อีสเตอร์ (Easter) หมายถึง การระลึกถึงการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์ หรือวันคืนพระชนม์ เข้าใจว่าอีสเตอร์มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณ คือคำว่า Eastre ซึ่งเป็นชื่อเทพธิดาของฤดูใบไม้ผลิ ผู้รู้บางท่าน กล่าวว่าอาจมาจากภาษาเยอรมันโบราณ คือ คำว่า Eostarun ซึ่งแปลว่ารุ่งอรุณ
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้นำเอาชื่อเทพธิดาฤดูใบไม้ผลิต Eastre หรือคำว่ารุ่งอรุณ Eostarun ของภาษาเยอรมันมาดัดแปลงเป็นภาษาอังกฤษว่า Easter เพื่อใช้เรียกวันคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์
นักวิชาการบางท่านได้ให้ข้อคิดว่า การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับฤดูใบไม้ผลิตอย่างน้อย 2 ประการ
ประการ แรก วันอีสเตอร์อยู่ในช่วงเกี่ยวกับฤดูใบไม้ผลิต คือระหว่างเดือนมีนา และเมษายน
ประการที่สอง ฤดูใบไม้ผลิตเป็นสัญญาลักษณ์ของชีวิตใหม่ เพราะระหว่างฤดูหนาวที่หิมะตก หรืออากาศหนาวเย็น ต้นไม้ส่วนใหญ่จะไม่มีใบ มีลักษณะเหมือนตายไปแล้ว แต่เมื่อฤดูใบไม้ผลิตมาถึง ต้นไม้ที่ดูเหมือนตายไปแล้วก็ผลิใบ จึงอาจเป็นสาเหตุที่ใช้คำว่า Easter สำหรับวันฟื้นคืนพระชนม์
สัญญาลักษณ์ของวันอีสเตอร์ มักได้แก่ สิ่งที่สื่อความหมายถึงความสุข สมหวัง ชัยชนะ ความอบอุ่น ความสดใส ภาพที่ปรากฎบนการ์ดอวยพรในเทศกาลนี้ จึงเป็นภาพ
สวนดอกไม้ - ซึ่งสื่อความหมายถึง ความสุขสมหวัง
ผีเสื้อ - สื่อความหมายถึงชีวิตใหม่ เหมือนตัวดักแด้ที่ออกมาจากเปลือหุ้ม และโบยบินขึนสู่ท้องฟ้าอย่างอิสรเสรี คล้ายกับองค์พระเยซูคริสต์ที่สิ้นพระชนม์ และถูกเก็บไว้ในอุโมงค์ หลังจากนั้น 3 วัน จึงฟื้นคืนพระชนม์
กระต่าย - สื่อความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์
ไข่ - สื่อความหมายถึงความมีชีวิต
คำอวยพรในการ์ดสำหรับเทศกาลอีสเตอร์ สำหรับคริสตชน จะอวยพรกันในประโยคที่ว่า
"ขอให้พระพรแห่งการฟื้นคืนพระชนม์เป็นของคุณ" ของที่ระลึกสำหรับเทศกาลนี้ นิยมมอบช็อกโคเล็ดรูปไข่ หรือ ตุ๊กตาช็อคโกเล็ครูปกระต่าย ,ไข่ต้มย้อมสี หรือวัสดุรูปไข่ที่ประดิษฐ์ด้วยงานศิลป
สำหรับในปี 2005 นี้เทศกาลอีสเตอร์ตรงกับวันที่ 25-26-27 มีนาคม คริสตจักรต่าง ๆ จะเริ่มต้นเทศกาลนี้ด้วยการนมัสการพระเจ้าในค่ำคืนวันที่ 25 มีนาคม เพื่อระลึกถึงวันที่พระเยซูคริสต์ทรงสละชีวิตของพระองค์บนไม้กางเขนเพื่อความผิดบาปของเรา ซึ่งเราเรียกวันนี้ว่า
วันศุกร์ประเสริฐ หรือ
Good Fridayส่วนที่วันที่ 27 มีนาคม บางคริสตจักรมีการเฉลิมฉลองวันอีสเตอร์หรือวันฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ ด้วยการนมัสการพระเจ้าตั้งแต่เวลา 06.00 น. บางคริสตจักรก็จัดเฉลิมฉลองวันอีสเตอร์ในช่วงเวลานมัสการปกติ
ประเพณีซ่อนไข่ จัดขึ้นเพื่อความสนุกสนาน โดยนำไข่ที่จัดเตรียมไว้ซึ่งมักจะเป็นไข่ต้มที่ย้อมสีต่างๆ อย่างสวยงาม อาจจะวาดเป็นลวดลาย หรือประดิษฐ์เป็นงานศิลปแบบต่าง ๆ นำไปซ่อนไว้ตามบริเวณต่างๆ ของคริสตจักร และให้สมาชิกของคริสตจักรหาไข่เหล่านั้น บางคริสตจักรอาจจะมีรางวัลสำหรับผู้ที่หาไข่ได้มากอีกด้วย
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น