ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กุกมินคนเลว #kookmin จบแล้ว

    ลำดับตอนที่ #3 : ไม่ได้บังคับ 100 %

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 63


    TB







    แสงแดดจางๆที่ลอดผ่านม่านกั้นสีขาวทางหน้าต่าง ทำให้จีมินต้องหันหน้าหนีและเบี่ยงตัวให้พ้นทิศทางของแสง 


    แม้ว่าเจ้าตัวจะหลับเป็นตายมาทั้งคืนแล้ว แต่ก็ยังชดเชยความเหนื่อยล้าของเมื่อวานไม่พออยู่ดี  ตัวบางที่ขยับเข้าใกล้อีกคนในตอนนี้ เริ่มรับรู้ถึงความนุ่มลื่นของผ้าปูนอนที่แปลกไป 


    จีมินจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองใช้แค่ผ้าห่มบางๆมาปูนอน ตาเรียวจึงค่อยๆปรือตาขึ้นมองเพดานสีขาวสะอาดตา  และรับรู้ถึงการขยับตัวของสิ่งมีชีวิตที่นอนอยู่ข้างๆ


    เฮ้ยยยย” 


    เผลอปากร้องเพราะความตกใจแล้วก็ใช้มือปิดปากตัวเองทันทีที่รู้ตัวว่าไม่ควรเสียงดัง  รีบหันมองซ้ายขวาแล้วหาทางออกจากพื้นที่เสี่ยงนี้ให้เร็วที่สุด


    เอะอะโวยวายไรแต่เช้าวะ” 


    คนที่เหมือนจะหลับต่อเมื่อครู่ ดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างหัวเสียแล้วทำหน้าตาไม่พอใจใส่ แต่ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าผมที่ไม่ได้ถูกเซ็ตเป็นทรงของจองกุก ในตอนที่ตื่นนอนใหม่ๆแบบนี้ทำให้ดูดีไปอีกแบบเหมือนกัน


    ลุคเหมือนเด็กหนุ่มมอปลายยังไงยังงั้น  แต่ว่า..ช่างมันเถอะ  


    ในเมื่อเขาเป็นคนที่จีมินเกลียดแล้วต่อให้หล่อแค่ไหนก็ไม่ใจสั่นหรอก.....ก็แค่จอนจองกุก


    "บ้าไปละ"


    จีมินตั้งสติได้ก่อนก็รีบกุลีกุจอลงจากเตียง  ขณะที่อีกคนสะบัดศีรษะไล่ความง่วงสองสามทีแล้วหันมาจ้องคนตัวเล็กราวกับจะกัดกินให้ตายไป  จีมินจึงทรงตัวขึ้นยืนเต็มความสูงอันน้อยนิดของตัวเอง แล้วเท้าสะเอวปั้นหน้าโกรธใส่จองกุกบ้าง


    กูมานอนอยู่บนเตียงได้ไง” 


    ปากถามออกไปพร้อมชี้นิ้วไปที่เตียง ส่วนอีกคนที่คล้ายกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ก็ตอบกลับมารวดเร็วเช่นกัน


    มึงขึ้นมาปล้ำกู” 


    คำตอบของจองกุกทำให้จีมินตาโตและหน้าชาไปแวปนึง


    กูเนี่ยนะ อย่ามาตลก”   


    มือเล็กหันมาชี้เข้าหาตัวเองเพื่อย้ำถามอีกครั้ง


    เออ......อยากได้กูเป็นผัวจนตัวสั่นสิ” 


    ปากร้ายใส่แม้กระทั่งตอนตื่นแบบนี้  ทำให้จีมินรู้ว่าตัวเองพลาดมากที่ยอมตกลงรับข้อเสนอแล้วแต่งงานกับจองกุกก็นาทีแหละ 


    นี่.......อย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ     สรุปง่ายๆคือ........นอกจากกูจะไม่ได้อยากมีผัวเป็นมึงแล้ว    แค่หน้ามึงกูก็ไม่อยากมองด้วยซ้ำ โอเคป่ะ


    ปากดี”   


    จองกุกค่อยๆลุกยืนอีกฝั่งของเตียง แล้วสาวเท้าหนีเข้าห้องน้ำอย่างไม่ใยดีกับคำที่จีมินพูดไปซักนิด


    "โหยย  ฮือ...กูอยากกลับบ้าน"

     

    จีมินงอแงและถอนหายใจเมื่อเขาเดินลับสายตาไปแล้ว 


    แค่แต่งงานกันได้แค่วันเดียวเอง  ทำไมเหมือนมันยาวนานเป็นชาติก็ไม่รู้  แล้วที่แน่ๆคือต้องเล่นสงครามประสาทกับจองกุกอีกตั้ง สองเดือนยี่สิบเก้าวัน



    ระหว่างที่รอเขาออกมาจากห้องน้ำคนตัวเล็กก็จัดเตียงนอนให้เข้าที่ พอจัดเสร็จแล้วก็นั่งหลับรออาบน้ำที่ปลายเตียงไปพลางๆ  


    นานเกือบยี่สิบนาทีถึงพบว่าคนตัวสูงออกจากห้องน้ำมา และเขาก็ปล่อยให้หยดน้ำเกาะตามตัวอย่างกับพระเอกในซีรีย์  ไหนจะผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันรอบเอวสอบๆนั่นอีก


    พอเดินเสยผมหล่อๆเดินมาถึงปลายเตียง เขาก็เรียกคนที่เบือนหน้าหนีไปอีกทางให้หันกลับมาสนใจตนเอง  


    ไปเก็บกวาดรอบห้องให้สะอาด  อย่าให้บอกอีก” 


    คนฟังได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย  แต่ก็เดินไปหยิบไม้กวาดมาถือไว้ในมือ ก้มเก็บข้าวของและผ้าห่มที่กระจัดกระจายอยู่ข้างเตียง จากนั้นก็จัดการพับมันอย่างดีก่อนจะเดินเอาไปเก็บในตู้เหมือนเดิม 


    มือเล็กๆแกว่งไม้กวาดไปมาจนพื้นสะอาดเรียบร้อย  ในขณะที่จีมินเองก็ลืมไปเลยว่าจองกุกอยู่ในห้องนี้ด้วยกระทั่งได้ยินเสียงทุ้มต่ำนั้นดังขึ้นมา


    ทีหลังให้กูออกไปก่อนค่อยทำความสะอาด


    เขาเอ่ยขึ้นขณะที่มือกำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวไปด้วย


    อืม” 


    ร่างบางแค่ตอบปัดๆไปเพราะไม่อยากเถียงกับจองกุก


     ให้เวลาห้านาที    รีบอาบน้ำแล้วไปเจอกูข้างล่าง” 


    ดวงตาเรียวเบิกกว้างอีกครั้งเมื่อได้ยินระยะเวลาที่จองกุกกำหนดมา


    ให้ตายเถอะ  ห้านาทีกูยังถอดเสื้อผ้าไม่เสร็จเลยนะ”  ปากเล็กๆบ่นออกมาให้เขาได้ยิน


    งั้นก็..” 


    เขาพูดค้างไว้แค่นั้นทำให้จีมินนึกดีใจว่าเขาน่าจะเพิ่มเวลาให้รึเปล่า


    ถอดให้หมดตรงนี้  แล้วกูจะเริ่มนับตอนมึงอาบน้ำ


    “… ” 


    ร่างบางที่ออกแรงวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำอย่างไม่คิดชีวิต ทำให้เขามองแล้วก็แอบขำออกมาเหมือนกัน


     

    สิบสองนาทีผ่านไป



    แฮ่กๆ


    เสียงหอบหายใจหนักๆของคนที่วิ่งลงมาจากชั้นสองของตัวบ้านจนเกือบจะตกบันไดหัวทิ่มลงมา ได้มาหยุดยืนที่โต๊ะอาหารเป็นที่เรียบร้อย ทำให้รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของจองกุก 


    แต่มันกินเวลาไปเพียงแค่ชั่ววินาทีเท่านั้น  เพราะเขาจะไม่ยิ้มให้คนๆนี้มากกว่านั้นเด็ดขาด


    ช้าไปเจ็ดนาที   กูหักเจ็ดเปอร์เซ็นต์


    "ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยเนี่ยนะ"


    จองกุกจ้องอีกคนไม่วางตาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งเหมือนเคยแล้วใช้นิ้วเคาะลงบนโต๊ะให้เกิดเสียง  เพื่อบอกให้ตนตัวเล็กมานั่งเก้าอี้ตัวข้างๆ  แต่ร่างเล็กทำทีไม่สนใจและเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเขาแทน


    มีอะไรก็รีบพูดมาดีกว่า” 


    จีมินที่ไม่อยากมองหน้าจองกุกนานๆ จึงถามถึงสิ่งที่อยากรู้  


    "หน้าที่ของเมียมีอะไรบ้าง  หวังว่ามึงคงรู้ดี"


    เขายื่นกระดาษขนาดเอสี่มาให้โดยเนื้อหาในนั้นมีประมาณหกเจ็ดบรรทัดได้  จีมินจึงไล่อ่านแต่ละข้ออย่างรอบคอบแล้วไปสะดุดที่บรรทัดล่างสุด  ก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นมองจองกุกช้าๆ


    สงสัยก็ถามมา   กูมีธุระอย่างอื่นต้องไปทำ


    ไปเพิ่มมาทำไมอีกตั้งสี่ข้อวะ    ทำแบบนี้กูก็เสียเปรียบดิ.........ข้ออื่นๆพอรับได้นะ   แต่ข้อสุดท้ายกูไม่โอเค"


    "อย่าลิมสิว่าทำห้องกูเละเทะเสียหาย  กูปรับเพิ่ม"


    จองกุกดึงกระดาษกลับมาแล้วจรดปากกาลงไปเซ็นต์ชื่อกำกับไว้ข้างล่าง  แล้วยื่นมันกลับไปให้จีมินอีกครั้ง  ร่างเล็กก็ตวัดสายตาไปมองบริเวณที่มีลายเซ็นต์ของจองกุกกำกับอยู่ด้วยหัวใจที่เต้นแรงจนน่าอึดอัด


    กูไม่ได้บังคับ.......เรื่องมากนักก็เอาไปแค่นั้น   ส่วนที่เหลือกูจะหักลบกลบหนี้ให้หมด


    มึงแม่ง” 


    จีมินกำลังอารมณ์เสียที่ถูกเขากดดันทางอ้อมจึงได้สบถคำหยาบออกไปกับลมกับฟ้า รวมถึงกระดาษเจ้าปัญหาในมือนี้ด้วย


    .ตกลงจะไม่เซ็นต์?” 


    เขาเคาะนิ้วลงไปบนโต๊ะเพื่อเร่งจีมิน  แต่ด้วยท่าทีสบายเกินไปของเขาที่แสดงออกมายิ่งทำให้จีมินอารมณ์เสียมากขึ้น


    "มึงเป็นคนเฮงซวยที่สุด  เท่าที่กูเคยเจอมาเลย"


    คนตัวเล็กยู่หน้าไม่พอใจและแล้วก็จรดปลายปากกาลงไปเร็วๆ


    "ดีมาก  ปาร์คจีมิน"


    เขาเอื้อมมือไปดึงกระดาษแผนนั้นกลับมา แล้วตั้งใจยิ้มมุมปากในแบบที่จีมินเกลียดให้ทีนึง ก่อนลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมาอย่างคนอารมณ์ดีนักหนา


    ห้ามเบี้ยวนะจองกุก” 


    ร่างเล็กที่ลุกยืนตามเขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนจองกุกต้องหันไปฟังชัดๆ


    ได้ยินมั้ยว่าห้ามเบี้ยว   ลูกผู้ชายต้องรักษาสัญญานะร่างเล็กพูดย้ำอีกครั้ง


    เมื่อเห็นว่าเขากำลังตั้งใจฟังอยู่  มือเล็กๆก็ส่งนิ้วก้อยมาให้จองกุกเหมือนเด็กๆ เขามองมันสลับกับใบหน้าของร่างบางอยู่ครู่หนึ่ง 


    ปัญญาอ่อน  


    ร่างสูงเอ่ยว่าตนตัวเล็กที่ยังไม่ยอมลดมือลง จนมือหนาของเขาต้องส่งนิ้วก้อยไปเกี่ยวนิ้วเล็กของจีมินแล้วออกแรงเขย่าไปมาซะเอง

    .

    .

    .

    13.00 น.


    ขายาวก้าวขึ้นบันไดอย่างรวดเร็วกว่าที่เคย เหมือนเขาเพิ่งจะนึกเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างออก  ไม่นานร่างสูงที่เพิ่งเดินลับตาขึ้นไปชั้นสองก็เดินลนลานออกมายืนส่งเสียงเรียกจีมินให้ตามไป


    "ขึ้นมาข้างบนเดี๋ยวนี้"


    ขาเล็กๆรีบวิ่งขึ้นไปอย่างเหนื่อยหน่าย   พร้อมก่นด่าเขาในใจไม่หยุด 


    พอเท้าเล็กไปหยุดยืนที่ขอบเตียงข้างๆบริเวณที่จองกุกนั่งอยู่ เขาก็ชี้นิ้วไปที่กระเป๋าลากที่วางอยู่ใกล้โซฟา  สั่งให้จัดกระเป๋าเสื้อผ้าให้ พร้อมกำชับให้เอาเสื้อเชิ้ตตัวโปรดของเขาใส่เข้าไปด้วย


    เสร็จแล้ว” 


    ร่างเล็กปิดกระเป๋าเสื้อผ้าลงและเอ่ยบอกคนข้างๆ  แต่อีกคนกลับนั่งนิ่งไม่แม้แต่จะพยักหน้าให้ด้วยซ้ำ

     


    ตื้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


    โทรศัพท์” 


    เสียงหวานบอกอีกคนเมื่อเห็นว่ามีสายเรียกเข้ามาซักพักแล้ว  จีมินมั่นใจว่าจองกุกได้ยินแต่เขาทำเป็นไม่สนใจ  มือเล็กจึงยันค้ำตัวเองขึ้นจากพื้นและแอบมองคนตัวสูงอยู่เงียบๆ

     

    เห็นจองกุกหยิบกระเป๋าหนังสีดำขนาดพกพาออกมาหนึ่งใบ ตามด้วยกระเป๋าสีขาวในตู้นิรภัยข้างหัวเตียงอีกหนึ่งที่ขนาดไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่  เขาก้มๆเงยๆอยู่ตรงนั้นสักพักแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง  


    เก็บวัตถุสีดำเงาลงในกระเป๋าทั้งสองใบ รูดซิปปิดอย่างดีแล้วกดรหัสล็อคตู้นิรภัยอย่างรอบคอบ และจีมินเองก็ไม่แน่ใจนักว่ามันคืออะไร 


    กูจะไปกับพี่นัมจุน” 


    ร่างบางได้ยินคำที่เขาพูดชัดเจนดี  แต่ฟังดูคล้ายคลึงประโยคบอกเล่าตัวเองซะมากกว่าก็เลยไม่ได้ขานรับอะไรออกไป


    มึงฟังอยู่มั้ยเนี่ย”  เขาส่งสายตามาดุใส่จีมิน


    อือ  จะไปไหนก็ไปสิ” 


    จีมินพูดไปแค่นั้นแม้ในใจจะอยากรู้ว่าเขาไปไหน  แต่ก็ไม่ควรถามออกไปเพราะมันเป็นธุระส่วนตัวของจองกุก  เพราะฉะนั้นจีมินจะไม่ไปก้าวก่ายจนกว่าเขาจะอยากบอกเอง


     กูไปอยู่แล้ว ส่วนมึงห้ามออกจากบ้านเข้าใจมั้ย” 


    จีมินได้ยินแบบนั้นจึงตอบโต้ไปบ้าง


    เอ้า กูออกไปดูตู้ปลาหน้าบ้านก็ไม่ได้หรอ .......โอ๊ยยยยย


    อย่ากวนตีนกู” 


    เขาเหวี่ยงกระเป๋าสีดำใบนั้นใส่จีมิน จนเจ้าตัวเอามือลูบศรีษะป้อยๆ


    "หัวกูแตกป่ะวะ"


    จองกุกมองดุใส่อีกทีจีมินก็เลยหลบตาเขา


    แล้วถ้าเกิด....อยู่หอไม่ครบสามวัน คงไม่เป็นไรหรอกเนอะ” 


    พูจบจีมินก็อยากเอามือตบปากตัวเอง ที่เผลอหลุดปากถามคำถามที่ไม่ควรถามไปแล้วจึงทำได้แค่เพียงรอฟังเสียงสะท้อนกลับมา  ส่วนจองกุกได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามอง


    แต่รอยที่คอมึง  น่าจะชัดเจนครบสามวันอยู่นะ” 


    ขายาวก้าวเข้าหาเหมือนจะแกล้ง   ทำให้ร่างบางค่อยๆถอยหลัง


    อ้อ....เมื่อคืนกอดกูแน่นมาก  คงอ่อยกูสินะ” 


    รอยยิ้มดูเย้ยหยันในทีของเขา ทำให้จีมินพาลนึกเกลียดในความรู้สึกมากขึ้น


    ต่อให้โลกนี้เหลือมึงเป็นผู้ชายคนเดียว  กูก็ไม่คิดจะอ่อยมึงหรอกนะ.....บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าสำคัญตัวผิด 


    ปากเก่งเข้าไป   เดี๋ยวมึงโดนซักทีสองทีดีมั้ย


    เขาเข้าใกล้จนร่างบางต้องยกมือขึ้น   ยันไหล่กว้างของเขาออกห่างด้วยท่าทีขยะแขยงบ้าง


    "จะได้เรียกกูว่าผัวได้คล่องปาก"





    Talk 


    ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้หน่อยน๊าาาาาาาา


    และก็ขอให้ทุกคน   


    จงมีความสุขกับการอ่านจ้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×