{จบแล้ว} อย่าป่วยอีกนะครับ ซองกยูฮยอง TT - {จบแล้ว} อย่าป่วยอีกนะครับ ซองกยูฮยอง TT นิยาย {จบแล้ว} อย่าป่วยอีกนะครับ ซองกยูฮยอง TT : Dek-D.com - Writer

    {จบแล้ว} อย่าป่วยอีกนะครับ ซองกยูฮยอง TT

    { sf } ทั้งหมดเกิดจากสิ่งที่เราเห็นจากกยูอู ไม่ได้มโน มันคือเรื่องจริงนะ !!!

    ผู้เข้าชมรวม

    1,229

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.22K

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    15
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ม.ค. 58 / 19:26 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยนะ ออกงานไม่ได้พักเลย

       

        เสียงเมเนเจอร์พูดขึ้นมาลอยๆขณะที่ขับรถ2 คันพาคนทั้ง 7 ออกมาจากงาน โซล มิวสิค อวอร์ด  ครั้งที่24  พร้อมกับมองผ่านกระจกหลังไปยังเด็กหนุ่มสามคนที่นั่งทำหน้าเหนื่อยอ่อนในเวลานี้

       

      ก็ไม่เท่าไหร่หรอก  ตอนนี้ยังไม่คัมแบคถือว่าเป็นเรื่องดีที่ได้เจอแฟนๆ เนอะ ฮยอง”     

      นัมอูฮยอนหันไปถามความเห็นแบบไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจัง  

       

      ออ….”      

       คนที่ควบตำแหน่งพี่ชาย  คนรัก   ลีดเดอร์ของวง รับคำอย่างเนือยๆ  นัมอูฮยอนจึงเบ้ปากใส่เล็กน้อย เพราะคิดไปว่ามีแต่เขาคนเดียวหรือไงที่อยากเจอแฟนๆหน่ะ  ซองกยูฮยองนี่เย็นชาชะมัด

       

      อีกอย่างเพราะอินสปิริทนะ เราถึงได้รางวัลพวกนี้

       มือเล็กโอบกระชับถ้วยรางวัลสองถ้วยเอาไว้แน่น ปากอิ่มยิ้มจนแก้มจะปริ  นั่นทำให้โฮวอนที่นั่งดูอยู่นานแล้วพูดขึ้น

       

      ฮยองไม่ได้เตรียมตัวคัมแบคนี่   ลองมาป็นคนที่ใกล้จะคัมแบคดูไหม ว่ามันเหนื่อยแค่ไหน

       

         ทำไมฉันจะไม่รู้   นี่พวกเราก็ต้องเตรียมตัวทัวร์อารีน่าที่ญี่ปุ่นเหมือนกันนะ  ดิเล็มม่าไง  ในขณะที่เราต้องตระเวนออกงานอยู่แบบนี้  แต่แทนที่จะคิดว่าเหนื่อย มันไม่ดีกว่ารึไงที่มีงานหน่ะ

       

       

      เสียงถอนหายใจดังออกมาจากซองกยู  มือใหญ่ยกขึ้นลูบหัวน้อยๆของอูฮยอน

       

      ดีแล้ว    ที่นายพูดก็ถูก  แต่นายไม่คิดว่าตัวเองเอเนอร์จี้เยอะไปหน่อยรึไง  หืม  ไม่เห็นมีงานไหนเลยที่นายจะบ่นว่าเหนื่อย”    เสียงทุ้มพูดขึ้นอย่างเอ็นดูน้องชายของตัวเอง

       

      หัวเล็กค่อยๆเอนไปซบไหล่กว้างของอีกคน    “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับกยูฮยอง  แต่รางวัลนี่ กับอินสปิริท เป็นเหมือนเครื่องหมายที่คอยย้ำเตือนผมอยู่เสมอ ว่าอินฟินิทยังอยู่  ยังมีพวกเราทั้งเจ็ดคนเดินไปด้วยกันอยู่ยังไงหล่ะครับ”    

       

      ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาอีก  อูฮยอนยังคงพิงหัวเล็กๆของตัวเองไปกับไหล่ของคนข้างๆ  โฮวอนมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองแสงสีในเวลากลางคืน  ส่วนเมเนเจอร์ก็ได้อมยิ้มจางๆให้กับคำพูดของอูฮยอน และขับรถต่อไป

       

      .

      .

      .

      .

       

      .

       

      “  ทีเซอร์ เจแปนทัวร์ ดิเล็มมา ออกมาแล้วนะ  ดูกันยัง”   อีซองจงที่เดินถือสมาร์ทโฟนมาพูดขึ้นในขณะที่ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในห้องนอนของเขา เพื่อประชุมเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับงานที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้และพวกเขาต้องเดินทางไปไต้หวันเพื่อร่วมงานครั้งนี้ด้วย 

       

      อือ ก็ดีอ่ะ  คิดไว้อยู่แล้วว่าฉันต้องออกมาหล่อฝุดๆ ฮ่าๆๆ”   พี่รองของวง จางดงอูหัวเราะร่า มือก็ยังคงเลือนดูกระแสของแฟนๆไปด้วยในทวิตเตอร์

       

      โอเคนะ   งั้นทั้งหมดก็ตามนี้  แยกย้ายกันไปนอนได้ละ พรุ่งนี้ฉันจะมารับไปที่สนามบิน”  เมเนเจอร์พูดสรุปเสียงเรียก่อนเดินเช็ครอบๆห้องอีกครั้งว่าเด็กๆมีอะไรขาดเหลือไหม แล้วจึงเดินออกไป

       

      ฮยอง …. นอนชั้น4เถอะนะคืนนี้

      นัมอูฮยอนเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นพี่  ที่ตัวเองนอนหนุนตักอยู่  แล้วก้มลงเล่นมือถือไปด้วยอย่างไม่รอคำตอบ

       

      ทำไมอ่ะ  รู้สึกไม่สบายหรือไง

       

      เปล่า ….แค่คิดว่าไปต่างประเทศก็คงนอนแยกห้องอ่ะ  วันนี้ผมมีความสุขด้วยแหละเลยอยากนอนกอด นะ   นะฮยอง…

       

      คิมซองกยูเงยหน้าขึ้นมามองสมาชิกที่เหลือ ที่บางคนก็เล่นมือถือ บางคนก็กำลังลุกขึ้นเพื่อกลับห้อง และบางคนก็มองมาที่เขาอย่างอยากรู้ว่าลีดเดอร์คนขรึมเวลาโดนแฟนอ้อนเนี่ย จะทำยังไง

      ฮยองก็มีความสุขนะ  แต่ฮยองยังไม่ได้จัดกระเป๋าเลย  คืนนี้คงนอนด้วยไม่ได้หรอก นายเองก็ด้วย รีบนอนเถอะ เดี๋ยวรูปที่สนามบินออกมาไม่หล่อก็บ่นอีก

       

      อีโฮวอนหัวเราะพรืดออกมา  เขาขำจริงจัง กับวิธีปฎิเสธของซองกยู  ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าซองกยูหน่ะจัดกระเป๋าแล้ว แค่โยนๆอะไรก็ได้เข้าไปในกระเป๋าเอง   นี่มันข้ออ้างชัดๆ

       

      หัวเราะอะไร ...”      อูฮยอนถามเสียงเรียบ

       

      เปล่านี่   ไปเถอพวกเรา ไปเถอะกยูฮยอง  กระเป๋ายังไม่ได้จัดไม่ใช่หรอ ”      โฮวอนกระแนะกระแหนก่อนเดินยิ้มออกจากห้องไป

       

      อูฮยอนอา   ลุกขึ้นไปนอนได้แล้ว ฮยองจะกลับละ”         คนตัวเล็กลุกขึ้นทันที พร้อมกับทำหน้างอง้ำใส่อีกคน

       

      ไปเส่ะ    ไปนอนเลยไป ผมก็จะไปนอนเหมือนกัน

       

      โกรธหรอ .?

       

      เปล่า  ง่วง “     พูดจบ นัมอูฮยอนก็เดินหันหลังกลับเข้าห้องของตัวเองไป  

       

       

      เชอะ  ……..ทีเวลาเขามีความสุข เวลาที่เขาอยากให้อีกคนอยู่ใกล้นี่ทำไมเป็นแบบนี้กันนะ  ทั้งที่นานๆทีเขาจะเอ่ยปากขอร้องแท้ๆ   ที่ผ่านมามีแต่ฮยองเองไม่ใช่รึไงที่ว้อนท์อยากจะมานอนกอดเขาหน่ะ  น่าอายชะมัด ปฎิเสธต่อหน้าเมมเบอร์ด้วย!

       

       

      2015  01  24     >>>> @  อินชอน แอร์พอร์ต

       

       

      ซองกยูฮยองหล่ะ  ไม่รอหรือไง  “  อีซองยอลเอ่ยถามอูฮยอนที่ขึ้นมานั่งบนรถคันที่มีเมมเบอร์ทุกคนนั่งอยู่ยกเว้นซองกยูและดงอู

      รถมีตั้งสองคัน  ไปเถอะครับ ที่เหลือเดี๋ยวเขาก็ตามมาเองแหละ

       

      ยา  ….ไม่ได้งอนกันมาใช่ป่ะ  ซองยอลถามย้ำอีกรอบ

       

      ไม่นี่  ฉันสบายดี  อารมณ์ดีสุดๆไปเลย  ทำไมหรอ

       

      ก็ดีแล้ว….ทะเลาะกันทีไร วุ่นวายกันไปหมดอ่ะคู่นี้

       

      นัมอูฮยอนหันไปถลึงตาใส่อีกคนที่พูดมาก   ในขณะที่รถเคลื่อนตัวออกไปยังสนามบิน ที่มีอินสปิริทรอเพื่อที่จะพบเจอ และถ่ายรูปพวกเขา   นัมอูฮยอนหยิบมือถือขึ้นมาเช็คความเรียบร้อยของผมหน้าม้าฟูๆ  ที่เขาจงใจเซ็ทมันให้น่ารักที่สุดในวันนี้ พร้อมกับส่งยิ้มให้ตัวเองอีกครั้งเพื่อเช็คว่าเขาพร้อมแล้วที่จะเจอกับทะเลกล้องมากมาย ที่บรรดาแฟนไซต์ของแต่ละบ้านจะสาดใส่เขา

       

       

      นัมอูฮยอนพร้อมเจอกับทุกๆอย่างแล้ว  แต่สิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งที่อูฮยอนจะต้องตกใจพร้อมๆกันกับอินสปิริททั้งหลายนั่นก็คือ

      .

      .

      .

      .

      คิมซองกยู  กับแฟชั่นสนามบินอันเร่าร้อนของเขาในวันนี้เนี่ยสิ!!

       

       

        โอ้  โอป้า   ซองกยูโอป้า!!! 

       

      ทันทีที่ประตูรถตู้คันที่สองเปิดออก   นัมอูฮยอนต้องหันกลับไปมองทันทีเพราะอินสปิริทตรงหน้าเขาต่างก็พากันกรีดร้องระงม ให้กับแฟชั่นเปิดหน้าผาก สวมแว่นสีดำสนิท  และไรหนวดสีเข้มบนหน้าที่ไร้การเมคอัพใดๆ

      ซองกยูจะรู้ไหมนะ   ว่าทั้งหมดนั่น ไม่เพียงแต่ทำให้อินสปิริททั้งหมดบ้าคลั่งไปกับการแต่งตัวของเขาในวันนี้ แต่มันยังทำให้ใครบางคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนตัวยง เป็นซาแซงแฟน  เป็นคนที่คลั่งไคล้คิมซองกยูอยู่แล้วอย่างนัมอูฮยอนนั้น แทบจะยืนไม่อยู่  เพราะเบื้องหน้าเขาตอนนี้คือพี่ซองกยูของนัมอูฮยอนที่ฮอตมาก มากจริงๆ  เขาแทบไม่เคยเห็นคนรักของตัวเองแต่งตัวแบบนี้เลย แล้วครั้งนี้มันอะไรกัน  กยูฮยองคิดจะทำให้เขาปั่นป่วนหัวใจไปอีกแค่ไหน  ….

       

      ด้วยสถานการณ์ที่วุ่นวายทำให้ไม่มีใครได้สังเกตเห็นรอยยิ้มพึงพอใจจากคนทั้งสองได้    

       

      ซองกยูยิ้ม  เพราะหันไปเห็นนัมอูฮยอนที่มองมาทางเขา และยิ้มให้กับผมหน้าม้าฟูๆนั่น

       ส่วนอูฮยอน  ยิ้มให้กับพี่ซองกยูคนคูล   คนที่สร้างความประหลาดใจให้เขาในวันนี้ และยิ้มเพราะคนหล่อคนนี้แหละคือแฟนของเขาเอง

       

       

      ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องนัมอูฮยอนมักจะคอยแอบมองคนรักอยู่เสมอ  เพราะการแต่งตัวที่พูดได้ว่า เรียกสัญชาติญาณส่วนลึกของเขาได้มากทีเดียว นัมอูฮยอนไม่ปฎิเสธหรอกว่าวันนี้ฮยองของเขา ฮอต  เท่ห์ และเซ็กซี่มากแค่ไหน   นัมอูฮยอนชอบ รักทุกๆอย่าง หลงทุกๆอย่างในตัวของซองกยู มาตลอดอยู่แล้ว และซองกยูก็เช่นกัน 

       

       

      มองเข้าไป   อะไรกันนะพวกนายเนี่ย  มานั่งด้วยกันเลยป๊ะ.”   
      เป็นซองยอลอีกแล้วที่เอ่ยขัดจังหวะการสบตาไปมาระหว่างคู่รักกยูอู   ทำให้คนทั้งสองผละสายตาออกจากกันทันที

       

       

      ……….น่ารักชะมัด   ผมม้านั่นมันอะไรกัน  หมาน้อยเอ๊ย!  ….  ซองกยูคิด

       …..เฮ้อ….ทำไมถึงได้หล่อขนาดนั้นนะ  ทั้งๆที่ไม่ได้แต่งอะไรมากเลยแท้ๆ    ขนาดไม่แต่งหน้า หนวดไม่โกน  ใส่แว่นดำ  ใส่หมวกเปิดหน้าผากแบบลวกๆ  แต่ทำไมถึงได้ทำให้ผมหยุดมองพี่ไม่ได้เลย ซองกยูฮยอง….

       

      .

      .

      .

      .

      .

      เมื่อเครื่องบินลำโตพาสมาชิกทั้งเจ็ดมาถึง ไต้หวันโดยสวัสดิภาพ   คิมซองกยูแค่อยากนึกแกล้งเด็กน้อยอูฮยอนที่เอาแต่มองเขาแปลกๆ  แต่ก็ยังปากแข็งไม่พูดอะไรกับเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โดยการที่ใส่หมวกกลับเข้าไปเหมือนเดิม  นั่นทำให้ความฮอตลดลงนิดหน่อย  แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นก็กระตุ้นให้อูฮยอนมองคิมซองกยูด้วยสายตาหลงใหลอยู่ไม่จาง  

       

      หล่ออะดิ   กระชากใจเลยป่ะอูฮยอนฮยอง “ 

         อีซองจงสังเกตเห็นสายตาหวานย้อยของอูฮยอนราวกับจะกลืนกินพี่ใหญ่   จึงอดใจไม่ไหวเดินเข้ามาทัก  แล้วมองไปที่ซองกยู

       

      พูดมากหน่ะ เด็กนี่

       

      อูฮยอนแหวใส่น้องเล็กเพราะดันมารู้ทันความคิด 

      อะไรกัน  นี่เขาดูง่ายขนาดนั้นเลยหรอ  ทำไมทุกคนถึงดูออกหล่ะว่าตอนนี้นัมอูฮยอนกำลังละลายเหมือนไอศกรีม   กำลังอยากโดนจมูกโด่งรับแว่นดำนั้น ซุกไซ้     กำลังอยากโดนไรหนวดสีเข้มนั้น สัมผัสให้จั๊กจี้เล่นๆ   กำลังอยากโดนคนฮอตนั้นสัมผัสหน่ะ!! 

       

       

       

       

      หลังจากมาถึงโรงแรม  ทั้งหมดก็แบ่งห้องพักกัน    โดยอูฮยอนนั้นได้นอนกับซองยอล     แอลนอนกับดงอู   โฮวอนนอนกับซองกยู  ส่วนซองจงนอนกับพี่เมเนเจอร์  ก่อนจะแยกย้าย ก็มีใครบางคนทนไม่ไหว ที่ตลอดเวลาจากเกาหลีนั้น คนตัวเล็กนั้นไม่เอาร่างบางมาเฉียดใกล้เขาเลย จึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

       

       

      ไหนบอกไม่โกรธ   ทำไมไม่พูดกับฮยองเลยอ่ะ”     เสียงทุ้มเอ่ยถามเจือแววหยอกเย้าพร้อมกับเดินเข้ามาประชิดคนตัวเล็กทันที

       

       

      ก็      ก็ไม่ได้โกรธนี่ครับ “       อูฮยอนหลบสายตาแล้วรีบก้าวเดินตรงไปทางลิฟท์

       

       

      งั้นเป็นอะไร   หรือว่ากำลังข่มใจไม่ให้หลงฮยอง หืม …”

       

       

      …….คิมซองกยูคนหน้าไม่อาย เข้าข้างตัวเองชะมัด  ใครเขาจะไปหลงตัวเองกัน  !

       

       

      เปล่าเลยเถอะครับกยูฮยอง  กรุณาอย่าหลงตัวเอง “   หน้าเล็กง้ำใส่อีกคนแล้วเบือนหน้าหนี

       

       

      เพราะคนอื่นขึ้นลิฟท์ไปก่อนแล้วขณะที่ทั้งสองคนช้ากว่า และต้องมาขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกัน  นั่นทำให้นัมอูฮยอนรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกที่นั่งลำบาก  ไหนจะต้องเก็บซ่อนอาการต้องการซองกยูที่มีตั้งแต่เมื่อคืน  ไหนจะต้องระวังคนเจ้าเล่ห์ที่ตอนนี้ ขยับกายเข้ามาเบียดเขาจนแทบจะจมหายเข้าไปในกำแพงลิฟท์อยู่แล้ว!

       

      กะ  กยูฮยอง   ถอยไปด้วยครับ 

       

      แผ่นหลังที่แนบชิดกำแพงลิฟท์ สั่นสะท้านเพราะอีกคนทาบทับร่างกายเขาอยู่  อีกทั้งก้มลงมองหน้าเขาอย่างรู้ทัน  ลมหายใจอุ่นเป่ารดแก้มใสของอูฮยอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

       

      คืนนี้ฮยองจะขอเปลี่ยนห้องกับอีซองยอล  นายว่าหมอนั่นจะยอมหรือเปล่า

       

      ถึงหมอนั่นยอม  ผมก็ไม่ยอมหรอก  ฮึ! “       ซองกยูหัวเราะพรืดออกมา นั่นทำให้อูฮยอนจ้องคนตัวสองกว่าเขม็ง

       

            ซองกยูหัวเราะเพราะคนปากแข็งนี่น่ารักเกินไป  ทั้งที่เขามองออกจนแทบจะลุปรุโปร่ง  คนอย่างเขาหน่ะเหรอจะไม่รู้ว่าแฟนเด็กของตัวเองเป็นยังไง หรือรู้สึกอะไร   และครั้งนี้ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป เขาฟันธงเลยว่าเด็กน้อยอูฮยอนหน่ะ

       

      ……อยากให้พี่ซองกยูกอดจนใจจะขาดอยู่แล้ว !

       

      ไม่ยอมก็ไม่เป็นไร  ถึงยังไงฮยองก็จะไปหานะครับคืนนี้ “   

       พูดจบริมฝีปากหนาก็ช่วงชิงเอาคำพูดของอูฮยอนทั้งหมดนั้นหายเข้าไปในลำคอ   ไม่มีเสียงพูดคุยหรือโต้ตอบอะไร มีแต่เสียงจูบที่ดูดดื่มและเอาแต่ใจของซองกยูเท่านั้น นัมอูฮยอนทำได้แค่เงยหน้ารับสัมผัสหวานอย่างไม่ทันตั้งตัว

       

      เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก คนแก่กว่าก็ฉวยหอมแก้มนิ่มไปอีหนึ่งทีก่อนจะเดินออกมาจากลิฟท์แล้วหายเข้าห้องของตัวเองไป  ทิ้งให้ร่างบางๆเดินแบบไร้เรี่ยวแรงออกมาจากลิฟท์คนเดียว

       

       

      .

      .

      .

      .

      .

      ตอนเย็นของวัน ทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่งานเพื่อซ้อม   และเมื่อถึงตารางงานที่กำหนด  ทั้งหมดก็ขึ้นแสดงอย่างมืออาชีพ  เมมเบอร์ดูตื่นเต้น  สนุกสนาน  และได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากอินสปิริทเช่นเคย  บนเวทีมีการพูดคุยกันระหว่างเมมเบอร์  หนึ่งในนั้นก็มีดมเม้นท์ของคู่รักแห่งปี กยูอูอยู่ด้วย  ลีดเดอร์ชวนคนรักคุยตามปกติ และนัมอูฮยอนเองก็ไม่สามารถบึ้งตึงใส่อีกคนได้เพราะกล้องหลายพันตัวจับภาพอยู่

       

       

      หลังจากจบงาน ซึ่งงานก็เลิกค่อนข้างดึก  ทั้งหมดรู้สึกเหนื่อยอ่อน  และต้องการการพักผ่อน  เมื่อไปถึงโรงแรม ทั้งเจ็ดคนจึงแยกย้ายเข้าห้องพัก แต่ทว่า

       

       

      ยา  อีซองยอล …..”       ลีดเดอร์รั้งแขนของส่วนสูงของวงเอาไว้เพื่อจะคุยอะไรบางอย่าง

       

      ตามสบาย”    ซองยอลพูดออกมาทันทีทำให้อีกคนขมวดคิ้ว งง

       

      ถ้าพี่จะนอนห้องเดียวกับอูฮยอนฮยองก็ตามสบายไง  ผมจะไปนอนกับซองจงกับพี่เมเน  ตอนนี้ผมนอนไหนก็ได้แล้ว เหนื่อยมากก”       เด็กประถมบ่นเสร็จก็เดินตามซองจงไปติดๆแล้วคุยอะไรกันบางอย่าง

       

      นัมอูฮยอนหันมามองความผิดปกติ แล้วก็มองไปที่คนเจ้าเล่ห์ที่ตอนนี้กระแอมไอออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น



      นายจะไปไหน..”    อูฮยอนถามเพื่อนร่วมห้องที่อาบน้ำเสร็จก็ขนของออกไป

       

      จะไปนอนกับซองจง  เด็กนั่นไม่ค่อยสบายอยากให้ผมไปนอนด้วย ไปละนะ”   พูดจบก็เดินออกไปตัวปลิว ทิ้งให้อูฮยอนที่กำลังเป่าผมอยู่นั้นนั่งเหรอหราอยู่คนเดียวในห้องกว้าง

       

       

      ………อะไรกัน   แล้วฉันจะนอนคนเดียวได้ยังไง  นี่มันต่างที่นะไอ้บ้าซองยอล  จะไปขอให้ใครมานอนเป็นเพื่อนก็ไม่ใช่นัมอูฮยอนซะด้วยสิ โอ้ยยย  ทำไงดีอ่ะ   ฉันจะนอนหลับไปคนเดียวในห้องกว้างๆโดยไม่มีอ้อมกอดของใครอีกคนได้ยังไง  !

       

      เมื่อรู้ว่าตัวเองทำอะไรไปมากกว่าการที่ต้องปิดไฟนอนไม่ได้แล้ว   คนตัวเล็กจึงเดินไปปิดไฟเพื่อข่มตานอนทั้งๆที่ผมก็ยังไม่แห้งดี  อีกทั้งความต้องการและความคิดถึงใครอีกคนนั้นเล่นงานเขาอย่างหนัก  ร่างบางจึงได้แต่นอนกลิ้งไปมาบนเตียง  หนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว แต่นัมอูฮยอนก็ยังไม่สามารถหลับลงได้  จนกระทั่ง

       

       

      แอ๊ดดด……

       

      เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น พร้อมกับนัมอูฮยอนคิดว่าซองยอลคงกลับเข้ามาเอาของ จึงเอ่ยทักไป

       

      ซองจงเป็นไงบ้าง   นายลืมของเหรอ

       

      ไม่มีเสียงตอบจากซองยอล  แต่กลับมีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทางเตียง  ก่อนที่อูฮยอนจะได้ลุกขึ้นมาถามอะไร ก็กลับมีแรงกดทับอย่างหนักหน่วงมาที่ตัวของเขาจนทำให้ร่างบางๆต้องล้มลงบนที่นอนอีกครั้ง  พร้อมกันกับที่ร่างหนาของใครอีกคนตามมาทาบทับเขาเอาไว้

       

       แทบจะไม่ต้องเดาให้ยากเลย  ว่าเจ้าของลมหายใจกลิ่นมิ้นท์ที่ลอยลงมารดแก้มของเขานั้นเป็นใคร!  

       

       

      คิมซองกยูฮยอง  จะทำอะไรเนี่ย  ผมตกใจหมดเลยนะรู้ไหม!”

       

      คึๆ  ก็ฮยองอยากให้นายตกใจนี่

      บ้าหรือเปล่า  ไม่สนุกนะ  ลุกออกไปเลยผมหนัก !”

       

      อูฮยอนอา   ให้ฮยองนอนด้วยนะ  นะครับ”      คนเอาเปรียบยังคงไม่ลุกออกไปจากร่างเล็ก  หนำซ้ำยังก้มลงไปกระซิบขอนอนด้วยอย่างคนเจ้าเล่ห์อีก        คิมซองกยู   ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์!

       

      ผมอยากนอนคนเดียว   ผมเหนื่อย   อีกอย่างถึงไม่ได้นอนกับผมคงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ พรุ่งนี้จะกลับแล้ว ไม่ไปเตรียมจัดกระเป๋าหรอ นั่นมันคือสิ่งสำคัญกว่าการนอนกับผมอีกไม่ใช่หรือไง 

       

      อูฮยอนเบือนหน้าหนีไปอีกทาง จนอีกคนต้องเชยปลายคางเล็กให้หันมาสบตากับเขาพร้อมกับมือหนาเอื้อมไปเปิดไฟที่หัวเตียง

       

      โกหก .

       

      “…..”

       

      ปากแข็งที่หนึ่ง…”

       

      “…..”

       

      นายต้องการฮยอง   ต้องการให้ฮยองกอดนาย  แล้วทำไมถึงไม่พูดออกมากันหล่ะ  หืม?.

       

      ไม่ใช่สักหน่อย  ออกไปนะ   ผมปวดไปหมดแล้ว!”

       

      หน้าแดงซะขนาดนี้  ไม่ใช่เพราะต้องการฮยองหรอกเหรอครับ   เด็กน้อย….”


      "........"
      ..
      .
      .


            แพ้แล้ว ……แพ้อีกแล้ว     นัมอูฮยอนแพ้ทาง แพ้ให้กับคิมซองกยูหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ในตอนนี้อีกแล้ว   ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะโกหกความรู้สึกที่มีได้  

       

       

      โอเค……เขายอมรับแล้วว่าต้องการให้กยูฮยองกอด แล้วยังไงหล่ะ  เขาอายเกินกว่าที่จะพูดมันออกไปนะ!

       

       

      อูฮยอนอา…. อย่าเอาแต่หลบหน้าฮยอง .

      แก้มกลมใสที่ขึ้นสีแดงจัดในตอนนี้ร้อนผ่าวเหมือนใครเอาไฟมาอังไว้   หัวใจของอูฮยอนเต้นดังจนน่าอายเมื่อคิดไปถึงคิมซองกยูกับการแต่งตัวที่เร้าใจแบบนั้น  ไรหนวดที่ตอนนี้ซองกยูเองจงใจไม่โกนมันออก ยิ่งทำให้ความคิดน่าอายของอูฮยอนเตลิดไปไกลมากเหลือเกิน

       

       

       

      ให้ฮยองกอดนายนะ   ตอนนี้ฮยองต้องการนายมากเหลือเกิน “      ซองกยูพูดด้วยเสียงแหบพร่าเพราะอารมณ์ต้องการร่างบางนี้ขึ้นสูงจนเขาแทบจะทนไม่ไหวอีกแล้ว     กลิ่นแชมพูอ่อนๆที่ลอยมาจากกลุ่มผมนุ่มทุกครั้งที่อูฮยอนขยับตัว   ยิ่งทำให้อารมณ์รักของเขาที่มีต่อคนที่นอนอยู่ใต้ร่างเตลิดเกินจะควบคุม

       

       

      มะ  ไม่เหนื่อยหรอครับ “  
       คำพูดพวกนี้ยิ่งทำให้คนตัวเล็กอายมากขึ้นจนต้องกัดริมฝีปากอิ่มเพื่อข่มความอายเหล่านั้น    ไม่เคยชินเลยสักครั้ง เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้  ต่อให้เขากับกยูฮยองมีอะไรกันมาหลายครั้งแล้ว  แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่อูฮยอนจะหลุดพ้นจากห้วงอารมณ์หวามหวิวที่ทำให้เขารู้สึกสุขจนจะสำลักความสุขตายแบบที่เป็นอยู่นี้เลย

       

      ดวงตารีเรียวของลีดเดอร์จ้องมาที่ใบหน้าเขินอาย  หน้าหล่อคมส่ายไปมาเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก    ที่ทำให้ตอนนี้  --  นัมอูฮยอนพร้อมจะแปลงร่างเป็นไอติม ที่พร้อมจะละลายคามือพี่ซองกยู  เป็นไอติมรสหวานที่คิมซองกยูฮยองจะชิมและกัดกินให้หมดทั่วทุกส่วน ไม่เหลือรอดแม้แต่นิดเดียว!

       

      .

      .

      .

      .

      .

      25   มกราคม  2015   

       

      ช่วงสายของวันที่25     สมาชิกของวงอินฟินิทที่เดินทางมาทำงานที่ไต้หวันได้เตรียมตัวกลับ  เมมเบอร์ทุกคนดูสดชื่นถึงแม้ว่างานจะเลิกดึก   แต่ก็นั่นแหละ   ไม่มีอะไรที่จะสามารถเล็ดลอดสายตาดุจเหยี่ยวของอินสปิริททั่วโลกไปได้    ภาพของเมมเบอร์ผ่านเลนส์กล้องนั้นแทบจะไม่มีอะไรผิดปกติ นอกเสียจาก คู่รักกยูอู  ที่ทั้งสองคนนี้นั้นมีสภาพที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!

       

      นัมอูฮยอนคนน้อง  ที่เดินอารมณ์ดีมาตลอดทาง อีกทั้งยังโบกมือทักทาย  ร้องเพลง   หยอกเล่นโต้ตอบพูดคุยกับแฟนๆอย่างที่เจ้าตัวเป็นนั้นทำให้แฟนๆอิ่มอกอิ่มใจไปตามๆกัน

       

      ในขณะที่คิมซองกยูคนพี่  ทำให้อินสปิริททุกคนอดเป็นห่วงไม่ได้กับสภาพอิดโรยของเขาในวันนี้  ดวงตารีเรียวที่แทบจะปิดลงคืน    ท่าทางเหนื่อยอ่อนที่เหมือนกับว่าถ้าลมพัดมาเขาอาจจะล้มลงไปเลยก็ได้ ทั้งหมดนั้นแฟนๆต่างพากันเดาว่าเพราะงานเมื่อคืนเลิกดึกมากและช่วงนี้อินฟินิทออกงานบ่อยพร้อมกับเตรียมทัวร์คอนเสิร์ต จึงทำให้ลีดเดอร์ที่รับภาระหนักมีสภาพเช่นนี้

       

      แต่ความจริงหล่ะ  ความเป็นจริงจะมีใครสักกี่คนกันที่ไม่ต้องเดาก็รู้ได้เลยว่าทำไมอีกคนดูอารมณ์ดีเหมือนได้ของเล่น  ในขณะที่อีกคนมีสภาพเหมือนคนแก่ลมจับ !

       

       

      ฮยองไหวไหม?.”       อีโฮวอนเดินปรี่เข้ามาถามตอนที่เห็นพี่ชายของเขาทรุดลงไป

       

       

      อ่ะ  อืม ไหว ไหวอยู่.

       

      พรืดดด!   ฮ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

       

       

       

      อีโฮวอน หัวเราะอะไรว่ะ!  “  

       

      เชื่อไหมรูปนี้ต้องเกลื่อนทวิตเตอร์แน่ๆ   ฮยองอ่ะ  ผมบอกแล้วว่าอย่าหักโหม อย่าตามใจอูฮยอนฮยองมาก แล้วเป็นไง สังขารเนี่ยไม่อำนวยละนะ ”      โฮวอนพูดในขณะที่กำลังจะพยุงพี่ชายขึ้น  แต่ซองกยูต้องพยายามประคองตัวเองขึ้นมาเพื่อที่แฟนๆจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง และที่สำคัญไอ้พวกเมมเบอร์ที่เหลือไง  มันคอยจะเยาะเย้ยเขาอยู่แล้ว!

       

      ไม่ได้หรอกนะ  คนอย่างคิมซองกยู จะปล่อยให้เด็กพวกนั้นมาว่าว่าเขาไร้น้ำยา ว่าสังขารไม่ให้ไม่ได้หรอก

       

       

      ฮยอง  มีแฟนเด็กนี่ชีวิตยากลำบากป่ะ   เมื่อคืนงานหนักเลยสินะครับ  คึ! ”

       ทางเข้าผู้โดยสาร  มยองซูไม่วายลอบกัดลีดเดอร์ไปอีกหนึ่งดอก  โดยมีดงอูและซองจงยืนหัวเราะร่วมด้วย

       

       

      หุบปากไปเลยเว้ย  “    สิ้นเสียงตะโกน ซองกยูก็หอบหายใจหนัก  หน้าหล่อคมซีดลงอย่างเห็นได้ชัด  คิมซองกยูคิดในใจว่าตอนนี้เขาต้องขึ้นเครื่องให้ไวที่สุดก่อนที่จะมาเป็นลมล้มพับต่อหน้าแฟนๆและสื่อ  สายตาเรียวรีจ้องมองหาเด็กน้อยตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องมีสภาพแบบนี้

      ……นัมอูฮยอนที่กำลังยืนคุยกับซองยอลอยู่อีกทางพร้อมกับเล่นกับกล้องแฟนๆ อย่างไม่รู้เลยว่าคนรักของตัวเองนั้น แทบจะยืนไม่ไหวแล้ว

       

      ซองกยูอดทนกับความรู้สึกต่างๆที่เล่นงานเขาจนเครื่องแล่นลงจอดที่สนามบินอินชอน  ขายาวๆรีบเดินหาที่นั่งพักเพราะเขาไม่รู้สึกดีขึ้นเลย  ในขณะที่เมมเบอร์คนอื่น โดยเฉพาะเด็กน้อยอูฮยอนที่แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าพี่ชายของตัวเองนั้นกำลังไม่สบาย ยังคงควักเอาตุ๊กตารูปร่งต่างๆออกมาอวดกัน   ยังคงมีแค่ลีดเดอร์ของวงเท่านั้นที่ไม่อยากให้คนรักของตัวเองรู้  แล้วแอบไปนั่งที่เงียบๆ  อีโฮวอนเดินมานั่งลงข้างๆแล้วพูดขึ้น

       

       

      ผมบอกเมเนเจอร์แล้วนะ ว่าฮยองไม่โอเค  กลับไปจะให้หมอมาเช็ค.

       

      ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ฉันไม่เป็นไร นอนพักเดี๋ยวก็หาย.

       

      หรอออออ    ไม่ใช่ว่าลุกขึ้นแล้วก็จะเป็นลมไปเลยหรอไง .

       

      อย่าให้อูฮยอนรู้นะ  .

       

      ออ……”

       

      โฮวอนรับคำสั้นๆ  จากนั้นพวกเขาทั้งเจ็ดก็พากันขึ้นรถตู้ประจำวงกลับไปยังหอพักสุดหรู    ตลอดเวลาในรถ เมมเบอร์ต่างพากันพุดคุยถึงเรื่องต่างๆ   มีเพียงซองกยูเท่านั้นที่เอาแต่เงียบมาตั้งแต่ที่สนามบินแล้ว และนั่นก็ไม่อาจคลาดสายตาของคนตัวเล็กไปได้

       

       

      กยูฮยอง  นี่   น่ารักไหมตุ๊กตาโปเกมอนหล่ะ  กยูฮยอง   ดูสิ !”   มือเล็กเขย่าแขนแกร่งของคนข้างๆ

      ซองกยูลืมตาขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มจางๆให้

       

       

      อื้ม น่ารักดี

       

       

      เห็นซองกยูพูดน้อยอูฮยอนจึงคิดว่าคนรักของเขาอาจจะอยากพัก    จนกระทั่งถึงหน้าหอพัก  ทุกคนต่างก็เดินลงจากรถ  อยู่ดีๆ  คิมซองกยูทรุดลงไปต่อหน้าสมาชิกและเมเนเจอร์       แต่คนที่ตกใจจนของทุกอย่างในมือเล็กๆนั้นหลุดลงพื้นนั่นก็คือนัมอูฮยอน        กยูฮยองของเขาเป็นอะไร!     และทำไมทุกคนถึงดูไม่ตกใจเท่าเขาเลย!

       

       

      เมเนเจอร์รีบเข้ามาแบกซองกยูเอาไว้บนหลังแล้วหามขึ้นไปชั้น11 ทันที  พร้อมกับที่เมเนเจอร์อีกคนนั้นโทรตามหมอประจำตัวมาดูอาการ

       

      ..

      .

      .

      .

      .

      กว่าแปดชั่วโมงผ่านไป  ที่อูฮยอนนอนเฝ้าอยู่ข้างๆเตียงของหัวหน้าวงโดยที่ไม่ยอมลุกไปไหนเลย   คิมซองกยูที่โดนฉีดยาบำรุงไปพร้อมกับให้น้ำเกลืออยู่ในตอนนี้รู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว แต่มืออีกข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือนั้นถูกกุมเอาไว้พร้อมกับกลุ่มผมนุ่มทับอยู่  

       

       

      อู  อูฮยอนอา…….”    เสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกชื่อคนรักของตัวเองแผ่วเบา 

      ซองกยูฮยอง!     ตื่นแล้วหรอครับ  เป็นไงบ้าง หื้ม ไหน เจ็บตรงไหนไหม  ปวดตรงไหนหรือเปล่า!”

       

       

       หัวยุ่งเหยิงของอูฮยอนถูกมือของอีกคนลูบให้ทรงผมเข้าที่อย่างเบามือ   ซองกยูยิ้มให้กับท่าทางตื่นตัวของเด็กน้อยอูฮยอน   ในขณะที่อูฮยอนส่งแก้วน้ำให้ฮยองของตัวเองดื่มอย่างจดจ่อ

       

      น้ำตาหยดใสค่อยๆรื้นขึ้นมาบนขอบตา  ซองกยูชะงักและหยุดดื่มน้ำทันที

       

      เด็กบ๊อง นายร้องไห้ทำไม ?.

       

      ฮึ่ก   ฮืออออออออ..

       

      ซองกยูรีบย้ายแก้วไปวางไว้บนโต๊ะหัวนอน  แล้วคว้าเอามืออีกคนขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วโอบกอดไว้แน่น

       

      อย่าร้องน่า   ฮยองไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย หื๊ม….ร้องทำไมครับ.

       

      ฮรึ่กก  อึกกก    ฮือออ   เพราะผมใช่ไหมครับ  เพราะเมื่อคืน.

       

      ไม่ใช่สักหน่อย  เพราะงานต่างหาก.”      เสียงแหบยังคงกระซิบปลอบ

       

       

      ผมกลัว     ผมกลัวจะตายอยู่แล้วตอนที่ฮยองหมดสติไป   ฮึ่กกก  ผมนี่โง่จริงๆเลย ดูไม่ออกแม้กระทั่งคนรักของตัวเองกำลังไม่สบาย .อึ่กก  ฮือออออ  …..”

       

      ซองกยูจับไหล่สั่นเทาของอีกคนให้หันหน้ามาเผชิญหน้ากับตัวเอง  นิ้วเรียวยาวปาดน้ำตาของอีกคนออกจากดวงตากลมใส และพวงแก้มอิ่ม

       

      ฟังให้ดีนะ   ที่ฮยองเป็นแบบนี้เพราะพักผ่อนน้อย  เพราะงาน  เพราะฮยองดูแลสุขภาพตัวเองดีไม่พอยังไงหล่ะ.

      “…..”

       

      ไม่ใช่เพราะนายอูฮยอนอา…..”

       

      เลิกโทษตัวเองได้แล้ว  แค่สามรอบแบบเมื่อคืนหน่ะมันไม่ทำให้ฮยองเข่าอ่อนได้หรอกนะ ในเวลาปกติที่ร่างกายฮยองแข็งแรงดีหน่ะ.”      คนป่วยยังมีแรงพูดติดตลก

       

      กยูฮยองพูดอะไร มั่นใจเกินตัวไปป่ะครับ

       

       

      เหรอ  จะลองดูไหมหล่ะ  ห๊ะ  ที่ผ่านมาใครกันนะที่บอกว่าไม่ไหวแล้ว พอแล้วทุกครั้งหน่ะ ไม่ใช่นายหรอกเหรอ “   หน้าหล่อคมขยับเข้าไปถามใกล้ๆจนปลายจมูกโด่งชนเข้ากับปลายจมูกรั้น

       

       

      พะ    พักผ่อนเถอะครับ  ผมไม่อยากให้ฮยองป่วย  ยิ่งโดยเฉพาะผมมีส่วนทำให้ฮยองเป็นแบบนี้ด้วยแล้ว ผมยิ่งรู้สึกไม่ดีเลย...

       

       

      หึๆๆ  โอเค  โอเค  งั้นฮยองจะพักต่อ แต่ว่าขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม.

       

      “…อะไรหรอครับ? 

       

      อูฮยอนอา…….ฮยองไม่อยากให้นายรู้สึกผิดเข้าใจไหม 

       

      “……”

       

      ฮยองแค่จะบอกว่า  ต่อให้ฮยองต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะ กอด  นายหนักเกินไป  ฮยองก็ยังจะทำ!”

       

       

      “ซะ   ซองกยูฮยอง…..คนลามกกก!!!   ”

       

       

       

      The   end…..

       

      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด   ฟิคกากๆ ของคนกากๆ ภาษาไม่เกลา    5555555  เรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลยค่ะ เพียงแค่ถ้าใครตามทวิตเราจะรู้ว่าสองสามวันมานี้  พี่กยูฮอต เร้าใจมากกกก TTTT   น้องนัมก็น่ารักกกอ่อนหวานเกิ๊น  เราเลยจับทั้งคู่ลงแก้วแล้วชงๆๆๆๆๆ จนออกมาเป็นฟิคเรื่องนี้แหละ ยังไงก็ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะคะ   ฝากสนับสนุนอินฟินิท  และกยูอูคัพเพิ่ลด้วยนะคะ  เลิฟฟฟฟฟฟค่ะ  > 3 <

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×