คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ขอบคุณ
8
ขอบคุณ
“แมตตี้ไม่เข้าใจว่าจะพายัยนี่มาให้เกะกะทำไม”ฉันว่าเธอมากกว่าที่เกะกะในสายตาโรม
“เธอต้องทำความรู้จักกับพวกไอวินซักหน่อย”โรมพูดอย่างเจ้าเล่ห์และมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่นัดกับเพื่อนไว้นั่นก็คือ ผับที่ฉันเจอกับโรมนั่นเอง ตอนนี้เป็นเวลา1ทุ่มตรงเริ่มมีผู้คนมากมายลื่นไหลเข้ามาในผับแห่งนี้และโรมก็ลากฉันไปยังโต๊ะของเพื่อนเขา โดยมีแมตตี้คอยติดแจโรม
“ไงวะไอโรมพาสาวมาตั้งสองคนเชียว”= [] = ช็อก นั่นมัน….
“นี่มินตราแฟนฉัน นี่แมตตี้”โรมบอกชายคนนั้นที่ทักมาแต่ตอนนี้เขาก็ช็อกไม่ต่างจากฉัน
“ยัยตัวแสบ”ชายคนนั้นพูดขึ้น ใช่แล้วชายคนนั้นที่ฉันเคยเอาข้อมูลองกรชิชิลมา (อยู่ในบทนำ)
“นี่แกรู้จักแฟนฉันด้วยหรอวะ”
“แฟน”ชายคนนั้นทวนคำพูดของโรมอีกครั้ง ฉันเลยเงียบไว้ก่อนดีกว่า
“ฉันยังไม่ได้สะสางเรื่องวันนั้นเลยนะ เล่นเอาฉันมึนไปหมด”ชายคนนั้นพูดอีกครั้ง
“สะสางไรวะ”โรมถาม ฉันเลยยอมบอกความจริงผู้ชายคนนั้นไป เหมือนเขาจะแอบเคืองนิดๆนะแต่ชั่งเถอะ แต่ฉันไม่ได้บอกเรื่องโรม บอกแค่เล่นสนุกเฉยๆ
“งั้นเรามาเล่นเกมส์กันดีกว่า”วินพูดขึ้น เขาก็คือชายคนดังกล่าวนั่นแหละ
“เกมส์ไรวะ”และนี่คือเสียงของ เอ็ดการ์ ผู้ชายคนนี้หล่อมากถึงมากที่สุด ฉันไม่รู้ว่าโรมไปหาเพื่อนหล่อแบบนี้ที่ไหนกัน
“เกมส์นี้มีชื่อว่า ถามมาตอบไป เล่นง่ายๆถ้าฉันหมุนขวดเบียร์ไปตรงที่ใคร ฉันจะถามคำถามได้ทุกคำถามที่อยากรู้ แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ตอบเราสามารถลงโทษโดยการทำอะไรก็ได้ที่เราสั่ง”วินหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับฉันอย่างมีเลศนัย เพื่อนแต่ละคนของโรมรวมถึงเขาจะมีซักคนมั๊ยที่ไว้ใจได้ อาจจะมีคนนึงนั่นก็คือเอ็ดการ์ไงล่ะ เกมส์ดำเนินมาเรื่อยๆจนถึงตาวินที่จะต้องหมุน และเมื่อขวดเบียร์จอดสนิท ปากของมันก็มาจ่อที่ฉัน เวรกรรม
“เอาล่ะยัยตัวแสบฉันขอถามเธอว่า เธอชอบอะไรในตัวไอ้โรม ทั้งที่วันนั้นฉันก็ยอมเธอ”อ๋อ ที่แค้นนี่เพราะฉันไม่เลือกเขางั้นหรอ ชั่งเป็นคนที่มีเหตุผลสิ้นดี
“ฉันขอเลือกไม่ตอบ สั่งอะไรก็สั่งมา”ฉันปัดรำคาญด้วยการไม่ตอบ ขืนตอบอะไรที่ไม่ใช่ตัวโรม คนซวยจะเป็นฉัน
“ก็ได้ฉันขอสั่งให้เธอจูบกับไอ้…การ์”วินพูดขึ้นและแสยะยิ้มอย่างน่าสยดสยอง นายนี่มันร้ายกาจกว่าที่ฉันคิดเยอะเลยนะ นายวิน
“เฮ้อ”เอ็ดการ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความเจ้าเล่ห์ของเพื่อนตัวเอง และเดินอ้อมโลกมาทางฉัน เขาค่อยโน้มหน้ามาใกล้ๆฉัน และประทับริมฝีปากลงมา แต่…มันไม่ใช่ปากฉัน โรมเข้ามาแทรกในขณะที่เอ็ดการ์กำลังจะจูบฉัน ทำให้เขาถูกจูบแทน ช็อกคาที่เลยฉัน และเมื่อเอ็ดการ์และโรมได้สติก็ผละออกจากกันโดยเร็ว
“เอ่อ ฉันควรจะจิ้นพวกแกมั๊ยเนี่ย แบบชายรักชายน่ะ”วินพูดในขณะที่เขาเองก็ช็อกไม่ต่างจากฉัน ทั้งเอ็ดการ์และโรมต่างก็แค้นแต่ไม่ได้แค้นกันเอง แค้นวินต่างหาก
“ไอ้วินฉันจะฆ่าแกซักวัน”โรมพูดขณะถูปากตัวเองแรง เอ็ดการ์เองก็เช่นกัน ถึงจะช็อกแต่โรมก็ช่วยฉันไว้
“ฉันว่าเราแยกย้ายกันดีกว่าว่ะ เดี๊ยวฉันจะได้รุมคนก็ตรงนี้แหละ”เอ็ดการ์พูดขณะส่งสายตาอาฆาตไปหาวิน
“เออว่ะ เดี๊ยวฉันจะไปช่วยแกรุม”โรมเสริม
“-0-อะไรวะ ถ้าไอ้โรมไม่เข้าไปขวางป่านนี้ก็ไม่ต้องจูบกับไอ้การ์ไปนานแล้ว ส่วนถ้าไม่มีไอ้โรมไปขวางป่านนี้ไอ้การ์ก็ขึ้นสวรรค์กับรสจูบของแม่ตัวแสบไปแล้ว”วินบ่น
“ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยจูบนาย นายรู้ได้ไงว่าจูบของฉันมันรสเลิศ-_-”
“ก็ดูไอ้โรมออกจะหวงกับรสจูบของเธอซะขนาดนั้น ฉันก็พอจะเดาได้”
“แมตตี้ไม่ชอบให้โรมทำแบบนี้เลยนะคะ ทำไมโรมต้องปกป้องยัยนั่นด้วย”แมตตี้โวยวายแล้วควงแขนโรมแบบเป็นเจ้าของ
“ฉันว่าวันนี้ฉันเมาแล้ว อยากกลับฉันขอตัว”ฉันเดินออกไปขณะมีโรมและแมตตี้ตามหลังมาและโรมก็เดินมา เรียกว่าวิ่งก็ได้ทำให้แมตตี้ตามมาไม่ทัน
“โรมคะรอแมตตี้ด้วยสิคะ”แมตตี้โวยวายอีกครั้งแล้วหยุดเดิน
“แมตตี้หาทางกลับเองนะ วันนี้ฉันไม่กลับบ้าน”โรมพูดในขณะที่เดินตามฉันมา
“หมายความว่ายังไงคะโรม>o<”โรมไม่ฟังที่ยัยนั่นพูดแล้วลากฉันไปขึ้นรถแทน
ล้อรถค่อยเคลื่อนที่ และโรมเองก็มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ ฉันทำอะไรผิดล่ะเนี่ย
“ขอบคุณ”ฉันพูดในขณะที่มองวิวนอกหน้าต่างเช่นเคย
“ขอบคุณหน้าต่างทำไม-_-”เขาถามเสียงเรียบแกมประชด
“นายรู้ความหมายของฉัน อย่ามาแอ๊บโง่”อุ๊ย แรงไปรึเปล่า
“เธอต้องชดใช้ที่ทำให้ฉันต้องจูบกับไอ้การ์”เขาพูดแล้วหันมามองฉัน
“ก็ขอบคุณไปแล้วไง แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้นายต้องมาจูบกับผู้ชาย”
“ไม่ยกโทษเธอต้องจูบฉันกลับ ฉันถึงจะยกโทษให้”เขาไม่พูดเปล่า จอดรถจนหัวฉันเกือบทิ่ม
“ชิ นายนี่ยุ่งจรงิๆ”ฉันค่อยยื่นหน้าไปหาเขา แล้วเขาเองก็หันมา และเมื่อริมฝีปากของเราทั้งสองประกบกัน ใจฉันก็เต้นแรงผิดจังหวะ เขาจูบฉันเป็นเวลานานสองนาน
“ก็จูบของเธอมันน่าคลั่งใคล้ซะขนาดนี้ใครจะอยากให้คนอื่นได้สัมผัสมันกันล่ะ”เขาพูดแล้วใช้มือหนาเชยคางฉัน แล้วประทับจูบมาอีก แต่คราวนี้มีสัมผัสประหลาดที่ปลายลิ้น ซึ่งนั่นหมายถึงอะไรคงไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ ปลายลิ้นอุ่นๆของเขาที่กำลังซุกซนในปากของฉันกำลังทำให้ฉันเคลิ้มไปกับเขา
“ฉันอดไม่ไหวแล้วนะ”เขาพูดแล้วบดขยี้ปากของฉันอย่างเมามัน ที่ๆเขาจอดนั้นเป็นถนนเปลี่ยวจึงไม่มีผู้คน มันชั่งเข้าทางเขาจริงๆ ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถหยุดผู้ชายคนนี้ได้แล้ว ฉันจึงตอบรับความต้องการของเขาด้วยการรุกเร้าการจูบกับเขากลายมาเป็นจูบของเรา
“คุณนั่นแหละที่ทำให้ฉันอดไม่ไหว”ฉันตอบเขาแล้วจูบย้ำเขาอย่างทะนุถนอม กระหาย โหยหา ต้องการ เขาเริ่มคลอเคลียที่บริเวณอกของฉัน โดยการใช้จมูกโด่งๆของเขาคลอเคลียบริเวณร่องอก เห็นฉันไม่ว่าได้ใจเลยนะ เขาทั้งหอมทั้งจูบตามร่องอกของฉันแล้วค่อยๆเอาใบหน้าของเขามาซุกตรงร่องอกของฉัน เขาค่อยๆใช้มือรูดซิบข้างหลังของฉันแต่เขาไม่ได้ถอดมันออกหรอก เขาจึงใช้มือลูบไล้ที่หลังของฉัน ขณะที่ปากของเขายังง่วนอยู่กับร่องอกของฉัน
“ฉันชอบแบบนี้จริงเลย”เขาพูดขณะที่เอามือปลดสายชั้นในของฉัน
“โรคจิตแล้วนะนาย”ฉันพูดขณะยอมให้เขาทำทุกอย่างที่อยากทำ
“โรคจิตแล้วทำไม ก็คนมันห้ามใจไม่อยู่นี่”เขาพูดแกมประชดและแดกดันฉัน เขาค่อยใช้มือแทรกชุดของฉันที่เขารูดซิบออก แล้วลูบไล้ตามหลังของฉัน แล้วค่อยยื่นหน้ามาจูบฉันอีกครั้ง
“ฉันว่าเราพอแค่นี้ดีกว่า”เมื่อฉันได้สติ ฉันก็คว้ามือที่ซุกซนของเขาออก แล้วเอาหน้าขาวเนียนของเขา ออกจาหน้าอกของฉัน แล้วจัดการตัวเองให้เรียบร้อย
“เธอนี่มันใจร้ายไม่มีใครเกินจริง”เขาพูดขณะขับรถออกไป
“ฉันถือว่าครั้งนี้ทำไถ่โทษ”ฉันพูดขณะที่พยายามจะรูดซิบขึ้น
“มันรูดยากขนาดนั้นเลยหรอ”เขาถามแล้วจอดรถ
“มันไม่ง่ายเหมือนตอนที่นายรูดลงหรอกย่ะ”เขาจับฉันพลิกหลัง แล้วประทับจูบลงที่หลังของฉัน แล้วรูดมันขึ้นให้
“ฉันถือว่าเมื่อกี้เป็นค่าตอบแทนที่ให้ฉันรูดซิบให้”เขาพูดแล้วยิ้มอย่างมีความสุข นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าเคลิ้มปล่อยใจให้ผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายเจ้าเล่ห์
ความคิดเห็น