คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 15 : แฟชั่นมอลล์
เพล้ง!
“ อ้าวเฮ้ย! เป็นอะไรไปโซดา อยู่ๆก็ทำแก้วหลุดมือ” พี่อนยูเข้ามาดูฉันด้วยท่าทางตกใจปนตื่นเต้นที่อยู่ๆฉันก็เผลอปล่อยแก้วน้ำในมือลงพื้น
“ โซดา! ฮยอง~!! พี่ทำอะไรยัยนี่เนี่ย” มินโฮรีบวิ่งเข้ามาดูหลังจากที่ได้ยินเสียงแก้วแตก ทำไมฉันถึงได้ซุ่มซ่ามอยู่เรื่อยเลย แค่พี่อนยูเค้าชมว่าฉันมีฝีมือทำอาหารพอๆกับพี่มีโซแค่นี้ ถึงกับหมดแรงเลยเหรอโซดา พี่เค้าแค่เปรียบเธอกับคนรักของเค้าเองนะ แล้วทำไมต้องเอาไปเปรียบกับพี่มีโซของพี่ด้วยเล่า!!
“ เฮ้ยๆ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“ แล้วยัยนี่ทำแก้วหลุดมือได้ไง เฮ้ๆ โซจู”
“ ...Y^Y....” มินโฮโบกมือไปมาตรงหน้าฉัน แต่จู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมา
“ ร้องไห้เลย พี่! พี่ทำอะไรยัยนี่เนี่ย”
“ ฉันแค่เข้ามาชิมคิมบับแล้วชมว่าโซดาทำอร่อยพอกับมีโซ แค่นี้เอง”
“ ผมเข้าใจแล้ว ไปเลยๆ ฮยองเกตเอ้าท์เลย ด่วนๆ”
“ อะไรวะ”
“ ไปเถอะฮะ” พี่อนยูมองฉันงงๆก่อนจะเดินออกไปแต่โดยดี ฉันร้องไห้ต่อหน้าพี่จินกิ ทำไมถึงได้แสดงความอ่อนแอให้เค้าเห็น ทำไมกัน?!
“ มานั่งนี่ๆ ฉันจะเก็บกวาดให้เอง นั่งอยู่นิ่งๆนะ” มินโฮพาฉันมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะเดินไปหยิบไม้กวาดมาเก็บกวาดเศษแก้วที่แตกกระจายเต็มพื้นห้อง
“ มินโฮ ขอโทษนะ”
“ ช่างมันเถอะ แล้วไม่ต้องร้อง ฉันเข้าใจๆ” เค้าพูดโดยที่มือก็เก็บเศษแก้วชิ้นใหญ่ๆลงถุงขยะไป เมื่อเช้าว่ารู้สึกแย่แล้ว ตอนนี้รู้สึกแย่กว่านั้นอีก
“ เดี๋ยวฉันไปตักข้าวให้นะ” ฉันปาดน้ำตาทิ้งแล้วเตรียมจะลุกแต่มินโฮก็ขัดไว้ก่อน
“ บอกให้นั่งนิ่งๆไง”
“ ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆนะมินโฮ”
“ บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรไงเล่า ทีหลังไม่ต้องเข้าครัวเลยนะเธอน่ะ คราวที่แล้วก็ทำจานแตก คราวนี้แก้วแตกอีก พอๆ ฉันขี้เกียจจะมานั่งเก็บกวาดให้แบบนี้แล้วนะ”
“ งั้นฉันเก็บเอง” พอจะลุกไปเก็บเอง มินโฮก็โวยขึ้นอีก อะไรของตานี่เนี่ย
“ นั่งตรงนั้นแหละ ขืนลงมาเก็บด้วยสภาพจิตใจแบบนั้น ทำเศษแก้วบาดมือได้แผลมาลำบากฉันอีก นั่งอยู่นิ่งๆตรงนั้นเป็นพอ” ฉันเงียบ มินโฮรีบเก็บกวาดก่อนจะเดินไปล้างมือและตักข้าวใส่ถ้วย
“ แกงกิมจิอยู่ในหม้อน่ะ ฉันตักให้เอง” ฉันรีบลุกไปหยิบชามแล้วตักแกงกิมจิก่อนจะโดนคนตัวสูงที่กำลังถือจานคิมบับไปวางที่โต๊ะท้วงอะไร
“ ทำคิมบับเป็นด้วยเหรอ?” ฉันวางชามแกงตรงหน้ามินโฮแล้วเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมารินใส่แก้วของฉันและของเค้า
“ ให้คีย์สอน ถ้าไม่อร่อยก็ไม่ต้องลำบากกินหรอก”
“ อร่อยออก ฉันไม่สนฝีมือคีย์แล้ว”
“ ฉันจะฟ้องออมม่า”
“ เอาสิ ฉันกลัวมันโกรธที่ไหนกันล่ะ คนอย่างมันโกรธได้ไม่ถึงสองนาทีก็กลับมายิ้มใส่แล้ว”
“ พูดไปกินไปเดี๋ยวก็ติดคอหรอกตาเบ๊อะ!”
“ เธอสิเบ๊อะ แค่กๆ เอาน้ำมาหน่อย” นั่นไง พูดยังไม่ทันขาดคำ ตานี่ก็สำลักแล้ว
“ เชื่อฉันแต่แรกก็จบ ดื้อจริงๆ” ฉันบ่นพร้อมกับส่งแก้วน้ำให้มินโฮ
“ นี่ วันนี้มีเรียนบ่าย ไปเดินเล่นที่แฟชั่นมอลล์กันไหม”
“ ไปทำไม เกิดโดนถ่ายขึ้นมางานได้เข้าทั้งฉันทั้งนายแน่”
“ มีงานเข้ามาไม่ดีตรงไหน”
“ หยุดกวนประสาทฉันนะชเวมินโฮ”
“ แล้วไหนใครบอกว่าวันนี้จะตามใจฉัน”
“ เออๆ ไปก็ได้ แล้วชุดฉันล่ะ”
“ ชุดนี้แหละ”
“ กางเกงยีนส์กับฮู้ดเนี่ยนะ แถมเดินกับมินโฮชายนี่ โหย~! อายเค้าตายเลย”
“ เดินกับฉันยังอายอีกเหรอ”
“ ไม่ได้อายที่เดินกับนายแต่อายตัวเองที่เดินกับนายด้วยชุดแบบนี้”
“ เรื่องมากจริงๆ ฉันจัดการให้คนไปเอาเสื้อผ้าเธอมาแล้ว ไม่งั้นฉันไม่ชวนหรอก”
“ เฮ้ย! ไปที่บ้านฉัน แล้วพ่อฉันล่ะ”
“ พ่อเธอไปทำงานไม่ใช่รึไง เห็นบอกว่าอยู่แต่แม่เลี้ยงเธอ”
“ น้าโซอึนไม่ใช่แม่เลี้ยงฉัน” ฉันไม่ชอบให้ใครมาพูดว่าน้าโซอึนของฉันเป็นแม่เลี้ยงของฉัน มันทำให้นึกถึงแม่เลี้ยงใจร้ายที่คอยแต่จะทำร้ายลูกเลี้ยง น้าโซอึนไม่เคยแม้แต่จะตีฉันเลย ตะคอกใส่ยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ
“ อ้าว ก็เค้าเป็นภรรยาใหม่ของพ่อเธอไม่ใช่เหรอ จะไม่ใช่แม่เลี้ยงเธอได้ยังไง”
“ ฉันไม่ชอบให้ใครมาเรียกน้าโซอึนว่าแม่เลี้ยง ฉันรู้สึกไม่ดี”
“ โอเคๆ นั่นแหละ ที่บ้านเธอไม่มีใครอยู่นอกจากน้าโซอึนของเธอ และเหมือนน้าเธอจะเข้าใจนะเลยรีบจัดเสื้อผ้าเธอให้เลย”
“ น้าโซอึนใจดีมาก เค้าไม่ดุเหมือนพ่อหรอก”
“ งั้นก็ต้องเข้าทางน้าสินะ”
“ อะไรนะ!”
“ ป่าวนี่ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วทำตัวให้สวยๆไป เร็วๆด้วย”
“ เชอะ! นายนั่นแหละที่ต้องเร็วๆ” ฉันลุกขึ้นแล้วเดินมาที่ห้องมินโฮเพื่อเปลี่ยนชุดใหม่ ฮ้า ใส่เสื้อผ้าตัวเองแล้วสบายตัวชะมัดเลย ฉันนั่งอยู่หน้ากระจกไม่นานก็ออกมาพร้อมกระเป๋าสะพาย
“ ไปเถอะ เออลืม~!..หยิบกระเป๋าฉันให้หน่อยสิ โค้ชด้วยนะ” ฉันเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของมินโฮอีกรอบเพื่อหยิบกระเป๋าละเสื้อโค้ชให้เค้า ตานี่เรื่องมากจริงๆ
“ ไปเถอะ” ฉันเดินตามมินโฮมาขึ้นรถพอร์ชคันเดิม ฉันเคยได้ยินมาว่านักร้องค่ายนี้ห้ามขับรถเอง แต่ดูท่าตอนนี้จะไม่ใช่แบบนั้นแล้วล่ะ ชั้นจีที่ใช้เป็นลานจอดรถแน่นขนัดไปด้วยรถหลากหลายยี่ห้อของแต่ละศิลปิน มีแบ่งเป็นส่วนๆ แล้วก็มีที่จอดรถของผู้จัดการกับรถของวงด้วย ส่วนของชายนี่มีช่องจอดรถห้าคันตามจำนวนสมาชิก แต่มีจอดไว้แค่สี่เท่านั้น แต่ละคัน ราคาไม่ใช่เล่นเลย
“ พวกนายขับรถไปไหนมาไหนเองเหรอ?”
“ ประมาณนั้น”
“ บ่อยรึป่าว?”
“ แล้วแต่งานน่ะ แต่ถ้าไปทำงานหรือไปบริษัทจะใช้รถของวง มันสะดวกกว่า” มินโฮพูดก่อนจะออกรถ เค้าทักทายลุงยามหน้าหอนิดหน่อยก่อนจะขับออกไป
“ แล้วนายจะไปแฟชั่นมอลล์ทำไม”
“ ก็แค่ไปเดินเปิดหูเปิดตาบ้างไรบ้าง ทำงานทุกวันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
“ นายเห็นรูปนั้นแล้วใช่ไหม?”
“ รูปไหน? รูปที่เธอใส่ชุดนั้นอ่ะเหรอ”
“ อื้อ โอเคไหมอ่ะ ฉันว่ามันยังไงๆไม่รู้สิ”
“ ก็โอเคดีนี่ ชุดนั้นแหละดีแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยน”
“ ถ้าเปลี่ยนล่ะ?”
“ ฉันจะฆ่าเธอ”
“ นายมีสิทธิ์อะไรกัน เชอะ!”
“ ฉันสั่งตัดสูทไปแล้ว ถ้าเธอเปลี่ยนฉันก็ต้องเปลี่ยนสูทอ่ะดิ เปลืองงบ” มินโฮพูดแล้วเลี้ยวรถเข้ามาจอดในลานจอดรถของแฟชั่นมอลล์ คนเยอะจัง
“ คนเยอะจัง”
“ ก็เห็นเยอะทุกวัน” มินโฮเอื้อมมาทางฉันแล้วเปิดเกะหน้ารถเพื่อหยิบกระเป๋าตังค์และโทรศัพท์
“ ไปเถอะ” มินโฮลงจากรถและเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ฉัน
“ แปลกจัง”
“ ถ้าเรายืนนานกว่านี้ ข่าวดังแน่” มินโฮขู่ก่อนจะก้าวขายาวๆเข้าไปในแฟชั่นมอลล์ แฟชั่นมอลล์ที่นี่ใหญ่โตพอๆกับพารากอนเมืองไทยเลยล่ะ ฉันว่ามันแทบจะเหมือนกันเลยด้วยซ้ำ มีแต่ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังๆทั้งนั้น
“ ฉันจะไปที่ร้านเสื้อก่อน ไปด้วยกันนะ” พอพูดจบตานี่ก็จูงกึ่งลากฉันมาที่ร้านเสื้อผ้าผู้ชาย ฉันเห็นพี่คยูฮยอนอยู่ในร้านนั้นด้วย ถ้าเข้าไปทักจะน่าเกลียดไหมนะ
“ ฮยอง! มาร้านนี้เหมือนกันเหรอฮะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้คิดอะไร มินโฮก็ดึงฉันไปหาพี่คยูฮยอนแล้ว ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีกอ่ะ กรี๊ดๆ
“ อื้อ นายก็มาเหรอ ดีจังเลยนะที่ได้เจอกัน แล้วพาใครมาด้วยน่ะ” พี่คยูฮยอนทักมินโฮพร้อมกับมองมาทางฉันงงๆ ก็ควรจะงงหรอกนะ ฉันไม่ได้อยู่ในค่าย SMTOWN นี่นา
“ เพื่อนผมน่ะ ชื่อโซดา”
“ สวัสดีค่ะ”
“ หวัดดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะโซดา”
“ เช่นกันค่ะ”
“ ผมขอตัวไปเลือกเสื้อผ้าก่อนนะครับพี่”
“ ตามสบายๆ” มินโฮขอตัวออกมาที่ตรงโซนเสื้อผ้าอีกฝั่งหนึ่งก่อนจะบอก(ใช้) ฉันให้เลือกเสื้อให้
“ เอาเสื้อเชิ้ตแขนยาวนะ เอาโทนอ่อนๆ ฉันไม่ค่อยชอบใส่สีเข้ม”
ฉันเลยเดินมาดูที่ห้องลองและพบกับความว่างเปล่า..ไปไหนของเค้ากันนะ หรือว่าจะแอบกลับไปแล้ว หมอนี่นี่ ไว้ใจไม่ได้เลยนะไอ้กบชเว!
กึกๆ
“ ....” ระหว่างที่ฉันกำลังเดินตามหามินโฮก็มีใครคนหนึ่งมาดึงชายเสื้อฉันไว้ พอหันไปถึงได้พบเด็กผู้ชายอายุน่าจะราวๆสามขวบกำลังมองมาที่ฉัน
“ หือ? มีอะไรเหรอ” ฉันนั่งยองๆพลางถามเด็กคนนั้น
“ ....”
“ มีอะไรกับพี่รึป่าว แล้วแม่เราไปไหนซะล่ะ” พอฉันฉันพูดถึงแม่ อยู่ๆเด็กนั่นก็ตั้งท่าจะร้องไห้ เฮ้ย! อย่าร้องนะ อย่านะๆ
“ แงงงง!!” บอกว่าอย่าร้องไง
“ เฮ้ยๆๆ เงียบนะเด็กน้อย คนมองพี่ใหญ่แล้ว โอ๋ๆ ไม่ร้องนะจ๊ะ” ฉันพยายามปลอบ แต่เด็กนี่ไม่ฟังฉันเลย ทำไงดีๆๆๆ
“ แงงงง!!” อ๊ากก! จะบ้าตายแล้วนะ หยุดร้องสักทีเถอะ
“ เงียบน้าๆ โอ๋ๆ เดี๋ยวพี่พาไปหาแม่นะ”
“ แงงงง!!” แต่เด็กนี่ก็ยังไม่หยุดร้องแถมร้องดังกว่าเดิมอีก โซดาจะบ้าตาย อ๊ะ! นึกออกแล้ว
“ ถ้าหนูหยุดร้องไห้ พี่สาวจะให้ไอ้นี่นะ” ฉันหยิบอมยิ้มในกระเป๋าออกมาแล้วโบกไปมาตรงหน้าเด็กน้อยนั่น
“ ฮึกๆ ผมหยุดร้องไห้แล้ว พี่สาวจะให้อมยิ้มผมใช่ไหมฮะ” นั่น!เงียบกริบเลยไหมล่ะ
“ อื้อ เอาไปสิ”
“ ขอบคุณครับ” เด็กน้อยยิ้มร่าก่อนจะดึงอมยิ้มในมือฉันไปถือไว้แล้วแกะห่อออก น่ารักจัง
ความคิดเห็น