ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (BL) White daisy and Brown guitar (Femboy)

    ลำดับตอนที่ #4 : Page 3 : Pain

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 63


    จริงๆ แล้วเราไม่เคยกลัวความตายเลยนะ

    แต่เรากลัวความเจ็บ ความทรมานก่อนตายต่างหาก

    ราวกับคำพูดของชายแปลกหน้ามาสะกิดที่กลางใจ

    "ไม่มีใครบอกคุณหรือไงว่าดึกดื่นป่านนี้เขาห้ามออกมาที่ทะเล"

    ราวกับสิ่งรอบข้างหายไป โลกหยุดเคลื่อนไหวพลันภาพในความทรงจำก็ดึงเราให้เข้าไปในนั้นตอนที่มาเที่ยวทะเลกับรพีใหม่ๆ

    ในช่วงที่รอเขาอาบน้ำเราก็ออกมาเดินเล่นเลียบชายหาดทว่าเดินมาได้ไม่นานเขาก็ออกมาเรียกด้วยนัยน์ตาที่ตื่นตระหนกตกใจ 'ไม่มีใครบอกเธอหรือไงว่าเขาห้ามออกมาที่ทะเลตอนกลางคืนแบบนี้'น้ำเสียงนิ่งๆ แต่กลับรู้สึกสั่นไหว เราในตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรนอกจากคิดว่าเพียงเขาคงตกใจที่ออกมาแล้วไม่เห็นเราอยู่ในห้องก็เท่านั้น 'ไม่มีหรอก แล้วทำไมเขาถึงห้ามเหรอ'เราเอ่ยถามแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ลูบหัวเราแผ่วเบาก่อนจะจับมือเราไปอาบน้ำ

    "พี่เมล.."

    หลังจากนั้นเราก็ไม่เคยออกมาที่ทะเลตอนกลางคืนอีกเลย ทว่าสิ่งที่ชายคนนั้นพูดมันกลับสะกิดใจให้เรานึกถึงเขาอีกจนได้หรือไม่เราในตอนนี้จิตใจอ่อนแอเกินไปไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเขาอยู่ดี

    "พี่เมล.."เสียงเรียกของสมอล์ทำให้เราหลุดออกมาจากภวังค์อีกครั้งด้วยหัวใจที่เต้นรัว "พี่ออกมาข้างนอกตอนกลางคืนทำไม นี่พี่ไปทำอะไรถึงตัวเปียกขนาดนี้นะ"เสียงสมอล์ยังคงพูดอย่างต่อเนื่องแต่เราก็ดันละเลยพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ

    ชายแปลกหน้าคนนั้นหายไปแล้ว

    ทิ้งไว้เพียงสายลมพัดแผ่วเบาเจือจางไปด้วยกลิ่นมะลิราวกับอ้อมกอดปลอบประโลมเราที่พึ่งขวัญเสียจากสิ่งเลวร้ายก่อนสมอล์จะจับมือจูงเราให้เดินเข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวจะไม่สบาย

    "ไม่มีอะไรจะถามพี่เหรอ"เราถามขึ้นเมื่อไม่เห็นเขาคิดถามอะไรเพิ่มเติมเลยซึ่งมันผิดอุปนิสัยของเขาจนเราเดาไม่ถูก "แล้วพี่ล่ะไม่มีอะไรบอกผมเหรอ"

    "คือพี่..."

    "คงไม่มีใครบอกว่าตัวเองเกิดอยากจะว่ายน้ำตอนสามทุ่มหรอกนะครับ"เขาดักทางไว้ทำให้เราพยักหน้ารับก่อนจะเล่าต่อว่าเราเจออะไรรวมถึงเรื่องของชายปริศนาคนนั้น "งั้นพี่เตรียมตัวเก็บข้าวของเลย พรุ่งนี้เราจะกลับบ้าน"เสียงสมอล์ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าเรียบนิ่งทำให้เราเอียงคออย่างสงสัย "แต่พี่ว่าเรา..."

    "ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นถ้าการอยู่ที่นี่มันอันตรายขนาดนี้"

    "..."

    "แล้วถ้าเกิดผู้ชายคนนั้นไปไม่ทัน พี่ก็คง..."เสียงเขาหายเข้าไปในลำคอก่อนจะส่ายหน้า "เอาเป็นว่าตามนี้เราจะกลับบ้านด้วยกัน"สมอล์ทิ้งเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะเดินออกนอกห้องด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

    จะว่าหงุดหงิดก็คงไม่ใช่ จะว่าโกรธก็คงไม่เชิง มันเป็นอารมณ์เป็นห่วงปนหงุดหงิดมากกว่า

    หงุดหงิดที่ทำอะไรไม่ได้เลย...

    เราทิ้งตัวนอนลงบนเตียงพร้อมกับเหม่อมองเพดานด้วยความคิดที่ไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก หรือว่าจะเป็นอย่างที่หมอดูบอกว่าเราดวงตกจริงๆ

    ดวงตกจนสามารถมองเห็นวิญญาณ ได้ยินเสียงหลอนหรือแม้กระทั่งได้กลิ่นดอกมะลิเหล่านั้นมันถูกตัองแล้วใช่ไหม

    ไม่ใช่เป็นเพราะจิตที่โหยหาหรืออารมณ์ที่โศกเศร้าเพราะกลับไปในที่เดิมๆและภาพเดิมที่เคริ่มกลับมา

    จวบจนรุ่งสางเราก็นอนไม่หลับจนพี่สไมล์มาหาพร้อมทั้งอ้อมกอดเราเอาไว้ไม่ต้องพูดอะไรมากมายแต่เราก็ดันร้องไห้ออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้เพียงแค่เขาพูดว่าไม่เป็นไรแค่นั้น

    "ไม่เป็นไรสเมล ไม่ต้องคิดมาก"

    แค่คำนั้นคำเดียวจริงๆ

    "กลับบ้านดีกว่านะครับ"เขาพูดขึ้นมาหลังจากผละออกมาอ้อมกอดพร้อมกับเช็ดหน้าเช็ดตาให้ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางเราออกไปด้านนอกห้อง "ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิ"สมอล์พูดพร้อมกับดึงแก้มเราข้างหนึ่งจนเราโวยวาย "แกล้งพี่อีกแล้ว"แต่ทางที่จะสลดกลับอมยิ้มออกมาทำให้เราตีแขนเขาไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้ ก่อนสมอล์จะโอบกอดเราจากข้างหลังเอาไว้อย่างหลวมๆ จนเราเผลออมยิ้มออกมาพร้อมกับทิ้งตัวใส่เขา "ยิ้มบ่อยๆ นะ"

    "..."

    "ผมนะอยากให้พี่ยิ้มเยอะๆ "

    "คุยอะไรกันน่ะไปขึ้นรถได้แล้ว"เสียงพี่ดาวเรืองขึ้นพร้อมกับลากแขนเราออกไปโดยมีสมอล์ส่งเสียงงอแงตามหลังมาและสองคนนั้นก็เริ่มทะเลาะกันอีกแล้ว

    พี่ดาวกับสมอล์นะชอบทะเลาะกันบ่อยจะตายไปแต่ไม่ใช่การทะเลาะแบบเอาเป็นเอาตายอะไร แต่กลับเป็นเรื่องเล็กๆน้อยก็เท่านั้น

    "พี่ไมล์ดูแฟนพี่ดิพรากพี่ไปจากผมไม่พอ ยังจะพรากพี่เมลไปอีก"

    "อะไร พี่เปล่านะไมล์ พี่แค่พาเมลขึ้นรถเอง"

    "งั้นพี่ไมล์เลือกมาเลยว่าจะเข้าข้างใคร"สมอล์พูดพร้อมกับกอดอกมองพี่ดาวที่กำลังส่ายหน้าเอือมระอาในความไม่รู้จักโตของเด็กตัวสูงตรงหน้า

    "ยังต้องให้เลือกอีกเหรอครับ ยังไงพี่ดาวก็ถูกเพราะเราจะได้รีบกลับบ้านกันไง พี่"

    "อะไรพี่ไมล์ ใช่สิ!รักเรามันเก่าแล้วใช่ไหมล่ะ"เขาพูดออกมาอย่างงั้นจนทำให้เราอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา คนอื่นในรถก็เช่นเดียวกันท่ามกลางเสียงงอแงปนโวยวายของเจ้าน้องชายคนเล็ก

    แต่เราก็รู้ว่าสมอล์ไม่ได้คิดจริงจังอะไรนอกจากทำให้เรายิ้มได้หรอก 

    ไม่ว่าจะพึ่งผ่านเรื่องแย่หรือสิ่งเลวร้ายแค่ไหนแต่พอเจอกับครอบครัวที่พร้อมจะอ้อมกอดเราไว้ก็ทำให้เราเริ่มรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น...

    ไม่รู้ว่าผล็อยหลับไปนานเท่าไหร่รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มาถึงหน้าบ้านโดยที่สมอล์เป็นคนปลุกเราออกมาจากการหลับใหลหลังจากไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาทั้งคืน

    ซึ่งเรื่องที่ทำให้เรานอนเหม่อทั้งคืนก็คงหนีไม่พ้น 'เขา' อีกเช่นเคย

    สมองก็บอกให้พอให้เลิกคิดอะไรที่มันกลับไปแก้ไขไม่ได้แต่หัวใจมันกลับไม่เชื่อฟังอะไรสักอย่าง...

    ตึ้ง!

    เสียงการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันไลน์ดังขึ้นทันทีที่เปิดอินเทอร์เน็ตทำให้เราอมยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

    Mixxer : ไปทะเลจริงเปล่าไม่เห็นถ่ายรูปมาฝากเลย

    xsmxll : ไปจริงสิ (แนบรูปพระอาทิตย์ขึ้น)

    มิกซ์หรือมิกเซอร์ชายหนุ่มรุ่นน้องในสังกัด Blining เขาอายุยี่สิบเอ็ดปีเรียนนิเทศ มหาลัยชื่อดังย่านทุ่งรังสิต หรือจะเรียกสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายก็คือเขาเป็นคู่จิ้นเราเองแหละ

    Mixxer : แล้วเย็นพรุ่งนี้ว่างไหมครับ

    พรุ่งนี้เหรอน่าจะว่างแหละ

    xsmxll : ว่างนะ มีอะไรเหรอ

    ลืมบอกไปอีกหนึ่งอย่างที่จริงแล้วร้านดอกไม้ที่เราชอบมันไม่ได้เป็นที่รู้จักอะไรขนาดนั้นหรือขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เราได้ทำสิ่งที่เรารักได้ก็คืองานในสังกัด Blining ที่ส่วนมากก็จะเป็นงานเดินแบบ งานโปรโมตภาพยนตร์เป็นส่วนใหญ่พอจะเอามาลงทุน ซื้อของหรือไปเที่ยวตามที่ตัวเองชอบ โดยคนในสังกัดส่วนใหญ่มักจะเป็นพวกดาวเดือนในมหาลัยต่างๆ ที่มีคนชื่นชอบและฐานแฟนคลับอยู่บ้างมารวมตัวกันที่นี่

    อาจจะดูเขินๆ ไปบ้างถ้าเราบอกว่าเมื่อสมัยเรียนเราเป็นเดือนคณะแต่สิ่งที่มันให้กับเราในงานประกวดครั้งนั้นมันมากกว่างานประกวดธรรมดา

    นอกจากเพื่อนหรือมิตรภาพดีๆแล้ว

    มันก็ทำให้เราได้รู้ใจตัวเองจริงๆ ว่าเราชอบผู้ชายไม่ใช่แค่หวั่นไหวไปชั่วครั้งชั่วคราว

    ถ้าไม่ใช่แบบนั้นเราคงไม่เขินเพื่อนเดือนที่เดินถอดเสื้อโชว์แผงอกที่เปลือยเปล่าแต่กลับรู้สึกเฉยๆตอนเต้นลีลาศกับดาวคณะตัวเองหรอก

    และนั้นก็ทำให้เราเริ่มคิดหาวิธีจีบ'รพี'หนุ่มคณะสถาปัตยฯ ที่ชอบใส่แว่นหนาเตอะ เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่รวมถึงผมเผ้าที่ไม่ค่อยเป็นทรงนักแต่ใครจะคิดว่าเพียงเขาแย้มยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อยตอนถ่ายรูปกับกลุ่มเพื่อน

    เขาจะมีเสน่ห์ดึงดูดจนใจเราสั่นไหวขนาดนี้

    หลังจากนั้นเราก็พยายามหาทางให้เราเจอกันบ่อยมากขึ้นแต่มันก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้นจนเราเผลอซุ่มซ่ามทำสมุดเลคเชอร์ตกนี่แหละที่ทำให้เราได้เจอกันและท้ายสมุดเล่มนั้น

    'เด็กถาปัตน่ารัก'

    หรือไม่ก็...

    'รพี เราชอบเธอ'

    นั่นแหละระเบิดลูกใหญ่ที่เราทำหล่นไว้แถมยังมีชื่อตัวเองเด่นหราอยู่ต่างหากเรายังจำวินาทีนั้นได้ดีขณะที่เรากำลังเดินเข้าไปในตึกคณะเขาก็เรียกเรา 'เธอๆ 'ตอนนั้นเราตกใจมากแต่ก็ไม่เท่าในมือของเขาที่ถือสมุดเล่มนั้นเอาไว้ 'เธอเรียนอยู่เกษตรหรือเปล่า'เขาถามทำให้เราพยักหน้ารับ 'ทำไมเหรอครับ'ตอนนั้นเรายังไม่กล้าบอกใครรวมถึงผมก็ตัดสั้นเรียบร้อยคงจะมีแต่ริมฝีปากที่เคลือบลิปมันเปลี่ยนสีเอาไว้แค่นั้น 'เราฝากสมุดให้คนในคณะเธอหน่อยสิ น่าจะชื่อสเมลนะ คุณพอจะรู้จักไหมครับ'

    'อา รู้จักสิ'รู้จักดีด้วยเลยล่ะ

    และในจังหวะที่เราจะเดินออกไปสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ 'อิฐ' เพื่อนสนิทที่สุดของเราเดินเข้ามาทัก 'มาเช้าจังสเมล'

    เสียงเรียกพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจทำให้เราเริ่มลนลานพร้อมกับรีบดึงเขาออกไปแต่ก็ถูกรพีจับมือเอาไว้จนเราต้องหันหลังกลับมา 'เมล วันนี้เธอเลิกเรียนกี่โมงเหรอ'เขาเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่งจนหัวใจเราเต้นรัว 'บ่ายหนึ่งนะ'

    'งั้นเดี๋ยวเรามารับ'

    และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่

    ติ้ง!

    เสียงการแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้งก็เจอกับมิกเซอร์ที่งอแงเพราะเราหายไปไม่ได้ตอบแชทเขา

    อะไรแค่คิดนู้นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยแค่เสี้ยวนาทีแต่กลับกินเวลาไปเกือบชั่วโมง

    xsmxll : พี่ขอโทษ พี่ทำงานอยู่

    xsmxll : พรุ่งนี้เจอกันร้านเดิมนะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง

    ติ้ง!

    Mixxer : โอเคเลยครับ พี่เตรียมเงินไว้ให้ดีเลยนะ พี่หมดตัวแน่

    xsmxll : อยากหมดตัวจังเลยค่ะ

    พิมพ์เสร็จก็อมยิ้มเล็กๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนเล่นอินสตราแกรมไปเรื่อยเปื่อยตามประสาก่อนพบว่าน้องมิกซ์ลงรูปใหม่เราก็เลยเผลอกดหัวใจไปจนไม่ทันดูว่าเขาเพิ่งลงเมื่อหนึ่งวินาทีที่แล้ว

    อา...โดนชิปแน่เลย

    kxxpw : ขนาดตั้งแจ้งเตือนแล้วน้องยังกดไม่ทันพี่เมลเลยอา

    นั้นไงไม่ทันไรก็โดนเข้าเสียแล้ว...

    ติ้ง!

    Mix_kp : แอบตั้งโนติผมไว้ป่ะเนี่ย

    ใครจะไปตั้งล่ะ เจ้าเด็กหลงตัวเอง

    Smell_sr : เปล่า ไม่ได้ว่างขนาดนั้นซะหน่อย

    พอตอบเสร็จเราก็รีเฟรชหน้าฟีดก่อนเห็นเขาแคปแชทลงในสตอรี

    'พบคนปากแข็ง 1ea'

    ถ้าไม่ติดว่าน้องชอบผู้หญิงนะเราจะคิดว่าน้องจีบเราแล้วคนอะไรชงตัวเองก็ได้เหมือนกันหรือนี่เป็นสกิลพิเศษของเด็กค่ายนี้กันแน่

    เราปิดหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับหยิบกระดาษสีชาขึ้นมาเขียนเหมือนทุกวันที่เคยทำเมื่อเขียนเสร็จก่อนจะบรรจุใส่ซองจดหมายสีน้ำตาลพร้อมกับฉีดน้ำหอมเรามักจะชอบทำแบบนี้เหมือนทุกครั้งตอนที่คิดถึงเขา

    รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีจดหมายเป็นกองวางไว้อยู่บนโต๊ะนี่แหละ

    สงสัยได้เวลาเผาส่งไปให้เธออ่านแล้วมั่ง

    คิดได้ดังนั้นเราก็หยิบกองจดหมายใส่ในกระเป๋ากระดาษที่พับไว้ก่อนจะเปิดประตูลงบันไดมานังชั้นล่างก็เห็นสมอล์นั่งวาดรูปในไอแพดอยู่ตรงโซฟา ส่วนพี่ไมล์ก็ทำขนมอยู่ในครัว "วาดอะไรอะ เล็บลายใหม่เหรอ"เราถามทำให้เขาพยักหน้ารับ "ฤดูฝนแล้วก็ต้องเปลี่ยนธีมใหม่"เขาตอบทำให้เราพยักหน้ารับพร้อมกับเดินไปหยิบเตาถ่านในครัวออกมา "เผาจดหมายให้รพีเหรอ"พี่ไมล์เอ่ยถามทำให้เราพยักหน้ารับ "ใช่เยอะแล้วเดี๋ยวรพีอ่านไม่ไหว"เราพูดติดตลกก่อนจะยกขึ้นแต่ก็ถูกพี่ไมล์ห้ามไว้ "หลังบ้านใช่ไหม เดี๋ยวพี่ยกให้"

    "ไม่เป็นไร หนูยกได้"

    "อย่าดื้อสิสเมล"เขาพูดตัดบทพร้อมกับผลักหน้าผากเราเบาๆ "พี่ไมล์ไปทำขนมเถอะ เดี๋ยวผมยกให้"เสียงสมอล์ดังขึ้นมาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ใส่เสื้อกล้ามสีดำพร้อมกับกางเกงยีนขาดเข่าตัดกับพี่ไมล์ที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าพับแขนกับกางเกงผ้าสีดำ

    นี่มันเทพบุตรกับยมทูตชัดๆ

    เราอมยิ้มเล็กๆ ก่อนเดินตามสมอล์ออกไปหลังบ้านพร้อมกับเขาที่หยิบถ่านมาติดไฟให้เสร็จสรรพ "ผมช่วยได้ไหม"เขาเอ่ยถามทำให้เราพยักหน้า "ได้สิ ถ้าไม่รบกวนนะ"เพราะเมื่อกี้เขาเองก็นั่งทำงานอยู่ด้วย

    "ไม่รบกวนหรอก ผมคิดงานไม่ออกน่ะ"

    "แล้วมีอะไรที่พี่พอจะช่วยได้ไหม"เราถามขณะมองแผ่นกระดาษเข้ากองไฟซ้ำแล้วซ้ำแล้ว "ไม่เป็นไร ผมว่าผมพอจะคิดออกแล้ว"เขาพูดขณะที่มองเปลวเพลิงก่อนจะหันมามองหน้าเรา "แล้วดอกไม้ในฤดูฝนมีดอกอะไรบ้างเหรอ"เขาถามทำให้เราอธิบายไปเรื่อยเปื่อยจนเขาได้ไอเดียแล้วขอตัวไปทำงานต่อ เราเองก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากเผากระดาษจนหมดสิ้นพร้อมกับหลับตาภาวนาวอนสายลมช่วยพาความคิดถึงส่งไปให้เธอที

    ถ้าเธอรับรู้แล้วก็ส่งสายลมมาบอกเรานะ

    หลังจากอธิษฐานเสร็จสายลมก็พัดกลับมาอีกรอบขณะตอนที่เราสาดน้ำดับไฟ

    ทว่าเมื่อกำลังจะหันหลังเข้าบ้านก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจ้องมองอยู่แต่พอหันกลับไปก็พบแต่ความว่างเปล่าเหมือนตอนเมื่อกี้ไม่มีผิดเพี้ยน

    ไม่มีอะไรหรอกสเมล สงสัยคงคิดมากไปล่ะมั่ง

    +++++

    Talk : ที่เดิมความรู้สึกเดิม ที่ใหม่ความรู้สึกใหม่

    #กลิ่นของคุณกี

    @Choloris_

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×