ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย [ apink - infinite ]

    ลำดับตอนที่ #12 : Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย :: CHARPTER 11

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 57


    -          11  -









     

     

    : : NAEUN’s SIDE : :

     

    ฉันยืนจ้องหน้าชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาผิวสีเข้มสูงราวๆร้อยแปดสิบเซนปลายๆตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวพลางแขนทั้งสองข้างก็ช่วยพยุงแทมินไว้ ชายหนุ่มคนนั้นยกยิ้มนิดๆพร้อมกับปรายตามองมาที่ฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า

     

     

    “มินโฮโอป้า!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาพร้อมกับเจ้าตัวที่วิ่งออกมาจากห้องข้างในเข้ามาในห้องนี้ด้วยใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา เธอมองฉันกับแทมินด้วยความอึ้งปนแปลกใจ ผู้ชายที่ดูน่ากลัวตรงหน้าฉันผู้เป็นเจ้าของชื่อว่ามินโฮหัวเราะหึทันทีที่เห็นสายตาของหญิงสาวคนนั้นที่มองมาที่ฉันกับแทมิน

     

     

    “เห็นรึยังซอลลี่?!! โอป้าบอกแล้วมันไม่ได้รักซอลจริงๆ” มินโฮพูดพร้อมมองฉันกับแทมินด้วยสายตาเหยียดหยาม แล้วทันใดนั้นลูกน้องของมินโฮก็วิ่งออกมาจากข้างในอีกเพื่อมาจับซอลลี่ไว้ ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งหลุดพ้นจากพวกนี้มาหมาดๆอย่างงั้น

     

     

    “ไม่ต้องจับแล้ว” มินโฮหันไปสั่งลูกน้องของตัวเอง ซึ่งพวกนั้นก็ปล่อยเธออย่างว่าง่ายทันที

     

     

    “ซอลลี่ฟังฉันก่อน” แทมินที่ยืนเลือดไหลอยู่ข้างตัวฉันพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ซอลลี่อย่างขอความเห็นใจ

     

     

    “ยังต้องฟังอะไรล่ะ?! เห็นกับตาว่าแกมันไม่ซื่อสัตย์จริงๆ หึ!” มินโฮพูดพร้อมกับหัวเราะเย้ยๆแทมิน ฉันรู้สึกว่าแทมินเองก็กำลังเริ่มโมโหแล้วเหมือนกัน ดูได้จากเสียงกัดฟันกรอดๆระงับอารมณ์โมโหของเขาไว้

     

     

    “ซอลจะฟังพี่แทมิน!” เจ้าของร่างบางขึ้นเสียงใส่ผู้ชายคนนั้นที่ยืนยิ้มเยาะแทมินกับฉันจนเขาสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

     

     

    “ซอลลี่! น้องจะโง่เชื่อมันไปถึงไหน?!” มินโฮพูดตวาดกลับมาด้วยความโมโหแต่ซอลลี่ก็ไม่ได้ตกใจหรือกลัวเกรงอะไรเลย เธอเดินเข้ามาหาแทมินเพื่อขอคำตอบโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่ปั้นปึ้งโมโหแต่อย่างใด

     

     

    มินโฮตรงเข้ามากระชากแขนของซอลลี่ให้กลับไปหาตัวเองทันที ซึ่งแทมินเองก็ไม่ยอมเหมือนกันเขาปล่อยฉันออกเพื่อไปรั้งซอลลี่ไว้ ทั้งสองคนจ้องหน้ากันไปมาเหมือนกำลังใช้สายตาต่อสู้กันอย่างไงอย่างงั้น

     

     

    “มินโฮโอป้าปล่อย!” ซอลลี่พูดเสียงเข้มพลางมองเจ้าของชื่อด้วยสายตาขุ่นเคือง

     

     

    “โอป้าเป็นพี่ชายเธอนะ! ทำไมซอลถึงรักมันมากกว่า?!” มินโฮมองน้องสาวตัวเองอย่างโมโหแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนของเธอออก

     

     

    “ซอลไม่ได้รักพี่แทมินมากกว่าโอป้าเลยนะ... เพียงแต่เรื่องหัวใจก็ส่วนเรื่องหัวใจ เรื่องโอป้าก็ส่วนของโอป้า ซอลรักทั้งสองคน!

     

     

    “แต่เธอเข้าข้างมันมากกว่าโอป้า!

     

     

    “โอป้าหยุดเถอะ! ซอลอยากฟังความจริงจากพี่แทมิน!” ซอลลี่พูดเสียงเข้มพร้อมกับหันไปขอคำตอบจากแทมินต่อ แต่มินโฮก็ยังไม่หยุดพูดจาแขวะต่อ

     

     

    “ความจริงหรือคำโกหกที่ซอลอยากฟังจากมัน?!” มินโฮพูดพร้อมมองฉันกับแทมินด้วยสายตาขุ่นๆ

     

     

    “ถ้าโอป้าไม่หยุดก็กลับไปเลย เอาลูกน้องโอป้ากลับไปด้วยล่ะ!

     

     

    “โอป้าจะกลับก็ต่อเมื่อซอลกลับกับโอป้า! ซอลมาอยู่กับมันมากเกินไปแล้ว”

     

     

    “ไม่! โอป้าหยุดก่อนได้มั๊ย?!!” ซอลลี่หันไปตวาดแว้ดเสียงดังใส่มินโฮพร้อมกับจ้องเขาด้วยความโมโหอย่างสุดทน มินโฮเองก็โมโหไม่ต่างกันที่โดนน้องสาวตวาดใส่

     

     

    “ไม่!

     

     

    “พี่แทมินพูดมานี่ใคร?!” ซอลลี่เลิกสนใจมินโฮหันมาทวงคำตอบจากแทมินแทน ซึ่งมินโฮเองก็มิวายสอดแทรกเข้ามาอีก แต่เธอก็ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นธาตุอากาศไม่มีตัวตนแทน

     

     

    “ถามแปลกๆก็กิ๊กใหม่มันไง!!

     

     

    “ใครพี่แทมิน ?”

     

     

    “นาอึน... เพื่อนใหม่พี่” แทมินพูดเสียงเบาพร้อมกับสบตาเจ้าของคำถามเพื่อแสดงเจตนาบริสุทธิ์ ส่วนนายมินโฮก็ยังคงเป็นอาหารเสริมอีกเหมือนเคย

     

     

    “เพื่อนนอนใหม่อ่ะสิ!” ฉันฟังคำพูดของเขาถึงกับโมโหปี๊ดขึ้นมาทันที ตอนแรกว่าจะไม่ยุ่งแล้วนะ ดันมาปากดีดูถูกฉันซะนี่!!

     

     

    “นี่คุณ! พูดจาดีๆหน่อย! อย่ามาดูถูกคนอื่นเขาอย่างงี้ ถ้าไม่รู้จักเค้าดีพออ่ะ!

     

     

    “ฉันพูดผิดรึป่าวล่ะ?! เธอกับมันเป็นเพื่อนนอนกันรึป่าวล่ะหะ?!” มินโฮลอยหน้าลอยตาถามกลับฉันมาเล่นเอาฉันอยากจะกระทืบมาเฟียซะตอนนี้เลยล่ะ แต่ฉันมันก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆจะไปสู้อะไรเขาได้!

     

     

    “เราสองคนเป็นเพื่อนกัน! หวังว่าคุณคงเข้าใจคำว่าเพื่อนนะ!” ฉันย้ำชัดพลางส่งสายตาขุ่นๆกลับไปหาเขา

     

     

    “แต่เพื่อนก็มีหลายประเภทนะ เพื่อนกิน... เพื่อนตาย... เพื่อนนอน...”

     

     

    “มินโฮโอป้าหยุดได้แล้ว! โอป้าเป็นอะไรของโอป้านักหนาหะ?! ทำไมจ้องจะแขวะคนอื่นเขาอยู่เรื่อย?!” คราวนี้เป็นซอลลี่ที่เป็นคนห้ามปรามไว้ แต่คนอย่างนายนั่นรึจะหยุด! จากที่ฟังมาเขาไม่เคยหยุดเลยนะ จ้องจะแขวะแซะคนอื่นเขาตลอด ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้!!

     

     

    “โอป้าไม่อยากให้ซอลโดนหลอก! ซอลโดนไอ้แทมินมันหลอกหลายครั้งแล้วนะ คราวนี้โอป้าไม่ยอมจริงๆด้วย โอป้าเคยห้ามซอลว่าอย่าคบมัน! ซอลก็คบ! แล้วโอป้าเตือนหลายครั้งแล้วเรื่องมัน ซึ่งก็เป็นจริงตลอด คราวนี้มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว” มินโฮยืนยันหนักแน่นพร้อมกับจ้องใบหน้าขาวซีดของน้องสาวตัวเองแล้วก็หันไปมองแทมินแบบเคืองๆ

     

     

    “แต่คราวนี้ซอลเชื่อพี่แทมินและนาอึน!

     

     

    “ทำไมถึงเชื่อมันง่ายนักล่ะซอล?!

     

     

    “ไม่มีเหตุผลที่ซอลต้องไม่เชื่อนิ! โอป้านั่นแหละ! ที่ไม่เข้าใจอะไรและระแวงไปซะหมดทุกอย่าง”

     

     

    “แต่โอป้าก็ระแวงแล้วมันก็ถูกทุกครั้งไม่ใช่รึไง ?”

     

     

    “คราวนี้มันไม่ถูกแน่ครับ! เพราะผมกับนาอึนเราเป็นเพื่อนกันจริงๆ” แทมินพูดแทรกมาเพื่อยืนยันความหนักแน่น แต่มินโฮก็ตาขวางขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงของแทมิน

     

     

    “ใครขอความเห็นแก ?”

     

     

    “โอป้า! ทำไมเป็นคนแบบนี้เนี่ย?! โอป้ามาทำลายห้องและก็ทำร้ายพี่แทมินไม่พอยังจะมาพูดจาแบบนี้กับเขาอีกนะ!!

     

     

    “โอป้าทำเพื่อซอล!

     

     

    “ไม่จริง! ถ้าโอป้าทำเพื่อซอลจริงๆ โอป้าต้องยอมให้ซอลคบกับพี่แทมิน!

     

     

    “โอป้าไม่อยากให้ซอลต้องเสียใจเพราะมัน!

     

     

    “แต่ซอลรักพี่แทมิน! ซอลไม่สนใจว่าซอลจะเสียใจรึป่าว?! เหมือนกับที่โอป้าไม่สนใจไงว่าจะเสียใจรึป่าว?!” ซอลลี่เริ่มขึ้นเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แต่เหมือนเธอกำลังจะโยงเรื่องของเธอไปหาเรื่องบางอย่างของพี่ชายเธอ ซึ่งดูแล้วคงเป็นเรื่องสำคัญเลยล่ะเพราะหน้าของมินโฮดูจะแปลกๆไปจากเก่า

     

     

    “อย่าพูดถึงเรื่องนี้”

     

     

    “ทำไมล่ะคะ?! โอป้าน่าจะเข้าใจนะว่าซอลจะเสียใจขนาดไหน ? เวลาที่เลิกกันและก็ไม่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักเนี่ย!!” คำพูดของซอลลี่ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่เพราะใบหน้าหล่อเข้มของมินโฮดูจะหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งฉันคิดว่าแทมินก็คงสังเกตเห็นเหมือนกันกับฉัน

     

     

    “...”

     

     

    “ซอลขอโทษ” เมื่อเห็นท่าทีของพี่ชายที่เปลี่ยนไป ซอลลี่จึงรู้ตัวว่าทำอะไรผิดพลาดไปแล้ว เธอจึงเอ่ยมันออกมาอย่างรู้สึกผิดพร้อมกับแตะข้อมือของพี่ชายตัวเองเบาๆ

     

     

    “อยากจะอยู่กับมันก็อยู่ไปเลย” มินโฮพูดจบก็เดินออกไปด้วยท่าทางอ่อนแรงเหมือนถูกจี้ใจดำจนอ่อนแรงอย่างงั้น ส่วนพวกลูกน้องของเขาก็ตามเจ้านายออกไปทันที

     

     

    “ซอลลี่... ตามไปง้อมินโฮฮยองเถอะ” แทมินหันไปบอกซอลลี่ที่ยืนอึ้งมองตามพี่ชายที่เดินหายออกไป เธอมองแทมินเพื่อขอความเห็นกรายๆ

     

     

    “ฉันไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่คงเป็นเรื่องที่ทำร้ายหัวใจฮยองเขามากเลยนะ... ดังนั้นซอลไปง้อฮยองเขาเถอะ ฉันไม่เป็นไร” แทมินพูดพร้อมยิ้มบางๆให้กับซอลลี่ เธอมองหน้าเขาสักพักแล้วก็หันมามองฉันอย่างพิจารณาบางอย่าง

     

     

    “ฉันจะกลับแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง” เหมือนฉันพอจะเดาความคิดเธอได้ ฉันจึงพูดโพล่งออกไปพร้อมกับส่งยิ้มบางๆไปให้กับเธอ ...ซอลลี่ เธอยังคงไม่ไว้ใจฉันมากสักเท่าไหร่หรอก

     

     

    “เดี๋ยวซอลกลับมานะพี่แทมิน” ซอลลี่หันไปบอกกับแทมิน เมื่อเห็นเขาพยักหน้ารับรู้เธอจึงรีบวิ่งตามพี่ชายของตัวเองออกไปทันที ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจแทน

     

     

    “ฉันจะไปส่ง ไปสิ” เสียงของแทมินเรียกให้ฉันที่มองตามซอลลี่ออกไปให้หันมามองเขาแทน

     

     

    “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่อยากถูกเข้าใจผิดและอีกอย่างสภาพนายแบบนี้ทรมานป่าวๆน่ะ” ฉันมองสภาพของแทมินที่ตอนนี้ดูจะยับเยินเลยล่ะ เลือดสีแดงสดไหลออกมาตามหางคิ้วและปาก เสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ไปหมด ซึ่งฉันเดาได้ว่าคงจะสู้กับพวกลูกน้องของมินโฮก่อนที่ฉันจะวิ่งมาถึงห้องนี้น่ะ

     

     

     

    ฉันกลับมาถึงบ้านตัวคนเดียวเพราะปฏิเสธการแสดงน้ำใจของแทมินที่ดื้อดึงจะมาส่งฉันซะให้ได้ แต่ฉันก็อ้างเหตุผลร้อยแปดกับเขา จนเขายอมอ่อนข้อให้ แต่ก็มีการแอบขู่ว่าคราวหน้าฉันต้องให้เขามาส่งนะ ทำอย่างกะฉันจะไปไหนกับเขาอีกน่ะ!

     

     

    ความจริงแล้วแทมินดูจะรักซอลลี่มากๆเลยนะ จากเหตุการณ์วันนี้ที่ฉันเจอมา เขาเร่งรีบไปหาเธอทันทีที่ได้ยินเสียงเธอร้องไห้ ยอมโดนไอ้พี่ชายบ้าของซอลลี่แขวะและโดนลูกน้องของไอ้บ้านั่นซ้อม ฉันว่าเขาเป็นแฟนที่ดีเลยล่ะ ถ้าไม่ติดที่ว่าเจ้าชู้อ่ะนะ...

     

     

    “ไปเข้าโรงแรมกับผู้ชายมาเป็นไงบ้างล่ะ ?” น้ำเสียงคุ้นเคยทำให้ฉันชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปในบ้านทันที ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร!

     

     

    “แล้วทำไมกลับมาคนเดียวล่ะ ? มันไม่มาส่งรึไง ? ...ก็อย่างว่าล่ะนะ เมื่อได้สิ่งที่อยากได้ เธอมันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป” ฉันหันไปมองเจ้าของเสียงด้วยความโมโหทันที แอลยืนกอดอกมองมาที่ฉันด้วยสายตาดูถูกเหมือนเคย

     

     

    “พูดอะไรของนาย ? แล้วมาทำไมต้องการอะไรจากฉันอีก?!!

     

     

    “ฉันก็แค่อยากเห็นสภาพเธอว่าจะกลับมาแบบทรุดโทรมขนาดไหน ? แต่ก็ไม่ทรุดโทรมเลยนี่! สุดยอดเหมือนกันแหะ!!” แอลยกยิ้มที่มุมปากนิ่งๆ ฉันก็ได้แต่มองเขาอย่างงงๆว่าเขากำลังพล่ามเรื่องอะไรอยู่?

     

     

    “นายพูดเรื่องอะไรของนาย ?”

     

     

    “อย่าทำใสซื่อหน่อยเลยนาอึน! ผู้หญิงเข้าโรงแรมกับผู้ชายมันจะมีอะไรได้?!! หึ!!” เขาหัวเราะในลำคอพร้อมกับมองฉันด้วยสายตาที่ดูถูกแบบสุดๆ ฉันยังเจ็บเพราะเขาไม่พอใช่มั๊ย? ถึงทำแบบนี้กับฉันอีก!

     

     

    “นายมารู้ได้ไงว่าฉันไปเข้าโรงแรมกับผู้ชาย?! แล้วนายคิดว่าสิ่งที่นายกำลังพูดมันถูกแล้วเหรอ?!

     

     

    “ถ้าฉันอยากรู้เรื่องเธอมันไม่ยากหรอกนะนาอึน! แล้วฉันก็คิดว่าฉันพูดถูกนะ!!

     

     

    “ถ้าจะมาเพราะพูดเรื่องบ้านี่แล้วคิดไปเอง ก็เชิญตามสบาย!” ฉันพูดจบก็หันหลังกลับเตรียมที่จะเข้าไปในบ้าน แต่แอลก็เข้ามากระชากฉันจนฉันต้องหันไปเผชิญหน้ากับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

     

     

    “อย่าเดินหนีฉัน! ...เพราะฉันพูดแทงใจดำสินะถึงรับไม่ได้!” แอลพูดด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธพร้อมบีบแขนของฉันเพื่อระบายอารมณ์ของเขา จนฉันต้องเบ้หน้าออกมาเพราะความเจ็บ

     

     

    “ฉันเจ็บนะ! ปล่อย!

     

     

    “เจ็บเหรอ ? ดีสิ! เธอมีความรู้สึกกับเขาด้วยเหรอ ?”

     

     

    “ฉันก็เป็นคน! ทำไมฉันจะมีความรู้สึกไม่ได้!?” ฉันพูดเสียงดังใส่หน้าเขา

     

     

    “ฉันแปลกใจนะที่เธอมีความรู้สึกกับเขาด้วย! แต่ฉันก็อยากให้เธอรู้ไว้! ที่เธอทำทุกอย่างฉันเจ็บกว่าเธออีก!!” แอลไม่พูดเปล่าเขาออกแรงบีบแขนของฉันเพิ่มมากขึ้นด้วย ฉันทำหน้าเหยเกเพิ่มมากขึ้น ป่านนี้กระดูกฉันหักไปแล้วมั้ง? บีบซะขนาดนี้กะให้แหลกคามือเลยสินะ!

     

     

    “โอ๊ยย...” ฉันอดที่จะร้องออกมาไม่ได้เพราะเหมือนกับว่ามันเจ็บกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เขากำลังโมโหบางอย่าง แต่ก็พยายามที่จะสะกดกลั้นมันไว้ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาโมโหอะไรมา

     

     

    “สำออยจัง! เหอะ!” เขาพูดเหยียดๆพร้อมกับปล่อยแขนฉันออก

     

     

    “นายต้องการอะไรของนาย ? บอกฉันมาดีกว่าแล้วเราก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก!” ฉันยื่นคำขาดให้เขาเป็นทางเลือก แต่ดูเหมือนไม่ใช่คำพูดที่ดีสักเท่าไหร่เพราะมันไปทำให้เขาโมโหเพิ่มมากขึ้นน่ะสิ!

     

     

    “ไม่มีทางหรอกนาอึน! เราต้องเจอกันไปอีกนาน! ฉันจะอยู่ทรมานเธออย่างนี้ตลอดไป!

     

     

    “โรคจิตชัดๆ นายมันโรคจิต! คอยติดตามชีวิตฉันแล้วยังมาก่อกวนอีก!

     

     

    “เออ! ฉันมันโรคจิต! แล้วที่ฉันเป็นอย่างนี้ก็เพราะเธอ! จำไว้! ...แล้วขอเตือนนะ! การที่เธอเอาตัวเองไปยุ่งกับไอ้ผู้ชายคนนั้น มันไม่ได้สนุกอย่างที่เธอคิดหรอกนะ!

     

     

    “นายรู้จักเขารึไงหะ?!

     

     

    “มันก็เรื่องของฉัน! ...ดูจากสภาพเธอตอนนี้คงยังไม่เสร็จมันสินะ! ดีหน่อยที่ไม่ยอมให้มันง่ายๆ”

     

     

    เพี๊ยะ!!!

     

     

    ฉันฟาดฝ่ามือเข้าใส่ใบหน้าหล่อทันทีที่เขาพูดจบ มันจะดูถูกฉันเกินไปแล้วนะ! เห็นฉันง่ายขนาดนั้นเลยรึไง?! ฉันมองใบหน้าของแอลที่ขึ้นรอยฝ่ามือของฉันด้วยความน้อยใจ ทั้งเรื่องเมื่อเช้าทั้งเรื่องตอนนี้มันทำให้น้ำตาของฉันไหลออกมาซะง่ายๆเลยล่ะ คงเพราะฉันเก็บมันไว้ตั้งแต่เจอเขาแล้วสินะ

     

     

    “ฉันไม่ง่ายขนาดยอมเป็นของคนที่ยังไม่รู้จักดีหรอกนะ” ฉันพูดออกมาด้วยความน้อยใจพลางปาดน้ำตาออกอย่างไม่แยแส

     

     

    “...”

     

     

    “ถ้านายจะมาพูดดูถูกฉันก็เชิญกลับไปได้แล้ว! ฉันเจ็บกับนายมามากพอแล้ว!” ฉันสะบัดหน้าเตรียมที่จะเข้าบ้าน แต่แอลก็คว้าข้อมือของฉันไว้พลางกระชากฉันให้ถลาเข้าหาเขาอย่างเอาแต่ใจ เขาไม่เคยสำนึกผิดเลยสินะ!

     

     

    “ฉันเจ็บกับเธอมามากกว่าที่เธอเจ็บกับฉันอีก” แอลพูดเบาๆแต่ชัดถ้อยชัดคำที่ข้างใบหูของฉัน เมื่อพูดจบเขาก็ผลักฉันออกห่างอย่างไม่สนใจ แล้วก็เบือนหน้าหลบสายตาของฉันที่กำลังมองเขาด้วยความรู้สึกน้อยใจอยู่

     

     

    สายตาของฉันมองเห็นเขาด้วยความพล่ามัวเพราะถูกน้ำตาบดบังใบหน้าของเขาอยู่ฉันไม่รู้เลยว่าเขากำลังมีสีหน้าแบบไหน รู้แค่ว่าตอนนี้หัวใจฉันมันเจ็บเพราะคำพูดและคำดูถูกจากเขาจริงๆ

     

     

    กว่าที่ฉันจะตั้งสติได้ก็ถูกแอลลากเข้าไปในบ้านของตัวเองแล้ว เขาผลักฉันเข้าไปในบ้านของฉันเองอย่างไม่ออมแรง ราวกับว่าฉันเป็นผู้ชายคนนึงอย่างงั้น

     

     

    “ฉันไม่อยากถูกมองว่าทำผู้หญิงร้องไห้หน้าบ้าน” แอลพูดสั้นๆพร้อมกับจับจ้องมาที่ใบหน้าของฉัน ซึ่งตอนนี้น้ำตามันก็คงยังไม่หยุดไหล

     

     

    “น้ำตามันไม่ช่วยอะไรหรอกนะนาอึน! มันไม่ทำให้ฉันกลับไปเป็นคนโง่คนเดิมได้หรอก!

     

     

    “กลับไปซะ... ฉันไม่อยากได้ยินนายพูดดูถูกอะไรฉันอีกแล้ว” ฉันพูดกับเขาเสียงสั่นพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของเขาอย่างน้อยใจชัดเจน ภายใต้ใบหน้าหล่อนั้นเก็บอาการนิ่งไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย

     

     

    “กลับแน่! ...แต่ฉันจะบอกเธอว่าถ้าเธอไปยุ่งกับไอ้ผู้ชายนั่นอีก! เธอเตรียมตัวรอรับความเจ็บปวดที่ตามมาได้เลย” แอลพูดขู่ด้วยใบหน้าแสนเย็นชาตามแบบฉบับของเขา ฉันรู้สึกไม่อยากต่อสู้ไม่อยากจะพูดหรือเถียงกลับอะไรกับเขาอีกแล้ว มันเหนื่อยเหลือเกิน อยากทำอะไรตามสบายเลย แต่ขอร้องหยุดพูดจาดูถูกกันเสียทีเถอะ!

     

     

    “กลับไปได้แล้ว...”

     

     

    “เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่มั๊ย ?”

     

     

    “เข้าใจ... แต่นายช่วยเลิกพูดดูถูกฉันด้วยแล้วฉันจะทำตามที่นายบอก” ฉันบอกเสียงเรียบพลางมองหน้าเขาอย่างอ่อนล้า หมดแรงที่จะต่อสู้กับเขาจริงๆแล้ว

     

     

    “ก็ช่วยเลิกทำตัวให้มันน่าโมโหแล้วกัน”

     

     

    “อือ”

     

     

    “ถ้าเธอยังไปยุ่งกับไอ้หมอนั่น เตรียมตัวโดนฉันเล่นงานได้เลย” แอลพูดออกคำสั่งทิ้งท้ายไว้ให้ฉัน ซึ่งฉันเองที่ดูจะไม่ค่อยได้สนใจเขาเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ว่าเขาเดินออกไปแล้ว ไม่มีคำล่ำลาสักคำ! แต่ก็ดี! เหนื่อยที่จะเถียงแล้ว!

     

     

    ฉันปล่อยให้ตัวเองนั่งลงกับพื้นอย่างเหนื่อยล้า ทำไมทุกๆอย่างฉันต้องเป็นคนแบกรับมันไว้ด้วยนะ?! ถ้าวันนั้นฉันเลือกที่จะทำตามหัวใจตัวเอง วันนี้ฉันก็คงมีแอลที่แสนดีเคียงข้างสินะ! ไม่ใช่แอลคนใจร้ายที่พูดจาทำร้ายจิตใจกันได้ทุกเวลาอย่างนี้!





     



    ฮ่ะๆ ก็ผมโรคจิตอ่านะ!






     

    : : Writer TalK : :

    ช่วงนี้ไรต์ขยันอัพบ่อย ><'
    แต่ตอนนี้แปลกๆ
    เพราะไรต์เบลอๆอ่า
    ฮิฮิ แล้วเค้าจะขยันนะ ^
    เป็นกำลังใจให้ด้วย





     

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×