คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย :: CHARPTER 4
- 4 -
แอลที่ยังคงนอนอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องของกลุ่มเขาเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เมื่อได้ยินเสียงประตูที่ถูกใครคนหนึ่งเปิดออก เขามีสีหน้าแปลกใจและไม่สบอารมณ์ที่เห็นว่าคนที่เข้ามาในห้องนี้คือหญิงสาวผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักคนหนึ่ง หญิงสาวคนนั้นเดินตรงดิ่งเข้ามาหาแอลด้วยความมั่นใจพร้อมกรีดยิ้มที่มุมปาก นั่นมันทำให้ใบหน้าของแอลเริ่มไม่สบอารมณ์มากขึ้น
“มีสิทธิ์อะไรถึงเข้ามาที่นี่ ?” แอลจ้องมองไปยังหญิงสาวที่เข้ามาใหม่ด้วยใบหน้าที่แสนเรียบนิ่งปนไม่พอใจ เธอกระตุกยิ้มนิดๆและเดินมานั่งตรงกันข้ามกับแอล
“ทำไม...ฉันเข้ามาไม่ได้งั้นเหรอ ?!” เธอกรีดยิ้มที่มุมปากพร้อมกับยกขาขึ้นซ้อนทับกันอย่างมีจริต
“ใช่!! ออกไปซะ!!” ใบหน้าเรียบนิ่งของแอลเริ่มจะกระตุกด้วยความโมโหเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามีท่าทีไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย เธอทำท่าทางสบายเหมือนกับว่าตั้งใจจะยั่วประสาทของเขา เขาลุกขึ้นยืนด้วยความโมโหเมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าทำเพียงแค่นั่งยิ้มเยาะเขาเท่านั้น
“ออกไป!!” ชายหนุ่มพูดเสียงดังราวกับตวาด ทำให้หญิงสาวคนนั้นหัวเราะในลำคอด้วยความชอบใจที่ยั่วโมโหเขาได้ เธอลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับเขาด้วยความสบายใจ
“นายสั่งฉันไม่ได้หรอกแอล ถ้าฉันไม่ออกก็คือไม่ออก! ...ฉันล่ะสะใจจริงๆที่เห็นนายโมโหเพราะฉัน หึๆ” ร่างบางหัวเราะเบาๆด้วยความชอบใจ แอลกำมือแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธที่กำลังจะปะทุและพวยพุ่งออกมาของเขา
“เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับฉันสักที?!! ฉันรำคาญและเบื่อเธอมาก!!! เข้าใจบ้างมั๊ย?!!”
“รู้มั๊ย ? ฉันโคตรสะใจเลยที่เห็นนายโมโห ฮ่าๆๆ” เธอหัวเราะเย้ยแอลที่ยืนทำหน้าโมโหอยู่ แม้สีหน้าท่าทางของเธอจะแสดงออกว่าสะใจและสบายใจเพียงไหน แต่ใครจะรู้ว่าภายในเธอนั้นมันแสนที่จะเจ็บกับคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้าเธอเลย เขาไม่เคยเข้าใจเลยรึไง? ที่เธอมาตอแยและยั่วโมโหเขาอยู่แทบจะทุกวันนี้ เพียงเพราะเธออยากให้เขาเห็นเธออยู่ในสายตาบ้าง!!
“ยัยโรคจิต!” เขากร่นด่าผู้หญิงที่นั่งทำหน้าลอยไม่รู้สึกอะไรอยู่ตรงหน้าเขา ชายหนุ่มมองร่างของหญิงสาวแวบนึง เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมขยับไปไหน เขาจึงเป็นฝ่ายที่จะเดินออกไปเอง แต่เธอก็รั้งเขาไว้ซะก่อน
“เย็นนี้ครอบครัวของเรามีนัดกัน นายไปด้วยล่ะ!” หญิงสาวพูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งให้คนที่กำลังจะเดินออกไปหยุด เขาหยุดรับฟังครู่หนึ่ง
“ฝันไปเถอะมินอาว่าฉันจะไป!!” แอลพูดทิ้งท้ายโดยไม่มองหญิงสาวที่นั่งทำหน้าไม่พอใจเลย เขาเดินออกไปด้วยความรวดเร็วเพราะไม่อยากทนเห็นใบหน้าของผู้หญิงที่นั่งอยู่นั่นนานนัก มินอามองตามร่างของชายหนุ่มออกไปด้วยความโมโหปนน้อยใจ จะมีสักครั้งบ้างมั๊ย? ที่เขาจะยอมทำตามครอบครัว ยอมทำตามคำสั่งหรือคำขอของเธอ! ขอแค่ครั้งเดียวเธอก็จะมีความสุขมากแล้ว!!
ร่างบางของหญิงสาวร่างเล็กถูกลากอย่างแรงจนตัวเธอปลิวมาปะทะกับร่างของคนที่ลากเธออยู่หลายครั้ง หญิงสาวพยายามที่จะขัดขืนต่อสู้กับคนที่กำลังลากเธออยู่ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลอะไร เมื่อแรงเล็กๆของเธอไม่อาจสู้แรงของชายหนุ่มที่ลากเธอได้ หญิงสาวจึงจำต้องถูกลากด้วยความรุนแรงอย่างไม่เต็มใจไป
แทมินลากซอลลี่มาที่คอนโดของเขาด้วยความโมโหในตัวร่างบาง และเพราะความโมโหมันทำให้เขาไม่สนใจเลยว่าร่างเล็กจะเจ็บเพราะเขาขนาดไหน มือหนาหยิบคีย์การ์ดออกมารูดเมื่อมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเขา
ทันทีที่ประตูห้องสุดหรูเปิดออกร่างของซอลลี่ก็ปลิวละลิ่วเข้าไปในห้องอย่างแรง ตามมาด้วยร่างของแทมินที่เข้ามาประชิดตัวหญิงสาวด้วยความรวดเร็ว
“ยั่วโมโห ฉันรึไง?!!” เขาพูดเสียงดังใส่ร่างเล็กที่กำลังดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“ปล่อย! เราเลิกกันแล้วนะพี่ไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้!!” ซอลลี่เองก็ส่งเสียงดังไม่แพ้แทมินเหมือนกัน
“เลิกเหรอ?!! เธอกล้าพูดเหรอคำนี้?!!”
“ทำไมล่ะ? ทำไมฉันจะไม่กล้าพูด?!! ...เราเลิกกันแล้ว!! เชิญไปหาผู้หญิงของพี่ซะ!!” ซอลลี่ที่ถูกแทมินล็อคตัวให้อยู่ในอ้อมแขนตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มด้วยความโมโห เธอไม่เคยที่จะก้าวร้าวใส่เขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอก้าวร้าวและเสียงดังใส่เขาเพราะเธอทนอยู่กับความเสียใจไม่ไหวแล้ว!!
“ซอลลี่!”
“ปล่อย! ปล่อย! ฉันบอกให้ปล่อย!!” หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห เธอดิ้นคลุกคลิกไปมาเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม แต่เหมือนยิ่งดิ้นเขากลับยิ่งรัดเธอแน่นมากขึ้น มากซะจนเธอเริ่มเจ็บไปหมดทั้งตัว
“ไม่! ฉันไม่ปล่อย!!” ร่างหนากระชับอ้อมแขนให้โอบรัดร่างบางแน่นขึ้น จนตอนนี้เธอห่อตัวรีบจากแรงรัดของชายหนุ่ม
“เราเลิกกันแล้วนะ! พี่อย่ามาทำอย่างนี้!! แล้วก็เลิกมาอาละวาดฉันทุกที่ด้วย!!”
“นี่!! ที่ฉันทำอย่างงั้นฉันไปง้อเธอนะ! เข้าใจมั๊ยว่าฉันง้อ! ง้อน่ะง้อ!! อีกอย่างฉันก็หึง หึงมาก! ฉันไม่ชอบให้ไอ้ผู้ชายคนไหนมันมายุ่งกับเธอนะ!!” แทมินพูดด้วยอารมณ์โมโห คนตัวเล็กเอาแต่งอนไม่ยอมใจอ่อนกลับมาหาเขาเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมาสักที เขาเลยต้องลงทุนตามไปอาละวาดทุกที่หรือเรียกได้ว่าไปง้อนั่นแหละ เขานี่มันบ้าชะมัด!!
“แล้วฉันชอบเหรอคะ?!! พี่เข้าใจความรู้สึกฉันบ้างมั๊ย?!! ฉันก็ไม่ชอบให้ผู้หญิงคนอื่นมายุ่งกับพี่ด้วย!! พี่เข้าใจมั๊ย?!!!!!” ร่างบางเถียงกลับอย่างไม่ลดละ เรื่องนี้เธอไม่ได้เป็นคนผิด!! ถ้าจะให้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนแรกมันยาวมากนะ
...แทมินเป็นคนเจ้าชู้ เขาแอบนอกใจเธอบ่อยๆ เธอก็รู้แต่ว่าหลายครั้งเธอพยายามที่จะไม่สนใจเพราะคิดว่ายังไงเขาก็รักแค่เธอคนเดียว เขาไม่มีทางที่จะอยู่กับผู้หญิงคนอื่นได้นานหรอก แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่!! แทมินหายหน้าจากเธอไปหลายวัน จนเธอเกิดสงสัยและก็รู้ว่าเขาไปคลุกอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ยัยผู้หญิงหน้าด้านนั่นไม่ยอมให้แทมินกลับมาหาซอลลี่บวกกับช่วงนี้เขาทะเลาะกับเธอบ่อยครั้ง เขาจึงหายหน้าไปจากเธอสักพัก และต้องกลับมาอาละวาดเธอเหมือนตอนนี้เมื่อเห็นข้อความบอกเลิกที่เธอส่งมาให้เขา!! และเขายิ่งอาละวาดหนักเมื่อรู้ว่าเธอไปคบผู้ชายอื่น!...
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าผู้หญิงพวกนั้นแค่ของเล่น!!”
“แล้วถ้าฉันคิดว่าพี่เป็นของเล่นบ้างล่ะคะ?!!” คำพูดที่ออกมาจากเรียวปากบางนั่นมันทำให้ดวงตาแทมินลุกโชนด้วยความโมโห เขาออกแรงบีบรัดร่างของซอลลี่แน่นอย่างลืมตัว หญิงสาวทำหน้าเหยเกและรับรู้ถึงอันตรายจากคนตรงหน้าที่กำลังจะมาถึงทันที ใบหน้าของแทมินดูดุดันซะจนซอลลี่ต้องเลี่ยงที่จะมองใบหน้าหวานของเขาที่ตอนนี้แปรเปลี่ยนมาเป็นดุดันแทน
“เธอทำให้ฉันโมโห” แทมินพูดเสียงรอดไรฟัน เขาพยายามที่จะสะกดกลั้นอารมณ์โมโหของเขาที่กำลังจะทะลักออกมาอย่างยากลำบาก
“ปล่อยฉัน”
ยังไม่ทันที่แทมินจะได้ตอบอะไรเขาก็ผลักร่างของซอลลี่เข้าไปกระแทกผนังห้องและตามเข้าไปคร่อมตัวเธอไว้ ชายหนุ่มล็อกข้อมือของหญิงสาวและบีบมันไว้แน่น ทำให้ร่างของซอลลี่หมดทางหนีเข้าไปโดยปริยาย
“ปล่อยๆ ถ้าพี่ทำอะไรฉันนะ! ฉันจะหายไปจากพี่ตลอดชีวิตเลย! คอยดูสิ!!” ซอลลี่ประกาศเสียงกร้าวพร้อมกลับพยายามดิ้นให้หลุดออกจากการเกาะกุมของแทมิน ชายหนุ่มที่มีสีหน้าบึ้งตึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอราวกลับว่าต้องการพูดอะไรบางอย่าง ใบหน้าหวานของซอลลี่เบี่ยงหลบใบหน้าบึ้งตึงของแทมินด้วยความกลัว
“ก็ลองดูสิ” พูดได้แค่นั้นแทมินก็ยื่นหน้าเข้าไปพร้อมกับทาบทับเรียวปากลงปิดคำพูดของซอลลี่ที่กำลังจะออกมาจากเรียวปากบางของเธอ เธอดิ้นคลุกคลิกไปมาเพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากริมฝีปากแสนหยาบคายของแทมินที่กำลังรุนแรงอยู่กับโพลงปากของเธออยู่ ลิ้นหนาของแทมินล่วงเกินเข้าไปในปากบางของซอลลี่อย่างหยาบคาย เธอรู้สึกถึงรสคาวเลือดที่คละคลุ้งจากการกระทำอันแสนรุนแรงของแทมินในโพลงปาก ดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำใสๆเอ่อไหลรอบดวงตา
...ใจร้าย พี่มันใจร้าย!!...
น้ำใสๆเริ่มที่จะไหลออกมาจากดวงคู่สวยของซอลลี่จนมันอาบแก้มขาวเนียนของเธอ ส่งผลให้แทมินหยุดการกระทำอันแสนหยาบคายของเขา ชายหนุ่มค่อยๆถอนริมฝีปากออกจากเรียวปากบางของอีกฝ่ายอย่างช้าๆ เขาจ้องมองใบหน้าที่เปรอะเปรื้อนไปด้วยน้ำตาของผู้หญิงที่เขารักด้วยความเสียใจ เขาทำเกินไปเหรอ? แต่นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้นะ...
“ขอโทษ” เขาพูดพร้อมดึงเธอเข้ามากอดแน่นด้วยความเสียใจและกลัว กลัวว่าเธอจะเกลียดเขา กลัวว่าเธอจะหายและทิ้งเขาไปจริงๆ
“ฉันรักเธอแค่คนเดียวจริงๆ” เขากระซิบเสียงแผ่วเบาข้างๆใบหูซอลลี่ นั่นมันทำให้ความมั่นคงที่จะเลิกกันของซอลลี่ละลายหายไปทันที เพียงเพราะคำบอกรักของเขานั้นแท้ๆ ถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่คำพูดแต่มันก็มีความสำคัญกับเธอมากนะ! เธอกอดตอบเขาเพื่อเป็นการแสดงว่าเธอก็รักเขาและจะไม่ทิ้งเขาไป
ซอลลี่ยอมยกโทษให้แทมินอย่างง่ายดายเหตุผลเพราะคำๆเดียว ‘รัก’ ต่อให้เขาไม่พูดคำนี้เธอก็ตั้งใจที่จะไม่หนีเขาไปอยู่แล้วเพราะถ้าเธอทำอย่างนั้นคนที่เจ็บและทรมารมากที่สุดคงเป็นเธอ!! ที่เธอยอมเลิกเพียงแค่อยากให้แทมินมาง้อและเห็นค่าเธอมั่ง และมันเป็นการพิสูจน์ได้ว่าเขาก็รักเธอจริงๆ ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้แต่เขาก็รักเธอมากเลยล่ะ!
แทมินจ้องมองใบหน้าหวานของผู้หญิงที่ตัวเองรักด้วยความดีใจ ใบหน้าของเขาค่อยๆเลื่อนไปทาบทับริมฝีปากลงไปประกบกับคนร่างเล็กอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันหวานละมุนกว่าไม่รุนแรงหยาบคายเหมือนก่อน มือหนาค่อยๆรัดร่างเล็กแน่น หญิงสาวก็ได้แต่ยึดร่างของชายหนุ่มไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลง เธอปล่อยให้เขาเป็นคนเริ่มและนำทางทุกอย่างไปอย่างง่ายดาย...
แอลเดินหัวเสียออกมาจากห้องของเขาในมหา’ลัยเพราะว่านอกจากนาอึนแล้วผู้หญิงที่เขาไม่ชอบหน้ามากๆเลยคือ ‘มินอา’ ผู้หญิงที่ทางครอบครัวของเขาชอบที่จะจับคู่ให้ แต่เขาก็ไม่เคยเล่นด้วยเลยสักครั้ง เขาขัดขืนและแสดงออกทุกครั้งว่าไม่ชอบมินอา นั่นมันทำให้ครอบครัวของเขาไม่พอใจมากๆ จึงพยายามที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและมินอาดีขึ้นด้วยการให้เธอมาหาเขาบ่อยๆ เรียกได้ว่ามาตามเกาะเหมือนปลิงเลยก็ว่าได้!!
“อ้าว ไอ้แอลไปไหนอ่ะ ?” ลู่หานที่กำลังจะเดินไปที่ห้องของกลุ่มร้องทักแอลที่เดินดุ่มๆหน้าบึ้งออกมา
“กลับบ้าน ...มึงอย่าเพิ่งเข้าไปในห้องนะโว่ย ยัยมินอาอยู่”
“เห้ย มาได้ไงวะ ?” ลู่หานถามด้วยความสงสัย
“ปล่อยยัยนั่นเถอะ มึงไปที่อื่นก่อนแล้วค่อยมานี่ก็ได้ ...กูไปก่อนนะ” พูดจบแอลก็ทำท่าจะเดินออกไป แต่อยู่ดีๆลูกฟุตบอลจากที่ไหนก็ไม่รู้ก็ลอยมากระทบใบหน้าหล่อของเขาจนมันหันไปตามแรงลูกฟุตบอล ลู่หานมองเพื่อนเขาด้วยความตกใจ ซึ่งตอนนี้ใบหน้าหล่อคมและดวงตาที่เรียบนิ่งตอนแรกของแอลแปรเปลี่ยนมาเป็นลุกโชนด้วยความโมโห
“ขะ ขอโทษฮะ” เด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามาก้มหัวเลิ่กลั่กให้แอลด้วยความกลัว เด็กหนุ่มรู้ว่าการที่ลูกฟุตบอลของเขามันลอยมาโดนหน้าแอลมันต้องสร้างเรื่องใหญ่ให้กับเขาแน่นอน แต่ถ้าเขาหนีตอนนี้มันก็ไม่ทันเพราะลู่หานเห็นว่าลูกฟุตบอลมันเป็นของเขาตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าไม่มาขอโทษก็อาจจะโดนหนักกว่าขอโทษก็ได้
“ใครใช้ให้แกเตะลูกบอลมาโดนหน้าฉัน ?” แอลที่พยายามข่มอารมณ์ถามเสียงเรียบ
“ผะ ผมไม่ ดะ ได้ตั้ง จะ ใจครับ” เด็กหนุ่มตอบเสียงสั่นด้วยความกลัวเพราะแอลเป็นสมาชิกของ ‘Blacklist’ ที่แสนจะหน้ากลัวและร้ายกาจที่สุดในกลุ่มเลย เขาอาจจะทำร้ายเด็กหนุ่มได้ง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเลยล่ะ!
“ไม่ได้ตั้งใจเหรอ ? แล้วแกรู้มั๊ย ? การที่แกทำให้หน้าฉันมันต้องเลอะและเปรอะลูกฟุตบอลของแก แกจะเจออะไร?!!” แอลตวาดเสียงดังลั่น เสียงที่ดังของเขามันทำให้เด็กหนุ่มคนนั้นตัวสั่นระริกด้วยความกลัว และก็เริ่มมีกลุ่มนักศึกษาหยุดมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความอยากรู้
“ผะ ผมขอโทษ”
“ขอโทษแล้วมันหายมั๊ย?!!!!”
“...”
“คุกเข่าข้างหน้าฉัน ฉันจะปล่อยแกไป” คำพูดที่เหมือนคำสั่งแสนร้ายกาจหลุดออกมาจากเรียวปากของแอล นั่นมันทำให้ผู้ถูกสั่งเงยหน้ามองเจ้าของคำสั่งเต็มใบหน้าด้วยความตกใจแต่ก็ไม่วายสั่นระริกด้วยความกลัว เขามองแอลด้วยความคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าตัวจริงกับคำร่ำลือมันจะเป็นจริงอย่างนี้
...เขามันโหดร้ายและนิสัยไม่ดีจริงๆ...
เด็กหนุ่มมองแอลด้วยความกลัวและสับสน ถ้าเขาทำตามที่แอลสั่งมันก็เหมือนถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี แต่ถ้าเขาไม่ทำเขาก็คงไม่มีที่ยืนได้มหา’ลัยนี้แน่ เขาคงโดนรังแกจนแทบกระอักเลือดตายทุกวันเลยแน่ๆ
เด็กหนุ่มยืนคิดครู่หนึ่งแล้วก็ตัดสินใจล้มตัวคุกเข่าลง เขาไม่ได้มองใบหน้าของเจ้าของคำสั่งเลยสักนิด ในใจก็ไม่อยากทำและเริ่มโมโหคนตรงหน้าแต่ก็แสดงออกมาไม่ได้
“ผมขอโทษ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยครับ” เด็กหนุ่มก้มหน้าพูดเพื่อไม่ให้แสดงสีหน้าของเขาตอนนี้ที่มันกำลังโมโหระคนแค้นถึงขีดสุดต่อหน้าแอล
แอลไม่ได้พูดอะไรได้แต่กรอกตาลงไปมองอย่างเหยียดๆและก็เดินจากไปอย่างนิ่งๆ ตามด้วยลู่หานที่เดินจากไปคนละทางกับแอล เด็กหนุ่มคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและมองตามหลังร่างของแอลไปด้วยความขุ่นเคือง
นาอึนกับโบมีพยายามช่วยกันยกของที่พะรุงพะรังเต็มสองไม้สองมือของทั้งสองขึ้นรถของนาอึนที่จอดไว้ที่มุมหนึ่งของตึกสูงสักแห่งอย่างทุลักทุเล เพราะทั้งสองพากันซื้อแหลกอย่างกับไม่เคยซื้อของมาเป็นชาติและก็เพิ่งมาสำนึกได้เมื่อเห็นของที่วางเกลื่อนกลาดเต็มรถคันหรูของนาอึนไปหมด
“ฉันว่าเราซื้อเยอะไป = =” นาอึนหันมาพูดกับโบมีที่ยืนนิ่งมองของที่วางเกลื่อนกลาดเต็มรถอย่างสำนึกผิด
“ใช่ ฉันก็ว่างั้น” ร่างบางพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเชื่องช้า พลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ก็เดินออกไปอย่างหุนหันทิ้งให้นาอึนมองตามร่างของเธอไปด้วยความงงงวย ...นี่ไม่คิดจะบอกสักคำว่าไปไหน??
โบมีรีบเดินเร่งฝีเท้ามาที่ร้านสร้อยแสนน่ารักร้านหนึ่งที่ก่อนหน้านี้เธอกับนาอึนได้เข้ามาซื้อกัน แต่เธอดันลืมของบางอย่างไว้ที่นี่ซะสิ! แล้วของสิ่งนั้นมันสำคัญกับเธอมากซะด้วยสิ!!
“พี่คะ พอดีฉันลืมของไว้น่ะค่ะ ตอนที่ลองสร้อยฉันถอดสร้อยเส้นนึงไว้ ...เห็นบ้างมั๊ยคะ??” โบมีเดินเข้ามาถามพนักงานสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์ด้วยความกังวลใจ เธอส่งยิ้มบางๆมาให้พร้อมกับยื่นสร้อยเส้นเล็กๆเส้นหนึ่งกลับมาให้โบมี หญิงสาวยิ้มทันทีเมื่อเห็นสร้อยของเธอ มือเรียวบางยื่นมือออกไปรับสร้อยคืนด้วยความรวดเร็ว รอยยิ้มจากความดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าหวานอย่างไม่รู้ตัว
“ขอบคุณนะคะ” เธอกล่าวขอบคุณพร้อมก้มหัวให้พนักงานสาวเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งยิ้มบางๆไปให้พนักงานสาวและเดินออกไปจากร้านนี้ด้วยความร่าเริง
นาอึนที่รออยู่ข้างหน้าร้านเดินเข้ามาหาโบมีด้วยความสงสัยในท่าทางของเธอ อะไรที่ทำให้สีหน้าเธอเป็นอย่างนี้ได้??
“กลับมาร้านนี้ทำไมเหรอ ?”
“ลืมของไว้น่ะ ไปเถอะ!” รอยยิ้มกว้างจากคนพูดถูกส่งไปยังเจ้าของคำถามที่ยังคงทำหน้าสงสัยอยู่ เธอยังไม่ทันได้ปะติดปะต่อเรื่องราวสมบูรณ์เลยนะ มันจริงเหรอ? ที่ว่าลืมของน่ะ! ทำไมท่าทางของเพื่อนเธอมันแปลกๆนะ
“ฉันไปรอที่รถนะนาอึน” โบมีที่เดินนำไปแล้วหันมาพูดยิ้มๆกับนาอึนที่ยังยืนนิ่งปะติดปะต่อทบทวนเรื่องราวทั้งหมดอยู่ ว่ามันจริงเหรอ??
โบมีเดินนำนาอึนมาที่รถของนาอึนด้วยความร่าเริง ท่ามกลางฝูงชนที่พลุ่กพล่านกันมากมาย เธอไม่รู้เลยว่ากำลังจะเจอกับใครบางคนข้างหน้า โบมีเดินนำนาอึนมาลิ่วสวนกับผู้คนที่มาช็อปปิ้งกันมากมาย
และทันใดนั้นร่างของเธอก็หยุดกึกพร้อมกับร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินสวนมาแล้วก็หยุดข้างเธอเหมือนกัน ใบหน้าแปลกประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าของคนทั้งสอง หญิงสาวค่อยๆหันหน้าไปมองใบหน้าของผู้ชายที่ยืนนิ่งอยู่ข้างกายเธอช้าๆ ในใจก็ภาวะอย่าให้เป็นแบบที่เธอคิดเลย แต่ว่าความจริงมันกลับไม่เป็นอย่างเธอคิดน่ะสิ!!
“อะ ไอ้เด็กประถม!” เธออุทานออกมาเบาๆด้วยความตกใจกับใบหน้าของชายหนุ่มที่เธอเห็น เธอไม่คิดว่าจะเป็นเขาจริงๆ เขาที่เธอไม่อยากเจอ!
“ยัยกอริลลา!” ในขณะที่ชายหนุ่มเองก็ตกใจกับร่างที่เขาพบเหมือนกัน เขาก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเป็นโบมี!
ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้พูดอะไรกันเพราะมัวแต่ยืนอึ้งตาโตตกใจที่พบกัน โบมีที่ได้สติก่อนรีบชิงวิ่งหนีไปก่อน ทิ้งให้ซองยอลที่ได้สติช้ากว่ารีบวิ่งตามไปทีหลัง แต่มันก็ช้าไปเสียแล้ว เธอวิ่งหนีเขาและหายไปแล้ว หายไปจนเขาตามหาไม่เจอซะแล้ว...
บรรยากาศแสนเงียบที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับโบมีแต่มันก็เกิดขึ้นมันทำให้เพื่อนสาวอย่างนาอึนสงสัยขึ้นมาว่าเพื่อนจอมแก่นของเธอเป็นอะไรไป จึงเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อทั้งสองคนมาถึงบ้านและจัดการกับสัมภาระที่มากมายของทั้งสองแล้ว
“เป็นอะไรไป ? ยัยกอริลลา”
“ป่าว ป่าว” เธอส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับล้มตัวนอนที่โซฟาลงด้วยความอ่อนแรง เหนื่อยทุกอย่างทั้งกายและใจ ชีวิตของเธอกำลังดำเนินไปอย่างมีความสุขแล้ว ทำไมจะต้องมาขุ่นมัวเพราะเจอไอ้ผู้ชายนี่ด้วยเนี่ย?!!
“โกหกน่า~”
“...ฉันก็แค่เสียใจที่ลืมสร้อยนี่ไว้แค่นั้นน่า” โบมีบอกอย่างปัดๆ ตอนนี้เธอรู้สึกไม่อยากจะพูดอะไร อยากจะกลับญี่ปุ่นมันซะตอนนี้ แต่ก็อยากอยู่เที่ยวกับเพื่อนจนครบตามสัญญาก่อน เธอสมควรจะทำยังไงดี??
“เธอก็ไปเอามันมาแล้วนี่”
“ฉันไม่น่าลืมมันไว้เลย...”
“ทำไม ? มันสำคัญกับเธอมากเลยรึไง ?” นาอึนถามร่างบางที่นอนหมดแรงบนโซฟาด้วยความสงสัย สายตาก็จับจ้องไปยังร่างเล็กที่เธอต้องการคำตอบ
“อะ อือ ...รุ่นพี่มินฮวานให้” คำพูดเรียบๆของโบมี มันทำให้นาอึนที่ยืนนิ่งอยู่นานต้องเขยิบเข้ามาหาโบมีด้วยความอยากรู้
“คบกันแล้วเหรอ ?” นาอึนถามด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นโครมครามแทนเพื่อนสาว
“ยังๆ เป็นพี่น้องกันน่า”
“พี่น้องอะไรให้สร้อย กิ๊ว กิ๊ว คบกันแล้วใช่ม้า ?” ปากก็พูดแซวพลางทำสีหน้าล้อเลียนเพื่อนสาวให้เขินอายด้วยความสนุกสนาน แต่ทว่าเพื่อนสาวของเธอกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมาเลย
“นี่ หยุดๆ มะรืนแกก็จะกลับแล้ว อย่ามาทำท่าทางอย่างนี้สิ! มันทำให้ฉันคิดว่าแกอยากกลับ ไม่อยากเจอฉันนะโว่ยยย” ใบหน้าน้อยใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยหวานของนาอึน มันทำให้โบมีที่นอนหมดแรงกับโซฟาลุกขึ้นมาและกอดเธอไว้ เพื่อยืนยันว่าเธออยากอยู่กับนาอึนจริงๆ ไม่ได้อยากกลับ แต่เพราะคนๆเดียวที่เธอไม่อาจพูดได้มันทำให้เธออยากกลับ!!
“ฉันอยากอยู่กลับแกนะ ...ก็ได้ๆ ฉันจะไม่เหนื่อยตลอดที่อยู่กับแก ฉันจะลั้นลาตลอดสองสามวันนี้ โอเคมะ ?”
ได้โปรดอย่าทิ้งผมไป อยู่ข้างๆและเป็นกำลังใจให้ผมเถอะครับ! ^^
:: Writer Talk ::
ไอแอมซอร์รี่จริงๆ ขอโทษอย่างสูง
ที่หายไปนานเพราะสอบล้วนๆ
แล้วใกล้ๆสอบ GAT - PAT แล้วคงต้องหายไปอีกพัก
ยอมรับตรงๆไรท์อยู่ ม.6 ชีวิตยุ่ง เครียดและเหนื่อยมาก!
แต่ไรต์ก็อย่างแต่งฟิคให้ทุกคนอ่าน
ทุกคนคงจะรู้ข่าวเรื่องแอลกับแม่นางโดยอนแล้วใช่มั๊ย??
ไรต์รู้สึกนอยด์สุดๆ ไรต์พอจะรู้ว่าเขาคงกิ๊กกันสักพักแล้ว
ยอมรับว่าตั้งแต่ข่าวครั้งที่แล้วสองคนนี้ดูยังไงก็ไม่ใช่แค่เพื่อน
แต่ไรต์ก็พยายามคิดว่าเป็นเพื่อนหลอกตัวเองเสมอ55555
ไม่เป็นไรๆ มยองอึนชิปเปอร์เฟเวอร์!
เชื่อมั่นในตัวแอลค่ะ
ได้ข่าวว่าราวๆวันเดียวกันป้ะ?
นาอึนก็ fav. รูปแฟนอาร์ตมยองอึนบนทวิตเตอร์
แต่ตอนนี้นาอึนอันเฟบแล้วน่าจะนะ
ไม่เป็นไรแค่นี้ก็ฟินแล้ว 555555
ไรต์มาเวิ่นไรเยอะเนี่ย? ต่อไปพยายามจะไม่หายไปนานนะทุกคน ^^
ความคิดเห็น