love dangerous รักอันตรายของวายร้ายอัฉริยะ - นิยาย love dangerous รักอันตรายของวายร้ายอัฉริยะ : Dek-D.com - Writer
×

    love dangerous รักอันตรายของวายร้ายอัฉริยะ

    เมื่อคดีการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักเรียนมัธยมปลายทั้ง 10 คน ยอดอัฉริยะอย่างเธอต้องโคจรมาพบกับหัวกะทิสุดซ่าอย่างเขา เพื่อปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ

    ผู้เข้าชมรวม

    587

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    587

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    -1
    จำนวนตอน :  9 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  11 ก.พ. 55 / 00:52 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ
    ณ โรงเรียนมัธยมปลายเซนซารี่ 
    ก๊อกๆๆๆ
    เชิญ
                เสียงของผู้อำนวยการหญิงเอ่ยขึ้นเพื่อต้อนรับผู้มาเยือน เด็กสาวที่แต่งชุดนักเรียนถูกระเบียบเรียบร้อย ที่แขนซ้ายมีป้ายระบุถึงตำแหน่งของเธอ ใช่แล้วเธอก็คือประธานนักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายเซนซารี่
     
    ผู้อำนวยการให้คนเรียกดิฉันมาพบ มีเรื่องอะไรค่ะ

    ฉันอยากรู้เรื่องที่เด็กในโรงเรียนของเราถูกพวกของโรงเรียนเซนวิลลิ
    สทำร้าย

    ค่ะ จากปากของเขา เขาบอกว่าขณะที่กำลังเดินทางกลับจากโรงเรียนมีกลุ่มนักเรียนของเซนวิลลิสเข้ามาหาเรื่องเขาพยายามพูดไกล่เกลี่ยแล้วแต่พวกนั้นไม่ยอมฟังที่เขาพูดและเข้ามารุมทำร้ายเขาจนบาทเจ็บค่ะ

      เป็นปัญหาจริงๆ โรงเรียนนี้ ในการประชุมของเดือนนี้ฉันจะเสนอให้ยุบโรงเรียนนั้นทั้งไปซะจะได้หมดปัญหา ขอบใจมากเธอไปได้แล้ว

    ค่ะ

                 หลังจากที่เด็กสาวออกไปจากห้อง ผู้อำนวยการสาวก็กระตุกยิ้มด้วนความพอใจในเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้

    หึหึหึ ใกล้จะเป็นจริงแล้วสินะความฝันของฉัน

     
    ณ โรงเรียนมัธยมปลายเซนวิลลิส

    ห้องประชุมกรรมการนักเรียน
     

    ตึง

                 เสียงดังก้องกังวานไปทั่วห้องเกิดจากชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีดำสนิททุบโต๊ะด้วยอาการอารมณ์เสียสุดขีดเขาคือ เรย์ ประธานนักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายเซนวิลลิส

    หาตัวคนที่ทำร้ายเด็กของเซนซารี่ให้เจอให้เร็วที่สุด  

    พวกเราพยายามแล้วค่ะ แต่ก็ไม่พบแม้แต่ผู้ต้องสงสัยเพราะทุกคนมีพยานยืนยันที่อยู่กันหมด จะทำยังไงกันดีค่ะประธาน  

                  สมาชิกสภานักเรียนคนอื่นพูดขึ้นอย่างจนปัญญา

    ปิ๊บๆๆ

                   ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามา
    เขาอ่านข้อความในโทรศัพท์มือถืออยู่พักหนึ่ง
     พร้อมกับเผยใบหน้าสังสัย

    ปิดการประชุมแค่นี้

                  เขารีบรุดออกไปในทันทีที่พูดจบสร้างความสงสัยให้แก่บรรดากรรมการนักเรียนทุกคนอย่างยิ่ง และจุดมุ่งหมายของเขาคือ สนามบิน

    19.30 น. สนามบินประเทศไทย

    Ray
    s Talk

                   ผมเดินวนไปวนมาอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงได้แล้ว อยู่ๆน้องสาวของผมที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีก็ส่งข้อความมาบอกว่าให้มารับเธอที่
    สนามบิน เกิดอะไรขึ้นมาถึงได้กลับมาแบบไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้าแบบนี้

    พี่เรร์

    เธอทำอะไรของเธอ ทำไมถึงมาได้ช้านัก

    เค้าหิวข้าวแล้วพาไปหาของกินหน่อยสิ

    เฮ้อ ให้มันได้ยังงี้สิ

                   หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็พายัยมิเนอร์วากลับบ้านแล้วยัยนั้นก็รีบขึ้นไปนอนบนห้องทั้นทีถึงว่าทำไมไม่พูดมาจาที่แท้ก็อยากนอน ยัยมิเนอร์วาเค้ามีโรคประจำตัวแปลกๆคือถ้าวันไหนนอนไม่พอก็จะเงียบไม่พูดไม่จาแบบนี้แหละ แต่ผมว่ามันดีออกเพราะยัยนั้นชอบพูดจาจุกจิกจู้จี้น่ารำคาญเงียบๆแบบนี้แหละดีแล้ว
     อืม มารู้จึกกับน้องสาวของผมดีกว่า มิเนอร์วาเป็นน้องสาวแท้ๆของผมเองเราสองคนอายุห่างกัน 1 ปีเท่านั้น หลังจากที่พ่อแม่ของพวกเราแยกทางกันมิเนอร์วาก็ต้องไปอยู่ต่างประเทศกับแม่ตั้งแต่ที่ผมอายุได้ 10 ปี หลังจากนั้นเราสองคนก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เพียงแต่จะติดต่อกันทางอีเมลล์นานๆครั้งเท่านั้น แล้วอะไรเป็นเหตุผลที่ให้น้องสาวคนนี้ของผมกลับมาผมเองก็ยังเดาไม่ได้เช่นกัน

    เช้าวันต่อมา

    Minerwas Talk

             
    ฉันชื่อมิเนอร์วา อายุ 17 ปี ที่ฉันกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ก็เพื่อที่จะมาพักร้อนใช้วันหยุดที่ 10 ปี มีหนให้คุ้มซะหน่อยหลังจากตรากตรำทำ
    งานมาแรมปี อ่าฮะ อยากรู้ละซิ้ว่างานอะไร แต่ว่าขออุบไว้ก่อนจะดีกว่านะ

    โอย เช้าแล้วเหรอเนี่ย ได้นอนเต็มอิ่มแล้วมันอารมณ์ดีจริงๆ

                 เมื่อฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินลงมาชั้นล่างเพื่อหาข้าวกินซะหน่อยตอนนี้ก็
    10 โมงแล้วหิวข้าวสุดๆเลย ว่าแต่พี่เรร์ไปโรงเรียนแต่เช้าจังเลยแฮะ( 10 โมงแล้ว เช้าบ้านแกอะดิ) กินข้าวเสร็จแล้ววันนี้จะทำอะไรดีน้า ไป ช็อปปิ้งซะหน่อยดีกว่าไม่ได้มีเวลาจะไปช็อปปิ้งตั้งนานแล้ว

                 ฉันเดินช็อปปิ้งอยู่
    3 ชั่วโมงก็เริ่มเมื่อย ( พึ่งจะเริ่มเหรอ )จึงไปนั่งพักกินไอศกรีมจากนั้นก็ต่อด้วยดูหนังวันนี้สนุกจริงๆเลย อยู่อเมริกาหัวหน้าใช้งานชนิดว่าไม่ได้เหลือเวลามาเดินช็อปปิ้งเลยทีเดียวอันที่จริงก็ไม่ได้เยอะนักหรอกแต่ส่วนมากมันจะต้องใช้สมองซึ่งมันเหนื่อยกว่าการใช้กำลังเยอะแล้วเพื่อนๆร่วมทีมของฉันส่วนมากพวกเขาก็ถนัดใช้กำลังซะด้วยงานที่ใช้สมองทั้งหลายแหล่ก็เลยตกมาเป็นของฉัน 

                  อ้าว
    5 โมงเย็นแล้วเหรอเนี่ยงั้นวันนี้กลับบ้านเลยก็แล้วกัน ฉันเรียกรถแท็กซี่เพื่อนั่งกลับบ้านแต่ก็ต้องลงแค่หน้าปากซอยเพราะรถแท็กซี่เจ้ากรรมดันน้ำมันหมดซะงั้นและหารู้ไม่ว่าบ้านของฉันมันอยู่ท้ายซอยนู่นเห็นอย่างนี้แต่ซอยบ้านฉันน่ะมันยาวโครตๆเลยตายแน่ฉัน หลังจากที่เดิน
    มาได้ซักพักฉันก็ได้ยินเสียงของใครบางคนดังมาจากด้านหลัง 

    เฮ้ย มันอยู่นั้นจับมันให้ได้

    โครมมมมม

                 โอ๊ยใครฟระ วิ่งชนมาได้ไม่ดูตาม้าตาไททานิกเลยมันเจ็บนะ คิดไปคิดมาพึ่งนึกได้ว่าตอนนี้ฉันกำลังโดนไอ้พวกอันตพาลที่ไหนก็ไม่รู้มายืนล้อมอยู่ อันที่จริงพวกมันไม่ได้ล้อมฉันหรอกแต่พวกมันล้อมไอ้คนที่วิ่งชนฉันต่างหากแต่ยังไงก็ยังมีค่าเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

    น้องสาว สนใจจะไปเที่ยวกับพี่ไหมจ๊ะ  

                  เอาแล้วไงละ เฮ้อเซ็งจริงๆ ฉันละโครตจะเกลียดประโยคนี้เลย

    เธอรีบหนีไปซะเร็วเข้า ตอนนี้อาจจะยังพอหนีได้

                  ชิส์ๆ ทำเป็นเท่ไปได้กะจะทำตัวแบบพวกพระเอกหนังหรือไงแต่ฉันอยากจะบอกอะไรให้นะ ถ้าไอ้พวกนั้นมันได้ยินขึ้นมานายอาจจะไม่มีชีวิตที่จะได้อยู่เท่ต่อไปนะจะบอกให้
     

    แกกระซิบอะไรกับน้องสาวคนนั้นน่ะห๊า

                  เอาเข้าแล้วไงล่ะ ฉันเคยบอกใครหรือยังว่าฉันน่ะแช่งคนแม่นมากเลย แช่งใครทีไรเป็นจริงทุกที ไม่มีการพูดพร่ำกันอีกต่อไปพวกนั้นก็เริ่มตะลุมบอนกันทันที แต่จะพูดว่าตะลุมบอนก็ไม่ได้แฮะต้องพูดว่ายกพวกรุมถึงจะถูก เอ๊ะทำไมฉันถึงรู้สึกว่าชุดนักเรียนที่ไอ้พวกนั้นใส่มันคุ้นๆตายังไงไม่รู้ ขอนึกก่อนนะ......เอ่อ.......อ้อคิดออกแล้วชุดนักเรียนที่ไอ้พวกนั้นใส่มันเป็นแบบเดียวกันกับของพี่เรร์นี่ งั้นขอเก็บรูปไว้ก่อนแล้วกัน ฉันนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปด้วยอาการเนียนๆ แต่จะว่าไปแล้วหมอนี่ก็เก่งเหมือนกันนะทั้งที่ถูกรุมแต่ก็ยังสู้ได้แต่ก็คงจะอยู่ได้ไม่นาน เจ้าพากนั้นก็ดูท่าทางจะไม่มีสมองซักเท่าไร งั้นขอใช้มุกเดียวกันกับที่พวกนางเอกในละครน้ำเน่าเขาใช้แล้วกันนะ 

    ตำรวจค๊าๆ มาทางนี้หน่อยค่ะ มีคนถูกทำร้าย  

                  แค่นั้นแหละไม่ต้องให้พูดซ้ำหลายรอบไอ้พวกนั้นมันก็วิ่งแจ้นไปเลย ว่าแต่หมอนี่ตายหรือยังเนี่ยแล้วฉันจะเรียนรถพยาบาลหรือว่ารถเก็บศพดีล่ะ

    นี่นายๆ ตายหรือยังเนี่ย  

    ฉันยังไม่ตายหรอกน่า  

    งั้นรอนี่แปบเดี๋ยวมา

    10 นาที ผ่านไป 

    อ๊ากกกกก  

    จะร้องทำไมเนี่ย ฉันหนวกหู

                 ให้เดาว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ ฉันกำลังทำแผลให้หมอนี่อยู่น่ะก็นะพอเห็นสภาพของเขาแล้วจิตใต้สำนึกส่วนดี ( ขอย้ำว่าเป็นส่วนที่มีอยู่น้อยนิด ) ของฉันมันบอกให้ช่วยนี่นา ก็จะทิ้งเอาไว้อย่างนี้มันก็เหมือนกับใจดำ

    นี่เธอใช้มือหรือเท้าทำกัน

    ใช้มือแต่ถ้านายยังไม่เงียบฉันจะใช้เท้าทำให้

    อย่าได้ไปเที่ยวทำแผลให้ใครอีกเลยเถอะ

    เอ้า เสร็จแล้วฉันไปล่ะ

    เฮ้ย เดี๋ยวๆแล้วเธอชื่ออะไรล่ะ

    มิเนอร์วา ฉันชื่อ มิเนอร์วา  

    ฉันชื่อ เซอันซ์

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น