คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : PIAN~Ch.1
DX6980
Ch.1
พอตื่นขึ้นมา คนที่ควรจะนอนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อคืนก็หายไปไหนเสียแล้ว ชายหนุ่มผมทองขยี้ตาแล้วเอามือแตะบนที่นอน ปรากฏว่ายังอุ่นๆ อยู่ แสดงว่าเพิ่งลุกไปได้ไม่นาน อาจจะกำลังอาบน้ำหรือไม่ก็หาอะไรกินในครัวล่ะมั้ง เขาคิดพลางลุกจากเตียง สวมเสื้อคลุมแล้วเงี่ยหูฟังเสียงจากในห้องน้ำด้านขวามือ ถัดจากประตูห้องนอน
---เงียบเชียบ---
ไม่ได้ยินเสียงน้ำหรือเสียงที่บ่งบอกว่ามีใครอยู่ในนั้นเลย เขาขมวดคิ้ว แล้วเดินไปดูในครัวด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ถ้าออกไปแล้วล่ะก็...น่าจะปลุกกันบ้างสิ
“ไม่อยู่จริงๆ ด้วยแฮะ เฮ้อ” เขาถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดอาลัยบนเก้าอี้ไม้เคลือบเงาในครัว
ก็คิดอยู่หรอก ว่าอย่างหมอนั่น ไม่มีทางรอเราตื่นแล้วยิ้มทักทาย “อรุณสวัสดิ์” อะไรแบบนั้นแน่นอน แต่ก็นะ...ทุกครั้งที่มาค้างคืน พอตอนเช้าก็หายไปอย่างนี้ตลอด มันน่าน้อยใจยังไงไม่รู้สิ
ใบหน้าคมมองเหม่ออย่างหม่นหมอง เห็นแววตาเศร้าๆ เหงาๆ ของคนๆ นั้นทีไร ก็อดไม่ได้ที่จะปลอบโยน แต่อีกฝ่ายคงจะแค่เหงาจริงๆ ถึงได้ไม่เคยสนใจความรู้สึกของคนที่ต้องตื่นขึ้นมาแล้วหาคู่นอนของตัวเองไม่เจอแบบนี้ ทั้งที่มอบความรักให้ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา รับฟังทุกเรื่องไม่เคยขาด ต้องการอะไรก็หามาให้ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าได้รับความรักแม้เศษเสี้ยวตอบกลับมาบ้างเลย
แถมบางครั้งยังโดนโกรธด้วยเรื่องไร้สาระอีกต่างหาก คิดถึงเรื่องพวกนี้ก็พาให้เครียดขึ้นมาอีก เขาถอนหายใจยาวก่อนจะลุกขึ้นเตรียมตัวไปทำงานตามปกติ พยายามปัดเป่าสิ่งที่รกสมองให้สลายกลายเป็นหมอกควันจางๆ
ชื่อของเขาคือ “ดีโน่ คาบัคโรเน่” เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียในอิตาลีที่มีชื่อเสียงพอตัว ความเก่งกาจนั้นต้องบอกว่า ถ้ามีลูกน้องอยู่ด้วยน่ะนะ ปกติเป็นคนง่ายๆ สบายๆ อารมณ์ดี และออกจะซุ่มซ่าม ซึ่งเจ้าตัวก็กำลังหาทางแก้ไขให้ได้อยู่
หลังจากได้รู้จักพวกเด็กๆ ในแก๊งวองโกเล่ ก็มีเรื่องยุ่งๆ มาไม่ขาดสาย ยิ่งตอนนี้เจ้าพวกนั้นเติบโตขึ้น เรื่องวุ่นก็เปลี่ยนหน้าค่าตาไปเรื่อย แต่ก็สนุกดีที่ได้อยู่กับพวกนั้น ดีกว่านั่งจมทุกข์กับเรื่องความรักที่ไม่เคยจะสมหวังของตัวเอง
สึนะโยชิคุง ที่เป็นหัวหน้ารุ่นที่ 10 ของวองโกเล่ ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มหล่อที่สุขุมนุ่มลึกจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นไอ้ห่วยไอ้เห่ยมาก่อนแล้ว มือขวา โกคุเดระ ก็โตขึ้นและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คนอื่นๆ เองก็ด้วย
ทางฝั่งวาเรีย ก็ดูจะเข้ากับพวกสึนะได้ดีกว่าแต่ก่อน เว้นก็แต่...คนๆ นั้น ที่ยังระหองระแหงกับสึนะ แล้วยิ่งเรื่องของรีบอร์นกับยามาโมโตะอีก
อา...ช่างน่าปวดหัวจริงๆ
ดีโน่กุมขมับ คิดถึงใบหน้าดุดันของแซนซัสเวลาที่จ้องพวกรีบอร์นเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อแล้วมันสยองขวัญพิกล
เมื่อ 6 ปีก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างแซนซัสกับยามาโมโตะ ค่อนข้างเป็นไปด้วยดีทีเดียว จู่ๆ ก็สนิทกัน คงเพราะยามาโมโตะเทียวไปเทียวมาที่ปราสาทวาเรีย เพื่อให้สควอลโลฝึกดาบให้บ่อยๆ และเจ้าหนุ่มหน้าอ่อนนั่นก็เป็นคนอารมณ์ดีมากถึงมากที่สุด คิดบวกตลอดเวลา จนในที่สุดก็เปิดใจของบอสวาเรียที่ปิดตายมานานได้
ดีโน่ที่เฝ้ามองภาพของทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานยังรู้สึกอิจฉา เพราะแซนซัสไม่เคยยิ้มหรือหัวเราะให้ใครแบบนั้นมาก่อน
แต่ทว่า...ทุกอย่างกลับพังทลาย ในคืนนั้น ที่แซนซัสรู้ว่ายามาโมโตะมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับครูสอนพิเศษของสึนะ...รีบอร์น...และแม้แต่ดีโน่เองก็คาดไม่ถึง
และสิ่งที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่า คือการที่แซนซัสร้องไห้...อยู่ในอ้อมกอดของตน
“หวา คิดบ้าอะไรฟะเรา” ดีโน่ส่ายหน้าแรงๆ สองสามทีเพื่อไล่ภาพความทรงจำในคืนแรกออกจากหัว
น้ำตาที่คลอเบ้าในดวงตาสีชาดที่มักจะแข็งกร้าวคู่นั้น ร่างกายที่สั่นสะท้านยามที่สัมผัส ริมฝีปากสีสดที่เอาแต่เรียกหา “ยามาโมโตะ”
พอคิดถึงตรงนี้ ในอกก็เหมือนมีอะไรทิ่มแทงให้ได้รู้สึกเจ็บแปลบ มันเป็นความทรมาน...ความเศร้า...
เป็นความเจ็บปวด...ที่ยากจะลืมเลือน
“คุณดีโน่ อาทิตย์หน้านี้ฝากยามาโมโตะด้วยนะครับ” เสียงจากปลายสายตอบรับคำฝากฝังของสึนะอย่างเนือยๆ จนเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลต้องขมวดคิ้ว
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ? คุณดีโน่”
“อ่ะ เอ้อ เปล่าๆ เรื่องยามาโมโตะให้ฉันจัดการเองนะ อื้อๆ” ดีโน่ที่เพิ่งได้สติ รีบตอบรับด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นทันที
“งั้นก็ตามนี้นะครับ ขอบคุณมาก” สึนะวางสายลงอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก ด้วยลางสังหรณ์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิดก็ว่าได้ ทำให้รู้สึกเหมือนเรื่องที่จะส่งยามาโมโตะไปอิตาลีคราวนี้ เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างบอกไม่ถูก
“ฮายาโตะคุง ผมวานติดต่อมุคุโร่ให้หน่อยได้มั้ยครับ” เขาหันไปออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลกับนายมือขวาที่ยืนจัดเอกสารอยู่ข้างๆ
“ได้ครับ แต่ว่า...มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับรุ่นที่ 10” ดูเหมือนโกคุเดระจะจับความกังวลใจนั้นได้เช่นกัน
“ผมคิดว่า จะให้มุคุโร่ไปกับยามาโมโตะด้วยน่ะ มันมีลางสังหรณ์ไม่ดีนิดหน่อย” สึนะยังคงไม่คลายสีหน้าแสดงความวิตกนั้น ทำให้โกคุเดระ ฮายาโตะ เลขาฯและมือขวาของเขาเกิดความกังวลไปด้วย
“หมายความว่ายังไงเหรอครับ?”
“รีบอร์นอยู่อิตาลี...” เพียงเท่านั้น โกคุเดระก็ถึงบางอ้อ อันที่จริง ไม่ต้องใช้ลางสังหรณ์ให้สิ้นเปลืองเลยก็ได้ เพราะเรื่องระหว่างแซนซัส ยามาโมโตะ และรีบอร์น ในแก๊งของรุ่นที่ 10 ไม่มีใครที่ไม่รู้ (ยกเว้นก็แต่คุณพี่เรียวเฮล่ะมั้ง)
“แล้วส่งเจ้าหมอกโรคจิตนั่นไปอีกคน จะไม่ยิ่งยุ่งเหรอครับ” เขาตั้งข้อสังเกต สึนะถอนหายใจ
“ผมก็รู้ว่ามันยุ่งยากแน่ๆ แต่...มุคุโร่สยบแซนซัสได้จริงๆ นี่นา”
“หรือว่าจะให้ใช้วิธีนั้นอีกครับ” โกคุเดระเริ่มเหงื่อตก วิธีรับมือกับความฉุนเฉียวของแซนซัสที่มุคุโร่ทำ มันได้ผลชะงัดดีอยู่หรอก แต่ถ้าต้องโดนแบบนั้นบ้าง คงไม่สนุกเท่าไหร่
“เพราะงั้นนะ...”
“ยินดีรับใช้ครับ นายท่าน” ยังไม่ทันที่สึนะจะได้พูดต่อ เหมือนกับรู้สถานการณ์ล่วงหน้ายิ่งกว่าสุดยอดลางสังหรณ์ จู่ๆ สายหมอกหนุ่มผู้มีนัยน์ตาสองสีก็โผล่พรวดมาจากเพดาน ทำเอาทั้งเจ้านายและลูกน้องอ้าปากค้างตาถลนด้วยความตกใจสุดขีด
“ม...มาได้ไงวะ?!!” โกคุเดระเป็นคนแรกที่โวยวาย รีบเอาตัวบังหน้ารุ่นที่ 10
“ผมทราบเรื่องที่จะให้ไปกับยามาโมโตะคุงแล้วล่ะครับ ไม่ต้องตามให้เสียเวลา” โรคุโด มุคุโร่ส่งยิ้มยวนใจ (ให้เสียวสันหลัง)
“แอบฟังอยู่สินะ สมเป็นมุคุโร่” สึนะยิ้มแหยะๆ
“มันไม่ใช่เรื่องน่าชมเลยนะครับนั่น!!!” โกคุเดระยังคงไม่ทิ้งสไตล์ชอบเสียงดังเข้าว่า พลางปาดเหงื่อ
“มิชชั่นคราวนี้ยากเอาการ แต่ผมจะทำให้สำเร็จเพื่อหน้าตาของวองโกเล่ก็แล้วกัน” ว่าแล้วสายหมอกผู้พิทักษ์รูปงามก็แวบหายไปประหนึ่งเป็นร่างวิญญาณไร้ตัวตน
“เอากะมันสิ น่ากลัวเป็นบ้า” หนุ่มมือขวายังอดบ่นไม่ได้ ขอตอดนิดหน่อยก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ส่วนสึนะได้แต่หัวเราะแหะๆ หัวใจหล่นไปที่ตาตุ่มแล้ว แต่ต้องซ่อนสีหน้าหน่อย เดี๋ยวลูกน้องรู้หมด
ความคิดเห็น