ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (BL) White daisy and Brown guitar (Femboy)

    ลำดับตอนที่ #5 : Page 4 : Petition

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 47
      3
      29 ธ.ค. 63

    มีใครเคยบอกไหมว่าช่วงระหว่างความเป็นกับความตาย

    เราจะสามารถเห็นวิญญาณได้

    ถึงแม้จะเป็นแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม

    (เสียงจากปราณต์)

    สายลมหนาวพัดผ่านผ้าม่านที่ปลิวไหวพร้อมกับสายฝนที่ตกกระทบลงมายังพื้นเบื้องล่างจนทำให้ผมสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาปิดหน้าต่างพร้อมกับร่างโปร่งใสของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งเขียนอะไรสักอย่างบนโต๊ะของผม

    พี่คนนั้นเขาชื่อรพีนะครับ

    "ฝนตกก็ไม่บอกกันเลยนะ"ถ้าเกิดผมความรู้สึกช้าเตียงก็คงเปียกไปแล้วแหละ เขาสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับทำท่าทีลนลาน "พี่ขอโทษ พี่แค่เขียนเพลินไปหน่อย"ชายหนุ่มตรงหน้ารีบขอโทษขอโพยพร้อมกับผมที่โบกมือว่าอย่าไปคิดอะไรมากพร้อมกับเดินกลับไปนอนต่อ

    นานๆทีจะไม่ได้ออกไปเล่นดนตรีก็อยากจะหลับให้เต็มอิ่มหน่อย

    เพล้ง!

    แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ยังงั้น

    "พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจทำให้ปราณต์ตื่น"

    ขนาดตายแล้วยังซุ่มซ่ามขนาดนี้ คิดไม่ออกเลยว่าถ้าหากคุณยังอยู่แล้วจะซุ่มซ่ามขนาดไหน

    สเปคพี่เมลคือผู้ชายซุ่มซ่ามเหรอผมจะได้ทำมั่ง

    "ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเก็บเองครับ"แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอกพูดเสร็จก็พลิกตัวแต่จะให้ทำยังไงมันก็ไม่หลับซะที

    เฮ้อ! ลุกขึ้นมาแกะเพลงดีกว่าถ้าจะนอนไม่หลับขนาดนี้

    "คุณจะยืมร่างผมไปส่งจดหมายเหรอ"ผมพูดขณะตัวเองพึ่งออกมาจากห้องน้ำเมื่อทำกิจวัตรส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย บนโต๊ะของผมที่เต็มไปด้วยกระดาษจำนวนมากและก็พี่รพีที่นั่งจ้องหน้าไม่พูดไม่จาอะไร

    "ไม่ใช่หรอกครับ ยืมร่างนะไม่ใช่ยืมเงินที่จะมายืมกันง่ายๆขนาดนี้"

    อา...นี่ผมโดนพี่เขาดุอยู่ใช่ไหม

    "งั้นฝากนี่ให้เมลหน่อยสิ พี่จะพูดแบบนี้กับผมใช่ไหม"ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่กระดาษพร้อมกับจะหยิบแต่เขาก็ลอยมาขวางหน้าผม

    ย้ำว่าลอย ไม่มีทางที่เขาจะเดินมาด้วยความไวแสงขนาดนี้เหรอ

    "ไม่ใช่ซะหน่อย พี่ไม่ได้จะส่งอะไรทั้งนั้นแหละ"จ้า คนปากแข็งไม่ใช่สิผีปากแข็ง นอกจากจะซุ่มซ่ามแล้วยังปากแข็งที่หนึ่งอีก

    "ถ้าไม่ผมจะไปแกะเพลงแล้วนะ"ผมพูดพร้อมกับหยิบกีตาร์ขึ้นมาหมายจะแกะเพลงตามที่ปากบอกแต่เขาก็ลอยมาขวางเอาไว้ "จริงๆพี่ก็อยากเอาจดหมายให้เมลนะ"เขาพูดเชื่องช้าพร้อมกับฝ่ามือที่กุมเข้าหากัน "แต่พี่กลัวทำให้เมลระแวงอีก"

    "..."

    "พี่ไม่อยากเห็นเมลเป็นแบบนั้น พี่ไม่อยากเห็นเมลร้องไห้"พี่รพีพูดด้วยน้ำเสียงสั่นไหวจนผมได้แต่กะพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ตามคนตรงหน้า

    พี่เขาคงหมายถึงตอนอยู่ทะเลสินะ...

    ผมจำได้ตอนนั้นพี่รพีรบเร้าเอาเป็นเอาตายว่าจะให้ผมไปทะเลเพราะเขารู้สึกไม่ค่อยดีแถมยังทึกทักว่าเป็นวิญญาณย่อมมีลางสังหรณ์อะไรทำนองนี้อยู่แล้วและก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

    ตอนสามทุ่มของเช้าวันจันทร์ในขณะที่ผมกำลังเข้านอนหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวันอยู่ๆเขาก็วิ่งเข้าร่างพร้อมกับคำขอโทษที่ลอยมาตามสายลม

    'พี่ขอโทษนะปราณต์'

    วิญญาณของเขาในร่างของผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตมาที่ทะเลประจวบเหมาะกับร่างของพี่สเมลที่หายไปใต้ผืนน้ำ ผมตกใจมากในขณะที่พี่รพีกระโดดลงน้ำไปช่วยพี่เมลขึ้นมา

    ผมถึงได้รู้ว่าทำไมคนใจเย็นทำอะไรงุ่มง่ามแบบเขาถึงได้เข้ามาสิงผมด้วยท่าทีรีบร้อนแบบนั้น

    และเขาเองก็รู้เช่นกันว่าถ้าไม่ทำแบบนั้นผมคงช่วยอะไรไม่ได้มาก

    เพราะผมว่ายน้ำไม่เป็น...

    ถ้อยคำที่พี่รพีในร่างของผมพูดมันคงมีอะไรมากกว่าประโยคธรรมดา

    "ไม่มีใครบอกคุณหรือไงว่าดึกดื่นป่านนี้เขาห้ามออกมาที่ทะเล"

    ไม่อย่างนั้นพี่เมลคงไม่เศร้าแบบนั้นและพี่รพีคงไม่ร้องไห้ออกมาก่อนวิญญาณผมจะกลับเข้าร่าง "ปราณต์ไปนอนเถอะ เดี๋ยวพี่ไปเรียกน้องสมอล์ให้มารับ"พี่รพีพูดทำให้ผมนิ่งไปก่อนจะสาวเท้าเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

    น้องงั้นเหรอ พี่สเมลมีน้องด้วยเหรอ

    "แล้วพี่จะพูดอ้อมทำไม พี่จะให้ผมทำอะไรล่ะ"ผมเอ่ยถาม

    "ปราณต์อยากจีบเมลไหม"เดี๋ยวนะนี่มันอะไรกันอยู่ๆก็มาเปลี่ยนบรรยากาศกันดื้อๆแบบนี้เลยเหรอ "ถ้าอยากจีบเดี๋ยวพี่ช่วยเธอเอง"เขาพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นพร้อมกับสายตาเปล่งประกาย

    สรุปตอนมีชีวิตอยู่เขาตายเพราะเป็นไบโพล่าใช่ไหม ถึงได้เปลี่ยนอารมณ์ไวขนาดนี้

    เหลือเชื่อไปเลยครับ นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งจะได้มาอยู่ใต้ชายคากับวิญญาณแบบนี้

    แถมยังเป็นวิญญาณแฟนเก่าของคนที่ผมแอบชอบอีกต่างหาก

    ครับ ผมชอบพี่เมล ชอบมาตั้งนานแล้วล่ะ

    ชอบตั้งแต่เห็นครั้งแรกในหน้าเพจคิ้วบอยของมหาลัย ชอบจนไปติดตามในไอจีพร้อมกับตั้งแจ้งเตือนไว้เสร็จสรรพ ชอบจนต้องดูตารางงานว่าพี่จะไปออกงานวันไหน ชอบจนต้องซื้อดอกเดซีสีขาวมาให้ตอนเกษตรแฟร์เพราะรู้ว่าพี่เขาชอบ

    แต่ใครจะคิดล่ะว่าภายใต้รอยยิ้มกว้างนั้นจะซ่อนน้ำตาเอาไว้

    พี่สเมลที่อยู่ทะเลเหมือนพี่เมลที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ราวกับเป็นคนแปลกหน้าเพราะผมรู้จักแต่พี่สเมลคนสดใส มีรอยยิ้มดุจน้ำฝนชโลมจิตใจในวันที่แห้งแล้ง ไม่ใช่พี่เมลที่เศร้ามืดมนเหมือนท้องฟ้าตอนฝนตกหนักขนาดนี้

    คงจริงอย่างที่เขาว่าไว้ว่าการที่เราเห็นคนๆหนึ่งยิ้มอย่างมีความสุขใช่ว่าเขาจะเป็นแบบนั้นเสมอไป นั้นอาจจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆของเขาก็ได้ใครจะรู้ล่ะ

    ราวกับเขาให้เราเห็นแค่ยอดน้ำแข็งที่สว่างไสวมิใช่ให้เห็นเงาดำใต้ผืนท้องมหาสมุทธที่เหน็บหนาว

    "พี่แน่ใจนะว่ามันจะไม่ดูน่ากลัว"ผมมองกระดาษสีชาที่พี่รพีชอบขีดเขียนอยู่ทุกค่ำคืนแต่วันนี้มันกลับมีลายมือของผมที่เขียนด้วยประโยคที่อยากสานสัมพันธ์กับเขาอย่างเปิดเผยจนต้องปิดหน้าตัวเอง

    ผีชายหนุ่มยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆพร้อมกับถอดแว่นสายตามาเช็ดจนผมแอบมองเขาอย่างพิจารณาจะว่าไปจริงๆผมชอบทรงผมพี่รพีมากนะแบบไม่รู้สิมันไม่ใช่ทุกคนนะที่จะแสกกลางแล้วรอด

    ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่

    'Hello stranger'

    คือคำหน้าซองจดหมายสีน้ำตาลพร้อมกับปิดผนึกด้วยปั๊มยางรูปดอกเดซีสีขาวสะอาดราวกับหลุดมาในยุคเก้าศูนย์ที่ผมค่อนข้างที่จะชอบมันในระดับหนึ่ง

    โดยเฉพาะเพลงยุคนั้นผมชอบมากเลยล่ะ

    ถ้าเกิดคุณอยากรู้ว่าผมเอาของพวกนี้มาจากไหนนะเหรอทั้งกระดาษ ซองจดหมาย ตราปั๊มยางที่น่ารักน่าชังแบบนี้ ผมไม่อยากบอกให้ตายสิ แต่จะบอกให้พวกคุณฟังก็ได้

    หน้าหลุมศพพี่รพีน่ะ คุณฟังไม่ผิดหรอกก็เจ้าตัวเป็นคนบอกให้ผมเอามาเองนี่ ผมไม่ผิดซะหน่อย

    "พอเสร็จก็เอาไปส่งให้เมล พี่เชื่อว่ายังไงเมลก็ต้องสนใจเธอแน่ๆเหมือนตอนนั้นแน่ๆ"แต่พี่ครับพี่อย่าบอกนะว่าตอนพี่จีบพี่ใช้วิธีนี้อะ

    ไม่เอา ไม่ผ่าน ผมไม่ทำแล้ว!

    "ไม่เอา ผมจะเขียนใหม่"ผมพูดพร้อมกับวางจดหมายซองนั้นไว้ที่เดิมพร้อมกับหยิบกระดาษแผ่นใหม่มาเขียนโดยไม่ฟังคำทัดทานของเขา "แต่ปราณต์ พี่ว่า..."

    "ผมอยากจีบพี่เมลด้วยความเป็นผม"

    "..."

    "ไม่ใช่ใช้ความเป็นพี่มาจีบพี่เมล"พี่เมลต้องชอบในความที่ผมเป็นผม ไม่ใช่ชอบที่ผมมีกลิ่นอายพี่อยู่แบบนี้

    ผมน่ะไม่อยากพูดเพื่อให้เขาเสียกำลังใจ ผมรู้ว่าพี่เขาคงไม่มีเจตนาทำแบบนั้น

    "ผมขอโทษนะครับ"ผมพูดขึ้นแต่เขาก็ส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ"เขาพูดพร้อมกับเดินไปนั่งบนเตียงอย่างใจเย็น "พี่ขอโทษที่ยัดเหยียดมากเกินไป แต่ถ้าปราณต์อยากได้คำแนะนำอะไรก็ถามพี่ได้นะ"

    "ขอบคุณนะครับ"ผมพูดพร้อมกับลงมือเขียนจดหมายอีกครั้งก่อนจะใส่ซองจดหมาย

    'Dear, my daisy'

    นี่แหละความเป็นผมเลย...

    ถึงคุณผู้เป็นที่รักและดอกเดซีของผมในตอนฝนพร่ำ

    อื้อหื้อ! แรงไม่ไหว

    "แล้วผมต้องทำไงต่ออะพี่"

    "ก็ลองเอาไปใส่ในตู้ไปรษณีย์ดูสิ ถ้าให้ต่อหน้าโดยที่ไม่ได้ทำความรู้จักกัน มันจะดูแปลกๆไหม"

    "ใช่เลยครับ พี่เนี่ยไอเดียบรรเจิดสุดๆ"ว่าแต่เอาไปใส่ไว้ในตู้ยังไงดีสิ "ไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวพี่บอกทางไปร้านให้"ร้าน ร้านอะไรเหรอครับ "อะไรกันปราณต์ เธอชอบเขาแต่เธอไม่รู้ว่าเขาเปิดร้านดอกไม้เนี่ยนะ"พี่รพีพูดอีกครั้งทำให้ผมพยักหน้ารับ ก็พี่เมลไม่เคยสตอรี่หรือโปรโมตร้านอะไรเลยนี่หน่า

    ผมดูกลายเป็นคนไม่ใส่ใจเขาไปเลยใช่ไหม ไม่ชอบเลยอะ

    สายฝนเริ่มซาลงพร้อมกับผมที่เดินไปหยิบกุญแจรถเพื่อที่จะไปส่งจดหมายที่ร้านตามพี่รพีแนะนำ แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะที่จะได้เห็นเจ้าหญิงของผมอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้แบบนี้

    มันต้องดีมากแน่ๆเลยครับ

    กลิ่นดอกมะลิอ่อนๆลอยมาตามลมพอหันกลับไปมองก็เจอกับพี่รพีที่ยืนคอยอยู่ข้างรถ "ออกมาก็ไม่บอก ผมยังไม่ทันจะบอกเส้นทางเลย"

    'ผมลืมนะ เอาเป็นว่าพี่ซ้อนท้ายผมละกัน'ผมตอบเขาในใจพร้อมกับออกรถโดยมีเขาเกาะไหล่อยู่ข้างหลังราวกับกลัวตายทั้งที่กลายเป็นวิญญาณไปแล้วแท้ๆ

    "เลี้ยวขวาข้างหน้า"เขาบอกทำให้ผมขับตามก่อนจะมาหยุดที่หน้าร้านขายดอกไม้

    'S.Flower'

    ร้านที่ตกแต่งราวกับวิหารกรีกในเทพนิยายด้านหน้ามีพุ่มดอกไม้สีสันต่างๆที่ถูกตัดแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ตัวร้านเป็นสีส้มอ่อนๆผสมกับสีชมพูที่เข้ากันอย่างน่าประหลาดจนผมแอบทึ่งไปสักพัก

    ผิดกับพี่รพีที่มองผมอย่างชื่นชมและหลงใหล รอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจนผมเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากเสียมารยาทไปแอบมองเขาแบบนั้น

    แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ร้านยังไม่เปิด...

    "เสร็จเรียบร้อย"ผมพูดพร้อมกับขี่มอเตอร์ไซต์ออกไปพลันความคิดบางอย่างก็ผุดเข้ามาในหัว"แล้วความปรารถนาสุดท้ายของพี่คืออะไรเหรอครับ"การที่วิญญาณยังไม่สลายหายไปก็คงมีอะไรติดค้างในใจ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเป็นเรื่องของพี่เมลแน่ๆ

    แต่เรื่องอะไรล่ะที่ทำให้วิญญาณของเขาคอยเพียรอยู่รอบตัวเธอแบบนั้น

    "พี่อยากให้เมลเจอคนดีๆ"

    "..."

    "คนที่รักเขา คนที่พร้อมจะดูแลเขาจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต คนที่สามารถทำในเขายิ้มได้ในตอนที่แย่ที่สุด"

    "..."

    "พี่จะได้อุ่นใจว่าพอพี่จากไปจริงๆแล้วสเมลเธอจะอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายได้อย่างมีความสุข"ยังก็แปลว่าพี่เขาจะหายไปก็ต่อเมื่อพี่เมลมีแฟนยังงั้นเหรอ

    หรือไม่การที่เขาอยากจะให้ผมจีบพี่เมลก็เพราะอยากทำความปรารถนาสุดท้ายของตัวเองเป็นจริงจะได้หมดห่วงซะทีแบบนี้ใช่ไหม แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายนะสิ

    ในเมื่อหัวใจของเมลยังมีแต่เขาแบบนี้

    ผมขับรถมาจนถึงหอพักพอหันกลับไปพี่รพีก็หายไปแล้ว ผมงุนงงเล็กน้อยก่อนขับไปจอดในที่ประจำพร้อมกับกดลิฟต์ขึ้นห้องเหมือนเช่นทุกครั้ง

    ติ้ง!

    "ชั้นสี่ค่ะ"

    แต่ที่ไม่เหมือนก็คงเป็นพี่รพีที่มายืนคอยอยู่หน้าลิฟต์เนี่ยสิที่ทำให้ผมตกใจ

    "พี่รู้ว่าถ้าเมลมีใครสักคนอยู่ข้างๆมันต้องดีแน่ๆ"เขาพูดพร้อมกับค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าพร้อมกับส่ายหน้า

    "ช่างเถอะ ถึงรู้ว่าเนื้อคู่ของเมลเป็นใครแต่พี่ก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้อยู่ดี"

    "บอกผมหน่อยได้ไหม"ถ้าไม่ใช่ผมจะได้ตัดใจกลับมาเป็นแฟนคลับที่ดีไม่คิดเกินเลยกับเมนตัวเองแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้

    "ไม่ได้หรอกครับ มันมีผลต่อโชคชะตาของเมล"

    "...."

    "แต่ใบ้ให้ว่าเธอก็มีดีเหมือนกันเพราะฉะนั้นอย่าถอดใจไปก่อนล่ะ"

    คนไม่ใช่สิวิญญาณที่รู้ล่วงหน้ามาบอกแบบนี้ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย

    ก็รู้ว่าพี่เมลอยู่สูงแค่ไหนแต่ไม่เป็นไรหรอกถึงคุณจะไม่ลงมาแต่ผมขึ้นไปหาได้นี่ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย แม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าตกลงมามันจะเจ็บแค่ไหน

    แต่ไม่เป็นไรผมยอมหมดแหละครับ ต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ยังดีกว่าผมไม่ได้ทำอะไรเลย

    "แล้วพี่คบกับพี่เมลได้ไงเหรอครับ"ผมเอ่ยถามตอนที่กลับมาถึงห้องพร้อมกับหยิบกีตาร์ขึ้นมาแกะเพลงใหม่ที่ต้องเล่นในคืนนี้ "ก็เมลทำสมุดเลคเชอร์ตก พี่เก็บได้ก็เลยถือวิสาสะเปิดดูว่าของใคร"

    "...."

    "ก็เห็นว่าชื่อสเมลคณะเกษตรพร้อมกับหน้าหลังที่เขียนว่าชอบพี่"พี่เมลชอบเขาก่อนเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย ตอนแรกผมนึกว่าพี่รพีจีบก่อนซะอีก

    "แล้วพี่ก็ชอบเธอเหมือนกันก็เลยลองๆคุยกันดู"ชายหนุ่มผิวขาวซีดหน้าแดงเล็กน้อยพร้อมกับดันแว่นทรงสี่เหลี่ยมแก้เขิน

    หรือว่าพี่เมลจะชอบผู้ชายแต่งตัวแบบนี้

    ผมหันไปมองเสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซส์สีขาวกับกางเกงผ้าพอดีตัวรวมถึงรูปร่างผอมสูงขนาดนั้น แล้วหันมามองตัวเอง

    โคตรแตกต่างเลยว่าไหม

    ตัวผมทั้งสูงทั้งใหญ่พร้อมกับมัดกล้ามประปราย ใส่เสื้อยืดมือสองตัวละสิบบาทกับกางเกงยีนขาดเข่าจากร้านเดียวกัน

    แล้วผู้ชายแบบผมจะพอมีสิทธิไหมเนี่ย

    หรือไม่ถ้ายึดตามที่พี่รพีบอก ผมว่าเนื้อคู่จริงๆของพี่เมลอาจจะเป็นมิกซ์ก็ได้ ทั้งหน้าตา การแต่งตัวอะไรก็ไม่ได้ต่างจากชายหนุ่มตรงหน้าเท่าไหร่นัก

    จากคู่จิ้นมาเป็นคู่จริงแบบนี้นะเหรอ

    ไม่เอาหน่ายังไม่ทันได้เริ่มอะไรเลยด้วยซ้ำจะอกหักแล้วเหรอ

    ติ้ง!

    การแจ้งเตือนดังขึ้นทำให้ผมกดเข้าไปดูก็เห็นว่าในต๊อกติ๊กของBliningสังกัดที่พี่เมลอยู่ได้เพิ่มคลิปใหม่

    "เมลไม่อยู่เหรอ"พี่รพีถามพอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับเขาที่ลอยมาตอนนั้นก็ไม่รู้ "อืม คงเข้าบริษัทแต่เช้า"ผมตอบพร้อมกับหันไปใส่ใจกับคลิปที่มีพี่สเมลแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีเหลืองอ่อนกำลังเต้นด้วยท่าทางน่ารักน่าชังจนผมแคปไม่ยั้งแล้วฝันก็พังทลายเมื่อมิกซ์ออกมาเต้นด้วยในตอนท้าย

    ท่าทางสนิทสนมรวมถึงมิกซ์ที่นอกท่าเต้นมาดึงแก้มพี่เมลอีกนั้น

    มันทำให้ผมหวง

    "พี่ไม่หวงพี่เมลมั่งเหรอ"ผมถามพี่รพีที่ดูอยู่ข้างกัน เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนรอยยิ้มเศร้าๆจะปรากฏบนใบหน้า "ผมไม่มีสิทธิหรอก แค่เมลมีความสุขผมก็ดีใจแล้ว"ก็อย่างที่ว่าพี่รพีเขาหายไปในโลกแห่งความจริงแล้วเขาคงไม่ได้ยึดติดอะไรมากนอกจากอยากให้พี่เมลมีความสุข

    แต่ผมไม่ใช่ไงผมยังอยู่มีเนื้อมีหนังมีความรู้สึกนึกคิดแต่จะให้เข้าไปหาแล้วบอกว่าชอบนะครับมันก็คงจะไม่ได้

    หมายถึงผมนะปอดแหกทำแบบนั้นไม่ได้หรอก

    ผมกดออกจากแอปพลิเคชันนั้นก่อนจะเข้าไลน์มาแกะเพลงที่พี่หนูเจ้าของผับที่ผมเพิ่งได้งานหลังจากโดนพี่เจ้าของร้านเก่าไล่ออกเพราะเมียแกชอบเปย์ผมแค่นั้น ผมยังไม่ทันจะทำอะไรเลยด้วย...

    แต่ตอนนี้ก็คงได้แต่หวังว่าร้านใหม่ที่ไปจะเงินดีเท่ากับร้านนั้นนะ

    ไม่งั้นผมคงไม่มีเงินมาจ่ายค่าหอแน่ๆลำพังแค่เงินที่บ้านส่งมาเดือนละพันยังไงซะมันก็ไม่พออะไรอยู่แล้ว ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ ค่าเทอมที่ตัวเองเรียนอีก

    โอ้โห้! ถึงจะเป็นมหาลัยเปิดก็เถอะแต่มันก็ต้องใช้เงินอยู่ดี

    ใครกันนะบอกว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ก็ช่วยโอนมาให้ผมหน่อย สำหรับผมนะเงินซื้อได้เกือบทุกอย่าง

    โดยเฉพาะความสุขยิ่งซื้อได้ดีเลยล่ะครับ

    :)


    +++++

    Talk : ความปรารถนาสุดท้ายเพียงแค่อยากเห็นคุณมีความสุข ถึงความสุขนั้นจะไม่ใช่เราก็ตาม

    #กลิ่นของคุณกี

    @Choloris_



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×