อันตำนานทานตะวันมีดังนี้
ไคลธีคือชื่อของเจ้าหญิง
เธอโฉมงามนามไพเราะเป็นอย่างยิ่ง
แต่เธอนิ่งเก็บกดรันทดใจ
ด้วยท่านพ่อพระราชาแสนจะโฉด
กักขังลูกไว้ในโบสถ์ไม่ไปไหน
ทิ้งเจ้าหญิงไคลธีเศร้าหทัย
โดดเดียวใจน้ำตาไหลกับพันธนา
..................................................................................
..............................................................
ในวันหนึ่งซึ่งปลอดนางข้าทาส
ปราศจากท่านพ่อที่แลหา
จึงหนีออกจากโบสถ์ด้วยปัญญา
หนีออกมาหวังชมแสงดวงตะวัน
อยากได้ยลแสงอรุณอันแรกแย้ม
คงเจิดแจ่มแช่มช้อยให้คล้อยฝัน
ดวงตะวันส่องได้อย่างไรกัน
ช่างน่าขันฉันเจ้าหญิงไม่รู้เลย
........................................................................................
.............................................................
ในวันนี้ต้องรู้เสียให้ได้
ตะวันฉายบ่ายส่องต้องเฉลย
ต้องร้าวรานกร้านหทัยไม่เกรงเลย
จึงนั่งเฉยกลางทุ่งมุ่งมองตะวัน
ขณะนั้นเทพพอลโลควบม้าผ่าน
ตะวันฉานผาดผ่องย่องมานั้น
พระอาทิตย์มากับเทพหนุ่มคนนั้น
ไคลธีนิ่งฝันกลับโบสถ์ไป
..........................................................
.........................................................
อรุณรุ่งทุกวันหนีออกมา
ไคลธีโหยหาความรักใคร่
หลงรักหนุ่มเทพพอลโลหมดจิตใจ
โดนลงทัณฑ์อย่างไรใจยอมทน
เจ้าเทพหนุ่มไม่รู้เลยมีใครรัก
ผูกสมัครรักมั่นอย่างเปี่ยมล้น
ไคลธีคอยความหวังอย่างอดทน
คงจะมีสักหนหันมองกัน
...................................................................
..................................................................................................
เจ้าหญิงหนีจากโบสถ์ตลอดกาล
ด้วยดวงมาลย์ผูกจิตคิดใฝ่ฝัน
เทพพอลโลควบม้าผ่านแสงตะวัน
ไม่มีวันไหนเลยเคยมองมา
เจ้าหญิงจึงตั้งสัตย์วาจามั่น
แม้ตัวฉันมอดม้วยขอพรฟ้า
ขอเป็นเหล่าทวยเทพแห่งผกา
ตราบสิ้นแสงอัจจิมาตลอดไป
................................................................
................................................................................
ด้วยผมทองขอให้มีกลีบดอกเหลือง
ตะวันเรืองรองรับไม่ผลักไส
ทานอาทิตย์สถิตในดวงหทัย
เทพพอลโลจอมใจข้าด้วยเทอญ.
หลังจากที่เจ้าหญิงไคลธีสิ้นลม ขาของเธอก็หยั่งรากลงไปในพื้นดิน แขนและลำตัวของเธอก็กลับเป็นใบและลำต้นสีเขียว ดวงหน้าอ่อนหวานของเธอกลับกลายเป็นสีน้ำผึ้ง เรือนผมสีทองผ่องอำไพของเธอกลับกลายเป็นกลีบดอกไม้สีเหลืองสดใส แหงนมองเทพแห่งพระอาทิตย์ไปทุกแห่งหนจน กว่าพระอาทิตย์ของเธอจะตกดินอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ด้วยความรัก และความภักดีตลอดกาล.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น