ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอบรู้...ไม่เสียหาย (เสื่อมสลายแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #54 : อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย หนึ่งชนวนเหตุของสงครามโลกครั้งที่1

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 51


    อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย (พระนามเต็ม: ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ คาร์ล ลุดวิก โจเซฟ; ภาษาอังกฤษ: Franz Ferdinand Karl Ludwig Joseph von Habsburg-Lothringen, ภาษาฮังการี: Franz Ferdinand Karl Anikò Belschwitz Mòric Bálint Szilveszter Gömpi Bzoch János Frajkor Ludwig Josef) ทรงเป็นอาร์คดยุคแห่งออสเตรีย-เอสต์ ประมุขแห่งพระราชอิสริยยศออสเตรีย-เอสต์ ทรงเป็นเจ้าฟ้าชายแห่งฮังการีและโบฮีเมีย และองค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีอีกด้วย โดยพระองค์ทรงเป็นองค์รัชทายาททางพฤตินัย ไม่มีการสถาปนาอย่างเป็นทางการ พระองค์ทรงเป็นองค์รัชทายาทจวบจนกระทั่งสิ้นพระชนม์กระทันหัน โดยถูกลอบปลงพระชนม์โดยนักอนุรักษ์ชาติชาวเซอร์เบีย ที่เมืองซาราเยโว ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาซึ่งขณะนั้น ยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีอยู่ หลังจากพระองค์และพระชายาถูกลอบปลงพระชนม์นั้น ทำให้ออสเตรีย-ฮังการี ประกาศสงครามกับเซอร์เบียในสงครามโลกครั้งที่ 1ทันที

     พระราชประวัติ

    อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ทรงประสูติเมื่อวันที่18 ธันวาคม พ.ศ. 2406 ที่เมืองกราซ ประเทศออสเตรีย ทรงเป็นพระโอรสองค์โตในอาร์คดยุคคาร์ล ลุดวิกแห่งออสเตรีย (พระโอรสในอาร์คดยุคฟรานซ์ คาร์ล และทรงพระอนุชาในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ) และพระชายาองค์ที่ 2 ของพระองค์ เจ้าหญิงมาเรีย แอนนันซิเอต้าแห่งทู ซิชิลีส์ เมื่อพระองค์ทรงเจริญพระชันษา 12 ชันษา ดยุคฟรานเซสโก้ที่ 5 แห่งโมเดน่า พระปิตุลาของพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์กระทันหัน ทำให้พระองค์ทรงได้รับพระราชอิสริยยศอาร์คดยุคแห่งออสเตรีย-เอสต์ และ ดยุคแห่งโมเดน่า ต่อจากพระองค์ทันที

    ตั้งแต่พระองค์ทรงประสูติ ประชาชน ราชนิกุลชั้นสูงหรือบุคคลคณะต่างๆ ไม่เคยคาดคิดเลยว่าพระองค์จะทรงเป็นองค์รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อิมพีเรียลออสเตรีย-ฮังการี พระองค์ทรงได้รับการศึกษาอย่างเรียบง่าย โดยอาจารย์ของพระองค์นั้นเน้นสอนในทางประวัติศาสตร์และศีลธรรมเป็นส่วนใหญ่ โดยอาจารย์ของพระองค์คือนักประวัติศาสตร์ ออนโน คล๊อป ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2419ถึงพ.ศ. 2428 และในปีพ.ศ. 2425 พระองค์ได้ทรงเข้าร่วมกองทัพราชนาวี โดยพระองค์ได้ทรงพระยศเป็นร้อยโท

    เมื่อทรงพระเยาว์นั้น พระองค์ทรงงานอดิเรกเป็นประจำ นั่นคือล่าสัตว์และท่องเที่ยว โดยพระองค์ทรงสามารถล่ากวางได้มากกว่า 5,000 ตัว และพระองค์ทรงชอบเสด็จประพาสไปยังประเทศต่างๆด้วย โดยเมื่อปีพ.ศ. 2425 พระองค์ทรงเสด็จประเทศอิตาลี 2 ปีต่อมา เสด็จประพาสประเทศอียิปต์ ปาเลสไตน์ ประเทศซีเรียและประเทศตุรกี (ซึ่งขณะนั้นเป็นจักรวรรดิออตโตมัน) และปีพ.ศ. 2432 ทรงเสด็จเยือนประเทศเยอรมนี (ซึ่งขณะนั้นเป็นจักรวรรดิเยอรมัน)

    เมื่อปีพ.ศ. 2432 ชีวิตของพระองค์ถูกเปลี่ยนดังละคร เมื่อพระญาติของพระองค์ อาร์คดยุครูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ ทรงสิ้นพระชนม์กระทันหันจากการฆ่าตัวตายที่ คฤหาสน์ล่าสัตว์ที่มาเยอร์ลิ่ง รัฐโลเวอร์ ออสเตรีย ประเทศออสเตรีย ทำให้อาร์คดยุคคาร์ล ลุดวิก พระบิดาของพระองค์เป็นองค์รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อิมพีเรียลออสเตรีย-ฮังการี ทำให้พระองค์ทรงอยู่ลำดับที่ 2 แห่งการสืบสันตติวงศ์ ต่อมาพระบิดาของพระองค์ทรงสละสิทธิ์การเป็นองค์รัชทายาท ไม่กี่วันหลังจากที่พระองค์ทรงได้รับตำแหน่ง โดยทรงสละตำแหน่งให้พระโอรสของพระองค์เอง ทำให้อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ทรงเป็นองค์รัชทายาท แต่ทรงเป็นองค์รัชทายาททางพฤตินัย ไม่มีการสถาปนาอย่างเป็นทางการ

     อภิเษกสมรส

    เมื่อปีพ.ศ. 2438 พระองค์ทรงได้พบกับ เค้านท์เตสโซฟี โชเท็ค ซึ่งเป็นนางสนมรับใช้ของอาร์คดัชเชสอิสซาเบลล่า ซึ่งเป็นพระชายาในอาร์คดยุคเฟรเดอริค ดยุคแห่งเทสเชน โดยพระองค์ทรงเสด็จเยี่ยมพระญาติของพระองค์ที่ พระตำหนักของอาร์คดยุคเฟรเดอริค ในเมืองเพรสบวร์ก (ปัจจุบันคือเมืองบราติสลาวา เมืองหลวงของประเทศสโลวเกีย) โดยพระองค์และโซฟีทรงมีการติดต่อหากันอย่างลับๆ โดยโซฟีได้เขียนจดหมายมาหาพระองค์ระหว่างที่พระองค์ทรงอยู่ในระยะพักฟื้นจากโรควัณโรคหลังจากเสด็จกลับจากเกาะลอว์ชิน บนทะเลอาเดรียติก ประเทศโครเอเชีย ทั้งสองได้เก็บความสัมพันธ์นี้อย่างลับๆมาเป็นเวลากว่า 2 ปี สำหรับฝ่ายโซฟีนั้น ครอบครัวของเธอไม่ได้เป็นเชื่อพระวงศ์แม้แต่น้อย ถึงแม้ว่า ถ้านับถอยหลังบรรพบุรุษของครอบครัวนั้น จะเห็นว่า บรรพบุรุษทางแม่ของโซฟีนั้น เป็นเจ้าหญิงแห่งบาเดน, โฮเฮนโซเลิร์น-เฮชินเจน, และ ลิกเตนสไตน์ โดยกฏมณเฑียรบาลเรื่องการอภิเษกสมรสนั้นระบุว่า จะต้องอภิเษกสมรสกับเจ้าชายหรือเจ้าหญิงที่เป็นเชื้อพระวงศ์ยุโรปด้วยกันเท่านั้น

    ในตอนแรกนั้น อาร์คดัชเชสอิสซาเบลล่าทรงคิดว่า อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ผู้เป็นพระนัดดาทรงหลงรักหนึ่งในพระธิดาของพระองค์ แต่เมื่อปีพ.ศ. 2441 พระองค์ทรงแอบเข้าไปในห้องของพระนัดดา เพื่อทรงค้นอัลบั้มพระฉายาลักษณ์ ทรงหวังว่าจะทรงเห็นพระรูป แต่แทนที่พระองค์จะทรงเห็นพระรูปของพระธิดาของพระองค์ กลับทรงเห็นโซฟี นางข้าหลวงแทน ทำให้โซฟีถูกขับออกจากตำแหน่งนางข้าหลวง และถูกขับออกจากวังด้วย

    ด้วยความที่พระองค์ทรงหลงรักโซฟีหัวปักหัวปำ พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะทรงอภิเษกสมรสกับสตรีคนใดเลย สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 13 สมเด็จพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซียและสมเด็จพระจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี ทรงร่วมมือกันเจรจากับสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ โดยพระองค์ทรงกังวลว่าอาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์จะทำให้พระราชวงศ์เสื่อมเสีย หลังจากที่ทั้ง 2 พระองค์ทรงมีปากเสียงกันมาก่อนหน้านี้แล้ว

    แต่ในที่สุด อีก 1 ปีต่อมา สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟทรงมีพระบรมราชานุญาตให้อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์สามารถอภิเษกสมรสกับโซฟีได้ แต่ทรงมีข้อแม้ว่าการอภิเษกสมรสครั้งนี้จะเป็นการสมรสแบบมอร์แกนเนติคกล่าวคือไม่ได้อยู่ในกฏมณเฑียรบาล โดยเป็นการแต่งงานของชายที่สูงศักดิ์กับหญิงต่ำต้อยกว่า เมื่อทรงมีทายาท พระราชบุตรของทั้งสองจะไม่มีสิทธิ์ในการขึ้นครองราชย์และจะไม่มีสิทธิ์อยู่ในลำดับการสืบสันตติวงศ์อีกด้วย และนอกจากนี้ เมื่ออภิเษกสมรสกันแล้ว โซฟีผู้เป็นฝ่ายหญิงจะไม่มีสิทธิ์ในการดำรงพระอิสริยยศของพระสวามี และเมื่อปรากฏต่อสาธารณชน โซฟีก็จะไม่มีสิทธิ์ที่จะปรากฏตัวต่อสาธารณชนเคียงข้างผู้เป็นพระสวามี และก็จะไม่มีสิทธิ์นั่งบนพระราชรถขบวนเสด็จอีกด้วย จนกว่าสมเด็จพระจักรพรรดิจะทรงอนุญาต

    อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์พร้อมด้วยพระชายาและพระราชบุตร
    อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์พร้อมด้วยพระชายาและพระราชบุตร

    ทั้งสองทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2443 ณ เมืองไรช์สตัดท์ (ปัจจุบันคือเมืองซาคูพาย) โบฮีเมีย โดยการอภิเษกสมรสครั้งนี้ สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟไม่ทรงเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย ไม่มีแม้แต่พระอนุชาและพระขนิษฐาของพระองค์เลย จะมีก็แต่อาร์คดยุคและอาร์คดัชเชสบางพระองค์เท่านั้น รวมไปถึงพระมารดาทูนหัวของพระองค์ อาร์คดัชเชสมาเรีย เมเรซ่าและพระธิดาทั้ง 2 พระองค์ การอภิเษกสมรสครั้งนี้ถือเป็นการอภิเษกสมรสแบบเงียบๆ หลังจากการอภิเษกสมรส โซฟีได้รับพระราชทานพระยศเป็น เจ้าหญิงแห่งโฮเฮนเบิร์ก (en.: Her Serene Highness The Princess of Hohenberg, de.: Ihre Durchlaucht Fürstin von Hohenberg) และต่อมาในปีพ.ศ. 2452 โซฟีได้ดำรงพระอิสริยศักดิ์สูงขึ้นเป็น ดัชเชสแห่งโฮเฮนเบิร์ก (en.: Her Highness The Duchess of Hohenberg, de.: Ihre Hoheit Herzogin von Hohenberg) โดยพระยศนี้อาจจะทำให้โซฟีดูสูงศักดิ์ขึ้น แต่ก็ยังให้ความสำคัญน้อยเช้นเดิม อย่างเช่นเมื่อมีงานเลี้ยงพบปะของพระราชวงศ์อิมพีเรียล โซฟีก็ถูกแยกให้อยู่ห่างพระสวามีของพระองค์

    อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์และดัชเชสแห่งโฮเฮนเบิร์กทรงมีพระธิดา 1 พระองค์ และพระโอรส 2 พระองค์ โดยทุกพระองค์นี้มิได้ทรงดำรงอยู่ในราชวงศ์ฮับส์บูร์กเลย ไม่ว่าจะเป็นราชสกุลฮับส์บูร์ก-ลอร์เรน หรือฮับส์บูร์ก-โลทรินเจน แต่ทุกพระองค์จะทรงดำรงในราชสกุลใหม่คือ โฮเฮนเบิร์ก (von Hohenberg) จึงถือได้ว่าอาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ทรงเป็นต้นราชสกุลโฮเฮนเบิร์ก

    • เจ้าหญิง โซฟี มารี ฟรานซิสก้า แอนโตเนีย อิกเนเชีย อัลเบอร์ต้า ทรงประสูติเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2444 ทรงสมรสกับท่านเค้านท์เฟรเดอริคแห่งน๊อสติดส์-รายเน็ค ทรงมีพระโอรส-พระธิดารวม 4 พระองค์
    • เจ้าชาย แม็กซีมีเลียน คาร์ล ฟรานซ์ ไมเคิล ฮิวเบิร์ต แอนตัน อิกเนเชียส โจเซฟ มาเรีย ดยุคแห่งโฮเฮนเบิร์ก ทรงประสูติเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2445 ทรงอภิเษกสมรสกับท่านเค้านท์เตสเอลิซาเบธแห่งวาร์ลบูร์ก-โวลเฟกและวาลซี ทรงมีพระโอรสทั้งหมด 6 พระองค์
    • เจ้าชาย เอิร์นส อัลฟอนส์ ฟรานซ์ อิกแนส โจเซฟ มาเรีย แอนตัน ทรงประสูติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ทรงสมรสกับมารี-เทเรส วู๊ด ทรงมีพระโอรสทั้งหมด 2 พระองค์

     การลอบปลงพระชนม์

    ราชรถที่ทั้งสองพระองค์ทรงประทับ ระหว่างเสด็จเยือนซาราเยโว
    ราชรถที่ทั้งสองพระองค์ทรงประทับ ระหว่างเสด็จเยือนซาราเยโว
    อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์พร้อมด้วยพระชายาที่เมืองซาราเยโว ก่อนที่จะถูกลอบปลงพระชนม์
    อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์พร้อมด้วยพระชายาที่เมืองซาราเยโว ก่อนที่จะถูกลอบปลงพระชนม์

    เมื่อวันที่28 มิถุนายน พ.ศ. 2457 เวลา 11 นาฬิกา 15 นาที อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์และดัชเชสโซฟี พระชายาทรงถูกลอบปลงพระชนม์ที่เมืองซาราเยโว นครหลวงของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาซึ่งขณะนั้น ยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ทั้งสองพระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์โดยกาฟรีโล พรินซิป หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแบล็คแฮนด์ (Црна рука/Tsrna Ruka) ซึ่งการลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 โดยก่อนหน้านี้ ทั้งสองพระองค์ทงเกือบถูกโจมตีโดยระเบิดที่หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแบล็คแฮนด์ได้ขว้างมา แต่โชคดีที่ระเบิดพลาดไป แต่พลเมืองก็ได้รับบาดเจ็บ ทั้งสองพระองค์จึงทรงเสด็จเยี่ยมพลเมืองที่ได้บบาดเจ็บในครั้งนี้ แต่ในขณะที่ทั้งสองพระองค์กำลังเสด็จไปเยี่ยมผู้ปะสบภัยที่โรงพยาบาลนั้น นายพรินซิปได้เห็นทั้งสองพระองค์ จึงวิ่งพรวดเข้าไปหาราชรถแล้วยิงไปที่ดัชเชสโซฟีโดยทันที จากนั้นก็ยิงอาร์คดยุคอีกหลายนัดเข้าที่พระองค์ทันที ท่ามกลางทหารแประชาชนทั้งหมื่นคนที่มารอเฝ้ารับเสด็จ การลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้ถูกเชื่อมโยงไปถึงลัทธิชาตินิยม ลัทธิจักรวรรดินิยม ทหารและระบบสหพันธ์ ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเริ่มขึ้นหลังจากการลอบปลงพระชนม์เพียง 2 เดือนโดยออสเตรีย-ฮังการีได้ประกาศสงครามกับเซอร์เบีย

    พระศพอาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์และดัชเชสโซฟีถูกฝังไว้ที่ปราสาทอาร์ทสเต็ทเท็น ซึ่งเป็นพระราชฐานของราชสกุลโฮเฮนเบิร์ก ประเทศออสเตรีย

     พระราชอิสริยยศ

    • 18 ธันวาคม พ.ศ. 2406 - 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2418: อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย เจ้าฟ้าชายแห่งฮังการีและโบฮีเมีย (His Imperial and Royal Highness Archduke Franz Ferdinand of Austria, the Prince Royal of Hungary and Bohemia)
    • 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2418 - 30 มกราคม พ.ศ. 2432: อาร์คดยุคแห่งออสเตรีย-เอสต์ และดยุคแห่งโมเดน่า (His Imperial and Royal Highness The Archduke of Austria-Este, the Duke of Modena)
    • 30 มกราคม พ.ศ. 2432 - 28 มิถุนายน พ.ศ. 2457: อาร์คดยุคองค์รัชทายาทออสเตรีย-ฮังการี (His Imperial and Royal Highness The Heir Presumptive of the Austro-Hungarian Empire)

     ราชตระกูล

    พระราชตระกูลในสามรุ่นของอาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย-เอสต์
    อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย-เอสต์พระชนก:
    อาร์คดยุคคาร์ล ลุดวิกแห่งออสเตรีย
    พระอัยกาฝ่ายพระชนก:
    อาร์คดยุคฟรานซ์ คาร์ลแห่งออสเตรีย
    พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
    สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
    พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
    เจ้าหญิงมาเรีย เทเรซ่าแห่งทู ซิชิลีส์
    พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก:
    เจ้าหญิงโซฟีแห่งบาวาเรีย
    พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
    สมเด็จพระราชาธิบดีแม็กซีมีเลียนที่ 1 โจเซฟแห่งบาวาเรีย
    พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
    เจ้าหญิงแคโรไลน์แห่งบาเดน
    พระชนนี:
    เจ้าหญิงมาเรีย แอนนันซีเอต้าแห่งทู ซิชิลีส์
    พระอัยกาฝ่ายพระชนนี:
    สมเด็จพระราชาธิบดีเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งทู ซิชิลีส์
    พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
    สมเด็จพะราชาธิบดีเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งทู ซิชิลีส์
    พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
    อาร์คดัชเชสมาเรีย คาโรลิน่าแห่งออสเตรีย
    พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
    อาร์คดัชเชสมาเรีย เทเรซ่าแห่งออสเตรีย
    พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
    อาร์คดยุคคาร์ลแห่งออสเตรีย ดยุคแห่งเทสเชน
    พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
    เจ้าหญิงเฮ็นเรียตต้าแห่งนาสซอว์-ไวล์บูร์ก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×