ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ] LOVE SONG เพลงรักของเรา [KIHAE / WONCIN]

    ลำดับตอนที่ #8 : Track 8 : เกินเลย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 581
      4
      3 เม.ย. 55





    ดงเฮที่เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำมองคนที่นั่งพิงเตียงตาโต พรางมองหาเพื่อนสนิทอีกสองคนที่บัดนี้ไม่รู้หายไปไหนกันแล้ว


    “สะ..สองคนนั้นล่ะ”เท้าเรียวหยุดชะงักหน้าห้องน้ำ


    “กลับไปแล้ว”คิบอมบอกเสียงเข้ม พรางลุกขึ้นจากเตียงกว้าง


    “แล้วมึงถอดเสื้อทำไม”มือหนาชูเสื้อยืดในมือขึ้น ก่อนจะเขวี้ยงมันลงตะกร้า


    “กูจะอาบน้ำ”ดงเฮพยักหน้าถี่ๆ แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แต่คิบอมขวางไว้


    “ทำไรของมึงเนี้ย”หน้าหวานเงยมองชายหนุ่มร่วมห้องหน้าแดงกล่ำ พอจะก้มหน้าเห็นอกแกร่งก็ดันหวั่นไหว


    เป็นบ้าอะไรของมึงว่ะ ดงเฮ


    “กูมีอะไรจะถาม”ดงเฮมองดวงตาคู่นั้นที่จับจ้องมองมาที่ตนแล้วก็เบือนหน้าไปอีกทาง


    “อะไร”


    “มึงจำเรื่องเมื่อคืนได้ไหม”ดงเฮหันขวับมามองคนถามอีกครั้ง หน้าคิบอมตอนนี้จริงจังจนเขาไม่สามารถจะบรรยาย ดงเฮส่ายหน้า ก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ


    “กูจำไม่ได้”


    “สบตากู อย่าโกหก”นิ้วสากเชยคางมนขึ้นมาให้มองหน้ากัน


    “กูบอกว่ากูจำไม่ได้ มึงต้องการอะไรจากกู คิมคิบอม”


    “ความรักไง”


    “...”


    “กูต้องการความรักจากมึง มึงให้กูได้รึป่าว”


    “มึงอย่ามาพูดเชี่ยๆแบบนี้นะ”ดงเฮปัดมือหน้าออกจากคางมน พรางดันอีกคนให้ออกห่าง


    “ไหนมึงบอกว่ามึงอยากรู้ไง กูบอกแล้วนี่ไง คนที่กูรักคือมึง ทำไมมึงไม่ฟังล่ะ”มือหนาจับมือขาวของคนกำลังจะเดินหนีแน่น


    “กูไม่ได้คิดแบบนั้นกับมึง”


    “กูไม่ได้อยากรู้ว่ามึงคิดยังไงกับกู แต่กูอยากให้มึงรู้ว่ารักมึง”


    “กูรู้แล้ว พอใจรึยัง ต่อจากนี้ช่วยไปห่างๆกูด้วย”


    “มึงต้องการอย่างนั้นจริงๆหรอ”ดงเฮมองสบตาคมนิ่ง เขารู้ว่าคิบอมกำลังเสียใจ แต่ตอนนี้เขากำลังสับสน


    “...”


    “แค่มึงบอกกู กูจะทำตามที่มึงพูด ให้กูรักมึงต่อหรือกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแค่มึงบอกกู”


    “กู...”ดงเฮมองมือหนาที่ยังเกาะกุมข้อมือตนอยู่ แล้วก็เงยหน้าหันไปบอกกลับคนตัวสูง


    “เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมเถอะ”สิ้นคำมือหนาก็คลายออก ก่อนคิบอมจะเดินกลับไปเข้าห้องน้ำ


    “คิบอม”ดงเฮร้องเรียกอีกคนจากหน้าห้องน้ำ


    “...”


    “กูขอโทษ”ดงเฮร้องบอกพรางทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนุ่ม ไม่ได้รับรู้เลยว่าอาการของคนด้านในห้องน้ำตอนนี้เป็นเช่นไร


    คิบอมนั่งพิงประตูอย่างเงียบๆ ดวงตาที่เศร้าหมองอยู่ชั่วครู่แปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์


    “กูบอกรักมึงดีดีแล้วมึงปฏิเสธกู อย่าหาว่ากูใจร้ายล่ะกัน”


     



    เวลาผ่านไปครู่ใหญ่คิบอมก็เดินออกมาจากห้องน้ำไปยังตู้เสื้อผ้า ไม่ได้เหลือบมองคนที่กำลังเก็บกวาดห้องอยู่แม้แต่น้อย จน
    ดงเฮหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก เพราะตอนนี้เขากำลังสับสนอยู่ ไม่อยากให้คิบอมมาหาเรื่อง


    ชั่วครู่ร่างสูงก็แต่งตัวเสร็จ ดงเฮมองคนแต่งตัวจัดแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้วก็แปลกใจ


    “มึงจะไปไหน”


    “เป็นห่วง”คิบอมเลิกคิ้วถาม


    “อยากไปไหนก็ไปเหอะ”ว่าจบคนตัวเล็กก็มัดถุงดำที่ใส่ขยะไปวางหน้าห้อง


    “เอาไปทิ้งด้วย”


    “เอาหัวใจกูทิ้งไปด้วยหรือป่าว”
    ดงเฮสบตาคนถามแล้วก็รีบเดินหนีเข้าห้องน้ำ


    ก็ห้องมันแค่นี้จะให้หลบไปไหนได้


    คิบอมส่ายหัวให้กับคนชอบหนีความจริงแล้วก็เดินถือถุงขยะออกไปทิ้งเงียบๆ





    ด้านคยูฮยอนกับซีวอนที่เดินมึนๆออกมาจากห้องเพื่อนสนิทต่างพากันสบถยกใหญ่


    “ไอ้เชี่ยคิบอม ถ้าแมร่งสมหวังนะ กูจะหาผู้หญิงมาแกล้งมัน คอยดู”คยูฮยอนบอกอย่างหัวเสีย


    “นั่นดิ อุตส่าห์ช่วยแมร่งแท้ๆ เสือกไล่กูตั้งแต่เช้าเลย หงุดหงิดชะมัด”ซีวอนเองก็โวยวายไม่แพ้กัน มือใหญ่จัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าทรง ถึงแม้จะเมาก็จะไม่ยอมให้ภาพลักษณ์เสียหายเป็นอันขาด


    “เชี่ย ถ้ากูเจอฮยอกแจสภาพนี้ น้องงอนก็แน่ๆ”คยูฮยอนมองคนพูดแบบสงสัย


    “เมื่อวานมึงไปไหนมา”


    “ไปเรียนกับฮยอกแจไง”


    “ตอนเย็นคิบอมมันไปรับดงเฮ มันบอกไม่เจอมึง”ซีวอนมองคยูฮยอนเพียงครู่แล้วก็เบือนหน้าไปทางอื่น


    “กูไปทำธุระหลังจากนั้นนิดหน่อย”


    “ธุระ
    ?


    “อื้ม ไม่ต้องรู้หรอก”คนตัวสูงพูดอย่างไม่ใส่ใจอะไร แต่มันยิ่งกลับทำให้คยูฮยอนสงสัย


    “อ้าว ซีวอน”เสียงทักจากด้านซ้ายทำให้คนที่รีบเดินกลับไปยังห้องพักตนชะงัก


    “พี่ฮีชอล มาทำอะไรแถวนี้ครับ”ฮีชอลชูถุงโจ๊กให้ร่างสูงดู ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆ


    “เอาอาหารมาส่งอีทึกน่ะ”


    “พี่อีทึกไม่สบายเหรอครับ”ฮีชอลพยักหน้า


    “อื้ม เห็นว่าอาการไม่ค่อยดี คังอินก็ไม่อยู่ดันกลับบ้านไปเมื่อคืน”


    “งั้นเดี๋ยวผมเดินไปส่ง”


    “ไม่ต้องๆ หออีทึกอยู่แค่นี้เอง ฉันไปเองได้”ฮีชอลรีบส่ายหน้า พรางชี้ไปยังหอที่ซีวอนกับคยูฮยอนเพิ่งเดินออกมา


    “งั้นฉันไปแล้วนะ รีบไปอาบน้ำกันซะละ กลิ่นหึ่งเชียว”ร่างบางยิ้ม พรางบอกมือลาทั้งสองคน


    คยูฮยอนมองซีวอนที่มองตามไปแล้วกระทุ้งสอกใส่แขนแกร่ง


    “มึงไปรู้จักพี่เขาได้ไง”


    “ก็ตอนไปชวนพี่คังอินเข้าชมรมไง”


    “ไม่ใช่ว่าจะจีบเขาหรอกนะ”


    “พูดเชี่ยไรมึง กูมีแฟนอยู่แล้วนะ”


    “แล้วใครล่ะ ทิ้งฮยอกแจอยู่คนเดียวเมื่อวาน”ซีวอนมองหน้าคยูฮยอนแล้วก็นิ่ง


    ก็จริงอย่างที่คยูฮยอนพูด ทั้งๆที่สัญญาว่าจะไปนั่งเรียน ไปรับหลังเลิกเรียน แต่เขากลับคลุกตัวอยู่กับพี่ฮีชอล


    ซีวอน มึงกำลังทำอะไรอยู่


     

    “ฮยอกแจ แกดูอะไรอยู่”ซองมินร้องเรียกคนที่หลบมายืนอยู่ข้างตู้โทรศัพท์ช้าๆ


    “พี่ซีวอน”ได้ยินเช่นนั้นซองมินก็ชะเง้อหน้าดูบางจึงเห็นร่างสูงทั้งสองกำลังคุยกับใครบางคนอยู่


    “เข้าไปทักสิ”


    “ฉัน..ฉันกลัว”


    “กลัวอะไร”มือขาวแตะไหล่เล็ก พรางดึงอีกคนให้หันมามองหน้ากัน ตอนนั้นซองมินจึงได้รู้ว่าฮยอกแจกำลังจะร้องไห้


    “กลัวพี่ซีวอนรักผู้ชายคนนั้น”ซองมินส่ายหน้า พรางยีหัวเพื่อนรัก


    “ฟุ้งซ่าน พี่ซีวอนรักแกจะตาย อีกอย่างฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าพี่ฮีชอลมีแฟนแล้ว”


    “แต่เมื่อวานพี่เขาก็หายไป โทรไปก็ไม่ติด แถมยังไปอยู่กับพี่ฮีชอลอีก”


    “ลองถามพี่ซีวอนดูสิ ถ้าแกไม่มั่นใจ”ฮยอกแจส่ายหน้า


    “ฉันไม่อยากให้พี่เขาคิดมาก”


    “เฮ้อ ฉันไม่น่าชวนแกออกมาหาอะไรกินเลย”ซองมินมองเพื่อนรักแล้วก็ถอนหายใจ



    ผู้ชายกลุ่มนี้มันก็นิสัยอย่างนี้กันทั้งนั้นใช่ไหม
    ?







    คิบอมหายออกไปจากห้องราวสิบกว่าชั่วโมงแล้ว ดงเฮได้แต่บ่นอยู่ในใจ จวบจนกระทั่งเสียงกึกกักที่ดังมาจากหน้าห้องทำให้ร่างบางหันไปมอง ประตูไม้ถูกเปิดออกมาด้วยมือของคนที่ไม่ใช่เจ้าของห้องอีกคน แต่กับเป็นแฟนของคิบอม


    “ขอโทษทีนะ ที่ต้องเข้ามาแบบนี้ แต่คิบอมเมาน่ะ”หญิงสาวเอ่ยบอกก็จะพยุงชายคนรักของตนวางลงกับเตียง


    “คิบอม..ไปเที่ยวกับเธอมาหรอ”ยุนอาพยักหน้า


    “ใช่ แล้วเมื่อเย็นเขาดื่มหนักไปหน่อย จะพากลับไปหอฉันก็ไม่ได้ เลยต้องพามานี่”


    “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันดูต่อให้เอง เธอกลับไปเหอะ มันดึกแล้ว”


    “แต่ฉันว่านายไปพักเหอะ ฉันดูแลเขาได้”ดงเฮขมวดคิ้ว


    “ขอโทษนะ แต่หอนี้มันปิดห้าทุ่มตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว ถ้าเธอไม่รีบกลับไปฉันเกรงว่าเธอจะออกไปไม่ได้”


    “ไม่เป็นไร ฉันขอนอนห้องนายก็ได้”ดงเฮทำหน้าหน่ายใส่ผู้หญิงช่างตื้อ จะอยู่ให้ได้เลยรึไง


    “ถ้าไม่กลัวฉันละเมอเตะบอลตอนกลางคืนก็ไม่ว่ากัน”ดงเฮยักไหล่ นั่งลงที่พื้นดูทีวีที่กำลังถ่ายทอดสดฟุตบอลนัดสำคัญต่อไป ไม่ได้สนใจเลยว่ามีผู้หญิงอีกคนกำลังนั่งลังเลอยู่ด้านหลัง


    ผ่านไปซักพักยุนอาเห็นดงเฮเชียร์บอลอย่างกับเชียร์มวยแล้วก็เริ่มตัดสินใจได้ในทันที หญิงสาวเดินไปคว้ากระเป๋าตัวเองมองคนที่นอนไม่ได้สติอยู่เพียงครู่ แล้วเดินไปหาคนที่นั่งอยู่หน้าทีวี


    “ฉันกลับก่อนนะ ฝากดูแลเขาต่อด้วย”ดงเฮพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ


    “ออกไปแล้วล็อคห้องให้ด้วยนะ”ยุนอามองคนที่ยังไม่ละสายตาจากจอทีวีแล้วเหลือบมองคนบนเตียงอีกชั่วครู่ก่อนจะเดินออกไป


    ดงเฮนั่งนิ่งอยู่หน้าทีวีอยู่พักใหญ่ ความสนใจในจอเริ่มลดลงเมื่อผู้หญิงคนนั้นออกไปหรือจะพูดให้ถูกคือตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในห้องก็เป็นได้ ร่างบางเดินไปหยุดข้างเตียงนิ่ง มองคนที่ยังนอนสลบไม่ได้สติแล้วก็ส่ายหน้า เดินไปหยิบถังน้ำกับผ้าสะอาดมาเช็ดตัวร่างสูง


    มือเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มออกช้าๆ พรางโยนมันไปวางอีกฝั่งของเตียง ใช้ผ้าสะอาดเช็ดไล่ตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ ท่อนแขนใหญ่ ยันถึงแผ่นอกกว้างที่ไม่ว่าจะได้เห็นกี่ครั้งก็รู้สึกวาบหวิวในใจ


    มือใหญ่จับมือนิ่มที่กำลังเช็ดอกตัวเองแน่น ก่อนเปลือกตาหนาจะค่อยๆเปิดออก
    ดงเฮมองคนที่เพิ่งตื่นนิ่ง


    “แดกเหล้าแล้วลำบากกูนะมึงอ่ะ”คิบอมไม่ได้สนใจเสียงบ่นของดงเฮ มือหนากระตุกดึงอีกคนให้เข้ามาใกล้จนร่างบางลงไปนอนอยู่บนร่าง


    “ไอ้เชี่ย ทำไรของมึงเนี้ย”มือเล็กพยายามจะดันตัวเองออกแต่อีกคนกลับฝืนไว้ พร้อมทั้งพลิกกายทาบทับร่างบางจนดงเฮตกใจ


    “คิบอม กูไม่เล่นนะ”หน้าหวานตื่นตระหนก พยายามผลักอีกคนให้ลุกออกจากร่างกายตน


    “ใครบอกว่ากูเล่น”คิบอมตอบเสียงเรียบ ดงเฮฟังถ้อยคำนั้นแล้วก็อ้าปากค้างด้วยความมึนงง กว่าจะรับรู้อีกทีก็เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวแนบประกบลงบนริมฝีปากของตัวเอง ดงเฮเบิกตากว้างมองใบหน้าของตนที่สะท้อนอยู่ในนัยต์ตาสีเข้มของอีกคนแล้วหัวใจเต้นแรง คิบอมหยอกเย้าดงเฮอย่างลึกซึ้งและอ่อนโยน ตักตวงรสชาติความหวานจากริมฝีปากอ่อนนุ่มของอีกคนจนพอใจแล้วก็ผละออก ลมหายใจอุ่นร้อนคลอเคลียอยู่บริเวณซอกคอขาว ดงเฮเงยคอขึ้นให้อีกคนสูดดมอย่างไม่ได้สติ จนกระทั่งริมฝีปากร้อนชื้นประทับจูบลงบนลำคอขาว ดงเฮถึงได้สะดุ้ง


    “ปล่อยนะ”มือเรียวดันหน้าอกกว้างให้ออกห่าง แต่แรงของดงเฮยังไงก็ไม่มีทางสู้แรงของคิบอมได้ หน้าเข้มยังคงซุกไซ้อยู่บริเวณซอกคอขาว มือหนาสอดเข้าไปในเสื้อยืดสีสว่างช้าๆ


    “คิบอมปล่อยกูนะ ปล่อย”ร่างเล็กดิ้นไปมาอยู่บนเตียง พยายามจับมือที่ลูบไล้ร่างกายตนให้ออกห่าง แต่ว่าไม่สำเร็จ ชั่วครู่คิบอมก็ถอดเสื้อดงเฮออกไป คนหน้าหวานหน้าแดงกล่ำ ดวงตาสีน้ำตาเริ่มคลอไปด้วยน้ำตา


    ดงเฮกำลังกลัว กำลังกลัวคิบอมคนนี้


    มือใหญ่สัมผัสผิวเนียนลื่นมือแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มรู้สึกได้ว่าร่างของคนที่นอนใต้ร่างกำลังสั่น และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาดูคิบอมก็ต้องตกใจ เมื่อต้องตกใกกดดดเห็นว่าดงเฮกำลังร้องไห้


    “ดงเฮ”


    “อย่ามาเรียกกู กูเกลียดมึง”เสียงหวานตวาดใส่คนบนร่างเสียงดัง น้ำตาที่คลออยู่เมื่อครู่ไหลออกมาจนเปรอะหน้าเนียน คิบอมที่มองอยู่รู้สึกสงสารจับใจ แล้วขยับร่างออกมานั่งข้างๆกัน


    ดงเฮรีบลุกขึ้นนั่งมือเรียวสวมเสื้อยืดตัวเดิมของตัวเอง พรางพาตัวเองไปที่ประตู หากแต่อ้อมแขนแกร่งโอบกอดอีกคนไว้จากทางด้านหลัง


    “อย่าไป..”


    “ปล่อยกูนะ กูเกลียดมึง เกลียดความรักของมึง เลิกยัดเยียดความรักของมึงให้กูซักที”ดงเฮสลัดแขนใหญ่ให้ออกจากเอวของตัวเอง


    “อย่าไปกูขอร้อง เดี๋ยวกูไปเอง”พูดจบคิบอมก็ค่อยๆคลายอ้อมกอดออก พรางเดินออกจากห้องไปเงียบๆ ดงเฮทรุดตัวนั่งลงกับพื้นร้องไห้เสียงดังจนคนที่ยังเดินออกไปไม่ไกลยังได้ยิน


    หากคำว่ารักของมึงต้องทำร้ายจิตใจกูขนาดนี้ อย่ารักกูเลย คิบอม





    เช้าวันรุ่งขึ้นซองมินที่รีบเข้ามหาลัยมาอ่านหนังสือในห้องสมุดมองเพื่อนรักทั้งสองคนอย่างแปลกใจ ดงเฮกำลังเหม่อลอยสายตาหยุดที่หนังสือหน้านั้นอยู่ราวครึ่งชั่วโมง ส่วนฮยอกแจก็ไม่ต่างถึงวันนี้พี่ซีวอนจะมารับเพื่อนตัวผอมของเขาแต่เช้าและพาไปกินข้าวด้วยกัน แต่ฮยอกแจก็ยังคงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่ดี


    ซองมินปิดหนังสือที่กำลังอ่านนิ่ง มองหน้าทั้งสองคนแล้วก็ถอนหายใจ


    “เลิกเป็นแบบนี้กันซักทีได้ไหม”เสียงหวานที่อยู่ๆก็พูดขึ้นทำเอาฮยอกแจกับดงเฮตกใจ


    “เสียงดังทำไมซองมิน นี่ห้องสมุดนะ”


    “นั่นสิ ตกใจหมดเลย”ซองมินอยากจะตบหน้าผากตัวเองแรงๆซักทีสองที


    “ฉันไม่ได้เสียงดังซะหน่อย พวกนายต่างหากที่เอาแต่เหม่อ บอกมานะ ว่าเป็นอะไรกัน”ดงเฮกับฮยอกแจต่างพากันหลบหน้าไปคนละทาง


    “เรื่องฮยอกแจฉันพอเข้าใจว่ามันคงเป็นเรื่องพี่ซีวอน แล้วนายล่ะดงเฮทะเลาะอะไรกับพี่คิบอมอีก”


    “...”


    “คิบอมสนใจผู้หญิงคนนั้นมากกว่านายอีกแล้วหรอ”


    “...”


    “ดงเฮ”


    “ขอโทษนะ ซองมิน แต่ฉันไม่อยากพูดถึงหมอนั่น ฉันกลับก่อนนะ”มือเรียวรวบหนังสือของตนเองที่กองอยู่บนโต๊ะเข้าสู่อ้อมกอด แล้วคว้ากระเป๋าเดินออกไป จนซองมินกับฮยอกแจที่รอฟังคำตอบอยู่อ้าปากค้าง


    “ท่าทางจะโกรธกันรุนแรงน่าดู”


    “นั่นสิ แล้วแกล่ะ ยังคิดมากเรื่องพี่ซีวอนอยู่อีกหรอ”ตาเรียวเล็กมองหน้าเพื่อนสนิทแล้วพยักหน้า


    “ถ้าเป็นฉันฉันจะเปิดอกคุย”


    “ฉันไม่ใช่นายนะ ซองมิน”


    “คุยอะไรกันอยู่ครับ”คนที่ถูกเอ่ยถึงเดินเข้ามาที่โต๊ะของทั้งสองคนเงียบๆ


    “ตกใจหมดเลย พี่ซีวอน”ฮยอกแจเอามือทาบอก ร่างสูงมองท่าทางนั่นแล้วก็ยีผมร่างบางเล่น


    “พี่ขอโทษ ว่าแต่ดงเฮไปไหนแล้วล่ะ”ซีวอนเอ่ยถามอย่างสงสัย พรางทิ้งตัวนั่งข้างฮยอกแจ


    “กลับหอไปแล้วฮะ สงสัยจะทะเลาะกับพี่คิบอมอีกแล้ว”


    “พี่ซีวอนรู้ไหมว่าสองคนนั่นทะเลาะอะไรกัน”หน้าหล่อส่ายหน้าไปมา พรางเอ่ย


    “ไม่รู้สิ แต่วันนี้พี่ยังไม่เจอคิบอมเหมือนกัน”ซองมินถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วส่ายหน้า ลงมือเปิดหนังสือเล่มเดิมอีกครั้ง


    “แล้วพี่ซีวอนไม่มีเรียนหรอฮะ”ฮยอกแจมองร่างสูงที่กำลังสนใจโทรศัพท์ในมือนิ่ง


    “ไม่มีครับ วันนี้พี่ว่างอยู่กับเราทั้งวันเลยล่ะ”ฮยอกแจยิ้มหวาน มองหน้าซีวอนที่มองตนกลับมาเช่นกันแล้วก็รู้สึกดีใจ


    พี่ซีวอนคนเดิมของฮยอกกลับมาแล้ว


     


    ผ่านไปซักพักใหญ่ซีวอนที่นั่งรอฮยอกแจกับซองมินจนเผลอหลับไปก็ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย มองหนุ่มหน้าหวานที่ยังสนใจบทเรียนแล้วก็เหลือบมองไปรอบๆตัว สายตาคมหยุดลงทันทีที่เห็นคนรู้จักนั่งอยู่ไม่ไกลกันนัก


    “เอ่อ เดี๋ยวพี่มานะ”


    “ไปไหนฮะ”ฮยอกแจร้องถามอย่างสงสัย


    “ไปหาเพื่อนน่ะ เดี๋ยวพี่มา”ฮยอกแจพยักหน้า มองร่างสูงที่เดินไปแล้วพลันเหลือบเห็นคนหน้าสวยที่นั่งอยู่ไม่ไกลกันนักกำลังนั่งคุยกับเพื่อนอยู่



    หรือว่า..พี่ซีวอนจะไปหาเขา




    และก็เป็นอย่างที่ฮยอกแจคิด ซีวอนเดินเข้าไปทักทายฮีชอลกับอีทึกที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่



    เจ็บอีกแล้ว...ฮยอกแจ

     



    “นั่งทำไรกันอยู่ครับ”ซีวอนร้องทักรุ่นพี่ทั้งสองคนเบาๆ


    “อ้าว ซีวอนมาทำไรเนี่ย นั่งก่อนสิ”อีทึกเห็นหน้าหล่อของรุ่นน้องแล้วก็ยิ้มกว้าง


    “ผมแวะมาติวหนังสือกับพวกรุ่นน้องน่ะครับ แล้วพวกพี่ล่ะ”


    “พวกเรามารอเวลาเรียนน่ะ”ฮีชอลเอ่ยบอกยิ้มๆ ซีวอนพยักหน้ามองหน้าหวานของฮีชอลนิ่ง จนอีกคนสงสัย


    “มองอะไร หน้าฉันมีอะไรติดหรอ”เสียงหวานเหมือนผู้หญิงถามซีวอนอย่างสงสัย ก่อนประโยคหลังจะหันพูดกับอีทึก


    “ป่าวครับ งั้นผมไม่กวนพวกพี่ล่ะ ไว้ค่อยคุยกัน”


    “เดี๋ยวซีวอน”ฮีชอลร้องเรียกร่างสูงไว้


    “ครับ
    ?


    “มีอะไรติดผมอ่ะ”ฮีชอลใช้นิ้วชี้ไปที่เส้นผมตัวเองให้ซีวอนดู ซึ่งคนตัวสูงก็ลูบไม่ถูกจุดซะที เส้นด้ายขาวๆยังคงติดอยู่ที่ผมของคนตัวสูง
    จนอีทึกรำคาญ


    “นายก็เอาออกให้ซีวอนสิ”


    “จะดีหรอ”ฮีชอลร้องถาม เขากับร่างสูงเพิ่งรู้จักกันไม่นาน จะให้ไปจับหัวก็ยังไงอยู่


    “นายไม่ถือใช่ไหม”อีทึกร้องถามคนตัวสูง ซีวอนส่ายหน้า


    “งั้นก็ได้”ฮีชอลลุกจากเก้าอี้ เขย่งปลายเท้าขึ้นพรางหยิบเส้นด้ายเจ้าปัญหาออก


    “แค่นี้แหละ”อีทึกบอกอย่างไม่ใส่ใจ ต่างกับซีวอนและฮีชอลที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าทั้งคู่อยู่ใกล้กันจนเกินไปจึงรีบผละออกจากกัน  ฮีชอลเดินไปนั่งที่เดิม เหมือนซีวอนก็รีบขอตัวกลับไปที่โต๊ะเช่นกัน



    ภาพเมื่อครู่ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มันทำให้คนที่มองรู้สึกปวดใจยิ่งนัก สายตาคู่แรกมองด้วยความรู้สึกตัดพ้อ ต่างจากคู่หลังที่ดวงตากำลังลุกเป็นไฟ



    “ฮีชอล”เสียงทุ้มของคนที่เพิ่งเดินมาถึงร้องเรียกร่างบาง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งตรงข้าม


    “มาช้าจัง”


    “ใช่ๆ นายมัวไปไหนมา ฮันกยอง ปล่อยให้ฮีชอลรอมากๆ ไม่กลัวมีคนมาจีบแฟนนายหรือไง”อีทึกแซวยิ้มๆ ซึ่งฮีชอลก็ขำไปด้วยต่างจากฮันกยองที่กำลังหน้าดำเขียวอย่างโมโห


    “หงุดหงิดอะไร”ฮีชอลเอ่ยถามอย่างสงสัย นิ้วเรียวจิ้มลงบนคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันเป็นปมให้คลายออก มือเข้มจับมือนิ่มเบาๆ พรางดึงมาไว้กับตัว


    “อย่าเลิกรักกันนะ”หน้าหวานแดงซ่านเมื่อได้ยินประโยคนั้น ฮีชอลพยักหน้ายิ้ม จนอีทึกที่นั่งอยู่ข้างๆอดไม่ไหวจนต้องแซวออกมาให้ฮีชอลอายเล่น ซึ่งฮีชอลก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร นอกจากได้แต่นั่งก้มซ่อนหน้าแดงๆของตน


    ฉันจะไม่มีทางยอมให้ใครแย่งนายไปแน่ ฮีชอล





    TBC




    CRY.q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×