ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย [ apink - infinite ]

    ลำดับตอนที่ #9 : Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย :: CHARPTER 8

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 57


    -          8    -






     

     


     

    :: L SIDE ::

     

    ผมปิดประตูดังปังด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความโมโหและสับสน มันเป็นอีกครั้งแล้วที่นาอึนทำปากเก่งใส่ผมและคราวนี้ผมดันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วเผลอพลั้งจูบเธอไปด้วยความโมโห เรื่องพ่อแม่เป็นเรื่องที่ใครก็ห้ามเอามาพูดกับผม! มันเป็นเรื่องที่ผมไม่อยากได้ยิน พ่อแม่ไม่รัก! เด็กขาดความอบอุ่น! เด็กถูกทิ้ง! มันล้วนแต่เป็นคำต้องห้ามสำหรับผม ผมเกลียดคำพวกนี้มาก ก็อย่างที่เห็น... ลองใครมาพูดใส่ผมสิ! แล้วจะรู้ว่าโดนอะไร

     

     

    “โถ่เว้ยย!

     

     

    ผมร้องออกมาอย่างอัดอั้นแล้วก็เดินปึงปังกำลังจะออกจากบ้าน แต่ทว่าเสียงโทรศัพท์ของผมจากที่ไหนก็ไม่รู้ดังขึ้นมาซะก่อน ทำให้ผมหยุดชะงักแล้วก็เดินหาเจ้าโทรศัพท์นั่นให้ควั่ก

     

     

    “มีอะไรยัยตุ๊กตา!” ผมกดรับสายทันทีที่หาโทรศัพท์เจอแล้วก็เห็นชื่อคนที่โทรเข้ามาคือ ยัยยุนโจ แต่น้ำเสียงที่ผมใช้พูดกับเธอมันออกจะเหวี่ยงๆนิดๆ ไม่นิดแหละ มากเลยด้วยซ้ำ

     

     

    “นี่! โมโหไรมายะ?! มาตะคอกใส่ฉันเนี่ยหะ?!” ยัยนั่นแหวกลับใส่ผม จนผมแอบเบ้หน้านิดๆ

     

     

    “ป่าวๆ แล้วมีอะไร ?” ผมพยายามปรับเสียงให้นิ่งถามกลับไป

     

     

    “นายไปมีเรื่องอะไรไว้หะ?! รู้มั๊ย ? ไอ้เด็กนั่นมันมาฟ้องพ่อฉันเนี่ย! พ่อฉันให้มาจัดการเองแล้ว ท่านไม่อยากออกตัวทำอะไร กลัวจะเสียชื่อเสียง”

     

     

    “นี่มันแล่นไปฟ้องพ่อเธออีกคนเหรอ ? แค่อาจารย์ยังไม่พอใช่มั๊ยวะ ?ไอ้เด็กนั่นมันอยากมีเรื่องกับฉันมากเลยใช่มั๊ย?! มันไม่รู้จักฉันรึไง ?” ผมถามคำถามออกมาเป็นชุดพลางคิดอะไรบางอย่างในสมอง

     

     

    “รู้จัก! แต่มันไม่ยอมแก ...แล้วจะทำยังไง ? คราวนี้พ่อฉันบอกให้มาจัดการเองนะเพราะท่านไม่อยากเสียชื่อเสียง ...นักเรียนคนเดียวฉันว่าไม่มีอะไรมากหรอก หึ”

     

     

    “ตอนนี้เด็กนั่นมันอยู่ไหน ?”

     

     

    “น่าจะกลับบ้านไปแล้วนะ”

     

     

    “หาที่อยู่ไอ้เด็กนั่นให้ฉันที”

     

     

    “อืม นายจะทำอะไรก็ตามใจนะ แต่อย่าลืม... ห้ามเสียถึงพ่อฉันนะยะ!” ยัยยุนโจกรอกเสียงแหลมแกมบังคับผ่านตามสายมา ทำเอาผมต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูนิดๆด้วยความที่กลัวว่าจะแสบแก้วหูเพราะเสียงยัยนี่แหลมมากกกกกกกกกก...

     

     

    “รู้แล้วน่า แค่เนี่ยะแหละ” ผมกดตัดสายไปพร้อมกับนั่งรอให้ยุนโจส่งที่อยู่ของไอ้เด็กนั่นมาให้ผม จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีข้อความเข้า ผมรีบเปิดดูแล้วก็ยกยิ้มที่มุมปากทันทีเมื่อหน้าจอโทรศัพท์โชว์ที่อยู่ของไอ้เด็กบ้านั่น

     

     

    ผมรีบกลับไปยังห้องที่ผมขังนาอึนไว้ทันที ผมพยายามปรับสีหน้าให้มาเป็นเรียบเฉยไม่แสดงอาการสงสารหรือสับสนใดๆทั้งสิ้น ทันทีที่ผมเปิดประตูห้องเข้าไปคนที่อยู่ในห้องก็สบตาผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง นั่นมันยิ่งทำให้ผมนึกโมโหอยู่ไม่น้อย

     

     

    “จะเข้ามาทำอะไรอีก!!?” คนตัวเล็กตะโกนถามผมอย่างโมโห ที่ดวงตากลมโตนั้นยังหลงเหลือรอยคราบน้ำตาอยู่เลย นั่นมันทำให้ผมอดที่จะสำนึกผิดไม่ได้ แต่ก่อนที่ผมจะใจอ่อน ผมก็สะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไปทันที

     

     

    “ปากดีอยู่สินะ! ...ลุกขึ้น! ฉันจะพาเธอออกไปทำอะไรสนุกๆ” ผมพูดอย่างนึกสนุกพร้อมยกยิ้มที่มุมปากเย้ยเธอนิดๆ ใบหน้าสวยหวานของเธอแสดงความแปลกใจและสงสัยขึ้นมาทันที

     

     

    “ทำอะไร ?”

     

     

    “บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกสิ” ผมยิ้มกวนประสาทจนคนตัวเล็กแสดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาและนั่นมันทำให้ผมยิ่งนึกสนุกขึ้นไปอีก

     

     

    “ฉันไม่สนุกกับนาย”

     

     

    “นั่นมันเรื่องของเธอ! รีบๆลุกขึ้น ...หรือเธออยากจะอยู่ที่นี่ต่อ ?” ผมมองเธอด้วยสายตาเหยียดๆ นั่นมันทำให้เธอลุกพรวดขึ้นทันที

     

     

    “นายจะพาฉันกลับบ้านแล้วใช่มั๊ย?” เธอถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แต่ผมกลับยืนยิ้มเย็นไปให้

     

     

    “ไม่เชิง ตามฉันมาสิแล้วเธอก็จะรู้” ผมพูดทิ้งท้ายแล้วก็เดินออกไป นาอึนยืนชั่งใจสักพักก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตามผมมาด้วยความลังเล

     

     

     

    ผมขับรถที่มีนาอึนนั่งมาด้วยมาจอดอยู่ที่บ้านหลังไม่ใหญ่มากหลังหนึ่ง ก่อนที่ผมจะลงจากรถและบอกให้นาอึนลงตามมาด้วย ผมก้าวเท้ามาหยุดอยู่ตรงประตูบ้านหลังนี้พร้อมกับเอื้อมมือไปกดกริ่งหน้าบ้าน

     

     

    “บ้านใคร ?” นาอึนที่อยู่ข้างผมถามขึ้นด้วยความสงสัย

     

     

    “เดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง” ผมตอบกลับไปนิ่งๆ ผมและนาอึนใช้เวลายืนอยู่ที่หน้าบ้านสักพัก ก่อนที่ประตูบ้านจะเปิดออก

     

     

    ทันทีที่ประตูบ้านเปิดออกให้เห็นเจ้าของบ้าน ผมก็ส่งยิ้มที่แสนจะเย็นเหยือกไปให้ ใบหน้าเจ้าของบ้านซีดเผือดทันทีที่เห็นผม นาอึนเองก็เช่นกันเธอตกใจอย่างมากที่คนที่เปิดประตูออกมาเป็นเด็กที่ผมมีเรื่องด้วย

     

     

    “สวัสดี” คำพูดสั้นๆจากผมที่เอ่ยออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศเย็นตอนนี้ แล้วผมก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปในบ้านของเด็กนี่โดยไม่ฟังคำเชิญใครเลย ผมเดินกระทบไหล่ของไอ้เด็กนี่เข้ามายืนหยุดอยู่กลางบ้าน พลางส่งสายตาสอดส่องไปทั่วบ้านหลังนี้แบบเหยียดๆไปทั่ว

     

     

    “บ้านหลังเล็กที่ไม่มีอะไรเลย แต่เจ้าของบ้านทำตัวเหมือนบ้านมีทุกอย่าง ไม่กลัวอะไร” ผมพูดขึ้นลอยๆ ทำให้นาอึนและเด็กนั่นมองมาที่ผมอย่างหวั่นๆ

     

     

    “อืมมมมมม ฉันจะทำให้บ้านหลังนี้มันหายไปดีมั๊ย ?? เพื่อสั่งสอนเจ้าของบ้านที่ทำตัวเก่งและก็ขี้ฟ้อง” ผมตวัดสายตาไปยังไอ้เจ้าเด็กบ้านั่นที่ยืนอยู่ข้างๆนาอึน

     

     

    “นี่เหรอเรื่องสนุกของนาย?! นายมีสิทธิ์อะไรมาทำอย่างนี้?! ถามจริง!! สนุกมากมั๊ยรังแกคนอ่อนแอกว่าเนี่ย?!!!!” นาอึนตวาดผมดังลั่นพร้อมกับก้าวเท้าขึ้นมาเพื่อปกป้องเด็กนั่นที่เอาแต่ยืนก้มหน้าไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสู้กับผม

     

     

    “สนุกมาก! เห็นรึยังล่ะนาอึน?! เรื่องสนุกของฉัน!

     

     

    “นายมันบ้าอำนาจชัดๆ คิดว่าตัวเองรวยแล้วก็จะทำอะไรได้สินะ! นายเป็นใครหะ?! รวยมากรึไง?!” นาอึนยืนด่าผมฉอดๆ ผมก็เอาแต่กอดอกฟังเธอด่าอย่างไม่สะทกสะท้าน

     

     

    “ก็ไม่รู้สิ รู้แค่ว่า...ฉันทำให้ไอ้เด็กที่ยืนอยู่หลังเธอไม่มีที่อยู่ได้เลยล่ะ!” ผมตอบแบบยียวน จนนาอึนที่ยืนฟังอยู่หน้าขึ้นสีด้วยความโมโหทันที ส่วนเด็กนั่นน่ะเหรอ? เก่งลับหลังชะมัด! อยู่ต่อหน้าผมทำเป็นกลัวหงอ พอลับหลังก็ปีกกล้าขาแข็งแล่นไปฟ้องคนนู้นคนนี้ หึ! น่าหมั่นไส้!

     

     

    “ฉันไม่ยอมหรอก!

     

     

    “เธอจะทำอะไรได้หะ ? ลำพังแค่ตัวเธอยังเอาไม่รอดเลยนาอึน”

     

     

    “คอยดูแล้วกัน! ...ถ้านายทำให้ผู้ชายคนนี้ไม่มีที่อยู่ได้! ฉันก็จะให้เขามาอยู่กับฉัน!!” นาอึนประกาศเสียงกร้าว ทำให้ผมที่ยืนฟังอยู่ถึงกับถลึงตาขึ้นด้วยความโมโหทันที

     

     

    “นาอึน!!” ผมเรียกชื่อเธอเสียงดังพร้อมปราดเข้าไปชิดตัวเธอ ส่วนเธอก็เชิดหน้าใส่ผมอย่างไม่กลัวเกรง

     

     

    “หึ เผยธาตุแท้มาแล้วสินะ! ขนาดจะยอมให้ผู้ชายเข้าไปอยู่ด้วยเลยเหรอ?? เธอจะด้านไปแล้วนะนาอึน ฉันอายแทนจริงๆ” ผมเบิกตากว้างมองเธอพร้อมกับจ้องแทบจะกินเลือดกินเนื้อ มันเป็นอีกครั้งแล้วที่คำพูดของเธอทำให้ผมโมโหและต้องพูดจาแรงๆใส่เธอไป ยอมรับที่ทำไปเพราะความโมโหและโกรธจริงๆ ความรู้สึกลึกๆของผมยังคงเชื่ออยู่ว่าเธอไม่ใช่อย่างนั้น

     

     

    “มันก็เรื่องของฉัน!

     

     

    “ฉันจะลองทำให้ไอ้เด็กนี่มันไม่มีที่อยู่แล้วจะคอยดูซิว่าเธอจะพามันไปอยู่จริงๆรึป่าว?!” ผมพูดออกไปด้วยความโมโห ให้ตายสิ! ตอนนี้ผมโมโหชะมัด! โมโห โมโหอีกแล้ว โมโหเพราะคนๆเดิม โมโหเพราะความปากเก่งของผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว

     

     

    “พอเถอะครับ” เสียงไอ้เด็กนั่นที่หลบอยู่หลังนาอึนดังขึ้นห้ามศึกระหว่างผมกับนาอึน เรียกให้ทั้งผมและนาอึนหันไปมองตามเสียงนั่น นาอึนทำหน้าสงสัย ในขณะที่ผมโมโหสุดๆ เพิ่งจะพูดได้เหรอไงวะ?!!

     

     

    “คุณสองคนหยุดทะเลาะกันเพราะผมสักที” ไอ้เด็กนั่นมันยังคงพูดต่อและดวงตาของมันเริ่มที่จะดูแข็งๆขึ้นมานิดๆ แต่ผมก็ไม่ได้หวั่นอะไรทั้งนั้น ผมเคยกลัวอะไรที่ไหนล่ะ??

     

     

    “เธอ... เราสองคนไม่ได้รู้จักอะไรกันเป็นการส่วนตัว ไม่ต้องมาคอยออกโรงปกป้องฉันก็ได้ มันทำให้ฉันมันดูน่าสมเพชที่คอยหลบอยู่หลังผู้หญิง” ประโยคนี้ไอ้เด็กนั่นมันหันไปพูดกับนาอึนที่ยืนอึ้งกับคำพูดของไอ้เด็กนั่น ส่วนผมก็ได้แต่แอบลอบยิ้มนิ่งๆ

     

     

    “ส่วนฮยอง...”

     

     

    “ฉันไม่เคยมีน้องอย่างแก!” ผมขัดขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามันเรียกผมว่า ฮยองผมไม่ชอบนะ ไม่สนิทกันแต่มาเรียกเหมือนสนิท ยิ่งไม่ชอบขี้หน้าแล้วก็อย่าทำให้มันเกลียดไปมากกว่านี้เลยว่ะ!

     

     

    “ก็ได้ ...ส่วนคุณอยากทำอะไรก็ทำ ผมรู้คุณรวยทำได้ทุกอย่าง แค่บ้านหลังเล็กๆกับชีวิตผม คุณอยากจะทำอะไรก็ทำได้ เพียงแต่ผมอยากให้คุณคิดสักนิด ว่าถ้าเกิดมีคนมาทำอย่างนี้กับคุณบ้างล่ะ ? คุณจะรู้สึกยังไง ?” ได้ยินมั๊ยครับ? ไอ้เด็กนี้มันสอนผม มันสอนผม! มันเป็นใคร? กล้าดียังไงมาสอนผม?! แม้แต่พ่อยังสอนผมไม่ได้เลยนะ! อย่างนี้ต้องจัดสักหน่อย

     

     

    พั๊วะ!!

     

     

    ผมเหวี่ยงหมัดไปกระแทกหน้าที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวของไอ้เด็กนั่น จนหน้ามันหันไปเลยล่ะ นาอึนเองก็ตกใจไปเลย เธอรีบปรี่เข้าไปประคองมันทันทีที่ได้สติ เห็นอย่างนี้แล้วมันน่าจัดอีกสักหน่อยนะ! หมั่นไส้โว้ยยย!

     

     

    “อย่ามาสอน! เตรียมตัวรับมือกับปัญญหาที่แกท้าทายมันได้เลย!” ผมพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเข้าไปกระชากนาอึนที่ประคองไอ้เด็กนั่นให้ออกห่างและตามผมออกไป เธอออกแรงทั้งดิ้น เตะ ถีบผมสารพัด แต่ด้วยความที่ผมโมโหอ่านะ ผมเลยมีแรงเหลือเยอะกว่าทำให้จับเธอมายัดใส่รถของผมได้สำเร็จพร้อมกับขับกระชากออกไปทันที

     

     

    “ไอ้คนโรคจิต! นายคิดว่านายเป็นใครหะ?! ถึงได้รังแก บังคับ ขู่เข็ญคนเค้าไปทั่ว!!” นาอึนโวยวายเสียงดังในรถของผมทันทีที่รถแล่นออกมา แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรหรอก ผมยังคงปล่อยให้เธอโวยวายไปโดยที่ผมไม่ได้สนใจอย่างงั้น

     

     

    “คิดว่าตัวเองรวยแล้วก็จะทำอะไรได้สินะ! คิดว่าไปทำอย่างนั้นแล้วนายดูดีและเท่ตายแหละ!” เธอยังคงโวยวายไม่หยุดครับ

     

     

    “คนอย่างนายมันขาดความอบอุ่นจริงๆสินะ! หึ!

     

     

    เอี๊ยดดดดด~~

     

     

    “โอ๊ยย!

     

     

     

    ผมเหยียบเบรกจนคนที่โวยวายเมื่อกี้หัวทิ่มไปข้างหน้าเลย ผมหันกลับไปจ้องคนตัวเล็กที่ร้องโอ๊ยเพราะว่าหัวกระแทกด้วยความโมโหอีกครั้ง ขาดความอบอุ่นงั้นเหรอ? อีกแล้วนะนาอึน!

     

     

    “ขาดความอบอุ่น ? คนอย่างฉันน่ะเหรอ ? ถ้าเธอไม่อยากโดนฉันจูบอีกก็หุบปากซะ!!” ผมขู่เธอออกไปอย่างเหลืออด จนเธอทำหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจแต่ก็เป็นอันต้องหุบปากลงอาจจะเพราะกลัวในคำขู่ของผมก็เป็นได้

     

     

    เมื่อเห็นว่านาอึนเริ่มจะสงบลงแล้วผมก็หันกลับมาสนใจถนนข้างหน้าต่อแล้วก็ขับรถออกไปโดยมีคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆไม่รบกวนหรือโวยวายอะไรแล้ว

     

     

    ผมขับรถมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของนาอึน ทันทีที่ล้อรถของผมหยุดนาอึนก็แทบจะกระโจนลงไปเลย แต่ดีที่ผมรั้งไว้ก่อน

     

     

    “มีอะไร ?” เธอหันมาถามผมเสียงห้วนๆ

     

     

    “ถ้าฉันทำให้ไอ้เด็กนั่นไม่มีที่อยู่จริงๆ เธอจะให้มันมาอยู่ด้วยจริงเหรอ ?” ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งที่ไม่ได้สื่อความรู้สึกอะไร แต่ในใจผมเนี่ยร้อนรุ่มยิ่งกว่าอะไร ผมไม่ยอมหรอกนะ! ถ้าจะให้ไอ้เด็กนั่นมาอยู่กับนาอึนอ่ะ! ไม่ยอมจริงๆ

     

     

    “ก็ถ้านายทำ ฉันก็จะทำ!” เธอตอบด้วยใบหน้าแสนนิ่ง ผู้หญิงคนนี้ดื้อรั้นจริงๆ ดื้อไม่เปลี่ยนแปลง ความอ่อนหวานที่เคยมีมันก็หายไปไหนนะ? มีแต่ความดื้อรั้นเนี่ยที่ไม่หายไปไหน

     

     

    “เธอกล้าขนาดนั้นเลยเหรอ ?” ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

     

     

    “ก็ลองดูสิ” เธอจ้องใบหน้าของผมอย่างท้าทาย ผมเองก็จ้องเธอไม่วางตาเลย ผมมองเข้าไปในดวงตากลมโตนั้นเพื่อที่จะค้นหาความจริงว่าเธอกล้ารึป่าว? แต่ก่อนที่ผมจะได้คำตอบอะไร เธอก็หลบหน้าผมพร้อมเปิดประตูลงไปทันที ผมก็ได้แต่มองตามร่างบางที่ผมเคยรักไปด้วยความรู้สึกน้อยใจนิดๆอย่างบอกไม่ถูก

     

     

     

    ผมกลับมาที่บ้านของผมก็พบกับพ่อของผมที่นั่งเด่นสง่ากลางบ้านของผมราวกลับเป็นเจ้าของบ้านซะเองโดยมีแม่ของผมที่นั่งอยู่ข้างๆพ่อ ผมถอนหายใจนิดๆ พอจะรู้เหตุผลที่พ่อถ่อมาหาผมที่บ้านหลังนี้อยู่แล้วล่ะ

     

     

    “ไหนว่าจะตัดผมออกจากการเป็นลูกไง ? แต่ไหงกลับมาที่บ้านผมล่ะครับ ?” ผมถามพ่อของผมออกไปอย่างยียวนกวนประสาท เล่นเอาพ่อของผมแทบลุกขึ้นมาต่อยหน้าผมเลย ดีนะที่คุณแม่ผู้แสนดีของผมจับไว้ก่อน ท่านเลยเย็นลง ผมเหมือนโรคจิตป้ะล่ะ? ชอบกวนประสาทพ่อตัวเอง

     

     

    “อย่าปากดีให้มากนัก! ฉันมาที่นี่ก็เพื่อมาจัดการกับแก...” พ่อของผมพูดออกมา ดูก็รู้ว่าท่านพยายามข่มอารมณ์โมโหที่มันกำลังจะระเบิดออกมาสุดๆ แล้วถ้าผมเป็นคนทำให้ท่านระเบิดออกมาล่ะ? ฮ่าๆๆ โรคจิตดีนะผม

     

     

    “เรื่องเด็กนั่นผมจัดการเองได้ พะ...”

     

     

    “จัดการของแกก็คือ ไปทำร้าย ไปขู่เข็ญเค้าใช่มั๊ย?!!” พ่อของผมพูดสวนออกมาอย่างรู้ทัน ผมนิ่งไปสักพักแล้วก็ยกยิ้มขึ้นมาเป็นเชิงกวนประสาทไปในตัว ฮ่าๆ พ่อผมเก่งชะมัด!

     

     

    “พ่อนี่รู้ทันผมจริงนะครับ J

     

     

    “ฉันเป็นพ่อแก! ทำไมฉันจะไม่รู้?!! แกหยุดความคิดบ้าๆของแกเลยนะ! ปล่อยเด็กนั่นไปแล้วก็อยู่อย่างสงบสุขซะ!” พ่อของผมยื่นข้อเสนอมา ว้าวววว เชื่อเถอะว่าผมจะทำ!

     

     

    “หึๆ อยู่อย่างสงบสุข ? ผมอยู่ไม่ได้หรอกครับ... ใครที่มันเข้ามามีเรื่องกับผม พ่อก็รู้ว่าผมไม่เคยปล่อยให้มันอยู่อย่างสงบสุข เหมือนพ่อไงล่ะ!

     

     

    พั๊วะ!!

     

     

    ผมหน้าหันทันทีที่โดนหมัดหนักๆของพ่อเข้า โอ๊ยยย เจ็บชะมัด! พ่อผมหมัดหนักเป็นบ้าเลย ผมได้ยินเสียงของแม่ของผมร้องออกมาด้วยความตกใจด้วยแหละ แม่คงเป็นห่วงผมและตกใจสุดๆแน่ ท่านปรี่เข้ามาดูผมทันทีที่ได้สติ

     

     

    “เลือด!” เสียงแม่ของผมร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของผม ท่านจับจ้องมาที่มุมปากของผมด้วยความตกใจ ซึ่งผมเดาว่าผมคงปากแตกนั่นเอง เห้ยย ทำไมพ่อผมหมัดหนักอย่างงี้?? ว่าแล้วเชียวเจ็บขนาดนี้ต้องปากแตกแน่ๆ

     

     

    “คุณ! ทำร้ายลูกทำไม?!!” แม่ของผมจ้องเขม็งไปที่พ่อที่ยังคงยืนโมโหอยู่อย่างคาดโทษ ท่านจ้องพ่อของผมอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเลย แม่ของผมเวลาโกรธนะน่ากลัวสุดๆเลยล่ะ

     

     

    “คุณก็เห็นว่ามันปากดีกับผมก่อน!!” พ่อของผมเถียงกลับครับ

     

     

    “แล้วทำไมต้องถึงกลับทำร้ายลูกด้วยหะ?! คุณเป็นพ่อประสาอะไร?!” แม่ของผมเริ่มเข้าโหมดเสียงดังแล้วครับ เล่นเอาพ่อของผมเริ่มแสดงสีหน้าเหวี่ยงๆออกมาอีกแล้ว

     

     

    “คุณก็เอาแต่เข้าข้างมัน จนมันกร่างไปทั่ว เสียคนหมดแล้วเนี่ย!!” น่านไง มาวิจารณ์นิสัยผมแล้วไง ผมอยากจะเถียงออกไปเหลือเกินว่าผมจะกร่างยังไง ผมก็ไม่เสียคนหรอกน่า!!

     

     

    “ฉันเชื่อใจลูกของฉันว่าเขาจะไม่เสียคนแน่นอน!

     

     

    “เออ! เอาเข้าไปเข้าข้างมันเข้าไป ต่อไปถ้ามันไปฆ่าคนมาเธอก็คงจะเข้าข้างมันสินะ!” พ่อของผมพูดอย่างโมโหสุดๆ เมื่อทำอะไรไม่ได้ท่านก็เดินปึ้งปั้งออกไปโดยไม่หันกลับมาหาเราสองแม่ลูกเลยสักนิด

     

     

    “เป็นไงบ้างลูก ?” แม่หันมาถามผมด้วยความเป็นห่วง

     

     

    “นิดหน่อยครับ ขอบคุณแม่นะครับที่อยู่ข้างผม” ผมพูดด้วยความซึ้งใจพร้อมโผลเข้ากอดแม่ของตัวเองซะแน่น ท่านกอดตอบผมเบาๆ ผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่ผมได้รับอ้อมกอดนี้มันอบอุ่น อบอุ่นเหลือเกินอบอุ่นที่สุดด้วยซ้ำ! แม่เป็นคนเดียวที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด ซึ่งแน่นอนผมรักท่านมากๆ ลองใครมาทำร้ายท่านสิ! ผมเล่นตายแน่!

     

     

    “ลูกเป็นลูกแม่ แม่ก็ต้องอยู่ข้างลูกสิ” แม่ของผมพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพร้อมกับลูบหลังผมเบาๆ อบอุ่นชะมัด อ้อมกอดที่ได้จากแม่อบอุ่นจริงๆ ผมไม่รู้หรอกว่าอ้อมกอดของพ่อจะอบอุ่นแบบนี้มั๊ย? ผมไม่เคยกอดท่านเลยสักครั้งตั้งแต่จำความได้ เพราะอะไรก็คงรู้ๆกันอยู่ ความสัมพันธ์ของผมกับพ่อเป็นแบบไหนทุกคนก็รู้อยู่

     

     

    “ผมรักแม่”

     

     

    “แม่ก็รักลูก J

     

     

    “เรื่องเด็กคนนั้น แม่ขอล่ะ อย่าไปทำอะไรเค้าเลยนะ เดี๋ยวพ่อจะโกรธไปมากกว่านี้” แม่ของผมพูดขึ้นในขณะที่ยังกอดผมอยู่ ผมก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี...

     

     

    “ได้มั๊ย?” แม่ผมถามคำตอบอีกครั้ง เอาแล้วไง... กะว่าจะสั่งสอนสักหน่อย แม่เล่นมาขออย่างนี้แล้วผมจะทำยังไง??

     

     

    “...”

     

     

    “แม่ขอสักครั้ง”

     

     

    “...”

     

     

    “ว่าไง ?”

     

     

    “...ครับ” ผมอดจะรับปากแม่ของผมไปไม่ได้ ท่านไม่เคยขออะไรผมเลยนะ แล้วท่านมาเอ่ยปากขออย่างงี้จะให้ผมปฏิเสธไปก็ยังไงอยู่นะ ก็ผมบอกไปแล้วว่าผมรักแม่ เรื่องแค่นี้ผมก็ต้องให้ท่านได้สิ!





     



    Hey! อันยองงงง






     

    : : Writer Talk : :
    อันยองฮะ!
    ไรต์คัมแบล็คแล้ววว
    ฮ่าๆ ทั้งที่บอกว่าจะไม่อู้แต่ไรต์ก็อู้อีก
    คิคิ ขอโทษนะ^^
    อย่าลืมเม้นต์ๆนะทุกคน >O<





     

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×