หมานคร
มุมมองการเมืองไทย ที่เฮฮาประสาวัยรุ่น เหมาะกับชาวเด็กดีทุกโค๊นนนนน
ผู้เข้าชมรวม
505
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
อีกเรื่องหนึ่งที่เขียนเอามันส์อีกแล้วครับท่าน การเมืองไทยก็เหมือนละคร ไม่งั้นเค้าจะเรียก "เล่นการเมือง" เหร๊อ!
พบพลพรรคสัตว์ป่ากับการเมืองชวนเวียนHEAD ที่พวกเขาต้องฝ่าฟัน และต่อกรกับวายร้ายตัวฉกาจ "เจ้าสิงโตคางเหลี่ยมมมมมมม"
"ให้เสียงภาษาไทยโดย เฮี่ยๆ I'm อยู่นี่"
"ก็แค่เรื่องหมาๆที่ชาวบ้านไม่สนใจ"
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีนครอันลึกลับซ่อนตัวอยู่ในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง นครแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาสัตว์เล็กน้อยใหญ่อันถูกขนานนามว่า “หมานคร” เหล่าสัตว์ป่าอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างสงบร่มเย็นเป็นเวลาช้านาน ตราบเมื่อประชากรสัตว์เริ่มมีมากขึ้น ความสับสนอลหม่านในฝูงก็เกิดขึ้นมากเป็นเงาตามตัว จิ้งจอกเฒ่าฉุดคราลูกแกะไปข่มขื่น หมาป่าที่หิวโหยบุกปล้นฆ่าบ้านลูกหมูสามตัว พวกหงส์ไม่ยอมให้ลูกเป็ดขี้เหร่อยู่ร่วมแหล่งน้ำด้วยเพราะรังเกียจสีผิวดำคล้ำของเจ้าเป็ด ยังดีหน่อยที่แม่ไก่สาวทั้งหลายเปิดถนน“คุณโส”เรียกแขกจากต่างเมืองมาอาบ อบ นวด ลดการขาดดุลการค้าไปได้โขทีเดียว โอ้ “ไอเลิฟหมาแลนด์” แต่กระนั้นทุกหย่อมย่านใน “หมานคร” ก็ยังประสบกับความวุ่นวายจนประชากรเริ่มหมดหวัง ต้องเฮโล่ไปขูดขอหวยกับหมาสามขาเพื่อจะได้รวยไม่รู้ตัวกับเขาบ้าง แต่ทันใดนั้นฮีโร่ของพวกมันก็ปรากฏกายขึ้นท่ามกลางท้องผ้ามัวหม่น ฟ้าววว แสงสว่างจ้าแสบตาเหมือนใช้Photo shopช่วย (โปรแกรมเดียวกับที่หนังสือพิมพ์ “ไตรัด”ใช้บ่อยๆอะแหละ)
“ข้าราชสีห์เจ้าป่าผู้ควบคุมบริษัทโทรโข่งเจ็มอีสเอียม แห่งหมานครจะมาเยียวยาความทุกข์ร้อยของพี่น้องเอง” แม้สัตว์ทุกตัวจะงงๆว่าไปเป็นพี่น้องกับเจ้าสิงโตตั้งกะเมื่อไหร่ แต่แสงเรืองในเงาฝน ใครเล่าจะไม่ไขว่ขว้าไว้ เจ้าสิงโตได้รวบรวมแกนนำของสัตว์เผ่าต่างๆเพื่อเป็นตัวแทนของสมาชิกจัดตั้งสภาผู้แทนสัตว์ป่าขึ้น เพื่อให้สัตว์ป่าจากทุกเผ่ามีสิทธิมีเสียงในการชี้แจงปัญหาหรือเรียกร้องความช่วยเหลือจากสภาได้ซึ่งส่วนใหญ่จะหนักไปทางเรียกร้องซะมากกว่า(ประท้วง ประท้วง โยนชุดชั้นในเข้าไป เย้ๆ) การจัดตั้งสภาในช่วงแรกดำเนินไปโดยมีเสียงคัดค้านจากสัตว์ที่ไม่เห็นด้วยบ้างบางส่วน บางก็ว่าเจ้าสิงโตยังไม่มีประสบการณ์ในการปกครองนครมากพอ บ้างก็ว่าเจ้าสิงโตเป็นพวกนักธุรกิจไม่สามารถเรื่องการเมืองหร๊อก ด้วยความที่เป็นนักธุรกิจที่รวยจนลูกไม่รู้จักเหรียญ 50 สตางค์ เจ้าสิงโตได้งัดไม้เด็ดมายันหน้าพวกต่อต้าน มันว่า“ข้ารวยอยู่แล้ว ไม่อยากได้หรอกเงินกระปิ๋วพวกเนี่ย ถ้าพวกเจ้าสนับสนุนข้า ข้าจะทำให้ทุกตัวรวยเหมือนข้าในสามปีนี้ละ หะหะหะ เชื่อผมเถอะ มันเป็นกลไกๆ” คำพูดนี้ของเจ้าสิงโตทำให้ทุกตัวตาลุกพองด้วยความหิวเงิน เลยพากันเออออห่อหมกไปกับเจ้าสิงโตยกให้มันเป็นหัวหน้าของสภาสัตว์ป่าไปโดยบริยาย การจัดตั้งสภาสัตว์ป่า(แบ่งเค้ก)จึงสำเร็จได้ด้วยประการละฉะนี้ การปกครองของสภาในช่วงแรกเป็นไปอย่างราบรื่นภายใต้อำนาจของผู้นำเจ้าป่าอย่างสิงโต บรรดาหมูป่าได้รับสัมปทานให้รักษาโรคหอบหืดในราคา 30 บาท ในขณะที่เหล่านกกระจอกป่าพากันดีใจยกใหญ่ที่ผู้นำให้กองทุนหมู่บ้าน ทำให้ประชากรนกป่าสามารถนำเงินไปซื้อมือถือมาChatมันส์ยันดึกได้ทุกทั่วตัวตน เจ้าสิงโตคางเหลี่ยมได้ประกาศในคลื่นวิทยุ “สิงโตคุยกับประชาชน”ว่าความสงบร่มเย็นและรอยยิ้มของชาวป่าได้หวนกลับคืนสู่ผืนป่าอย่างสมบูรณ์แล้ว ทั้งนี้เกิดจากนโยบายบริหารองค์กรของตนที่มีประสิทธิภาพสามารถลดขนาดขององค์กรที่ใหญ่เทอะทะให้เล็กลง โดยรีไทด์เจ้าหน้าที่มันคิดว่าห่วยออกจากองค์กร ไม่ว่าจะเป็นพวกหมูอ้วนที่ชอบนอนกินข้าวเช้าชามเย็นชาม หรือจะเป็นพวกเต่าที่เชื่องช้าคิดอ่านอะไรไม่ทันใจมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ใช้“คอมปีเตอร์”ไม่เป็น มันเกลียดนักเชียว
ซึ่งนโยบายของมันก็เป็นดาบสองคม ที่ทำให้โรงเรียนของพวกหนอนหนังสือต้องปิดตัวลงหลายแห่ง เพราะขาดครูหนอนที่ยิปปี้พากันEarly retired กันอย่างเฮฮา โธ่ๆ เงินเดือนก็น้อย อยู่ก็ไม่รู้วันไหนจะโดยลูกศิษย์เอาไม้มาตีกบาล ลาออกไปขายเต้าห้วยดีก่า แต่กระนั้นปัญหาเรื่องนี้ เจ้าสิงโตไม่ได้สนใจซักกะติ๊ด เพราะมันยินดีที่ประชากรจะโง่ลงๆทุกวันๆ จะได้ปกครองง่ายๆหน่อย (คิดอะไรเชื่อผู้นำไปเลย พี่น้อง) เจ้าสิงโตยังกล่าวอีกและว่าในอนาคตเจ้าสิงโตหวังว่าจะได้รับเงินลงทุนจากทุกตัวเพื่อให้นครของเราค้าขายกับต่างนครและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น เราจะได้รวยๆๆ เมื่อได้ฟังดังนั้นบรรดาสัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างพากันออกทำมาหากินและนำอาหารที่เหลือมาลงทุนกับทางรัฐบาลมากมายเพื่อหวังว่าซักวันตนจะได้รวยๆเหมือนนายก เอ๊ย ผู้นำบ้าง เงินตราไหลสะพัดไปทั่วพร้อมๆกับความสุขจากฝันกลางวันของทุกตัวโดยไม่ตระหนักถึงหายนะในวันข้างหน้าของพวกมัน
หลายปีผ่านไป บรรดาชาวป่าก็เหมือนถูกนโยบายของเจ้าสิงโตแบ่งแยกเป็นสองกลุ่มบรรดากบในสระก็ยังไม่พอใจที่จะต้องอยู่ใกล้ๆกับฝูงนกยูงผู้เย้อหยิ่ง ในขณะที่เหล่านกยูงยิ่งชื่นชอบเจ้าสิงโตที่เปิดตลาดการค้าเสรีกับนครอื่นๆ เพราะทำให้สั่งสินค้าแบรด์เนมเข้ามาได้ในราคาที่ถูกลง คดีฆาตกรรมหมูบ้านก็ยังเป็นข่าวหน้าหนึ่งรายวันในหนังสือพิมพ์“ไตรัด”อยู่เนืองนิตย์ แต่นั้นก็ทำให้กลุ่มพิราบรักเจ้าสิงโตแทบถวายหัวเพราะเจ้าสิงโตอุดหนุนการเงินในกิจการทุกแขนงของเหล่าพิราบเพียงแต่มีข้อแลกเปลี่ยนเล็กน้อยคือห้ามลงบัญชีทรัพย์สินของเจ้าสิงโตที่อยู่ในอาณาจักรสว็อตส์เด็ดขาด ซึ่งอันที่จริงแล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับ“หมานคร”เหล่าพิราบไม่สนใจหรอกมันสนใจแต่เงินมหาศาลที่เจ้าสิงโตหยิบยื่นให้มากกว่า เงินทุนที่ให้กับเหล่านกป่าก็สร้างนิสัยขี้เกียจให้พวกมันไม่ออกไปหากินเอาแต่คุยโทรศัพท์จ้อไปวันๆ แต่นั้นก็ทำให้บริษัทเจ็มอีสเอียมของเจ้าสิงโตที่มีพนักงานส่วนใหญ่เป็นฝูงปลาหมอ(ตายเพราะปาก)รื่นเริงกับเงินเดือนและโบนัสที่ปรับขึ้นอย่างไม่หวาดไม่ไหว บรรดาหมูป่าที่ไปรักษาโรคหอบหือในโรงพยาบาลต่างเริ่มขุ่นเคืองจากบริการที่ห่วยแตกชนิดที่มาวันที่1 รักษาอีกทีวันที่ 5 นั้นเป็นเพราะเผ่านกฮูกผู้เป็นแพทย์ในโรงพยาบาลมิได้รับเงินสนับสนุนซักกะเก๊จากนโยบายเฮงซวยของสภาสัตว์ป่า ทำให้ขาดเงินทุนในการจัดซื้อสมุนไพรจากนครหรืออาณาจักรต่างๆ ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้มีราคาแพงหูฉี่ ทั้งๆที่เป็นสมุนไพรที่จำเป็นในการรักษาโรคทั่วๆไป โรงพยาบาลของเจ้านกฮูกหลายตัวต้องปิดกิจการลงเพราะทนรับนโยบายซังกะบ๋วยของเจ้าสิงโตไม่ได้ นั่นแสดงให้เห็นว่านโยบายของเจ้าสิงโตได้สร้างความชื่นชอบและความแตกแยกในสังคมของสัตว์ป่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันเหมือนคลื่นใต้น้ำที่ใหม่ๆก็ดูสงบราบรื่นดีแต่เมื่อมันกระทบฝั่งแผ่นดินก็จะถลายลงเพราะแรงจากคลื่นนั้น
เมื่อเจ้าสิงโตเห็นเช่นนั้นก็เริ่มไม่มั่นใจในขาเก้าอี้ของตนเอง อุดมการณ์ที่มีในคราแรกก็เริ่มจมหายไปในกองเงินที่เริ่มผุดโผนจากอำนาจของตน จนบางครั้งในคอลัมภ์gossipคนดังของหนังสือพิมพ์ “สย้อยดารา” ซึ่งมียอดขายมากที่สุดในนคร มีข่าวเจ้าสิงโตละเมอโทรศัพท์และพูดว่า “ของข้า ของข้า ของข้า อย่ายึดไปนะโว้ย” เจ้าสิงโตรู้สึกหวาดหวั่นกับสถานการณ์ในขณะนี้มากถึงขนาดไปจ้างบริษัท “แกะม้า เอนเตอร์เทนส์”ให้ทุ่มเงินหลายพันล้านเพื่อซื้อหุ้นบริษัท “ไอค๋อกแค่กทีวี”ของบรรดานกพิราบและควบคุมไม่ให้พวกมันลงข่าวเจ้าสิงโตโอนหุ้นให้คนใช้ หนักเข้ามันถึงกับไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์หรือสื่อจากแหล่งอื่นๆ โดยให้เหตุผลว่า “วันนี้ดาวเสาร์ตั้งเฉียงๆเอียงไม่ได้มุม พูดไปเดียวกาลากิณี ฮะฮะ โฮก!” นักข่าวกระรอกกับเหยี่ยวก็ได้แต่มองตากันปริบๆเพราะไม่รู้อะไรไปง้างปากเจ้าสิงโตบ้องตื้นตัวนี้ ความแตกแยกที่เริ่มมีมากขึ้นในหมู่สัตว์รวยกับสัตว์จนก็เป็นช่องทางให้เจ้าสิงโตหว่านเงินช่วยเหลือให้กับพวกสัตว์จนเพื่อเรียกแรงสนับสนุนที่ล้นหลามได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เจ้าสิงโตยิ้มเยาะพลางคิดว่ามันช่างคุ้มค่าซะนี่กระไร เจ้าพวกสัตว์จนทั้งหลายเพียงได้เงินเล็กน้อยก็ยอมยกย่องข้าประดุจเทพเจ้าแล้ว ถึงขนาดจัดตั้งม็อบ “คนรักสิงโต”ขึ้น อีกทั้งสื่อต่างๆทั้งหนังสือพิมพ์ โทรโข่ง และ ปีเตอร์เน็ตก็ยังเข้าไม่ถึงพวกมัน พวกมันจึงไม่รู้ว่าขณะนี้หนังสือพิมพ์ของเจ้าพวกกระรอกและเหยี่ยวกำลังพยายามขุดคุ้ยเรื่องฉ้อโกงของเจ้าสิงโตอยู่ทุกวี่วัน แต่บ้างก็ยังลงข่าวเจ้าสิงโตซื้อทีมฟีตบอล“แม่นบ๋”ไม่รู้จักเลิก สถานการณ์ใน “หมานคร” เริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ แรงต่อต้านและแรงสนับสนุนในตัวเจ้าสิงโตเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฎกรรมนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งหนึ่งพ่อตาวัวขาวใช้ธนูยิงกบาลเจ้ากระทิงหนุ่มผู้เป็นลูกเขยจนถึงแก่ความตาย เหตุเพราะเจ้ากระทิงหนุ่มกร่นด่าเจ้าสิงโตว่า หน้าเหลี่ยมอย่างกะลูกเต๋า ให้พ่อตาวัวขาวฟัง โอ้ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรหนอ แล้ว “หมานคร”นครซึ่งมีความหลากหลายในชนเผ่าจะสยบความขัดแย้งเหล่านี้ได้อย่างไรกัน
“โปรดติดตามต่อตามแผงหนังสือพิมพ์ชั้นนำทั่วไปนะคร้าบบบบบ”
ผลงานอื่นๆ ของ Frost Feather ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Frost Feather
ความคิดเห็น