' ' Nagging , , * (2Seunghyun Oneshot)
' ' จะเกิดอะไรขึ้น !! เมื่อหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ "เชว ซึงฮยอน" ต้องมาเจอกับ แพนด้าเขี้ยวแหลมวายร้ายอย่าง "อี ซึงฮยอน" . . . เพื่อน ๆ คิดว่าใครจะเจ้าเล่ห์ได้มากกว่ากันล่ะ ? , , *
ผู้เข้าชมรวม
749
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“พี่เทมป์มาสาย!!” น้ำเสียงเสียงใส พูดขึ้นด้วยเสียงกึ่งโมโหที่ตัวเองต้องมายืนคอยใครบางคนที่วิ่งมาหาอย่างเร่งรีบ ดีนะที่ผมพาน้อง oPiD Nanoของผมมาด้วย ไม่งั้นผมคงเบื่อตายแน่ ๆ หนาวก็หนาว ยังจะปล่อยให้ผมยืนรอท่ามกลางหิมะแบบนี้อีก มันน่าให้อภัยมั๊ยฮะ
“พี่ขอโทษ ซึงรี ก็เมื่อวาน พี่...”
“ไปดื่มมานิดหน่อย! พี่เทมป์ก็พูดอย่างงี้กับซึงรีทุกที” ยังไม่ทันที่เสียงทุ้มของคนตัวโตจะแก้ตัวได้จบประโยค ก็กลับถูกคนตัวเล็กกว่าพูดขัดคอ ด้วยคำที่เคยพูดแก้ต่างให้ตัวเองอยู่เสมอ
“ก็เพื่อนพี่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึงรีจะไม่ให้พี่เลี้ยงส่งเค้าหน่อยหรือยังไงล่ะครับ?” คนตัวโตพูดพลางกุมขมับพร้อมนวดเค้นเบา ๆ คงจะเมาค้างสินะ ถึงเป็นอย่างนี้ ก็เมื่อคืนดื่มหนักซะขนาดนั้นนี่
“จะเลี้ยงส่ง หรือจะไปเที่ยวกลางคืนน่ะ ซึงรีไม่ว่าอะไรหรอกนะฮะ” ก่อนจะหยุดชั่วครู่ ถอนหายใจเบา ๆ ด้วยความเอือมระอานิด ๆ
“แต่พี่ก็น่าจะดื่มแต่พอดี ไม่ใช่ดื่มจนเมา แล้วก็มาเมาค้างตอนเช้าแบบนี้ อย่างน้อยพี่เทมป์ก็น่าจะคิดถึงซึงรีบ้างนะฮะ ว่าซึงรีเป็นห่วงพี่ขนาดไหน” คนตัวเล็กกว่า พูดจาอย่างอ่อนลงต่อคนตรงหน้า ด้วยความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
ก็ผมจะเป็นห่วงคนที่ผมรักมันผิดมั๊ยอ่ะ ไม่ผิดหรอกใช่มั๊ยฮะ...ใช่มั๊ยฮะ?
“พี่เข้าใจครับ ว่าซึงรีเปนห่วงพี่ แต่พี่โตแล้วนะ แล้วพี่ก็ไม่เป็นไรนี่ พี่อยู่ตรงหน้าซึงรีแบบนี้แล้วนี่ไงครับ” คนตัวโตตอบกลับคนตรงหน้า ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรซักเท่าใดนัก
“แล้วถ้าเกิดวันไหน พี่เทมป์มายืนอยู่ตรงหน้าซึงรีแบบนี้ไม่ได้ล่ะฮะ ซึงรีจะทำยังไง” เสียงใสของคนตัวเล็กกว่า เริ่มแฝงความรู้สึกโมโหคนตรงหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่เทมป์ไม่เคยฟังซึงรีซักอย่างเลยนะฮะ ทำตัวเป็นเด็กเล็ก ๆ ไปได้”
“แล้วใครกันที่บอกซึงรีว่าพี่เมากลับมาล่ะครับ หือ? แอบตามพี่ไปใช่มั๊ยซึงรี บอกพี่มาเดี๋ยวนี้นะ?”
คนตัวโต ถามกลับคนตัวเล็กตรงหน้า ด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์แฝงความเคลือบแคลงใจ
“กะ กะ ก็~ ก็ถ้า ” เสียงใสของคนตัวเล็กอึกอักอย่างผิดปกติจนคนที่ได้ฟังต้องจับผิดได้ในทันที
“ก็ถ้าพี่เทมป์ไม่เมา แล้วพี่เทมป์จะออกมาหาซึงรีช้าแบบนี้หรือฮะ คงจะเมาค้างจนลุกขึ้นมาไม่ไหวล่ะสิ ฮึ!!”
คนตัวเล็กสะบัดหน้าหนีสายตาเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้า แต่แก้มใส ๆ นั่นกลับแดงระเรื่อ ลุกลามไปถึงใบหูขาว ๆ จนทำให้คนที่ถามคำถาม เก็บเสียงแค่นหัวเราะไว้ในลำคอไม่ได้ น่ารักซะจริง ๆ เลยนะ ซึงรี
“หึหึ ”
“ขำอะไรพี่เทมป์ ซึงรีไม่ขำด้วยนะฮะ”
บ่นเข้าไป งอนเข้าไป ประชดประชันกันให้พอใจเถอะครับ!! อีซึงฮยอน ถึงนายจะทำอะไรก็ตามแต่ ยังไงซะ ‘เชวซึงฮยอน’ คนนี้ก็ไม่ฟังหรอกครับ เพราะคนอย่าง ‘อีซึงฮยอน’ น่ะ เวลาที่โกรธ เวลาที่ตั้งหน้าตั้งตางอน เวลาที่ประชดประชันกันน่ะ มันน่ารักน่าแกล้งมากแค่ไหน นี่ไม่เคยรู้ตัวบ้างเลยสินะ
น่ารักจนอดไม่ได้ที่จะกดสันจมูกโด่ง ๆ ลงไปที่แก้มสีระเรื่อนั้นหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้คนตรงหน้าพยายามหลบอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อื้อออ~ พี่เทมป์ ไม่ต้องเลยนะ ซีงรีกำลังถามพี่เทมป์อยู่นะฮะ ว่าพี่เทมป์ขำอะไรซึงรี ตอบมาเดี๋ยวนี้นะฮะ!!”
คนตัวเล็กหันกลับมาตวัดเสียงใส่ พร้อมกับยกมือขาว ๆ ขึ้นมาลูบไล้แก้มตัวเองที่ตอนนี้มันขึ้นสียิ่งกว่าตอนแรกซะอีก
“พี่ไม่ได้ขำ”
“โกหก! ก็เห็น ๆ กันอยู่ ว่าพี่เทมป์แอบขำซึงรีอ่ะ”
“จริงหรอ พี่ไม่เห็นรู้สึกตัวเลยว่าพี่กำลังขำซึงรีอยู่?” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ถามกลับ พร้อมกับดึงคนตรงหน้าเข้ามาในอ้อมกอดของตน ก่อนจะกดริมฝีปากเรียวสวยลงไปหลายต่อหลายทีบนแก้มใสที่ตอนนี้มันแดงก่ำซะจนถ้ามะเขือเทศมันพูดได้และมาเห็นเข้า มันก็คงจะยกธงขาวพร้อมประกาศยอมศิโรราบให้ไปแล้ว
“ฮื้อออ~ ไม่เอ๊า~ หยุดเลยน๊า~ พี่เทมป์ คนเจ้าเล่ห์ ชิ!!” คนตัวเล็กยังคงจะดื้อรั้น พยายามดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของคนตัวโต พร้อมคำพูดที่ค่อย ๆ แผ่วเสียงให้เบาในตอนท้ายประโยค จนคนที่เอาแต่ใจอยู่นั้นไม่ทันได้ยิน
ไม่ต้องเลยนะ ไม่ต้องเลย ไม่ต้องทำเสียงเจ้าเล่ห์แบบนั้นใส่ผม ไม่ต้องมาเห็นว่าผมน่ารักเลยนะ ถึงแม้ว่าความจริงแล้วผมจะน่ารักก็เถอะ ที่ผมพูดให้ฟังทั้งหมดนั้นน่ะ ก็เพราะว่ารักพี่เทมป์ เพราะว่าเป็นห่วงพี่เทมป์หรอกนะ ถึงได้พูดออกไป แต่นี่ไม่คิดจะรู้สึกบ้างเลยใช่มั๊ย ว่าคนเค้าเป็นห่วงขนาดไหนน่ะ
อ้อ!? หรือเพราะเห็นว่าผมน่ะรักพี่นักรักพี่หนา ถึงทำได้ใจกันซะขนาดนี้ ได้ใจเข้าไปเถ๊อะ อย่าให้ถึงเวลาของ อีซึงฮยอน คนนี้บ้างก็แล้วกั๊น~ ฮึ่ม~!! ยังไงผมก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอกนะ ‘พี่เทมป์’ ตาหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ในคราบหมูอ้วน!!
“ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว เราเลิกพูดถึงเรื่องนี้กันเถอะนะซึงรี เราไปเดทตามที่เรานัดกันไว้เถอะน่า เคยบอกพี่ไว้ว่าอยากไปเอเวอร์แลนด์ไม่ใช่หรือ?” เสียงทุ้มเบี่ยงประเด็น พร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่น กลบความหนาวเหน็บในฤดูแห่งคู่รัก
“ไปได้หรอฮะพี่เทมป์!! พี่เทมป์จะพาซึงรีไปจริง ๆ นะฮะ!!” คนตัวเล็กหันกลับมาตะโกนเสียงใสใส่
นี่ผมจะได้ไปเอเวอร์แลนด์ที่ผมพยายามอ้อนขอให้คนตัวโตตรงหน้าพาไปมาตลอดเวลาแล้วใช่มั๊ย นี่มันเรื่องจริงใช่มั๊ยฮะ ใครก็ได้ช่วยตอบให้ซึงรีแน่ใจทีฮะ มาหยิกแก้มขาว ๆ ใส ๆ ของซึงรีเลยก็ได้เอ้า จะได้ยืนยันว่าซึงรีไม่ได้คิดไปเองน่ะฮะ
“อู๊ยยย~ ไม่ต้องเสียงดังขนาดนั้นก็ได้ซึงรีอา” คนตัวโตพูดกับคนตัวเล็กที่ตอนนี้เอามือปิดปากแน่น ตกใจที่ตัวเองตะโกนเสียงใสออกไปดังขนาดนั้น ช่วยไม่ได้นี่นาก็คนมันดีใจนี่ คุณเอเวอร์แลนด์ฮะ ซึงรีจะได้ไปหาคุณแล้วนะฮะ
“ก็ถ้าซึงรีเลิกโกรธพี่แล้ว ไม่งอนพี่แล้ว พี่ก็จะพาซึงรีไป”
“ขี้โกงที่สุดเลย พี่เทมป์อ่ะ!!” เจ้าเล่ห์จริง ๆ เลย เอาเอเวอร์แลนด์มาหลอกล่อผมอ่ะ แล้วแบบนี้ผมจะไปโกรธพี่ได้ยังไง แค่เพียงเห็นบัตรเข้าสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ที่พี่เทมป์ถืออยู่ในมือทั้ง 2 ใบสะบัดเบา ๆ อยู่ตรงหน้าผม ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับคุณเอเวอร์แลนด์แล้วล่ะฮะ
“ซึงรีไม่โกรธพี่เทมป์แล้วฮะ” ในที่สุดก็ต้องยอมยกโทษให้พี่สินะ คิดหรือว่าจะชนะพี่เทมป์ที่แสนเจ้าเล่ห์คนนี้ได้น่ะ ถึงจะชนะพี่ได้มันก็ไม่ตลอดไปหรอกนะ เจ้าหมีแพนด้าเขี้ยวแหลมเอ๊ย~
“คราวนี้อะไรอีกล่ะฮะ?” คนตัวเล็กถามด้วยความสงสัยกับท่าทางของคนตรงหน้า ที่พองแก้มขึ้นมา พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ตัวเอง
“หอมแก้มพี่ด้วยสิครับ จะได้เป็นหลักฐานว่าซึงรีไม่โกรธพี่แล้วจริง ๆ น่ะ” นั่นไง ไอ้พี่เจ้าเล่ห์
เห็นใช่มั๊ยฮะทุกคน ผิดจากที่ผมบอกไว้มั๊ยล่ะฮะ ว่าคน ๆ นี้น่ะ เป็นหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ในคราบหมูอ้วนชัด ๆ เลย ถ้าผมเป็นคุณยายที่นอนอยู่ในกระท่อม ผมคงโดนงาบไปแล้วแน่ ๆ ดีนะที่ผมเป็นหนูน้อยหมวกแดงช่างสงสัย ผมรู้หรอกน่าว่าในคราบของหมูอ้วนนั่นน่ะ เนื้อในเป็นหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ที่จ้องจะงาบผมอยู่
แต่ถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างงั้นก็เถอะ บัตรเข้าสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ที่ปลิวไหว ๆ อยู่ตรงหน้ามันล่อลวงผมอยู่อ้ะ!! ทั้งไอ้พี่หมาป่าเจ้าเล่ห์ที่ถือบัตรอยู่ ทั้งบัตรที่ปลิวไหว ๆ อยู่ตรงหน้าผม แง~ ล่อลวงผมทั้งคู่เลย ใครก็ได้ช่วยอีซึงฮยอนคนนี้ด้วยเถอะฮะ โฮ~ TTwTT
“ว่ายังไง ซึงรีอา? ถ้าไม่ทำ ก็เท่ากับว่าซึงรีไม่ยอมหายโกรธพี่จริง ๆ แล้วเอเวอร์แลนด์ก็ ”
ฟอดดดดด~
ไม่ทันแล้วฮะ หนูน้อยหมวกแดงต้องยอมให้หมาป่าเจ้าเล่ห์งาบแล้วฮะ ฮือออ~ นายพรานฮะ นูน่าแสนสวยก็ได้ฮะ หรือใครก็ได้ฮะ มาจัดการหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ให้ซึงรีทีเถอะฮะ TTwTT
..............................
“พี่เทมป์ฮะ ขอบัตรทั้ง 2 ใบนั่นให้ซึงรีได้มั๊ยฮะ?” เสียงใสเอ่ยขอบัตรที่คนตัวโตถืออยู่ หลังจากที่ใช้มันผ่านเข้ามายังสวนสนุกเรียบร้อยแล้ว
“จะเอาไปทำอะไรหรือ ซึงรีอา?” คนตัวโตถามด้วยความสงสัย
“ซึงรีอยากเก็บเอาไว้น่ะฮะ อยากเก็บเอาไว้ดู เอาไว้นึกถึงเวลาที่เรามาด้วยกัน”
“พูดอย่างกะว่าเราจะห่างกันไปไหนอย่างนั้นแหละ?” เสียงทุ้มถามอย่างสงสัย ทำไมซึงรีถึงได้พูดอะไรแบบนี้กันนะ?
“พี่เทมป์ พี่คิดอะไรเนี่ย!! ก็รู้ทั้งรู้ว่าซึงรีรักพี่ขนาดไหน แล้วซึงรีจะจากพี่ไปไหนได้ยังไงล่ะฮะ !!” เสียงใส ๆของคนตัวเล็ก พูดแกมโมโห พูดอะไรกันนะพี่เทมป์ ไม่ได้คิดถึงหัวอกแพนด้าน้อยแสนน่ารักคนนี้ของพี่ซะมั่งเลย
“ซึงรีแค่อยากจะเก็บมันไว้เป็นที่ระลึกน่ะฮะ พี่ก็รู้นี่นา ทุกทีที่เราไปไหนด้วยกัน ซึงรีก็ขอบัตรจากพี่มาเก็บไว้ตลอด ที่จริงพี่เทมป์น่าจะให้ซึงรีเองด้วยซ้ำไป ซึงรึน่าจะไม่ต้องขอมันจากพี่แล้วด้วยซ้ำไปนะฮะ” คนตัวเล็กพูดอย่างแง่งอน คบกันมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว รู้นิสัยผมขนาดนี้แล้ว ยังจะต้องให้ผมเปิดปากขอบัตรเข้าสวนสนุกจากพี่อีกหรอ?
“เอาไว้กลับแล้วค่อยเอาไปก็ได้นี่นา เรายิ่งอยู่เฉยไม่เป็นอยู่ด้วย เกิดวิ่งไปวิ่งมาแล้วมันหล่นหายไปล่ะ”
“ก็เวลาของพวกนี้อยู่กับพี่ทีไร มันเคยอยู่ในสภาพเดิมที่ไหนล่ะฮะ ซึงรีก็เห็นมันยับทุกทีอ่ะ”
“โอเคครับ ๆ ถ้าคุณหนูซึงรีกลัวยับ อยากจะเก็บเองก็เชิญครับ คุณหนู” คนตัวโตยื่นบัตรให้ พร้อมกับยกยิ้มมุมปาก เฮ้อ ก็เป็นซะอย่างนี้ทุกที ทำไมถึงไม่เคยใจแข็งกับซึงรีได้ซักทีนะ
“ถ้าหายพี่ไม่สนด้วยแล้วนะ เราเป็นคนอยากจะถือไว้กับตัวเองนะซึงรี” คนตัวโตพูดเตือนคนตัวเล็ก จะมาโทษกันไม่ได้แล้วนะถ้าเกิดมันหายไป ในเมื่ออยากจะเก็บเอาไว้เอง ผมก็ยอมให้แล้ว
“เราจะไปโซนไหนกันก่อนดีล่ะฮะ พี่เทมป์?” คนตัวเล็กส่งสายตาเป็นประกายระยิบระยับให้คนตัวโตตรงหน้า โอ๊ย~ย นี่ไม่รู้ตัวเลยสินะว่าตัวเองทำท่าทางทำน้ำเสียงน่ารักขนาดไหนกัน ถ้าที่นี่เป็นคอนโดฯคงโดนจับกดจมเตียงไปแล้ว เจ้าแพนด้าเขี้ยวแหลมเอ๊ย
จ๊อกก~ โครกก~
“นั่น!! อาละวาดตั้งแต่เจอหน้ากัน เป็นยังไงล่ะ หิวแล้วล่ะสิ หือ?”
“แฮะ ๆ ก็ซึงรีอยากเจอพี่เทมป์ไว ๆ ก็เลยรีบออกมาจากบ้าน ยังไม่ทันได้ทานอะไรเลยนี่ฮะ” จริง ๆ นะ ไม่ได้อ้อนด้วย ก็ผมอยากเจอพี่เทมป์จริง ๆ นี่นา ไม่ได้เจอกันตั้งคืนนึงแน่ะ หลังจากที่แอบตามพี่เทมป์ไปงานเลี้ยงส่งเพื่อนไปต่างประเทศน่ะ อุ๊บบ~!! ซึงรีหลุดพูดอะไรออกไปรึเปล่าฮะ ทุกคนไม่ได้ยินใช่มั๊ย ไม่ได้ยินที่ซึงรีพูดใช่มั๊ยฮะ
ถ้าได้ยินก็ห้ามบอกพี่เทมป์นะฮะ เป็นความลับระหว่างเรา โอเคมั๊ยฮะ? XD
“งั้นเราไปโซนอาหารกันก่อน โอเคมั๊ยครับ?”
“เอาเลยฮะ!! ซึงรีอยากทานไอศครีม”
“มันใช่ที่ไหนล่ะซึงรีอา นั่นมันของหวานนะ จะไปอิ่มได้ยังไงกัน”
“ก็ซึงรีอยากทานจริง ๆ นี่ฮะ แล้วก็ทำไมมันจะไม่อิ่ม พี่เทมป์ก็ทานหลาย ๆ ลูกสิฮะ เดี๋ยวก็อิ่มเองล่ะน่า”
“ก่อนจะอิ่ม พี่ว่าท้องซึงรีจะเสียก่อนมั๊ยครับ หึม?”
คนตัวเล็กยิ้มแหย ๆ นั่นสินะ กว่าผมจะอิ่ม ผมก็คงท้องเสียก่อนล่ะมั้ง ก็ไอศครีมที่ผมชอบมันมีตั้งหลายรส ผมไม่ทานรสเดียวหรอกนะ อย่างอีซึงฮยอนน่ะ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องสามนั่นแหละถึงจะพอ!!
“ฮึมม~ งั้น เอาเป็นไก่ทอดก็แล้วกันนะซึงรีอา?”
“ของCKFนะฮะ ซึงรีชอบ ถ้าพี่เทมป์ซื้ออย่างของที่อื่นมา ซึงรีไม่ทานจริง ๆ ด้วยนะฮะ!!” ก่อนจะทุบโต๊ะเบา ๆ หลาย ๆ ครั้ง เหมือนเป็นการเร่งเร้าให้คนตรงหน้ารีบไปจัดการมาซะที
“คร๊าบ~ คร๊าบ ตามบัญชาคร๊าบ! คุณหนูซึงรีของผม” เสียงเจ้าเล่ห์พูดจาทำนองหมันไส้ ทำให้คนตัวเล็กหัวเราะร่าชอบใจที่ตัวเองแกล้งคนตัวโตได้
“เร็ว ๆ นะฮะ ซึงรีหิวจะแย่แล้ว”
“นั่งรอเฉย ๆ เถอะน่า ขยับมาก ๆ เดี๋ยวก็ยิ่งหิวหรอก”
ได้ยินดังนั้นก็หยุดขยับร่างกายโดยเปล่าประโยชน์ นั่งรอคนตัวโตที่กำลังเดินไปซื้อไก่ทอดให้ตัวเองอย่างแน่นิ่ง แต่ก็ยังคงไม่ลืมที่จะส่งสายตาไปหาแผ่นหลังของคนตัวโตอย่างไม่ปล่อยวาง ช่างเอาใจซะจริง ๆ น๊า~ พี่เทมป์ของผม
ไม่นานนัก คนตัวโตก็เดินกลับมายังโต๊ะตัวที่ซึงรีกำลังนั่งรออยู่ คนตัวเล็กถูมือเบา ๆ พร้อมเลียริมฝีปากเป็นนัย ๆ ว่า อยากจะทานไก่ทอดที่คนตัวโตถือมาเต็มแก่แล้ว
“เร็ว ๆ สิฮะพี่เทมป์!!”
“ไก่มันไม่หนีซึงรีไปไหนหรอกน่า!!”
“ก็ซึงรีหิวจะแย่แล้วนี่ฮะ โหย~ หอมชะมัดเลย” คนตัวโตวางถาดที่ใส่กล่องไก่ทอดลงบนโต๊ะ พร้อมทั้งจัดแจงจัดการทุกอย่างให้พร้อมสำหรับมื้ออาหารง่าย ๆ อย่างไก่ทอดที่คนตัวเล็กชอบนักชอบหนา
“จะทานล่ะนะฮะ อ้ามมมม~” ก่อนจะเริ่มจัดการอาหารตรงหน้าอย่างหิวกระหาย โดยไม่ลืมที่จะสนใจคนตัวโตตรงหน้าที่นั่งเฉย มองมาทางคนที่กำลังทานอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่ได้แตะต้องไก่ทอดตรงหน้า
“พี่เทมป์ ไม่ทานล่ะฮะ พี่ไม่หิวหรอ ?”
“พี่รู้สึกเสียด ๆ ท้องน่ะซึงรี ซึงรีทานไปเถอะนะ...”
“เมื่อวานทำแต่งานจนไม่ได้ทานข้าวอีกแล้วใช่มั๊ยฮะพี่เทมป์!!” เสียงใสเน้นคำหนักใส่คนตัวโตตรงหน้า
“ก็เมื่อวานพี่รีบเคลียร์งานให้เสร็จ เพื่อที่วันนี้จะได้ว่างทั้งวันพาเรามาเที่ยวแบบนี้ได้ กว่างานจะเสร็จมันก็ดึกมากแล้ว ไหนยังจะต้องไปงานเลี้ยงส่งเพื่อนไปต่างประเทศอีกนี่ครับ อย่าดุพี่ซี่...” คนตัวโตพูดเสียงออดอ้อน หวังจะให้คนตัวเล็กอ่อนลง
“อย่างนี้ทุกทีเลย พี่เทมป์ชอบทานอาหารไม่ตรงเวลา เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะจนได้หรอกฮะ” ไม่รู้ซะจริง ๆ เลยนะ ว่าตัวเองทำให้คน ๆ นึงเป็นห่วงกันถึงขนาดไหน “ชอบทำให้ซึงรีเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยพี่เทมป์อ่ะ!!”
ท่าทางของคนตรงหน้ากลับดูไม่ค่อยจะรับรู้นัก เห็นท่าทางแบบนั้นทีไรมันก็สกิดต่อมโมโหของผมทุกทีสิน่า
“หรือจะต้องให้ซึงรีไปหาพี่เทมป์แล้วลากไปทานมื้อกลางวันด้วยกันทุกวันนะ พี่ถึงจะยอมทานตรงเวลา?”
“ก็งานพี่มันเยอะนี่ ซึงรี”
“ถึงงานจะเยอะแค่ไหน พี่เทมป็ต้องห่วงตัวเองบ้างสิฮะ!!”
เฮ้อ!! อีซึงฮยอน จะน่ารักไปถึงไหนกันนะ แค่แกล้งทำเป็นไม่สนใจนิดหน่อย ก็พาลโกรธเคืองกันได้ง่าย ๆ ท่าทางแบบนี้น่ะ มันแปลว่ารักผมซะเต็มประดาเลยนะ ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกอยากจะแกล้งเข้าไปอีก
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นฮะ!!” คนตัวเล็กดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง
“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ... ถ้าพี่เทมป์ไม่ยอมทานมื้อกลางวันอีก ซึงรีจะฝากให้คุณเลขาโทรมาบอกซึงรี”
“โหย~ แค่นี้ก็ต้องให้โทรไปฟ้องด้วยหรือ ซึงรีอา~”
“ซึงรีจะให้คุณเลขาโทรบอก ... ถ้าพี่เทมป์ไม่ทานมื้อกลางวัน ซึงรีจะเป็นคนมาลากพี่เทมป์ไปทานเอง!!”
แค่คำพูดประโยคเดียว ถึงกับทำให้คนตัวโตยิ้มกว้างไม่หุบ
“ยิ้มอะไรฮะพี่เทมป์... นี่ซึงรีกำลังโมโหพี่อยู่นะฮะ!!”
ตกหลุมพรางกันอีกจนได้นะซึงรี ที่ผมแกล้งเอาเรื่องงานมาพูดบังหน้าก็เพื่อหวังว่าคนตัวเล็กอาจจะเป็นคนพูดว่าจะมาจัดการที่ผมไม่ยอมไปทานมื้อกลางวัน ที่จริงก็แค่นาน ๆ ทีเท่านั้นแหละที่ผมจะอยู่กับงานจนไม่ได้ทานมื้อกลางวันน่ะ นี่พูดซะอย่างกับว่าคนอย่าง ‘เชวซึงฮยอน’ จะชอบทำงานนักหนาอย่างนั้นแหละ?
ดูท่าว่าจากนี้ไป ผมจะต้องไปทานมื้อลางวันช้า ๆ คุณเลขาของผมจะได้โทรไปตามใครบางคนให้มาจัดการผมทุกวัน ๆ แล้วล่ะสิ
....................
หลังจากมื้อกลางวัน (ที่อาจจะรวมมื้อเช้าของใครบางคนเข้าไปด้วย) ผมก็ต้องพาเจ้าแพนด้าเขี้ยวแหลมของผมไปยังโซนสวนสนุกและเล่นสารพัดเครื่องเล่น จนกระทั่งมายืนรอที่จะต่อแถวขึ้นเล่นรถไฟเหาะจนได้ นี่ผมอุตส่าห์ยื้อเวลาเอาไว้ให้มาเล่นรถไฟเหาะนี่ช้าที่สุดแล้วนะ ไม่เอา!! ผมไม่อยากเล่น!!!
“พี่เทมป์ฮะ มาไว ๆ ซี่ ซึงรีอยากเล่นจะแย่อยู่แล้วนะฮะ”
“ให้พี่พักหน่อยไม่ได้หรือ ซึงรีอา พี่เหนื่อยนะ ลากพี่ไปเล่นเครื่องเล่นเยอะซะจนพี่เบลอไปหมดแล้ว”
“เพราะนอนไม่พอหรือฮะ? ก็แน่ล่ะสิเมื่อคืน พี่ไปเมามาซะขนาดนั้นนี่!!” ขอแว้งกัดด้วยเขี้ยวคม ๆ ของผมหน่อยเถอะนะ มันน่ามั๊ยล่ะ จะพาผมมาเองแท้ ๆ แต่กลับไปปาร์ตี้จนดึกดื่นเมื่อคืน
“หรือว่า มัวแต่ไปทำอะรับคนอื่นมาถึงไม่ได้หลับไม่ได้นอนฮะ?”
“ซึงรีอา~ อย่าใส่ร้ายพี่แบบนั้นซี่ พอพี่กลับมาจากปาร์ตี้ส่งเพื่อนแล้ว พี่ก็กลับไปนอนที่คอนโดเลยนะ”
“ไม่รู้นี่ฮะ ก็เห็นท่าทางพี่เทมป์เหมือนคนอดหลับอดนอนนี่นา” ก็มันน่าคิดมั๊ยล่ะฮะ ก็แค่ไปปาร์ตี้ส่งเพื่อนไปเรียนต่อแท้ ๆ ทำไมถึงได้มีนูน่าแสนสวยเต็มงานปาร์ตี้ก็ไม่รู้ นี่ถ้าผมไม่ได้ไปเห็น ผมก็คงไม่คิดมากหรอกฮะ สายตาของนูน่าทั้งหลายเมื่อคืน ที่จ้องพี่เทมป์ของผมกันอย่างไม่วางตาอย่างนั้นน่ะ ไว้ใจได้ซะที่ไหนกัน แต่จะให้ผมออกไปแสดงตัวว่าพี่เทมป์เป็นของผมก็ไม่ได้ซะด้วย ก็ผมแอบตามไปนี่ฮะ ขืนผมออกไปแสดงตัวพี่เทมป็รู้น่ะสิว่าผมตามไป
ก็เลยต้องแกล้งน้อยใจแบบนี้ดูท่าทีของพี่เทมป์ซะหน่อย
“พี่นอนเลย ไม่ได้ไปทำอะไรมาจริง ๆ นะ ซึงรีอา พี่สาบานเลยก็ได้เอ้า!!”
“ฮะ ๆ ซึงรีเชื่อฮะ ว่าไม่มีอะไร ซึงรีก็แค่พูดเล่นน่ะฮะ”
แก้ต่างเป็นพัลวันซะแบบนี้ แปลว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ พี่เทมป์ก็รักษาสัญญากับผมเหมือนกันนะ ที่บอกผมไว้ว่าจะรักษาระยะห่างจากพวกผู้หญิงอื่น ๆ นอกจากนูน่าที่ผมรู้จัก พี่เทมป์ก็ทำมันจริง ๆ น่ารักจริง ๆ เลยนะฮะ พี่เทมป์ของซึงรี
เอาล่ะ ๆ ผมว่าเรากลับมาเข้าเรื่องที่พี่เทมป์ไม่ยอมขึ้นไปเล่นรถไฟเหาะกับผมดีกว่านะฮะ ดูจากท่าทางของพี่เทมป์ตอนนี้แล้ว มันดูไม่เหมือนคนเหนื่อยเลยนะฮะ ซึงรีว่าดูเหมือนคนกลัวอะไรอยู่มากกว่าน่ะ
“หรือพี่เทมป์จะกลัว?”
“กลัวอะไร? มีหรือที่คนอย่าง ‘เชวซึงฮยอน’ จะกลัว!! กะอีแค่รถไฟเหาะน่ะ”
“ก็เห็นพี่เทมป์บ่ายเบี่ยงไม่ยอมขึ้นไปเล่นกับซึงรีดี ๆ ซักทีนี่ฮะ?”
“พี่ไม่ได้บ่ายเบี่ยงซักหน่อย พี่ก็แค่เหนื่อย แล้วก็อยากจะพักซักหน่อยเท่านั้นเอง” จะยอมฟังกันมั่งมั๊ยนะ อย่างน้อยก็ช่วยฟังกันซักหน่อยเถอะ ในชีวิตนี้ สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุด นอกจากการที่ซึงรีจะทิ้งผมไปนั้น ก็มีแค่ความสูงนี่แหละ ที่ทำให้คนอย่าง เชวซึงฮยอน กลัวได้ขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่อยากบอกกับซึงรีนี่นา มันน่าอายจะตายไป ทั้งที่ตัวโตขนาดนี้ แต่กลับมากลัวความสูงเป็นเด็ก ๆ แบบนี้น่ะ
“ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็บอกนะฮะพี่เทมป์ ซึงรีไม่เล่นก็ได้ เราไปทำอย่างอื่นแทนก็ได้นะฮะ?”
“ซึงรีอยากมาที่นี่ก็เพื่อจะเล่นรถไฟเหาะไม่ใช่หรือไง?”
“มันก็ใช่ฮะ แต่ถ้าพี่เทมป์เหนื่อยจริง ๆ เราไปเล่นอย่างอื่นก็ได้ ไปโซนสวนน้ำก็ได้นะฮะ”
“เราได้เอาชุดว่ายน้ำมาหรือไงกัน”
“งั้นก็ไปโซนสวนสัตว์?” ไม่ได้เล่นรถไฟเหาะก็ยังคงจะหาทางไปทำอย่างอื่นแทนอีกนะซึงรี
ผมเหลือบไปมองนาฬิกาข้อมือ นี่ 6 โมงเย็นแล้วหรือนี่
“มันเย็นมากแล้วนะ กลับบ้านกันเถอะนะ?”
“ถ้างั้น... พี่เทมป็นั่งรออยู่นี่นะฮะ แปปเดียวเท่านั้น เดี๋ยวซึงรีไปซื้อน้ำมาให้นะฮะ”
“ครับ!!”
ก็น่ารักซะขนาดนี้แหละน๊า อีซึงฮยอน ถึงได้อยากจะแกล้ง อยากจะอยู่ใกล้ ๆ กันแบบนี้ นี่ถ้าสามารถย่อขนาดตัวของซึงรีให้เล็กลงแล้วเอามาเก็บไว้ในกระเป๋าผมไว้ได้ก็คงจะดี จะได้ไม่มีใครเห็นความน่ารักของซึงรีแบบนี้ ดูสิ แค่วิ่งออกไปซื้อน้ำมาให้ผม ผู้คนรอบ ๆ ตัวยังมองกันเหลียวหลังกันซะขนาดนี้ อยากจะจับซึงรีย่อขนาดแล้วรีบเอากลับบ้านมันซะเดี๋ยวนี้ ให้มันรู้กันซะมั่ง ว่าซึงรีเป็นของผม แค่มองผมก็ไม่อยากให้มอง!!
“มาแล้วฮะ พี่เทมป์~” คนตัวเล็กพูดเสียงใสพลางยื่นขวดน้ำดื่มให้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“ขอบคุณครับ” คนตัวโตรับพร้อมกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหงุดหงิด ทำให้อดสงสัยไม่ได้ หงุดหงิดอะไรมากันนะ กับแค่ช่วงเวลาไม่กี่นาทีที่วิ่งไปซื้อน้ำมาให้
“เป็นอะไรรึเปล่าฮะพี่เทมป์?”
“หือ? พี่ไม่ได้เป็นอะไรนี่ครับ”
“แต่เสียงพี่เทมป์ มันดูหงุดหงิดนี่ฮะ โกรธอะไรซึงรีหรือเปล่า” นี่เขาโกรธที่ผมวุ่นวายรึเปล่านะ
“พี่จะโกรธซึงรีเรื่องอะไรล่ะครับ พี่ดีใจจะตายไป ก็ซึงรีอุตส่าห์ไปซื้อน้ำมาให้พี่นี่ครับ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ยิ้มสิฮะ ยิ้มให้ซึงรีหน่อยน่า นะฮะ น๊า~” พูดพลางยกยิ้มมุมปากให้คนตรงหน้า
เจอยิ้มแบบนี้เข้าไป ไอ้ความคิดหงุดหงิดของผมก็หายไปหมดเลยสิครับ จะหงุดหงิดคนอื่น ๆ หรือจะยิ้มให้คนที่ผมรักดี มันเลือกไม่ยากเลย ยังไงซะผมก็ต้องเลือกคนที่ผมรักก่อนล่ะครับ
“ยิ้มแบบนี้สิฮะ ถึงจะเป็นพี่เทมป์ของซึงรี” พูดพลางยกสองมือขึ้นรั้งใบหน้าของคนตรงหน้าไม่ให้หันไปไหน ก่อนที่จะแตะริมฝีปากเรียวบางลงไปที่ริมฝีปากของอีกคนหนึ่ง
คนตัวโตเองก็เจ้าเล่ห์ไม่หยอก ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสผ่านเลยไป รีบที่จะรั้งเอวเล็กลงมานั่งบนหน้าขา เพื่อไม่ให้อีกคนหนีไปไหนได้
“อ๊ะ!! พี่เทมป์ ปล่อยซึงรีนะฮะ” พูดพลางพยายามดันตัวออกจากอ้อมแขนของคนเจ้าเล่ห์
ฟอดดดดด~
“อ๋า~ พี่เทมป์ ต่อหน้าคนเยอะแยะนะฮะ พี่ทำอะไรเนี่ย” คนตัวเล็กตกใจ ยกมือขึ้นปิดแก้มข้างที่โดนสัมผัสเมื่อครู่ที่ตอนนี้มันขึ้นสีระเรื่อ น่ามองยิ่งกว่าตอนนี้ซะอีก
“เมื่อกี้ซึงรีเองก็ทำ มากกว่าพี่ซะด้วยซ้ำ ต่อหน้าผู้คนด้วย ยังไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่ครับ ?”
“นั่นกับนี่ มันไม่เหมือนกันนี่ฮะ ซึงรีก็แค่อยากจะแสดงความรักเฉย ๆ อ่ะ”
“พี่ก็แค่อยากจะแสดงความรักเฉย ๆ กับซึงรีเหมือนกันครับ” พูดพลางยกยิ้มให้คนตัวเล็กในอ้อมแขน ทำให้คนตัวเล็กที่ขวยเขินอยู่ก่อนนี้ยิ่งเขินหนักขึ้นอีก
ทำตัวน่ารักขนาดนี้ นี่ถ้าไม่ได้อยู่ในเอเวอร์แลนด์ล่ะก็ ป่านนี้เสร็จ ‘เชวซึงฮยอน’ คนนี้ไปถึงไหนต่อไหนแล้วครับ ถึงสมองจะแค่คิดเอาเปรียบคนตัวเล็กในอ้อมแขน แต่ร่างกายก็กำลังเอาเปรียบอยู่จริง ๆ กดปลายจมูกลงบนแก้มใสของคนตรงหน้าหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้คนในอ้อมแขนต้องร้องขัดใจขึ้นมาเบา ๆ
“อื้อออ~ รู้แล้วฮะ ซึงรีรู้แล้ว ปล่อยซึงรีซักทีเถอะฮะ ซึงรีเขินจะแย่อยู่แล้ว~” ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุดออกจากอ้อมแขนแข็งแรงและอบอุ่นนี่ซักที จะทำยังไงถึงจะหลุดเนี่ย อายจะแย่อยู่แล้ว
คว่ากกกกก~
เอ๋!! เสียงอะไรน่ะฮะ เสียงเหมือนกับอะไรซักอย่างขาดเลยอ่ะฮะ เสียงเหมือนกระดาษ กระดาษ? อ๊า!! บัตรผ่านเข้าสวนสนุกของซึงรีล่ะฮะ อยู่ไหนล่ะ อยู่ไหน อย่าบอกนะว่า....
“อะไรหรือ ซึงรี?” คนตัวโตสงสัยคนในอ้อมแขนที่ลุกลี้ลุกลน หาบางสิ่งบางอย่างจากร่างกายของตัวเอง ควานหาอะไรหนักหนานะซึงรี แค่โดนกอดแค่นี้ มันไม่สึกหรอหรอกน่า
“บัตรผ่านเข้าสวนสนุกน่ะสิฮะ ซึงรีเอาไปไว้ไหนก็ไม่รู้”
“อยู่ในกระเป๋าเสื้อตัวนอกของเราไม่ใช่หรือไงกัน?”
คนตัวเล็กรีบล้วงเข้าไปหยิบขึ้นมาดูว่าบัตรผ่านเข้าสวนสนุทั้ง 2 ใบนั้น ยังอยู่ในสภาพปกติหรือไม่
“อ๋า!! บัตรขาดอ่ะฮะ พี่เทมป์!!” พูดพลางชูบัตรผ่านเข้าสวนสนุกทั้ง 2 ใบ ที่ตอนนี้มันขาดวิ่นจนแทบจะแยกออจากันได้ ให้คนตัวโตตรงหน้าดู พร้อมกับชักสีหน้าบึ้งตึงใส่
“เพราะพี่เทมป์นั่นแหละ!!”
“อ้าว? ไหงมาลงที่พี่แบบนี้ล่ะครับ”
“ก็ถ้าพี่เทมป์ไม่ทำให้ซึงรีดิ้นหนีพี่แบบนั้น มันคงไม่ขาดหรอกฮะ” เปลี่ยนจากสีหน้าบึ้งตึงเป็นเศร้าสลด เบะปากซะจนคนตัวโตตรงหน้ากลัวว่าคนตัวเล็กจะต้องร้องไห้ออกมา
“เพราะพี่เทมป์นั่นแหละ ฮึ่ก!!”
งานเข้าแล้วไงครับ ‘เชวซึงฮยอน’ แพนด้าน้อยเขี้ยวแหลมของผมจะร้องไห้จริง ๆ แล้ว จะทำยังไงดีล่ะ คิดสิ คิด!! อย่าให้ซึงรีร้องไห้ออกมาเด็ดขาดเลยนะ ไม่อย่างงั้นผู้คนรอบ ๆ จะต้องส่งสายตาตำหนิติเตียนมาที่ผมแน่ ๆ เลย ที่ไปทำให้แพนด้าน้อยเขี้ยวแหลมแสนน่ารักตรงหน้านี่ร้องไห้ขึ้นมา
“ซีงรี”
“ ”
“ซึงรีครับ”
“
.”
“ซึงรีอา พี่เทมป์ขอโทษ~” น้ำเสียงสำนึกผิดพูดพลางโอบกอดคนตรงหน้า เพื่อหวังจะปลอบใจ
“ฮึ่ก!! ไม่เอาแล้ว ซึงรีไม่สนแล้ว!!”
“พี่ไม่ได้ตั้งใจนี่ครับ ซึงรีอา~” จะทำยังไงดีล่ะทีนี้ เวลาที่คนๆนี้เป็นแบบนี้น่ะ เคยฟังอะไรซะที่ไหนล่ะ ไม่แม้แต่จะฟังคำแก้ตัว คำขอโทษ หรือแม้แต่คำปลอบประโลมด้วยซ้ำไป
“พี่ขอโทษ~ ขอโทษนะครับคนดี” ว่าพลางกระชับอ้อมแขนโอบกอดคนที่ซบหน้าสะอื้นบนอกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่าย ๆ ไม่มีแม้แต่จะเงยหน้ามามองกันด้วยซ้ำ จะโกรธผมขนาดไหนก็ตามใจ ผมยอมรับผิดทุกอย่างเลย แต่ช่วยเงยหน้ามามองกันหน่อยได้มั๊ย เล่นไม่มองหน้าผมแบบนี้ผมจะอ้อนขอให้ยกโทษให้ผมยังไงได้
ฮึ่ก!! ฮือ~
เสียงสะอื้นค่อย ๆ เบาลง พร้อมกับแรงดันตรงหน้าอกที่ทำให้ผมรู้ว่าคนในอ้อมแขนกำลังพยายามหยุดร้องไห้ และพยายามจะผลักผมออก
“ซึงรีอา~ ไม่เอาน่า พี่ก็ขอโทษแล้วไงครับ”
“ฮึ่ก! ซึงรีเสียดายมันฮะ” ก็มันน่าเสียดายจริง ๆ นี่ฮะ บัตรเข้าสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ที่ผมอ้อนขอให้พี่เทมป์พามาตั้งนานแสนนานว่าจะยอมพาผมมา ผมอุตส่าห์จะเก็บเอาไว้แทนความทรงจำในวันนี้
“หรือซึงรีไม่รักพี่เทมป์แล้ว? ถึงไม่ยอมยกโทษให้พี่ ถ้าอย่างงั้น เราจะเลิกกันก็...”
“ไม่นะฮะ! ซึงรีไม่เลิก!! ยังไงซึงรีก็ไม่เลิกกับพี่เทมป์!!!” ยังไม่ทันที่คนตัวโตจะพูดได้จบประโยค เสียงใสก็ขัดขึ้นทันที
“ก็ซึงรีโกรธ ที่พี่ทำบัตรขาด” พูดแล้ว็ก้มหน้า คอตก แสดงทีท่าน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด
“ซึงรีไม่ได้โกรธนะฮะ ซึงรีแค่เสียใจ เสียดาย ที่บัตรมันขาดเท่านั้น”
“แต่ซึงรีบอกว่าเป็นเพราะพี่นี่ บัตรมันถึงได้ขาดน่ะ”
“อึ่ก!! น่ะ...นั่น
ซึงรีก็แค่พาลน่ะฮะ ซึงรีขอโทษนะฮะ”
“.....”
“พี่เทมป์~”
“
.”
“ที่รักฮะ!!” คนตัวเล็กพูดพลางยกสองมือขึ้นรั้งหน้าของคนตัวโตขึ้นมามองตากัน ผมไม่ได้โกรธอะไรพี่เทมป์ซักหน่อย ก็บอกแล้วไง ว่าผมแค่พาลเท่านั้นเอง พี่เทมป็น่าจะรู้นิสัยของผมดีนี่นา แต่เล่นทำหน้าแบบนั้นผมก็รู้สึกผิดสิฮะ
“น้อยใจซึงรีหรอฮะพี่เทมป์?”
“ก็ซึงรีโกรธพี่”
“ซึงรีไม่ได้โกรธนะฮะ โธ่~ พี่เทมป์ พี่ก็เป็นแบบนี้ทุกที พอคิดว่าตัวเองผิดหน่อยพี่ก็พูดว่าจะเลิกกับซึงรี”
“ก็...”
“ไม่มีก็อะไรทั้งนั้นแหละฮะ พี่เทมป์รู้ไว้เลยนะฮะ ทุกครั้งที่ซึงรีเป็นแบบนี้ ซึงรีก็แค่อยากให้พี่เทมป์ปลอบใจ ซึงรีก็เท่านั้นเอง” สายตาที่จ้องมองอย่างไม่ละวาง ส่งความรู้สึกจริงจังไปให้หวังจะทำให้อีกคนเข้าใจความรู้สึกตอนนี้
“ ..”
“พี่เทมป์เชื่อใจกันบ้างสิฮะ ทำไมถึงชอบพูดว่าจะเลิกกันนักนะ ก็รู้แก่ใจแท้ ๆ ว่ายังไงซึงรีก็ไม่เลิก”
“
.”
“ซึงรีมีพี่เทมป์คนเดียว ซึงรีรักพี่เทมป์คนเดียวนะฮะ เชื่อใจซึงรีเถอะนะฮะ” ว่าพลางซุกหน้าเข้ากับอกอุ่นของคนตัวโตตรงหน้าอย่างออดอ้อน
“ยังไงซึงรก็มีแค่พี่เทมป์คนเดียว อย่าพูดออกมาอีกนะฮะว่าจะเลิกกัน”
“แต่บัตรเข้าสวนสนุกที่ซึงรีอยากเก็บไว้มันขาดไปแล้วนะ”
“จะขาดหรือจะหาย จะเป็นยังไงก็ช่างมันแล้วฮะ ตอนนี้พี่เทมป์ของซีงรึสำคัญที่สุด!!”
โอ๊ย~ย!! ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะซึงรี แล้วอย่างนี้จะให้ผมเลิกกับซึงรีจริง ๆ ได้ยังไงล่ะ ผมก็ใช้คำพูดนี้ทุกทีนั่นแหละ เวลาที่ผมง้อต่อไม่ไหวน่ะ เพราะมันมักจะได้ผลอยู่เสมอ ซึงรีของผมจะเลิกโกรธผมทันทีเลยล่ะ
“แน่นะว่าไม่โกรธพี่?”
“แน่ฮะ”
“ถ้างั้นก็ต้องทำให้พี่มั่นใจก่อน ว่าไม่โกรธพี่แล้วจริง ๆ น่ะ”
“ทำยังไงล่ะฮะ?” คิดอะไรเจ้าเล่ห์อีกแล้วสินะพี่เทมป์ ซึงรีว่ายังไงก็หนีไม่พ้นขอ เรื่อง... เอ่อ... เรื่องอย่างนั้นน่ะ!! แน่ ๆ เลยอย่างพี่เทมป์น่ะ ไม่คิดแค่หอมหรือจูบแน่ ๆ ล่ะ แต่กลับกันคนตรงหน้ากลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ
“จูบพี่ก่อน พี่ถึงจะเชื่อ” เสียงเจ้าเล่ห์ของคนตัวโตพูดพลางหลับตาพริ้ม รอรับจุมพิตจากเจ้าชายแพนด้าตรงหน้า
“เจ้าเล่ห์ที่สุดเลย พี่เทมป์น่ะ!!” แต่ก็ต้องยอมทำตามอย่างว่าง่ายล่ะนะ ไม่งั้นพี่เทมป์ก็คงไม่เชื่อซึงรีแน่ ๆ
จุ๊ฟ!!
“ทีนี้ก็เลิกโกรธ เลิกน้อยใจซึงรีได้แล้วนะฮะ”
“ครับผม พี่ไม่โกรธ ไม่น้อยใจแล้วครับ”
เห็นมั๊ยล่ะครับว่าผลที่ได้น่ะ มันดีกว่าการไปนั่งง้อซะอีก ไม่ใช่แค่ซึงรีจะหายโกรธผมอย่างเดียว แต่ผมลับได้กำไรด้วยซ้ำไป ซึงรีของผมยอมทำตามอย่างว่าง่าย ในสมองคงคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วสินะ ว่าผมจะเจ้าเล่ห์เอาแต่ใจกันถึงขนาดไหน ไม่ต้องห่วงหรอกนะ สิ่งที่ซึงรีกำลังคิดอยู่น่ะ ยังไงซะ ‘เชวซึงฮยอน' คนนี้ไม่ยอมปล่อยให้พลาดไปอยู่แล้ว!! แต่ไม่ใช่ที่นี่ ผมไม่ได้ระงับความรู้สึกไม่ได้ถึงขนาดนั้นซักหน่อย อย่างน้อยก็ต้องเป็นที่ห้องของผมนั่นแหละ ที่ผมจะยอมปล่อยให้ซึงรีร้องเสียงหวานอยู่ใต้ร่างผมน่ะ
“กลับบ้านกันเถอะนะ”
“ฮะ!! กลับเถอะฮะ...”
ยังไม่ทันที่จะได้ลุกไปยังที่จอดรถ เสียงใสก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“อ๊ะ!!”
“อะไรอีกล่ะ ซึงรี?”
“ซึงรีลืมไปน่ะฮะ ว่าวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลย... ซึงรีขอไปค้างที่คอนโดฯพี่เทมป์ได้มั๊ยฮะ?”
นี่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวกันนะ อีซึงฮยอน พูดจายั่วยวนกันแบบนี้น่ะ อย่างนี้ต้องพูดให้รู้ตัวกันซะหน่อยล่ะมั้ง?
“รู้ใช่มั๊ย ว่าถ้าจะค้าง เราต้องเจอกับอะไรบ้างน่ะซึงรีอา~”
“อ่ะ เอ่อ...” นั่นไง ผมคิดไม่ผิดจริง ๆ ด้วย ว่าหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ต้องคิดอะไรมากกว่าจูบจริง ๆ
“งั้นซึงรีกลับไปนอนที่บ้านดีกว่า พี่เทมป์ไปส่งซึงรีด้วยนะฮะ” ก่อนจะรีบลุกเตรียมจะไปขึ้นรถ
หมับบบบ~
ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะเดินออกไป ถูกคว้าแขนแล้วฉุดระชากอย่างเบามือให้เดินตามคนตัวโตไปที่รถทันที
“บอกว่าจะค้างก็ต้องค้าง แล้วที่บ้านซึงรีก็ไม่มีใครอยู่ด้วยนี่” เสียงเจ้าเล่ห์ของคนตัวโตที่ฟังแล้วยิ่งรู้สึกว่าเจ้าเล่ห์กว่าทุกครั้ง ปฎิเสธคำขอของคนตัวเล็กที่ให้พาไปส่งบ้าน
“เตรียมตัวเตรียมใจไว้ด้วยล่ะ ซึงรีอา~”
“ ”
โฮฮฮ~ ไม่น๊า!! ผมไม่น่าไปพูดจายั่วยวน (รึเปล่า?) แบบนั้นเลย ให้ตายสิ!! จะทำยังไงดี คืนนี้แพนด้าตัวน้อยของนูน่าทั้งหลายได้ร้องหงิง ๆ เป็นลูกหมาแน่ ๆ
นูน่าแสนสวยคร๊าบ~ นายพรานคร๊าบ~ มาช่วย อีซึงฮยอน จากหมาป่าเจ้าเล่ห์ด้วยเถอะคร๊าบ~ TTwTT
ผลงานอื่นๆ ของ SweetKIssVanilla ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ SweetKIssVanilla
ความคิดเห็น