คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : from audition Never alone.
PLOT No.6
คำตอบขอสีอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ ดำ
★ THE FIRST *
๑. ชื่อ :: กวากวาค่ะ
๒. อายุ :: 19 ปีจะ 20 ปีนี้แหละค่ะ อย่าลืมของขวัญป้านะ TT’
๓. ทำไมถึงเลือกพล๊อตนี้ :: เพราะความโลภมาก เอ้ย! ไม่ใช่ ส่วนตัวชอบพล็อตแบบนี้อยู่แล้วแบบนางเอกมีคนมารักถึงสองสามสี่ห้าคนอะไรอย่างนี้แหละ แล้วถ้าต้องหักอกใครไปก็เริ่มเศร้าขึ้นเรื่อยๆ ชอบ! ชอบมาก ชอบสุโค่ย!
๔. ขอบคุณที่มาออดิชั่นค่ะ ^^. :: ไม่เป็นไรค่ะ : ))
--------------------------------------------
★ THE SECOND *
๑. ชื่อ :: รยู อึนฮเย
ชื่อพระเอก :: ชอง ยุนโฮ
ชื่อแฟน :: ชเว ซึงฮยอน
ชื่อเพื่อนพระเอกทั้งสอง :: ชเว ซีวอน , ฮันคยอง/ฮันเกิง
๒. อายุ :: 24 ปี
๓. บุคลิก ( สามบันทัด World จะเยี่ยมมาก ) :: หญิงสาวทรงเสน่ห์ มองปราดเดียวก็รู้เลยว่าเธอน่ะมีเสน่ห์ขนาดไหนไม่ว่าจะเป็นดวงตารูปร่างของเธอก็ดูดีไปเสียทุกอย่าง เธอวางตัวสบายๆเหมือนคนทั่วไป ใบหน้านั้นบ่งบอกถึงความอ่อนโยน ใจดีเป็นที่สุด บุคลิกออกแนวหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาแต่ทุกท่วงท่ากลับเหมือนนางฟ้านางสวรรค์อย่างไรอย่างนั้นแหละ ถือว่าเธอเป็นคนที่ดูดีมากในระดับหนึ่ง ไม่หยิ่งยโสเหมือนคนอื่นๆแทบจะทำตัวติดดินเลยก็ว่าได้
๔. นิสัย ( ละเอียดนี่แจ่มเลย ) :: อึนฮเยหญิงสาวที่ผิวขาวดุจหิมะเธอเป็นคนที่ยิ้มง่ายแต่ดวงตากลับเศร้าหมองตลอดเวลา รอยยิ้มของเธอสามารถสะกดใครหลายคนได้ตลอดเวลา เธอเป็นคนที่ใจดีถึงขั้นใจดีมากเลยล่ะ เรื่องว่ากล่าวด่าทอใครนี่ทำไม่ค่อยเป็นนักหรอก เพราะเธอไม่ต้องการที่จะทำร้ายจิตใจใคร แต่คำพูดของเธอก็ทำให้ใครหลายคนสามารถนิ่งได้เช่นกัน เธอเป็นคนมีเหตุผลนะ ไม่เอาอารมณ์เป็นใหญ่ อ่อนโยนดูคล้ายจะอ่อนแอแต่เธอก็พยายามเข้มแข็งที่สุดแล้วล่ะ เธอเป็นหญิงสาวที่น่าถนุถนอมที่สุดเหมือนกับแก้วน้ำหากตกลงบนพื้นจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ติดเสียจะเชื่อคนง่ายไปนิดหน่อยเท่านั้นแหละ เธอสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อคนรักของเธอ นี่หละที่เรียกว่าความรักทำให้คนตาบอด แต่เธอยอมที่จะตาบอดเพราะเพื่อจะรักษาความรักนั้นเอาไว้ เธอเป็นคนที่ต่อมน้ำตาแตกง่ายมากแต่เธอเป็นคนที่กลั้นน้ำตาเก่งเหมือนกัน เธอเป็นคนรักเพื่อน รักครอบครัวและรักคนรักของตนเองมาก หากใครมาทำอะไรพวกเขาเหล่านั้นเธอจะไม่ให้อภัยเด็ดขาด เธอเป็นคนที่ทำอาหารเก่งมาก เชฟตัวยงเลยล่ะ ไม่ว่าอาหารแบบไหนเธอก็ทำออกมาได้น่ากินและอร่อยอย่างมาก ใครได้กินกับข้าวฝีมือเธอถือว่าเป็นคนที่โชคดีมาก เธอติดจะซุ่มซ่ามนิดหน่อยนะ แต่อาการนั้นก็แสดงถึงความน่ารักของเธอไปอีกอย่าง ตอนเธอโกรธมากๆเธอจะนิ่งนิ่งสักพักน้ำตาเธอก็จะไหลและจะตักพ้อถึงคนที่ทำให้เธอโกรธ สุดท้ายเขาคนนั้นก็ต้องมาขอคืนดีกับเธอจนได้ ก็ใครอยากจะไปเห็นนางฟ้าคนสวยร้องไห้กันล่ะ เธอจะติดเป็นคนที่คิดมากไปสักหน่อย เชื่อในสิ่งที่ตาตนเองเห็น ไม่เชื่อในสิ่งที่จับไม่ได้เหมือนธาตุอากาศที่เราสูดเข้าไปเท่านั้น คิดมากจนทำให้ตัวเองเป็นไข้ได้เลยล่ะ เธอเป็นคนที่ร่างกายอ่อนแออยู่บ้างเพราะความบอบบางนี่แหละที่ทำให้เธอเป็นไข้บ่อยที่สุดแต่ก็ทำเป็นเข้มแข็งเหมือนเดิม ไม่ชอบให้ใครเห็นตอนเธอเจ็บปวดหรือไม่สบาย เพราะไม่ต้องการให้ใครมาเป็นห่วงเธอ เธออยากที่จะดูแลตัวเองเสียมากกว่า แต่คนอื่นก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดีนี่แหละ
๕. ทำงาน / เรียน :: เธอทำงานเป็นพนักงานในร้านดอกไม้ของพี่สาวตนเอง
๖. ชอบ :: เสียงหัวเราะ , รอยยิ้ม , เสียงเพลง , ความสบายใจ
๗. เกลียด :: การแตกแยก , น้ำตาของตนเอง , การสูญเสีย
๘. จุดเด่น ( คะแนนมากสุด ๕๕ ) :: จุดเด่นของเธออยู่ที่ผิวขาวดุจหิมะ ขาวมากขาวจนเหมือนจะซีดเลยทีเดียวผิวของเธอจะดูนุ่มละมุนและน่าสัมผัส ส่วนอีกอย่างก็คือดวงตาสีดำสนิทของเธอ ถึงเธอจะมีรอยยิ้มที่สดใสแต่หากนัยน์ตานั้นกลับเศร้าหมองจนน่าสงสัย เศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด
๑๐. อิมเมจพระเอก :: Chong Yunho tvxq
๑๑. อิมเมจเพื่อนพระเอกสองคน :: Choi Siwon , Hangeng
๑๒. อิมเมจแฟนสุดเลวของคุณ :: Choi Seunghyun Big Bang (T.O.P)
--------------------------------------------
★ THE THIRD *
๑. แฟนสุดเลวของคุณเขาใจร้ายกับคุณชะมัด บางวันเขาก็ทำเหมือนแคร์ บางวันก็กลับขับไสไล่ส่งคุณอย่างไม่ใยดี ทั้งที่บอกตัวเองว่าเขาเลว แต่ก็กลับปลอบใจตัวเองว่าเขาแค่กำลังหงุดหงิดจากที่อื่น ไม่ก็คุณนั่นแหละที่ผิดเอง เพราะคุณรักเขามาก คุณจึงเลิกกับเขาไม่ได้ และเหมือนว่าเขาก็คบกับคุณแก้เบื่อเวลาไม่มีใครเท่านั้น ทำไงดีล่ะ ..
:: จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อฉันรักเขาขนาดนี้ รักจนหาคำบรรยายไมได้ว่ารักเขามากเท่าไหร่ ฉันรู้เพียงแค่ว่าฉันรักเขามาก รักจนไม่เหลือใจไว้ให้เจ็บเลยสักนิดเดียว และฉันไม่ยอมที่จะเลิกกับเขาเด็ดขาด ฉันรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอดทนกับเขามากขนาดไหน แต่การที่ฉันได้อยู่ใกล้ๆเขาก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ในเมื่อฉันไม่ต้องการที่จะเลิกกับเขา ไม่ต้องการที่จะตัดสัมพันธ์ของความรักที่เจ็บปวดแบบนี้ ฉันก็ต้องเลือกที่จะอยู่กับเขาแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่อยากที่จะสูญเสียคนที่ฉันรักมากที่สุดไป ฉันขอที่จะรักเขาในความเจ็บปวดของตนเองอย่างนี้แหละ ไม่ว่าฉันจะเสียน้ำตากี่ครั้งฉันก็ยังจะรักเขาเหมือนเดิม ...
๒. แฟนคุณมาอาละวาดกับคุณว่าเพื่อนแสนดีของคุณไปหาเรื่องเขา ซึ่งคุณนั้นเข้าข้างแฟนคุณเต็มที่อะ คุณไปต่อว่าพระเอกของคุณอย่างไรยัง คุณจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร และแฟนของคุณก็ไม่พอใจและพร้อมจะเลิกกับคุณทุกเมื่อ แต่อย่าลืมว่าคุณนั้นไม่อยากเลิก
:: จู่ๆซึงฮยอนก็เข้ามาในร้านดอกไม้ของพี่สาวฉัน ด้วยใบหน้าที่เครียดตึง เขาเดินเข้ามาหาฉันที่แคชเชียร์ในขณะที่ฉันกำลังคิดราค่าดอกไม้อยู่ด้วยสีหน้าอารมณ์ที่โกรธอย่างมาก ก่อนเขาจะจับที่ข้อมือฉันอย่างแรง อยู่ๆก็ต่อว่าฉันอย่างรุนแรงเรื่องของยุนโฮต่อหน้าลูกค้าทั้งหลาย พี่สาวของฉันเห็นท่าว่าจะไม่ดีจึงมาบอกซึงฮยอนให้ไปคุยหลังร้านเขาว่าตามอย่างโดยดี ก่อนฉันและเขาจะเดินไปหลังร้าน ส่วนพี่สาวก็ทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์แทนฉัน ฉันไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรทำไมถึงต้องอาละวาดขนาดนี้ เขาจึงเล่าว่ายุนโฮเพื่อนสนิทของฉันมาหาเรื่องเขาในผับที่ยุนโฮอยู่ ตั้งแต่ฉันรู้จักยุนโฮมา ยุนโฮไม่เคยที่จะหาเรื่องใครก่อน ฉันพยายามอธิบายกับเขาว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่เขากลับโกรธฉันยิ่งกว่าเดิม
“เธอเชื่อไอ่หมอนั่นมากกว่าฉันเหรออึนฮเย! หมอนั่นมันดีกว่าฉันใช่ไหม” เขาว่าออกมาเสียงดังพลางบีบมือของฉันแน่นราวกับกระดูกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
“มะ..ไม่ใช่นะ..”
“ไม่ใช่! ไม่ใช่แล้วยังไง! ก็เธอบอกว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด! อ๋อใช่สิ ฉันมันเลวในสายตาเธอแล้วนี่!” เขาว่าออกมา
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ..นายกำลังเข้าใจผิด” ฉันว่าก่อนจะกั้นน้ำตาเอาไว้ มองข้อมือที่ซับด้วยสีเลือด
“แล้วเธอจะทำยังไง” ซึงฮยอนว่าออกมา
“ฉะ..ฉันจะไปบอกเขาให้” ฉันว่าออกมา
“บอกเหรอ! ฉันให้เธอไปต่อว่ามันต่างหากอึนฮเย เธอต้องทำตามที่ฉันสั่ง” ซึงฮยอนว่า
“อะ..อืม..” ฉันเพียงพยักหน้าเบาๆบอกความหมาย ก่อนเขาจะปล่อยมือของฉันแล้วออกจากร้านไปโดยไม่แยแสฉันเลยสักนิดเดียว
ตอนนี้ฉันอยู่หน้าผับที่เพื่อนทั้งสี่คนของฉันอยู่ ก่อนจะเดินไปหลังร้านเปิดประตูเข้าไปในห้องของนักร้อง ก่อนจะเจอกับพวกเขาทั้งสี่คนที่ส่งยิ้มมาให้ฉันอย่างเป็นมิตร ฉันเพียงยิ้มตอบบางๆ
“ทำไมวันนี้มาเช้าล่ะ” ซีวอนหันมาถามฉันในขณะที่มอก็ถือไม้กลองเอาไว้อยู่
“คือฉันจะมาพูดกับยุนโฮน่ะ” ฉันว่าออกไป ก่อนพวกเขาจะมองมาที่ยุนโฮที่ดูโน้ตเพลงอยู่
“เป็น...การส่วนตัว” ฉันว่าก่อนจะเดินออกไปนอกร้าน โดยที่ยุนโฮก็ตามมาติดๆ ฉันจ้องหน้าเขานิ่งสักพักโดยที่ไม่พูดอะไร เขาก็จ้องฉันกลับเหมือนกัน
“เธอมีอะไรจะพูดกับฉัน” เขาว่าออกมาด้วยความฉงนปนสงสัย
“นายก็รู้ยุนโฮว่าฉันรักซึงฮยอนมากที่สุด ทำไมนายถึงทำแบบนี้ นายไปหาเรื่องเขาก่อนทำไม” ฉันว่าออกไปกำมือที่ถือกระเป๋าของตนเองแน่น
“เขาบอกเธออย่างนั้นเหรอ..” ยุนโฮถามฉันขึ้นมา “แล้วเธอก็เชื่ออย่างนั้นด้วยสินะ” เขาว่าก่อนจะระบายยิ้มน้อยๆ
“นายทำอย่างนั้นจริงๆใช่ไหมยุนโฮ บอกฉันมานายทำแบบนั้นหรือเปล่า” ฉันว่าออกไป
“........” เขากลับเงียบพร้อมกับจ้องมาที่ฉัน
“ฉันรู้นะว่านายเป็นคนยังไง แต่เขาเป็นคนที่ฉันรักมากที่สุด นายก็รู้เขาสามารถบอกเลิกฉันได้ทุกเมื่อ นายก็รู้ว่าฉันไม่อยากเลิกกับเขา ฉันรักเขามากนะยุนโฮ ไม่ว่าเขาจะหาเรื่องนายก่อนหรือนายหาเรื่องเขาก่อน ยังไงฉันก็รักเขาอยู่ดี นายเข้าใจดีนี่” ฉันว่าออกมา
“ความรักกำลังทำให้เธอตาบอดอึนฮเย…” เขาว่า
“ฉันยอมตาบอดเพื่อที่จะรักษาเขาเอาไว้เหมือนเดิม ฉันไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ไม่รู้ว่าใครหาเรื่องใครก่อน แต่นายช่วยไปขอโทษเขาได้ไหม ฉันไม่ต้องการที่จะต่อว่านายรุนแรง นายไปขอโทษเขาได้ไหม..” ฉันว่าออกไปอย่างนั้นจ้องใบหน้าของยุนโฮนิ่ง เขาก็นิ่งไปต่างจากฉันเลยสักนิดเดียว
“.....” เขากลับเงียบไม่ตอบคำถามของฉัน
“ฉันไม่ต้องการจะเสียเขาไปยุนโฮ ถือว่าเป็นคำขอร้องจากเพื่อนสนิทของนาย” ฉันว่าออกมา กลั้นน้ำตาของตนเองเอาไว้
“ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น ฉันจะไปขอโทษเขาเอง เธอมาพูดกับฉันแค่นี้ใช่ไหม อย่างนั้นก็ลาก่อน” เขาว่าก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทิ้งให้ฉันอยู่ด้านนอกคนเดียว ฉันเข้าใจว่าเขาคงจะโกรธฉันไปแล้วก็ได้ แต่จะให้ฉันทำยังไงล่ะ ถ้าซึงฮยอนไม่พอใจแล้วขอเลิกกับฉันขึ้นมา แล้วฉันจะทำยังไง ฉันเลิกกับเขาไม่ได้ ฉันไม่ต้องการที่จะเสียเขาไป ...
๓. คุณเพิ่งมารู้ตัวว่าเพื่อนของคุณทั้งสี่คนนั้นเป็นดีแค่ไหน เขาอยู่ข้างคุณเสมอ เวลาคุณเศร้าใจพวกเขามักจะทำท่าตลกให้คุณดูพร้อมกับแต่งเพลงล้อเลียนไป เรื่อย นั่นแปลว่าคุณเบิกกับแฟนแบบเต็มตัวแล้วนะ แน่นอนว่าฝ่ายนั้นเดินจากไปเพราะว่าเขา เบื่อ !! เพราะ เขาน่ะมันหล่อเหลือกได้ และความซวยมาเยือนอีกครั้งเมื่อสี่หนุ่มต่างมาสารภาพรักคุณทุกคน คุณทำยังไงดี เพื่อนสนิทเลยนะเนี่ย แล้วคุณก็รู้สึกดีกับพวกเขาทุกคนด้วย !!!! ( บรรยายมาเลยจะดีมาก )
::“ฉันชอบเวลาเธอยิ้มแบบนี้อึนฮเยมันทำให้ฉันไม่อยากจะจากเธอไป มันทำให้ฉันอยากอยู่ใกล้ตัวเธอมากขึ้นกว่าเดิม และมันคงจะดีกว่านี้ถ้ารอยยิ้มนี้เธอจะยิ้มให้ฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“ฉันอยากให้เวลามันหยุดแค่ตรงนี้อึนฮเย อยากให้เธออยู่กับฉันตรงนี้และถ้าหากเป็นไปได้ฉันอยากให้เธอเป็นของฉันตลอดไป เราจะมาอยู่ที่นี่ตรงนี้ด้วยกันทุกวัน ทุกวันและตลอดไป”
“รู้ตัวไหมอึนฮเยเธอทำให้ฉันสับสนตลอดเวลา เธอทำให้ฉันอยากเข้าใกล้เธอมากกว่าเดิม เธอทำให้ฉันต้องการเธอมากกว่าเดิม เธอทำให้ฉันต้องการไขว่คว้าตัวเธอมาเป็นของตนเองตลอดเวลา”
“ฉันขอร้องอึนฮเย อย่าทำให้ฉันหวั่นไหวไปมากกว่านี้ได้ไหม ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สามารถหยุดความสัมพันธ์พวกนี้ได้ เธอทำให้ฉันรักเธอเพิ่มมากขึ้นทุกวันทุกวัน จนฉันไม่อยากที่จะปล่อยเธอไปให้ใครอีกแล้ว”
คำว่ากล่าวของพวกเขายังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน ฉันยอมรับว่าพวกเขาทำให้ฉันรู้สึกดีทุกวัน พวกเขาทำให้ฉันยิ้มได้หลังจากที่ฉันเลิกกับซึงฮยอน แต่ถึงยังไงฉันก็ยังตัดใจจากซึงฮยอนไม่ได้ ฉันไม่เข้าใจว่าทำให้พวกเขาถึงรู้สึกแบบนี้กับฉัน ความรู้สึกของพวกเขาทำให้ฉันสับสนจนพูดอะไรไม่ออก หากเป็นไปได้ฉันอยากจะหายตัวไปจากโลกใบนี้ เผื่อว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกอย่างนั้นกับฉัน เขาทำให้ฉันรู้สึกดีมากแต่ พวกเขาทุกคนเป็นเพื่อนสนิทของฉัน หากฉันเลือกใครสักคนแน่นอนว่าอีกสามคนต้องเดินจากฉันไปแน่ๆ หรือไม่แน่พวกเขาอาจจะทะเลาะกันจนตายไปข้างหนึ่ง แน่นอนว่าฉันไม่สามารถห้ามให้ใครไม่รักหรือชอบได้ แต่ถ้าหากให้ฉันเลือกฉันก็ไม่สามารถเลือกได้เช่นกันไม่ว่าจะเป็น ยุนโฮ ฮีชอล ซีวอน หรือ ฮันคยอง พวกเขาดีสำหรับฉันทุกคน ฉันไม่ต้องการที่จะเป็นเพื่อนสนิทกันมาทะเลาะกันเพียงเพราะฉันคนเดียว เพียงเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว ฉันต้องการให้เวลาพิสูจน์ทุกอย่าง พวกเขาอาจจะไม่รู้สึกว่ารักฉันก็ได้ มันอาจจะเป็นแค่หลงชั่วคราวเท่านั้น ฉันจะรอเวลาให้พิสูจน์ทุกอย่าง และมาดูคำตอบว่าสิ่งนั้นคืออะไร ...
๔. เมื่อคุณต้องเลือก แน่นอนว่าเลือกพระเอกของคุณแน่ แล้วคุณจะทำอย่างไรกับคนที่เหลือเมื่อความสัมพันธ์ของคนในวงเริ่มสั่นคลอน แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกันเลย ( แล้วจะเอาเงินที่ไหนซื้อข้าวกินจริงมั้ย ? ๕๕ ) จะทำยังไงให้พวกเขากลับมาคืนดีกัน ต้องรอให้มีคนตายไปข้างเลยหรือไง ..
:: ฉันนั่งอยู่ในห้องที่ของตนเอง ฉันนั่งลงบนเตียงมือถือโทรศัพท์เครื่องมือสื่อสานขนาดจิ๋วเอาไว้แน่ ก่อนจะกดเบอร์หาเพื่อนสาวของฉัน
(ยอโบเซโย) เสียงหวานใสกรอกเข้ามาผ่านโทรศัพท์มือถือ
“ซองอึน...” ฉันเอ่ยชื่อของเพื่อนด้วยเสียงแผ่วเบา
(อึนฮเย นี่เธออยู่ที่ไหน) เพื่อนฉันถามขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น ผิดกับฉันที่ตอนนี้เหมือนกับไร้เรี่ยวแรงไปเสียเฉยๆ
“เธอช่วยจัดการเรื่องบางอย่างให้ฉันหน่อยสิ” ฉันว่าออกไป
(หืม? จัดการเรื่องอะไร เธอต้องการอะไร) เพื่อนฉันถามอย่างสงสัย
“ขอตั๋วเครื่องบินไปลอนดอนหนึ่งใบ” ฉันกรอกเสียงออกไป มืออีกข้างกำแน่น
(ได้สิ แล้วไปกี่วันล่ะ) เพื่อนของฉันถาม
“ไปอย่างเดียว..” ฉันพูดออกมา
(หมายความว่ายังไงอึนฮเย) เพื่อนฉันถามอย่างฉงน
“ฉันจะไปลอนดอน ไปอย่างเดียวแล้วไม่กลับมาอีก” ฉันว่ามืออีกข้างที่ว่างเปล่ากำแน่นขึ้นกว่าเดิม
(เธอแน่ใจนะอึนฮเย) เพื่อนฉันถามออกมาด้วยเสียงที่เรียบเฉย
“ฉัน ...”
(อึนฮเย ฉันว่าเธอคิดให้ดีก่อนที่จะไปดีไหม ถ้าเธอไปเธอไม่คิดว่าพวกเขา..)
“ฉันว่า..ฉันจำเป็นต้องไปนะ” ฉันพูดแทรกขึ้นมาทันที
(ถ้าเธอมั่นใจอย่างนั้น ฉันจะทำให้เธอ มีไฟล์พรุ่งนี้นะ เพราะถ้าเธอไม่เอาพรุ่งนี้มันจะกลายเป็นอาทิตย์หน้า) เพื่อนของฉันเอารายละเอียดเที่ยวบินให้ฟัง
“ฉันขอเป็นพรุ่งนี้” ฉันว่าด้วยเสียงที่หนักแน่น
ช่วงเช้าของอีกวัน
“สายการบิน(เติมได้)ผู้โดยสารที่ประสงค์จะไปลอนดอนอีกครึ่งชั่วโมงเครื่องจะออกนะคะ ขอบคุณค่ะ” เสียงของพนักงานประชาสัมพันธ์ดังขึ้นมา ฉันต้องไปแล้วสินะ คงไม่มีใครมาลาฉันหรอก อย่างนี้จะดีกว่าที่จะเสียน้ำตาแล้วฉันจะไม่อยากแทน ฉันเดินตรงไปที่เกตทันที ฉันยื่นพาสปอร์ตให้พนักงานก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปแต่มีเสียงหนึ่งรั้งฉันเอาไว้
“อึนฮเย!” เสียงนั้นทำให้ฉันหันไปมองก่อนจะพบกับชายหนุ่มร่างสูงที่คุ้นตาทั้งสี่คน
“พวกนาย..” ฉันพึมพำออกมาอย่างไม่มีเสียงแม้กระทั่งฉันก็ยังไม่ได้ยินเสียงของตนเองเลยด้วยซ้ำ ก่อนสติของฉันกำลังจะคืนมาชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาฉันก่อนจะสวมกอดฉันเอาไว้แน่นราวกับว่าตัวของฉันจะหายไปในไม่ช้า ชายหนุ่มหันมามองหน้าของฉันก่อนจับที่ต้นทั้งสองข้างของฉันเอาไว้แน่น
“เธอจะไปไหนอึนฮเย ฉันถามว่าเธอจะไปไหน” ชายหนุ่มพูดเสียงดังพร้อมกับเขย่าตัวฉันไปด้วย
“เฮ้ย! ยุนโฮใจเย็นสิวะ” ซีวอนดึงตัวยุนโฮออกมาจากที่เขย่าฉันอย่างแรง
“ทำไมเธอถึงไม่ตอบฉัน เธอจะไปไหน” ยุนโฮยังคงถามเธออยู่อย่างนั้น
“ฉัน...”
“เธอจะไปทำไมที่ลอนดอน” ฮันคยองพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามแบบฉบับของเขา
“อึนฮเยไม่ไปได้ไหม ฉันขอร้อง” ยุนโฮว่าออกมาด้วยเสียงสั่นเครือฉันไม่เคยที่จะเห็นเขาได้ด้านนี้เลยสักนิดเดียว น้ำตาของลูกผู้ชายเริ่มไหลออกมา ไม่ต่างจากฉันที่น้ำตาสีใสกำลังพลั่งพลูออกมาเช่นกัน
“ถ้าฉันไม่ไป...”
“เรื่องก็ไม่จบ เธอจะหนีปัญหาแล้วหรือไง” ซีวอนพูดขึ้นอย่างจับใจความของฉันได้
“ฉันไม่ได้หนีปัญหาแต่ฉันกำลังแก้ปัญหา” ฉันว่าออกมาก่อนจะถูกยุนโฮกอดอีกครั้ง
“ไม่ไปได้ไหมอึนฮเยฉันขอร้อง” ยุนโฮว่าขึ้นมาก่อนจะกอดตัวฉันแน่นขึ้นกว่าเดิม
“เวลามันจะเปลี่ยนทุกอย่างยุนโฮ ฉันไม่ต้องการที่จะเลือกใครสักคน เพราะทุกคนสำคัญกับฉันหมด ฉันแค่อยากใช้เวลานายก็ต้องใช้เวลาเช่นเดียวกับฉันและกับทุกคนด้วย ฉันเข้าใจว่าพวกนายคิดยังไงกับฉัน แต่ว่าฉันยังไม่มั่นใจว่าฉันคิดยังไงก็พวกนายและที่สำคัญฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาอยู่กับนายฉันถึงรู้สึกดี รู้สึกว่าฉันชอบนายนะยุนโฮ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่มั่นใจในตัวฉันอยู่ดี เวลามันเปลี่ยนทุกอย่างได้นะถ้าฉันไม่อยู่สักคนพวกนายจะได้คิดไงเผื่อว่ามีสาวสวยคนใหม่เข้าตาพวกนายหรือตรงใจพวกนาย พวกนายก็จะได้มีความสุข พวกนายจะได้ไม่ต้องเป็นแบบตอนนี้” ฉันพร่ำพูดออกมายาวเหยียดกับเหตุผลที่ฉันต้องไป
“และอีกอย่างถ้าฉันอยู่ต่อยังไงฉันก็ต้องเลือกสักคนอยู่ดีใช่ไหม เมื่อฉันเลือกใครสักคนไปฉันก็จะเสียเพื่อนสนิทไปอีกสามคน ฉันไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้นเพราะทุกคนดีกับฉันเสมอ ฉันไม่ต้องการให้พวกนายทะเลาะกันฉันเลยบอกกับพวกนายไงว่าเวลาจะเปลี่ยนทุกอย่าง” ฉันว่าออกไปอีกครั้ง ใช่แล้ว เวลามันสามารถเปลี่ยนได้ทุกอย่างแล้วแต่ว่าคนเราจะเปลี่ยนมันไหม
“เธอสัญญาได้ไหมว่าเธอจะกลับมาอึนฮเย เธอสัญญากับฉันได้ไหม” ยุนโฮว่าขึ้นมากุมมือของฉันเอาไว้แน่น ฉันมองใบหน้าของชายหนุ่มทั้งหมดก่อนจะยิ้มละไมออกมาแล้วพยักหน้าน้อยๆ เสียงสัญญาณของเกตดังขึ้นได้เวลาที่ฉันจะไปแล้ว
“ฉันจะไม่ลืมพวกนายเลย” ฉันว่าออกมา
“พวกเราก็จะไม่ลืมเธอเช่นกัน” ฮันคยองพูดขึ้นมาก่อนจะแย้มยิ้มให้ฉัน นั่นเป็นยิ้มที่ฉันมีความสุขที่สุด มันไม่ใช่การจากลาตลอดกาลแต่นี่จากเพื่อให้ได้เจอกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง ฉันเดินเข้าไปก่อนจะหันมามองพวกเขาทั้งสี่คนที่ยืนมองมาที่ร่างของฉันก่อจะลับสายตาไปในที่สุด
๕. จบแบบไหนดี
:: สองปีผ่านไป (ไวเหมือนลิเก)
(ยุนโฮ ทอล์ค)
“สองปีแล้วนะอึนฮเย” ผมพูดพึมพำกับตนเองเบาๆก่อนจะจ้องมองปฏิทินที่อยู่ใกล้ๆอย่างมีความหวังว่าเธอจะกลับมาสักครั้ง อึนฮเยพูดถูกเวลาจะเปลี่ยนทุกอย่างตอนนี้ฮีชอลก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ส่วนซีวอนและฮันคยองก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไม่มีแฟนและยังเจ้าชู้เหมือนเดิมแต่ที่เปลี่ยนไปคือความรักที่มีต่ออึนฮเยของพวกเขาทั้งสองคนพวกเขาบอกว่ากับผมว่าเป็นเพื่อนยังดีกว่าเพราะไม่อยากเห็นหมีอย่างผมตายก่อนที่จะได้เห็นคนรักของตนเอง แน่นอนว่ามันคือเรื่องตลกแต่สีหน้าของพวกเขาดูจริงจังเมื่อพูดถึงเธอคนนั้น คนที่อยู่ลอนดอน เวลาเปลี่ยนทุกอย่างก็จริงแต่ความรักทีผมมีให้เธอก็ยังไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิดเดียว ผมยังคงรักเธอเหมือนเดิมและรักเพื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้พวกผมจากที่เป็นนักร้องตามผับตามบาร์กลายเป็นศิลปินชื่อดังไปแล้วเธออาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ว่าผมตอนนี้เป็นศิลปินชื่อดังไปแล้ว เธอคงจะดีใจกับพวกผมที่ความฝันเป็นจริงเสียที
“นั่งเหม่ออีกแล้วเหรอไอ่คุณชายยุนโฮ” ซีวอนว่าขึ้นมาทำให้ผมตื่นจาดภวังค์ที่นั่งคิดอะไรคนเดียว
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย” ผมว่าออกมา
“ฉันว่าจะมาชวนนายไปฉลองสักหน่อย คอนเสิร์ตจบแล้วจะไปต่อที่ผับนั่นไหม” ซีวอนว่าก่อนผมจะใช้ความคิด
“คลับนั่นน่ะเหรอ อืม...ก็ดีไม่ไปนานแล้วตั้งแต่...” ผมหยุดไว้แค่นั้น ตั้งแต่เธอจากผมไป...
“ยิ้มหน่อยสิเพื่อนวันนี้วันดี อย่าทำหน้าเศร้าไปเลยนายอาจจะเจอเรื่องดีๆก็ได้” ซีวอนว่าก่อนจะตบไหล่ผมแล้วยิ้มมาให้ เพื่อนที่ดีก็อย่างนี้แหละครับ
(เจ้กวา ทอล์ค)
ชายหนุ่มทั้งสี่คนและหญิงสาวอีกหนึ่งคน(นางเอกฮีชอล)เดินเข้ามาในผับที่คุ้นเคย ผับนี้ยังคงเหมือนเดิมตกแต่งเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนพื้นที่ในคลับดูจะกว้างขึ้นมาเพราะเพิ่มเนื้อที่มากกว่าเดิมและดูจะคึกคักเป็นพิเศษเมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาในนี้ พวกเขาเลือกนั่งในห้องวีไอพีที่ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้หากพวกเขาไม่อนุญาต
“เฮ้อ...คิดถึงผับนี้ชะมัดเลย” ฮันคยองว่าขึ้นมาก่อนจะนั่งลงบนโซฟาแสนนุ่ม
“น้อยๆหน่อยไอ่ฮัน” ฮีชอลว่าก่อนจะมองเพื่อนตนเองอย่างระอา แล้วหันไปมองหน้าแฟนของตนเอง
“โอ๊ยอิจฉาคนมีแฟนโว้ย” ซีวอนว่าเสียงดังก่อนจะนั่งลงข้างๆยุนโฮ
“เพื่อนมีความสุขทั้งที” ยุนโฮว่าออกมาก่อนจะดื่มน้ำสีอำพันในแก้วของตนเอง ก่อนจะมองออกไปนอกกระจกข้างล่างมีฟอล์ให้แขกเต้นอยู่เขามองอย่างเหม่อลอยก่อนสายตาจะพบกับร่างบางที่คุ้นเคยผิวขาวดุจหิมะในชุดสีขาวสะอาดตาผมยาวที่ถูกปล่อยถึงกลางหลังนั่น
“อึนฮเย..” เขาพึมพำชื่อของคนที่เขาเห็นเบาๆแต่เมื่อกระพริบตาหญิงสาวคนนั้นก็หายไปเสียแล้ว ยุนโฮเบิกตาโพลงก่อนจะวางแก้วของตนเองไว้บนโต๊ะ
“เฮ้ย! จะไปไหนไอ่ยุนโฮ” ฮันคอยงถามอย่างสงสัย
“เดี๋ยวฉันมา” ยุนโฮว่าก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว คนในห้องมองเขาอย่างสงสัยเมื่อเห็นท่าทีร้อนรนของเพื่อนตนเอง ยุนโฮเดินลงไปข้างล่างก่อนจะหาหญิงสาวที่เขาเห็นอยู่ในฟอล์ที่คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมาย แต่เมื่อหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเขาจึงเดินออกมานอกร้านเผื่อว่าเธอยังอยู่แต่ก็กลับว่างเปล่าไร้คนที่เขาตามหา
“ตามหาใครอยู่เหรอ” เสียงปริศนาดังขึ้นก่อนเขาจะหันหลังไปมองเสียงนั้น ใบหน้าเรียวยาวดวงตาดำสนิทผมยาวสลวยปล่อยถึงกลางหลังผิวขาวดุจหิมะทำให้เขานิ่งงันไปทันที เพราะคนตรงหน้าคือคนที่เขาตามหาตลอดทั้งหกเดือนนี้ หกเดือนที่เขาคิดถึง เขามองร่างนั้นนิ่งก่อนสมองจะสั่งให้ก้าวเท้าเข้าไปใกล้เธอแล้วกอดเธอเอาไว้แน่นราวกับเธอจะหายไปกับธาตุอากาศ ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำแสนหวานที่อยากให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดได้ยินตลอดเวลา
“ฉันรักเธอ...อึนฮเย”
จบเถอะ ! (สมองตัน กรั่กๆ)
๖. สุดท้ายรู้สึกยังไงที่ต้องมาตอบคำถามไร้สาระ
:: ไร้สาระตรงไหนเจ้ว่าไม่ไร้สาระนะ เจ้ส่งช้าอ่ะ TT’ จะว่าไปมันก็มีเวลานะ แต่เวลาว่างนั้นโดนพี่ครอบงำตลอดเลย โฮกกก! ขอโทษใน ณ ที่นี้ด้วยค่ะ นั่งอ่านคำถามแล้วต้องนั่งมึนไปด้วยเลย ไม่ติดแน่ๆพระเจ้า T[]T’ ไม่ยากแต่เยอะเวรี่โฮกๆ ช่วยพิจารณาด้วยนะคะ หัวเจ้แล่นได้แค่นี้แหละค่ะ คำตอบเจ้ยาวอ่านจนตาชาไปข้างหนึ่งเลย ฮ่าฮ่า รูปเจ้ย่อมาเดี๋ยวกินเนื้อที่ยิ่งคำตอบเยอะแล้วยิ่งจะตาลายนะคะ เจ้อาจจะตอบนอกประเด็นไปบ้างเล็กน้อย (เหรอ ?) แต่มันเป้ความรู้สึกว่านางเอกมันต้องตอบแบบนี้ แบบนี้ แล้วก็ อย่างนี้นะ จากใจเลยว่างั้นเหอะ =..= ตอนตอบคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกด้วยซ้ำ เจ้บ้าไปแล้ว ฮ่าฮ่า
ขอบคุณที่เสียเวลามานะคะ ><
ความคิดเห็น