คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย :: CHARPTER 2
- 2 -
นาอึนเดินเข้ามาในมหาลัยด้วยใบหน้าที่ไม่ดีนัก เหตุผลเพราะว่าเธอก็นึกกลัวคำขู่ของแอลเมื่อวานเหมือนกัน! ถึงจะเคยมีความรู้สึกดีๆให้กันมาก่อน แต่เรื่องที่เธอทำกับเขามันคงทำให้เขาเกลียดเธอมากๆ และความเกลียดของเขามันคงจะมากพอที่จะทำให้เขากล้าทำอะไรเธอแน่ๆ
“ไม่มีอะไรหรอกน่า” หญิงสาวพูดปลอบใจตัวเองพร้อมกลับสูดหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกกำลังใจ
พลันสายตาของเธอก็เหลียบไปเห็นรถคันหรูคุ้นตาแล่นเข้ามาด้วยความเร็วเต็มเหนี่ยว แถมมันยังตรงดิ่งมาที่เธอและดูเหมือนมันจะไม่ยอมลดความเร็วลงด้วยนะ
เมื่อรถคันหรูนั่นแล่นเข้ามาใกล้ ใกล้ และใกล้เธอเรื่อยๆ เสียงแตรจากรถคันหรูก็ดังสนั่นขึ้น ดวงตากลมโตทั้งสองข้างของร่างบางเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ แต่เธอก็มีสติพอที่จะรีบกระโดดหลบอย่างเฉียดฉิว รถคันหรูแล่นผ่านเธอไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีแม้แต่คำขอโทษจากเจ้าของรถคนหรูนั่น!
ร่างบางมองตามรถหรูคันนั้นไปด้วยความโมโหและเธอเพิ่งสังเกตเห็นได้ว่ารถคันหรูที่เธอคุ้นๆตอนแรก มันเป็นรถของ...
“แอล!!”
ร่างบางก้าวเดินฉับๆมาถึงตึกที่ตัวเองเรียนด้วยความโมโห โมโหซะจนไม่ได้มองรอบๆตัวเลย ในสมองก็มีแต่ความโมโหคนที่ขับรถแทบชนเธอ เธอคิดว่าเขาจงใจแกล้งเธอแน่ๆ ขับมาซะเร็วและไม่ยอมชะลอเลย! คิดจะชนกันเลยรึไง?! นี่ถ้าเธอหลบไม่ทัน เธอคงไม่เละเป็นโก้โก้ครั้นช์ไปแล้วเหรอ? คิดแล้วก็โมโห ก่อนที่จะโมโหไปมากกว่านี้ร่างของเธอก็เดินไปกระแทกเข้ากับร่างของใครคนหนึ่ง
“โอ๊ย!”
“อุ่ย ขอโทษค่ะ” หญิงสาวกล่าวคำขอโทษออกไปโดยที่ไม่ได้มองเลยว่าคนที่เธอเดินชนเป็นใคร และก็ต้องตกใจตาเบิกกว้างอีกครั้ง เมื่อสายตาทั้งคู่มองเห็นว่าคนที่เธอเดินชนเป็นใครชัดเจน!
“พี่ซองยอล!”
“นาอึน”
ซองยอลเองก็ไม่ต่างจากนาอึนเหมือนกัน เขาต้องตกใจอีกรอบหลังจากเมื่อวาน คราวนี้ไม่ใช่แค่เดินผ่าน แต่เป็นเดินชน! แล้วเดินชนใครไม่ชนมาชนนาอึน! โถ่ ซองยอลเอ้ยยยยยย!
เมื่อตั้งสติได้และเห็นว่าคนตรงหน้าก็ตกใจเหมือนกัน เธอจึงรีบเดินหนีฉับๆไป ปล่อยให้ซองยอลที่ยังยืนตกใจอยู่ทิ้งไว้อย่างนั้น
“ซนนาอึน เธอซวยอะไรขนาดนี้ เมื่อวานแอล วันนี้พี่ซองยอล โอ๊ยยย” นาอึนบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆในขณะที่เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อหนีซองยอลที่กำลังจะเดินตามมาอยู่ หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะเจอเพื่อนสนิทของแอลแบบหนีไม่รอดขนาดนี้! ต้องบอกว่าหนีไม่รอดสินะถึงจะถูก! เธอไม่อยากโดนเพื่อนของแอลลากไปอย่างตกใจอย่างเมื่อวานอีกแล้วจริงรีบจ้ำอ้าวหลับหูหลับตาเดินไม่มองทางด้วยความรีบ
“นาอึน นาอึน” เสียงซองยอลที่ลอยมาตามด้านหลังของนาอึนพยายามร้องเรียกให้หญิงสาวที่เดินหนีเขาให้หยุด!
“หยุดก่อน พี่บอกให้หยุดไง!” เขาส่งเสียงเรียกดังกังวานจนคนในคณะต้องหันมามอง แต่โทษทีคนในคณะไม่ได้มองเธอ! แต่มองซองยอล!55555
“โถ่เว้ย!!” เขาสบถออกมาด้วยความอารมณ์เสียเมื่อเห็นว่าร่างบางที่เขากำลังตามอยู่เดินหายไปแล้ว แล้วเสียงเขาเมื่อกี้มันก็มากพอที่จะทำให้คนแถวๆนี้หันมามองเขาด้วยความแปลกใจ
“มองอะไรกัน ?!!” เขาส่งเสียงตวาดออกมาใส่นักศึกษาที่กำลังมองมาที่เขาด้วยความแปลกใจอยู่ ส่งผลให้นักศึกษาพวกนั้นสะดุ้งและรีบหันอย่างรนรานไปทำภาระกิจของตัวเองต่อ
“หายไปไหน ? เร็วจริงๆนาอึน” เขาบ่นพึมพำกับตัวเองและพยายามชะเง้อมองหาร่างบางที่เขาเดินตามมาเมื่อครู่ แต่ก็พบเพียงแต่นักศึกษาในมหาลัยที่เดินกันไปมาเท่านั้น
ในขณะที่นาอึนที่หลบอยู่ตรงซอกตึกมุมหนึ่งค่อยๆเลื่อนใบหน้าของตัวเองออกไปจากซอกตึกตรงนี้อย่างช้าๆ เพื่อส่องดูซองยอลที่ชะเง้อมองหาเธออยู่ เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งออกเมื่อเห็นว่าซองยอลเดินกลับไปแล้ว
“เฮ้อ...”
เฮือก!!!
ร่างทั้งร่างของเธอสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเมื่อหันกลับมาเจอชายหนุ่มใบหน้าหล่อที่ขู่เธอไว้เมื่อวาน ‘แอล’ ใช่แล้วเขานั่นแหละ! หัวใจแทบหลุดหายไปจากตัวเมื่อเขาขยับร่างกายพร้อมกลับจ้องมาที่เธออย่างจับผิดและเรียวปากของใบหน้าหล่อขยับขึ้น เธอกลัวคำพูดของเขาที่จะพูดออกมาเหลือเกิน กลัวการกระทำของเขาทุกอย่างตอนนี้จริงๆ อะไรที่ทำให้เธอได้กลัวเขามากขนาดนี้? ทั้งๆที่เมื่อกี้ความรู้สึกนี้มันก็หายไปแล้วนะ แต่เมื่อยืนต่อหน้าเขาตอนนี้แล้วความกลัวนั้นมันกลับเข้ามาอีกแล้ว!!
“ตกใจขนาดนั้นเลยรึไง ?”
“นะ นายมายืนตรงนี้นานรึยัง ?” ร่างบางไม่ตอบคำถามของชายหนุ่ม แต่เธอกลับถามกลับ ทำให้ร่างของเขาขยับนิดๆ เตรียมที่จะหาเรื่องคนตรงหน้า
“ฉันเป็นคนถามเธอก่อน!”
“แต่ฉันไม่มีคำตอบให้นาย ...นะ นายมายืนตรงนี้นานรึยัง ?” ร่างบางถามย้ำอีกครั้ง เธอไม่ได้ที่จะกวนเขานะ เธอแค่อยากรู้จริงๆวาเขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงและนานรึยัง?
“เธอจะกวนฉันรึไงหะ?!!” ชายหนุ่มตวาดเสียงดังลั่น ทำให้หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย โชคดีที่ตรงนี้มันแค่เป็นมุมเงียบๆมุมหนึ่งที่ไม่มีใครผ่านมาทั้งนั้น ทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงของชายหนุ่ม ว่าแต่ตรงนี้มันไม่มีใครผ่านมาแล้วเขามาได้ไง?
“ปะ ป่าว” เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก
“ก็ฉันถามเธอ แต่เธอบอกไม่มีคำตอบ! ไม่เรียกว่ากวนแล้วเรียกว่าอะไรหะ?!!”
“ฉันไม่ได้กวนนายจริงๆ” หญิงสาวทำหน้าว่าพูดจริงๆ แต่ชายหนุ่มตรงหน้าก็มองเธอด้วยสายตาถากถาง เย็นชาเหมือนเดิม เธอล่ะเกลียดสายตาแบบนี้ของเขาจริงๆ เขาเปลี่ยนไปมากเหมือนกันนะ!
“หึ! ช่างเถอะ ...มากับฉันเดี๋ยวนี้!” เขาบอกปัดๆแล้วก็เป็นคนเดินนำออกจากมุมตรงนี้ แต่ทว่าเขาก็ต้องหยุดก้าวเท้าลง เมื่อเห็นว่าร่างบางข้างหลังเขาไม่ยอมก้าวเท้าตามมา
“ตามมาสิ!” ชายหนุ่มหันไปสั่งหญิงสาวที่ยังอยู่ตรงซอกตึกที่เดิมอยู่ แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมขยับร่างเดินตามเขาออกมา มีแต่สายตาไม่ไว้ใจที่มองตามเขาออกมาเท่านั้น
“บอกให้ตามมาไง!”
“จะไปไหน ?” เธอขยับปากพูดขึ้นแต่ว่าร่างก็ไม่ได้ขยับสักนิด ทำให้ร่างหนาที่เดินออกไปเมื่อครู่ต้องเดินกลับมาที่เดิม สายตาเย็นชาและโมโหแบบเก่าถูกส่งไปยังคนตรงหน้าเหมือนเคย
“ทำไมจะต้องถามมาก ? ...เมื่อวานฉันบอกให้เธอทำอะไรจำได้มั๊ย ? ไปกับฉันเดี๋ยวนี้! ฉันจะพาเธอไปจัดการเอง”
“ลาออก ? ...มะ ไม่นะ ฉันไม่ไป” ร่างบางส่ายหน้าปฏิเสธคนตัวสูงกว่าพร้อมกลับถอยหลังออกห่างไปเล็กน้อย
“นี่! บอกแล้วใช่มั๊ย ? ว่าถ้าไม่ออกได้รู้จักกับคำว่านรกแน่! ฉันอุตสาห์ใจดีพาเธอไปจัดการเรื่องนี้แล้วนะ หรือเธออยากให้ฉันบีบให้เธอลาออกด้วยวิธีอื่นหะ!!?” แล้วมันก็เป็นอีกครั้งที่เขาส่งเสียงตะคอกใส่เธอและร่างบางก็สะดุ้งด้วยความตกใจเหมือนเคย ก็เสียงเขามันดังและน่ากลัวนี่นา จะไม่ให้เธอตกใจสะดุ้งได้ไง?
“มะ ไม่ ฉันไม่ออก นายจะทำอะไรก็แล้วแต่ ฉะ ฉันพร้อมรับ” เสียงใสเอ่ยขึ้นด้วยความกล้าแต่ว่าเสียงของเธอมันกลับฟังเหมือนไม่มั่นใจอย่างงั้น ทำให้แอลยกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์เช่นเคย
“พร้อมรับเหรอ ? ลองก่อนมั๊ยว่าจะโดนอะไร ?” ร่างหนาเอียงคอเล็กน้อยถามร่างบางตรงหน้าที่พยายามเชิดหน้าขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับเขา ทั้งที่ในใจเธอสั่นไปด้วยความกลัว
ร่างบางยืนนิ่งมองใบหน้าหล่อคมของร่างหนาด้วยสายตาที่สั่นเล็กน้อย ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากเรียวปากบางนั่นเลย แม้แต่คำเดียว เหมือนทั้งสองเล่นเกมส์จ้องหน้ากันอย่างไงอย่างงั้น บรรยากาศเงียบเชียบ เงียบซะจนได้ยินเสียงลมพัดผ่าน หญิงสาวใจสั่นระริกไม่รู้เลยว่าร่างหนาจะทำอะไรเธอ
พลั่ก !!!
บรรยากาศที่เงียบเชียบเมื่อครู่หายไปชั่วแวบตา เมื่อแอลผลักร่างของนาอึนไปกระแทกเข้ากับกำแพงตึกสูงนี่อย่างแรง ชายหนุ่มผลักหญิงสาวซะแรงมากจนเธอค่อยๆทรุดลงด้วยความจุกและเจ็บ แรงของเขาไม่ปรานีเธอเลย ไม่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเลยรึไง? เหมือนมันเป็นแรงเกลียดของเขาสุดๆ!
เจ็บ เจ็บสุดๆ
สองคำที่ลอยอยู่ในหัวของนาอึน เจ็บจนยากที่จะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด มือเรียวบางค่อยๆคลำไปที่แผ่นหลังของตัวเองที่กระแทกกับกำแพงอย่างช้าๆ เธอไม่กล้าแม้แต่ที่จะขยับอะไรมากมายเลยตอนนี้ คำเดียวกลัวเจ็บ! นี่มันแรงคนแน่เหรอ ? ทำไมมันเจ็บขนาดนี้ ? หลังเธอหักแล้วมั้ง ? ถ้าไม่หักมันก็คงช้ำน่าดู! ตอนนี้เธออยากร้องไห้ที่สุด แต่เพราะสายตาที่เยาะเย้ยและสมเพชเธอตรงหน้า ทำให้เธอต้องกลั้นน้ำตาของเธอที่มันจะไหลอยู่มะรอมร่อไม่ให้ไหลออกมา
“บทเรียนแรก ต่อไปไม่ใช่แค่เจ็บตัวแน่!” ชายหนุ่มทิ้งท้ายและส่งรอยยิ้มเยาะเย้ยมาให้ร่างที่นั่งทรุดตรงหน้าเขา พร้อมกับจากไปแบบรวดเร็ว
ทันทีที่เขาเดินจากไปน้ำใสๆที่กลั้นไว้เมื่อครู่ก็ไหลเอ่อรอบดวงตาหญิงสาวทันที มันไหลออกมาเพราะความเจ็บ เพราะความเจ็บ! หญิงสาวย้ำกับตัวเอง ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไหลออกมาจากความเจ็บจริงๆนั่นแหละ แต่มันก็มีอีกเหตุผลนึงที่ทำให้มันไหลออกมา
แอลเดินออกมาด้วยความรู้สึกผิดนิดๆ เขาพยายามทำใจแข็งไม่ให้หันกลับไปมองร่างที่นั่งทรุดเจ็บเพราะเขาอยู่ แววตาของเขาจากที่ว่างเปล่าเย็นชากลับแปรเปลี่ยนมาเป็นสั่นไหวอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อยทันที
ดีแล้วๆ! เจ็บซะมั่ง!
ชายหนุ่มพยายามปลอบตัวเองด้วยคำพูดที่เย็นชาและร้ายกาจเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิด แววตาคมเข้มของเขากลับมานิ่งเฉยเย็นชาเหมือนเดิม เมื่อความรู้สึกผิดหายไปแล้วเขาก็ตรงดิ่งไปหาบุคคลปริศนาที่เขาได้นัดไว้ทันที
“สวัสดีครับ คุณแอล” ชายหนุ่มปริศนาที่แอลมาหาทักทายเขาด้วยรอยยิ้มอย่างสุภาพ เขาค่อยๆหยิบบางอย่างออกมาจากเสื้อโค้ทสีดำตัวหนาและยาวของเขาอย่างช้าๆ
“นี่ครับ รูปถ่ายเธอเมื่อวานและวันนี้ที่ผมถ่ายไว้ และก็มีข้อมูลของเธอครับ” ชายหนุ่มส่งซองสีน้ำตาลที่เขาหยิบออกมาจากโค้ทของเขาส่งให้แอล แอลรับมันมาด้วยความรวดเร็วแต่เขาก็ยังไม่ได้เปิดซองออกมาดูตอนนี้นะ
“ขอบคุณมาก อ่ะนี่เงินสำหรับรูปถ่ายนี่และข้อมูล ตามยัยนั่นอีกอย่าให้คลาดสายตา” ชายหนุ่มส่งเงินที่มากจำนวนหนึ่งไปให้ชายชุดโค้ท เขาก้มหานิดๆและก็รับเงินนั่นมา
“ครับ แล้วคุณแอลยังจะให้ผมตามถ่ายรูปอยู่รึป่าวครับ ?” ชายหนุ่มเสื้อโค้ทถามด้วยความสุภาพ
“ตาม”
“โอเคครับ งั้น...ผมไปทำงานของผมก่อนนะครับ เดี๋ยวเป้าหมายจะคลาดสายตา" แอลพยักหน้ารับรู้ ชายหนุ่มเสื้อโค้ทจึงทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มอย่างสุภาพของเขาแล้วเดินจากไป
แอลนั่งมองซองสีน้ำตาลที่เขาได้จากชายชุดโค้ทมาสักพักนึงโดยที่ไม่ยอมเปิดดูสิ่งที่อยู่ในซองที่เขาอยากดูตอนแรกนักออกมา เขานั่งจ้องและจ้องมันอยู่อย่างงั้น เขาสงสัยจริงๆว่าทำไมเขาต้องจ้างนักสืบให้คอยติดตามและถ่ายรูปนาอึนตลอด? แล้วที่เขาไปเจอนาอึนตรงซอกตึกนั่นได้ก็เพราะนักสืบที่สะกดรอยตามเป็นคนบอก เขาต้องบ้าแล้วแน่ๆ ทำไมเขาต้องทำถึงขนาดนี้?
ในขณะที่แอลกำลังนั่งจมกับความคิดของตัวเองและเหม่ออยู่ ก็มีมือดีมาฉวยซองสีน้ำตาของเขาไปอย่างรวดเร็ว จนเขาต้องสะดุ้งออกจากความคิดของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“เห้ยยยยยยย! ไอ้แดฮยอนเอามานะโว่ย!”
“อะไรวะ ? ของมึงรึไง ?” แล้วมือดีที่มาฉวยซองสีน้ำตาลนั้นก็ไม่ใช่ใครแดฮยอนนั่นเอง เขามองที่ซองสีน้ำตาลอย่างสงสัย
“เออ! ของกู! เอามาได้ยัง ?” แอลพูดเสียงเข้มพร้อมกับยื่นมือไปรับสิ่งของจากเพื่อนสนิทตัวดีของเขา แต่แดฮยอนก็ยังคงยืนนิ่งมองซองสีน้ำตาลที่เขาถืออย่างสงสัย
“เออๆ เอาไปเลยไป” เขาทำท่าจะยื่นซองสีน้ำตาลส่งคืนให้แอล แต่ว่าก็มีเสียงหนึ่งดังลั่นขึ้นมาซะก่อน ทำให้พวกเขาต้องหันไปมองต้นเสียงด้วยความสงสัย
“อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย หล่อมาก! หล่อจริงๆ ชีวอนโอป้า” เสียงแหลมปรี๊ดที่ดังขึ้นนั้นลอยออกมาจากปากของยุนโจที่เดินเข้ามาพร้อมกับมองรูปภาพที่เธอถือด้วยความตื่นเต้นดีใจ หญิงสาวเดินบิดไปบิดมาด้วยความเขิน ทำให้แอลกับแดฮยอนมองเธอด้วยสายตาที่งงกับท่าทางของเธอ
“นี่ๆ พวกแก! ชีวอนโอป้าหล่อป้ะๆ ?” ยุนโจยื่นรูปภาพที่เธอถือให้แอลกับแดฮยอนดู ทั้งสองก้มหน้าลงมามองรูปภาพเล็กน้อยแล้วก็พยักหน้าส่งๆ
“ฉันไปเจอมา! ^^ น่ารักมากตัวจริงเฟรนด์ลี่สุดๆ” ร่างบางพูดพร้อมหัวเราะคิกคิกอย่างดี๊ด๊าสุดๆ แดฮยอนส่ายหน้าระอาเล็กน้อยพร้อมกับยื่นซองสีน้ำตาลส่งคืนให้แอล เขารีบรับมาอย่างรวดเร็ว จนแดฮยอนอดสงสัยไม่ได้ว่าของที่อยู่ในซองสีน้ำตาลนั่นคืออะไร?
“อะไรอ่ะ ?” ยุนโจที่เห็นซองสีน้ำตาลที่แอลถือก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ความลับของฉัน” เขาพูดนิ่งๆพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากแล้วก็เดินออกไปทันที ส่งผลให้สองคนที่หลงเหลืออยู่ในห้องนี้มองตามร่างของเขาออกไปด้วยความสงสัยและงง
“นี่ นายรู้ป้ะ ? ความลับอะไรของไอ้แอลมัน ?” ยุนโจที่ยังยืนสงสัยอยู่หันมาถามแดฮยอนที่ยังคงยืนนิ่งๆมองตามร่างแอลออกไปอยู่
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ มันหวง ไม่ยอมให้ดู” แดฮยอนหันมาพูดกับยุนโจที่ทำหน้าสงสัยอยู่ ทั้งสองคิดสงสัยกับความลับของแอลจริงๆ เพราะว่ากลุ่มพวกเขาไม่เคยมีความลับอะไรต่อกัน แต่ทำไมครั้งนี้แอลมีความลับ? มันแปลกๆนะ หรือว่า...ไอ้แอลเป็นฆาตกร? โอ้ววววว ไม่นะ! โถ่... ไม่ใช่และๆ
“เห้ย! มายืนจ้องหน้ากันทำอะไรวะ ? เดี๋ยวยัยยุนโจก็ท้องหรอก ไม่เอาๆ เพื่อนกัน” เสียงซองยอลที่ลอยเข้ามาทำให้ทั้งแดฮยอนและยุนโจต้องหลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง และไปจัดการที่ปากดีเมื่อกี้แทน
“สมองแกเนี่ยนะไอ้ซองยอลมีแต่ความคิดอะไรหะ!!? “ แดฮยอนตะโกนลั่น
“เอ้า ไอ้บ้านี่ สมองฉันก็ต้องมีความรู้สิวะ”
“เหรอ..........? ความรู้แกคงแน่นมากเลยนะไอ้ยอลลี่” ยุนโจแขวะซองยอลที่นั่งยิ้มร่าให้เธอและแดฮยอนอยู่ ให้ตายเถอะ! ถ้าบอกว่าซองยอลมันมีความรู้แน่นนะ เธอไม่เชื่อเด็ดขาด!! นายนั่นห่วยแตกเรื่องการเรียนมาก! สมองอย่างกะเด็กประถมวันๆมีแต่เรื่องอะไรไม่รู้ที่ไร้สาระ อ๊ะๆ จะว่าไปเด็กประถมอย่างซองยอลก็เคยมีแฟนนะคะ! ซึ่งต่างกับเธอที่ไม่เคยมีเลย TT พูดแล้วเศร้า อายเด็กประถมชะมัด!
“เออ ไอ้ยอล! มึงรู้ป้ะ ? เดี๋ยวนี้ไอ้แอลมันมีความลับอะไร ?” แดฮยอนหรี่ตาถามด้วยความสงสัย ถ้าเทียบๆกันแล้วซองยอลจะเป็นคนที่สนิทกับแอลมากที่สุด มันไม่แปลกหรอกนะ ถ้าเด็กประถมคนนี้จะรู้ความลับนั่นของแอล!
“ความลับ ? ความลับอะไรวะ ? เดี๋ยวนี้มันมีความลับด้วยเหรอวะ ?” ซองยอลถามกลับด้วยความสงสัย
“นี่มึงไม่รู้เหรอ ?!”
“เออ! กูยังงงอยู่เลยเนี่ย อะไรของมึง ?”
“นายไม่ได้โกหกใช่มั๊ยไอ้เด็กประถม ?” ยุนโจที่นั่งลงอยู่ตรงข้ามซองยอลจ้องมาที่ซองยอลอย่างจับผิด มันก็อดสงสัยไม่ได้นิ ก็สองคนนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เกิด โตมาด้วยกัน ผิดกับเธอที่มารู้จักตอนมัธยมต้นนี่ แล้วทำไมซองยอลจะไม่รู้ความลับของเพื่อนสนิทตั้งแต่เกิดของมัน?
“เออ! ยัยนี่นิ!” ซองยอลเสียงดังใส่เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาเรียกเขาว่าเด็กประถม มันน่าอายนะ ทั้งๆที่เขาก็เคยพูดกับไอ้เพื่อนบ้าของเขาทุกคนแล้ว แต่พวกมันก็เรียกกันอยู่ได้! เขาออกจะแบดบอย! เด็กประถมตรงไหน?!!
“ชิส์” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวจิ๊ปากอย่างหมั่นไส้เพื่อนของเธอ
“แล้วตกลงความลับอะไรของไอ้แอลมันวะ ?” ซองยอลถามขึ้นอีกครั้งอย่างข้องใจ ทั้งสามก็ได้แต่มองหน้ากันด้วยความสงสัย มองกันไปมองกันมา เผื่อว่าจะมีใครคิดได้ขึ้นมา แต่ก็ไม่ใครหาคำตอบของคำถามตัวเองได้สักคน
“นาอึน” เสียงแผ่วเบาของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับร่างของเจ้าของเสียงที่มานั่งร่วมวงกับทั้งสามคนอย่างนิ่งเฉย
“อะไรนะ ?” ยุนโจถามผู้มาใหม่อีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ ซึ่งเขาก็ได้แต่ส่ายหน้าระอากับหญิงสาวคนนี้เหลือเกิน ชอบให้เขาพูดซ้ำซากจริงๆผู้หญิงคนนี้
“บอกว่านาอึน” ลู่หานพูดทวนอีกครั้ง ผู้มาใหม่คนนั้นก็คือลู่หานนั่นเอง เขานั่งด้วยท่าทางสบายอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“มึงรู้ได้ไง ?”
“ถามว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่กูไม่รู้ดีกว่า”
เม้นๆนะ ถ้าไม่เม้นผมงอนแน่ๆ *ปาหัวใจรัวๆ*
:: Writer talk ::
ขอโทษล้านๆๆๆๆๆครั้งที่อัพช้า
ช่วงนี้ไรท์เตอร์โรงเรียนเปิดแล้วอ่ะ
งานเยอะ แถมต้องเตรียมตัวสอบอีก TT
เป็นไงๆบ้าง? สนุกบ้างมั๊ย?
อาจจะเบลอๆไปบ้าง เก๊าขอโทษด้วย ฮิฮิ
/// เรื่องนี้ดูยอลลี่ไม่ค่อยฉลาด ฮ่าๆๆ ///
ความคิดเห็น