sf 3*8 นิทานไทย จันทโคริท - sf 3*8 นิทานไทย จันทโคริท นิยาย sf 3*8 นิทานไทย จันทโคริท : Dek-D.com - Writer

    sf 3*8 นิทานไทย จันทโคริท

    กันริทเช่นเคย

    ผู้เข้าชมรวม

    723

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    723

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 มิ.ย. 54 / 01:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       นิทานไทย จันทโคริท

      ในป่าแห่งหนึ่ง มีอาจารย์ผู้ทรงฤทธิ์นามว่า “โตโน่” อาจารย์โตโน่มีลูกศิษย์มากมาย ประกอบด้วย  ไอซ์ เก่ง เซน และจันทโคริท
      จันทโคริทเป็นเจ้าชายของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากสำนักไป ๓๘ กิโลเมตร ลูกศิษย์เหล่านั้นได้เรียนวิชาจนจบอาจารย์โตโน่จึงเรียกทั้งหมดมาเพื่อให้โอวาทหลังจบการศึกษาและมอบของที่ระลึกให้กับลูกศิษย์ที่จบการศึกษาก่อนที่จะลากลับบ้านเมืองของตนเอง

      “นี่ของเจ้า เจ้าเก่ง” อาจารย์โตโน่ยื่นของสิ่งหนึ่งให้

      “มันคืออะไรครับอาจารย์” เก่งถาม

      “ไวท์เทนนิ่งที่ไม่มีวันหมด และเจ้าจะไม่มีวันดำอีกเลยตลอดชีวิต” อาจารย์โตโน่ตอบ

      เก่งรับของด้วยความดีใจแล้วลาอาจารย์กลับบ้านเมืองทันที

      ต่อมาเป็นคิวของไอซ์ อาจารย์โตโน่มอบกล่องใบหนึ่งให้ และบอกว่าเป็นกล่องที่หยิบอาหารออกมาได้ไม่มีวันหมด เมื่อไอซ์รับแล้ว ก็ลาอาจารย์กลับบ้านทันที

      สำหรับเซน อาจารย์ได้มอบลังใส่เสื้อผ้า ใส่เสื้อผ้าเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็มให้แก่เซน เมื่อเซนได้รับของแล้ว เซนก็ลากลับบ้านเมืองทันที

      ส่วนจันทโคริท อาจารย์โตโน่ได้มอบผอบใบหนึ่งไว้ให้ จันทโคริทมองด้วยความสงสัย

      “มันคืออะไรครับอาจารย์”

      “โฮ่ๆๆ เดี๋ยวเจ้าก็รู้ แต่อย่าเปิดกลางทางนะ จันทโคริท รอให้ถึงบ้านเมืองเจ้าก่อน” อาจารย์โตโน่พูด

      หลังจากนั้นจันทโคริทก็ออกเดินทางกลับบ้านเมืองที่ห่างออกไป ๓๘ กิโลเมตร

      ระหว่างเดินทางจันทโคริทก็ชมนก ชมไม้ ชมเสือ ไปเรื่อยๆ แล้วก็คิดถึงสิ่งที่อยู่ในผอบ

      ’จะเป็นอะไรกันนะ’

      ’จะเป็นยาเพิ่มความสูงรึเปล่านะ’

      ’เปิดดูดีกว่า’ ฝ่ายมารเริ่มทำงาน

      ’แต่อาจารย์ให้เปิดตอนถึงบ้านนะ’ เทวดาทำงานบ้าง

      ’อาจารย์ไม่รู้หรอก’ ฝ่ายมารกล่อม

      ’อย่าเปิดเลย’

      ’เปิดเถอะ’

      ’อย่าเปิด’

      ’เปิด’

      สุดท้ายจันทโคริทก็ตัดสินใจเปิดผอบออกมา แล้วจันทโคริทก็ต้องตกตะลึง

      เมื่อเจอ “สาวงาม” ออกมาจากผอบ

                      “ดูสิผิวนวลละอองอ่อน        มะลิซ้อนดูดำไปหมดสิ้น

      งามเนตรงามกว่ามฤคิน       นางนี้เป็นปิ่นโลกา”

                                                                      (ศกุนตลา)

                      เมื่อได้สติจันทโคริทจึงเอ่ยขึ้นมาว่า

                      “เธอมาจากผอบใบนี้เหรอ”

                      “ใช่ค่ะ” เธอยิ้มแล้วตอบ

                      “ชื่ออะไรครับ” ไม่พูดเปล่า จับมือด้วย

                      “เกรซค่ะ อาจารย์โตโน่ให้เกรซมาเป็นมเหสีเจ้าพี่จันทโคริทจ้ะ”

                      ’อาจารย์นะอาจารย์ สาวงามขนาดนี้ทำไมต้องห้ามเปิดกลางทางด้วยล่ะ ไม่เห็นมีอะไรอันตรายซะหน่อย’

                      จันทโคริทและเกรซเดินทางในป่าถึง ๓๘ ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่ถึงบ้านเมืองสักที

                      แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีโจรป่ามาดักทั้งสองไว้กลางทาง

                      “เฮ้ย จะไปไหนกัน” โจรป่าพูดขึ้น

                      “นายเป็นใคร” จันทโคริทถาม

                      “ฉันชื่อกัน เป็นโจรป่า หน้าที่ปล้นสะดม และสวาท” คำท้ายหันมายักคิ้วให้สาวน้อยที่ไปหลบหลังจันทโคริท

                      “ข้าไม่ให้ ทั้งสดมภ์ทั้งสวาทนั่นแหละ” จันโคริทตวาด

                      “งั้นมาสู้กันหน่อยเป็นไร” โจรป่ากันท้า

                      ทั้งสองตรงเข้าตะลุมบอนกัน โดยมีอาวุธเป็นดาบ ทั้งสองสู้กันอย่างสูสี จนดาบทั้งสองร่วงลงสู่พื้น

                      โจรป่ากันล็อคคอจันทโคริทไว้ แล้วหันไปหาสาวน้อยนางเดียวที่อยู่ตรงนั้น

                      “เกรซ พี่ขอ...”

                      “แม่นาง ข้า...”

                      เมื่อทั้งสองหันไปพบกับความว่างเปล่า สาวงามหนีหายไปตั้งแต่ทั้งคู่ประดาบกันแล้ว

                      “เฮ้ยปล่อยนะ” จันทโคริทตวาดโจรป่า

                      “ไม่” กลิ่นหอมๆจากจันทโคริททำให้โจรป่ากันเริ่มเบลอ

                      “เอาเงินข้าไป แล้วปล่อยข้า ข้าไม่มีสวาทให้เจ้านะ” จันทโคริทว่า  

                      “ใครว่าละครับ”



                             “โจรป่ารั้งเจ้าชายให้อิงแอบ                 สองกายแนบชิดสนิทสนม

      ร่างเล็กดิ้นถีบฝังเขี้ยวคม                            เป็นรอยจมลงไปในกายนั้น

              พยัคฆาเผ่นโผนโจนเข้าฟัด                 เนื้อสะบัดหลุดได้ดังใจฝัน

      เจ้าเสือร้ายตามไปพัลวัน                             เนื้อน้อยเจ้าจะกันได้ฉันใด

            เจ้าพยัคฆ์เข้าถึงเจ้าร่างน้อย                ร้องถามเจ้าตัวจ้อยจะไปไหน

      ร่างเจ้าช่างหอมกรุ่นข้าติดใจ                      รสชาติเป็นอย่างไรให้ชิมที

          พยัคฆ์ร้ายกดร่างบางแล้วทาบทับ         ตัวข้าจับเจ้าได้อย่าคิดหนี

      ร่างน้อยกรีดร้องก้องวนาลี                  ปฐพีเลื่อนลั่นสะท้านสะเทือน                             


      แถม
      อาจารย์โตโน่ที่นั่งทางในดูก็บ่นขึ้นมา
      "ก็บอกแล้ว ว่าอย่าเปิดกลางทาง"

                     

      ทอล์ค

      เนื่องจากเรื่องนี้เป็นนิทานไทย

      เลยลองเขียน NC แบบไทยๆ เป็นกลอนดู

      แล้วก็พบว่า

      มันยากมาก

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×