ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคสั้น 3*8 special

    ลำดับตอนที่ #2 : Believe

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 55


     

    *****แนะนะให้เปิดเพลงฟังตามไปด้วยตามที่แทรกลิงค์ไว้ข้างใต้ค่ะ (ขอบคุณค่ะ)




    หายจากอาการนอยด์ อาการงอนกันมาไม่ทันไร ตอนนี้เขากับเพื่อนสนิทก็ต้องมาอยู่ในสภาวะที่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี......ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอน ไม่ได้นอยด์ ไม่ได้เสียใจ แต่ทั้งสองคนต่างมองหน้ากันไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรออกมา

     

    “ขอเข้าไปในห้องหน่อยได้ไหม?” คนที่เป็นแขกขออนุญาตเจ้าของห้อง คนผิวเข้มพยักหน้ารับเปิดประตูอ้ากว้างกว่าเดิม ตาหวานสวยมองไปรอบๆห้องของเพื่อนสนิทผิวเข้ม

     

    “เปนยังไงบ้าง หายนอยด์หรือยังเมิง?”ถามคนที่ยืนอยู่ในห้อง แต่สายตากับมือยังคงมองและเก็บของบางอย่างลงกระเป๋า

    “หายแล้ว ขอบใจเมิงมากนะริทที่คอยเป็นกำลังใจให้กุ” ตาคมมองร่างเล็ก เขารู้ว่าวันนี้ริทมาที่นี่ทำไม?

    “ก็ดีแล้ว ต่อไปนี้กุไม่อยู่เมิงมีอะไรก็โทรหากุหรือบีบีหากุก้อได้ กุยินดีให้คำปรึกษา เอาล่ะของกุคงมีแค่นี้มั้ง เด๋วกุรีบกลับก่อนนะ ต้องไปเริ่มเก็บของที่คอนโดอีก”

     

    “ริท อย่าเพิ่งไป” โอบกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน “เมิงกับกุเหลือเวลากันอีกเท่าไหร่?”

     

    คำถามที่จี้ใจดำคนฟังจนแทบสะอึก ร่างเล็กพยายามเงยหน้าขึ้นแล้วสูดลมหายใจยาวๆช้าๆเข้าไปเพื่อกลั้นไม่ให้น้ำตาที่กำลังจะไหลไหลออกมา

     

    “เมิงอย่าพูดแบบนี้ได้ไหมกัน? กุอุตส่าห์ไม่คิดอะไรแล้ว เมิงจะมาตอกย้ำทำไม?” ทั้งที่กลั้นน้ำตาแต่สุดท้ายก็ไหลท่วมจนได้

     

    “กุไม่ได้จะตอกย้ำ แต่กุแค่อยากมีเวลาอยู่กับเมิงให้มากที่สุดก่อนเมิงจะกลับไปเรียน ริท เมิงรุไหมว่าหลายวันมานี้กุเหนื่อย กุท้อใจ แต่กุก้อมีกำลังใจมีความสุขขึ้นมาอีกครั้งเพราะเมิง กุอยากอยู่กับความสุขของกุให้นานๆเมิงเข้าใจกุไหมริท”

     

    คนตัวเล็กก้มหน้าลงเขาเข้าใจ ไม่ใช่แค่ไอ้กันคนเดียวที่อยากอยู่กับความสุขให้นานที่สุด เขาเองก็อยากอยู่ตรงนี้ดื่มด่ำความสุขที่มีกับมัน

     

    “กันปล่อยกุเหอะ กุต้องกลับไปเก็บของที่คอนโดอีก” แงะมือที่โอบเอวตัวเองออก

     

    คนโดนแกะมือยืนมองหลังของคนที่กำลังเดินออกไปยังประตู ยิ่งออกห่างเขาไปเท่าไหร่มันเหมือนกับเอาหัวใจเขาติดตามไปด้วย

     

    “ริทอย่าเพิ่งไป” เดินไปคว้ามือของอีกคนไว้

     

    ร่างเล็กหันกลับมาแต่ไม่เหนคนผิวเข้มยืนตรงหน้า ก้มหน้าลงมองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา

     

    “ทำอะไรน่ะกัน?” ถามคนที่คุกเข่าต่อหน้าเขา หน้าคมยกมือเล็กขึ้นแนบกับปากหนาของตัวเองแล้วจุมพิตเบาๆที่นิ้วนางข้างซ้าย

     

    “อีกห้าปีเมิงต้องกลับมาหากุนะริท กลับมาอยู่ข้างๆกุ กลับมาใช้เวลาส่วนที่เหลือหลังจากนั้นกับกุได้ไหม?”

    “มันเปนเรื่องของอนาคตกุตอบไม่ได้ว่ะ”

    “นั่นไม่ใช่คำตอบที่กุอยากได้ยินนะริท” ขมวดคิ้วเข้ม

    “นั่นก็เป็นเรื่องที่กุตอบไม่ได้เหมือนกันว่ะกัน”

     

                มองคนผิวเข้มที่นิ่งเงียบแล้วต้องใจเย็นลง เขารู้ดีว่าคนเอาแต่ใจตรงหน้าต้องการคำพูดหวานๆ ต้องการคำพูดดีๆมาเป็นกำลังใจ แต่ตอนนี้เรื่องทุกอย่างมันไม่สามารถตอบได้จริงๆ

     

    “เอางี้ไหม? ตอนนี้กุตอบเมิงไม่ได้ แต่ถ้าความรุสึกของเมิงกับกุอีกห้าปีให้หลังยังเหมือนเดิม กุจะกลับมาเป็นเพื่อนเมิงอยู่ตรงนี้เหมือนเดิม”

     

    คนผิวเข้มยิ้มกับคำตอบ

     

    “เมิงยังคิดจะกลับมาเป็นเพื่อนกุอีกเหรอริท ถึงเวลานั้นเมิงแต่งงานกับกุเลยดีกว่า”

    “แต่งงานบ้าบอดิ พอแล้วกุไปดีกว่า” คนตัวเล็กเตรียมเดินหนี

    “ริทเมิงจะกลับพรุ่งนี้ใช่ไหม?เด๋วกุจะเคลียร์งานไปส่ง”

     

    คนตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะพูดออกมาเศร้าๆ

    “เมิงอย่าไปส่งกุดีกว่ากัน กุทนไม่ได้ว่ะถ้าเห็นเมิงยืนอยู่ตรงนั้นแล้วกุต้องจากเมิงไป ไว้กุถึงบ้านแล้วกุค่อยโทรบอกเมิงดีกว่า”

    “แต่กุอยากไปส่งเมิง จริงๆ”คนผิวเข้มยังดื้อ

    “ถ้าเมิงไปกุจะโกรธเมิง” คนพูดพูดจริงจัง กันมองหน้าคนที่สั่งเขา

    “งั้นนี่แปลว่ากุจะได้เจอเมิงครั้งสุดท้าย” คนผิวเข้มพูดแผ่วเบา

    “เด๋วก็ได้เจอกันอีกไม่ใช่ครั้งสุดท้ายสักหน่อย”

    “แต่ก็อีกนานกว่าจะได้เจอ”อีกคนพยักหน้า

    “กุต้องไปแล้วกัน ต้องไปเก็บของอีกเยอะแยะ” คนพูดเดินตรงไปยังประตู

     

    ร่างสูงกว่ารีบรวบร่างบางแล้วโอบไว้แน่น

     

    “กุทำใจไม่ได้ว่ะริท ทั้งที่กุทำใจมาตลอดว่าเมิงต้องไปแต่เอาเข้าจริงกุทนไม่ได้จริงๆว่ะ”

    “แล้วเมิงคิดว่ากุทำใจได้เหรอกันที่กุต้องไปน่ะ?”

     

    คำตอบของอีกคนทำให้คนที่ฟังรู้ทันทีว่าคนที่จากไปเพราะรักย่อมเจ็บกว่าคนที่รอเท่าไหร่

     

    จมูกโด่งกดลงกับไหล่เล็ก แม้ไม่ได้หันไปมองแต่เขาก็รู้ว่าคนที่กอดเขาอยู่นี้กำลังรู้สึกยังไง? รอยเปียกชื้นที่ไหล่เขาทำให้รู้ว่าใบหน้าคมกำลังร้องไห้แต่ไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตา มือเล็กจับมือคนที่โอบเขาไว้แน่น ใบหน้าหวานพยายามมองไปทางอื่นเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลตามคนที่กอด

     

    “กันเมิงปล่อยเหอะ กุต้องไปแล้วจริงๆ”

     

    คนผิวเข้มยอมทำตามปล่อยคนตรงหน้า ก่อนจะหันหลังให้คนที่กำลังจะไป เขาไม่อยากลาอีกคนด้วยน้ำตาแต่มันก็หยุดไหลไม่ได้

     

    “เมิงไปเหอะริท กุทนไม่ได้ว่ะที่จะเห็นเมิงเดินจากกุไปแล้วพรุ่งนี้กุจะไม่ไปส่งเมิง กุสัญญา” พยายามทำเสียงไม่ให้สั่นมากที่สุด

     

    “อืม กุไปแล้วนะ” คนตัวเล็กตอบรับ

     

    ปัง

     

                สิ้นเสียงประตูปิดคนผิวเข้มทรุดนั่งลงกับพื้น ขาหมดแรงดื้อๆน้ำตาไหลไม่หยุด ถึงตอนนี้เขาไม่อายที่จะร้องไห้ออกมาดังๆ น้ำตาที่ไหลออกมาทางตายังน้อยกว่าหัวใจเขาที่กำลังร้องไห้อยู่ตอนนี้ซะอีก

     

                อีกฝากของประตู คนตัวเล็กยืนพิงประตูเพื่อยันตัวเองไว้ไม่ให้ล้มลง มือเล็กปิดปากตัวเองไม่ให้ส่งเสียงสะอื้นจนคนข้างในห้องได้ยิน ยิ่งได้ยินเสียงอีกคนร้องไห้น้ำตาเขายิ่งไหลเจ็บปวดไม่ต่างกัน

     

     

    กลับมาที่คอนโด พี่ชายคนสนิทเตรียมเก็บของบางส่วนให้เขาบ้างแล้ว แววตาหยอกล้อที่เคยมีของคนโก้ตอนนี้เศร้าไม่แพ้เขา

     

    “ขอบใจพี่โน่นะที่ช่วยริทเก็บของ”

    “ไม่เปนไร พรุ่งนี้เมิงก็กลับแล้วเหรอริท?”

    ร่างเล็กพยักหน้า

    “เวลาผ่านไปเร็วเนอะ พี่คงเหงาน่าดูไม่มีเมิงอยู่ที่ห้อง”

    “ริทก็คงเหงาเหมือนกันไม่มีใครคอยแกล้งริท”

    “พรุ่งนี้พี่มีงานไปส่งไม่ได้”

    “ไม่เปนไรหรอกพี่โน่ พี่เลือกงานเหอะริทแค่กลับบ้านไม่ต้องส่งหรอก”

    คนตาตี่พยักหน้าเข้าใจ

    “แล้วไอ้กันล่ะ?จะไปส่งเมิงไหม?”

    ร่างเล็กส่ายหน้า

    “ริทบอกไม่ให้มันไปส่ง” ตอบพี่ชายแต่แววตาเศร้าเมื่อนึกถึงคนที่เขาเพิ่งจากมาตะกี้นี้

     

    แม้น้องชายเขาจะไม่บอกว่าทำไมไม่ยอมให้อีกคนไปส่งแต่เขาก็พอจะเดาได้ การมองเห็นคนรักจากไปหรือการจากคนรักมันทรมานมากขนาดไหน?

     

    “พี่เข้าใจเอ็งนะริทที่เอ็งไม่อยากให้ไอ้กันมันมาส่ง แต่พี่ก็เข้าใจไอ้กัน พี่คิดถึงเอ็ง กลับไปบ้านที่ขอนแก่นก็ได้เจอ แต่สำหรับไอ้กันถ้าเมิงจะเจอเมิงได้ก็แค่ที่กรุงเทพ จะให้มันทำทีว่าไปเที่ยวขอนแก่นบ่อยๆก็ไม่ได้เพราะมันก็ต้องกลับบ้านมัน”

     

    “ริทรู้พี่โน่ แต่พี่จะให้ริททำยังไง?”

     

    พอโดนถามกลับคนเป็นพี่ก็ไม่รู้จะตอบยังไง? เขาเป็นพี่ของมันทั้งสองคนจะให้เข้าข้างความรู้สึกของใครหนึ่งคนก็ไม่ได้

     

    “ทำตามที่ใจเมิงคิดแล้วกันนะริท พี่ไม่รู้จะตอบยังไงว่ะ?”

     

    มือเรียวลูบหัวคนที่กำลังก้มหน้าร้องไห้ จนเขาอยากจะร้องไห้ตาม

     

     

    วันนี้เป็นวันที่เขาต้องกลับบ้านเพื่อไปเริ่มดำเนินชีวิตใหม่ ไม่มีวี่แววของใครคนนั้นตามที่มันได้สัญญาไว้ว่าจะไม่มาส่งเขา

     

    ตึ๊ด ตืดดด

     

    เสียงข้อความเข้า คนตัวเล็กรีบกดอ่าน

     

    (ส่งเพลงไปให้ลองฟังดู)

     

    คนตัวเล็กรีบกดโหลดไฟล์ที่อีกคนส่งมา

     

    เสียงคุ้นหูกับกีตาร์ที่คลอเบาๆ

     

    ใครที่เคยสบตา ใครที่ฉันเฝ้ารอ
    ที่ทำให้โลกเปลี่ยน ให้ดีได้ทุกวัน
    ใครคนที่ฉันนั้นเชื่อเธอทุกสิ่ง

    เธอจะเดินกลับมา เพื่อบอกกับฉันว่าไป
    ก็จะไม่รั้งเธอ เพราะฉันเข้าใจ และเพราะรักเธอมากกว่านั้น

    * จะเชื่อฟัง ไม่ยอม ไม่มองหันไป
       ก็จะยอมเข้าใจเธอทั้งน้ำตา
      ไม่อาจดึงเธอไว้ เมื่อเธอต้องไปไกลสุดฟ้า
      อยากฝืนดวงชะตาแต่เข้าใจ.. (เพราะฉันรักเธอ)

     

    เสียงคนร้องสูง ขึ้นเรื่อยๆ บางช่วงพยายามกลั้นเหมือนไม่ให้สะอื้น ถึงท่อนนี้คนฟังได้แต่เอามือกุมไว้ที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง

     
    ยังจำเส้นแบ่งนั้น ที่ฉันให้สัญญา
    จะไม่ข้ามไป จะรอถึงเวลา
    ที่เธอพร้อมข้ามอีกครั้ง

     

    ฉันจะทำอย่างไร เมื่อใจมันเริ่มสั่นไหว
    ฉันรู้ดีว่าเธอต้องไป ในคราวนี้เป็นครั้งสุดท้าย

     

    อยากกอดเธออีกครั้งแค่ฟังเสียงใจ
    แต่ว่าเธอสั่งไว้ไม่ให้หันมา
    ไม่อยากเจอวันนี้ที่เราต้องไกลกันสุดฟ้า
    แต่ฝืนดวงชะตาไปไม่ได้

     

    “กันทำตามสัญญาแล้ว ริทกลับบ้าน ฮึก…..ดีๆนะ ถึงบ้านแล้วอย่าลืมโทรหากันด้วย” เสียงคนพูดพูดไปสะอื้นไป 

    “จะห่างกันแค่ไหนกันก็รักริทนะ”

     

    หมดเสียงคนพูด คนที่ฟังกำโทรศัพท์ตัวเองแน่น

    “กัน” เรียกชื่อคนที่มีอิทธิพลกับหัวใจเขามากที่สุด พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาแต่ก็ทำไม่ได้

     

    พอกลับมาถึงบ้าน เขาไม่กล้าพอที่จะโทรไปหาคนที่เป็นห่วงเขาตามที่สัญญา ได้แต่มองโทรศัพท์ไปมาเขายังปรับอารมณ์ไม่ทันกลัวฟังเสียงคนที่จะโทรหาแล้วร้องไห้อีก เลยส่งข้อความผ่านทางบีบีแทน

     

    “ถึงบ้านแล้วไม่ต้องเป็นห่วง ขอโทษนะที่ไม่ได้โทรไปตอนนี้ยังไม่พร้อม”

    “ไม่เป็นไร กันรอได้”

    ^_____^

    ^___________^

     

    คนตัวเล็กอมยิ้มกับข้อความที่ถูกส่งมา ตัวไกลกันใช่ว่าใจจะห่างกันซะหน่อย ตอนนี้พวกเขาสองคนแค่กำลัง “เว้นช่องว่างไว้ให้ความคิดถึง” ก็เท่านั้นเอง

     

    “รักกันนะ”

    “รักริทเหมือนกัน”

     


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

     ที่จริงตอนนี้แต่งไว้นานแล้ว แต่แต่งไม่เสร็จพอกลับมาเจอแล้วรู้สึกอยากแต่งต่อให้เสร็จอีกครั้ง แต่งด้วยอาการ  แต่งไปเศร้าไปTT^TT  ใครที่ไม่รู้จักเพลงที่เอามาลงแนะนำให้ฟังค่ะ ยิ่งฟังแล้วอ่านฟิคไปด้วยจะยิ่งอิน เชื่อเรา

    http://www.youtube.com/watch?v=k8Kl0CgjHEo



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×