เสียงหอนจากท่าพระจันทร์ - เสียงหอนจากท่าพระจันทร์ นิยาย เสียงหอนจากท่าพระจันทร์ : Dek-D.com - Writer

    เสียงหอนจากท่าพระจันทร์

    ผลงานที่ผมเขียนลงหนังสือ "ล้าหลัง" ของธรรมศาสตร์ ใครเรียนมธ.มาอ่านดูนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    399

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    399

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ต.ค. 50 / 11:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
        แค่เด็กเรียนท่าพระจันทร์ อยากบ่นให้เด็กเรียนรังสิตฟัง อยากเข้าท่าฯมาก มาอ่านซะ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                         โอ้วววววววว เสียงหอนโหยหวนของไอ้ตาล หมาหนุ่มรุ่นพี่ที่ต้องพลัดถิ่นลาทุ่งมาหากินริมน้ำเจ้าพระยา เสียงหอนของมันเป็นที่เลืองลือไปทั่วซอยในฐานเสียงป่วนทำลายจิตที่นำหมาแถบนั้นเห่าหอนประสานเสียงกันอย่างเมามัน จนน้ำลายฟูมปากตายโดยไม่ทราบสาเหตุกันอยู่เป็นบ่อยๆ  แม้คืนนี้อากาศไม่หนาวมากนัก แต่ภายใต้เงาโดมอันสมบูรณ์แห่งนี้ มันอดคิดถึงโครงโดมที่พี่น้องปากหมาเคยร่วมกันเห่าหอนปาร์ตี้กันจนดึกดื่นไปเสียมิได้ สายตาของมันล่องลอยไปตามกระแสคลื่นในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ซัดเอาถุงพลาสติกขึ้นมาเกยตื้น มันแหงนหน้ามองดวงจันทร์และหวนรำลึกถึงความทรงจำเก่าก่อนที่มันเคยร่วมชมนวลจันทร์ร่วมกับหวานใจขนฟูของมันหน้าอินเตอร์โซน ครั้งนั้นแม้จะดึกดื่นแล้วแต่มันและหวานใจก็ยังไม่กลับบ้าน จะเป็นไรไปเมื่อบ้านของมันอยู่ใต้ชายคาบ้านใกล้ๆทุ่งแค่นี้เอง แต่ครั้นมันมาที่ท่าพระจันทร์ มันไม่อาจอยู่จนดึกดื่นได้ เพราะสะพานลอยที่มันใช้ซุกหัวนอนช่างห่างไกลจากที่นี้นัก 
                           
                       เสียงร้านค้าทยอยดึงแฝงเหล็กปิดร้านลง ทีละร้านสองร้าน “ถึงเวลากลับบ้านแล้วสินะ” มันคิดและละตัวจากริมน้ำเดินกลับบ้าน มันเดินลัดเลาะไปตามตัวตึกอย่างระมัดระวัง เพราะหากมันวิ่งระเริงเหมือนตอนอยู่ในทุ่ง ไม่แคล้วคงเอาหัวพุ่งชนเสาซักต้นอย่างแน่นอน สนามบอลที่เคยยกทีมไล่กัดกันอย่างเมามันจนยามไล่ ภาพเหล่านั้นเหลือเพียงสปอร์ตไลต์สาดส่องสนามเปล่าสร้างความเหงาหงอยให้หัวใจดวงน้อยๆ มันเดินผ่านห้องฝึกหอนที่ตอนนี้ไม่ค่อยได้เข้าไปแล้ว เพราะขนาดห้องที่เล็กเกินกว่าจะจุหมาได้หลายๆตัวทำให้กว่าจะฝึกหอน กว่าจะซ้อมก็เสียเวลาไปมากแล้ว อุปกรณ์ก็ไม่พร้อม ทั้งที่ตอนอยู่ที่ทุ่งรังสิต ห้องกว้างๆ และอุปกรณ์พร้อมมูลทำให้มันสนุกกับเพื่อนๆได้อย่างเต็มที่ เห่าหอนหยอกล้อร่วมกันร้องเพลง เสียงในครั้งนั้นยังตรึงใจมันตราบจนทุกวันนี้ นอกจากนั้นมันยังคิดไปถึงหอสมุดที่ทุ่งรังสิต มันรู้สึกดีทุกครั้งเวลาได้แอบหลบเข้าไปอยู่ในหอสมุดกว้างๆ แอร์เย็นๆแล้วหามุมสงบขดตัวนอนเงียบๆอย่างมีความสุข นักศึกษารอบๆที่จับกลุ่มทำรายงาน หรือเข้ามาฆ่าเวลาในหอสมุดหัวเราะต่อกระซิบเบาๆ ทำให้มันรู้สึกอบอุ่นใจมากกว่าที่จะรู้สึกรำคาญ ห้องเล่นอินเตอร์เน็ตที่นักศึกษาหอผู้ไม่มีคอมพิวเตอร์ในห้องฝากชีวิตมาใช้พิมพ์รายงาน ถ้าเทียบกับที่ท่าพระจันทร์นี้แล้วพวกเขามักจะกร่นบ่นว่า “แ-ร่งเล่นได้แต่เน็ต เปิดWordก็โดนด่า เสียบthumbไวรัสก็แ-ก” 
                            
                                 มันย่างเยาะต่อไปยังลานประติมากรรมและถอนหายใจให้ตัวเองเงียบๆหนึ่งครั้ง เมื่อขาหน้าของมันก้าวพ้นจากขอบรั้ว เสียงโห่ร้องของผู้ชุมนุมก็ทำให้มันสะดุ้งด้วยความตกใจ เสียงอึกทึก โหวกเหวกที่เสียดแทงโสตประสาททำให้มันต้องเพ่นแน๊บลงจากฟุตบาทจนเกือบพลาดถูกรถที่กำลังเบิ่งวิ่งอยู่ในถนนชนเข้า เสียงบีบแตรดังสับสน อลหม่าน ซ้ายทีขวาที จนมันเวียนหัวมองหาฟุตบาทอีกข้างไม่เจอ “ตายแน่กรู” มันพยายามเพ่งสมาธิเพื่อมองหาทาง และ โชคช่วยมันอย่างแรง เจ๊ป้าที่ใส่ชุดสีแดงแปร๊ดทำให้มันมองหาฟุตบาทเจอ มันลากสังขารคลำทางเข้าหาฟุตบาทอย่างระมัดระวัง เสียงหายใจหอบแฮกๆและใจที่เต้นโครมคราม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันต้องประสบเหตุการณ์เสี่ยงชีวิตอย่างนี้  เสียงรถยนต์วิ่งเฟี้ยวฟ้าว ไม่เคยเห็นหัวหมาตาดำๆอย่างมันเลย เสียงเอะอะของคนเมาที่นอนอยู่บนเก้าอี้ม้านั่ง ทำให้มันพยายามเดินเลี่ยงมาด้านข้าง มันหันหลังแต่ก็ต้องสะดุดกับรองเท้าแตะลอยฟ้าที่ปาใส่หัวมันอย่างจัง “ไอ้หมาเวร มองไรวะ จะแย่งที่นอนกรูเหรอ” มันส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย และเดินตุบัตตุเบ๋ต่อไป บนทางที่แสนไกลจะมีที่ไหนให้หมาตัวน้อยๆอย่างมันอยู่ได้บ้างหน่อ  “เฮ้อ เหนื่อยเกิ๊น”

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×