คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย :: CHARPTER 3
- 3 -
ร่างบางเพรียวระหงส์นั่งนิ่งเงียบอยู่บนม้านั่งสีขาวที่อยู่หลังคณะของเธอเพียงคนเดียว ซึ่งบรรยากาศตอนนี้มันแสนที่จะเงียบเชียบซะยิ่งกว่าอะไรซะอีก เพราะว่าเวลานี้มันเป็นเวลาเย็นที่พระอาทิตย์แทบจะลับขอบฟ้าไปอยู่มะรอมมะร่อเสียแล้ว นักศึกษาหลายคนเมื่อเรียนเสร็จก็กลับบ้าน บ้างก็ไปเที่ยวกันแล้ว ทำให้ตอนนี้มันไม่มีใครผ่านมาทางนี้เลย
นาอึนเอื้อมมือไปคลำที่หลังตัวเองช้าๆ สัมผัสที่เจ็บยังคงตราตรึงอยู่ เจ็บทั้งตัวและใจ ผู้ชายอะไรไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติผู้หญิงเลย เรื่องทั้งหมดมันผิดเพราะเธอเหรอ? ผิดที่เธอไม่ยอมลาออกตามคำสั่งเขารึไง? เขาเป็นใครทำไมเธอจะต้องทำตามคำสั่งด้วย?!!
“บ้าที่สุด!” หญิงสาวสบถออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องที่แอลทำร้ายเธอเมื่อตอนกลางวัน พลันความโมโหและเจ็บใจก็แล่นเข้ามา อยากจะผลักเขาคืนเหลือเกินตอนนี้ เอาให้เจ็บกว่าเธอร้อยเท่า!! ทำไมตอนนั้นเธอไม่ลุกขึ้นมาผลักเขานะ? เออ... ตอนนั้นมันจุกและเจ็บแปล๊บจนลุกไม่ไหวจริงๆ
!!!
เสียงโทรศัพท์ของนาอึนที่ถูกวางอยู่ข้างๆตัวเธอดังขึ้น หญิงสาวเหลียวไปมองตามเสียงด้วยความสงสัยว่าใครกันที่โทรมาหาเธอ?
“ฮัลโหล”
“นาอึน... แกอยู่ไหนอ่ะ ?” ปลายสายส่งเสียงถามเธอด้วยน้ำเสียงที่สงสัยระคนร้อนรน
“ฉันอยู่มหา’ลัย ...มีอะไรรึป่าว ?”
“นี่แกถามอย่างนี้แสดงว่าลืมนัดฉันใช่มั๊ย?!! ฉันอุตส่าห์เดินทางมาต้องไกลเพื่อมาหาแกนะโว่ย แล้วทำไมแกลืมนัดฉันหะ?! นี่ กะ...” ยังไม่ทันที่ปลายสายจะพ่นคำพูดที่ยาวเยียดของเธอจบ นาอึนก็แทรกขึ้นมาเพื่อตัดบทคำพูดอันแสนยาวเยียดของปลายสาย
“พอๆ ฉันขอโทษ หยุดบ่น ฉันจะรีบไปหา ...แค่นี้ก่อนนะ” นาอึนกดตัดสายทิ้งไปพร้อมกับเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแสนหวานของเธออย่างส่งๆ ...บ้าจริง นี่เธอลืมนัดเพื่อนคนสำคัญของเธอได้ไงเนี่ย?...
นาอึนเดินจ้ำอ้าวด้วยความเร่งรีบเพื่อที่จะไปยังที่นัดหมายของเธอ ตอนนี้ฟ้ามืดสนิทบ่งบอกว่าเป็นเวลากลางคืนเสียแล้ว เธอเลทนัดเพื่อนเธอมานานมากตอนนี้เพราะตอนแรกเธอนัดไว้ตอนเย็น แต่ดันลืมซะนี่! จนยัยเพื่อนตัวดีโทรไปตามถึงจะนึกได้ แล้วก็ต้องรีบอย่างที่เห็นในตอนนี้
ขาเรียวบางก้าวด้วยความว่องไวตรงดิ่งไปยังทางเข้าร้านอาหารแสนหรูที่เป็นที่นัดหมายของเธอ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะก้าวเข้าไปในร้านอาหารแสนหรูนี้ ร่างของเธอก็ต้องกระเด็นออกมา เมื่อมีร่างหนาของใครบางคนเข้ามากระแทกร่างของเธออย่างแรง
....อั่ก! เจ็บอีกแล้ว! ฮือ...
ร่างหนาที่กระแทกเธอหันมามองเธอด้วยความไม่สบอารมณ์ ให้ตายเถอะ! มันสมควรเป็นเธอมากกว่ามั้งที่ควรทำหน้าอย่างนั้น! เขาคนนั้นทำเพียงแค่มองใบหน้านาอึนอย่างไม่สบอารมณ์แล้วก็เดินเหวี่ยงออกไป โดยที่ไม่ได้กล่าวคำขอโทษอะไรกับเธอเลย
“ให้ตายเถอะ คนสมัยนี้นะคำขอโทษสักคำยังไม่มีเลย” หญิงสาวปัดปอยๆที่เสื้อผ้าตัวเองพร้อมกับบ่นตามหลังร่างหนาคนนั้นไป สายตายังคงมองตามจับจ้องที่แผ่นหลังของเขาออกไป แม้เขาจะเดินหายไปแล้วก็ตาม ใบหน้าแบบนั้นเธอจะจำให้ขึ้นใจ! คนไม่มีมารยาท!!
ยังไม่ทันที่เธอจะได้เข้าไปในร้านหรูร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งที่ใบหน้าเปรอะเปรื้อนไปด้วยน้ำตาก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากร้านหรูนี่แทบจะชนเธอที่กำลังจะก้าวเดินเข้าไปในร้าน นาอึนถอยหลังไปเล็กน้อยและมองตามร่างบางที่ร้องไห้ออกไป ...นี่ มันอะไรกัน? คนที่มาร้านนี้จะมีปกติๆบ้างมั๊ย?...
แล้วสุดท้ายเธอก็ได้เข้าไปในร้านหรูนี้จนได้ ร่างบางส่งรอยยิ้มไปให้เพื่อนสาวที่นั่งหน้าบึ้งรอเธออยู่มุมหนึ่งในร้านหรูนี้เป็นเวลานานเป็นการขอโทษ เพื่อนสาวของเธอก็จ้องมาที่นาอึนอย่างงอนๆ เธอจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
“รอนานมั๊ย ?”
“นี่แกยังกล้าถามอีกเหรอ ?”
“ขอโทษๆนะ นะ นะ... ขอโทษจริงๆโบมี” นาอึนทำหน้าออดอ้อนสุดฤทธิ์เพื่อให้เพื่อนสาวที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานยกโทษให้
“ถ้าฉันบอกว่าไม่หายโกรธล่ะ ?” เจ้าของชื่อโบมีเพื่อนสาวของนาอึนยกมือขึ้นกอดอกและมองไปที่นาอึนนิ่ง
“งั้น...มื้อนี้ฉันเลี้ยง! โอเคมะ ? แล้วเธอก็หายโกรธซะ ยัยกอริลลา”
“ฉันจะโกรธก็ตอนที่แกเรียกว่ากอริลลานั่นแหละ ยัยบ้า ><” โบมียิ้มบางๆที่มุมปากพร้อมกับเริ่มที่จะเปิดบทสนทนาขึ้นมา เธอถามถึงชีวิตทั่วไปของนาอึนตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้พบกันระยะหนึ่ง ก็เพราะว่าเธอกับนาอึนไปเรียนที่ญี่ปุ่นพร้อมกันอยู่ช่วงหนึ่ง และอยู่ดีๆนาอึนก็จะย้ายกลับมาเกาหลีเพียงเพราะว่าไม่ชอบคนๆนึงที่นั่นเท่านั้น!
“เออ เมื่อกี้ก่อนเข้ามาฉันถูกใครก็ไม่รู้เดินชนต้องสองรอบ คนแรกเป็นผู้ชาย...หล่อเหมือนกัน แต่ไม่มีมารยาทเอาซะเลย ชนแล้วไม่ขอโทษ ...คนที่สองเป็นผู้หญิง ขาวสวย ไม่ขอโทษเหมือนกัน แต่เห็นร้องไห้อยู่เลยไม่อะไร แต่ผู้ชายนี่สิ! น่าโมโห!! เป็นคนชนฉันซะกระเด็นยังจะมาทำหน้าโมโหใส่ซะอีก!!” นาอึนพูดพร้อมตบโต๊ะเบาๆ ยิ่งนึกถึงหน้าผู้ชายที่ชนเธอแล้วมันก็ยิ่งโมโหนะ! คนอะไรไม่มีมารยาทสิ้นดี อย่าให้เจอที่อื่นนะ จะชนให้กระเด็นบ้างคอยดู!!
“เดี๋ยวนี้คนพวกนี้มันก็มีเยอะแหละ แกก็ไม่ต้องอะไรกับเขามากหรอก ลืมๆไปซะ”
“ลืมได้ไง ? มันชนฉันซะเจ็บเลยนะ ถ้าเจอที่อื่นฉันจะชนมันให้กระเด็นเลย!”
“พอๆ ...คืนนี้ขอไปค้างด้วยนะ”
นาอึนค่อยๆช่วยโบมีขนสัมภาระของเธอที่เอามานอนค้างกับเธอที่บ้านลงจากรถ ตกลงยัยนี่จะมาแค่สามสี่วันหรืออยู่ถาวร... โอ้โห แล้วกระเป๋าแต่ละใบแบบว่าหนักโฮกกกกกกกกกกกกกก !! เธอบ่นในใจกระปอดประแปด แต่มือก็ยังคงช่วยเพื่อนสาวของเธอขนของอยู่ดี
“ฉันรู้ว่าแกบ่นอยู่ในใจ” โบมีที่กำลังยกกระเป๋าอยู่พูดขึ้น ทำให้นาอึนหน้าเหวอไปสักพักแล้วก็ทำเป็นขยันช่วยยกของกลบเกลื่อน
“รู้ดี”
“ก็ฉันเป็นเพื่อนแกนิ” โบมิยิ้มน้อยๆพร้อมกับเดินนำเข้าไปก่อน ทิ้งให้นาอึนที่พยายามจะขนกระเป๋าใบหนักอึ้งนี้อยู่เพียงลำพัง ในขณะที่เธอพยายามยกกระเป๋าใบหนักนี้ เธอก็ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเป็นเป้าสายตาของใครบางคนอยู่
ร่างปริศนาที่เพิ่งมาแอบซุ่มดูยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นนาอึนยกกระเป๋ามาร่วงทับเท้าตัวเอง เขาได้ยินเสียงร้องของเธอดังขึ้นพร้อมกับท่าทางที่ดูจะเจ็บปวดของเธอก็อดที่จะยิ้มอย่างสะใจไม่ได้ ...สงสัยมั๊ยว่าเขาเป็นใคร? ไม่ต้องบอกทุกคนก็คงรู้แหละว่าเป็น ‘แอล’…
“สม” น้ำเสียงเยาะเย้ยหลุดออกมาจากเรียวปากของแอลอย่างแผ่วเบา ใบหน้าหล่อเหลายิ้มด้วยความสะใจ
“เห้ย เป็นไรวะ ?” โบมีที่ได้ยินเสียงร้องของนาอึนก็เดินย้อนกลับมาดูเพื่อนตัวเองด้วยความเป็นห่วง และก็ต้องหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสภาพของนาอึนที่ทำหน้าเหยเกเพราะโดนกระเป๋าของเธอทับเท้า
ร่างของแอลที่แอบซุ่มดูอยู่ยืนตัวแข็งเมื่อเห็นใบหน้าของโบมี ใบหน้าหล่อเรียวแปรเปลี่ยนมาตกใจเมื่อเห็นชัดเจนว่าเป็นโบมีคนที่เขาเคยรู้จักแน่ๆ พลันนึกอะไรได้มือหนาก็เร่งรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและเตรียมที่จะกดโทรไปยังเบอร์ของเพื่อนสนิทของเขา แต่แล้วก็ต้องเก็บโทรศัพท์ลงไปเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้
“ไม่” เขาส่ายหน้ากับตัวเอง และก็ค่อยๆตั้งสติขึ้น สายตาคมกลับไปจ้องยังที่คู่เพื่อนสาวคู่เดิมยืนอยู่ แต่ตอนนี้สองคนนั้นหายไปแล้วเหลือเพียงความว่างเปล่า เขาค่อยๆทาบทับมือวางไปกลับกำแพงข้างๆอย่างหาที่ยึดเหนี่ยว หัวสมองเต็มไปด้วยความคิดและความกังวลต่างๆนานา ...นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? คนสองคนนี้มันอะไรกัน?...
เช้าวันรุ่งขึ้นมหา’ลัยดูเงียบๆไม่ค่อยๆคึกคื้นเท่าไหร่นักอาจเป็นเพราะวันนี้หลายๆคณะไปออกค่ายกัน ผิดกับกลุ่ม ‘Blacklist’ ที่แต่ละคนใช้อภิสิทธิ์พิเศษโดดไม่ยอมไปเข้าค่ายกัน ร่างของแอลที่เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยมาเรื่อยๆตั้งแต่ที่บ้านนอนลงบนโซฟาตัวหรูประจำห้องพิเศษของกลุ่มเขาในมหาลัย แขนทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาก่ายหน้าผากโดยอัตโนมัติ
“Hey! นี่มึงไม่ไปออกค่าย แต่มามหา’ลัยแต่เช้าเนี่ยนะ ?” เสียงแดฮยอนที่ลอยเข้ามาเป็นการบอกว่าเขาก็เพิ่งเดินเข้ามาและอยู่ในห้องนี้ด้วย แต่แอลก็ไม่ค่อยได้สนใจเหลียวไปมองเท่าไหร่ เขายังคงนอนแน่นิ่งและคิดอะไรบางอย่างอยู่อย่างนั้น แดฮยอนจึงนั่งลงตรงโซฟาตัวกันข้ามกับเขาแล้วจ้องมองแอลด้วยความแปลกใจในท่าทางของเขา
“เป็นอะไรวะ ?”
“...มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อย” เรียวปากของแอลขยับขึ้น แต่สีหน้าและแววตาของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม มีแต่เรียวปากบางที่ขยับเพื่อแสดงว่าเขาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนกัน
“นาอึนอ่ะสิ ?”
“ไม่เชิง ...ไอ้ซองยอลมันหายไปไหนวะ ?” ประโยคสุดท้ายแอลปรับเปลี่ยนท่าจากนอนมาเป็นลุกขึ้นนั่งถามแดฮยอนด้วยความอยากรู้ คนถูกถามได้แต่มองด้วยความแปลกใจระคนสงสัย
“มันก็คงอยู่บ้านมันแหละ มันคงไม่แหกขี้ตามาแต่เช้าเหมือนเราสองคนหรอก”
“อืม จริง ...ว่าแต่วันนี้มึงก็โดดออกค่ายแล้วมึงจะมาทำไม ?”
“กูนัดสาวคณะข้างๆไว้ ว่าจะออกไปเดทซะหน่อย ...แล้วมึงมาทำไม ?” แดฮยอนถามกลับไปด้วยความอยากรู้
“นอนเล่น”
“ไอ้บ้า! ทำไมมึงไม่นอนเล่นที่บ้านมึงวะ?!! จะแหกขี้ตาตื่นมานอนเล่นที่นี่ทำไม?” ร่างหนาร้องออกมาด้วยความตกใจ เขาถามเสียงดังแต่ว่าคำถามของเขามันไม่อยากได้รับคำตอบมากเท่าไหร่นัก มันเป็นเหมือนคำบ่นของเขามากกว่าคำถามซะอีก!
“ตั้งแต่มึงเป็นเพื่อนกูมากูเคยทำอะไรเหมือนคนอื่นเค้ามั๊ย ?” แอลจ้องใบหน้าเข้มของแดฮยอน เขาเงียบคิดไปสักพักแล้วก็ส่ายหน้าเล็กน้อย ...นึกๆดูแล้วไอ้กลุ่ม ‘Blacklist’ ทั้งกลุ่มมันก็ทำตัวไม่เหมือนใครอยู่แล้วนิน่า เฮ้อ...
“มึงว่าไอ้ซองยอลมันจะเลิกรักแฟนเก่ามันได้ยังวะ ?” อยู่ดีๆแอลก็ตั้งคำถามขึ้นมาพร้อมกับจ้องหน้าแดฮยอนเพื่อรอคำตอบ แดฮยอนก็ยังคงงงในท่าทางของแอลเหมือนเคย แต่ก็ไม่อยากที่จะถามมากเท่าไหร่
“อาจจะยัง แต่มันก็คงปากแข็ง ขี้เก๊กไปเรื่อยเปื่อย เหมือนมึง!” ท้ายประโยคสายตาคมของแดฮยอนมาหยุดอยู่ที่แอลเพื่อเป็นการบอกว่าเขากับซองยอลมันก็คล้ายๆกันนั่นแหละ ไม่แปลกใจหรอกที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เกิด!
“อะไรเหมือนกู ?”
“มึงรู้อยู่แก่ใจว่ะ กูไม่อยากพูด”
“ถ้ามึงหมายถึงเรื่องนาอึน กูบอกได้เลยว่ากูไม่ได้รักยัยนั่นแล้วจริงๆ กูเกลียดผู้หญิงคนนี้ เกลียดที่สุด อยากเห็นยัยนั่นเจ็บกว่ากูหลายเท่า”
“ตามสบายมึงเถอะ ถ้าเกลียดจริงก็ดีแล้ว...แต่ถ้ามึงจะกลับไปคบหรือไปรัก กูก็ไม่สนับสนุนหรอกนะเพราะยัยนั่นเคยหลอกมึงมาก่อน กูรับไม่ได้ว่ะ” แดฮยอนพูดเรียบๆ แต่คำพูดของเขามันกลับทำให้คนที่ฟังอยู่เกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไร กังวล? สับสน? วิตก?
ร่างของนาอึนและโบมีเดินเล่นในสวนสาธารณะกันอย่างสบายใจ สายลมที่พัดอยู่บวกกับแสงแดดยามเช้าที่อบอุ่นเล็กน้อย ทำให้ร่างของสองสาวดูจะสดชื่นคึกคื้นเหลือเกิน ทั้งสองผลัดกันส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
“นี่ พาฉันไปดูมหา’ลัยเธอหน่อยสิ ฉันอยากเห็น” โบมียิ้มร่าอย่างมีความสุขพร้อมกับส่งสายตาอ้อนๆมาด้วย
“หะ ? ...ไว้คราวหน้าได้มั๊ยอ่ะ ?” ใบหน้าของนาอึนเจื่อนลงไปนิดๆ หญิงสาวไม่อยากพาเพื่อนของเธอไปมหา’ลัยก็เพราะว่ากลัวว่าโบมีจะเจอกับแอลและเขาก็อาจจะมีเรื่องกับโบมีได้ รวมทั้งเธอไม่อยากให้เพื่อนต้องมารับรู้เรื่องของแอลกับเธอด้วย
“ทำไมล่ะ ?”
“เอาน่า นะ... คราวหน้านะ... ฉันมีโปรแกรมไว้แล้วอ่ะ”
แล้วโบมีกับนาอึนก็เดินเล่นกันไปเรื่อยพอเริ่มสายๆพระอาทิตย์ส่องแสงจ้าทั้งสองก็ออกไปเดินเล่นในเมืองกัน ผู้คนในเมืองตามย่านและถนนต่างๆพลุกพล่านกันอย่างมากเพราะเป็นแหล่งรวมอะไรหลายๆอย่างและเป็นแหล่งชอปปิ้งของใครหลายๆคน
“นี่ อันนี้สวยป้ะ ?” โบมีหยิบหมวกใบเก๋ขึ้นมาถามนาอึน เธอก็พยักหน้าตอบอย่างสดใส เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวเห็นดีด้วยโบมีจึงจัดการซื้อหมวกใบเก๋นั่นทันที ทั้งสองเดินออกมาจากร้านอย่างอารมณ์ดี พากันชวนดูนู่นซื้อนี่กันอย่างมีความสุข ก็ช่วงเวลาที่อยู่กับเพื่อนมันจะเป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุข ไม่ต้องเครียดอะไร เพราะเพื่อนมันจะทำให้เรามีความสุขเสมอเวลาอยู่ด้วยกัน และเพื่อนมันจะเป็นที่พักให้เราพึ่งพิงเวลาเดือนร้อนหรือทุกข์ใจ เวลาอกหักเพื่อนเนี่ยแหละมันก็คอยปลอบใจแล้วไม่ทิ้งกันไปไหน!! ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพื่อนคืออีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์โลกอย่างเรานั้นขาดไม่ได้!!
“เห้ย โบมี! นั่นมันไอ้ผู้ชายไร้มารยาทที่ชนฉันเมื่อคืนนี่หว่า” นาอึนตาโตเมื่อเดินมาเห็นผู้ชายที่เธอจำใบหน้าได้ขึ้นใจ ผู้ชายไร้มารยาทที่ชนเธอเมื่อคืน!! นิ้วเรียวยาวถูกชี้ไปยังผู้ชายรูปร่างสูงบาง ผมสีดำสนิทที่อยู่ในชุดโทนสีดำซึ่งมันเป็นอะไรที่เหมาะกับเขาสุดๆ ผู้ชายคนนั้นเดินออกมาจากร้านขายดอกไม้แบบหน้าบูดๆ ชายหนุ่มกำลังก้าวเท้าเดินตรงมาทางนาอึน เธอคิดว่าเขาต้องจำเธอได้แน่ๆ เขากำลังจะมาหาเรื่องเธอแน่ เพราะตอนนี้เธอชี้นิ้วไปที่เขาอยู่
ใบหน้าหล่อคมของผู้ชายที่ยืนตรงหน้านาอึนถูกคิ้วขมวดเข้าหากันแล้วมองเธอด้วยความแปลกใจและสงสัย ใบหน้าหล่อจ้องนาอึนนิ่ง เขาก็สมควรแปลกใจแหละเพราะคนไม่รู้จักกันแล้วเธอดันชี้นิ้วไปที่เขาเนี่ยนะ!? เขาคงคิดว่าเธอหาเรื่องเขาแน่ๆเลย
“มาชี้ฉันทำไม ?” ใบหน้าหล่อขยับปากพูด ในขณะที่นาอึนกับโบมีเริ่มที่จะหายใจไม่ทั่วท้อง ยอมรับว่าก็กลัวเหมือนกันแหละ! โบมีสะกิดเอวนาอึนเล็กน้อยให้เธอเป็นคนตอบ
“เอ่อคือ... เมื่อคืนนายยังไม่ขอโทษฉันเลย” นาอึนพูดออกไปด้วยใบหน้าที่รู้สึกหวาดกลัวนิดๆ ก็คนตรงหน้าเธอเล่นไม่ยิ้มแถมยังทำหน้าบึ้งตึงใส่เธอด้วย เหมือนกับแอลไม่มีผิด แต่สองคนนี้แค่หน้าไม่คล้ายกันเท่านั้น!
“What ? ขอโทษ ? ขอโทษอะไร ?” ชายหนุ่มร่างสูงทำหน้างงงวยกับคำพูดที่ออกมาจากเรียวปากบางของนาอึน ท่าทางของเขามันเริ่มที่จะทำให้นาอึนอารมณ์ขึ้นนิดๆ แต่ก็ยังคงสะกดกลั้นอารมณ์นั้นไว้
“ก็เมื่อคืนนายชนฉันที่ร้านอาหาร” นาอึนพูดเสียงเรียบ ในขณะที่โบมีก็ได้แต่ยืนมองการสนทนาของคนคู่นี้ไปมาเท่านั้น ชายหนุ่มร่างสูงเริ่มที่จะแสดงสีหน้าเข้าใจเรื่องที่เธอพูดมาตั้งแต่แรกแล้ว มุมปากของเขากระตุกยิ้มนิดๆเพียงแต่มันแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ไม่ทันที่นาอึนและโบมีจะได้เห็นรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์นั่นของเขา ชายหนุ่มก็ปรับเปลี่ยนใบหน้ามาเป็นเรียบนิ่งเหมือนเก่า
“อ่อ เธอเหรอ ? ฉันรีบอ่ะนะ ขอโทษด้วยแล้วกัน”
“...”
“ฉันจะชดเชยให้ด้วยการเลี้ยงข้าวแล้วกัน โอเคมั๊ย ?” ชายหนุ่มร่างสูงฉายแววเจ้าเล่ห์ในดวงตาคู่สวยของเขาวิบวับ มันทำให้ทั้งนาอึนและโบมีรู้สึกอึดอัดและวิตกกังวลขึ้นเล็กน้อยเมื่อสบตาเจ้าเล่ห์นั้น
“ไม่เป็นไร แค่ขอโทษก็พอแล้ว”
“ปฏิเสธฉันรึไง ?” ชายหนุ่มร่างสูงขมวดคิ้วเข้าหากันอีกรอบ ใบหน้าเริ่มหม่นลงไปนิดๆ เขาก็แค่อยากทำความรู้จักกับผู้หญิงคนสวยคนนี้เท่านั้นเองนะ!!
“ป่าว ฉันอยากได้แค่คำขอโทษจากนายเท่านั้น ...ไปก่อนนะ” เมื่อพูดจบนาอึนก็รีบลากโบมีที่ยืนฟังอยู่นานไปทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มร่างสูงได้แต่มองตามเธอไปด้วยความเสียดาย ผู้หญิงสวยน่ารักมักเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มหลายๆคน และตอนนี้นาอึนเริ่มทำให้ชายหนุ่มคนนี้อยากที่จะรู้จักเธอแล้วสิ เพราะใบหน้าแสนสวยของเธอที่ทำให้ชายหนุ่มร่างสูงหลงเสน่ห์มันอย่างเต็มเปานั่นแหละ! ยอมรับเลยว่าตอนแรกเขาเข้ามาหาด้วยอารมณ์ไม่ดีนัก แต่ตอนนี้เธอทำให้เขาอยากจะได้เธอมาเป็น ‘ของเล่น’ ชิ้นใหม่ซะแล้วสิ!
พลันสายตาคมของชายหนุ่มร่างสูงเหลือบไปเห็นร่างสูงบาง ขาวสวยของผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากร้านขายดอกไม้ที่เขาเพิ่งจะเดินออกมา ร่างสูงบางของหญิงสาวนั่นเดินออกมากับผู้ชายผิวพรรณดีหน้าตาหล่อไม่แพ้เขาด้วยท่าทางที่หัวเราะต่อกระซิก อารมณ์เดือดๆแทบประทุของเขาก็กลับมาอีกรอบ ชายหญิงคู่นั้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มร่างสูงด้วยท่าทางที่เรียบเฉย
“ยังไม่ไปอีกเหรอ ?” ชายหนุ่มผิวพรรณดีพูดเหยียดชายหนุ่มร่างสูง มันทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มร่างสูงแทบจะประทุออกมา แต่ก็ต้องเก็บไว้เพราะนี่มันที่สาธารณะ แต่ถ้าเขาเก็บไม่ไหวได้ระเบิดลงตรงนี้แน่!!
“เรื่องของกู!!!” เขาตอบกลับเสียงเข้มพร้อมกลับชายตามองร่างบางที่ก้มหน้าอยู่ข้างชายหนุ่มผิวพรรณดี ร่างบางเลี่ยงที่จะสบตากับชายหนุ่มร่างสูงเพราะว่ากลัว... ชายหนุ่มผิวพรรณดียกยิ้มเยาะที่มุมปากใส่ร่างสูงเล็กน้อย
“ซอลลี่ เราไปกันเถอะ... ปล่อยให้ไอ้แทมินมันบ้าอยู่ที่นี่คนเดียวเถอะ” ชายหนุ่มพิวพรรรณดีพูดขึ้นพร้อมกับคว้าหมับเข้าที่แขนของหญิงสาวร่างบางที่ยืนก้มหน้าไม่อยากสบตากับชายหนุ่มร่างสูงหรือแทมินอยู่ แต่เมื่อทั้งคู่กำลังจะเดินผ่านแทมินไป เขาก็กลับคว้าเข้าที่ข้อมือของไอ้ชายหนุ่มผิวพรรณดีนั่นอย่างแรง
“เอามือมึงออกจากแขนของเมียกูเดี๋ยวนี้!!” แทมินพูดพร้อมจ้องหน้าชายหนุ่มผิวพรรณดีเขมง เขาออกแรงกดที่ข้อมือนั่นแรงขึ้นด้วยความโมโห ซอลลี่ที่มัวแต่ก้มหน้าอยู่ตั้งแต่แรกก็เงยหน้าขึ้นมามองแทมินด้วยความตกใจ ตกใจกลับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของเขา
“เมียอะไร ? มึงอย่ามั่ว! มึงเป็นแค่แฟนเก่าซอลลี่เท่านั้น”
“มึงแน่ใจว่ากูเป็นแค่แฟนเก่ายัยนี่?!!” แทมินถามอย่างเจ้าเล่ห์ เขายิ้มอย่างคนที่เหนือกว่ามันเริ่มทำให้ชายหนุ่มผิวพรรณดีสับสนและลังเลขึ้นมา เขาค่อยๆคลายมือออกมาจากแขนซอลลี่อย่างช้าๆด้วยความสับสน
“ซอลลี่ตอบฉันมา ...เธอกับมันแค่แฟนเก่ากันใช่มั๊ย ?”
ซอลลี่นิ่งเงียบไม่ยอมตอบคำถาม แต่มันกลับทำให้ชายหนุ่มผิวพรรณดีคนนั้นแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่แค่แฟนเก่ากันแน่ ชายหนุ่มผิวพรรณดีแววตาสั่นระริกใจสลายกับความเงียบที่เป็นเหมือนการย้ำว่าเธอกับแทมินไม่ใช่แค่แฟนเก่ากัน! ในขณะที่แทมินยกยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจ
ร่างของชายหนุ่มผิวพรรณดีค่อยๆถอยห่างออกไปจากคนทั้งคู่ด้วยความเสียใจและใจสลาย เท้าของเขาแทบจะไม่เป็นตามที่เขาสั่งเลยด้วยซ้ำ เมื่อมองมายังคนทั้งสองก็เจอแต่รอยยิ้มที่แสนจะเยาะเย้ยของแทมินและสายตาที่สงสารของซอลลี่ เขามันน่าสมเพชมากใช่มั๊ย??
“ชานยอล ฉันขอโทษ ...ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะปกปิดมัน แต่...” เสียงหวานถูกเอ่ยขึ้นจากซอลลี่ หญิงสาวยืนนิ่งไปไม่เป็นเลย เธอไม่น่าดึงเอาชานยอลคนที่รักเธอมาเป็นเครื่องมือเลย ยิ่งเห็นสีหน้าของเขามันยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด
“อย่าเพิ่งพูดอะไร ฉันไม่อยากฟัง!!”
มาแล้วจ้า >< เม้นโหวตเหมือนเดิมจุ๊บๆ
:: Writer Talk ::
เค้ากลับมาแล้วหลังจากที่หายไปหลายวัน ><'
ในตอนนี้ทุกคนอาจจะสงสัยเกี่ยวกับโบมี
แต่ว่าเราจะยังไม่เฉลยเก็บไว้ก่อน
ไว้รอพาร์ทของโบมีทุกคนก็จะรู้นะ คิคิ
แทมลี่มาแล้ว! มาดูแทมินแบดกันเรื่องนี้
คุณอาจจะตกหลุมรักเขาได้
มีข่าวมาบอกช่วงนี้ไรท์สอบ
อาจจะ อาจจะนะ อัพอาทิตย์หน้านะ
ได้โปรดรอไรท์เตอร์คนนี้ด้วย pls!
ความคิดเห็น