ความลับที่ซ่อนอยู่กลางเส้นขนาน - ความลับที่ซ่อนอยู่กลางเส้นขนาน นิยาย ความลับที่ซ่อนอยู่กลางเส้นขนาน : Dek-D.com - Writer

    ความลับที่ซ่อนอยู่กลางเส้นขนาน

    ผู้เข้าชมรวม

    162

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    162

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 มี.ค. 50 / 15:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ความลับที่ซ่อนอยู่กลางเส้นขนาน

       

                           เทศกาลรับน้องได้เกิดขึ้นในมาหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งทุกคนต่างก้อเป็นน้องใหม่ แต่มีชายคนนึงมีชื่อว่า "นะ" ที่เขาเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งเพื่อนๆทุกคนต่างพากันรังเกียจ ไม่กล้าทำกิจกรรมด้วย แต่พอไม่นานเขาได้เจอกับฉันคนนี้ เขาขอให้ฉันช่วยแนะนำในการลงทะเบียน เราเริ่มสนิทกัน เขาเป็นคนมีปัญหา ทุกครั้งที่เขาเครียด เขามักจะเดินมาปรึกษาฉันอยู่เสมอ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องคุณแม่บุญธรรมของเขา เขาเล่าให้ฉันฟังว่า ( เมื่อครั้งตอนเป็นพระศึกมาใหม่ เขาก้อกลับมาอยู่ที่บ้าน แต่เนื่องจากที่บ้านเป็นพวกที่ไม่ค่อยสนใจในด้านความรักความเข้าใจ ดูแลเอาใจใส่ในครอบครัวสักเท่าไหร่ เขาจึงหันไปปรึกษาคุณป้าคนหนึ่งที่โรงเรียนที่เขาเพิ่งเข้าไปศึกษา ซึ่งป้าคนนั้นเขาขายอาหารอยู่ที่โรงเรียนของเขา ป้าคนนั้นเองเขาก้อเคยมีลูกชาย 1 คน แต่เขาผลัดเกิดอุบัติเหตุ เลยแท้ง แต่เขารู้สึกว่าถูกชะตากับเด็กผู้ชายคนนี้เหลือเกิน เขาจึงให้คำปรึกษาและเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมในที่สุด ทุกๆวัน นะ จะต้องไปช่วยแม่บุญธรรมคนนี้ขายของและไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนเกิดความรักเละผูกพันระหว่างแม่กับลูก

                        จนกระทั่งวันหนึ่ง นะ ได้จบการศึกษาจากมัธยมที่เรียนอยู่ แล้วสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากต้องมีการรับน้องบ่อยๆ นะจึงกลับไปบ้านด้วยความเพลียเผลอหลับไปทุกครั้ง จนแม่บุญธรรมเกิดการน้อยใจที่นะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ไม่เคยสนใจท่านเลย ไม่เคยคิดแม้แต่จะโทรหา เลยเกิดการทะเลาะกันระหว่างสองแม่ลูก ท่านไม่ยอมเข้าใจ ท่านคิดเหตุผลตัวเองเป็นใหญ่ กล่าวหานะว่าติดเพื่อนใหม่เลยไม่สนใจท่าน ปัญหาทั้งหมดเลยทำให้นะเครียดและมาปรึกษาฉัน) นะเองคิดว่าอ้อเป็นที่พึ่งสุดท้าย เป็นเพื่อนคนเดียวที่ดีกับเขา นะเป็นคนดี ไม่ค่อยจะทันคนสักเท่าไหร่ แต่อยู่วันนึงเขาได้ทำงานที่มิสเตอร์โดนัท เขาเดินทางลำบากในการไปกลับหรือการจัดสรรเสื้อผ้าเวลาไปเรียนไปทำงาน เพราะบ้านเขาไกลจากที่เรียนและที่ทำงานมาก แต่เขาต้องขับรถไปกลับทุกวัน เขาจึงเอาเสื้อผ้าบางส่วนมาฝากไว้ที่หอฉัน ฝากฉันรีดผ้าหรือจัดสรรในเรื่องเสื้อผ้าให้ ทุกๆเช้านะจะมารับฉันไปเรียน เรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกันจนเคยตัว

                        แต่แล้ววันนึง เขาได้พาฉันไปไหว้ครอบครัวและคุณแม่บุญธรรมของเขา คุณแม่บุญธรรมของเขาทำท่าทางเหมือนไม่ค่อยพอใจฉันเท่าไหร่ แต่ตรงกันข้ามกับครอบครัวที่ดูเหมือนจะชอบฉันมาก แต่แล้ววันนึงฉันจำเป็นต้องย้ายออกหอและหาหอใหม่ เพราะพี่ที่อยู่ด้วยกันเขาจะกลับไปอยู่บ้าน แต่เนื่องจากฉันเป็นคนอยู่คนเดียวไม่ได้ตั้งแต่เด็ก เลยคิดหาเพื่อนที่จะมาอยู่ด้วย มีเพื่อนในเอกคนนึงที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยกันสักเท่าไหร่ เขาก้อหาหอพักและเพื่อนเหมือนกัน ฉันจึงลองไปคุยกับเขาดู เราตกลงจะลองอยู่ด้วยกัน แต่นะเองเขาก้อคิดถึงการเดินทางของเขา เขาจึงขอมาอยู่ด้วย เราตกลงกันว่าจะอยู่กันสามคน แต่แล้วพอเราอยู่ด้วยกันได้ไม่นานปัญหาก้อตามมาไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณแม่บุญธรรมของเขา หรือทางครอบครัว แม่บุญธรรมของเขาได้เป่าหูครอบครัวนะว่าฉันเป็นคนไว้ใจไม่ได้ กลัวท้องไม่มีพ่อแล้วคิดจับนะมาเป็นสามี ครอบครัวเขาเลยพากันเกลียดฉัน และแย้งเรื่องการที่เราอยู่หอด้วยกัน นะต่อสู้เพื่อฉัน ทะเลาะกับครอบครัว มีปากเสียง ว่าเรื่องทั้งหมดมันไม่จริงเพราะเราอยู่กันแบบเพื่อน แต่แล้วนะก้อต้องได้ขนของออกไปกะทันหันโดยไม่บอกกล่าว ฉันรู้เรื่องจึงเกิดอาการอึ้งและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะนะถูกบังคับให้เลือกระหว่าง ฉัน กับ ครอบครัวของเขา

                        ดังนั้นเราจำเป็นต้องห่างกัน แต่แล้วมีพี่ชายคนนึงที่นะนับถือมาก (เขาเป็นเกย์ ) ฉันได้โทรไปคุยกับเขา เขาช่วยพูดและให้ฉันกับนะได้กลับมาคุยกันเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่กลับต้องหลบๆซ่อนๆในการคบหากัน แล้ววันนึงนะก้อได้มาอยู่หอพักสมใจ แต่อยู่ในการควบคุมของคุณแม่ของเขาตลอด แต่ทุกครั้งที่แม่เขากลับ เขาจะแอบมาเยี่ยมฉันที่หออยู่เสมอ บางวันก้อพากันขับรถเที่ยวบ้าง บางวันก้อพากันไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง ทุกๆเช้า นะจะเอารถมาจอดที่หอฉันและเราเดินไปเรียนด้วยกัน แต่พอพฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เราจะแทบไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยหากก้าวออกนอกรั้วมหาลัยก้อถือว่าคนละทาง เราสนิทกันมาก สนิทจนพี่ชายของเขาที่เป็นเกย์เริ่มเกิดอาการหึงหวงในตัวนะ ( เพราะนะไม่ใช่น้องจริงๆของเขา) เขาเริ่มหึงนะใส่ฉัน เขาโทรมาหาฉันบ่อยๆ เขาเริ่มทำตัวเป็นเจ้าของนะไปทุกวันจนฉันไม่กล้ารับโทรศัพท์เมื่อทุกครั้งที่พี่นพโทรมา เพราะเขาบังคับให้ฉันสัญญากับเขาว่าจะไม่คิดอะไรเกินเลยคำว่าเพื่อนกับนะ และฉันก็รับปากเขาได้เต็มถ้อยคำ

                        แต่ตอนนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันเริ่มทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่เขาไม่ได้ เพราะความดีที่นะมีให้ฉันมันมากเกินบรรยาย วันเกิดฉันก้อมีแต่เขาคนเดียวที่จำและพาไปเลี้ยงหมูกระทะสองคน ทุกครั้งที่ฉันไม่มีเงินเขาก้อจ่ายให้ ไม่มีตังค์กินข้าวเขาก้อซื้อให้ พาไปไหว้คุณพ่อคุณแม่ครอบครัวฉันต่างก็ชอบคอนะมาก แบบไม่เคยเห็นเขาเชียร์ใครขนาดนี้ ทุกครั้งที่ฉันว้าเหว่ก้อมีเขาคอยอยูเป็นเพื่อน ไม่ว่ายามเจ็บไข้ได้ป่วย หรือยามปวดแขนขาเขก้อนวดให้ ยามแต่งตัวออกงานเขาก้อเลือกชุดให้ เปลี่ยนฉันเป็นคนละคน จากคนขี้เหล่ที่ห้าวไปวันๆไม่เคยสนใจในรูปร่างตัวเอง ไม่เคยเรื่องมากในการแต่งตัว เหมือนกับถูกย้อมสียังงัยยังงั้น เขาดีมากเกินจะบรรยาย จนทำให้ความรู้สึกฉันที่มีตอนนี้ล้นใจ เหมือนเราสองคนเข้าใจกันแต่มันเป็นไปไม่ได้ ฉันเองอยู่กับเขาทุกวันจนเคยตัวเขาก้อเช่นกัน เราต่างฝ่ายต่างขาดกันไม่ได้ แต่ติดตรงที่เหมือนเราสองคนเดินอยู่บนเส้นขนาน บางครั้งฉันเองก็อยากจะหนีไปให้ไกลที่สุดเทาที่จะไกลได้ เขาก้อเหมือนกัน ความคิดเราสองคนจะเหมือนจูนกันตลอดเวลา

                       แต่คุณลองนึกสิถ้าเป็นคุณจะทำยังงัย ตอนนี้สิ่งที่ฉันเป็นคือ ฉันเป็นคนที่แม่และครอบครัวเขาเกลียดที่สุด และเป็นคนที่พี่ชายเขาจับตาที่สุด แต่กลับเป็นคนที่เข้าใจและเป็นที่ปรึกษา และสิ่งที่นะเป็นคือ ผู้มีพระคุณกับชีวิตที่เป็นของตัวเอง หากเป็นตัวคุณเองคุณจะคิดว่ามันเหมือนเดินอยู่บนเส้นขนานมั๊ยหละ มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและเป็นความลับในใจที่ฉันไม่สามารถบอกนะได้ว่าฉันรักเขาเข้าแล้ว ฉันรกเกินเพื่อน แต่ฉันไม่รู้ว่า สำหรับเขา เขาจะคิดเหมือนฉันรึเปล่า เรื่องราวของเราสองคนจะลงเอยยังงัยฉันไม่อาจรู้ได้

       

      ***************************************

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×