ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย [ apink - infinite ]

    ลำดับตอนที่ #3 : Blacklist & L : กับดักร้ายผู้ชายอันตราย :: CHARPTER 2

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.พ. 57


    -          2    -

     







     

    นาอึนเดินเข้ามาในมหาลัยด้วยใบหน้าที่ไม่ดีนัก เหตุผลเพราะว่าเธอก็นึกกลัวคำขู่ของแอลเมื่อวานเหมือนกัน! ถึงจะเคยมีความรู้สึกดีๆให้กันมาก่อน แต่เรื่องที่เธอทำกับเขามันคงทำให้เขาเกลียดเธอมากๆ และความเกลียดของเขามันคงจะมากพอที่จะทำให้เขากล้าทำอะไรเธอแน่ๆ

     

     

                “ไม่มีอะไรหรอกน่า” หญิงสาวพูดปลอบใจตัวเองพร้อมกลับสูดหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกกำลังใจ

     

     

    พลันสายตาของเธอก็เหลียบไปเห็นรถคันหรูคุ้นตาแล่นเข้ามาด้วยความเร็วเต็มเหนี่ยว แถมมันยังตรงดิ่งมาที่เธอและดูเหมือนมันจะไม่ยอมลดความเร็วลงด้วยนะ

     

     

    เมื่อรถคันหรูนั่นแล่นเข้ามาใกล้ ใกล้ และใกล้เธอเรื่อยๆ เสียงแตรจากรถคันหรูก็ดังสนั่นขึ้น ดวงตากลมโตทั้งสองข้างของร่างบางเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ แต่เธอก็มีสติพอที่จะรีบกระโดดหลบอย่างเฉียดฉิว รถคันหรูแล่นผ่านเธอไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีแม้แต่คำขอโทษจากเจ้าของรถคนหรูนั่น!

     

     

    ร่างบางมองตามรถหรูคันนั้นไปด้วยความโมโหและเธอเพิ่งสังเกตเห็นได้ว่ารถคันหรูที่เธอคุ้นๆตอนแรก มันเป็นรถของ...

     

     

    “แอล!!

     

     

     

     

    ร่างบางก้าวเดินฉับๆมาถึงตึกที่ตัวเองเรียนด้วยความโมโห โมโหซะจนไม่ได้มองรอบๆตัวเลย ในสมองก็มีแต่ความโมโหคนที่ขับรถแทบชนเธอ เธอคิดว่าเขาจงใจแกล้งเธอแน่ๆ ขับมาซะเร็วและไม่ยอมชะลอเลย! คิดจะชนกันเลยรึไง?! นี่ถ้าเธอหลบไม่ทัน เธอคงไม่เละเป็นโก้โก้ครั้นช์ไปแล้วเหรอ? คิดแล้วก็โมโห ก่อนที่จะโมโหไปมากกว่านี้ร่างของเธอก็เดินไปกระแทกเข้ากับร่างของใครคนหนึ่ง

     

     

    “โอ๊ย!

     

     

    “อุ่ย ขอโทษค่ะ” หญิงสาวกล่าวคำขอโทษออกไปโดยที่ไม่ได้มองเลยว่าคนที่เธอเดินชนเป็นใคร และก็ต้องตกใจตาเบิกกว้างอีกครั้ง เมื่อสายตาทั้งคู่มองเห็นว่าคนที่เธอเดินชนเป็นใครชัดเจน!

     

     

    “พี่ซองยอล!

     

     

    “นาอึน”

     

     

    ซองยอลเองก็ไม่ต่างจากนาอึนเหมือนกัน เขาต้องตกใจอีกรอบหลังจากเมื่อวาน คราวนี้ไม่ใช่แค่เดินผ่าน แต่เป็นเดินชน! แล้วเดินชนใครไม่ชนมาชนนาอึน! โถ่ ซองยอลเอ้ยยยยยย!

     

     

    เมื่อตั้งสติได้และเห็นว่าคนตรงหน้าก็ตกใจเหมือนกัน เธอจึงรีบเดินหนีฉับๆไป ปล่อยให้ซองยอลที่ยังยืนตกใจอยู่ทิ้งไว้อย่างนั้น

     

     

    “ซนนาอึน เธอซวยอะไรขนาดนี้ เมื่อวานแอล วันนี้พี่ซองยอล โอ๊ยยย” นาอึนบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆในขณะที่เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อหนีซองยอลที่กำลังจะเดินตามมาอยู่ หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะเจอเพื่อนสนิทของแอลแบบหนีไม่รอดขนาดนี้! ต้องบอกว่าหนีไม่รอดสินะถึงจะถูก! เธอไม่อยากโดนเพื่อนของแอลลากไปอย่างตกใจอย่างเมื่อวานอีกแล้วจริงรีบจ้ำอ้าวหลับหูหลับตาเดินไม่มองทางด้วยความรีบ

     

     

    “นาอึน นาอึน” เสียงซองยอลที่ลอยมาตามด้านหลังของนาอึนพยายามร้องเรียกให้หญิงสาวที่เดินหนีเขาให้หยุด!

     

     

    “หยุดก่อน พี่บอกให้หยุดไง!” เขาส่งเสียงเรียกดังกังวานจนคนในคณะต้องหันมามอง แต่โทษทีคนในคณะไม่ได้มองเธอ! แต่มองซองยอล!55555

     

     

    “โถ่เว้ย!!” เขาสบถออกมาด้วยความอารมณ์เสียเมื่อเห็นว่าร่างบางที่เขากำลังตามอยู่เดินหายไปแล้ว แล้วเสียงเขาเมื่อกี้มันก็มากพอที่จะทำให้คนแถวๆนี้หันมามองเขาด้วยความแปลกใจ

     

     

    “มองอะไรกัน ?!!” เขาส่งเสียงตวาดออกมาใส่นักศึกษาที่กำลังมองมาที่เขาด้วยความแปลกใจอยู่ ส่งผลให้นักศึกษาพวกนั้นสะดุ้งและรีบหันอย่างรนรานไปทำภาระกิจของตัวเองต่อ

     

     

    “หายไปไหน ? เร็วจริงๆนาอึน” เขาบ่นพึมพำกับตัวเองและพยายามชะเง้อมองหาร่างบางที่เขาเดินตามมาเมื่อครู่ แต่ก็พบเพียงแต่นักศึกษาในมหาลัยที่เดินกันไปมาเท่านั้น

     

     

     

     

    ในขณะที่นาอึนที่หลบอยู่ตรงซอกตึกมุมหนึ่งค่อยๆเลื่อนใบหน้าของตัวเองออกไปจากซอกตึกตรงนี้อย่างช้าๆ เพื่อส่องดูซองยอลที่ชะเง้อมองหาเธออยู่ เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งออกเมื่อเห็นว่าซองยอลเดินกลับไปแล้ว

     

     

    “เฮ้อ...”

     

     

    เฮือก!!!

     

     

    ร่างทั้งร่างของเธอสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเมื่อหันกลับมาเจอชายหนุ่มใบหน้าหล่อที่ขู่เธอไว้เมื่อวาน แอล ใช่แล้วเขานั่นแหละ! หัวใจแทบหลุดหายไปจากตัวเมื่อเขาขยับร่างกายพร้อมกลับจ้องมาที่เธออย่างจับผิดและเรียวปากของใบหน้าหล่อขยับขึ้น เธอกลัวคำพูดของเขาที่จะพูดออกมาเหลือเกิน กลัวการกระทำของเขาทุกอย่างตอนนี้จริงๆ อะไรที่ทำให้เธอได้กลัวเขามากขนาดนี้? ทั้งๆที่เมื่อกี้ความรู้สึกนี้มันก็หายไปแล้วนะ แต่เมื่อยืนต่อหน้าเขาตอนนี้แล้วความกลัวนั้นมันกลับเข้ามาอีกแล้ว!!

     

     

    “ตกใจขนาดนั้นเลยรึไง ?”

     

     

    “นะ นายมายืนตรงนี้นานรึยัง ?” ร่างบางไม่ตอบคำถามของชายหนุ่ม แต่เธอกลับถามกลับ ทำให้ร่างของเขาขยับนิดๆ เตรียมที่จะหาเรื่องคนตรงหน้า

     

     

    “ฉันเป็นคนถามเธอก่อน!

     

     

    “แต่ฉันไม่มีคำตอบให้นาย ...นะ นายมายืนตรงนี้นานรึยัง ?” ร่างบางถามย้ำอีกครั้ง เธอไม่ได้ที่จะกวนเขานะ เธอแค่อยากรู้จริงๆวาเขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงและนานรึยัง?

     

     

    “เธอจะกวนฉันรึไงหะ?!!” ชายหนุ่มตวาดเสียงดังลั่น ทำให้หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย โชคดีที่ตรงนี้มันแค่เป็นมุมเงียบๆมุมหนึ่งที่ไม่มีใครผ่านมาทั้งนั้น ทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงของชายหนุ่ม ว่าแต่ตรงนี้มันไม่มีใครผ่านมาแล้วเขามาได้ไง?

     

     

    “ปะ ป่าว” เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก

     

     

    “ก็ฉันถามเธอ แต่เธอบอกไม่มีคำตอบ! ไม่เรียกว่ากวนแล้วเรียกว่าอะไรหะ?!!

     

     

    “ฉันไม่ได้กวนนายจริงๆ” หญิงสาวทำหน้าว่าพูดจริงๆ แต่ชายหนุ่มตรงหน้าก็มองเธอด้วยสายตาถากถาง เย็นชาเหมือนเดิม เธอล่ะเกลียดสายตาแบบนี้ของเขาจริงๆ เขาเปลี่ยนไปมากเหมือนกันนะ!

     

     

    “หึ! ช่างเถอะ ...มากับฉันเดี๋ยวนี้!” เขาบอกปัดๆแล้วก็เป็นคนเดินนำออกจากมุมตรงนี้ แต่ทว่าเขาก็ต้องหยุดก้าวเท้าลง เมื่อเห็นว่าร่างบางข้างหลังเขาไม่ยอมก้าวเท้าตามมา

     

     

    “ตามมาสิ!” ชายหนุ่มหันไปสั่งหญิงสาวที่ยังอยู่ตรงซอกตึกที่เดิมอยู่ แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมขยับร่างเดินตามเขาออกมา มีแต่สายตาไม่ไว้ใจที่มองตามเขาออกมาเท่านั้น

     

     

    “บอกให้ตามมาไง!

     

     

    “จะไปไหน ?” เธอขยับปากพูดขึ้นแต่ว่าร่างก็ไม่ได้ขยับสักนิด ทำให้ร่างหนาที่เดินออกไปเมื่อครู่ต้องเดินกลับมาที่เดิม สายตาเย็นชาและโมโหแบบเก่าถูกส่งไปยังคนตรงหน้าเหมือนเคย

     

     

    “ทำไมจะต้องถามมาก ? ...เมื่อวานฉันบอกให้เธอทำอะไรจำได้มั๊ย ? ไปกับฉันเดี๋ยวนี้! ฉันจะพาเธอไปจัดการเอง”

     

     

    “ลาออก ? ...มะ ไม่นะ ฉันไม่ไป” ร่างบางส่ายหน้าปฏิเสธคนตัวสูงกว่าพร้อมกลับถอยหลังออกห่างไปเล็กน้อย

     

     

    “นี่! บอกแล้วใช่มั๊ย ? ว่าถ้าไม่ออกได้รู้จักกับคำว่านรกแน่! ฉันอุตสาห์ใจดีพาเธอไปจัดการเรื่องนี้แล้วนะ หรือเธออยากให้ฉันบีบให้เธอลาออกด้วยวิธีอื่นหะ!!?” แล้วมันก็เป็นอีกครั้งที่เขาส่งเสียงตะคอกใส่เธอและร่างบางก็สะดุ้งด้วยความตกใจเหมือนเคย ก็เสียงเขามันดังและน่ากลัวนี่นา จะไม่ให้เธอตกใจสะดุ้งได้ไง?

     

     

    “มะ ไม่ ฉันไม่ออก นายจะทำอะไรก็แล้วแต่ ฉะ ฉันพร้อมรับ” เสียงใสเอ่ยขึ้นด้วยความกล้าแต่ว่าเสียงของเธอมันกลับฟังเหมือนไม่มั่นใจอย่างงั้น ทำให้แอลยกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์เช่นเคย

     

     

    “พร้อมรับเหรอ ? ลองก่อนมั๊ยว่าจะโดนอะไร ?” ร่างหนาเอียงคอเล็กน้อยถามร่างบางตรงหน้าที่พยายามเชิดหน้าขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับเขา ทั้งที่ในใจเธอสั่นไปด้วยความกลัว

     

     

    ร่างบางยืนนิ่งมองใบหน้าหล่อคมของร่างหนาด้วยสายตาที่สั่นเล็กน้อย ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากเรียวปากบางนั่นเลย แม้แต่คำเดียว เหมือนทั้งสองเล่นเกมส์จ้องหน้ากันอย่างไงอย่างงั้น บรรยากาศเงียบเชียบ เงียบซะจนได้ยินเสียงลมพัดผ่าน หญิงสาวใจสั่นระริกไม่รู้เลยว่าร่างหนาจะทำอะไรเธอ

     

     

    พลั่ก !!!

     

     

    บรรยากาศที่เงียบเชียบเมื่อครู่หายไปชั่วแวบตา เมื่อแอลผลักร่างของนาอึนไปกระแทกเข้ากับกำแพงตึกสูงนี่อย่างแรง ชายหนุ่มผลักหญิงสาวซะแรงมากจนเธอค่อยๆทรุดลงด้วยความจุกและเจ็บ แรงของเขาไม่ปรานีเธอเลย ไม่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเลยรึไง? เหมือนมันเป็นแรงเกลียดของเขาสุดๆ!

     

     

    เจ็บ เจ็บสุดๆ

     

     

    สองคำที่ลอยอยู่ในหัวของนาอึน เจ็บจนยากที่จะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด มือเรียวบางค่อยๆคลำไปที่แผ่นหลังของตัวเองที่กระแทกกับกำแพงอย่างช้าๆ เธอไม่กล้าแม้แต่ที่จะขยับอะไรมากมายเลยตอนนี้ คำเดียวกลัวเจ็บ! นี่มันแรงคนแน่เหรอ ? ทำไมมันเจ็บขนาดนี้ ? หลังเธอหักแล้วมั้ง ? ถ้าไม่หักมันก็คงช้ำน่าดู! ตอนนี้เธออยากร้องไห้ที่สุด แต่เพราะสายตาที่เยาะเย้ยและสมเพชเธอตรงหน้า ทำให้เธอต้องกลั้นน้ำตาของเธอที่มันจะไหลอยู่มะรอมร่อไม่ให้ไหลออกมา

     

     

    “บทเรียนแรก ต่อไปไม่ใช่แค่เจ็บตัวแน่!” ชายหนุ่มทิ้งท้ายและส่งรอยยิ้มเยาะเย้ยมาให้ร่างที่นั่งทรุดตรงหน้าเขา พร้อมกับจากไปแบบรวดเร็ว

     

     

    ทันทีที่เขาเดินจากไปน้ำใสๆที่กลั้นไว้เมื่อครู่ก็ไหลเอ่อรอบดวงตาหญิงสาวทันที มันไหลออกมาเพราะความเจ็บ เพราะความเจ็บ! หญิงสาวย้ำกับตัวเอง ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไหลออกมาจากความเจ็บจริงๆนั่นแหละ แต่มันก็มีอีกเหตุผลนึงที่ทำให้มันไหลออกมา

     

     

     

     

     

    แอลเดินออกมาด้วยความรู้สึกผิดนิดๆ เขาพยายามทำใจแข็งไม่ให้หันกลับไปมองร่างที่นั่งทรุดเจ็บเพราะเขาอยู่ แววตาของเขาจากที่ว่างเปล่าเย็นชากลับแปรเปลี่ยนมาเป็นสั่นไหวอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อยทันที

     

     

    ดีแล้วๆ! เจ็บซะมั่ง!

     

     

    ชายหนุ่มพยายามปลอบตัวเองด้วยคำพูดที่เย็นชาและร้ายกาจเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิด แววตาคมเข้มของเขากลับมานิ่งเฉยเย็นชาเหมือนเดิม เมื่อความรู้สึกผิดหายไปแล้วเขาก็ตรงดิ่งไปหาบุคคลปริศนาที่เขาได้นัดไว้ทันที

     

     

    “สวัสดีครับ คุณแอล” ชายหนุ่มปริศนาที่แอลมาหาทักทายเขาด้วยรอยยิ้มอย่างสุภาพ เขาค่อยๆหยิบบางอย่างออกมาจากเสื้อโค้ทสีดำตัวหนาและยาวของเขาอย่างช้าๆ

     

     

    “นี่ครับ รูปถ่ายเธอเมื่อวานและวันนี้ที่ผมถ่ายไว้ และก็มีข้อมูลของเธอครับ” ชายหนุ่มส่งซองสีน้ำตาลที่เขาหยิบออกมาจากโค้ทของเขาส่งให้แอล แอลรับมันมาด้วยความรวดเร็วแต่เขาก็ยังไม่ได้เปิดซองออกมาดูตอนนี้นะ

     

     

    “ขอบคุณมาก อ่ะนี่เงินสำหรับรูปถ่ายนี่และข้อมูล ตามยัยนั่นอีกอย่าให้คลาดสายตา” ชายหนุ่มส่งเงินที่มากจำนวนหนึ่งไปให้ชายชุดโค้ท เขาก้มหานิดๆและก็รับเงินนั่นมา

     

     

    “ครับ แล้วคุณแอลยังจะให้ผมตามถ่ายรูปอยู่รึป่าวครับ ?” ชายหนุ่มเสื้อโค้ทถามด้วยความสุภาพ

     

     

    “ตาม”

     

     

    “โอเคครับ งั้น...ผมไปทำงานของผมก่อนนะครับ เดี๋ยวเป้าหมายจะคลาดสายตา" แอลพยักหน้ารับรู้ ชายหนุ่มเสื้อโค้ทจึงทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มอย่างสุภาพของเขาแล้วเดินจากไป

     

     

     

     

     

    แอลนั่งมองซองสีน้ำตาลที่เขาได้จากชายชุดโค้ทมาสักพักนึงโดยที่ไม่ยอมเปิดดูสิ่งที่อยู่ในซองที่เขาอยากดูตอนแรกนักออกมา เขานั่งจ้องและจ้องมันอยู่อย่างงั้น เขาสงสัยจริงๆว่าทำไมเขาต้องจ้างนักสืบให้คอยติดตามและถ่ายรูปนาอึนตลอด? แล้วที่เขาไปเจอนาอึนตรงซอกตึกนั่นได้ก็เพราะนักสืบที่สะกดรอยตามเป็นคนบอก เขาต้องบ้าแล้วแน่ๆ ทำไมเขาต้องทำถึงขนาดนี้?

     

     

    ในขณะที่แอลกำลังนั่งจมกับความคิดของตัวเองและเหม่ออยู่ ก็มีมือดีมาฉวยซองสีน้ำตาของเขาไปอย่างรวดเร็ว จนเขาต้องสะดุ้งออกจากความคิดของตัวเองอย่างรวดเร็ว

     

     

    “เห้ยยยยยยย! ไอ้แดฮยอนเอามานะโว่ย!

     

     

    “อะไรวะ ? ของมึงรึไง ?” แล้วมือดีที่มาฉวยซองสีน้ำตาลนั้นก็ไม่ใช่ใครแดฮยอนนั่นเอง เขามองที่ซองสีน้ำตาลอย่างสงสัย

     

     

    “เออ! ของกู! เอามาได้ยัง ?” แอลพูดเสียงเข้มพร้อมกับยื่นมือไปรับสิ่งของจากเพื่อนสนิทตัวดีของเขา แต่แดฮยอนก็ยังคงยืนนิ่งมองซองสีน้ำตาลที่เขาถืออย่างสงสัย

     

     

    “เออๆ เอาไปเลยไป” เขาทำท่าจะยื่นซองสีน้ำตาลส่งคืนให้แอล แต่ว่าก็มีเสียงหนึ่งดังลั่นขึ้นมาซะก่อน ทำให้พวกเขาต้องหันไปมองต้นเสียงด้วยความสงสัย

     

     

    “อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย หล่อมาก! หล่อจริงๆ ชีวอนโอป้า” เสียงแหลมปรี๊ดที่ดังขึ้นนั้นลอยออกมาจากปากของยุนโจที่เดินเข้ามาพร้อมกับมองรูปภาพที่เธอถือด้วยความตื่นเต้นดีใจ หญิงสาวเดินบิดไปบิดมาด้วยความเขิน ทำให้แอลกับแดฮยอนมองเธอด้วยสายตาที่งงกับท่าทางของเธอ

     

     

    “นี่ๆ พวกแก! ชีวอนโอป้าหล่อป้ะๆ ?” ยุนโจยื่นรูปภาพที่เธอถือให้แอลกับแดฮยอนดู ทั้งสองก้มหน้าลงมามองรูปภาพเล็กน้อยแล้วก็พยักหน้าส่งๆ

     

     

    “ฉันไปเจอมา! ^^ น่ารักมากตัวจริงเฟรนด์ลี่สุดๆ” ร่างบางพูดพร้อมหัวเราะคิกคิกอย่างดี๊ด๊าสุดๆ แดฮยอนส่ายหน้าระอาเล็กน้อยพร้อมกับยื่นซองสีน้ำตาลส่งคืนให้แอล เขารีบรับมาอย่างรวดเร็ว จนแดฮยอนอดสงสัยไม่ได้ว่าของที่อยู่ในซองสีน้ำตาลนั่นคืออะไร?

     

     

    “อะไรอ่ะ ?” ยุนโจที่เห็นซองสีน้ำตาลที่แอลถือก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย

     

     

    “ความลับของฉัน” เขาพูดนิ่งๆพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากแล้วก็เดินออกไปทันที ส่งผลให้สองคนที่หลงเหลืออยู่ในห้องนี้มองตามร่างของเขาออกไปด้วยความสงสัยและงง

     

     

    “นี่ นายรู้ป้ะ ? ความลับอะไรของไอ้แอลมัน ?” ยุนโจที่ยังยืนสงสัยอยู่หันมาถามแดฮยอนที่ยังคงยืนนิ่งๆมองตามร่างแอลออกไปอยู่

     

     

    “ไม่รู้เหมือนกันว่ะ มันหวง ไม่ยอมให้ดู” แดฮยอนหันมาพูดกับยุนโจที่ทำหน้าสงสัยอยู่ ทั้งสองคิดสงสัยกับความลับของแอลจริงๆ เพราะว่ากลุ่มพวกเขาไม่เคยมีความลับอะไรต่อกัน แต่ทำไมครั้งนี้แอลมีความลับ? มันแปลกๆนะ หรือว่า...ไอ้แอลเป็นฆาตกร? โอ้ววววว ไม่นะ! โถ่... ไม่ใช่และๆ

     

     

    “เห้ย! มายืนจ้องหน้ากันทำอะไรวะ ? เดี๋ยวยัยยุนโจก็ท้องหรอก ไม่เอาๆ เพื่อนกัน” เสียงซองยอลที่ลอยเข้ามาทำให้ทั้งแดฮยอนและยุนโจต้องหลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง และไปจัดการที่ปากดีเมื่อกี้แทน

     

     

    “สมองแกเนี่ยนะไอ้ซองยอลมีแต่ความคิดอะไรหะ!!? “ แดฮยอนตะโกนลั่น

     

     

    “เอ้า ไอ้บ้านี่ สมองฉันก็ต้องมีความรู้สิวะ”

     

     

    “เหรอ..........? ความรู้แกคงแน่นมากเลยนะไอ้ยอลลี่” ยุนโจแขวะซองยอลที่นั่งยิ้มร่าให้เธอและแดฮยอนอยู่ ให้ตายเถอะ! ถ้าบอกว่าซองยอลมันมีความรู้แน่นนะ เธอไม่เชื่อเด็ดขาด!! นายนั่นห่วยแตกเรื่องการเรียนมาก! สมองอย่างกะเด็กประถมวันๆมีแต่เรื่องอะไรไม่รู้ที่ไร้สาระ อ๊ะๆ จะว่าไปเด็กประถมอย่างซองยอลก็เคยมีแฟนนะคะ! ซึ่งต่างกับเธอที่ไม่เคยมีเลย TT พูดแล้วเศร้า อายเด็กประถมชะมัด!

     

     

    “เออ ไอ้ยอล! มึงรู้ป้ะ ? เดี๋ยวนี้ไอ้แอลมันมีความลับอะไร ?” แดฮยอนหรี่ตาถามด้วยความสงสัย ถ้าเทียบๆกันแล้วซองยอลจะเป็นคนที่สนิทกับแอลมากที่สุด มันไม่แปลกหรอกนะ ถ้าเด็กประถมคนนี้จะรู้ความลับนั่นของแอล!

     

     

    “ความลับ ? ความลับอะไรวะ ? เดี๋ยวนี้มันมีความลับด้วยเหรอวะ ?” ซองยอลถามกลับด้วยความสงสัย

     

     

    “นี่มึงไม่รู้เหรอ ?!

     

     

    “เออ! กูยังงงอยู่เลยเนี่ย อะไรของมึง ?”

     

     

    “นายไม่ได้โกหกใช่มั๊ยไอ้เด็กประถม ?” ยุนโจที่นั่งลงอยู่ตรงข้ามซองยอลจ้องมาที่ซองยอลอย่างจับผิด มันก็อดสงสัยไม่ได้นิ ก็สองคนนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เกิด โตมาด้วยกัน ผิดกับเธอที่มารู้จักตอนมัธยมต้นนี่ แล้วทำไมซองยอลจะไม่รู้ความลับของเพื่อนสนิทตั้งแต่เกิดของมัน?

     

     

    “เออ! ยัยนี่นิ!” ซองยอลเสียงดังใส่เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมาเรียกเขาว่าเด็กประถม มันน่าอายนะ ทั้งๆที่เขาก็เคยพูดกับไอ้เพื่อนบ้าของเขาทุกคนแล้ว แต่พวกมันก็เรียกกันอยู่ได้! เขาออกจะแบดบอย! เด็กประถมตรงไหน?!!

     

     

    “ชิส์” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวจิ๊ปากอย่างหมั่นไส้เพื่อนของเธอ

     

     

    “แล้วตกลงความลับอะไรของไอ้แอลมันวะ ?” ซองยอลถามขึ้นอีกครั้งอย่างข้องใจ ทั้งสามก็ได้แต่มองหน้ากันด้วยความสงสัย มองกันไปมองกันมา เผื่อว่าจะมีใครคิดได้ขึ้นมา  แต่ก็ไม่ใครหาคำตอบของคำถามตัวเองได้สักคน

     

     

    “นาอึน” เสียงแผ่วเบาของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับร่างของเจ้าของเสียงที่มานั่งร่วมวงกับทั้งสามคนอย่างนิ่งเฉย

     

     

    “อะไรนะ ?” ยุนโจถามผู้มาใหม่อีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ ซึ่งเขาก็ได้แต่ส่ายหน้าระอากับหญิงสาวคนนี้เหลือเกิน ชอบให้เขาพูดซ้ำซากจริงๆผู้หญิงคนนี้

     

     

    “บอกว่านาอึน” ลู่หานพูดทวนอีกครั้ง ผู้มาใหม่คนนั้นก็คือลู่หานนั่นเอง เขานั่งด้วยท่าทางสบายอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

     

     

    “มึงรู้ได้ไง ?”

     

     

    “ถามว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่กูไม่รู้ดีกว่า”









    เม้นๆนะ ถ้าไม่เม้นผมงอนแน่ๆ *ปาหัวใจรัวๆ*




     

    :: Writer talk ::

    ขอโทษล้านๆๆๆๆๆครั้งที่อัพช้า
    ช่วงนี้ไรท์เตอร์โรงเรียนเปิดแล้วอ่ะ
    งานเยอะ แถมต้องเตรียมตัวสอบอีก TT
    เป็นไงๆบ้าง? สนุกบ้างมั๊ย?
    อาจจะเบลอๆไปบ้าง เก๊าขอโทษด้วย ฮิฮิ
    /// เรื่องนี้ดูยอลลี่ไม่ค่อยฉลาด ฮ่าๆๆ ///



     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×