ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กุกมินคนเลว #kookmin จบแล้ว

    ลำดับตอนที่ #1 : แต่งงานกันนะคนเลว 100 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.87K
      477
      15 เม.ย. 63

    TB




       





    "ถ้ามึงยังอยากมีชีวิตอยู่  ก็แต่งงานกับกูซะ" 



    ประโยคคำสั่งนี้หลุดออกมาจากปากจอนจองกุกด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ  แล้วเขาก็ค่อยๆยกแก้วแอลกอฮอล์จรดริมฝีปากบางช้าๆด้วยความใจเย็น


    ซึ่งต่างจากคนฟังที่เผลอกำมือแน่นด้วยความโกรธเคือง  แววตาที่แสดงความรู้สึกผิดหวังในโชคชะตาก็กำลังจ้องมองเขาด้วยท่าทีรังเกียจ 


    "กูมีสิทธิ์เลือกอะไรได้บ้างล่ะ"


    ร่างเล็กแสดงท่าทีไม่พอใจใส่เขาแล้วเดินหนีขึ้นห้องไป โดยไม่ปริปากต่อล้อต่อเถียงให้มากความไปกว่านี้ 



    ปึ่ก !


    เพล้งงง



    "ตกลงตามนั้นครับ   เอ่อ..ตอนนี้ผมไม่ค่อยสะดวกคุย  เอาไว้เดี๋ยวผมโทรกลับไปนะครับ" 


    จองกุกได้ยินเสียงเหมือนของแข็งถูกปาลงไปที่พื้น  เขาจึงรีบกดวางสายก่อนจะก้าวไวๆขึ้นไปดูคนข้างบนชั้นสอง



    "ให้ตายสิวะ!!" 



    เขากัดฟันกรอดทันทีที่สายตาไปตกกระทบเข้าที่แจกันราคาแพงที่เขาเพิ่งจะนำเข้าจากต่างประเทศ  ซึ่งตอนนี้มันได้แตกละเอียดแทบจะเป็นผุยผงซะแล้ว


    สายตาคู่คมกวาดไปรอบห้องก็พบว่าผ้าปูที่นอนบนเตียงของเขายับยู่ยี่ไปหมด  ส่วนข้าวของต่างๆก็กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณห้อง  และมันไม่ใช่ฝีมือของใครหน้าไหนทั้งนั้น  


    "มึงกล้าหรอจีมิน!"  


    จองกุกพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ พร้อมส่งสายตานิ่งๆไปจ้องมองร่างเล็กโดยไม่ละสายตา  และเขาก็พยายามอย่างหนักในการสงบสติอารมณ์  เพราะอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงวาระของงานสำคัญ  เขาไม่อยากให้เสียแผนเพราะคนๆเดียว 


    แต่จะให้เขาปล่อยไอ้ตัวแสบรอดตัวไปเฉยๆก็คงจะไม่ได้หรอก 


    "กูกล้า!   แล้วมึงจะทำไม"


    จองกุกกัดฟันแน่นจนสันกรามขึ้นชัด เมื่อได้ฟังจีมินตะโกนใส่อย่างสุดเสียงแล้วก็ต้องบังคับมือให้อยู่นิ่ง ทั้งที่ใจเขาอยากจะฟาดมันลงไปบนปากอิ่มนั่นมากๆ  


    "อึ่ก"


    จองกุกใจร้อนจนต้องบีบคางจีมินอย่างแรง จนกระทั่งร่างบางทำสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด หากแต่เวลานี้จีมินยังกล้าเชิดหน้าขึ้นจ้องเขากลับอย่างอวดเก่งไม่ถอย


    แววตาคมดุจพญาเหยี่ยวนั้นจดจ้องใบหน้าหวานที่อยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซนติเมตร  ทำให้เขาได้มองจีมินในระยะที่ใกล้มากๆ จนสามารถสังเกตเห็นหางตาเรียวที่มีน้ำซึมออกมาน้อยๆ กับจมูกเล็กที่แดงเปล่ง  


    "คงร้องไห้หนักน่าดู"


    จองกุกยิ้มเยาะเพราะเขารู้สึกดีมากที่ทำให้อีกคนร้องไห้ และด้วยความพอใจจนรอยยิ้มผุดออกมาที่มุมปาก ทำให้มือหยาบผ่อนแรงลงและผละออกไปเอง


    คืนนี้เขาจะลงโทษปาร์คจีมินด้วยการขังไว้ในห้องเก็บของ 


    "โอ๊ยยย"


    ร่างกายบางๆของจีมินถูกลากลงมาจากชั้นสองด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากเจ้าตัวไม่ยอมเดินตามจนเขาต้องกระชากตัวปลิว  จากนั้นก็ถูกผลักร่างให้พ้นบานประตูสีดำเข้าไปในห้องมืด  


    ปัง!


    กริ๊ก


    บานประตูถูกปิดลงและมันถูกล็อคอย่างแน่นหนาโดยคนข้างนอก ร่างน้อยของจีมินจึงได้แต่ขดตัวนั่งอยู่บนผ้ากำมะหยี่ที่ดูคล้ายว่ามันน่าจะเป็นพรมเช็ดเท้า 


    ตาเล็กหลับลงไปทันทีหลังจากที่พบว่าสภาพในห้องมันแย่มาก  และจีมินสามารถพูดได้เต็มปากว่ามันแย่พอๆกับเจ้าของบ้านนั่นแหละ


    ไม่รู้ว่าเขาจะให้คนๆหนึ่งทนนอนหลับไปได้ยังไงกัน   ทั้งเครื่องดูดฝุ่น ไม้กวาด ไม้ถูพื้น  โต๊ะ เก้าอี้ทำงาน  กองหนังสือที่ฝุ่นเกาะ และอีกมากมายสารพัดสิ่งวางเกะกะแทบจะเต็มไปทั่วทุกพื้นที่  


    ยิ่งเงยหน้าขึ้นไปมองบนเพดานยิ่งเห็นมีใยแมงมุมเกรอะเต็มไปหมด 


    "ฮัดเช่ย!"


    จมูกเล็กฟุดฟิดและจามติดต่อกันอยู่หลายครั้ง เพราะไรฝุ่นมันหนาเตอะเกินไป


    "ฮึกๆ"


    ไหล่เล็กสั่นไหวและกอดเข่าตัวเองร้องไห้อยู่ลำพัง  และจีมินได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆอย่างนึกไม่ตกว่าชาติที่แล้วไปทำกรรมหนักอะไรไว้   ชาตินี้ทำไมถึงต้องมาชดใช้ให้กับคนอย่างจอน จองกุก    


    ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง  


    จีมินทำใจยอมรับสภาพตัวเองและคิดได้ว่าร้องไห้ไปก็คงไร้ประโยชน์  จึงคิดหาวิธีต่อรองกับจองกุกเพื่อให้ตัวเองไม่สูญเสียอะไรไปมากกว่านี้  แต่ไม่นานนักเปลือกตาหนักๆก็เผลอหลับลงไปด้วยความเหนื่อยล้า



    23.00 น.



    ร่างสูงของใครคนนึงหยุดยืนที่หน้าประตูห้องเก็บของนั้นอีกครั้ง  


    ครั้นจะปล่อยให้จีมินนอนในห้องนี้ถึงเช้า เขาก็กลัวว่าเพื่อนตัวดีของเขาจะมาเห็นเข้า เพราะห้านาทีที่แล้ว เจโฮป กับ พี่ซอกจิน ได้โทรมาบอกว่าใกล้มาถึงกันแล้ว 


    ที่จริงแล้วจองกุกก็ลืมสนิทไปเลยว่านัดสองคนนี้ไว้  เพราะจะให้พวกเขามาช่วยดูแลเรื่องสถานที่ต่างๆให้ เนื่องจากเขาไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานสำคัญนี้  ก็เลยมีแค่คนสนิทของเขามาร่วมงานเท่านั้น 


    ถ้าหากคนพวกนั้นรู้ว่าเขาพา 'ว่าที่เจ้าสาว' มาขังในห้องเก็บของ มีหวังว่าแผนเขาคงแตกหมดพอดี จองกุกเลยต้องกัดฟันเดินลงมาเรียกจีมินด้วยอารมณ์ขุ่นๆ 



    แกร๊กก



    มือแกร่งดันประตูเข้าไปช้าๆ และเขาทำเพียงแค่ยืนมองอยู่ห่างๆ ด้วยความสมเพช  เพราะภาพแรกที่เขาเห็นคือจีมินนอนหลับอยู่บนพื้นกับกองฝุ่นคลุ้ง 


    "อือ"


    เท้าจองกุกเขี่ยไปที่ขาของจีมินเพื่อปลุกเจ้าตัวสองสามครั้ง จีมินเลยส่งเสียงพึมพำออกมาในลำคอ


    พอไม่เห็นอีกคนลุกขึ้นมา เขาก็ยืนพิจารณาคนๆนี้อย่างสมเหตุสมผล ก็ไม่เห็นว่าจะมีคำตอบดีๆมาสนับสนุนความคิดของจีมินเลยสักข้อ 


    ทั้งที่เป็นแค่คนอาศัย  ไม่รู้กล้าดียังไงมาทำลายข้าวของในบ้านเขา 


    นิสัยแบบนี้เขาเรียกรนหาที่ตายชัดๆ


    "ลุกขึ้นมา!!"  


    ครั้งนี้จองกุกไม่ทำแค่ยืนมองแล้วปลุกเฉยๆ แต่เขายื่นเท้าไปเขี่ยที่ข้อมือจีมิน จนตาเล็กๆนั่นค่อยๆเปิดขึ้นมามองอย่างฉุนๆ  


    "กูต้องทำตามที่มึงบอกด้วยหรอ"    


    เสียงเล็กเอ่ยเบาๆ อย่างหมดแรงเพราะร่างกายขาดน้ำและเสียพลังงานไปมาก


    "ไม่ไปก็ได้  แต่กูจะพูดแค่ครั้งเดียวนะ"


    เขายืนเอาไหล่พิงขอบประตู แล้วเหยียดยิ้มให้ด้วยความเย้ยหยันจีมินในสภาพนี้สุดๆ ตัวที่อ่อนปวกเปียกจนไม่สามารถพยุงตัวลุกขึ้นได้อย่างมั่นคง ก็ทำให้เจ้าตัวแทบจะล้มกลับลงไป 


    พรึ่บ


    มือหนาเอื้อมไปบีบไหล่บางจนจีมินตกใจอยากเบี่ยงร่างออก แต่ยังไม่วายโดนเขาจับยึดไว้แล้วกระชากออกมาข้างนอก 


    "กูเจ็บนะ โอ๊ยยยย"


    ปากอิ่มเผยอขึ้นร้องโอดโอยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไปเพราะเริ่มคอแห้งและหิวน้ำอย่างมาก 


    "อย่ามาแกล้งทำตัวอ่อนแอ"



    ปึงๆๆๆๆ


    ตลอดทางที่เดินกลับไปนอนที่ชั้นสอง เท้าเล็กก็กระแทกหนักๆลงบนพื้นในทุกจังหวะของการก้าวขา เพื่อไม่ให้ถูกเขามองว่าทำตัวอ่อนแอใส่   


    แอ๊ด


    จองกุกเปิดประตูแล้วเดินนำเข้าไปก่อน จากนั้นเขาก็ผลักร่างจีมินแรงๆจนตัวบางเซถลาแทบล้มหัวขมำ 


    ตาคมได้ไล่มองไปรอบๆบริเวณห้องนอนที่สภาพมันเละตุ้มเป๊ะมาก   เหตุผลก็เพราะจีมินทำมันพังเกือบทั้งหมด 


    เขายืนเท้าสะเอวและถอนหายใจออกมาครั้งนึง  ก่อนจะหันหน้ามาหาจีมินที่ยืนเอามือลูบแขนตัวเองเหมือนคนกำลังหนาว


    "เก็บของเข้าที่ให้หมด   ก่อนที่กูจะบีบคอมึง"


    พอออกคำสั่งจบแล้วเขาก็เดินหนีออกไปหยุดยืนที่หน้าประตู และหันเสี้ยวมาหาเพื่อบอกย้ำอีกเรื่อง


     "มึงควรอยู่ในห้องนี้  ห้ามเสนอหน้าออกไปข้างนอกเด็ดขาด"  


    จีมินไม่ได้ตอบอะไรและยืนนิ่งเงียบใส่ตามเดิม  เขาก็ไม่รอฟังให้เสียเวลาจึงปิดประตูดังปังใส่จีมินที่มองอยู่ 


    "เฮ้อ  นี่มันวันอะไรวะเนี่ย"


    ถึงจะทิ้งตัวทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างสิ้นหวัง  ร่างเล็กก็ยังนึกขอบคุณสวรรค์ที่ยังมอบเรื่องดีๆมาให้เห็นอยู่บ้าง อย่างน้อยๆในคืนนี้จีมินก็มีโอกาสนอนแยกตัวออกจากจองกุก  เพราะเขายอมลงไปนอนกับเพื่อนๆตรงห้องโถงข้างล่าง   


    มันก็ยังมากพอให้จีมินได้หายใจหายคออยู่บ้างซักเล็กน้อย   ไม่อย่างนั้นคงต้องทนฝืนกับความอึดอัดใจทุกนาทีแน่ๆ 


    แค่หายใจร่วมโลกเดียวกันกับเขาจีมินยังไม่นึกชอบมัน   ต่อไปอาจจะต้องมาหายใจร่วมห้องเดียวกันนั่นยิ่งไม่ได้ใหญ่เลยล่ะ



    >รุ่งเช้า วันแต่งงาน<



    "สวยมาก เริศมากค่า" 


    เมื่อลิปสติกสีเข้มจรดลงริมฝีปากอิ่มเรียบร้อย สาวประเภทสองที่มาในนามคนสนิทของซอกจินเพื่อมารับหน้าที่แต่งหน้าเจ้าสาว ถึงกับต้องออกปากชมจีมินไม่หยุด 


    "พี่ละอิจฉาจริงๆ หนูทำบุญด้วยอะไรเนี่ย" 


    จีมินได้แต่ยิ้มแห้งๆให้อย่างเหนื่อยใจเท่านั้น  ถ้าหากรู้ล่วงหน้าว่าทำบุญแล้วต้องมาเจอกับจองกุก  จีมินคงจะทำบาปหนักซักแปดพันอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงคนๆนี้


    มันแน่นอนอยู่แล้วว่าคนอื่นต้องมองเห็น  'ความเพอร์เฟค'  ของจองกุกในทุกๆด้าน  แต่ดันไม่มีใครสามารถเข้าถึงจนรู้นิสัยเสียๆอันน่ารังเกียจนั่นต่างหาก 


    แค่นึกถึงหน้าจองกุก ร่างเล็กก็อยากจะเอาเล็บข่วนหน้าเขาให้หมดหล่อไปเลย 



    ในความเป็นจริงแล้วการแต่งงานในครั้งนี้  ควรจะจัดใหญ่โตให้สมเกียรติของตระกูลสำหรับคนมีอิทธิพลอย่างจอนจองกุก   แต่เป็นเพราะว่าเขามีเหตุผลที่จำเป็น จึงต้องจัดมันอย่างเงียบๆ  


    แม้แต่บุคคลที่มาร่วมงาน  ยังมีเพียงญาติผู้ใหญ่และคนสนิทของเจ้าบ่าว ที่ไม่รู้ว่าตัวเองมาเป็นเพียงพยานรักหลอกๆของทั้งสองในครั้งนี้ 

    .

    .

    .

    สายตาคมของร่างสูงที่จ้องมองมาที่จีมินอย่างไม่ลดละ  ตั้งแต่เจ้าตัวเดินออกมากระทั่งนั่งลงตรงหน้า  ทำให้จีมินเริ่มทำตัวไม่ถูกจนต้องแอบแขวะเขาเบาๆให้พอได้ยินกันคนสองคน

    "มองไรนักหนา" 


    "มองดูทาสรับใช้ให้ชัดๆ" 


    จองกุกก้มไปกระซิบกลับเบาๆแล้วผละออกมายิ้มให้คนอื่นอย่างเนียนๆ  ทำเอาจีมินอยากจะเบะปากมองบนแต่ต้องรักษาอาการเพราะคนอื่นๆจ้องมาที่พวกเขาทั้งสองคนอยู่


    "น่ารักจังเลยลูก"   


    คุณอาของจองกุกเอ่ยชมไม่ขาดปากพร้อมมือที่ยกมาลูบผมจีมินอย่างเอ็นดู  ร่างเล็กเลยยกมือขึ้นมาไหว้ขอบคุณแล้วส่งยิ้มหวานไปให้


    และสาเหตุหลักๆเป็นเพราะใบหน้าจิ้มลิ้ม  บวกกับน้ำเสียงหวานและความนอบน้อมของจีมิน ทำให้ใครๆต่างก็คิดว่าเจ้าตัวช่างเหมือนผู้หญิงมากเหลือเกิน 


    ได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว เริ่มพิธีสวมแหวนเลยนะครับ” 


    ชายสูงวัยท่าทางใจดีได้บอกกล่าวให้เตรียมพร้อม  จากนั้นเขาก็สะกิดบอกให้จองกุกเปิดตลับแหวนเพชรเพื่อหยิบมันออกมา 


    จองกุกมองค้างอยู่สักพักเพราะมันคือแหวนเพชรของคุณแม่  แต่บัดนี้มันกำลังจะไปอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของปาร์คจีมิน พอคิดได้แบบนี้แล้วเขาก็ดันหวงแหวนวงนี้ขึ้นมาซะงั้น


    "สวมแหวนให้น้องได้แล้วจองกุก"


    คุณอาเอ่ยเบาๆและใช้มือจับเข้าที่ไหล่ของหลานชาย จองกุกก็หันมาหาเพื่อส่งยิ้มให้คืน ก่อนจะเอื้อมมือไปจับเอามือซ้ายของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าสาวขึ้นมา


     ".........."


    ทันใดที่นิ้วมือเรียวยาวตวัดมาจับเข้าที่มือน้อยๆ  จีมินก็หายใจติดขัดและมือสั่นจนเขารู้สึกได้  ทั้งสองคนจึงเริ่มมองตากันและเงียบอยู่แบบนั้น 


    จองกุกลูก  สวมแหวนให้น้องเร็วเข้าสิ” 


    สตรีท่านผู้ใหญ่ในฐานะคุณแม่ของซอกจินส่งเสียงเร่งจองกุกอีกครั้ง   เมื่อเขานั่งมองเจ้าสาวแบบตาไม่กระพริบ


    ครับ” 

    เขาตอบกลับไปเบาๆแล้วเริ่มสอดแหวนเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายให้จีมิน  พอสวมเรียบร้อยเขาก็ตวัดดวงตาคมขึ้นมามองหน้าจีมินอีกครั้ง


    “........” 


    จีมินไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรออกไป  และเมื่อคิดว่าสู้สายตาเขาไม่ไหวจีมินจึงรีบไหว้ขอบคุณทันที  ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ยกมือขึ้นมารับไหว้แล้วแกล้งยิ้มให้


    "จีมิน คราวนี้หนูสวมแหวนให้พี่จองกุกนะลูก"


    คุณแม่ของซอกจินยื่นมือมาแตะเขาที่ไหล่เล็กของจีมิน เพราะสังเกตเห็นว่าจีมินกำลังประหม่าและตื่นเต้นมากๆ  จากนั้นมือน้อยนี้ก็ต้องสั่นอีกรอบเมื่อไปจับเข้าที่ข้อนิ้วเย็นๆของจองกุก  ไม่นานก็ค่อยๆบรรจงสวมแหวนให้เขาอย่างตั้งใจ


    ขอบคุณครับ 


    เมื่อเจ้าสาวเป็นฝ่ายสวมแหวนให้คืนเรียบร้อย  จองกุกจึงแกล้งตามน้ำไปและแสดงออกอย่างเป็นมืออาชีพ โดยไม่เผยอาการให้คนอื่นจับได้ไล่ทันแม้แต่นิดเดียว  

    .

    .

    .

    "เจ้าสาวมองกล้องด้วยค๊าบบ"


    เจโฮปยกมือขึ้นบอกให้จีมินมองมายังกล้องตัวใหญ่ที่กำลังจับภาพอยู่ เพราะจีมินเอาแต่สาละวนอยู่กับการปฏิเสธมือของจองกุกที่กำลังโอบเข้าที่ช่วงเอว 


    "เอามือออกไป"


    จีมินเบี่ยงหน้าออกไปหาจองกุกที่ยืนทำหน้าทะเล้นใส่ และบอกเขาให้เลิกจับบริเวณสะโพกได้แล้ว 


    "เก็บภาพความทรงจำของเราไงครับ ช่วยหันไปยิ้มให้กล้องด้วยนะ"


    จองกุกตั้งใจพูดให้คุณอาได้ยินด้วย ก่อนที่มือนั้นจะบีบเข้าที่เอวเล็กๆของจีมินอย่างแรง และเจ้าตัวก็ปฏิเสธไม่ออกเมื่อหันไปเห็นคุณอาของจองกุกมองมาด้วยความรัก  


    หลังจากถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานเสร็จสรรพ  ทุกอย่างจึงดำเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้าย  ท่านผู้ใหญ่จึงได้พากันเดินขึ้นมาที่ชั้นสองของตัวบ้านเพื่อที่จะส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ


    คุณอาของจองกุกที่ทำหน้าตายิ้มแย้มได้เดินมาลูบผมของจีมินอย่างเอ็นดู พร้อมทั้งเอ่ยคำอวยพรให้กับหลานทั้งสอง


    ชีวิตคู่ต่อจากนี้คือการใช้ชีวิตร่วมกันผัวเมีย  ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรหนูห้ามถอดใจจากจองกุกนะ....เมื่อไม่เข้าใจกันให้แบ่งรับแบ่งสู้ และช่วยกันประคองชีวิตรักไปได้เรื่อยๆ” 


    พอคุณอาพูดจบแล้วก็เอื้อมไปจับมือของทั้งสองคนมาวางซ้อนกันแล้วกล่าวต่อ ตาเล็กๆจึงหันไปมองจองกุกก่อนแวปนึง  เมื่อจองกุกหันมาสบตาเข้าพอดี  ต่างคนก็ต่างรีบหันไปมองคุณอาเพื่อเลี่ยงสายตากันและกัน


    จองกุกก็เหมือนกัน จะทำอะไรให้คิดถึงน้องก่อนเสมอ เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนะ ต่อให้เจออุปสรรคอะไรก็ให้จับมือกันไว้นะลูก


    ครับ” 


    เมื่อจองกุกรับปากอย่างดิบดีแล้วคุณอาจึงกลับลงไปข้างล่าง หลังจากนั้นก็มีเพื่อนๆของจองกุกเข้ามายืนออกันที่หน้าประตูเพื่ออวยพรให้ 


    "ขอให้มึงได้เป็นพ่อบ้านใจกล้าอยู่เสมอเลยเพื่อนรัก"  


    "มีเมียแล้วก็หัดทำตัวดีๆ อย่าหลีสาว  อย่าวอกแวก"


    "คืนนี้ขอให้พากันได้นอนตอนสว่างไปเลยละกัน"


    "ส่วนจีมิน   อืม....จะบอกอะไรดีล่ะ....เอาเป็นว่า......ทนมันได้ก็ทนนะ  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"


    ทั้งสองแกล้งพยักหน้ารับคำก่อนจะเผยรอยยิ้มให้พวกเขาเพื่อจะได้ดูสมจริง 


    "มึงอย่าวู่วาม ลองหัดใจเย็นลงหน่อย   แล้วก็.....สามวันนะห้ามออกไปไหน"


    นัมจุนมาอวยพรเป็นคนสุดท้าย   พร้อมกำชับไม่ให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวออกจากห้อง 


    "เดี๋ยวๆ ยังไม่ได้หอมแก้มกันเลยอ่ะ คุณอาลืมช็อทนี้ไปได้ยังไงกัน"


    แทฮยองดึงแขนเจโฮปไว้ไม่ให้ก้าวลงบนไดต่อ ทุกคนเลยหยุดชะงักและหันหน้ามามองจองกุกกับจีมิน 


    "กลับออกไปได้ละ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องบอกหรอก.....เดี๋ยวทำกันเอง"


    ปังงง


    จองกุกคว้าบานประตูเข้ามาปิดดังปังเพื่อหนีเพื่อน นัมจุนที่ยืนเก้อรอชมฉากหวานๆอยู่หน้าประตูถึงกับหมดหวัง และก้าวขาออกไปหาพวกเจโฮปที่ยืนไล่กันอยู่ขั้นบันได


    "ดูมันปิดประตูแล้วกูเป็นห่วงจีมินเลยเนี่ย ฮ่าๆ"


    แทฮยองพูดกลั้วขำแล้วก็ช่วยกันปิดล็อกประตูบ้านให้จองกุก ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน 

    .

    .

    .

    หลังจากที่ถูกปล่อยให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้อยู่กันเพียงลำพังสองคนผัวเมีย  จองกุกก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำก่อน  จีมินจึงไปนั่งแกะกิ๊บติดผมที่โต๊ะเครื่องแป้งและใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะดึงออกมันออกมาได้ครบหมด 


    พอถอดเครื่องประดับออกจากข้อมือ  สายตาเจ้ากรรมก็พลันมองไปยังแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้าย จึงได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วบ่นกับตัวเอง


    "แต่งงานครั้งเดียวยังต้องแอบทำหรอเนี่ย"


    จีมินพูดจบยังไม่ทันไรเจ้าบ่าวหมาดๆก็เดินตัวปลิวออกมาจากห้องน้ำมา  และบนร่างกายเขาตอนนี้ได้มีเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงนอนขายาวเรียบร้อยแล้ว 



    แกร๊ก


    จีมินหันไปมองตามเสียงก็เห็นเขาเปิดลิ้นชักก่อนจะหยิบเอาบุหรี่มาถือไว้ในมือ จากนั้นเขาก็เดินออกไปที่ระเบียงโดยไม่สนใจจีมินที่นั่งมองอยู่  และคงต้องขอบคุณที่เขายังอุตส่าห์มีน้ำใจเลื่อนกระจกใสปิดไว้ก่อนที่จะจุดบุหรี่สูบ


    ส่วนจีมินที่วุ่นวายกับการแกะอุปกรณ์ต่างๆออกจากผมเสร็จ ยังต้องมาวุ่นวายกับชุดเจ้าสาวฟูฟ่องที่เอื้อมมือไปรูดซิปข้างหลังไม่ได้


    “คนแต่งงานเขาลำบากกันขนาดนี้เลยหรอวะ” 


    จีมินไม่ค่อยคุ้นชินกับอะไรแบบนี้บ่นเสียงดังขึ้นอย่างหงุดหงิด  ไม่ทันได้สังเกตว่าคนที่ยืนพ่นควันบุหรี่อยู่ที่ระเบียง  กำลังจ้องผ่านกระจกใสเข้ามาด้วยสายตาเรียบนิ่ง



    ตื้ดดดดดดดดดดดดดดด   ตื้ดดดดดดดดดดดดดด



    เสียงมือถือของจองกุกที่ถูกตั้งระบบสั่นไว้  ดึงความสนใจของร่างบางให้หันมามอง  ก่อนเจ้าตัวจะชะเง้อคอไปมองเจ้าของมันที่ระเบียง  แต่ตอนนี้เขาได้เบือนหน้าออกไปมองทางอื่น ซึ่งดูเหมือนเขาไม่ได้สนใจคนในห้องเลยสักนิด


    หลังทนฟังเสียงสั่นของมันได้ไม่นาน มือเล็กจึงคว้าเอามือถือราคาแพงของจองกุกขึ้นมาถือ หอบกระโปรงที่ลากยาวฟูฟ่องขึ้นมาเพื่อให้เดินสะดวก  ก่อนจะสาวเท้าตรงไปยังระเบียง  ทิ้งชายกระโปรงลงและเอื้อมมือไปเลื่อนบานประตูใสเปิดมันออกอย่างรวดเร็วและยื่นมือถือให้เขา


    "นี่....มึง"   


    อะไร  จองกุกหันหน้ามามองก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ


    “มีคนโทรมา” 


    เขายืนพิงระเบียงและไม่ยอมเดินเข้ามาหา จีมินเองก็กลัวว่าปลายสายจะวางไปก่อน จึงรีบสาวเท้าเข้ามาใกล้จองกุกซะเอง


    รับโทรศัพท์ก่อนสิ” 


    จองกุกไม่ตอบแต่หันไปดูดควันเข้าปาก จากนั้นก็ยื่นหน้ามาเป่าควันใส่จีมินเต็มๆ ทำให้คนที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับสำลักควัน


    แค่กๆ” 


    จีมินไอออกมาสองสามครั้งก่อนจะเงยหน้าไปจ้องตัวต้นเหตุที่กำลังยกยิ้มมุมปากอย่างหน้าตาเฉย 


    นิ...สัย!  


    ร่างเล็กเน้นเสียงด่าเขาด้วยความไม่พอใจ  และหยิบเอามืออีกข้างของจองกุกขึ้นมาวางมือถือลงไปที่ฝ่ามือของเขาอย่างแรง ก่อนจะหมุนตัวกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาข้างในห้อง


    "หึ...มึงมันน่ารำคาญ"


    จองกุกเอาแต่มองตามคนอีกคนแล้วแค่นหัวเราะในลำคอ  ไม่ได้สนใจมือถือนั่นเลยซักนิด เพราะเขาทำเพียงแค่ปรายตาลงมองดูหน้าจอแล้วกดปิดเครื่องไป จากนั้นก็ยืนดูดบุหรี่ต่ออีกสักพักถึงได้กลับเข้ามาในห้อง


    ส่วนจีมินก็ใช้เวลาในห้องน้ำเกือบครบชั่วโมงก่อนก็โผล่ออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ผมเปียก   ในมือก็กำลังถือผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมไปด้วย


    “กูคิดว่ามึงไปตาย”   


    คนที่นอนกระดิกเท้าดูทีวีอยู่บนเตียงแขวะมาอีก จีมินก็ไม่อยากคุยอะไรกับเขามากนัก เลยเลี่ยงคำตอบที่น่าจะทำให้ทะเลาะกัน และเลือกตอบในเรื่องที่เป็นความจริงแทน  


    ชุดมันถอดยากเหอะ   


    จีมินแค่ตอบไปแบบไม่ใส่ใจนัก แต่มันทำให้จองกุกหันหน้าไปมองมากขึ้น


    ไม่เรียกกูล่ะ กูรอถอดให้อยู่” 


    พูดจบเขาก็จ้องมองมาที่คนตัวเล็ก ซึ่งเจ้าตัวกำลังเป่าผมอยู่บนโซฟา แต่จีมินไม่ชอบใจเวลาที่เขาแกล้งพูดเรื่องแบบนี้ใส่  บวกกับเรื่องที่เขาพ่นควันใส่หน้าจึงเลือกที่จะไม่ตอบอะไรไป วินาทีนั้นเป็นต้นไปทั้งห้องก็เดดแอร์เงียบหมดไม่มีเสียงใดๆอีก  


    พอผ่านไปสักพัก เมื่อผมเริ่มแห้งจีมินก็เดินมาหยุดยืนที่เตียงอีกฝั่ง  จองกุกจึงละสายตาจากจอทีวีเพื่อหันไปมองและก็ทำให้เขาเลิกคิ้วอย่างนึกสงสัย  เมื่ออีกคนคว้าหมอนไปหนึ่งใบ


    ไปไหน  มานอนนี่! 


    เขาชี้นิ้วไปตรงที่ว่างข้างๆและตบมือแปะๆลงบนที่นอนเพื่อบอกให้จีมินขึ้นมานอนด้วยกัน


    จะไปนอนที่โซฟา มึงก็นอนที่เตียงไป” 


    จองกุกดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันทีและคว้ามือมาดึงแขนของอีกคนเข้าหาตัวเองอย่างรวดเร็ว จนร่างบางปลิวกระแทกอกเขาเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว


    ปล่อยก่อน เราคุยกันแล้วนะว่าแต่งหลอกๆน่ะ” 


    ยังไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรไปมากกว่านั้น  จองกุกก็จับมือข้างซ้ายของคนตัวเล็กขึ้นมาแล้วมองหน้าจีมินอย่างเอาเป็นเอาตาย


    มึงก็เลยไม่ยอมใส่แหวนงั้นหรอ” 


    คือ..กูวางไว้โต๊ะเครื่องแป้งก่อนที่จะเข้าไปอาบน้ำ  พอกลับออกมาก็เลยลืมใส่” 


    จีมินมองไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของจองกุก ก็พบว่าเขายังสวมแหวนอยู่ก็เลยรู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง

    “มึงทำผิดกฏ ใช่มั้ย?” 


    น้ำเสียงดุๆที่ถามมานั้นเหมือนคนกำลังจะโมโหเต็มที 


    กูไม่ชิน   เอาเป็นว่าคราวหน้ากูจะใส่ละกัน”  


    จีมินพูดออกมาแล้วถอนหายใจใส่  ตัวเล็กๆก็ดิ้นขลุกขลักไปมาในอ้อมกอดของคนตัวโตกว่า  ยิ่งทำให้กลิ่นกายหอมอ่อนละมุนลอยปะทะจมูกของเขา


    อย่างงั้นหรอ” 


    กูว่าหาแหวนปลอมๆมาสวมก็ได้อันนี้มันแพงไป   ถ้าเกิดว่ากูทำหาย.....มึงต้องฆ่ากูตายแน่เลย” 


    "ใช่  กูทำแน่ๆจีมิน"


    สายตานิ่งๆแต่มีเลศนัยแฝงของเขาทำให้จีมินนึกกลัวจนเผลอเอามือดันไหล่เขาไว้


    เอ่อ...กูว่าไม่จำเป็นต้องนอนเตียงเดียวกันหรอก  ไม่มีใครเขามาตอนนี้หรอกน่า  แค่แต่งงานกันแบบหลอกๆ แบบปลอมๆมึงอย่าลืมสิ” 


    ปากเล็กๆรีบพูดเตือนสติของเจ้าบ่าวอีกครั้ง  จนกระทั่งเขาดึงร่างเล็กเข้าหาอกแกร่งมากขึ้นและจงใจพูดให้ชัดถ้อยชัดคำกว่าเดิม


    "งั้นลองเป็นผัวเมียกันปลอมๆ  แต่เอากันจริงๆมั้ยล่ะ"


    ประโยคดังกล่าวก็คงไม่ใช่แค่คำขู่  ถ้าหากว่าจองกุกคิดจะทำอะไรอย่างว่าขึ้นมาจริงๆ  จีมินเลยต้องลุกขึ้นมาป้องกันเอกราชของตัวเองเอาไว้ให้มากที่สุด  แต่สถานการณ์ล่อแหลมที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้  มันยากต่อการที่จะขยับตัวหนีคนอย่างจองกุกมากๆ


    "อย่ามาพูดอะไรแบบนี้นะ กูไม่ชอบ"  


    จีมินทำใจกล้าพูดออกไป  ทั้งที่อีกฝ่ายยังจับมือเล็กๆของเอาไว้อย่างแน่นหนา 


    "กูก็ทำให้มึงไม่ชอบไงล่ะ" 


    จองกุกพูดสวนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พร้อมปล่อยมือเล็กๆออกก่อนที่จะเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นปลายคางแทน 


    "โอ๊ยย"   


    มือแกร่งบีบเข้าที่คางของจีมินก่อนจะดันขึ้นมาจ่อตรงใบหน้าคมของเขาพอดี


    "อย่ามาจับ"


    จีมินที่เห็นว่าตนเองกำลังจะไม่ปลอดภัยก็พยายามดึงมือของจองกุกออก  แต่มันก็ไม่เป็นผลเพราะอีกฝ่ายแข็งแรงกว่ามาก  และไม่ทันที่สมองของจีมินจะคิดหาวิธีหลีกหนีได้  ก็รู้สึกว่าร่างบางของตนเองถูกผลักลงไปนอนราบกับเตียงอย่างแรง  


    "จองกุก  มึงอย่าเข้ามา!!" 


    จีมินลุกขึ้นเพื่อถลาตัวเข้าไปใกล้หัวเตียงอย่างรวดเร็วและรีบลงจากเตียงเพื่อสาวเท้าวิ่งหนีเขา  แต่จอนจองกุกก็ไม่เคยพลาดเช่นกัน  เพราะเขาใช้ความเร็วในการเข้าประชิดตัวร่างเล็กได้โดยใช้เวลาไปเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น คนที่ถูกจับกุมอยู่จึงเริ่มขวัญเสียขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้  


    "ปล่อยสิ"


    เมื่อรู้สึกว่าร่างเล็กของจีมินสั่นหนักมากจนเขารู้สึกได้ จองกุกจึงอยากป้อนคำถามไม่ดีให้ตอบเล่นๆบ้าง


    "กลัว หรือ อยาก?" 


    เขาถามแล้วเอามือลูบไล้กรอบหน้าของจีมินไปด้วย  เมื่อจีมินเอียงหน้าหนีและไม่ตอบคำถาม  เขาจึงโน้มใบหน้าคมเข้าหาลำคอขาว  ทันใดนั้นปลายจมูกโด่งก็สูดดมกลิ่นหอมเบาๆจนร่างบางขนลุกซู่ 


    "โอ๊ย  ปล่อยนะ"


    จีมินกลั้นหายใจและพยายามถดตัวหนี  เขาเคลื่อนตัวตามไปติดๆโดยการแนบลำตัวลงไปหาจนเนื้อตัวชิดกัน และไม่ปล่อยให้มีช่องว่างระหว่างร่ายกายเลยแม้แต่หนึ่งมิลลิเมตร  ก่อนจะใช้ฟันกัดเข้าที่ลำคอขาวอย่างแรงจนร่างบางอ้าปากร้องออกมาอย่างสุดเสียงด้วยความเจ็บ 


    "โอ๊ยยยยย  กูเจ็บ!!"


    จีมินใช้มือทุบเข้าที่หน้าอกแกร่งของจองกุกเต็มเหนี่ยว  เขาจึงผละใบหน้าหล่อออกมาเพื่อก้มมองไปที่ผลงานชิ้นเอกของตัวเอง  และเห็นว่าจีมินในเวลานี้มีรอยสีแดงที่คอชัดมาก  ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีเลือดซึมออกมาด้วยนิดหน่อย  แล้วมันก็ทำให้เขาก็รู้สึกพอใจกับมันไม่น้อยเลย


    "คิดว่ากูพิศวาสมึงหรอ....เหอะ....อย่าฝันสูงขนาดนั้น  อย่างมึงก็เป็นแค่ผงใต้ตีนกูเท่านั้นแหละ" 


    พูดจบเขาก็ดึงตัวจีมินออกห่างจากผนังห้องเล็กน้อย  จากนั้นก็ผลักจีมินเข้าไปใหม่จนตัวเล็กๆนั่นปลิวเข้าไปกระแทกผนังห้องแข็งๆ


    "อึ่ก"


    ร่างเล็กที่ไม่ทันได้ตั้งตัวอยู่บ่อยครั้งก็ค่อยๆทรุดนั่งลงกับพื้นเบาๆด้วยความจุก  เพราะท้ายทอยถูกแรงกระแทกไปด้วย แถมแผ่นหลังบางก็รู้สึกเจ็บแสบไม่แพ้กัน


    "นี่คือค่าแจกันที่มึงทำแตก"  

    .

    .

    .

    จองกุกขึ้นเตียงมานอนฟังเสียงจีมินนั่งสูดจมูกร้องไห้อยู่บนพื้น  แล้วเขาก็รำคาญจนต้องคว้าหูฟังมาเสียบและเล่นเกมส์ต่อ  หากแต่ดวงตาคมยังแอบแวปไปมองอยู่เป็นบางครั้งบางครา 


    ความจริงแล้วเมื่อวานเขาโกรธมากแต่ยังยั้งตัวเองได้เพราะไม่อยากให้จีมินร้องไห้ตาบวมเข้าพิธีไปมากกว่านี้  


    เดี๋ยวคนอื่นสงสัยขึ้นมาจะให้ตอบว่าจีมินดีใจมากที่ได้แต่งงานกับเขาก็เลยร้องไห้ทั้งคืน  มันก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย  เขาจึงเก็บมาระบายอารมณ์ใส่จีมินในวันนี้นั่นแหละ


    นานเกือบสิบนาทีร่างบางจึงค่อยๆลุกขึ้นยืนและจ้องมองอีกคนไม่วางตา แต่นั่นยิ่งทำให้จองกุกรู้สึกสนุกเข้าไปใหญ่  ยิ่งเป็นสายตาของคนที่คิดจะต่อกรกับเขาแล้ว   ยิ่งทำให้เขาอยากรังแกมากขึ้นไปอีกร้อยเท่า


    "กูเกลียดมึงจองกุก!!"


    มือเล็กลูบไปที่คอตัวเองเบาๆ และตะโกนด่าเขาอย่างเหลืออด ทั้งที่ทำใจมาแล้วแท้ๆว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง  แต่จีมินก็ยังตั้งการ์ดป้องกันตัวเองไม่ได้


    ถึงวันนี้จะแพ้แต่รับรองว่าสักวัน   จองกุกจะต้องจดจำชื่อจีมินไปตลอดกาล  ไว้คอยดูละกัน




                                                 


    Talk 1



    ตอนแรกเรากลับมาอ่านแล้วรู้สึกว่ามันยังไม่ค่อยสนุก เราเลยเอาไปรีไรท์ใหม่  


    ทำให้อัพตอนต่อไปช้ามาก   ข้ามปีกันเลยทีเดียว 

    เพราะไม่อยากแต่งแบบลวกๆ อยากให้มันออกมาดี  

    แต่ก็ขอบคุณนะที่ยังรออ่านกันอยู่ รับรองว่าสมการรอคอยแน่นอน


    จากนี้ก็จะทยอยเปิดให้อ่าน และมาอัพใหม่เรื่อยๆไม่ให้รอนานแล้ววว อิอิ

    ยังไงก็ขอ คอมเม้นต์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ

    อ่านแล้วก็อย่าลืมกด  'ให้กำลังใจ' ด้วยน๊าาาา



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×