ความสับสนภายในใจ
ฉันชอบเธอเหรอ ฉันคิดยังไงกับเธอกันแน่ เราเป็นเพื่อนกัน มันไม่มีทางเป็นไปได้ เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม เลิกทำให้ฉันรู้สึก.....สักที
ฉันกับแก้วเราเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ชั้นมัธยม ครั้งแรกที่เราพบกัน ฉันจำได้ว่า ตอนนั้นเธอยังเป็นสาว จิ้มลิ้ม ผมยาวสวยที่เพิ่งย้ายมาจากต่างจังหวัด ฉันเห็นเธอนั่งอยู่คนเดียวที่ข้างหน้าต่างของห้องเรียนมาหลายวันแล้ว ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปทักเธอ
“ ฉันชื่อขวัญ เรามาเป็นเพื่อนกันนะ” หลังจากนั้นฉันก็ย้ายมานั่งข้างเธอ และเราก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แก้วเป็นเด็กสาวที่น่ารักมาก ทั้งเรียนเก่ง มีนิสัยโอบอ้อมอารี และเป็นคนที่รักเพื่อนมาก ทุกๆครั้งที่ฉันไม่เข้าใจการเรียนไม่ว่าจะเป็นวิชาไหน แก้วก็คอยสอนให้ ติวให้จนทำให้ฉันเข้าใจในที่สุด เราทั้งสองอยู่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่ ม.1 จนถึง ม.6 เราสนิทกันมาก เหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ทุกๆครั้งไม่ว่าฉันหรือแก้วมีปัญหา เราก็ไม่เคยทิ้งกัน คอยดูแลซึ่งกันและกัน คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก็หลายต่อหลายครั้ง และทุกๆครั้งที่ฉันมีความสุข แก้วก็จะคอยยินดีกับฉันเสมอ แก้วไม่เคยนึกอิจฉาฉันเลย และเราก็ไม่เคยทะเลาะกันจนถึงขั้นรุนแรงเลยสักครั้ง ถึงแม้จะมีทะเลาะกันบ้าง ก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ โกรธกันไม่กี่นาทีก็กลับมาดีกันเหมือนเดิม ตอนนี้ฉันและแก้วเรียนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ความเป็นเพื่อนของเราสำหรับแก้วฉันคิดว่ามันยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่สำหรับฉัน ความใกล้ชิดความสนิทสนม มันทำให้หัวใจของฉัน เริ่มคิดกับแก้วเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ และฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดอย่างนั้นเช่นกัน
“ขวัญ! จะมองหน้าแก้วไปถึงไหน ไม่สบายรึเปล่า ไหนให้แก้วดูหน่อยซิ”
“เปล่าหรอกแก้ว ขวัญสบายดี คือ .... ขวัญกำลังนึกถึงวันแรกที่เราพบกันนะ”
ฉันพูดพร้อมกับปัดมือแก้วที่แตะใบหน้าฉันออกไป เธอคงไม่รู้หรอกว่าขณะที่มือของเธอสัมผัสกับใบหน้าของฉัน มันทำให้อกด้านซ้ายของฉันสั่นสะเทือน เต้นแรงไม่ส่ำ และรู้สึกหวั่นไหวแค่ไหน ฉันมองหน้าแก้วอีกครั้ง และพบว่าแก้วมองหน้าฉันงง ๆ ก่อนที่จะเอ่ยถามขึ้นว่า
“ขวัญ เข้าใจที่อาจารย์สอนรึเปล่า”
“เปล่าหรอก ขวัญไม่เข้ใจเลย ก็มัวแต่มองหน้าแก้ว และนึกถึงวันเก่าๆ เลยไม่ได้ยินที่อาจารย์สอนเลยสักคำ” ฉันตอบแก้วอย่างหน้าตาเฉย
“แก้วว่าแล้วเชียว ทีหลังตั้งใจเรียนหน่อยนะ เดี๋ยวเย็นนี้แก้วจะติวซ้ำให้อีกที”
“อืม.....ได้ แต่เย็นนี้ขวัญมีนัดกับพี่เอกนะ ค่อยติวให้ตอนค่ำก็แล้วกัน”
“อย่าดึกนักนะ แล้วแก้วจะรอ” แก้วตอบฉันด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี คงเป็นเพราะห่วงเพื่อนกระมัง
หลังจากหมดชั่วโมงเรียน พี่เอกก็มาหาฉันที่หน้าคณะ ฉันจึงแยกทางกับแก้วโดยให้แก้วไปรอที่หอก่อน แล้วฉันจึงไปกับพี่เอก
“ฉันไม่อยากไปกับพี่เอกหรอกแก้ว ฉันไม่อยากจะคบกับเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ที่ฉันทำไป ก็เพื่อจะกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มีต่อเธอ และเพื่อไม่ให้เธอรู้ว่าฉันรู้สึกยังไง”
ฉันพูดกับตัวเองในใจ แล้วหันกลับมามองหน้าคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนฉัน แต่ฉันกลับไม่รู้สึกว่าเขาเป็นแฟนฉันเลยสักนิด ฉันรู้สึกแค่ว่าพี่เอกเป็นแค่เครื่องมือทำลายความรู้สึก ฉันหลอกใช้พี่เอก คิดแล้วก็สงสารพี่เอกเขาเหมือนกัน แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ก็มันเป็นทางเลือกเดียวนี่นา
“ขวัญ.....เพื่อนขวัญคนนั้นชื่อแก้วใช่ไหม อืม....เขาน่ารักดีน่ะ” พี่เอกถามฉันด้วยท่าทีแปลกๆ ฉันจึงถามกลับว่า
“ถามทำไมเหรอ เห็นเขามาก็หลายครั้งแล้ว ทำไมเพิ่งมาชมเขาล่ะ”
“โถ่....ขวัญ พี่ก็ชมเขาไปอย่างนั้นแหละ ขวัญของพี่น่ารักกว่าตั้งเยอะเลย” พี่เอกแก้ตัวกับฉันอย่างหน้าตาเฉย แต่ที่ฉันถามพี่เอกไปไม่ใช่เพราะฉันหึงพี่เอกหรอกนะ แต่ฉันหวงแก้วมากกว่า ก็ลองคิดดูซิ หากมีคนอื่นมากชอบคนที่เรารู้สึกดีๆด้วย เราก็ต้องหวงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่หมู่นี้พี่เอกก็ดูแปลก ๆ ไปจริง ๆ คอยถามถึงแต่เรื่องแก้วตลอด ตอนแรกฉันก็ไม่สงสัยอะไรหรอกนะ เพราะแก้วเป็นคนที่น่ารัก มีอัธยาศัยดี ใครเห็นใครก็ต้องชอบแก้วกันทั้งนั้น แต่ที่ฉันสงสัยก็คือ วันนั้นขณะที่ฉันกำลังเล่นโทรศัพท์พี่เอกอยู่ ฉันกดเข้าไปดูที่เบอร์โทรออกเห็นเบอร์แก้วและคุยกันตั้งนานเกือบชั่วโมง พอฉันถามพี่เอก เขาก็บอกว่า เขาโทรหาฉันแต่โทรศัพท์ของฉันโทรไม่ติด ก็เลยโทรหาแก้ว และที่คุยกันนานก็เพราะถามถึงเรื่องฉันทั้งนั้น ไม่ได้คุยเรื่องอื่นเลย ฉันก็เชื่อใจพี่เอกในสิ่งที่พี่เอกพูด แต่ทำไมแก้วไม่บอกฉันเลยล่ะว่าพี่เอกโทรหา และไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเดียวยังมีอีกหลายครั้งที่ฉันสงสัย แต่ฉันก็พยายามเก็บความสงสัยนี้ไว้ และพยายามคิดในแง่ดีไว้ว่าพี่เอกคงไม่ชอบแก้ว และแก้วก็คงไม่คิดที่จะหักหลังเพื่อนเช่นกัน
ฉันเที่ยวเพลินจนดึก เลยลืมนึกไปเลยว่า แก้วจะติวหนังสือให้ ขณะที่ฉันกลับมายังหอ และเปิดประตูเพื่อจะเข้าห้อง ฉันเห็นแก้วนอนฟุบอยู่บนโต๊ะท่ามกลางหนังเรียนหลายเล่มที่ตั้งกระจัดกระจายกันอยู่ แก้วคงจะอ่านหนังสือจนดึก และคงเตรียมที่จะติวหนังสือให้ฉัน เธอเลยเผลอหลับไป
“แก้ว แก้ว ตื่นเถอะ ขวัญกลับมาแล้ว แก้วไปนอนบนที่นอนให้ดีนะ เรื่องติวเอาไว้วันหลังก็แล้วกัน ดูท่าแก้วจะไม่ไหวแล้ว”
“แก้วบอกแล้วให้ขวัญรีบกลับ แล้วรีบไปอาบน้ำนอนซะนะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า”
“จ๊ะ แก้วแล้วขวัญจะรีบ” ฉันรับคำแก้วพร้อมกับอมยิ้ม เพราะดีใจที่เพื่อนรักเป็นห่วง แต่แก้วคงเป็นห่วงในฐานะเพื่อน และแก้วคงไม่มีทางที่จะคิดกับฉันในฐานะอื่นไปได้ เห้ย! คิดแล้วก็รู้สึกสมเพชตัวเองเหลือเกิน ทำไมฉันจะต้องมาหลงรักเพื่อนตัวเองด้วยนะ และทำไมฉันจะต้องมีความรู้สึกดีๆ กับคนที่มีเพศเดียวกับฉันด้วย ทำไม ทำไม ทำไมใจของฉันตอนนี้มันรู้สึกสับสนเหลือเกิน สับสนจนฉันอยากจะหนีไปให้พ้นๆ ไปในที่ไกลแสนไกลจนไม่มีใครจะหาฉันได้เจอ และฉันต้องมั่นใจว่าสถานที่แห่งนั้น ฉันจะไม่มีความรู้สึกนี้อยู่ในหัวใจ ความรู้สึกอันแสนทรมาน ความรู้สึกที่เรียกว่ารักอันแสนทุกข์
แสงแดดอุ่นๆ ส่องผ่านบานหน้าต่างมากระทบกับใบหน้าของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกได้ทันทีเลยว่า วันใหม่ที่สดใส พร้อมที่จะให้ฉันเริ่มต้นสิ่งดีๆให้กับชีวิตได้มาถึงแล้ว ฉันตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย ขยี้ตาสองสามครั้งก่อนที่จะเขม่งตาดูเวลาบนหน้าปัดของนาฬิกา
“แก้ว แก้ว ตื่นได้แล้ว จะ 8 โมงแล้ว รีบไปอาบน้ำแต่งตัวซะ มีเรียนตอน 9 โมงใช่ไหมเดี่ยวจะไปสายนะ”
“สุขสันต์วันวาเลนไทม์จะขวัญ วันนี้ขอให้ได้รับดอกไม้เยอะๆ นะ เอานี่แก้วให้เป็นคนแรกเลย”
“อ้าว! วันนี้เป็นวันวาเลนไทม์เหรอ ขวัญลืมนึกไปเลย ขอโทษนะที่ไม่ได้เตรียมดอกไม้ไว้ให้”
“ไม่เป็นไรหรอก แก้วรู้ว่าขวัญขี้ลืม เอ๋ใครมาเคาะประตูตั้งแต่เช้านะ เดี๋ยวแก้วไปเปิดให้”
“สุขสันต์วันวาเลนไทม์ค่ะ นี่ค่ะดอกไม้ มีคนส่งมาให้คนห้องค่ะ อืม....แต่ไม่รู้คนไหน ลองเปิดอ่านในการ์ดดูเอาเองนะค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ขวัญสงสัยพี่เอกคงส่งมาให้เธอน่ะ ไม่ใช่ของฉันหรอก” แก้วยื่นดอกไม้ให้ฉัน แต่ท่าทางของเธอดูน้อยใจยังไงชอบกล ฉันเปิดการ์ดอ่านปรากฏว่า ดอกไม้นี้ไมใช่ของฉัน แต่มันเป็นของแก้วมีคนส่งมาให้ชื่อว่า หนึ่ง
“แก้ว แก้ว ของแก้วน่ะ คนชื่อหนึ่งส่งมาให้ ว่าแต่...เขาเป็นใครเหรอ”
“จริงเหรอขวัญ พี่เอ เออ...พี่หนึ่งส่งมาให้เหรอ ฉันนึกว่าของเธอซักอีก”
“ฉันถามว่า ไอคนชื่อหนึ่งเนี่ยมันเป็นใคร ทำไมเธอไม่เคยบอกฉันเลย” ฉันขึ้นเสียงกับแก้วเล็กน้อย เพราะความหวง และโกรธที่แก้วปกปิดเรื่องนี้
“คือว่า.....คือ...พี่หนึ่งเขาเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยน่ะ เขาแค่มาชอบแก้ว แต่แก้วยังไม่ตกลงปลงใจอะไรกับเขาเลย จึงยังไม่ได้บอกขวัญน่ะ แต่ทำไมขวัญจึงต้องขึ้นเสียงกับแก้วด้วย”
“ขอโทษน่ะ ขวัญหงุดหงิดไปหน่อยที่ไม่ได้รับดอกไม้จากพี่เอก คือพูดง่ายๆ ขวัญอิจฉาแก้วน่ะ” ฉันพูดแก้ตัวออกไปเพื่อไม่ให้แก้วรู้ความจริง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งฉันพูดแบบนั้น แก้วก็ยิ่งทำให้ฉันสงสัย
วันนี้ทั้งวันทำไมฉันไม่เห็นหน้าพี่เอกเลย ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันวาเลนไทม์แท้ๆ แต่ฉันก็ยังไม่ได้รับดอกไม้จากเขาเลยซักดอก อย่าว่าแต่ดอกไม้เลยที่เขาจะให้ หน้าตาก็ยังไม่โผล่มาให้เห็น แต่ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็ไม่อยากจะให้ความสัมพันธ์ของเรามันถลำลึกไปมากกว่านี้ สู้ให้เขาไปเจอคนดีๆ ที่รักเขาจริงยังจะดีกว่า ฉันคิดพลางพร้อมกับเดินไปยังหอ แต่พอเดินไปถึงห้อง ทำไมประตูห้องยังล็อก แก้วยังมาไม่ถึงหออีกเหรอ ก็บอกว่าปวดหัว ขอกลับมาก่อนตั้งนานแล้วนี่นา อืม....หรือว่าหายปวดหัวแล้ว สงสัยคงจะไปหาอะไรกินมั่ง
เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน สี่ทุ่มเข้าแล้ว ห้าทุ่มเข้าแล้ว แก้วยังไม่กลับมาเลย โทรหาก็ปิดเครื่อง เขาไปอยู่ที่ไหนกันน่ะ หรือว่าจะมีนัดกับไอคนชื่อหนึ่งนั้น แต่แก้วก็ไม่เคยกลับดึกอย่างนี้ หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับแก้ว ตายล่ะ! หากแก้วเป็นอะไรไป แล้วฉันจะอยู่บนโลกนะได้อย่างไร แก้วได้โปรดกลับมาเถอะ กลับมาหาขวัญ ขอร้องล่ะนะ พระเจ้าช่วยคุ้มครองแก้วด้วย อย่าให้แก้วเป็นอะไรไปเลย
ในตอนนั้นฉันทำอะไรไม่ถูกแล้ว เพราะเป็นห่วงแก้วมาก ไม่มีใครช่วยฉันได้เลยนอกจากพี่เอก ฉันจึงรีบกดมือถือโทรหาพี่เอกทันที แต่ก็โทรไม่ติด ในตอนนี้ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว นอกจากฉันจะต้องไปหาพี่เอกที่อพาร์ตเม้นต์ เพื่อให้พี่เอกช่วยตามหาแก้ว โชคดีที่อพาร์ตเม้นต์ของพี่เอกกับหอฉันอยู่ห่างกันไม่ไกลนัก ฉันวิ่งไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้ว ไฟในห้องพี่เอกยังเปิดอยู่ แสดงว่าพี่เอกยังไม่นอน ดีล่ะจะได้ให้พี่เอกไปช่วยแก้วได้ทันท่วงที ฉันรีบวิ่งขึ้นไปยังห้องของพี่เอก พอไปถึงก็ง้ามือเพื่อจะเคาะประตูห้องขอความช่วยเหลือ แต่แล้วฉันก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นเงาลางๆ ออกมาจากห้องของพี่เอก เหมือนพี่เอกกำลังอยู่ในห้องกับใครสองคน ฉันแอบดูที่หน้าต่างซึ่งมีผ้าม่านปิดไว้ แต่ก็พอจะมีช่องเล็กๆที่สามารถดูเข้าไปในห้องได้ ทันทีที่ฉันเห็นเหตุการณ์ในห้อง หัวใจดวงน้อยๆของฉันมันแทบจะสลายเป็นเสี่ยงๆ
นั่นมันแก้ว! เธอสามารถหักหลังเพื่อนรักได้ลงคอ พี่เอกก็นอกใจแฟนสาวของตน ทุกๆอย่าง ทุกๆเรื่องที่ฉันสงสัยมันก็เป็นความจริงหมด คนที่หนึ่งก็คือพี่เอก ทั้งเพื่อนรักและแฟนรวมหัวกันหลอกฉัน! ฉันควรจะรู้สึกเสียใจแบบไหนดี เสียใจเพราะแฟนนอกใจ เสียใจเพราะเพื่อนหักหลัง หรือว่า เสียใจเพราะคนที่เราแอบรัก เขามีคนรักแล้ว
“โอ้ย! มันเจ็บที่หัวใจเหลือเกิน ใครก็ได้ช่วยฉันที่”
“ขวัญ....ขวัญ....ยายขวัญ! นี่ขวัญตื่นได้แล้ว”
“แก้ว....แก้ว....ฉันรักเธอ ฉันรักเธอ”
“นี่! ยายขวัญ เธอเป็นอะไรของเธอย่ะ ฝันร้าย หรือเป็นบ้าไปแล้วเนี่ย มาละเมอว่ารักฉันได้ยังไง ฉันไม่ใช่ผู้ชายน่ะย่ะ นี่เธอตื่นได้แล้ว”
“อ้าว...แก้วนี่มันเช้าแล้วเหรอ?”
“เช้าบ้าเช้าบอของเธอนะสิ นี่มันจะบ่ายโมงแล้วรีบอาบน้ำซะ เดี๋ยวมีเรียนตอนบ่าย 2 เออ แล้วแกฝันอะไรเหรอ ฉันได้ยินแกละเมอว่า แกรักฉัน แกไม่ได้รักพี่เอก อะไรทำนองเนี่ย ?”
“มันเศร้ามากเลยนะแก้ว ถ้าแกไม่ใช่กระเทยก็คงจะดีไม่ใช่น้อยเลย เพราะว่าฉันจะต้องไม่มาฝันร้ายเช่นนี้ไง”
ความรักมีหลายรูปแบบ รักพ่อแม่ รักเพื่อน หรือรักคนรู้ใจ ความรักไม่มีกฎบังคับใดๆ จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธมันก็เท่านั้นเอง.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น