{จบแล้ว} อย่าป่วยอีกนะครับ ซองกยูฮยอง TT
{ sf } ทั้งหมดเกิดจากสิ่งที่เราเห็นจากกยูอู ไม่ได้มโน มันคือเรื่องจริงนะ !!!
ผู้เข้าชมรวม
1,253
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยนะ ออกงานไม่ได้พักเลย”
เสียงเมเนเจอร์พูดขึ้นมาลอยๆขณะที่ขับรถ2 คันพาคนทั้ง 7 ออกมาจากงาน โซล มิวสิค อวอร์ด ครั้งที่24 พร้อมกับมองผ่านกระจกหลังไปยังเด็กหนุ่มสามคนที่นั่งทำหน้าเหนื่อยอ่อนในเวลานี้
“ ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ตอนนี้ยังไม่คัมแบคถือว่าเป็นเรื่องดีที่ได้เจอแฟนๆ เนอะ ฮยอง”
นัมอูฮยอนหันไปถามความเห็นแบบไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจัง
“ ออ….”
คนที่ควบตำแหน่งพี่ชาย คนรัก ลีดเดอร์ของวง รับคำอย่างเนือยๆ นัมอูฮยอนจึงเบ้ปากใส่เล็กน้อย เพราะคิดไปว่ามีแต่เขาคนเดียวหรือไงที่อยากเจอแฟนๆหน่ะ ซองกยูฮยองนี่เย็นชาชะมัด
“ อีกอย่างเพราะอินสปิริทนะ เราถึงได้รางวัลพวกนี้”
มือเล็กโอบกระชับถ้วยรางวัลสองถ้วยเอาไว้แน่น ปากอิ่มยิ้มจนแก้มจะปริ นั่นทำให้โฮวอนที่นั่งดูอยู่นานแล้วพูดขึ้น
“ ฮยองไม่ได้เตรียมตัวคัมแบคนี่ ลองมาป็นคนที่ใกล้จะคัมแบคดูไหม ว่ามันเหนื่อยแค่ไหน”
“ ทำไมฉันจะไม่รู้ นี่พวกเราก็ต้องเตรียมตัวทัวร์อารีน่าที่ญี่ปุ่นเหมือนกันนะ ดิเล็มม่าไง ในขณะที่เราต้องตระเวนออกงานอยู่แบบนี้ แต่แทนที่จะคิดว่าเหนื่อย มันไม่ดีกว่ารึไงที่มีงานหน่ะ”
เสียงถอนหายใจดังออกมาจากซองกยู มือใหญ่ยกขึ้นลูบหัวน้อยๆของอูฮยอน
“ ดีแล้ว ที่นายพูดก็ถูก แต่นายไม่คิดว่าตัวเองเอเนอร์จี้เยอะไปหน่อยรึไง หืม ไม่เห็นมีงานไหนเลยที่นายจะบ่นว่าเหนื่อย” เสียงทุ้มพูดขึ้นอย่างเอ็นดูน้องชายของตัวเอง
หัวเล็กค่อยๆเอนไปซบไหล่กว้างของอีกคน “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับกยูฮยอง แต่รางวัลนี่ กับอินสปิริท เป็นเหมือนเครื่องหมายที่คอยย้ำเตือนผมอยู่เสมอ ว่าอินฟินิทยังอยู่ ยังมีพวกเราทั้งเจ็ดคนเดินไปด้วยกันอยู่ยังไงหล่ะครับ”
ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาอีก อูฮยอนยังคงพิงหัวเล็กๆของตัวเองไปกับไหล่ของคนข้างๆ โฮวอนมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองแสงสีในเวลากลางคืน ส่วนเมเนเจอร์ก็ได้อมยิ้มจางๆให้กับคำพูดของอูฮยอน และขับรถต่อไป
.
.
.
.
.
“ ทีเซอร์ เจแปนทัวร์ ดิเล็มมา ออกมาแล้วนะ ดูกันยัง” อีซองจงที่เดินถือสมาร์ทโฟนมาพูดขึ้นในขณะที่ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในห้องนอนของเขา เพื่อประชุมเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับงานที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้และพวกเขาต้องเดินทางไปไต้หวันเพื่อร่วมงานครั้งนี้ด้วย
“ อือ ก็ดีอ่ะ คิดไว้อยู่แล้วว่าฉันต้องออกมาหล่อฝุดๆ ฮ่าๆๆ” พี่รองของวง จางดงอูหัวเราะร่า มือก็ยังคงเลือนดูกระแสของแฟนๆไปด้วยในทวิตเตอร์
“โอเคนะ งั้นทั้งหมดก็ตามนี้ แยกย้ายกันไปนอนได้ละ พรุ่งนี้ฉันจะมารับไปที่สนามบิน” เมเนเจอร์พูดสรุปเสียงเรียก่อนเดินเช็ครอบๆห้องอีกครั้งว่าเด็กๆมีอะไรขาดเหลือไหม แล้วจึงเดินออกไป
“ ฮยอง …. นอนชั้น4เถอะนะคืนนี้”
นัมอูฮยอนเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นพี่ ที่ตัวเองนอนหนุนตักอยู่ แล้วก้มลงเล่นมือถือไปด้วยอย่างไม่รอคำตอบ
“ ทำไมอ่ะ รู้สึกไม่สบายหรือไง”
“เปล่า ….แค่คิดว่าไปต่างประเทศก็คงนอนแยกห้องอ่ะ วันนี้ผมมีความสุขด้วยแหละเลยอยากนอนกอด นะ นะฮยอง…”
คิมซองกยูเงยหน้าขึ้นมามองสมาชิกที่เหลือ ที่บางคนก็เล่นมือถือ บางคนก็กำลังลุกขึ้นเพื่อกลับห้อง และบางคนก็มองมาที่เขาอย่างอยากรู้ว่าลีดเดอร์คนขรึมเวลาโดนแฟนอ้อนเนี่ย จะทำยังไง
“ ฮยองก็มีความสุขนะ แต่ฮยองยังไม่ได้จัดกระเป๋าเลย คืนนี้คงนอนด้วยไม่ได้หรอก นายเองก็ด้วย รีบนอนเถอะ เดี๋ยวรูปที่สนามบินออกมาไม่หล่อก็บ่นอีก”
อีโฮวอนหัวเราะพรืดออกมา เขาขำจริงจัง กับวิธีปฎิเสธของซองกยู ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าซองกยูหน่ะจัดกระเป๋าแล้ว แค่โยนๆอะไรก็ได้เข้าไปในกระเป๋าเอง นี่มันข้ออ้างชัดๆ
“หัวเราะอะไร ...” อูฮยอนถามเสียงเรียบ
“เปล่านี่ ไปเถอพวกเรา ไปเถอะกยูฮยอง กระเป๋ายังไม่ได้จัดไม่ใช่หรอ ” โฮวอนกระแนะกระแหนก่อนเดินยิ้มออกจากห้องไป
“อูฮยอนอา ลุกขึ้นไปนอนได้แล้ว ฮยองจะกลับละ” คนตัวเล็กลุกขึ้นทันที พร้อมกับทำหน้างอง้ำใส่อีกคน
“ ไปเส่ะ ไปนอนเลยไป ผมก็จะไปนอนเหมือนกัน “
“โกรธหรอ .?”
“เปล่า ง่วง “ พูดจบ นัมอูฮยอนก็เดินหันหลังกลับเข้าห้องของตัวเองไป
เชอะ ……..ทีเวลาเขามีความสุข เวลาที่เขาอยากให้อีกคนอยู่ใกล้นี่ทำไมเป็นแบบนี้กันนะ ทั้งที่นานๆทีเขาจะเอ่ยปากขอร้องแท้ๆ ที่ผ่านมามีแต่ฮยองเองไม่ใช่รึไงที่ว้อนท์อยากจะมานอนกอดเขาหน่ะ น่าอายชะมัด ปฎิเสธต่อหน้าเมมเบอร์ด้วย!
2015 01 24 >>>> @ อินชอน แอร์พอร์ต
“ซองกยูฮยองหล่ะ ไม่รอหรือไง “ อีซองยอลเอ่ยถามอูฮยอนที่ขึ้นมานั่งบนรถคันที่มีเมมเบอร์ทุกคนนั่งอยู่ยกเว้นซองกยูและดงอู
“รถมีตั้งสองคัน ไปเถอะครับ ที่เหลือเดี๋ยวเขาก็ตามมาเองแหละ”
“ยา ….ไม่ได้งอนกันมาใช่ป่ะ “ ซองยอลถามย้ำอีกรอบ
“ไม่นี่ ฉันสบายดี อารมณ์ดีสุดๆไปเลย ทำไมหรอ”
“ก็ดีแล้ว….ทะเลาะกันทีไร วุ่นวายกันไปหมดอ่ะคู่นี้”
นัมอูฮยอนหันไปถลึงตาใส่อีกคนที่พูดมาก ในขณะที่รถเคลื่อนตัวออกไปยังสนามบิน ที่มีอินสปิริทรอเพื่อที่จะพบเจอ และถ่ายรูปพวกเขา นัมอูฮยอนหยิบมือถือขึ้นมาเช็คความเรียบร้อยของผมหน้าม้าฟูๆ ที่เขาจงใจเซ็ทมันให้น่ารักที่สุดในวันนี้ พร้อมกับส่งยิ้มให้ตัวเองอีกครั้งเพื่อเช็คว่าเขาพร้อมแล้วที่จะเจอกับทะเลกล้องมากมาย ที่บรรดาแฟนไซต์ของแต่ละบ้านจะสาดใส่เขา
นัมอูฮยอนพร้อมเจอกับทุกๆอย่างแล้ว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งที่อูฮยอนจะต้องตกใจพร้อมๆกันกับอินสปิริททั้งหลายนั่นก็คือ
.
.
.
.
คิมซองกยู กับแฟชั่นสนามบินอันเร่าร้อนของเขาในวันนี้เนี่ยสิ!!
” โอ้ โอป้า ซองกยูโอป้า!!! “
ทันทีที่ประตูรถตู้คันที่สองเปิดออก นัมอูฮยอนต้องหันกลับไปมองทันทีเพราะอินสปิริทตรงหน้าเขาต่างก็พากันกรีดร้องระงม ให้กับแฟชั่นเปิดหน้าผาก สวมแว่นสีดำสนิท และไรหนวดสีเข้มบนหน้าที่ไร้การเมคอัพใดๆ
ซองกยูจะรู้ไหมนะ ว่าทั้งหมดนั่น ไม่เพียงแต่ทำให้อินสปิริททั้งหมดบ้าคลั่งไปกับการแต่งตัวของเขาในวันนี้ แต่มันยังทำให้ใครบางคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนตัวยง เป็นซาแซงแฟน เป็นคนที่คลั่งไคล้คิมซองกยูอยู่แล้วอย่างนัมอูฮยอนนั้น แทบจะยืนไม่อยู่ เพราะเบื้องหน้าเขาตอนนี้คือพี่ซองกยูของนัมอูฮยอนที่ฮอตมาก มากจริงๆ เขาแทบไม่เคยเห็นคนรักของตัวเองแต่งตัวแบบนี้เลย แล้วครั้งนี้มันอะไรกัน กยูฮยองคิดจะทำให้เขาปั่นป่วนหัวใจไปอีกแค่ไหน ….
ด้วยสถานการณ์ที่วุ่นวายทำให้ไม่มีใครได้สังเกตเห็นรอยยิ้มพึงพอใจจากคนทั้งสองได้
ซองกยูยิ้ม เพราะหันไปเห็นนัมอูฮยอนที่มองมาทางเขา และยิ้มให้กับผมหน้าม้าฟูๆนั่น
ส่วนอูฮยอน ยิ้มให้กับพี่ซองกยูคนคูล คนที่สร้างความประหลาดใจให้เขาในวันนี้ และยิ้มเพราะคนหล่อคนนี้แหละคือแฟนของเขาเอง
ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องนัมอูฮยอนมักจะคอยแอบมองคนรักอยู่เสมอ เพราะการแต่งตัวที่พูดได้ว่า เรียกสัญชาติญาณส่วนลึกของเขาได้มากทีเดียว นัมอูฮยอนไม่ปฎิเสธหรอกว่าวันนี้ฮยองของเขา ฮอต เท่ห์ และเซ็กซี่มากแค่ไหน นัมอูฮยอนชอบ รักทุกๆอย่าง หลงทุกๆอย่างในตัวของซองกยู มาตลอดอยู่แล้ว และซองกยูก็เช่นกัน
“ มองเข้าไป อะไรกันนะพวกนายเนี่ย มานั่งด้วยกันเลยป๊ะ.”
เป็นซองยอลอีกแล้วที่เอ่ยขัดจังหวะการสบตาไปมาระหว่างคู่รักกยูอู ทำให้คนทั้งสองผละสายตาออกจากกันทันที
……….น่ารักชะมัด ผมม้านั่นมันอะไรกัน หมาน้อยเอ๊ย! …. ซองกยูคิด
…..เฮ้อ….ทำไมถึงได้หล่อขนาดนั้นนะ ทั้งๆที่ไม่ได้แต่งอะไรมากเลยแท้ๆ ขนาดไม่แต่งหน้า หนวดไม่โกน ใส่แว่นดำ ใส่หมวกเปิดหน้าผากแบบลวกๆ แต่ทำไมถึงได้ทำให้ผมหยุดมองพี่ไม่ได้เลย ซองกยูฮยอง….
.
.
.
.
.
เมื่อเครื่องบินลำโตพาสมาชิกทั้งเจ็ดมาถึง ไต้หวันโดยสวัสดิภาพ คิมซองกยูแค่อยากนึกแกล้งเด็กน้อยอูฮยอนที่เอาแต่มองเขาแปลกๆ แต่ก็ยังปากแข็งไม่พูดอะไรกับเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โดยการที่ใส่หมวกกลับเข้าไปเหมือนเดิม นั่นทำให้ความฮอตลดลงนิดหน่อย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นก็กระตุ้นให้อูฮยอนมองคิมซองกยูด้วยสายตาหลงใหลอยู่ไม่จาง
“หล่ออะดิ กระชากใจเลยป่ะอูฮยอนฮยอง “
อีซองจงสังเกตเห็นสายตาหวานย้อยของอูฮยอนราวกับจะกลืนกินพี่ใหญ่ จึงอดใจไม่ไหวเดินเข้ามาทัก แล้วมองไปที่ซองกยู
“พูดมากหน่ะ เด็กนี่ “
อูฮยอนแหวใส่น้องเล็กเพราะดันมารู้ทันความคิด
อะไรกัน นี่เขาดูง่ายขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมทุกคนถึงดูออกหล่ะว่าตอนนี้นัมอูฮยอนกำลังละลายเหมือนไอศกรีม กำลังอยากโดนจมูกโด่งรับแว่นดำนั้น ซุกไซ้ กำลังอยากโดนไรหนวดสีเข้มนั้น สัมผัสให้จั๊กจี้เล่นๆ กำลังอยากโดนคนฮอตนั้นสัมผัสหน่ะ!!
หลังจากมาถึงโรงแรม ทั้งหมดก็แบ่งห้องพักกัน โดยอูฮยอนนั้นได้นอนกับซองยอล แอลนอนกับดงอู โฮวอนนอนกับซองกยู ส่วนซองจงนอนกับพี่เมเนเจอร์ ก่อนจะแยกย้าย ก็มีใครบางคนทนไม่ไหว ที่ตลอดเวลาจากเกาหลีนั้น คนตัวเล็กนั้นไม่เอาร่างบางมาเฉียดใกล้เขาเลย จึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
“ไหนบอกไม่โกรธ ทำไมไม่พูดกับฮยองเลยอ่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามเจือแววหยอกเย้าพร้อมกับเดินเข้ามาประชิดคนตัวเล็กทันที
“ก็ ก็ไม่ได้โกรธนี่ครับ “ อูฮยอนหลบสายตาแล้วรีบก้าวเดินตรงไปทางลิฟท์
“งั้นเป็นอะไร หรือว่ากำลังข่มใจไม่ให้หลงฮยอง หืม …”
…….คิมซองกยู! คนหน้าไม่อาย เข้าข้างตัวเองชะมัด ใครเขาจะไปหลงตัวเองกัน !
“เปล่าเลยเถอะครับกยูฮยอง กรุณาอย่าหลงตัวเอง “ หน้าเล็กง้ำใส่อีกคนแล้วเบือนหน้าหนี
เพราะคนอื่นขึ้นลิฟท์ไปก่อนแล้วขณะที่ทั้งสองคนช้ากว่า และต้องมาขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกัน นั่นทำให้นัมอูฮยอนรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกที่นั่งลำบาก ไหนจะต้องเก็บซ่อนอาการต้องการซองกยูที่มีตั้งแต่เมื่อคืน ไหนจะต้องระวังคนเจ้าเล่ห์ที่ตอนนี้ ขยับกายเข้ามาเบียดเขาจนแทบจะจมหายเข้าไปในกำแพงลิฟท์อยู่แล้ว!
“กะ กยูฮยอง ถอยไปด้วยครับ “
แผ่นหลังที่แนบชิดกำแพงลิฟท์ สั่นสะท้านเพราะอีกคนทาบทับร่างกายเขาอยู่ อีกทั้งก้มลงมองหน้าเขาอย่างรู้ทัน ลมหายใจอุ่นเป่ารดแก้มใสของอูฮยอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ คืนนี้ฮยองจะขอเปลี่ยนห้องกับอีซองยอล นายว่าหมอนั่นจะยอมหรือเปล่า”
“ถึงหมอนั่นยอม ผมก็ไม่ยอมหรอก ฮึ! “ ซองกยูหัวเราะพรืดออกมา นั่นทำให้อูฮยอนจ้องคนตัวสองกว่าเขม็ง
ซองกยูหัวเราะเพราะคนปากแข็งนี่น่ารักเกินไป ทั้งที่เขามองออกจนแทบจะลุปรุโปร่ง คนอย่างเขาหน่ะเหรอจะไม่รู้ว่าแฟนเด็กของตัวเองเป็นยังไง หรือรู้สึกอะไร และครั้งนี้ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป เขาฟันธงเลยว่าเด็กน้อยอูฮยอนหน่ะ
……อยากให้พี่ซองกยูกอดจนใจจะขาดอยู่แล้ว !
“ไม่ยอมก็ไม่เป็นไร ถึงยังไงฮยองก็จะไปหานะครับคืนนี้ “
พูดจบริมฝีปากหนาก็ช่วงชิงเอาคำพูดของอูฮยอนทั้งหมดนั้นหายเข้าไปในลำคอ ไม่มีเสียงพูดคุยหรือโต้ตอบอะไร มีแต่เสียงจูบที่ดูดดื่มและเอาแต่ใจของซองกยูเท่านั้น นัมอูฮยอนทำได้แค่เงยหน้ารับสัมผัสหวานอย่างไม่ทันตั้งตัว
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก คนแก่กว่าก็ฉวยหอมแก้มนิ่มไปอีหนึ่งทีก่อนจะเดินออกมาจากลิฟท์แล้วหายเข้าห้องของตัวเองไป ทิ้งให้ร่างบางๆเดินแบบไร้เรี่ยวแรงออกมาจากลิฟท์คนเดียว
.
.
.
.
.
ตอนเย็นของวัน ทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่งานเพื่อซ้อม และเมื่อถึงตารางงานที่กำหนด ทั้งหมดก็ขึ้นแสดงอย่างมืออาชีพ เมมเบอร์ดูตื่นเต้น สนุกสนาน และได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากอินสปิริทเช่นเคย บนเวทีมีการพูดคุยกันระหว่างเมมเบอร์ หนึ่งในนั้นก็มีดมเม้นท์ของคู่รักแห่งปี กยูอูอยู่ด้วย ลีดเดอร์ชวนคนรักคุยตามปกติ และนัมอูฮยอนเองก็ไม่สามารถบึ้งตึงใส่อีกคนได้เพราะกล้องหลายพันตัวจับภาพอยู่
หลังจากจบงาน ซึ่งงานก็เลิกค่อนข้างดึก ทั้งหมดรู้สึกเหนื่อยอ่อน และต้องการการพักผ่อน เมื่อไปถึงโรงแรม ทั้งเจ็ดคนจึงแยกย้ายเข้าห้องพัก แต่ทว่า
“ยา อีซองยอล …..” ลีดเดอร์รั้งแขนของส่วนสูงของวงเอาไว้เพื่อจะคุยอะไรบางอย่าง
“ตามสบาย” ซองยอลพูดออกมาทันทีทำให้อีกคนขมวดคิ้ว งง
“ถ้าพี่จะนอนห้องเดียวกับอูฮยอนฮยองก็ตามสบายไง ผมจะไปนอนกับซองจงกับพี่เมเน ตอนนี้ผมนอนไหนก็ได้แล้ว เหนื่อยมากก” เด็กประถมบ่นเสร็จก็เดินตามซองจงไปติดๆแล้วคุยอะไรกันบางอย่าง
นัมอูฮยอนหันมามองความผิดปกติ แล้วก็มองไปที่คนเจ้าเล่ห์ที่ตอนนี้กระแอมไอออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นายจะไปไหน..” อูฮยอนถามเพื่อนร่วมห้องที่อาบน้ำเสร็จก็ขนของออกไป
“จะไปนอนกับซองจง เด็กนั่นไม่ค่อยสบายอยากให้ผมไปนอนด้วย ไปละนะ” พูดจบก็เดินออกไปตัวปลิว ทิ้งให้อูฮยอนที่กำลังเป่าผมอยู่นั้นนั่งเหรอหราอยู่คนเดียวในห้องกว้าง
………อะไรกัน แล้วฉันจะนอนคนเดียวได้ยังไง นี่มันต่างที่นะไอ้บ้าซองยอล จะไปขอให้ใครมานอนเป็นเพื่อนก็ไม่ใช่นัมอูฮยอนซะด้วยสิ ! โอ้ยยย ทำไงดีอ่ะ ฉันจะนอนหลับไปคนเดียวในห้องกว้างๆโดยไม่มีอ้อมกอดของใครอีกคนได้ยังไง !
เมื่อรู้ว่าตัวเองทำอะไรไปมากกว่าการที่ต้องปิดไฟนอนไม่ได้แล้ว คนตัวเล็กจึงเดินไปปิดไฟเพื่อข่มตานอนทั้งๆที่ผมก็ยังไม่แห้งดี อีกทั้งความต้องการและความคิดถึงใครอีกคนนั้นเล่นงานเขาอย่างหนัก ร่างบางจึงได้แต่นอนกลิ้งไปมาบนเตียง หนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว แต่นัมอูฮยอนก็ยังไม่สามารถหลับลงได้ จนกระทั่ง
แอ๊ดดด……
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น พร้อมกับนัมอูฮยอนคิดว่าซองยอลคงกลับเข้ามาเอาของ จึงเอ่ยทักไป
“ซองจงเป็นไงบ้าง นายลืมของเหรอ”
ไม่มีเสียงตอบจากซองยอล แต่กลับมีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทางเตียง ก่อนที่อูฮยอนจะได้ลุกขึ้นมาถามอะไร ก็กลับมีแรงกดทับอย่างหนักหน่วงมาที่ตัวของเขาจนทำให้ร่างบางๆต้องล้มลงบนที่นอนอีกครั้ง พร้อมกันกับที่ร่างหนาของใครอีกคนตามมาทาบทับเขาเอาไว้
แทบจะไม่ต้องเดาให้ยากเลย ว่าเจ้าของลมหายใจกลิ่นมิ้นท์ที่ลอยลงมารดแก้มของเขานั้นเป็นใคร!
“คิมซองกยูฮยอง จะทำอะไรเนี่ย ผมตกใจหมดเลยนะรู้ไหม!”
“คึๆ ก็ฮยองอยากให้นายตกใจนี่ “
“บ้าหรือเปล่า ไม่สนุกนะ ลุกออกไปเลยผมหนัก !”
“อูฮยอนอา ให้ฮยองนอนด้วยนะ นะครับ” คนเอาเปรียบยังคงไม่ลุกออกไปจากร่างเล็ก หนำซ้ำยังก้มลงไปกระซิบขอนอนด้วยอย่างคนเจ้าเล่ห์อีก คิมซองกยู ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์!
“ผมอยากนอนคนเดียว ผมเหนื่อย อีกอย่างถึงไม่ได้นอนกับผมคงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ พรุ่งนี้จะกลับแล้ว ไม่ไปเตรียมจัดกระเป๋าหรอ นั่นมันคือสิ่งสำคัญกว่าการนอนกับผมอีกไม่ใช่หรือไง ”
อูฮยอนเบือนหน้าหนีไปอีกทาง จนอีกคนต้องเชยปลายคางเล็กให้หันมาสบตากับเขาพร้อมกับมือหนาเอื้อมไปเปิดไฟที่หัวเตียง
“โกหก .”
“…..”
“ปากแข็งที่หนึ่ง…”
“…..”
“นายต้องการฮยอง ต้องการให้ฮยองกอดนาย แล้วทำไมถึงไม่พูดออกมากันหล่ะ หืม?.”
“ไม่ใช่สักหน่อย ออกไปนะ ผมปวดไปหมดแล้ว!”
“หน้าแดงซะขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการฮยองหรอกเหรอครับ เด็กน้อย….”
"........"
..
.
.
แพ้แล้ว ……แพ้อีกแล้ว นัมอูฮยอนแพ้ทาง แพ้ให้กับคิมซองกยูหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ในตอนนี้อีกแล้ว ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะโกหกความรู้สึกที่มีได้
โอเค……เขายอมรับแล้วว่าต้องการให้กยูฮยองกอด แล้วยังไงหล่ะ เขาอายเกินกว่าที่จะพูดมันออกไปนะ!
“ อูฮยอนอา…. อย่าเอาแต่หลบหน้าฮยอง .”
แก้มกลมใสที่ขึ้นสีแดงจัดในตอนนี้ร้อนผ่าวเหมือนใครเอาไฟมาอังไว้ หัวใจของอูฮยอนเต้นดังจนน่าอายเมื่อคิดไปถึงคิมซองกยูกับการแต่งตัวที่เร้าใจแบบนั้น ไรหนวดที่ตอนนี้ซองกยูเองจงใจไม่โกนมันออก ยิ่งทำให้ความคิดน่าอายของอูฮยอนเตลิดไปไกลมากเหลือเกิน
“ให้ฮยองกอดนายนะ ตอนนี้ฮยองต้องการนายมากเหลือเกิน “ ซองกยูพูดด้วยเสียงแหบพร่าเพราะอารมณ์ต้องการร่างบางนี้ขึ้นสูงจนเขาแทบจะทนไม่ไหวอีกแล้ว กลิ่นแชมพูอ่อนๆที่ลอยมาจากกลุ่มผมนุ่มทุกครั้งที่อูฮยอนขยับตัว ยิ่งทำให้อารมณ์รักของเขาที่มีต่อคนที่นอนอยู่ใต้ร่างเตลิดเกินจะควบคุม
“มะ ไม่เหนื่อยหรอครับ “
คำพูดพวกนี้ยิ่งทำให้คนตัวเล็กอายมากขึ้นจนต้องกัดริมฝีปากอิ่มเพื่อข่มความอายเหล่านั้น ไม่เคยชินเลยสักครั้ง เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้เขากับกยูฮยองมีอะไรกันมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่อูฮยอนจะหลุดพ้นจากห้วงอารมณ์หวามหวิวที่ทำให้เขารู้สึกสุขจนจะสำลักความสุขตายแบบที่เป็นอยู่นี้เลย
ดวงตารีเรียวของลีดเดอร์จ้องมาที่ใบหน้าเขินอาย หน้าหล่อคมส่ายไปมาเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ที่ทำให้ตอนนี้ -- นัมอูฮยอนพร้อมจะแปลงร่างเป็นไอติม ที่พร้อมจะละลายคามือพี่ซองกยู เป็นไอติมรสหวานที่คิมซองกยูฮยองจะชิมและกัดกินให้หมดทั่วทุกส่วน ไม่เหลือรอดแม้แต่นิดเดียว!
.
.
.
.
.
25 มกราคม 2015
ช่วงสายของวันที่25 สมาชิกของวงอินฟินิทที่เดินทางมาทำงานที่ไต้หวันได้เตรียมตัวกลับ เมมเบอร์ทุกคนดูสดชื่นถึงแม้ว่างานจะเลิกดึก แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีอะไรที่จะสามารถเล็ดลอดสายตาดุจเหยี่ยวของอินสปิริททั่วโลกไปได้ ภาพของเมมเบอร์ผ่านเลนส์กล้องนั้นแทบจะไม่มีอะไรผิดปกติ นอกเสียจาก คู่รักกยูอู ที่ทั้งสองคนนี้นั้นมีสภาพที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
นัมอูฮยอนคนน้อง ที่เดินอารมณ์ดีมาตลอดทาง อีกทั้งยังโบกมือทักทาย ร้องเพลง หยอกเล่นโต้ตอบพูดคุยกับแฟนๆอย่างที่เจ้าตัวเป็นนั้นทำให้แฟนๆอิ่มอกอิ่มใจไปตามๆกัน
ในขณะที่คิมซองกยูคนพี่ ทำให้อินสปิริททุกคนอดเป็นห่วงไม่ได้กับสภาพอิดโรยของเขาในวันนี้ ดวงตารีเรียวที่แทบจะปิดลงคืน ท่าทางเหนื่อยอ่อนที่เหมือนกับว่าถ้าลมพัดมาเขาอาจจะล้มลงไปเลยก็ได้ ทั้งหมดนั้นแฟนๆต่างพากันเดาว่าเพราะงานเมื่อคืนเลิกดึกมากและช่วงนี้อินฟินิทออกงานบ่อยพร้อมกับเตรียมทัวร์คอนเสิร์ต จึงทำให้ลีดเดอร์ที่รับภาระหนักมีสภาพเช่นนี้
แต่ความจริงหล่ะ ความเป็นจริงจะมีใครสักกี่คนกันที่ไม่ต้องเดาก็รู้ได้เลยว่าทำไมอีกคนดูอารมณ์ดีเหมือนได้ของเล่น ในขณะที่อีกคนมีสภาพเหมือนคนแก่ลมจับ !
“ฮยอง! ไหวไหม?.” อีโฮวอนเดินปรี่เข้ามาถามตอนที่เห็นพี่ชายของเขาทรุดลงไป
“อ่ะ อืม …ไหว ไหวอยู่.”
พรืดดด! ฮ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“อีโฮวอน ! หัวเราะอะไรว่ะ! “
“เชื่อไหมรูปนี้ต้องเกลื่อนทวิตเตอร์แน่ๆ ฮยองอ่ะ ผมบอกแล้วว่าอย่าหักโหม อย่าตามใจอูฮยอนฮยองมาก แล้วเป็นไง สังขารเนี่ยไม่อำนวยละนะ ” โฮวอนพูดในขณะที่กำลังจะพยุงพี่ชายขึ้น แต่ซองกยูต้องพยายามประคองตัวเองขึ้นมาเพื่อที่แฟนๆจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง และที่สำคัญไอ้พวกเมมเบอร์ที่เหลือไง มันคอยจะเยาะเย้ยเขาอยู่แล้ว!
ไม่ได้หรอกนะ คนอย่างคิมซองกยู จะปล่อยให้เด็กพวกนั้นมาว่าว่าเขาไร้น้ำยา ว่าสังขารไม่ให้ไม่ได้หรอก
“ฮยอง มีแฟนเด็กนี่ชีวิตยากลำบากป่ะ เมื่อคืนงานหนักเลยสินะครับ คึ! ”
ทางเข้าผู้โดยสาร มยองซูไม่วายลอบกัดลีดเดอร์ไปอีกหนึ่งดอก โดยมีดงอูและซองจงยืนหัวเราะร่วมด้วย
“หุบปากไปเลยเว้ย “ สิ้นเสียงตะโกน ซองกยูก็หอบหายใจหนัก หน้าหล่อคมซีดลงอย่างเห็นได้ชัด คิมซองกยูคิดในใจว่าตอนนี้เขาต้องขึ้นเครื่องให้ไวที่สุดก่อนที่จะมาเป็นลมล้มพับต่อหน้าแฟนๆและสื่อ สายตาเรียวรีจ้องมองหาเด็กน้อยตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องมีสภาพแบบนี้
……นัมอูฮยอนที่กำลังยืนคุยกับซองยอลอยู่อีกทางพร้อมกับเล่นกับกล้องแฟนๆ อย่างไม่รู้เลยว่าคนรักของตัวเองนั้น แทบจะยืนไม่ไหวแล้ว
ซองกยูอดทนกับความรู้สึกต่างๆที่เล่นงานเขาจนเครื่องแล่นลงจอดที่สนามบินอินชอน ขายาวๆรีบเดินหาที่นั่งพักเพราะเขาไม่รู้สึกดีขึ้นเลย ในขณะที่เมมเบอร์คนอื่น โดยเฉพาะเด็กน้อยอูฮยอนที่แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าพี่ชายของตัวเองนั้นกำลังไม่สบาย ยังคงควักเอาตุ๊กตารูปร่งต่างๆออกมาอวดกัน ยังคงมีแค่ลีดเดอร์ของวงเท่านั้นที่ไม่อยากให้คนรักของตัวเองรู้ แล้วแอบไปนั่งที่เงียบๆ อีโฮวอนเดินมานั่งลงข้างๆแล้วพูดขึ้น
“ผมบอกเมเนเจอร์แล้วนะ ว่าฮยองไม่โอเค กลับไปจะให้หมอมาเช็ค.”
“ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ฉันไม่เป็นไร นอนพักเดี๋ยวก็หาย.”
“หรอออออ ไม่ใช่ว่าลุกขึ้นแล้วก็จะเป็นลมไปเลยหรอไง .”
“อย่าให้อูฮยอนรู้นะ .”
“ออ……”
โฮวอนรับคำสั้นๆ จากนั้นพวกเขาทั้งเจ็ดก็พากันขึ้นรถตู้ประจำวงกลับไปยังหอพักสุดหรู ตลอดเวลาในรถ เมมเบอร์ต่างพากันพุดคุยถึงเรื่องต่างๆ มีเพียงซองกยูเท่านั้นที่เอาแต่เงียบมาตั้งแต่ที่สนามบินแล้ว และนั่นก็ไม่อาจคลาดสายตาของคนตัวเล็กไปได้
“กยูฮยอง นี่ น่ารักไหมตุ๊กตาโปเกมอนหล่ะ กยูฮยอง ดูสิ !” มือเล็กเขย่าแขนแกร่งของคนข้างๆ
ซองกยูลืมตาขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มจางๆให้
“อื้ม น่ารักดี ”
เห็นซองกยูพูดน้อยอูฮยอนจึงคิดว่าคนรักของเขาอาจจะอยากพัก จนกระทั่งถึงหน้าหอพัก ทุกคนต่างก็เดินลงจากรถ อยู่ดีๆ คิมซองกยูทรุดลงไปต่อหน้าสมาชิกและเมเนเจอร์ แต่คนที่ตกใจจนของทุกอย่างในมือเล็กๆนั้นหลุดลงพื้นนั่นก็คือนัมอูฮยอน กยูฮยองของเขาเป็นอะไร! และทำไมทุกคนถึงดูไม่ตกใจเท่าเขาเลย!
เมเนเจอร์รีบเข้ามาแบกซองกยูเอาไว้บนหลังแล้วหามขึ้นไปชั้น11 ทันที พร้อมกับที่เมเนเจอร์อีกคนนั้นโทรตามหมอประจำตัวมาดูอาการ
..
.
.
.
.
กว่าแปดชั่วโมงผ่านไป ที่อูฮยอนนอนเฝ้าอยู่ข้างๆเตียงของหัวหน้าวงโดยที่ไม่ยอมลุกไปไหนเลย คิมซองกยูที่โดนฉีดยาบำรุงไปพร้อมกับให้น้ำเกลืออยู่ในตอนนี้รู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้ว แต่มืออีกข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือนั้นถูกกุมเอาไว้พร้อมกับกลุ่มผมนุ่มทับอยู่
“อู อูฮยอนอา…….” เสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกชื่อคนรักของตัวเองแผ่วเบา
“ซองกยูฮยอง! ตื่นแล้วหรอครับ เป็นไงบ้าง หื้ม ไหน เจ็บตรงไหนไหม ปวดตรงไหนหรือเปล่า!”
หัวยุ่งเหยิงของอูฮยอนถูกมือของอีกคนลูบให้ทรงผมเข้าที่อย่างเบามือ ซองกยูยิ้มให้กับท่าทางตื่นตัวของเด็กน้อยอูฮยอน ในขณะที่อูฮยอนส่งแก้วน้ำให้ฮยองของตัวเองดื่มอย่างจดจ่อ
น้ำตาหยดใสค่อยๆรื้นขึ้นมาบนขอบตา ซองกยูชะงักและหยุดดื่มน้ำทันที
“เด็กบ๊อง นายร้องไห้ทำไม ?.”
“ฮึ่ก ฮืออออออออ..”
ซองกยูรีบย้ายแก้วไปวางไว้บนโต๊ะหัวนอน แล้วคว้าเอามืออีกคนขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วโอบกอดไว้แน่น
“อย่าร้องน่า ฮยองไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย หื๊ม….ร้องทำไมครับ.”
“ฮรึ่กก อึกกก ฮือออ เพราะผมใช่ไหมครับ เพราะเมื่อคืน.”
“ไม่ใช่สักหน่อย เพราะงานต่างหาก.” เสียงแหบยังคงกระซิบปลอบ
“ผมกลัว ผมกลัวจะตายอยู่แล้วตอนที่ฮยองหมดสติไป ฮึ่กกก ผมนี่โง่จริงๆเลย ดูไม่ออกแม้กระทั่งคนรักของตัวเองกำลังไม่สบาย .อึ่กก ฮือออออ …..”
ซองกยูจับไหล่สั่นเทาของอีกคนให้หันหน้ามาเผชิญหน้ากับตัวเอง นิ้วเรียวยาวปาดน้ำตาของอีกคนออกจากดวงตากลมใส และพวงแก้มอิ่ม
“ฟังให้ดีนะ ที่ฮยองเป็นแบบนี้เพราะพักผ่อนน้อย เพราะงาน เพราะฮยองดูแลสุขภาพตัวเองดีไม่พอยังไงหล่ะ.”
“…..”
“ไม่ใช่เพราะนายอูฮยอนอา…..”
“เลิกโทษตัวเองได้แล้ว แค่สามรอบแบบเมื่อคืนหน่ะมันไม่ทำให้ฮยองเข่าอ่อนได้หรอกนะ ในเวลาปกติที่ร่างกายฮยองแข็งแรงดีหน่ะ.” คนป่วยยังมีแรงพูดติดตลก
“กยูฮยอง! พูดอะไร มั่นใจเกินตัวไปป่ะครับ “
“เหรอ จะลองดูไหมหล่ะ ห๊ะ ที่ผ่านมาใครกันนะที่บอกว่าไม่ไหวแล้ว พอแล้วทุกครั้งหน่ะ ไม่ใช่นายหรอกเหรอ “ หน้าหล่อคมขยับเข้าไปถามใกล้ๆจนปลายจมูกโด่งชนเข้ากับปลายจมูกรั้น
“พะ พักผ่อนเถอะครับ ผมไม่อยากให้ฮยองป่วย ยิ่งโดยเฉพาะผมมีส่วนทำให้ฮยองเป็นแบบนี้ด้วยแล้ว ผมยิ่งรู้สึกไม่ดีเลย...”
“หึๆๆ โอเค โอเค งั้นฮยองจะพักต่อ แต่ว่าขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม.”
“…อะไรหรอครับ? ”
“อูฮยอนอา…….ฮยองไม่อยากให้นายรู้สึกผิดเข้าใจไหม “
“……”
“ฮยองแค่จะบอกว่า ต่อให้ฮยองต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะ กอด นายหนักเกินไป ฮยองก็ยังจะทำ!”
“ซะ ซองกยูฮยอง…..คนลามกกก!!! ”
The end…..
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ฟิคกากๆ ของคนกากๆ ภาษาไม่เกลา 5555555 เรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลยค่ะ เพียงแค่ถ้าใครตามทวิตเราจะรู้ว่าสองสามวันมานี้ พี่กยูฮอต เร้าใจมากกกก TTTT น้องนัมก็น่ารักกกอ่อนหวานเกิ๊น เราเลยจับทั้งคู่ลงแก้วแล้วชงๆๆๆๆๆ จนออกมาเป็นฟิคเรื่องนี้แหละ ยังไงก็ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะคะ ฝากสนับสนุนอินฟินิท และกยูอูคัพเพิ่ลด้วยนะคะ เลิฟฟฟฟฟฟค่ะ > 3 <
ผลงานอื่นๆ ของ เสี่ยวหมาน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เสี่ยวหมาน
ความคิดเห็น