คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Track 8 : เกินเลย
ดงเฮที่เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำมองคนที่นั่งพิงเตียงตาโต พรางมองหาเพื่อนสนิทอีกสองคนที่บัดนี้ไม่รู้หายไปไหนกันแล้ว
“สะ..สองคนนั้นล่ะ”เท้าเรียวหยุดชะงักหน้าห้องน้ำ
“กลับไปแล้ว”คิบอมบอกเสียงเข้ม พรางลุกขึ้นจากเตียงกว้าง
“แล้วมึงถอดเสื้อทำไม”มือหนาชูเสื้อยืดในมือขึ้น ก่อนจะเขวี้ยงมันลงตะกร้า
“กูจะอาบน้ำ”ดงเฮพยักหน้าถี่ๆ แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แต่คิบอมขวางไว้
“ทำไรของมึงเนี้ย”หน้าหวานเงยมองชายหนุ่มร่วมห้องหน้าแดงกล่ำ พอจะก้มหน้าเห็นอกแกร่งก็ดันหวั่นไหว
เป็นบ้าอะไรของมึงว่ะ ดงเฮ
“กูมีอะไรจะถาม”ดงเฮมองดวงตาคู่นั้นที่จับจ้องมองมาที่ตนแล้วก็เบือนหน้าไปอีกทาง
“อะไร”
“มึงจำเรื่องเมื่อคืนได้ไหม”ดงเฮหันขวับมามองคนถามอีกครั้ง หน้าคิบอมตอนนี้จริงจังจนเขาไม่สามารถจะบรรยาย ดงเฮส่ายหน้า ก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ
“กูจำไม่ได้”
“สบตากู อย่าโกหก”นิ้วสากเชยคางมนขึ้นมาให้มองหน้ากัน
“กูบอกว่ากูจำไม่ได้ มึงต้องการอะไรจากกู คิมคิบอม”
“ความรักไง”
“...”
“กูต้องการความรักจากมึง มึงให้กูได้รึป่าว”
“มึงอย่ามาพูดเชี่ยๆแบบนี้นะ”ดงเฮปัดมือหน้าออกจากคางมน พรางดันอีกคนให้ออกห่าง
“ไหนมึงบอกว่ามึงอยากรู้ไง กูบอกแล้วนี่ไง คนที่กูรักคือมึง ทำไมมึงไม่ฟังล่ะ”มือหนาจับมือขาวของคนกำลังจะเดินหนีแน่น
“กูไม่ได้คิดแบบนั้นกับมึง”
“กูไม่ได้อยากรู้ว่ามึงคิดยังไงกับกู แต่กูอยากให้มึงรู้ว่ารักมึง”
“กูรู้แล้ว พอใจรึยัง ต่อจากนี้ช่วยไปห่างๆกูด้วย”
“มึงต้องการอย่างนั้นจริงๆหรอ”ดงเฮมองสบตาคมนิ่ง เขารู้ว่าคิบอมกำลังเสียใจ แต่ตอนนี้เขากำลังสับสน
“...”
“แค่มึงบอกกู กูจะทำตามที่มึงพูด ให้กูรักมึงต่อหรือกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแค่มึงบอกกู”
“กู...”ดงเฮมองมือหนาที่ยังเกาะกุมข้อมือตนอยู่ แล้วก็เงยหน้าหันไปบอกกลับคนตัวสูง
“เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมเถอะ”สิ้นคำมือหนาก็คลายออก ก่อนคิบอมจะเดินกลับไปเข้าห้องน้ำ
“คิบอม”ดงเฮร้องเรียกอีกคนจากหน้าห้องน้ำ
“...”
“กูขอโทษ”ดงเฮร้องบอกพรางทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนุ่ม ไม่ได้รับรู้เลยว่าอาการของคนด้านในห้องน้ำตอนนี้เป็นเช่นไร
คิบอมนั่งพิงประตูอย่างเงียบๆ ดวงตาที่เศร้าหมองอยู่ชั่วครู่แปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์
“กูบอกรักมึงดีดีแล้วมึงปฏิเสธกู อย่าหาว่ากูใจร้ายล่ะกัน”
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่คิบอมก็เดินออกมาจากห้องน้ำไปยังตู้เสื้อผ้า ไม่ได้เหลือบมองคนที่กำลังเก็บกวาดห้องอยู่แม้แต่น้อย จน
ดงเฮหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก เพราะตอนนี้เขากำลังสับสนอยู่ ไม่อยากให้คิบอมมาหาเรื่อง
ชั่วครู่ร่างสูงก็แต่งตัวเสร็จ ดงเฮมองคนแต่งตัวจัดแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้วก็แปลกใจ
“มึงจะไปไหน”
“เป็นห่วง”คิบอมเลิกคิ้วถาม
“อยากไปไหนก็ไปเหอะ”ว่าจบคนตัวเล็กก็มัดถุงดำที่ใส่ขยะไปวางหน้าห้อง
“เอาไปทิ้งด้วย”
“เอาหัวใจกูทิ้งไปด้วยหรือป่าว”ดงเฮสบตาคนถามแล้วก็รีบเดินหนีเข้าห้องน้ำ
ก็ห้องมันแค่นี้จะให้หลบไปไหนได้
คิบอมส่ายหัวให้กับคนชอบหนีความจริงแล้วก็เดินถือถุงขยะออกไปทิ้งเงียบๆ
ด้านคยูฮยอนกับซีวอนที่เดินมึนๆออกมาจากห้องเพื่อนสนิทต่างพากันสบถยกใหญ่
“ไอ้เชี่ยคิบอม ถ้าแมร่งสมหวังนะ กูจะหาผู้หญิงมาแกล้งมัน คอยดู”คยูฮยอนบอกอย่างหัวเสีย
“นั่นดิ อุตส่าห์ช่วยแมร่งแท้ๆ เสือกไล่กูตั้งแต่เช้าเลย หงุดหงิดชะมัด”ซีวอนเองก็โวยวายไม่แพ้กัน มือใหญ่จัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าทรง ถึงแม้จะเมาก็จะไม่ยอมให้ภาพลักษณ์เสียหายเป็นอันขาด
“เชี่ย ถ้ากูเจอฮยอกแจสภาพนี้ น้องงอนก็แน่ๆ”คยูฮยอนมองคนพูดแบบสงสัย
“เมื่อวานมึงไปไหนมา”
“ไปเรียนกับฮยอกแจไง”
“ตอนเย็นคิบอมมันไปรับดงเฮ มันบอกไม่เจอมึง”ซีวอนมองคยูฮยอนเพียงครู่แล้วก็เบือนหน้าไปทางอื่น
“กูไปทำธุระหลังจากนั้นนิดหน่อย”
“ธุระ?”
“อื้ม ไม่ต้องรู้หรอก”คนตัวสูงพูดอย่างไม่ใส่ใจอะไร แต่มันยิ่งกลับทำให้คยูฮยอนสงสัย
“อ้าว ซีวอน”เสียงทักจากด้านซ้ายทำให้คนที่รีบเดินกลับไปยังห้องพักตนชะงัก
“พี่ฮีชอล มาทำอะไรแถวนี้ครับ”ฮีชอลชูถุงโจ๊กให้ร่างสูงดู ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆ
“เอาอาหารมาส่งอีทึกน่ะ”
“พี่อีทึกไม่สบายเหรอครับ”ฮีชอลพยักหน้า
“อื้ม เห็นว่าอาการไม่ค่อยดี คังอินก็ไม่อยู่ดันกลับบ้านไปเมื่อคืน”
“งั้นเดี๋ยวผมเดินไปส่ง”
“ไม่ต้องๆ หออีทึกอยู่แค่นี้เอง ฉันไปเองได้”ฮีชอลรีบส่ายหน้า พรางชี้ไปยังหอที่ซีวอนกับคยูฮยอนเพิ่งเดินออกมา
“งั้นฉันไปแล้วนะ รีบไปอาบน้ำกันซะละ กลิ่นหึ่งเชียว”ร่างบางยิ้ม พรางบอกมือลาทั้งสองคน
คยูฮยอนมองซีวอนที่มองตามไปแล้วกระทุ้งสอกใส่แขนแกร่ง
“มึงไปรู้จักพี่เขาได้ไง”
“ก็ตอนไปชวนพี่คังอินเข้าชมรมไง”
“ไม่ใช่ว่าจะจีบเขาหรอกนะ”
“พูดเชี่ยไรมึง กูมีแฟนอยู่แล้วนะ”
“แล้วใครล่ะ ทิ้งฮยอกแจอยู่คนเดียวเมื่อวาน”ซีวอนมองหน้าคยูฮยอนแล้วก็นิ่ง
ก็จริงอย่างที่คยูฮยอนพูด ทั้งๆที่สัญญาว่าจะไปนั่งเรียน ไปรับหลังเลิกเรียน แต่เขากลับคลุกตัวอยู่กับพี่ฮีชอล
ซีวอน มึงกำลังทำอะไรอยู่
“ฮยอกแจ แกดูอะไรอยู่”ซองมินร้องเรียกคนที่หลบมายืนอยู่ข้างตู้โทรศัพท์ช้าๆ
“พี่ซีวอน”ได้ยินเช่นนั้นซองมินก็ชะเง้อหน้าดูบางจึงเห็นร่างสูงทั้งสองกำลังคุยกับใครบางคนอยู่
“เข้าไปทักสิ”
“ฉัน..ฉันกลัว”
“กลัวอะไร”มือขาวแตะไหล่เล็ก พรางดึงอีกคนให้หันมามองหน้ากัน ตอนนั้นซองมินจึงได้รู้ว่าฮยอกแจกำลังจะร้องไห้
“กลัวพี่ซีวอนรักผู้ชายคนนั้น”ซองมินส่ายหน้า พรางยีหัวเพื่อนรัก
“ฟุ้งซ่าน พี่ซีวอนรักแกจะตาย อีกอย่างฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าพี่ฮีชอลมีแฟนแล้ว”
“แต่เมื่อวานพี่เขาก็หายไป โทรไปก็ไม่ติด แถมยังไปอยู่กับพี่ฮีชอลอีก”
“ลองถามพี่ซีวอนดูสิ ถ้าแกไม่มั่นใจ”ฮยอกแจส่ายหน้า
“ฉันไม่อยากให้พี่เขาคิดมาก”
“เฮ้อ ฉันไม่น่าชวนแกออกมาหาอะไรกินเลย”ซองมินมองเพื่อนรักแล้วก็ถอนหายใจ
ผู้ชายกลุ่มนี้มันก็นิสัยอย่างนี้กันทั้งนั้นใช่ไหม?
คิบอมหายออกไปจากห้องราวสิบกว่าชั่วโมงแล้ว ดงเฮได้แต่บ่นอยู่ในใจ จวบจนกระทั่งเสียงกึกกักที่ดังมาจากหน้าห้องทำให้ร่างบางหันไปมอง ประตูไม้ถูกเปิดออกมาด้วยมือของคนที่ไม่ใช่เจ้าของห้องอีกคน แต่กับเป็นแฟนของคิบอม
“ขอโทษทีนะ ที่ต้องเข้ามาแบบนี้ แต่คิบอมเมาน่ะ”หญิงสาวเอ่ยบอกก็จะพยุงชายคนรักของตนวางลงกับเตียง
“คิบอม..ไปเที่ยวกับเธอมาหรอ”ยุนอาพยักหน้า
“ใช่ แล้วเมื่อเย็นเขาดื่มหนักไปหน่อย จะพากลับไปหอฉันก็ไม่ได้ เลยต้องพามานี่”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันดูต่อให้เอง เธอกลับไปเหอะ มันดึกแล้ว”
“แต่ฉันว่านายไปพักเหอะ ฉันดูแลเขาได้”ดงเฮขมวดคิ้ว
“ขอโทษนะ แต่หอนี้มันปิดห้าทุ่มตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว ถ้าเธอไม่รีบกลับไปฉันเกรงว่าเธอจะออกไปไม่ได้”
“ไม่เป็นไร ฉันขอนอนห้องนายก็ได้”ดงเฮทำหน้าหน่ายใส่ผู้หญิงช่างตื้อ จะอยู่ให้ได้เลยรึไง
“ถ้าไม่กลัวฉันละเมอเตะบอลตอนกลางคืนก็ไม่ว่ากัน”ดงเฮยักไหล่ นั่งลงที่พื้นดูทีวีที่กำลังถ่ายทอดสดฟุตบอลนัดสำคัญต่อไป ไม่ได้สนใจเลยว่ามีผู้หญิงอีกคนกำลังนั่งลังเลอยู่ด้านหลัง
ผ่านไปซักพักยุนอาเห็นดงเฮเชียร์บอลอย่างกับเชียร์มวยแล้วก็เริ่มตัดสินใจได้ในทันที หญิงสาวเดินไปคว้ากระเป๋าตัวเองมองคนที่นอนไม่ได้สติอยู่เพียงครู่ แล้วเดินไปหาคนที่นั่งอยู่หน้าทีวี
“ฉันกลับก่อนนะ ฝากดูแลเขาต่อด้วย”ดงเฮพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ
“ออกไปแล้วล็อคห้องให้ด้วยนะ”ยุนอามองคนที่ยังไม่ละสายตาจากจอทีวีแล้วเหลือบมองคนบนเตียงอีกชั่วครู่ก่อนจะเดินออกไป
ดงเฮนั่งนิ่งอยู่หน้าทีวีอยู่พักใหญ่ ความสนใจในจอเริ่มลดลงเมื่อผู้หญิงคนนั้นออกไปหรือจะพูดให้ถูกคือตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในห้องก็เป็นได้ ร่างบางเดินไปหยุดข้างเตียงนิ่ง มองคนที่ยังนอนสลบไม่ได้สติแล้วก็ส่ายหน้า เดินไปหยิบถังน้ำกับผ้าสะอาดมาเช็ดตัวร่างสูง
มือเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มออกช้าๆ พรางโยนมันไปวางอีกฝั่งของเตียง ใช้ผ้าสะอาดเช็ดไล่ตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ ท่อนแขนใหญ่ ยันถึงแผ่นอกกว้างที่ไม่ว่าจะได้เห็นกี่ครั้งก็รู้สึกวาบหวิวในใจ
มือใหญ่จับมือนิ่มที่กำลังเช็ดอกตัวเองแน่น ก่อนเปลือกตาหนาจะค่อยๆเปิดออก ดงเฮมองคนที่เพิ่งตื่นนิ่ง
“แดกเหล้าแล้วลำบากกูนะมึงอ่ะ”คิบอมไม่ได้สนใจเสียงบ่นของดงเฮ มือหนากระตุกดึงอีกคนให้เข้ามาใกล้จนร่างบางลงไปนอนอยู่บนร่าง
“ไอ้เชี่ย ทำไรของมึงเนี้ย”มือเล็กพยายามจะดันตัวเองออกแต่อีกคนกลับฝืนไว้ พร้อมทั้งพลิกกายทาบทับร่างบางจนดงเฮตกใจ
“คิบอม กูไม่เล่นนะ”หน้าหวานตื่นตระหนก พยายามผลักอีกคนให้ลุกออกจากร่างกายตน
“ใครบอกว่ากูเล่น”คิบอมตอบเสียงเรียบ ดงเฮฟังถ้อยคำนั้นแล้วก็อ้าปากค้างด้วยความมึนงง กว่าจะรับรู้อีกทีก็เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวแนบประกบลงบนริมฝีปากของตัวเอง ดงเฮเบิกตากว้างมองใบหน้าของตนที่สะท้อนอยู่ในนัยต์ตาสีเข้มของอีกคนแล้วหัวใจเต้นแรง คิบอมหยอกเย้าดงเฮอย่างลึกซึ้งและอ่อนโยน ตักตวงรสชาติความหวานจากริมฝีปากอ่อนนุ่มของอีกคนจนพอใจแล้วก็ผละออก ลมหายใจอุ่นร้อนคลอเคลียอยู่บริเวณซอกคอขาว ดงเฮเงยคอขึ้นให้อีกคนสูดดมอย่างไม่ได้สติ จนกระทั่งริมฝีปากร้อนชื้นประทับจูบลงบนลำคอขาว ดงเฮถึงได้สะดุ้ง
“ปล่อยนะ”มือเรียวดันหน้าอกกว้างให้ออกห่าง แต่แรงของดงเฮยังไงก็ไม่มีทางสู้แรงของคิบอมได้ หน้าเข้มยังคงซุกไซ้อยู่บริเวณซอกคอขาว มือหนาสอดเข้าไปในเสื้อยืดสีสว่างช้าๆ
“คิบอมปล่อยกูนะ ปล่อย”ร่างเล็กดิ้นไปมาอยู่บนเตียง พยายามจับมือที่ลูบไล้ร่างกายตนให้ออกห่าง แต่ว่าไม่สำเร็จ ชั่วครู่คิบอมก็ถอดเสื้อดงเฮออกไป คนหน้าหวานหน้าแดงกล่ำ ดวงตาสีน้ำตาเริ่มคลอไปด้วยน้ำตา
ดงเฮกำลังกลัว กำลังกลัวคิบอมคนนี้
มือใหญ่สัมผัสผิวเนียนลื่นมือแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มรู้สึกได้ว่าร่างของคนที่นอนใต้ร่างกำลังสั่น และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาดูคิบอมก็ต้องตกใจ เมื่อ เห็นว่าดงเฮกำลังร้องไห้
“ดงเฮ”
“อย่ามาเรียกกู กูเกลียดมึง”เสียงหวานตวาดใส่คนบนร่างเสียงดัง น้ำตาที่คลออยู่เมื่อครู่ไหลออกมาจนเปรอะหน้าเนียน คิบอมที่มองอยู่รู้สึกสงสารจับใจ แล้วขยับร่างออกมานั่งข้างๆกัน
ดงเฮรีบลุกขึ้นนั่งมือเรียวสวมเสื้อยืดตัวเดิมของตัวเอง พรางพาตัวเองไปที่ประตู หากแต่อ้อมแขนแกร่งโอบกอดอีกคนไว้จากทางด้านหลัง
“อย่าไป..”
“ปล่อยกูนะ กูเกลียดมึง เกลียดความรักของมึง เลิกยัดเยียดความรักของมึงให้กูซักที”ดงเฮสลัดแขนใหญ่ให้ออกจากเอวของตัวเอง
“อย่าไปกูขอร้อง เดี๋ยวกูไปเอง”พูดจบคิบอมก็ค่อยๆคลายอ้อมกอดออก พรางเดินออกจากห้องไปเงียบๆ ดงเฮทรุดตัวนั่งลงกับพื้นร้องไห้เสียงดังจนคนที่ยังเดินออกไปไม่ไกลยังได้ยิน
หากคำว่ารักของมึงต้องทำร้ายจิตใจกูขนาดนี้ อย่ารักกูเลย คิบอม
เช้าวันรุ่งขึ้นซองมินที่รีบเข้ามหาลัยมาอ่านหนังสือในห้องสมุดมองเพื่อนรักทั้งสองคนอย่างแปลกใจ ดงเฮกำลังเหม่อลอยสายตาหยุดที่หนังสือหน้านั้นอยู่ราวครึ่งชั่วโมง ส่วนฮยอกแจก็ไม่ต่างถึงวันนี้พี่ซีวอนจะมารับเพื่อนตัวผอมของเขาแต่เช้าและพาไปกินข้าวด้วยกัน แต่ฮยอกแจก็ยังคงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่ดี
ซองมินปิดหนังสือที่กำลังอ่านนิ่ง มองหน้าทั้งสองคนแล้วก็ถอนหายใจ
“เลิกเป็นแบบนี้กันซักทีได้ไหม”เสียงหวานที่อยู่ๆก็พูดขึ้นทำเอาฮยอกแจกับดงเฮตกใจ
“เสียงดังทำไมซองมิน นี่ห้องสมุดนะ”
“นั่นสิ ตกใจหมดเลย”ซองมินอยากจะตบหน้าผากตัวเองแรงๆซักทีสองที
“ฉันไม่ได้เสียงดังซะหน่อย พวกนายต่างหากที่เอาแต่เหม่อ บอกมานะ ว่าเป็นอะไรกัน”ดงเฮกับฮยอกแจต่างพากันหลบหน้าไปคนละทาง
“เรื่องฮยอกแจฉันพอเข้าใจว่ามันคงเป็นเรื่องพี่ซีวอน แล้วนายล่ะดงเฮทะเลาะอะไรกับพี่คิบอมอีก”
“...”
“คิบอมสนใจผู้หญิงคนนั้นมากกว่านายอีกแล้วหรอ”
“...”
“ดงเฮ”
“ขอโทษนะ ซองมิน แต่ฉันไม่อยากพูดถึงหมอนั่น ฉันกลับก่อนนะ”มือเรียวรวบหนังสือของตนเองที่กองอยู่บนโต๊ะเข้าสู่อ้อมกอด แล้วคว้ากระเป๋าเดินออกไป จนซองมินกับฮยอกแจที่รอฟังคำตอบอยู่อ้าปากค้าง
“ท่าทางจะโกรธกันรุนแรงน่าดู”
“นั่นสิ แล้วแกล่ะ ยังคิดมากเรื่องพี่ซีวอนอยู่อีกหรอ”ตาเรียวเล็กมองหน้าเพื่อนสนิทแล้วพยักหน้า
“ถ้าเป็นฉันฉันจะเปิดอกคุย”
“ฉันไม่ใช่นายนะ ซองมิน”
“คุยอะไรกันอยู่ครับ”คนที่ถูกเอ่ยถึงเดินเข้ามาที่โต๊ะของทั้งสองคนเงียบๆ
“ตกใจหมดเลย พี่ซีวอน”ฮยอกแจเอามือทาบอก ร่างสูงมองท่าทางนั่นแล้วก็ยีผมร่างบางเล่น
“พี่ขอโทษ ว่าแต่ดงเฮไปไหนแล้วล่ะ”ซีวอนเอ่ยถามอย่างสงสัย พรางทิ้งตัวนั่งข้างฮยอกแจ
“กลับหอไปแล้วฮะ สงสัยจะทะเลาะกับพี่คิบอมอีกแล้ว”
“พี่ซีวอนรู้ไหมว่าสองคนนั่นทะเลาะอะไรกัน”หน้าหล่อส่ายหน้าไปมา พรางเอ่ย
“ไม่รู้สิ แต่วันนี้พี่ยังไม่เจอคิบอมเหมือนกัน”ซองมินถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วส่ายหน้า ลงมือเปิดหนังสือเล่มเดิมอีกครั้ง
“แล้วพี่ซีวอนไม่มีเรียนหรอฮะ”ฮยอกแจมองร่างสูงที่กำลังสนใจโทรศัพท์ในมือนิ่ง
“ไม่มีครับ วันนี้พี่ว่างอยู่กับเราทั้งวันเลยล่ะ”ฮยอกแจยิ้มหวาน มองหน้าซีวอนที่มองตนกลับมาเช่นกันแล้วก็รู้สึกดีใจ
พี่ซีวอนคนเดิมของฮยอกกลับมาแล้ว
ผ่านไปซักพักใหญ่ซีวอนที่นั่งรอฮยอกแจกับซองมินจนเผลอหลับไปก็ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย มองหนุ่มหน้าหวานที่ยังสนใจบทเรียนแล้วก็เหลือบมองไปรอบๆตัว สายตาคมหยุดลงทันทีที่เห็นคนรู้จักนั่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
“เอ่อ เดี๋ยวพี่มานะ”
“ไปไหนฮะ”ฮยอกแจร้องถามอย่างสงสัย
“ไปหาเพื่อนน่ะ เดี๋ยวพี่มา”ฮยอกแจพยักหน้า มองร่างสูงที่เดินไปแล้วพลันเหลือบเห็นคนหน้าสวยที่นั่งอยู่ไม่ไกลกันนักกำลังนั่งคุยกับเพื่อนอยู่
หรือว่า..พี่ซีวอนจะไปหาเขา
และก็เป็นอย่างที่ฮยอกแจคิด ซีวอนเดินเข้าไปทักทายฮีชอลกับอีทึกที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่
เจ็บอีกแล้ว...ฮยอกแจ
“นั่งทำไรกันอยู่ครับ”ซีวอนร้องทักรุ่นพี่ทั้งสองคนเบาๆ
“อ้าว ซีวอนมาทำไรเนี่ย นั่งก่อนสิ”อีทึกเห็นหน้าหล่อของรุ่นน้องแล้วก็ยิ้มกว้าง
“ผมแวะมาติวหนังสือกับพวกรุ่นน้องน่ะครับ แล้วพวกพี่ล่ะ”
“พวกเรามารอเวลาเรียนน่ะ”ฮีชอลเอ่ยบอกยิ้มๆ ซีวอนพยักหน้ามองหน้าหวานของฮีชอลนิ่ง จนอีกคนสงสัย
“มองอะไร หน้าฉันมีอะไรติดหรอ”เสียงหวานเหมือนผู้หญิงถามซีวอนอย่างสงสัย ก่อนประโยคหลังจะหันพูดกับอีทึก
“ป่าวครับ งั้นผมไม่กวนพวกพี่ล่ะ ไว้ค่อยคุยกัน”
“เดี๋ยวซีวอน”ฮีชอลร้องเรียกร่างสูงไว้
“ครับ?”
“มีอะไรติดผมอ่ะ”ฮีชอลใช้นิ้วชี้ไปที่เส้นผมตัวเองให้ซีวอนดู ซึ่งคนตัวสูงก็ลูบไม่ถูกจุดซะที เส้นด้ายขาวๆยังคงติดอยู่ที่ผมของคนตัวสูง จนอีทึกรำคาญ
“นายก็เอาออกให้ซีวอนสิ”
“จะดีหรอ”ฮีชอลร้องถาม เขากับร่างสูงเพิ่งรู้จักกันไม่นาน จะให้ไปจับหัวก็ยังไงอยู่
“นายไม่ถือใช่ไหม”อีทึกร้องถามคนตัวสูง ซีวอนส่ายหน้า
“งั้นก็ได้”ฮีชอลลุกจากเก้าอี้ เขย่งปลายเท้าขึ้นพรางหยิบเส้นด้ายเจ้าปัญหาออก
“แค่นี้แหละ”อีทึกบอกอย่างไม่ใส่ใจ ต่างกับซีวอนและฮีชอลที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าทั้งคู่อยู่ใกล้กันจนเกินไปจึงรีบผละออกจากกัน ฮีชอลเดินไปนั่งที่เดิม เหมือนซีวอนก็รีบขอตัวกลับไปที่โต๊ะเช่นกัน
ภาพเมื่อครู่ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มันทำให้คนที่มองรู้สึกปวดใจยิ่งนัก สายตาคู่แรกมองด้วยความรู้สึกตัดพ้อ ต่างจากคู่หลังที่ดวงตากำลังลุกเป็นไฟ
“ฮีชอล”เสียงทุ้มของคนที่เพิ่งเดินมาถึงร้องเรียกร่างบาง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งตรงข้าม
“มาช้าจัง”
“ใช่ๆ นายมัวไปไหนมา ฮันกยอง ปล่อยให้ฮีชอลรอมากๆ ไม่กลัวมีคนมาจีบแฟนนายหรือไง”อีทึกแซวยิ้มๆ ซึ่งฮีชอลก็ขำไปด้วยต่างจากฮันกยองที่กำลังหน้าดำเขียวอย่างโมโห
“หงุดหงิดอะไร”ฮีชอลเอ่ยถามอย่างสงสัย นิ้วเรียวจิ้มลงบนคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันเป็นปมให้คลายออก มือเข้มจับมือนิ่มเบาๆ พรางดึงมาไว้กับตัว
“อย่าเลิกรักกันนะ”หน้าหวานแดงซ่านเมื่อได้ยินประโยคนั้น ฮีชอลพยักหน้ายิ้ม จนอีทึกที่นั่งอยู่ข้างๆอดไม่ไหวจนต้องแซวออกมาให้ฮีชอลอายเล่น ซึ่งฮีชอลก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร นอกจากได้แต่นั่งก้มซ่อนหน้าแดงๆของตน
ฉันจะไม่มีทางยอมให้ใครแย่งนายไปแน่ ฮีชอล
TBC
CRY.q
ความคิดเห็น