ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Murderer (Chanbaek) ft.BTS

    ลำดับตอนที่ #5 : Murderer : 4 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 113
      0
      30 เม.ย. 57

    4

                “คืนนี้ฉันไม่เข้าร้านนะจิน

     

                คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นมอง ไปไหนล่ะครับ?”

     

                “ฉันมีธุระนิดหน่อยหลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงกับการทำความสะอาดร้าน ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยเสร็จสรรพ จงแดก็เก็บข้าวของตัวเองใส่เป้ ใกล้ถึงเวลาที่นัดกับแบคฮยอนแล้ว ถ้ามีใครมาหาก็บอกว่าฉันไม่อยู่ ไปทำธุระแค่นั้นพอนะ

     

                “โอเคครับคนไหล่กว้างรู้อยู่ว่าใครที่จงแดหมายถึง คงจะไม่พ้นสองข้าราชการชายที่พึ่งแวะเวียนมาเมื่อคืนแน่ ส่วนเรื่องที่ทำให้สองคนนั้นมาที่ร้าน อันนี้ตัวเค้าเองก็ไม่ทราบ อยากจะเอ่ยปากถามร่างเล็กเหมือนกัน แต่จินคิดว่ามันอาจจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของจงแดมากเกินไป รีบกลับมาดูร้านด้วยแล้วกัน ผมไม่รับประกันนะว่าของจะไม่หายถ้าพี่ไม่กลับมา

     

                ร่างเล็กหัวเราะเบาๆเออๆ เรื่องของนายเถอะ ไว้ฉันจะมาหักเงินเดือนนายทีหลังจงแดชี้หน้าคาดโทษ ก่อนจะรีบหดนิ้วกลับเพราะร่างสูงกว่ายื่นหน้ามาทำทีจะงับนิ้วของเค้า ฉันไปละ คุยกับนายแล้วเสียเวลาจริงๆ แล้วเจอกันนะ เฝ้าร้านดีๆนะเว้ย

     

                "คร้าบ~" เด็กหนุ่มลากเสียงยาว เงยหน้ามองจงแดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนชายหนุ่มร่างเล็กจะเดินออกนอกร้านไป รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าก็พลันหาย จินรู้สึกเป็นห่วงอีกคนเหลือเกิน ตั้งแต่เมื่อวานที่ได้ยินเสียงจงแดสะอื้นลอดผ่านช่องประตู หัวใจของเค้าก็กระตุกวูบ ราวกับถูกดึงกระชากออกจากอก เวลานั้นอยากจะพุ่งเข้าไปกอด ปลอบโยนจนกว่าน้ำตาใสๆจะเหือดแห้งไป ปลอบโยนจนกว่ารอยยิ้มที่แสนสดใสจะกลับคืนมา...





    เพล้ง!



                "เหี้ย! ชิบหายแล้วกู" มัวแต่เหม่อ ตาลอยจนไม่ทันสังเกตมือตัวเองที่เช็ดถูๆอยู่นั้นปัดไปโดนแก้วกาแฟร่วงลงพื้น เซรามิคเคลือบที่เคยมีรูปทรงสวยงามบัดนี้แตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี "ซวยชิบหาย กูจะโดนสวดมั้ยวะเนี่ย..." จินเอื้อมมือไปคว้าถุงพลาสติกมา เก็บเศษแก้วโยนใส่ถุงอย่างรวดเร็ว ให้ตาย ทำไมเค้ารู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเลย พอหยิบเอาชิ้นที่บังเอิญแตกผ่าครึ่งหน้าลายเป็ดสีเหลืองที่ถูกเพ้นท์ไว้ขึ้นมา



    ใบหน้าของใครคนหนึ่งก็ลอยขึ้นมาในห้วงความคิด



                "พี่เฉิน..."



                พี่ปิดบังอะไรเอาไว้วะ...




     

              'พี่ ผมว่าเราเลิกกันเถอะ' 




              '... ทำไม ท...ทำไมล่ะแบค พี่...พี่ทำอะไรให้เราไม่พอใจงั้นหรอ' 



              'ผมขอโทษจริงๆ ผมยังลืมเค้าไม่ได้ แล้วก็ไม่มีวันที่จะลืมด้วย'






                อู๋อี้ฟานหรือคริสยกขวดบรรจุน้ำสีอำพันใสเทใส่แก้วจนเกือบเต็มภาชนะ เหล้าฤทธิ์แรงที่ใครต่อใครก็พากันพูดต่อๆกันว่าดื่มเพื่อช่วยลืมความหลังครั้งเก่านั้นคงใช้ไม่ได้ผลกับเค้า กลับกันแล้ว ยิ่งดื่มมันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่มีวันที่จะลืม พูดได้ว่าของเหลวชนิดนี้เป็นตัวกระตุ้นความจำชั้นดีเลยก็ว่าได้

     

                ร่างสูงยกแก้วเหล้ากระดกลงคออย่างรวดเร็วคริสวางแก้วลงบนโต๊ะ ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดริมฝีปากที่ฉ่ำเยิ้ม มองไปที่เข็มนาฬิกาที่ชี้ตรงไปที่เลขสี่ มันจะช้าเกินไปแล้วนะ...

     

     

    ก๊อกๆ


     

                เข้ามา

     

                ชายชุดดำใส่แว่นกันแดดอำพรางใบหน้าก้าวเข้ามาในห้อง คุณแบคฮยอนกับคุณจงแดมาถึงแล้วครับท่านนิ้วยาวไล้วนไปตามปากแก้ว พรูลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

     

                แล้วยังไง ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าถ้าสองคนนั้นมาถึงแล้วให้พาขึ้นมาได้เลย หรือว่าจะแกจะให้ฉันลงไปรับ?” บอดี้การ์ดเริ่มหวั่นวิตก สัมผัสได้ถึงรังสีอันตราย ที่แม้จะแผ่ออกมาจางๆ แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ค...ครับ ผมจะรีบพาขึ้นมาเดี๋ยวนี้

     

                คริสไม่ตอบ เพียงแต่พยักพเยิดให้อีกฝ่ายไปให้พ้นหูพ้นตา

     

                อีกไม่กี่อึดใจแล้วที่จะได้เจอกับแบคฮยอน พอคิดได้อย่างนั้นชายร่างสูงที่มีเพียงสีหน้าเดียวก็คลี่ยิ้มกว้างออกมา คริสกวาดข้าวของที่รกบนเคาท์เตอร์ทิ้งใส่ถุง ค่อยให้แม่บ้านมาจัดการทีหลัง ขวดสุราก็ถูกเก็บไว้อย่างมิดชิดในที่ลับตาคน เสมือนเด็กวัยสิบหกที่ต้องรีบทำความสะอาดห้อง ซ่อนสิ่งไม่พึงประสงค์ไว้ก่อนที่แม่จะเข้ามาเห็น

     

     

    แบคฮยอนชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย

     

     

    คริสจำรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของอดีตคนรักได้เสมอ

     

     

    ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะจำอะไรที่เกี่ยวกับเค้าไม่ได้เลยก็ตาม








     

     เอ้าๆ คิ้วแทบจะชนกันอยู่แล้วนั่นน่ะ

     

                “คิ้วฉันมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แกอย่ามายุ่งน่าจินตอบกลับไปโดยที่ยังให้ความสนใจอยู่กับเกมในโทรศัพท์ จองกุกได้ฟังคำตอบก็แค่นหัวเราะ คงเพราะผู้ชายไหล่กว้างคนนี้มัวแต่กังวลเรื่องของใครบางคนอยู่ ไม่งั้นก็ไม่เอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาเล่นในเวลาทำงานแบบนี้หรอก พี่เฉินกลับมาเห็นเข้าเดี๋ยวก็โดนสวดกันยกร้านหรอก ผมขี้เกียจฟังพี่เค้าเทศน์แล้วนะเว้ย มันปวดหู

     

                แต่ก็ไม่เป็นผล จินยังคงเล่นเกมต่อไป ไม่ยี่หระกับคำขู่ที่จองกุกบอก แถมยังหยิบเอาหูฟังขึ้นมาใส่ สร้างกำแพงล่องหนขึ้นมากันตัวเองออกจากสิ่งแวดล้อมภายในร้านจนเด็กหนุ่มหมั่นไส้ นี่! ถ้าเป็นห่วงพี่เฉินมากพี่ก็โทรไปหาเค้าสิวะ จะมานั่งเครียดทำไมเล่า

     

                “...

     

                “ไอ้พี่จิน!”

     

                เสียงตะคอกของน้องทำให้จินต้องดึงหูฟังออก ลูกกวาดสีน้ำตาลตวัดขึ้นมอง ฉายแววไม่พอใจเล็กน้อย จองกุกเริ่มจะทำตัวเหมือนพี่เค้ามากขึ้นทุกวัน จนทุกวันนี้จินก็สับสนอยู่เหมือนกันว่าใครที่เป็นพี่เป็นน้อง เออๆ รู้แล้วน่า เดี๋ยวขอเล่นให้จบตานี้ก่อนได้มั้ย

     

                จองกุกมองอีกฝ่าย ก่อนตัดสินใจลุกขึ้น ก็ได้ เดี๋ยวผมไปดูลูกค้าก่อนแล้วกัน กลับมาต้องเห็นนะว่าพี่ไม่ได้เล่นเกมอยู่ ไม่งั้นผมจะบอกพี่เฉินให้หักเงินเดือนพี่แน่

     

                โหยกลัวมาก กลั๊วกลัว กลัวสุดๆเลยว่ะ... รู้แล้วน่าไม่ต้องมาขู่ร่างสูงหายใจฟึดฟัด ยัดเครื่องมือสื่อสารใส่กระเป๋ากางเกง เอ้าไปสิ จะมายืนมองอยู่อีก

     

                “เออไปแล้วเว้ย

     

                พอลับตาน้อง ซอกจินก็กลับมาอยู่ในสภาพไร้เรี่ยวแรงในการทำงานอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าขี้เกียจหรือเบื่อ แต่มันไม่มีแรงบันดาลใจในการทำต่างหาก เฉินหายไปนานหลายชั่วโมงแล้ว แต่ละนาทีที่เวลานั้นล่วงเลยผ่านไปสร้างความไม่สบายใจให้ร่างสูงมากขึ้นเรื่อยๆ

     

    เช่นเดียวกับความเคลือบแคลงใจที่มีต่อตัวผู้เป็นนายจ้างก็ด้วย

     

                บางสิ่งบางอย่างที่เค้าไม่รู้ การตายของเด็กในร้าน การมาเยือนของตำรวจและธุระของจงแดในวันนี้ เป็นชนวนปลุกความอยากรู้อยากเห็นภายในตัวของซอกจิน มันมีบางสิ่งบางอย่างที่จินยังไม่รู้

     

    และจงแดกำลังปิดบังเค้า รวมถึงคนอื่นเอาไว้

     

                “เฮ้ยพี่จิน! จะไปไหน?” จองกุกที่ถือแก้วเหล้าเดินเข้ามาขวางเมื่อเห็นคนที่ตนพึ่งสั่งให้ไปทำงานนั้นกลับคว้าเสื้อโค้ทตัวใหญ่มาสวมใส่แทน จะไปทำธุระนิดหน่อย แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะจินดันตัวจองกุกหลบไปให้พ้นทาง ก่อนจะรีบเดินบึ่งออกไปไม่สนใจเสียงคนข้างหลังที่ตะโกนร้องเรียก

     

                อะไรของพี่วะเด็กหนุ่มได้แต่รำพึงกับตัวเองเงียบๆ ก่อนจะเลิกสนใจและหันกลับไปทำงานของตนแทน

     



     

     

               

                เฉินสัมผัสได้ถึงไอเย็นที่แผ่ออกมาจางๆจากผนังลิฟต์แสนคับแคบ ชายร่างเล็กพยายามบดเบียดร่างกายเข้าหาที่พึ่งเพียงหนึ่งจากเพื่อนผู้มีขนาดตัวไม่ต่างกันนัก คนที่กลัวที่แคบหลับตาแน่น มือเล็กจิกเกร็งกับแขนเสื้อโค้ทหนาของแบคฮยอนจนยับยู่ยี่

     

                ให้ตายเถอะ ทำไมเจ้านายคุณถึงไม่ย้ายบ้านไปอยู่บนยอดเขาเอเวอเรสต์เลยล่ะ ถ้าชอบที่จะอยู่ที่สูงขนาดนี้แบคฮยอนพูดโพล่งขึ้นมาทำลายบรรยากาศสุดจะอึดอัด หวังจะคลายความกังวลให้เฉินที่ก้มหน้าหงุดซุกลงกับแขนของตนอยู่

     

                ไม่ทราบครับ

     

                “แหงล่ะ เป็นแค่บอดี้การ์ดจะไปทราบอะไร

     

    ติ๊ง!

     

                เสียงลิฟต์ดังขัดบทสนทนาขึ้นมาก่อนจะมีสงครามน้ำลายย่อมๆ ประตูมันเงาเปิดออกเผยให้เห็นทางเดินที่ทอดยาว บอดี้การ์ดหนุ่มผายมือเชิญแขกแปลกหน้าทั้งสอง เฉินเป็นคนแรกที่รีบพุ่งตัวออกมานอกกล่องสี่เหลี่ยมเคลื่อนที่ หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเหงื่อไคลที่ไหลออกมาเพราะความตื่นกลัว

     

                “ห้องของคุณอู๋อี้ฟานอยู่เกือบสุดทางเดิน ประตูฝั่งขวา หวังว่าคงจะไม่หลงนะครับแพทย์หนุ่มทำเป็นไม่ได้ยินกับคำจิกกัด ตรงเข้ามาคว้าแขนเฉินแล้วรีบก้าวไปโดยไม่หันหลังกลับมามองจนกระทั่งได้ยินเสียงประตูลิฟต์ปิด เจ้าตัวจึงหันมายกนิ้วกลางให้ก่อนจะรีบเดินต่อไป

     

                ความจริงเราก็ไม่ต้องมาหาเค้าก็ได้... บางทีกูอาจจะจำคนผิดก็ได้นะแบคฮยอนเฉินพูดเสียงแผ่ว ยิ่งใกล้ถึงห้องของคริสมากเท่าไหร่ เจ้าตัวก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงกลิ่นอันตรายมากขึ้นเท่านั้น

     

                “มึงคิดว่ากูอยากมามากงั้นหรอ ไหนๆมาแล้วก็ให้มันรู้ความจริงไปเลย ว่าใช่ไม่ใช่

     

                แบคฮยอนชะงักฝีเท้าเมื่อรู้สึกว่าคนเดินรั้งท้ายฉุดเอาไว้ ร่างบางหันกลับมามอง ก็พบว่าสีหน้าของเพื่อนนั้นซีดลงถนัดตา ล...แล้วถ้าพี่คริสเป็นคนฆ่าจริงๆล่ะแบค เราจะทำยังไง

     

                ...กูไม่รู้ แจ้งตำรวจมั้ง

               

                “มึงจะบ้าหรอ! แล้วถ้าพี่เค้าเกิดฆ่าปิดปากเราล่ะแบค ไม่เอาแล้ว กูจะกลับ!”

     

                “มึงสิบ้าเฉิน คิดเป็นตุเป็นตะไปได้! มึงคิดถึงเด็กในร้านมึงสิ มึงจะมายอมเพราะแค่มึงกลัวงั้นหรอ?” เฉินก้มหน้าส่ายหัวรัว ก่อนเงยหน้าขึ้นหมายจะสบตาเพื่อน แต่แล้วก็เห็นว่าข้างหลังแบคฮยอนมีบุคคลที่สามออกมายืนรออยู่หน้าประตูห้องที่พวกเค้ากำลังจะไป ...มึง...

     

                “อะไร?”

     

                ...พี่คริส แบคฮยอนหันขวับไปมอง ร่างสูงที่เฉินพูดถึงนั้นกำลังเดินย่างเท้าเข้ามาหาทั้งสองคนพร้อมรอยยิ้มละมุน แบคฮยอนผงะเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมที่ลอยฟุ้งออกมาจากคนตรงหน้า ร่างบางพยายามกันเพื่อนและตัวเองออกห่างจากคริสให้อยู่ในระยะปลอดภัย พี่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย มีอะไรกันรึเปล่า?”

     

                “ไม่มีอะไรทั้งนั้น เราจะเข้าห้องได้รึยังครับ?”

     

                คริสหยักหน้าน้อยๆ อ่อ... มาสิ คริสหันหลังก่อนจะเดินนำไป

     

                แบคฮยอนสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะดึงเฉินให้เดินตามเข้าห้อง ทันทีที่ทั้งคู่ก้าวเข้าห้องนั้น ประตูไม้บานหนาก็ปิดลงพร้อมเสียงล็อกของกุญแจอัตโนมัติที่ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว

     

    Tbc.

     

      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×