก้มพี่เมลอีกนั้น
มันทำให้ผมหวง
"พี่ไม่หวงพี่เมลมั่งเหรอ"ผมถามพี่รพีที่ดูอยู่ข้างกัน เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนรอยยิ้มเศร้าๆจะปรากฏบนใบหน้า "ผมไม่มีสิทธิหรอก แค่เมลมีความสุขผมก็ดีใจแล้ว"ก็อย่างที่ว่าพี่รพีเขาหายไปในโลกแห่งความจริงแล้วเขาคงไม่ได้ยึดติดอะไรมากนอกจากอยากให้พี่เมลมีความสุข
แต่ผมไม่ใช่ไงผมยังอยู่มีเนื้อมีหนังมีความรู้สึกนึกคิดแต่จะให้เข้าไปหาแล้วบอกว่าชอบนะครับมันก็คงจะไม่ได้
หมายถึงผมนะปอดแหกทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
ผมกดออกจากแอปพลิเคชันนั้นก่อนจะเข้าไลน์มาแกะเพลงที่พี่หนูเจ้าของผับที่ผมเพิ่งได้งานหลังจากโดนพี่เจ้าของร้านเก่าไล่ออกเพราะเมียแกชอบเปย์ผมแค่นั้น ผมยังไม่ทันจะทำอะไรเลยด้วย...
แต่ตอนนี้ก็คงได้แต่หวังว่าร้านใหม่ที่ไปจะเงินดีเท่ากับร้านนั้นนะ
ไม่งั้นผมคงไม่มีเงินมาจ่ายค่าหอแน่ๆลำพังแค่เงินที่บ้านส่งมาเดือนละพันยังไงซะมันก็ไม่พออะไรอยู่แล้ว ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ ค่าเทอมที่ตัวเองเรียนอีก
โอ้โห้! ถึงจะเป็นมหาลัยเปิดก็เถอะแต่มันก็ต้องใช้เงินอยู่ดี
ใครกันนะบอกว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ก็ช่วยโอนมาให้ผมหน่อย สำหรับผมนะเงินซื้อได้เกือบทุกอย่าง
โดยเฉพาะความสุขยิ่งซื้อได้ดีเลยล่ะครับ
:)
+++++
Talk : ความปรารถนาสุดท้ายเพียงแค่อยากเห็นคุณมีความสุข ถึงความสุขนั้นจะไม่ใช่เราก็ตาม
#กลิ่นของคุณกี
@Choloris_
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น