กลอนนิทานตำนานดอกไม้ - กลอนนิทานตำนานดอกไม้ นิยาย กลอนนิทานตำนานดอกไม้ : Dek-D.com - Writer

    กลอนนิทานตำนานดอกไม้

    คุณรู้จักทานตะวันมั้ย แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าทานตะวันมาจากไหนและใครกันที่กลายเป็นทานตะวัน

    ผู้เข้าชมรวม

    3,588

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    3.58K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 เม.ย. 49 / 10:48 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
               อันตำนานทานตะวันมีดังนี้
      ไคลธีคือชื่อของเจ้าหญิง

      เธอโฉมงามนามไพเราะเป็นอย่างยิ่ง

      แต่เธอนิ่งเก็บกดรันทดใจ

      ด้วยท่านพ่อพระราชาแสนจะโฉด

      กักขังลูกไว้ในโบสถ์ไม่ไปไหน

      ทิ้งเจ้าหญิงไคลธีเศร้าหทัย

      โดดเดียวใจน้ำตาไหลกับพันธนา

      ..................................................................................

      ..............................................................

      ในวันหนึ่งซึ่งปลอดนางข้าทาส

      ปราศจากท่านพ่อที่แลหา

      จึงหนีออกจากโบสถ์ด้วยปัญญา

      หนีออกมาหวังชมแสงดวงตะวัน

      อยากได้ยลแสงอรุณอันแรกแย้ม

      คงเจิดแจ่มแช่มช้อยให้คล้อยฝัน

      ดวงตะวันส่องได้อย่างไรกัน

      ช่างน่าขันฉันเจ้าหญิงไม่รู้เลย

      ........................................................................................

      .............................................................

      ในวันนี้ต้องรู้เสียให้ได้

      ตะวันฉายบ่ายส่องต้องเฉลย

      ต้องร้าวรานกร้านหทัยไม่เกรงเลย

      จึงนั่งเฉยกลางทุ่งมุ่งมองตะวัน

      ขณะนั้นเทพพอลโลควบม้าผ่าน

      ตะวันฉานผาดผ่องย่องมานั้น

      พระอาทิตย์มากับเทพหนุ่มคนนั้น

      ไคลธีนิ่งฝันกลับโบสถ์ไป

      ..........................................................

      .........................................................

      อรุณรุ่งทุกวันหนีออกมา

      ไคลธีโหยหาความรักใคร่

      หลงรักหนุ่มเทพพอลโลหมดจิตใจ

      โดนลงทัณฑ์อย่างไรใจยอมทน

      เจ้าเทพหนุ่มไม่รู้เลยมีใครรัก

      ผูกสมัครรักมั่นอย่างเปี่ยมล้น

      ไคลธีคอยความหวังอย่างอดทน

      คงจะมีสักหนหันมองกัน

      ...................................................................

      ..................................................................................................

      เจ้าหญิงหนีจากโบสถ์ตลอดกาล

      ด้วยดวงมาลย์ผูกจิตคิดใฝ่ฝัน

      เทพพอลโลควบม้าผ่านแสงตะวัน

      ไม่มีวันไหนเลยเคยมองมา

      เจ้าหญิงจึงตั้งสัตย์วาจามั่น

      แม้ตัวฉันมอดม้วยขอพรฟ้า

      ขอเป็นเหล่าทวยเทพแห่งผกา

      ตราบสิ้นแสงอัจจิมาตลอดไป

      ................................................................

      ................................................................................

      ด้วยผมทองขอให้มีกลีบดอกเหลือง

      ตะวันเรืองรองรับไม่ผลักไส

      ทานอาทิตย์สถิตในดวงหทัย

      เทพพอลโลจอมใจข้าด้วยเทอญ. 


             หลังจากที่เจ้าหญิงไคลธีสิ้นลม ขาของเธอก็หยั่งรากลงไปในพื้นดิน แขนและลำตัวของเธอก็กลับเป็นใบและลำต้นสีเขียว ดวงหน้าอ่อนหวานของเธอกลับกลายเป็นสีน้ำผึ้ง เรือนผมสีทองผ่องอำไพของเธอกลับกลายเป็นกลีบดอกไม้สีเหลืองสดใส แหงนมองเทพแห่งพระอาทิตย์ไปทุกแห่งหนจน กว่าพระอาทิตย์ของเธอจะตกดินอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ด้วยความรัก และความภักดีตลอดกาล.

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×