หนาวฝนห่มตะวันภาคตะวัน [yuri]
รวิฉาย น้องสาวคนเล็กของบรรดาสามพี่น้อง แพรธันวา วรรษมน เพิ่งมีประสบการณ์รักแรก กับรุ่นพี่สุดเท่อย่างเมษา แต่ทว่าเมษากลับมีแฟนแล้ว...รักนี้ที่เคยแอบรักจะสำเร็จอย่างไรกัน?
ผู้เข้าชมรวม
2,505
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
หนาวฝนห่มตะวันภาคตะวัน หนาวฝนห่มตะวัน ธนกร ธนกรคลับ yuri ทอมดี้ รวิฉาย นิยายหญิงรักหญิง นิยายญญ นิยายโรแมนติกญญ
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หนาวฝนห่มตะวัน
(ตะวัน)
“รวิเสร็จรึยัง เดี๋ยวสายนะ เร็วเข้า!” เสียงตะโกนของแพรธันวา
พี่สาวคนโตสุดของบ้านมายืนรอที่หัวบันได สลับกับพลิกนาฬิกาข้อมือดูบ่อยๆ เมื่อเห็นว่าน้องสาวคนเล็กยังไม่ลงมาจากชั้นบน
รวิฉาย
เป็นน้องคนเล็กสุดบรรดาพี่น้องทั้งสามคน อายุห่างจากวรรษมน 6 ปี ห่างจากแพรธันวา 8 ปี เป็นบุตรสาวคนสุดท้องที่แม่เคยเล่าให้ฟังว่า
ไม่ได้ตั้งใจจะมีแล้ว แต่ก็มีมาในช่วงที่แม่เริ่มมีปัญหากับพ่อ เพราะพ่อมัวเที่ยวติดการพนัน
กินเหล้า จนเงินที่ทำมาค้าขายไม่เหลือเก็บ ท้ายที่สุดแม่ทนไม่ไหวจึงตัดสินใจแยกทางพร้อมหอบผ้าผ่อนตอนยังท้องอ่อนๆ
และกระเตงลูกสาวอีกสองคนเข้ามาทำงานในกรุงเทพ...
หลังจากนั้นชีวิตของแม่ก็เริ่มดีขึ้นจากการรับจ้างเล็กๆ
น้อยๆ ก่อนจะเริ่มผันตัวมาเป็นแม่ค้า ทำงานขายน้ำเต้าหู้ และข้าวเหนียวหมูปิ้ง ทำให้ชีวิตครอบครัวเริ่มมีรายได้พอที่จะช่วยเหลือจุนเจือคนในบ้านได้อย่างไม่อดอยาก
ให้วรรษมนเรียบจบและแพรธันวาประสบความสำเร็จในการทำงาน
เพราะดวงของแม่ดีขึ้น
มีความสุขมากขึ้นแม่จึงตั้งชื่อของเธอว่า รวิฉาย...เปรียบเสมือนแสงสว่างของดวงตะวัน
ต่อมาโรคร้ายของมะเร็งก็รุมเร้าแม่และด่วนจากไป
แพรธันวาจึงต้องเป็นฝ่ายต่อสู้ดิ้นรนหาเลี้ยงครอบครัวและส่งเสียดูแลน้องๆต่อ กลายมาเป็นว่าครอบครัวของรวิฉายจึงอยู่ด้วยกันสามพี่น้อง
ที่แม้จะขาดพ่อแม่ แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีงามของพี่น้องสนิทกลมเกลียวกันดี
“เสร็จแล้วค่า...” รวิฉายรีบลงบันไดมายืนยิ้มแฉ่งด้วยชุดเด็กนักเรียน
ม.ปลายพร้อมกระเป๋านักเรียน ใบหน้าประแป้งฝุ่นพอหอม อวดผิวเนียนใสกระจ่างเป็นธรรมชาติ
จมูกโด่งและริมฝีปากอมชมพูระเรื่อนับว่าเป็นจุดเด่นบนใบหน้าอย่างน่ารักสมวัยของรวิฉายโดยไม่ต้องเสริมแต่งอะไร
ขณะที่เส้นผมดกดำดั่งไหมนิล มีความยาวระดับต้นคอหวีติดกิ๊บดำเรียบร้อย
ให้วรรษมนพี่สาวคนรองพยักหน้ายิ้ม ขณะที่แพรธันวาขยับแว่นสายตานิดหนึ่ง แล้วจับน้องสาวคนเล็กหมุนตัวไปมาตรวจดูความเรียบร้อย ก่อนจะพยักหน้าผ่านให้อย่างภูมิใจ
รถเก๋งโตโยต้าซูลูน่าสีควันบุหรี่
เป็นรถยนต์สภาพมือสองที่เป็นยานพาหนะคันแรกและคันเดียวของครอบครัว จากการเก็บหอมรอบริบของแพรธันวา
และเพิ่งผ่อนหมดไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ถูกเหยียบคันเร่งเครื่องโดยแพรธันวาให้ทะยานไปตามท้องถนนใหญ่
โดยที่มีวรรษมนนั่งด้านข้างคนขับ ขณะที่รวิฉายหยิบหนังสือเรียนของการเปิดเทอมวันนี้ขึ้นมาอ่านเตรียมตัว
“ม.6 แล้วนะรวิ เทอมสองแล้ว ตั้งใจหน่อยนะ
จะได้สอบเข้ามหา’ลัยได้”
แพรธันวาปรับกระจกมองคนข้างหลัง
ก่อนจะเห็นว่าน้องสาวคนเล็กพยักหน้าให้พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
จวบจนกระทั่งติดไฟแดง
แพรธันวาก็หันมามองวรรษมนที่ใส่ชุดสูทพนักงานเต็มยศ หากแต่กระโปรงกับสั้นเพียงแค่คืบฝ่ามือ
อวดโชว์เรียวขาอ่อนไม่สุภาพ พลันคิ้วบางก็ขมวดมุ่นอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
“ฝน...”
แพรธันวาพูดพลางหันมามองน้องสาวคนรองที่นั่งข้างๆ ให้หันมามอง
“หืมม์...”
“แต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้ได้มั้ย
แต่งยั่วใครไปไหนเนี่ย”
“แหมพี่แพร
ที่ทำงานฝนก็แต่งแบบนี้ล่ะ มัวแต่แต่งเฉิ่มเชยแล้วใครจะมาเอา”
วาจาน้องสาวคนร้องที่กระแทกกลับมาทำเอาแพรธันวาเผลอสะอึกไป
เมื่อหวนคิดถึงชีวิตรักกับชายหนุ่มที่คบกันมานานถึง 7 ปี
จนเธอคิดจะฝากทั้งตัวและใจกับผู้ชายคนนี้ไว้ตลอดชีวิต
แต่สุดท้ายก็โบกมือลาแยกทางกันไปก่อน ทำเอาแพรธันวาที่วางอนาคตไว้เสียดิบดี
ต้องเสียใจจนไม่อยากมีใครมานาน...
“พี่ฝน...”
รวิฉายขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นว่าวรรษมนพูดจาไม่ดีเท่าไหร่นัก
ขณะที่แพรธันวาเริ่มตบไฟเลี้ยวเร่งเครื่องต่อ
เตรียมเข้าตรอกซอยเมื่อใกล้ถึงเป้าหมายของน้องสาวคนเล็ก
“ช่างเถอะรวิ
ถึงโรงเรียนเราแล้ว ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ” แพรธันวากล่าวตัดบทเมื่อรถแล่นมาจอดเทียบหน้าโรงเรียน
ให้รวิฉายโบกมือลาพี่สาว ก่อนจะลงจากรถ...
เด็กสาวเดินถือกระเป๋าเลาะไปตามใต้อาคารเรียน
ก่อนจะสะดุดเห็นรูปบนบอร์ดประชาสัมพันธ์ของสาวห้าวหน้าหวาน เป็นนิสิตชั้นปี4 ของคณะนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังชนิดที่ว่า
ใกล้กันแค่ปลายจมูกกับโรงเรียนของเธอ...
รวิฉายหยุดยิ้มกับรูปถ่ายของเมษา
สาวห้าวหน้าหวานไว้ผมยาวสลวยสไลด์ยางถึงกลางหลัง แต่งตัวมีสไตล์เท่อย่าบอกใครด้วยเสื้อนิสิตตัวใหญ่โคร่งกับกระโปรงสอบ
รองเท้าคอนเวิดหนังหุ้มข้อสุดเก๋ พ่วงด้วยพลังเสน่ห์ของน้ำเสียงที่เป็นนักร้องของมหาวิทยาลัย
มีชื่อเสียงแพร่กระจายมายังโรงเรียนของเธอ...ให้น่าเคลิบเคลิ้มหลงใหลยิ่งนัก
รวิฉายยิ้มภูมิใจ
เธอแอบชอบเมษามาตั้งแต่ม.4 แม้เมษาจะมีข่าวคราวซุบซิบกับผู้ชายและผู้หญิงมานับไม่ถ้วน
แต่รวิฉายก็มองว่าเมษาเป็นเหมือนแสงสว่างที่ทำให้โลกของเธอสดใส
ด้วยเพราะน้ำเสียงที่ฟังแล้วเหมือนถูกต้องมนต์สะกด
มันนิ่มนวลและแข็งแรงไปด้วยพลังในคราเดียวกัน ทำให้รวิฉายแอบอมยิ้มอย่างภาคภูมิใจทุกครั้งที่เห็นเมษาอยู่ท่ามกลางแสง
สี บนเวที
และเวลานี้เองมือเรียวจึงเปิดกระเป๋านักเรียนเรียน
ก่อนจะหยิบดอกกุหลาบสีชมพูหวานแหว๋ว ที่แอบซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวาน ออกมาลอบสูดกลิ่นหอมเพียงครู่หนึ่งแล้วนึกถึงใบหน้าไอดอลในใจอย่างเคลิ้มฝัน...
เธอม.6 ที่ใกล้จบการศึกษาและเมษาก็ปีสี่...จะมีโอกาสที่จะได้คุยกันสักครั้งมั้ยนะ...รวิฉายยิ้มกริ่มในใจลำพังอยากมีความหวัง
มีความสุขเมื่อเสียงหัวใจเต้นพองๆ อีกครั้ง ก่อนจะเดินลัดเลาะข้ามเขตรั้วโรงเรียนไป
มองซ้ายแลขวาอาศัยจังหวะที่ไม่มีคนพบเห็นปีนกำแพงผ่านเข้ามาในมุมเชื่อมตึกเพื่อเดินทะลุไปตึกคณะนิเทศศาสตร์อย่างชำนิชำนาญทาง
ก่อนจะหยุดอยู่ที่มุมล็อกเกอร์ของเมษาที่ยามนี้ต่างมีของและรูปถ่ายแปะเรียงรายเป็นเอกลักษณ์...
ดอกกุหลาบสีชมพูพร้อมช็อตโน้ตสั้นๆ
เขียนไว้ พร้อมกับแอบเปิดล็อกเกอร์ด้วยลวดเหล็กเล็กไขออกได้อย่างง่ายดาย เท่านั้นรอยยิ้มกระหยิ่มของรวิฉายก็โค้งขึ้น
พร้อมบรรจงวางดอกไม้และกระดาษโน้ตในที่ปลอดภัยก่อนจะเดินจากมาด้วยรอยยิ้ม...
เสียงผิวปากและเดินขึ้นบันไดดังขึ้นมาอย่างสบายอารมณ์ในตึกมุมหนึ่งของคณะนิเทศศาสตร์
เมษาแต่งตัวด้วยเสื้อนักศึกษาตัวโคร่งพับแขนกับกระโปรงสอบขนาดพอดีตัว
พร้อมความเป็นสาวห้าวลุยด้วยรองเท้าคอนเวิดหนังสีดำสุดเท่ เธอรวบผมยาวกลางหลัง
แต่งหน้าหวานให้เข้มจัดด้วยดวงตากรีดอายไลเนอร์ให้ดูเฉียบดุ เป็นสาวร็อคเบาๆ
เมษาเป็นนักร้องนำวง Pure sky
ของมหาวิทยาลัย เล่นเพลงแนวป๊อบร็อคด้วยการโชว์เสียงอันมีเสน่ห์ให้กับทุกคนได้ฟังต้อนรับน้องใหม่
รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย เมษาเป็นคนรูปร่างสูงโปร่งผิวออกขาวเหลือง
รูปหน้าเรียวยาว มีดวงตาคมกล้า จมูกโด่งสวยรับกับริมฝีปากบางเฉียบ
บุคลิกของนักร้องสาวมักเป็นคนนิ่งๆ
ในสายตาคนอื่น ทำให้ดูเท่และมีมาดไปอีกแบบหนึ่งให้หลายคนนึกหลงใหลไปตามๆ
กัน...แต่เมษามักจะชอบคุยเฮฮากับเพื่อนสนิทและคนที่ไว้ใจได้ทุกครั้ง
เสียงเอี๊ยดอ๊าดของพื้นยางรองเท้าดังมาตามจังหวะการเดิน
ทำเอาสาวนิสิตในคณะนิเทศศาสตร์ด้วยกันต่างหันมามองเป็นตาเดียว
นั่นทำให้เมษาทำได้เพียงยิ้มตอบก่อนจะเดินต่อโดยไม่สนใจอะไร พร้อมกับมาหยุดอยู่ที่ตู้ล็อคเกอร์
พลันสายตาก็มองสะดุดเห็นของวางระเกะระกะเต็มพื้นไปหมด
ที่เล่นเอาเจ้าตัวถึงกับถอนใจ
“มาแต่เช้า
ขนมลูกอมเอย...กินจนจะมีพุงอยู่แล้วน้า” เมษาบ่นไปอย่างนั้นเอง
แต่ก็หยิบมันขึ้นมาพร้อมกับเปิดล็อกเกอร์เตรียมเก็บให้เรียบร้อย พลันคิ้วหนาเข้มก็กดลงอย่างขมวดมุ่น
เมื่อล็อกเกอร์สามารถเปิดได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
นักร้องสาวหันรีหันขวางอย่างแปลกใจ
ก่อนจะหยิบกุหลาบในล็อกเกอร์ขึ้นมามองด้วยรอยยิ้มขัน
พร้อมเห็นลายมือคุ้นตาเขียนไว้ในกระดาษโน้ตอย่างน่ารัก
...ตั้งใจเรียนนะคะพี่เมษา
ปีสี่แล้ว สู้ๆนะ ...ยังชอบพี่เสมอ...
รวิ...เด็กม.6
รอยยิ้มบางของเมษาเกิดขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆอย่างนึกขันเอ็นดู
เมื่อข้อความที่ได้รับนั้น เป็นข้อความที่คล้ายๆ โดยฝีมือเด็กสาวคนหนึ่งที่พยายามส่งของให้เธอมาเกือบ
3 ปี
“เฮ้ย เมษ์!!” เสียงตะโกนของจักรพงศ์บอกพร้อมกับโบกไม้โมกมืออยู่ไม่ไกล
ให้เมษาหันไปมอง
“มีอะไร?”
“อาจารย์มาแล้ว ไปเรียนกัน”
“อ้อ โอเคๆ เดี๋ยวไป...” เมษารีบเก็บของทั้งหมดไว้ในล็อกเกอร์จนเสร็จ
ก่อนจะปิดตู้ไขกุญแจให้เรียบร้อยแล้วเดินตามเพื่อนไป...
บรรยากาศภายในโรงเรียนฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัย
เสียงเพลงมาร์ชโรงเรียนดังใกล้จบพร้อมกับเด็กนักเรียนกว่า2000 คนตั้งแถวยืนตามลำดับไหล่เรียบร้อย จู่ๆ
รวิฉายก็ถือกระเป๋าวิ่งมาอย่างกระหืดกระหอบ
ต่อท้ายแถวห้องของตนเองด้วยอาการเหนื่อย เหงื่อผุดเม็ดพราวไปทั่วทั้งใบหน้า...
“วิ่งไปมหา’ลัยมาล่ะสิ” ปริศนาสาวตาคมผิวเข้มอย่างคนใต้รูปร่างอวบอ้วน
หันมาแขวะเพื่อนสนิทที่วิ่งมาด้วยอาการกระหืดกระหอบจนหน้าซีดเซียว
“เออ นึกว่าไม่ทันซะแล้ว จะเป็นลม”
รวิฉายพยักหน้ายอมรับ พลางแตะไหล่เพื่อนด้านหลัง วัดระยะห่างให้เป็นระเบียบ พร้อมกับกระพือชายเสื้อเข้าออกบรรเทาความร้อน
“เบื่อแกว่ะ ทำไมไมเลิกซะทีรวิ จะสามปีแล้วนะไม่เห็นมีอะไรคืบหน้า
เสียเงินลงทุนซื้อของให้ไปเท่าไหร่แล้ว”
ได้ทีแม่ปริศนาถึงกับหันมาเท้าสะเอวสวดยับจนรวิฉายยิ้มหน้าเจื่อน
“นิดหน่อยน่า...”
“ปีหน้าแกก็เข้ามหา’ลัย ส่วนพี่เมษ์ปีสี่แล้ว เค้าก็จบแล้ว
แกยังจะวิ่งตามทำไม ไม่เข้าใจเลยจริงๆ”
“ก็เราชอบพี่เค้าอยู่นะปัน” รวิฉายตอบเพื่อนไปอย่างเสียไม่ได้
ก่อนที่สายตาดุของอาจารย์จ้องมองมา ให้เด็กทั้งสองเลิกคุยและหันมาทำกิจกรรมเคารพธงชาติต่อ...
จวบจนกระทั่งจบการทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จเรียบร้อย
รวิฉายและปริศนาก็พากันมานั่งที่โต๊ะเรียน
เพื่อรออาจารย์เข้าสอนในคาบเรียนแรกของการเรียนชั้นม.6
ติ๊ด...ติ๊ด
เสียงข้อความของไลน์ดังขึ้นให้รวิฉายล้วงหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นมาดู
ในขณะที่ปริศนาที่นั่งข้างๆ
เริ่มเอาสมุดออกมาวางบนโต๊ะเตรียมเขียนชื่อและรายวิชาบนหน้าปก
“แก!!”
“อาราย...” ปริศนาตอบโดยที่ยังไม่ละสายตาจากการเขียนชื่อบนสมุด
“พี่เมษ์ตอบเรา
แกดูสิ เขาตอบในไลน์ด้วยแก”
“ไหนดูซิ”
ปริศนาคว้าโทรศัพท์เครื่องเล็กจับถนัดมือของเพื่อนมาดูอย่างอดไม่ได้
เพราะเห็นแววตาของรวิฉายมันช่างเปล่งประกายจนน่าหมั่นไส้เหลือเกิน
ขอบคุณสำหรับของมากนะคะ
น้องรวิ...# พี่เมษ์
“แค่เนี้ย!...” ปริศนาทำหน้าเซ็ง ขณะที่รวิฉายยังคงเคลิ้มฝันอย่างมีความสุข
นั่นทำเอาสาวร่างท้วมใช้สันมือถือโขกบนศีรษะเพื่อนเบาๆ
อย่างหมั่นไส้
“โอ๊ย
แกมาโขกหัวเราทำไมเนี่ยยัยปัน” รวิฉายร้องโอดพลางลูบศีรษะตนเองป้อยๆ
“น่า-หมั่น-ไส้”
ปริศนาพูดชัดถ้อยคำ ก่อนส่งคืนโทรศัพท์ให้ “เห็นแกบ้าพี่เมษ์มาตั้งแต่ม.4 แล้ว มันก็ไม่ได้กระเตื้องความสัมพันธ์อะไร
นอกซะจาก ขอบคุณนะคะเนี่ย เลิกบ้าเถอะนะ ทำไรให้เป็นประโยชน์เถอะ”
“ไอ้อ้วน!” รวิฉายว่าเพื่อนอย่างนึกเคืองที่ปริศนาพูดตัดรอนกำลังใจมากกว่าสนับสนุน
“แกเพื่อนเราป่ะเนี่ย ถ้าเป็นเพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิ แกไม่รู้เหรอพี่เมษ์น่ะแรงบันดาลใจของฉันเลยนะ
ทำให้ฉัน...อยากจะเข้าไปเรียนนิเทศ
มีผลงานมีชื่อเสียง...โอ๊ย...พี่เมษ์จ๋า...รอรวิก่อนนะคะ”
ท่าทางหลงใหลและชื่นชอบเอามากๆ ของรวิฉาย ทำเอาปริศนาทำหน้าละเหี่ยใจ
ก่อนว่า
“ถ้าแกอยากเข้านิเทศขนาดนั้น
สิ่งที่แกต้องทำน่ะคืออ่านหนังสือเว่ยไม่ใช่ไปบ้าพี่เค้า
แล้วอีกอย่างนะรวิพี่เมษ์น่ะจะชอบผู้หญิงหรือผู้ชายยังไม่รู้เลย
ไม่เห็นมีแฟนหรือมีข่าวกับใครจริงจังสักคน”
“เออ..พูดถึงแฟน
พี่เค้าอาจมีแต่เราไม่รู้ก็ได้นะ” รวิฉายหันมาพูดกับเพื่อน
พลางลูบคางไปมาอย่างใช้ความคิด นั่นทำเอาปริศนาปวดขมับ
“ตั้งใจเรียนก่อนเถอะ...”
มือท้วมอวบตบไหล่บางหนักๆ สองสามครั้ง เพื่อไม่ให้รวิฉายคิดฟุ้งซ่าน ทำเอารวิฉายหน้ายู่
เพราะในใจยังคิดสงสัย...
บรรยากาศในห้องซ้อมดนตรีในมหาวิทยาลัย
ดังกระหึ่มในห้องซ้อมอย่างจริงจัง เตรียมพร้อมจัดต้อนรับน้องใหม่ปีหนึ่งของคณะนิเทศศาสตร์กำลังมาถึง
ทั้งนี้ Pure sky นำเพลงชื่อดังของศิลปินวงหนึ่งมาเล่นเพื่อต้อนรับน้องใหม่
เปิดเรียกกระแสของวง ก่อนจะเข้าสู่พิธีรับน้องตามระบบระเบียบ
มือเรียวยาวสวยปานลำเทียน
ถือไมค์ร้องเพลงเสียงใสไปตามเนื้อร้องพร้อมกับโยกตัวไปตามจังหวะ ขณะที่มือเบส
กีตาร์ และกลองกำลังมุ่งมั่นซ้อมอย่างเต็มที่...
รู้ว่าเสี่ยงแต่อยากจะขอลอง...
รู้ว่าเหนื่อยแต่อยากได้ของที่อยู่สูง
ยังไงก็ขอลองดูสักที...
เสียงใสกังวานอย่างมีพลังร้องไปตามเนื้อพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อเสียงกลอง กีตาร์ยังทำหน้าที่ไปอย่างชำนิชำนาญ ให้เมษารู้สึกมีความสุขทุกครั้ง
เมื่ออยู่ใกล้เสียงเพลงและได้ทำตามหัวใจที่รักอย่างไม่เคยเปลี่ยน
ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที
ไม่ว่ายังไงก็ลองดีสักวัน
อยากรักก็ต้องเสี่ยง
ไม่อยากให้เธอเป็นเพียงภาพในความฝัน...
กริ้ก
เสียงลูกบิดบานประตูดังขึ้นพร้อมเปิดออกก่อนที่สาวเอวบางร่างเล็ก
ผมย้อมสีบอร์นสว่างดัดลอนสลวยกลางหลัง จะเดินเข้ามาในห้องตามจังหวะของรองเท้าส้นสูง
ให้นักร้องนำหันไปมอง พร้อมส่งยิ้มหวานให้ สาวเจ้าที่กำลังทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง...
เมษาหันไปยิ้มกริ่มโชว์ลักยิ้มสวยให้สาวเปรี้ยวหน้าหวานที่มานั่งชมการซ้อมร้องเพลงส่งยิ้มตอบ
จวบจนกระทั่งเพลง...บรรเลงจบ น้ำหวานเฮลบลูบอยเย็นๆในกระติกคิตตี้ลายสวย ก็ถือมาให้เมษาได้ดูดดื่ม
ท่ามกลางเสียงโห่ของเพื่อนๆ ในวง
“ไม่เห็นแบ่งพวกเราอ่ะ”
หนุ่มๆ ที่เป็นแบกอัพวงดนตรีร้องครวญ ให้สาวน้อยยิ้ม
“ซื้อเองดิ...”
“ขอบใจจ้ะ
หวานสมชื่อเลย” เมษายิ้มกริ่มให้น้ำหวาน สาวคณะสถาปัตยกรรมที่มาติดตามการซ้อมของเมษาทุกวันจนได้คบหาดูใจกันอย่างเงียบๆ
และท่าทางการส่งยิ้มหวาน
พร้อมด้วยนัยน์ตาพราวระยับ ทำเอาหนุ่มๆ ในวง ต่างอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถวๆ เพราะสาวสวยข้างหน้านี้
ช่างมีเสน่ห์ทั้งคู่ ชนิดที่ว่าเสียดายแทนหนุ่มๆ
หลายคนที่ลงทุนลงแรงมาจีบนักร้องนำเหลือเกิน
“เฮ้ยเมษ์อย่ากินเยอะ
เดี๋ยวเย็นนี้ก็เสียงแย่พอดี” จักรพงศ์
หนุ่มมือเบสไว้หนวดเคราเฟิ้มรีบมาฉวยกระติกแล้วกระดกดื่มทันที ให้เมษายิ้มขำเห็นเป็นเรื่องตลกไป
“เหนื่อยมั้ยเมษ์”
น้ำหวานเอ่ยถามพร้อมส่งยิ้มหวานน่ารัก แทบจะทำให้เมษาใจละลาย
“ไม่เหนื่อยจ้ะ
เย็นนี้ไปดูเมษ์เล่นเปิดตัวรับน้องด้วยนะ” เมษาหันมายิ้มละไมให้น้ำหวาน สาวเปรี้ยวหน้าหวานที่พยักหน้าหงึกหงักรับ
“เฮ้ยซ้อมต่อๆ”
พัชร หนุ่มหน้าตี๋ร่างอวบมือกลอง
หันมาปรามความหวานของสองสาวอย่างหมั่นไส้หลังจากแย่งกระติกน้ำดื่มมาดื่มต่อจากจักรพงศ์จนปากสีชมพูอ่อนกลลายเป็นสีเข้มจัดให้คนอื่นๆ
หันไปหัวเราะ
“หน้าพัชเหมือนแต๋วเลย”
น้ำหวานเอ่ยแซว ให้เมษาหันไปยิ้มขำ ก่อนจะหันมาหยิกแก้มนวลใสของน้ำหวานอย่างเอ็นดู...
“เค้าซ้อมต่อก่อนนะ
ไว้ค่อยเจอกันเย็นนี้นะคะ”
ผลงานอื่นๆ ของ T@nakorn ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ T@nakorn
ความคิดเห็น