Hangman's knot [ปม.. รัก]
เมื่ออิสตรีอย่างเธอต้องมาเป็นกวีเอกให้กับกษัตริย์แห่งนครปาสดาร์ต.. เพียงเพราะเธอเหมือนนาง..
ผู้เข้าชมรวม
84
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทที่ 1
ความลับที่มีในโลก
(QUEENS SECRET)
ณ กรุงปาสดาร์ต
..ใครคือผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งนี้.. และใครคือผู้ที่เป็นแขนขาให้กับผู้ที่ยิ่งใหญ่นั้น..
ปราชญ์เอสคริลถามคำถามกวนประสาทข้าอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่ตาเฒ่านี่มาวนเวียนอยู่ในชีวิข้า.. หรือว่าตั้งแต่ท่านพ่อกับท่านแม่จากข้าไปไกลแสนไกล..
คำตอบคือ.. สุลต่าน กับ องครักษ์
อะไรทำให้เจ้าตอบเช่นนั้น.. หลานข้า
ข้าส่ายหัวเพราะเบื่อกับคำถามก่อนนอนนี่เต็มทน..
สุลต่าน.. องครักษ์.. บ้าบอคอแตกอะไรกันข้าไม่รู้ สองคนนั่นจะเป็นใครมาจากไหนข้าก็ไม่สน รึใครจะเป็นแขนขาให้ใครมันก็ไม่เกี่ยวกับชีวิตข้าเลยแม้แต่น้อย..
โธ่.. ท่านลุง.. คำถามพวกนี้ไม่น่าจะมาถามกับเด็กอย่างข้า.. พูดตามตรงว่าข้าเบื่อเต็มทนแล้วกับคำถามที่ต้องใช้สมองพวกนี้
แต่เจ้าก็ควรได้รู้ไว้เพื่อวันข้างหน้า..
ทำกับข้าจะได้เป็นปราชญ์อย่างท่าน
ตามนั้น..
โธ่!! ไม่เอาหรอก!! เป็นปราชญ์ก็ต้องมานั่งท่องตำรา แปลตำรา เขียนตำรา วันๆมีแต่ตำรากับตำรา.. แล้วผลสุดท้ายข้าก็ต้องแก่หงำเหงือกเช่นท่าน..
ข้าพูดโดยใส่อารมณ์เล็กน้อย ดีที่ลุงข้าเป็นคนใจเย็น ถ้าเป็นพ่อข้าป่านนี้คงโดนโบยตั้งแต่ยังไม่ทันได้หุบปาก
ปราชญ์เก่งๆไม่จำเป็นต้องแก่ก็ได้.. เป็นสาวอย่างเจ้ายังได้เลย
ลุงเอสคริลหัวเราะตบหลังแล้วเดินออกจากห้องข้าไป
..ข้าว่าข้าน่าจะหนีออกจากบ้านเข้าให้ซักวัน..
รุ่งเช้าหวนกลับมาเยือนปาสดาร์ตอีกแล้ว.. ข้านั่งกินกับข้าวฝีมือตัวเองอยู่บนโต๊ะกินข้าวกลางบ้าน ลุงเอสคริลออกไปโต้วาทีกับปราชญ์คนอื่นกลางลานหมู่บ้านเฉกเช่นทุกวัน.. และทิ้งให้ข้านั่งห่อเหี่ยวเป็นขนมปังเปียกน้ำเฉกเช่นทุกวันเหมือนกัน
ข้าว่าเดี๋ยวข้าก็หนีออกจากบ้านจริงๆซะดีมั้ยเอ่ย..
ข้านั่งถามตัวเองในระหว่างที่กำลังฝืนกลืนข้าวคำสุดท้าย.. ให้ตายเถอะ!! ข้าอยากกินเคบับจนใจแทบขาด
อย่าให้ข้าอายุ 20 ล่ะ.. ข้าจะหนีออกจากบ้านไปอยู่ตุรกีกับลุงอาธานแล้วไปเปิดร้านเคบับที่นั่นซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
ข้าบ่นแล้วบ่นอีกจนจานที่ล้างอยู่สะอาดเอี่ยม ข้าเดินไปเช็ดมือแล้วทำท่าจะกระโดดออกนอกหน้าต่าง
หวังว่าคงมีหญ้านุ่มๆมารองรับข้า.. ไม่สิ.. มันมีจริงๆ..
ข้ากระโดดลงไปจนถึงพื้น กระดูกขาข้าลั่นดังกร๊อบ
โธ่.. ข้าชักอิจฉาอิสชาขึ้นมาบ้างแล้วสิ
ข้าเดินกุมข้อเท้าไปเรื่อยจนพ้นเขตบ้าน ปากก็เอาแต่พร่ำบ่นถึงเพื่อนสมัยเรียนอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่ฝรั่งเศสบ้านเกิดของนางแล้ว
เจ้าจะรู้มั้ยนะว่าข้าต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้.. เปลี่ยนจากตุรกีเป็นฝรั่งเศสยังทันรึเปล่าหนอ
บ่นอะไรอยู่คนเดียว.. ไอร์ซาฮ์
เสียงเรียกจากคู่อริข้าดังมาจากข้างหลัง ในมือของเขามีแต่ซากไก่
บ่นให้เจ้าโดนไก่จิกตายเข้าซักวัน
แต่ข้าฆ่าไก่เพื่อท่านเทพแห่งการรักษานะ
ใครหายป่วยล่ะ
แม่ข้า
เอียลยิ้มออกมาอย่างเปิดเผยโดยไม่สนใจซากไก่ในมือ ข้ามองรอยยิ้มนั่นอย่างประหลาดใจก่อนจะเดินออกไป
ขอให้แม่เจ้าอย่าป่วยอีกก็แล้วกัน.. อ้อ!! ขุดหลุมฝังเจ้าพวกนั้นให้ดีล่ะ ระราชสำนักคืนนี้พวกมันจะล้างแค้นเจ้า
เอียลหัวเราะคำพูดของข้า เขาถอดแว่นออกมาเช็ดแล้วใส่มันกลับเข้าไปใหม่แล้วโบกมือลา
หึ.. ฝีมือมีเท่านี้เองเหรอ
ข้านั่งดูการต่อสู่ของหนุ่มๆในหมู่บ้านก่อนจะสบถออกมา ลูคีเอยังคงเป็นฝ่ายชนะเช่นเดิม
เก่งไม่เคยเปลี่ยนหรือฝ่ายนั้นไม่เอาไหน
ลูคิเอยิ้มแล้วนั่งลงข้างข้า เพราะเขาคงรู้ว่าข้ายอใครไม่เป็นก็เลยไม่ต่อยข้าจนล้มลงไปนอนเหมือนคู่ต่อสู้ของเขา
สองอย่างมั้ง.. แล้วนี่มาทำอะไรคนเดียวตรงนี้เหรอ
บังเอิญว่าข้าไปอยากไปนั่งฟังการถกเถียงของคนแก่
ข้าตอบแล้วคิดถึงสภาพของลุงเอสคริลตอนหอบเพราะพูดมากไปและไม่ได้กินน้ำ
ฮ่าๆ.. ถ้าท่านปราชญ์มาได้ยินเข้าจะทำยังไง
ลูคิเอหัวเราะร่วนแล้วถามขึ้น ข้าส่ายหน้าแล้วมองไปรอบๆ
สงสัยว่าข้าคงต้องขนของมานอนอยู่ที่นี้ล่ะมั้ง.. มั้งสิ
ข้าว่า ลูคิเอหัวเราะข้าอีกแล้ว ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนุ่มๆที่เขาล้มได้ถึงไม่โกรธเกลียดเขาเลยซักนิด.. เป็นเพราะเขาเป็นคนอารมณ์ดีแล้วก็ใจดีแน่ๆ
เดี๋ยวข้ากลับละ
กลับเหรอ.. ไม่ไปเดินเที่ยวกับข้าก่อนเหรอ
ลูคิเอจ้องหน้าข้า
ข้าไม่ว่างขนาดนั้นหรอกน่ะ เดี๋ยวเย็นนี้ที่บ้านข้าจะมีแขกคนสำคัญมาเยี่ยม.. แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าสำคัญแค่นั้น ท่านลุงถึงได้ให้ข้ารีบเตรียมอาหารไว้รอรับ
คงเป็นคนที่ลุงเจ้าหาให้
หาให้..
ข้าพูดด้วยน้ำเสียงสงสัย ลูคิเอยิ้มนิดๆที่มุมปากแล้วก้มหน้าลง
ก็คนที่จะแต่งกับเจ้า
ลูคิเอว่า ข้าเบิกตาโพลงแล้วรีบลุกขึ้นทันที
ไม่นะ!! ข้าไม่ยอมเด็ดขาด!! ข้าอยากอยู่อย่างอิสระแบบนี้ต่อไป.. ข้าไม่อยากไปอยู่กับคนที่ข้าไม่รู้จักและไม่ได้รัก.. ข้าอยากอยู่กับคนที่ข้ารัก
คนที่เจ้ารัก.. หมายถึง.. ข้ารึเปล่า
ถ.. ถามข้า
ข้าสะอึกนิดหน่อยเมื่อได้ยินคำนั้น ลูคิเอ เพื่อนที่ข้าคิดว่าสนิทรองลงมาจากอิสชาและหราชสำนักว่าจะเป็นคนที่ให้กำลังใจข้าได้เสมอ แต่เขากลับคิดว่าข้ารักเขางั้นเหรอ..
แต่งกับข้าเถอะ.. ไอร์ซาฮ์
ลุคิเอจ้องตาข้าแล้วเดินเข้ามาใกล้ข้าเรื่อยๆ..ๆ..ๆ
ข้าผลักเขาออกแต่สู้แรงเขาไม่ไหวจริงๆ ข้าอยากร้องไห้เหลือเกิน.. ทำไมเพื่อนข้าถึงได้คิดกับข้าแบบนี้
พูดสิ.. ว่าจะแต่งกับข้า..
ลูคิเอพูดหวานใส่หูข้า..
..ลูคิ.. เอ
..
ให้ตายข้าก็ไม่แต่ง!!
แล้วใครจะไปแต่งกับเด็กบ้าอย่างเจ้า..
อัลลีหัวเราะร่วนแล้วมองหน้าข้า ข้าจ้องหน้าเขากลับแล้วแยกเขี้ยวให้
เพราะเจ้าคนเดียวทำให้ข้าไม่กล้าไปพบหน้าลูคิเอ
ข้าว่าก่อนจะยกเหล้าองุ่นตรงหน้าขึ้นมาดื่มพรวดเดียวหมด
อะไร.. เจ้ากระทิงนั่นน่ะเหรอ.. ฮ่าๆ.. ทำไมล่ะ
อัลลีหน้าแดงเพราะความเมา เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าเอง
เขาคิดว่าเจ้าเป็นคนที่ท่านลุงหาให้เพื่อจะแต่งกับข้า.. ข้าก็เกือบคิดแบบนั้นแล้ว
หือ.. แล้วเจ้าก็ได้รู้ความลับในหัวใจของเจ้ากระทิงนั่นโดยบังเอิญล่ะสิ
แต่ข้าคิดกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้น
มิตรที่ชิดใกล้มากๆก็มีความรู้สึกดีๆให้กันแบบนั้นแหละ.. ยิ่งใกล้ชิดมาก ความรู้สึกดีๆที่มีให้ก็มาก.. ยิ่งนานเข้าก็ยิ่งเกิดเป็นความรัก.. ยิ่งรัก.. ก็ยิ่งเจ็บ..
อัลลีร่ายยาวแล้วเริ่มรินเหล้าองุ่นลงใส่แก้วอีก
ข้าว่าเจ้าคงจะเป็นปราชญ์ที่ดีกว่าลุงเอสครีลแน่ๆ
โธ่.. เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่อยากตายคากองตำรา ข้าอยากตายในสงครามหรือสนามรบมากกว่า
จะบอกว่า.. นอนตายบนกองเลือดดูมีศักดิ์ศรีกว่านอนตายบนกองตำรากับน้ำหมึกรึไง
ช่าย..
อัลลีตอบเสียงยานคางพลางเอาขอบแก้วเขกหัวข้า ติดที่อัลลีอายุมากกว่า 3 ปี.. ไม่งั้นข้าจับแขวนคอไปนานแล้ว
หนุ่มๆสาวๆ.. ได้เวลาพักผ่อนกันแล้ว
ลุงเอสครีลเดินแบกกองตำราพิชัยสงครามที่เพิ่งแปลเสร็จใหม่ๆออกมาจากห้องตำราคร่ำครึมืดๆดูน่ากลัว
เห็นท่านลุงบอกว่าจะให้ข้าเอาหนังสือไปส่งให้สุลต่านไม่ใช่เหรอ.. ไหนๆ.. เอามาให้ข้าซิ
อัลลีเดินเอียงซ้ายเอียงขวาไปหาลุงเอสครีล ข้าหลุดขำออกมานิดหน่อยเพราะท่าทางของเขา
พอทีอัลลี.. นี่น่ะหรือผู้ที่กำลังจะเป็นกองกำลังสำคัญเพื่อปกป้องบ้านเมืองจากเหล่าบรรดาศัตรูคู่อริทั้งหลาย.. มองไปมองมาเจ้าก็แค่นักเลงปากกล้าที่วันๆเอาแต่เสพสุรานารีเท่านั้นเอง
ลุงเอสครีลด่าอัลลีเป็นชุด เขาสลดไปซักพักแล้วขอตัวไปนอน คำด่าของลุงเอสครีลไม่รุนแรงมากนักแต่มันกระทบต่อจิตใจของคนที่ถูกด่า.. ซึ่งข้าก็รู้สึกเช่นนั้นบ่อย
เห็นทีท่านคงต้องไปเองแล้วกระมังปราชญ์เอสครีล.. เชิญเจ้าค่า~
ข้าผายมือไปทางประตูแล้วโค้งคำนับ
ข้ารู้สึกหนักๆที่หลัง.. ลุงเอสครีลเอากองตำรามากมายมาวางบนหัวข้าแล้วเตะขาข้าเข้าอย่างแรง
รู้ใช่มั้ยว่าเจ้าต้องทำอย่างไรต่อไป..
ข้าทราบดีๆ
ทราบแล้วต้องทำยังไง
ข้าถอนหายใจแล้วหยิบตำราจากบนหลังทีละเล่มๆแล้วจำใจเดินออกนอกบ้านทั้งๆที่ใจจริงอยากจะไปนอนแทบตาย
รู้แบบนี้กินเหล้าให้ตายไปเลยดีกว่า..
ข้าเดินแบกตำราไปตามทางสลัวๆที่ได้แสงไฟจากบ้านในละแวกนั้น ในมือข้ามีแต่ตำรากับตำรา ปกติข้าจะแบกถุงเมล็ดทานตะวันหรือไม่ก็แป้งสาลี
แล้วนี่เจ้ามาทำไม
ข้าดัดเสียงให้เหมือนยามเฝ้าประตูราชสำนักแล้วทำหน้าขึงขัง
ข้าเป็นตัวแทนจากสำนักปราชญ์แห่งปาสดาร์ต.. ปราชญ์เอสครีลให้นำตำราพิชัยสงครามจีนที่เพิ่งแปลมาส่งให้กับองค์สุลต่านค่า~
ข้าดัดเสียงให้เล็กและแหลมพร้อมกับยืนบิดไปบิดมาเหมือนพวกผู้หญิงสาวๆตอนเจอหนุ่มหล่อ.. อย่างลูคิเอ.. จนข้าหยุดที่จะขำตัวเองไม่ได้
แล้วนี่เมื่อไหร่จะถึงกันนะ
ข้าหยุดพักกลางทางแล้วเริ่มเดินต่อ.. ในไม่ช้าข้าก็ไปถึง
แล้วนี่เจ้ามาทำไม
ยามเฝ้าประตูราชสำนักเอ่ยถามขึ้นทันทีที่ข้าเดินไปถึง
ข้าเป็นตัวแทนจากสำนักปราชญ์แห่งปาสดาร์ต.. ปราชญ์เอสครีลให้นำตำราพิชัยสงครามจีนที่เพิ่งแปลมาส่งให้กับองค์สุลต่าน
ข้าพูดบทที่ข้าซ้อมไว้อย่างตั้งใจ ยามคนนั้นจ้องหน้าข้าพักหนึ่งแล้งจึงเปิดประตูให้
เดินไปตามทางนั่นแล้วเลี้ยวซ้าย.. เจ้าจะพบกับหอสมุด
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง..
ข้าโค้งคำนับให้กับยามคนนั้นแล้วเดินไปตามทางที่เขาบอก
..ปึ้ก ปึ้ก..
ข้าใช้ปลายเท้าเตะเข้าที่ประตูของหอสมุด ข้ายืนรออยู่พักหนึ่งจึงมีคนมาเปิดประตูให้
เจ้าเป็นใคร.. มีธุระอะไรกับกวีเอกยามวิกาลเช่นนี้
ตาเฒ่าหัวล้านท่าทางฉลาดโผล่หน้ามาถามข้า
ข้าเป็นตัวแทนจากสำนักปราชญ์แห่งปาสดาร์ต.. ปราชญ์เอสครีลให้นำตำราพิชัยสงครามจีนที่เพิ่งแปลมาส่งให้กับองค์สุลต่าน
เช่นนั้นเอง.. ฝากบอกท่านเอสครีลว่า.. ข้า.. กวีเอกแห่งราชสำนักซึ่งเป็นตัวแทนขององค์สุลต่านเป็นปรีดาอย่างยิ่งที่ได้สหายที่ดีและฉลาดเช่นท่าน
น้อมรับพระบัญชา..
ข้าโค้งคำนับเป็นครั้งที่สามของวันนี้ กวีเอกท่านนั้นหยิบตำราไปจากมือข้าแล้วปิดประตูใส่
บอกว่าขอบใจซะแค่นั้นก็สิ้นเรื่อง.. มาปรีดีเกษมสันต์อะไรให้ยืดยาวไปทำไม.. ขอบใจคำเดียวข้าก็รู้แล้ว.. ข้าไม่ได้โง่ดักดานขนาดนั้นซักหน่อย
ข้าเดินบ่นไปตามทางเรื่อยก่อนจะได้ยินเสียงแปลกๆแล้วเดินไปตามเสียงนั้น
..กริ๊ก..
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นทันทีเมื่อข้าเดินตามเสียงที่ได้ยินไปจนเจอที่มาของมัน ข้าแอบอยู่หลังพุ่มไม้ใหญ่ก่อนจะทำใจให้เย็นแล้วโผล่หน้าขึ้นไปมอง
หะ!!
ข้าเบิกตาโพลงแล้วจู่ๆตัวข้าก็แข็งราวกับหิน มีใครคนหนึ่งถือดาบคมกริบที่อาบคราบเลือด บนพื้นมีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีหัวกับกองเลือดนองเต็มพื้น
ขอให้เดินทางสู่โลกหน้าอย่างปลอดภัย..
เสียงกังวารราวกับระฆังในโบสถ์คริสต์ทำให้ข้าตัวสั่นและใจเต้นแรง ถ้าข้าถูกเจอเข้าข้าคงไม่มีหัวให้คิดเรื่องบ้าๆมาทะเลาะกับอัลลีอีกเป็นแน่
ข้าตัดสินใจคลานไปตามทางจนพ้นเขตนั้นแล้วถอนหายใจยาว
ข้าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกแล้ว.. ราชสำนักหรืออะไรกันถึงได้ชั่วช้าเยี่ยงนี้.. งานอดิเรกของคนพวกนี้คือฆ่ากันเองงั้นเหรอ.. กุดหัวคนอื่นคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนุกงั้นเหรอ.. เลวทราม.. ต่ำช้าที่สุด!!
ข้าวิ่งไปพลางร้องให้ไปพลาง ข้ากลัวจนขั้วหัวใจแทบขาด ที่นี่เหมือนเป็นนรก.. คนที่นี่ล้วนแต่เป็นปีศาจกับอสูรกายทั้งนั้น
ข้าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก..
หลานสาวท่านปลอดภัยดีแล้ว.. เพียงแค่ให้กินยาตามที่ข้าสั่งไว้ให้ครบแล้วก็ให้พักผ่อนมากๆก็พอ
หมอที่ลุงเอสครีลตามมายิ้มให้ข้าแล้วบอกให้ข้าทำใจให้สบายๆ
ข้ากลัว..
ข้าจับมืออัลลีสลับกับมือของลุงเอสครีลแล้วร้องไห้ออกมาอีก
ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปซนที่ไหนมา.. พอข้าตื่นขึ้นมาอีกทีเจ้าก็อยู่ในสภาพนี้แล้ว
อัลลีลูบหน้าผากข้าเบาๆ ลุงเอสครีลส่ายหน้าให้กับความไม่เอาไหนของข้า
ข้าไม่ได้ไปเล่นซนที่ไหน.. ข้าเอาตำราไปให้กับกวีเอกที่หอสมุดในราชสำนัก.. เสร็จแล้วก็.. ก็.. ข้าก็เจอกับ..
ผีเหรอ.. เจ้านี่ท่าจะเพี้ยนใหญ่
อัลลีเดินส่ายหน้าออกไปจากห้องข้า ลุงเอสครีลนั่งลงข้างข้าแล้วโอบกอดข้าอย่างอ่อนโยน
ท่านลุง.. ข้ากลัวเหลือเกิน.. ข้ากลัวจนไม่กล้าออกไปไหนแล้ว.. ถ้าพวกเขารู้ว่าข้าเห็น.. พวกเขาต้องตามมาตัดหัวฆ่าเหมือนผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ
ข้ากอดตอบลุงเอสครีลแล้วร้องไห้โฮ
เจ้าก็เห็นเหมือนที่ข้าเห็นรึไอร์ซาฮ์.. ภาพนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำของข้าดี.. เพชฌฆาตกำลังค่อยๆฟาดดาบไปที่ต้นคอของพระมเหสีเอฟิทีน่า.. แล้วหัวของนางก็กลิ้งตกลงไปในสระหลังจากนั้น.. ทั้งที่เรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน.. แต่ข้าก็ยังจำได้.. จำได้ไม่มีวันลืม..
ข้ากลัว.. ท่านลุง
ข้าไม่รู้ว่าเรื่องที่ลุงข้าเล่าจะเป็นเรื่องเดียวกับที่ข้าเจอมารึเปล่า แต่ตอนนี้ข้ารู้แต่เพียงว่าความกลัวได้กลับมาครอบงำหัวใจข้าอีกครั้ง
อย่านำเรื่องนี้ไปบอกใครถ้าหากเจ้ายังอยากจะใช้ชีวิตอย่างอิสระเหมือนนางแอ่น.. เจ้าจงจำคำข้าไว้ให้ดี
ลุงเอสครีลลูบหัวข้าด้วยความรักแล้วสั่งให้ข้านอน
ข้านอนไม่หลับ..
ภาพนั้นยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำข้า..
เลือดแดงฉานสาดไปทั่วทุกทิศทาง..
พระมเหสีเอฟิทีน่าถูกเพชฌฆาตฆ่าตาย..
เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น..
เพราะอะไรข้าถึงได้เห็นภาพนั้น..
ทำไมถึงเป็นข้า..
ผลงานอื่นๆ ของ •【 T-K. idahyun 】★ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ •【 T-K. idahyun 】★
ความคิดเห็น