วันนี้เธอจะต้องไปต่างประเทศแล้ว และเธอก็บอกกับชายคนรักว่า การไปครั้งนี้ของเธอ เธออาจจะไม่ได้กลับมาอีกก็ได้ และถ้าหากเรามีบุญวาสนาที่เกิดมาเป็นคู่รักกันจริง ๆ เราก็คงได้จะได้เจอกัน ระหว่างที่ผู้หญิงกำลังพูดร่ำรา ในใจของฝ่ายชายก็ครุ่นคิดว่า โอกาสนี้แหละที่เขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง ในสิ่งที่เขาไม่เคยได้ทำและได้บอกกับเธอเลย สักพักก็มีเสียงดังขี้น "ขณะนี้ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว" ฝ่ายหญิงก็บอกกับเขาว่า ไปก่อนนะที่รัก แล้วเธอก็หันหลังเดินจากไป ส่วนเขาก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าเดินกลับ หลังจากนั้น 2 วัน เขาก็คิดถึงเธอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์ไปหาเธอก็ติดต่อไม่ได้ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ชุดสูท ที่เธอซื้อให้เขาเคยรบเล้าให้เขาใส่ไปออกงาน แต่เขาไม่เคยใส่มันเลย แล้วเขาไปหยิบใส่มัน มือของเขาก็คลำไปเจอแผ่น ซีดี เขาก็แปลกใจมากและนำไปเปิดดู ก็มีภาพของคนที่เขารักซึ่งเธอเป็นคนอัดภาพตัวเองและเสียงพูดไว้ ** ฉันคิดแล้วว่าคุณต้องใส่สูทตัวที่คุณ บ่นว่ามันไม่ได้เรื่องเลย และหลังจากที่คุณดูซีดีนี้แล้ว แสดงว่าฉันได้จากโลกนี้ไปแล้ว กับสิ่งที่เธอไม่เคยบอกเขาเลยว่าเธอเป็นมะเร็งที่สมอง และเป็นระยะสุดท้าย เธอไม่อยากให้เขาเสียใจ เขาอึ้งไป น้ำตาก็คลอเบ้าแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร เขาพรึมพรำกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา กับสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย เพราะที่ผ่านมาเธอได้ทำและเอาใจใส่เขาตลอดมา และไม่เคยทำให้เขาเสียใจเลย ตรงกันข้ามกับเขาไม่เคยแสดงออกถึงความรักและเอาใจใส่ ไม่แคร์ต่อความรู้สึกของเธอเลย ที่เขาเสียใจมากที่สุดก็คือ เขาไม่เคยบอกรักเธอเลยสักครั้ง ติดที่ว่าเขาไม่กล้าที่จะบอกเธอเมื่อเธอถาม เขาโกรธและเกลียดตัวเอง ที่ไม่เคยถามเธอเลยว่าเธอต้องการอะไร เขาคิดในใจว่าทำไม่เธอไม่บอกเขาเรื่องที่เธอเป็นมะเร็ง เขาจะขอเธอแต่งงานเลยทันที เขาจะทำทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความสูขกับเวลาที่เหลือ และจะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอก็ตาม ตอนนี้เขาแทบเป็นบ้าเมื่อไม่มีเธออยู่ด้วยอีกต่อไป เขาเสียดายเวลาที่เหลือเหลือเกิน กับสิ่งที่เขาไม่ได้ทำให้กับเธอในตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ เขาหยิบปืนออกมา บอกกับตัวเองว่าจบกันสักทีกับความรักที่ไม่เข้าข้างเขาเลย รอผมด้วยนะที่รัก ปัง ปังวันนี้เธอจะต้องไปต่างประเทศแล้ว และเธอก็บอกกับชายคนรักว่า การไปครั้งนี้ของเธอ เธออาจจะไม่ได้กลับมาอีกก็ได้ และถ้าหากเรามีบุญวาสนาที่เกิดมาเป็นคู่รักกันจริง ๆ เราก็คงได้จะได้เจอกัน ระหว่างที่ผู้หญิงกำลังพูดร่ำรา ในใจของฝ่ายชายก็ครุ่นคิดว่า โอกาสนี้แหละที่เขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง ในสิ่งที่เขาไม่เคยได้ทำและได้บอกกับเธอเลย สักพักก็มีเสียงดังขี้น "ขณะนี้ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว" ฝ่ายหญิงก็บอกกับเขาว่า ไปก่อนนะที่รัก แล้วเธอก็หันหลังเดินจากไป ส่วนเขาก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าเดินกลับ หลังจากนั้น 2 วัน เขาก็คิดถึงเธอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์ไปหาเธอก็ติดต่อไม่ได้ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ชุดสูท ที่เธอซื้อให้เขาเคยรบเล้าให้เขาใส่ไปออกงาน แต่เขาไม่เคยใส่มันเลย แล้วเขาไปหยิบใส่มัน มือของเขาก็คลำไปเจอแผ่น ซีดี เขาก็แปลกใจมากและนำไปเปิดดู ก็มีภาพของคนที่เขารักซึ่งเธอเป็นคนอัดภาพตัวเองและเสียงพูดไว้ ** ฉันคิดแล้วว่าคุณต้องใส่สูทตัวที่คุณ บ่นว่ามันไม่ได้เรื่องเลย และหลังจากที่คุณดูซีดีนี้แล้ว แสดงว่าฉันได้จากโลกนี้ไปแล้ว กับสิ่งที่เธอไม่เคยบอกเขาเลยว่าเธอเป็นมะเร็งที่สมอง และเป็นระยะสุดท้าย เธอไม่อยากให้เขาเสียใจ เขาอึ้งไป น้ำตาก็คลอเบ้าแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร เขาพรึมพรำกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา กับสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย เพราะที่ผ่านมาเธอได้ทำและเอาใจใส่เขาตลอดมา และไม่เคยทำให้เขาเสียใจเลย ตรงกันข้ามกับเขาไม่เคยแสดงออกถึงความรักและเอาใจใส่ ไม่แคร์ต่อความรู้สึกของเธอเลย ที่เขาเสียใจมากที่สุดก็คือ เขาไม่เคยบอกรักเธอเลยสักครั้ง ติดที่ว่าเขาไม่กล้าที่จะบอกเธอเมื่อเธอถาม เขาโกรธและเกลียดตัวเอง ที่ไม่เคยถามเธอเลยว่าเธอต้องการอะไร เขาคิดในใจว่าทำไม่เธอไม่บอกเขาเรื่องที่เธอเป็นมะเร็ง เขาจะขอเธอแต่งงานเลยทันที เขาจะทำทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความสูขกับเวลาที่เหลือ และจะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอก็ตาม ตอนนี้เขาแทบเป็นบ้าเมื่อไม่มีเธออยู่ด้วยอีกต่อไป เขาเสียดายเวลาที่เหลือเหลือเกิน กับสิ่งที่เขาไม่ได้ทำให้กับเธอในตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ เขาหยิบปืนออกมา บอกกับตัวเองว่าจบกันสักทีกับความรักที่ไม่เข้าข้างเขาเลย รอผมด้วยนะที่รัก ปัง ปังวันนี้เธอจะต้องไปต่างประเทศแล้ว และเธอก็บอกกับชายคนรักว่า การไปครั้งนี้ของเธอ เธออาจจะไม่ได้กลับมาอีกก็ได้ และถ้าหากเรามีบุญวาสนาที่เกิดมาเป็นคู่รักกันจริง ๆ เราก็คงได้จะได้เจอกัน ระหว่างที่ผู้หญิงกำลังพูดร่ำรา ในใจของฝ่ายชายก็ครุ่นคิดว่า โอกาสนี้แหละที่เขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง ในสิ่งที่เขาไม่เคยได้ทำและได้บอกกับเธอเลย สักพักก็มีเสียงดังขี้น "ขณะนี้ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว" ฝ่ายหญิงก็บอกกับเขาว่า ไปก่อนนะที่รัก แล้วเธอก็หันหลังเดินจากไป ส่วนเขาก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าเดินกลับ หลังจากนั้น 2 วัน เขาก็คิดถึงเธอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์ไปหาเธอก็ติดต่อไม่ได้ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ชุดสูท ที่เธอซื้อให้เขาเคยรบเล้าให้เขาใส่ไปออกงาน แต่เขาไม่เคยใส่มันเลย แล้วเขาไปหยิบใส่มัน มือของเขาก็คลำไปเจอแผ่น ซีดี เขาก็แปลกใจมากและนำไปเปิดดู ก็มีภาพของคนที่เขารักซึ่งเธอเป็นคนอัดภาพตัวเองและเสียงพูดไว้ ** ฉันคิดแล้วว่าคุณต้องใส่สูทตัวที่คุณ บ่นว่ามันไม่ได้เรื่องเลย และหลังจากที่คุณดูซีดีนี้แล้ว แสดงว่าฉันได้จากโลกนี้ไปแล้ว กับสิ่งที่เธอไม่เคยบอกเขาเลยว่าเธอเป็นมะเร็งที่สมอง และเป็นระยะสุดท้าย เธอไม่อยากให้เขาเสียใจ เขาอึ้งไป น้ำตาก็คลอเบ้าแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร เขาพรึมพรำกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา กับสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย เพราะที่ผ่านมาเธอได้ทำและเอาใจใส่เขาตลอดมา และไม่เคยทำให้เขาเสียใจเลย ตรงกันข้ามกับเขาไม่เคยแสดงออกถึงความรักและเอาใจใส่ ไม่แคร์ต่อความรู้สึกของเธอเลย ที่เขาเสียใจมากที่สุดก็คือ เขาไม่เคยบอกรักเธอเลยสักครั้ง ติดที่ว่าเขาไม่กล้าที่จะบอกเธอเมื่อเธอถาม เขาโกรธและเกลียดตัวเอง ที่ไม่เคยถามเธอเลยว่าเธอต้องการอะไร เขาคิดในใจว่าทำไม่เธอไม่บอกเขาเรื่องที่เธอเป็นมะเร็ง เขาจะขอเธอแต่งงานเลยทันที เขาจะทำทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความสูขกับเวลาที่เหลือ และจะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอก็ตาม ตอนนี้เขาแทบเป็นบ้าเมื่อไม่มีเธออยู่ด้วยอีกต่อไป เขาเสียดายเวลาที่เหลือเหลือเกิน กับสิ่งที่เขาไม่ได้ทำให้กับเธอในตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ เขาหยิบปืนออกมา บอกกับตัวเองว่าจบกันสักทีกับความรักที่ไม่เข้าข้างเขาเลย รอผมด้วยนะที่รัก ปัง ปังวันนี้เธอจะต้องไปต่างประเทศแล้ว และเธอก็บอกกับชายคนรักว่า การไปครั้งนี้ของเธอ เธออาจจะไม่ได้กลับมาอีกก็ได้ และถ้าหากเรามีบุญวาสนาที่เกิดมาเป็นคู่รักกันจริง ๆ เราก็คงได้จะได้เจอกัน ระหว่างที่ผู้หญิงกำลังพูดร่ำรา ในใจของฝ่ายชายก็ครุ่นคิดว่า โอกาสนี้แหละที่เขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง ในสิ่งที่เขาไม่เคยได้ทำและได้บอกกับเธอเลย สักพักก็มีเสียงดังขี้น "ขณะนี้ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว" ฝ่ายหญิงก็บอกกับเขาว่า ไปก่อนนะที่รัก แล้วเธอก็หันหลังเดินจากไป ส่วนเขาก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าเดินกลับ หลังจากนั้น 2 วัน เขาก็คิดถึงเธอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์ไปหาเธอก็ติดต่อไม่ได้ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ชุดสูท ที่เธอซื้อให้เขาเคยรบเล้าให้เขาใส่ไปออกงาน แต่เขาไม่เคยใส่มันเลย แล้วเขาไปหยิบใส่มัน มือของเขาก็คลำไปเจอแผ่น ซีดี เขาก็แปลกใจมากและนำไปเปิดดู ก็มีภาพของคนที่เขารักซึ่งเธอเป็นคนอัดภาพตัวเองและเสียงพูดไว้ ** ฉันคิดแล้วว่าคุณต้องใส่สูทตัวที่คุณ บ่นว่ามันไม่ได้เรื่องเลย และหลังจากที่คุณดูซีดีนี้แล้ว แสดงว่าฉันได้จากโลกนี้ไปแล้ว กับสิ่งที่เธอไม่เคยบอกเขาเลยว่าเธอเป็นมะเร็งที่สมอง และเป็นระยะสุดท้าย เธอไม่อยากให้เขาเสียใจ เขาอึ้งไป น้ำตาก็คลอเบ้าแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร เขาพรึมพรำกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา กับสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย เพราะที่ผ่านมาเธอได้ทำและเอาใจใส่เขาตลอดมา และไม่เคยทำให้เขาเสียใจเลย ตรงกันข้ามกับเขาไม่เคยแสดงออกถึงความรักและเอาใจใส่ ไม่แคร์ต่อความรู้สึกของเธอเลย ที่เขาเสียใจมากที่สุดก็คือ เขาไม่เคยบอกรักเธอเลยสักครั้ง ติดที่ว่าเขาไม่กล้าที่จะบอกเธอเมื่อเธอถาม เขาโกรธและเกลียดตัวเอง ที่ไม่เคยถามเธอเลยว่าเธอต้องการอะไร เขาคิดในใจว่าทำไม่เธอไม่บอกเขาเรื่องที่เธอเป็นมะเร็ง เขาจะขอเธอแต่งงานเลยทันที เขาจะทำทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความสูขกับเวลาที่เหลือ และจะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอก็ตาม ตอนนี้เขาแทบเป็นบ้าเมื่อไม่มีเธออยู่ด้วยอีกต่อไป เขาเสียดายเวลาที่เหลือเหลือเกิน กับสิ่งที่เขาไม่ได้ทำให้กับเธอในตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ เขาหยิบปืนออกมา บอกกับตัวเองว่าจบกันสักทีกับความรักที่ไม่เข้าข้างเขาเลย รอผมด้วยนะที่รัก ปัง ปังวันนี้เธอจะต้องไปต่างประเทศแล้ว และเธอก็บอกกับชายคนรักว่า การไปครั้งนี้ของเธอ เธออาจจะไม่ได้กลับมาอีกก็ได้ และถ้าหากเรามีบุญวาสนาที่เกิดมาเป็นคู่รักกันจริง ๆ เราก็คงได้จะได้เจอกัน ระหว่างที่ผู้หญิงกำลังพูดร่ำรา ในใจของฝ่ายชายก็ครุ่นคิดว่า โอกาสนี้แหละที่เขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง ในสิ่งที่เขาไม่เคยได้ทำและได้บอกกับเธอเลย สักพักก็มีเสียงดังขี้น "ขณะนี้ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว" ฝ่ายหญิงก็บอกกับเขาว่า ไปก่อนนะที่รัก แล้วเธอก็หันหลังเดินจากไป ส่วนเขาก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าเดินกลับ หลังจากนั้น 2 วัน เขาก็คิดถึงเธอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์ไปหาเธอก็ติดต่อไม่ได้ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ชุดสูท ที่เธอซื้อให้เขาเคยรบเล้าให้เขาใส่ไปออกงาน แต่เขาไม่เคยใส่มันเลย แล้วเขาไปหยิบใส่มัน มือของเขาก็คลำไปเจอแผ่น ซีดี เขาก็แปลกใจมากและนำไปเปิดดู ก็มีภาพของคนที่เขารักซึ่งเธอเป็นคนอัดภาพตัวเองและเสียงพูดไว้ ** ฉันคิดแล้วว่าคุณต้องใส่สูทตัวที่คุณ บ่นว่ามันไม่ได้เรื่องเลย และหลังจากที่คุณดูซีดีนี้แล้ว แสดงว่าฉันได้จากโลกนี้ไปแล้ว กับสิ่งที่เธอไม่เคยบอกเขาเลยว่าเธอเป็นมะเร็งที่สมอง และเป็นระยะสุดท้าย เธอไม่อยากให้เขาเสียใจ เขาอึ้งไป น้ำตาก็คลอเบ้าแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร เขาพรึมพรำกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา กับสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย เพราะที่ผ่านมาเธอได้ทำและเอาใจใส่เขาตลอดมา และไม่เคยทำให้เขาเสียใจเลย ตรงกันข้ามกับเขาไม่เคยแสดงออกถึงความรักและเอาใจใส่ ไม่แคร์ต่อความรู้สึกของเธอเลย ที่เขาเสียใจมากที่สุดก็คือ เขาไม่เคยบอกรักเธอเลยสักครั้ง ติดที่ว่าเขาไม่กล้าที่จะบอกเธอเมื่อเธอถาม เขาโกรธและเกลียดตัวเอง ที่ไม่เคยถามเธอเลยว่าเธอต้องการอะไร เขาคิดในใจว่าทำไม่เธอไม่บอกเขาเรื่องที่เธอเป็นมะเร็ง เขาจะขอเธอแต่งงานเลยทันที เขาจะทำทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความสูขกับเวลาที่เหลือ และจะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอก็ตาม ตอนนี้เขาแทบเป็นบ้าเมื่อไม่มีเธออยู่ด้วยอีกต่อไป เขาเสียดายเวลาที่เหลือเหลือเกิน กับสิ่งที่เขาไม่ได้ทำให้กับเธอในตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ เขาหยิบปืนออกมา บอกกับตัวเองว่าจบกันสักทีกับความรักที่ไม่เข้าข้างเขาเลย รอผมด้วยนะที่รัก ปัง ปังวันนี้เธอจะต้องไปต่างประเทศแล้ว และเธอก็บอกกับชายคนรักว่า การไปครั้งนี้ของเธอ เธออาจจะไม่ได้กลับมาอีกก็ได้ และถ้าหากเรามีบุญวาสนาที่เกิดมาเป็นคู่รักกันจริง ๆ เราก็คงได้จะได้เจอกัน ระหว่างที่ผู้หญิงกำลังพูดร่ำรา ในใจของฝ่ายชายก็ครุ่นคิดว่า โอกาสนี้แหละที่เขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง ในสิ่งที่เขาไม่เคยได้ทำและได้บอกกับเธอเลย สักพักก็มีเสียงดังขี้น "ขณะนี้ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว" ฝ่ายหญิงก็บอกกับเขาว่า ไปก่อนนะที่รัก แล้วเธอก็หันหลังเดินจากไป ส่วนเขาก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าเดินกลับ หลังจากนั้น 2 วัน เขาก็คิดถึงเธอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์ไปหาเธอก็ติดต่อไม่ได้ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ชุดสูท ที่เธอซื้อให้เขาเคยรบเล้าให้เขาใส่ไปออกงาน แต่เขาไม่เคยใส่มันเลย แล้วเขาไปหยิบใส่มัน มือของเขาก็คลำไปเจอแผ่น ซีดี เขาก็แปลกใจมากและนำไปเปิดดู ก็มีภาพของคนที่เขารักซึ่งเธอเป็นคนอัดภาพตัวเองและเสียงพูดไว้ ** ฉันคิดแล้วว่าคุณต้องใส่สูทตัวที่คุณ บ่นว่ามันไม่ได้เรื่องเลย และหลังจากที่คุณดูซีดีนี้แล้ว แสดงว่าฉันได้จากโลกนี้ไปแล้ว กับสิ่งที่เธอไม่เคยบอกเขาเลยว่าเธอเป็นมะเร็งที่สมอง และเป็นระยะสุดท้าย เธอไม่อยากให้เขาเสียใจ เขาอึ้งไป น้ำตาก็คลอเบ้าแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายใคร เขาพรึมพรำกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา กับสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย เพราะที่ผ่านมาเธอได้ทำและเอาใจใส่เขาตลอดมา และไม่เคยทำให้เขาเสียใจเลย ตรงกันข้ามกับเขาไม่เคยแสดงออกถึงความรักและเอาใจใส่ ไม่แคร์ต่อความรู้สึกของเธอเลย ที่เขาเสียใจมากที่สุดก็คือ เขาไม่เคยบอกรักเธอเลยสักครั้ง ติดที่ว่าเขาไม่กล้าที่จะบอกเธอเมื่อเธอถาม เขาโกรธและเกลียดตัวเอง ที่ไม่เคยถามเธอเลยว่าเธอต้องการอะไร เขาคิดในใจว่าทำไม่เธอไม่บอกเขาเรื่องที่เธอเป็นมะเร็ง เขาจะขอเธอแต่งงานเลยทันที เขาจะทำทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความสูขกับเวลาที่เหลือ และจะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอก็ตาม ตอนนี้เขาแทบเป็นบ้าเมื่อไม่มีเธออยู่ด้วยอีกต่อไป เขาเสียดายเวลาที่เหลือเหลือเกิน กับสิ่งที่เขาไม่ได้ทำให้กับเธอในตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ เขาหยิบปืนออกมา บอกกับตัวเองว่าจบกันสักทีกับความรักที่ไม่เข้าข้างเขาเลย รอผมด้วยนะที่รัก ปัง ปัง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น