คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : レインコート 15
レインコート
`raincoat
15
โฮซอกกับฮยอนอูเปลี่ยนเป้าหมายจากโรงฝึกเคนโด้จังหวัดเป็นโรงพยาบาลแถวนั้นแทน
ถึงจะรู้ว่ายุนกิไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าตกใจประกอบมีไข้ทำให้ร่างกายอ่านล้าจนหมดสติไปพวกเขาก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี
ถึงพวกเขาจะไม่รู้จักสนามกีฬาจังหวัดแต่ก็รู้จักโรงพยาบาลตามที่จีมินบอก
และใช้เวลาไม่นานทั้งคู่ก็มาถึง
"เป็นยังไงบ้าง"
ฮยอนอูรีบวิ่งไปหาจีมินที่นั่งรออยู่ตรงหน้าห้องฉุกเฉินพร้อมด้วยเด็กหนุ่มรุ่นน้องอีกสองคนที่ยังสวมกีฮากาม่าเปียกโชกอยู่
"ยุนกิไม่เป็นอะไรหรอก
ฟื้นแล้วแหละ ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบปากคำอยู่" จีมินว่า
โฮซอกกับฮยอนอูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"แล้วผู้ชายคนที่ถูกแทงเป็นยังไงบ้าง" โฮซอกเป็นคนถามขึ้นมาบ้าง
"ไม่รู้สิ
ยังไม่ออกจากห้องฉุกเฉินเลย"
จีมินมองไปทางประตูห้องฉุกเฉินแล้วจึงเอ่ยต่อ "คนร้ายก็ยังจับไม่ได้เสียด้วยสิ"
"ยุนกิเห็นหน้าคนร้ายไหมนะ" โฮซอกพึมพำออกมาอย่างอดห่วงไม่ได้ ถ้ายุนกิเห็นเรื่องอาจจะง่ายขึ้นมา
ตำรวจอาจมีโอกาสตามจับตัวคนร้ายได้มากขึ้น
"ไม่รู้สิ
แทฮยองยุนกิว่าไงบ้างไหม"
จีมินหันไปถามเด็กหนุ่มที่ยืนหน้าเครียดอยู่ แทฮยองหันไปมองจีมิน
เงียบไปเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าไปให้
"ไม่ได้บอกอะครับ"
"ผมไม่เห็นหน้าเขาครับ"ยุนกิเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
มือขาวจับผ้าห่มเล่นไปมาแก้กังวลขณะที่มีตำรวจสองคนยืนสอบปากคำเขาอยู่แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ดุหรือกดดันเขาก็ตาม
"งั้นก็แย่หน่อยล่ะ" นายตำรวจคนที่ถือปากกากับสมุดจดพูดขึ้น "คงต้องรอให้คุณคยองวอนฟื้นแล้วแหละ"
ยุนกิเม้มริมฝีปากอย่างอดกังวลไม่ได้
เขาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจฟังไปแล้วแต่เขาคิดว่าไม่น่าช่วยอะไรได้มากนัก
แค่รูปร่างกับส่วนสูงคร่าว ๆ คงจะทำให้ตามจับได้ยาก
"งั้นก็คงไม่มีอะไรแล้วแหละไม่ต้องคิดมากนะ" นายตำรวจอีกคนพูดด้วยรอยยิ้มเพราะเขาเองก็เข้าใจยุนกิที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
"แต่..."ยุนกิเอ่ยออกไปอย่างไม่ค่อยแน่ใจ "เหมือนเขาจะคิดว่าผมเห็น"
"หื้ม...
ว่าไงนะ"
"ครับ
เหมือนเขาจะคิดว่าผมเห็นหน้าเขาถึงได้รีบยกฮู้ดมาคลุม ตอนนั้นเขาดูตกใจมาก ๆ
เลยครับ"
"ผู้ปกครองมาหรือยังน่ะ" นายตำรวจเอ่ยพลางจดรายละเอียดลงในสมุด "แดฮยอนไปดูให้หน่อย
ถ้ามาแล้วคุยให้ด้วยเลยนะ"
"โอเคพี่" นายตำรวจคนที่ชื่อว่าแดฮยอนเดินออกไป
ยุนกิมองหน้านายตำรวจอีกคนที่ยังอยู่ในห้อง
"มันแย่ –
ใช่ไหมครับ"ยุนกิถามออกไป
คนเป็นตำรวจเงยหน้ามามองเขาก่อนจะพยักหน้าให้ จริง ๆ แล้วยุนกิเองก็พอจะรู้อยู่เหมือนกัน
"มันก็มีโอกาสที่เขาคิดจะปิดปากนาย" นายตำรวจตอบ "แต่ก็มีโอกาสที่จะไม่เหมือนกัน
เขาเองก็คงกลัวความผิดมาก อาจจะหนีไปไกล ๆ แล้วก็ได้"
"ครับ"ยุนกิพยักหน้า
"แต่ยังไงก็ระวังไว้ก่อนจะดีกว่า
พยายามอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวแล้วกันนะ ถ้าเห็นไม่ชอบมาพากลก็แจ้งฉันมาไว้ก่อนเลย" เขาว่าพลางฉีกกระดาษสมุดออกมาเขียนเบอร์โทรศัพท์ไปให้ยุนกิ "อ่ะนี่ ให้ผู้ปกครองนายเก็บไว้ด้วยนะ"
ยุนกิรับมา
เขาพยักหน้าไปให้นายตำรวจ ชื่อตามเขียนไว้ในนั้นคือบังยงกุก "ขอบคุณครับ"
ยงกุกพยักหน้าให้
"งั้นฉันออกไปก่อน
แล้วจะเรียกคนอื่นมาให้"
แล้วนายตำรวจคนนั้นก็ออกไป
ยุนกินั่งมองมือของตนเองที่เล่นผ้าห่มไปมาอยู่ครู่หนึ่งเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น
เป็นเพื่อนของเขากับซอกจินที่เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าทั้งกังวลและโล่งใจไปในคราวเดียวกัน
"เป็นยังไงบ้าง" จีมินถามขึ้น ยุนกิส่งยิ้มไปให้พร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ
"โอเคแล้ว"
"ตำรวจว่าไงบ้าง" ซอกจินถามก่อนจะเดินมานั่งข้างเตียง ยุนกิยื่นแผ่นกระดาษที่นายตำรวจคนนั้นให้มาไปไว้ตรงหน้าซอกจิน
ชายหนุ่มเลิกคิ้วแต่ก็เลือกที่จะรับแผ่นกระดาษมาก่อนจะถามต่อ "ตำรวจให้ไว้เหรอ"
"ครับ
เผื่อมีเรื่อง"ยุนกิว่า "พี่เมมเลย
ให้พ่อกับแม่เมมเบอร์ไว้ด้วย"
"โอเค" ซอกจินพยักหน้า "คุณน้ากำลังคุยกับตำรวจอีกคนอยู่
มีเรื่องร้ายแรงเหรอ"
"ไม่แน่ใจ
แต่เหมือนเขาจะคิดว่ากิเห็นหน้าเขา"ยุนกิตอบออกไป
"เอาเถอะ" ซอกจินว่า "ยังไงพี่ก็ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรกิหรอก"
ยุนกิพยักหน้าก่อนจะยิ้มออกมาทำให้ทุกคนเบาใจไปได้ว่ายุนกิไม่ได้กังวลมากนัก
"อยากกลับเลยไหม
หรืออยากนอนพักก่อน" ซอกจินถามต่อ
"กลับเลยฮะ
อยากนอนที่บ้านมากกว่า"ยุนกิแทบจะตอบไปในทันที
ได้ยินดังนั้นซอกจินก็ลุกขึ้น เขาวางมือบนเส้นผมของยุนกิ
"เดี๋ยวพี่ไปบอกพยาบาลให้"
"อื้อ"ยุนกิพยักหน้าหงึกหงักตอบไปแล้วซอกจินก็เดินออกจากห้อง
โฮซอกรีบปราดมานั่งแทนที่ของซอกจินจนยุนกิแทบสะดุ้ง
"เป็นยังไงบ้าง"
"ก็โอเค
ตอบไปแล้วนะโว้ย"ยุนกิตอบกับไปด้วยน้ำเสียงขุ่น ๆ
เล็กน้อยแต่โฮซอกกับหัวเราะร่าแล้วหันไปพูดกับจีมินและฮยอนอูแทน
"โอเคแล้วจริงด้วยว่ะ"
"ไอนี่นี้"ยุนกิยกขาขึ้นทำท่าจะหมุนตัวมาถีบเพื่อน
โฮซอกเห็นดังนั้นก็รีบเด้งตัวลุกขึ้น
"อย่าเพิ่งซ่านักเลย"ฮยอนอูเอ่ยพลางหัวเราะ "น้องสองคนนั้นกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
กีฮยอนเพิ่งเอามาให้น่ะ"
น้องสองคนนั้นคงไม่พ้นจะเป็นจอนจองกุกกับคิมแทฮยอง...
อ่า แทฮยอง – ตายล่ะ แล้วเขาจะกล้ามองหน้าหมอนั่นได้อย่างไรกัน
คิดแล้วก็อดรู้สึกนั่งไม่ติดพื้นไม่ได้
ให้ตายสิ นี่เขาโดนเด็กนั้นจูบ... จริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย
เป็นคำถามที่ถามใครไม่ได้เสียด้วย
"ยุนกิ ยุนกิ"
"ห๊ะ" เขาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินโฮซอกแหกปากเรียกชื่อตนเอง
คนตัวเล็กบนเตียงหันไปมองเพื่อนตนเองตาปริบ ๆ
"เรียกตั้งนาน
คิดมากอะไรหรือเปล่า" โฮซอกขมวดคิ้วถาม "อย่าคิดมากสิ เดี๋ยวทุกอย่างก็โอเคเองแหละ"
"อะอื้ม!ฉันก็หวังอย่างนั้น"ยุนกิตอบก่อนจะฉีกยิ้มไปให้เพื่อนรักที่ชอบจะกัดกันอยู่บ่อย
ๆ
"ดีมาก!!แล้วทีนี่ก็ช่วยเล่าให้ฟังอย่างละเอียด ๆ ทีดิ"
"โฮ่ย ไม่เอา ๆ
ๆ เพิ่งเล่าให้ตำรวจฟังไป"ยุนกิส่ายหน้า
"เล่าดิ เล่ามา"
โฮซอกเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงอีกครั้งพร้อมกับลากเก้าอี้มาให้ชิดเตียงที่สุด
"เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย"
ยุนกิกลอกตาอย่างอดเหนื่อยใจไม่ได้
เขารู้ว่าอย่างไรเสียโฮซอกก็ต้องคะยั้นคะยอให้เขาเล่าอยู่ดี สุดท้ายเขาก็ต้องเล่าตามที่โฮซอกต้องการโดยมีจีมินกับฮยอนอูยืนฟังเงียบ
ๆ
เขาเล่าจบพอดีกับที่พ่อกับแม่เขาเดินเข้ามาเพื่อจะพาเขากลับบ้าน
ยุนกิไม่ได้เป็นอะไรมากอยู่แล้ว จริง ๆ
ถ้าไม่ดันหมดสติไปเสียก่อนคงจะไม่ต้องมาโรงพยาบาลให้คนอื่นแตกตื่นกันแบบนี้หรอก
ว่าแล้วก็คิดไปถึงตอนที่หมดสติ
แทฮยอง...
ยุนกิเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองที่แม่ของเขาเตรียมมาให้
พอเดินออกมาก็เจอกับกีฮยอน จองกุก และแน่นอนว่าต้องมีแทฮยอง – ให้ตายสิ
เขาไม่กล้ามองหน้าแทฮยองจริง ๆ นะ
"ขอโทษทีนะ
คนที่เห็นเหตุการณ์อีกมีใครบ้าง"
ก่อนที่ยุนกิจะคิดไม่ตกยิ่งกว่านี้ว่าควรจะหลบแทฮยองอย่างไรดีนายตำรวจคนที่ชื่อยงกุกก็เดินเข้ามาก่อน
เรียกให้แทฮยองหันไปมองที่เขาแทนที่จะเป็นยุนกิ
"ผมสามคนครับ" จองกุกเป็นคนตอบแล้วชี้ไปที่แทฮยองกับจีมิน
"ขอถามพวกรายละเอียดนิดหน่อยนะ
สะดวกหรือเปล่า" ยงกุกว่า
แต่ทั้งสามก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการให้ความร่วมมือกับตำรวจอยู่แล้ว
ยิ่งตำรวจจับคนร้ายได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
"ได้ฮะ" จีมินเดินแยกออกไปพร้อมกับจองกุกและแทฮยองโดยไม่ลืมหันมาคุยกับยุนกิ "กลับไปก่อนเลย ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวกลับเองได้"
"เดี๋ยวผมไปส่งก็ได้" จองกุกโพล่งออกไปทำให้คนอื่นหันไปมองเด็กหนุ่มอย่างแปลกใจ
เขารีบเอ่ยแก้ตัวขึ้น "พี่ยุนกิจะได้ไม่ต้องห่วงไง
สถานการณ์แบบนี้ด้วย"
"เอางั้นก็ได้"ยุนกิพยักหน้ารับ เขายังคงเลี่ยงที่จะไม่มองไปทางแทฮยองอยู่ดี
เขารู้ว่าเป็นเพราะแทฮยองช่วยไว้เขาถึงไม่โดนทำร้าย แต่เขาไม่รู้จริง ๆ
นี่ว่าควรจะพูดหรือแสดงออกอย่างไร พอนึกถึงแล้วก็อดร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้า
จะให้ยอมรับว่าเขินนี่ก็ไม่ใช่มินยุนกิแล้ว อย่างน้อย ๆ
ก็ขอเวลาให้เขาหน่อยเถอะ...
ยุนกิเลือกที่จะก้มหน้าแล้วเดินตามแม่ของตนเองไปเงียบ
ๆ ส่วนแทฮยองก็เดินตามตำรวจไปข้าง ๆ กันกับจองกุก
"พี่เขาคงตกใจน่าดูเนอะ" จองกุกเอียงตัวมากระซิบด้วย แทฮยองพยักหน้าตอบกลับไป "ก็นะ เจอคนโดนแทงต่อหน้าแถมยังเกือบโดนเองด้วยอีก"
"คงงั้นแหละ"แทฮยองพึมพำรับคำไปแต่เขาก็อดคิดไม่ว่าเมื่อครู่ยุนกิจงใจหลบสายตาไปจากเขา
แต่แทฮยองเองก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ในเมื่อเขาเองเป็นคนทำให้เกิดบรรยากาศแปลก ๆ
ขึ้นมาเอง
เขาไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมาในตอนนั้น
แต่จริง
ๆ พอคิดย้อนกลับไปมันก็ทำให้รู้สึกดีนะ...
นั่นแหละมันถึงทำให้เขารู้สึกสับสนกับการกระทำของตนเอง
เขาแน่ใจในความรู้สึกของตนเองแต่ไม่แน่ใจกับยุนกิ
เขาไม่ควรเอาแค่ความรู้สึกตนเองเป็นที่ตั้ง
ปัญหาจะอยู่ในหัวเหมือนฝูงผึ้งแตกรังบินวนอยู่ในนั้น
เขาคงได้ปวดหัวกับเรื่องนี้ไปอีกพัก อย่างน้อยก็คงก่อนจะคุยกับยุนกิอีกครั้ง ก็ตอนนี้เขาจับทางอีกคนไม่ถูกเลยนี่
แทฮยองไม่หวังจะให้ใครเข้าใจเขาหรอกเขาถึงไม่เล่าให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนสนิทอย่างจองกุก
ถึงอยากเล่าหรือปรึกษาขึ้นมาจริง ๆ เขาก็เรียบเรียงออกมาเป็นประโยคไม่ได้หรอก
คงจะมีแต่งงกันไปเสียเปล่า
จริง
ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรมากนักแค่ถามถึงรายละเอียดของเหตุการณ์เพิ่มเติมเล็กน้อยพร้อมกับกำชับว่าหากมีอะไรให้แจ้งไปที่ทางตำรวจทันที
พอถึงเวลาทุกคนก็แยกกันกลับบ้านของตน
แน่นอนว่าจอนจองกุกกระตือรือร้นที่จะทำตามสิ่งที่ตนเองรับไว้
เขากางร่มให้รุ่นพี่ตัวเล็กแล้วพาเดินไปขึ้นรถประจำทาง
จีมินค่อนข้างจะทำตัวไม่ถูกที่มีเด็กหนุ่มตัวสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดมากางร่มให้แบบนี้
ใบหน้าน่ารักเลยเอาแต่ก้มมองพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝน
"ขึ้นสายไหนก็บอกได้เลยนะครับ" จองกุกด้วยรอยยิ้มกว้าง
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ารุ่นน้องคนนี้จะอารมณ์ดีมากจากไหน
แต่เป็นแบบนี้ก็ดีกว่ามาแบบหน้ามุ่ย ๆ อยู่แล้วนี่เนอะ
"ได้ ๆ
เดี๋ยวบอกเอง"
จีมินพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มไปให้อีกคนบ้าง เขาเป็นคนชอบยิ้ม ยิ่งถ้าเจอเรื่องแย่
ๆ ที่บ้านเขาก็ยิ่งรู้สึกดีหากจะได้เจอกับคนที่ทำให้เขาได้ยิ้ม
"อ่า... ครับ" จองกุกชะงักไปเล็กน้อย – ไม่สิ เรียกได้ว่าแทบเสียศูนย์ไปเลยเมื่อเจอจีมินยิ้มตาหยีให้
จริงอยู่ที่จีมินดูไม่ใช่คนโดดเด่นอะไร
แต่พอยิ้มแบบนั้นแล้วไม่ว่าใครก็คงต้องหยุดมองกันทั้งนั้นแหละ
น่ารักจริง
ๆ นะ
หรือจะเป็นแค่จองกุกเองก็ไม่รู้แหละ
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้วไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร –
สำหรับเขาตอนนี้ก็คงอยากแค่ทำให้จีมินยิ้มบ่อย ๆ
ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับจองกุกในการชวนคุย
ยิ่งกับคนที่เขาอยากคุยด้วยอย่างพัคจีมินแล้ว
พอขึ้นไปบนรถเขาก็ชวนรุ่นพี่ตัวเล็กคุยเรื่องต่าง ๆ เรื่องเรียนบ้าง
เรื่องมหาวิทยาลัยที่จะเข้าบ้าง เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมไปถึงเรื่องที่บ้าน...
บ้านของจีมิน
– เจ้าน้องชายตัวแสบของพัคจีมิน
"มันเป็นปัญหาที่ฉันยอมรับได้นะ" จีมินเอ่ยขึ้น
จองกุกยื่นหน้าไปมองคนตัวเล็กเพื่อดูว่าเขาแสดงสีหน้าอย่างไรแต่จีมินก็ยังดูปกติดี
"ต่อให้คิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
แล้วมันก็เป็นแบบนี้มานานแล้วด้วย"
"หมายถึง...
ซอนบินเหรอครับ" จองกุกถามแต่จีมินกลับส่ายหน้ามาให้เบา
ๆ
"ทุกคนเลย" จีมินตอบ แน่นอนว่าถึงตอนนี้ไม่ใช่สีหน้าปกติหรอก จีมินดูจะเศร้าอยู่ไม่น้อยแต่ที่แสดงผ่านออกมาทางสีหน้าคงไม่ใช่ทั้งหมดที่รู้สึก
"พ่อกับแม่ก็ชอบจะทะเลาะกันบ่อย ๆ ด้วยน่ะ ซอนบินเองเดี๋ยวนี้ก็น่าห่วง
แม่โกรธให้ตอนที่โรงเรียนแจ้งว่าน้องฉันหนีเรียนไปสูบบุหรี่ที่ห้องน้ำโรงเรียนจนไม่มีใครกล้าใช้ห้องน้ำนั้นน่ะ"
"อา..."
จองกุกคิดไม่ออกว่าควรจะพูดอะไรออกไปดีเลยแต่พยักหน้าอย่างเข้าใจ
ใช่ว่าที่บ้านเขาจะไม่เคยทะเลาะกัน
แต่ก็แค่ปัญหาธรรมดาที่ไม่ว่าครอบครัวไหนก็ต้องเจอไม่ได้หนักหนาอะไรแล้วเขาก็ไม่ได้มีน้องชายต่างบิดาที่ร้ายจนเป็นที่รู้กันทั้งโรงเรียนด้วย
"เฮ้
นายอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ"
จีมินหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของจองกุก
"เปล่าครับ ๆ" จองกุกยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้อ
จีมินยิ้มอีกครั้งทำให้เขาต้องยิ้มตามออกมา ทั้ง ๆ ที่เจอเรื่องแย่ ๆ
แต่จีมินกลับยังดูสดใสได้เสมอ "พี่ยังดูสดใสเสมอเลยนะครับ"
นั่น...
แล้วก็เผลอพูดออกไปแล้ว
"เอ้า
แล้วไม่ดีหรือไง" จีมินหัวเราะร่าออกมาทันที
จองกุกเหวอไปเล็กน้อยก่อนจะรีบโบกไม้โบกมือพัลวัน
"ไม่ ๆ
ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น"
"รู้น่า
ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย"
จีมินเอ่ยด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
"พี่แกล้งผมหรือเปล่าเนี่ย" จองกุกแกล้งทำเสียงงอน ๆ จีมินส่ายหน้าไปให้แต่ยังคงยิ้มกว้างอยู่
เด็กหนุ่มตัวสูงทำหน้างอแต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา
จีมินเอามือเท้าคางแล้วหันไปมองนอกหน้าต่างรถก่อนจะพึมพำออกมา "นายนี่นะ..."
หยดน้ำเกาะอยู่บนกระจกด้านนอกไหลไปตามแรงลมเมื่อรถเคลื่อนตัว
อากาศเย็นสบายแต่เสื้อผ้าที่ชื้นทำให้รู้สึกหนาวเมื่อโดนเครื่องปรับอากาศในตัวรถ
จีมินสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ให้รู้ถึงการมีอยู่ของความรู้สึกบางอย่างในอก
แล้วเขาก็ยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น
ไม่ว่างเปล่าแล้ว...อายุเขาใกล้สิบเก้ามาอีกหน่อยพร้อมด้วยความไม่แน่ใจ
– ไม่แน่ใจว่าถึงอายุสิบเก้า เขาจะไม่เคยมีความรักจริง ๆ น่ะเหรอ
คนตัวเล็กเหลือบมองเด็กหนุ่มที่เอนหลังพิงเบาะสบาย
ๆ จองกุกเป็นคนมีดวงตาเป็นประกายอย่างน่าอิจฉา แถมเมื่อมันประกอบกับส่วนต่าง ๆ
ของใบหน้ายิ่งทำให้เขาดูดีไม่น่าแปลกเลยสักนิดที่เขาจะเป็นที่นิยมในโรงเรียน
คนอย่างจอนจองกุกน่ะเหรอ...
พัคจีมินไม่กล้าคิดหรอกนะ
แต่เขาเก็บจองกุกไว้เป็นรอยยิ้มได้ใช่ไหมล่ะ
ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นเหตุผลทำให้เขายิ้ม คนเหล่านั้นมีค่าเสมอ
จีมินหันไปมองนอกหน้าต่างต่อแล้วแอบอมยิ้มคนเดียวเงียบ
ๆ ส่วนจองกุกเองก็เหมือนกัน เขาก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียวอยู่เหมือนกัน...
ไม่นานนักรถประจำทางก็มาถึงป้ายที่ต้องลง
จีมินเดินตามลงมาก่อน จองกุกถือร่มไว้แต่ไม่ได้กางเพราะฝนหยุดไปแล้ว
แม้จะรู้สึกได้ถึงละอองน้ำบางเบาปลิวตามลมมาโดนที่ผิวหน้าบ้าง
"เดินเข้าไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้วแหละ" จีมินว่า "แค่นี้ฉัน—"
"เดี๋ยวผมไปส่งถึงหน้าบ้าน
นำไปเลยครับ" จองกุกแทรกขึ้นก่อนที่จีมินจะพูดจบ
"เอางั้นหรอ" จีมินก้มหน้าหนีอีกคนเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามาผงกศีรษะให้อีกคน "งั้นตามมาเลย"
เข้าไปซอยอีกนิดเดียวก็ถึงตามที่จีมินว่า
หน้าบ้านมีไม้ยืนต้นปลูกเอาไว้บ้างกับกระถางต้นไม้อีกสามกระถางจีมินเดินไปเคาะประตูบ้าน
พอไม่มีเสียงตอบรับเขาก็หยิบกุญแจขึ้นมาไข
"อ้าว
ลืมล็อกกันอีกแล้วเหรอเนี่ย"
จีมินพึมพำออกมาแล้วเปิดประตูบ้าน "กินน้ำสักแก้วก่อนไหมล่ะ"
ความจริงแล้วถ้าจีมินชวนเข้าแบบนี้จองกุกคงแทบจะกระโจนเข้าเลย
แต่นี่โทรศัพท์ของเขาดันสั่นเรียกอยู่น่ะสิ พอหยิบขึ้นมาดูก็เล่นว่าเป็นแทฮยอง
ลองคิด ๆ ดูแล้วหมอนั่นลืมเอาชุดฮากาม่ามาฝากให้เขาเอาไปส่งซักนี่หว่า...
"ไม่เป็นอะไรอ่ะครับ
ผมลืมของไว้ที่แทฮยอง เดี๋ยวไปเอาก่อน"
"เอางั้นเหรอ
อืม... งั้นวันนี้ก็ขอบใจมากนะ"
จีมินยกมือขึ้นมาโบกให้ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้านแล้วปิดประตู จองกุกลากนิ้วโป้งไปบนจอเพื่อรับโทรศัพท์พร้อมนั่งลงที่หน้าประตูบ้านเพื่อจัดการเชือกรองเท้าที่ยาวออกมาเสี่ยงต่อการเหยียบ
"อยู่หน้าบ้านพี่จีมิน
เรื่องกีฮากาม่าใช่ไหมล่ะ" เขาเอียงเอาไหล่ขึ้นดันโทรศัพท์ไว้แนบหูเพื่อที่จะได้มีมือไว้ผูกเชือกร้องเท้า
'ช่าย'แทฮยองลากเสียงยานคางตอบกลับมา 'บ้านพี่จีมินอยู่ไหนวะ'
"ก็ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่นะ" จองกุกตอบ
'งั้นเดี๋ยวเอาไปให้ที่หน้าโรงเรียนแล้วกัน
นี่เกือบเขาบ้านไปแล้วนะรู้ไหม'แทฮยองหัวเราะออกมาเมื่อพูดจบประโยค
"เกือบได้ความลับแตกโดยที่ไม่ต้องให้พี่ยุนกิเอาไปฟ้องพ่อเลยนะ"จองกุกเอ่ยกลั้วหัวเราะก่อนจะปรับเป็นน้ำเสียงจริงจังแล้วเอ่ยต่อ
"แต่สักวันพ่อนายก็ต้องรู้เรื่องนี้นะนอกจากแอบเล่นเคนโด้ฉันก็ไม่เห็นนายปิดพ่อเรื่องอื่นได้เลย"
'รู้แล้วน่า ยังไงก็รีบมาเอาเสื้อแล้วกัน'แทฮยองตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงกังวล
เสียงของแทฮยองจะเป็นประมาณนี้ทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้
"โอเค ๆ
จะรีบไปแล้วกัน เจอที่หน้าโรงเรียนนะ"
จองกุกกดตัดสายแล้วจึงลุกขึ้นเดินไปจากหน้าบ้านของจีมิน
พอเขาเดินออกไปได้สักพักกลิ่นไอของฝนที่เจือจางอยู่ในบรรยากาศก็เปลี่ยนไป
มันคลุ้งไปด้วยกลิ่นของบุหรี่ที่ตั้งใจจะจุดตั้งแต่ได้เสียงคนอยู่หน้าบ้านลอยลอดประตูออกมาจากไหนตัวบ้าน
พัคจีมินไม่ได้สูบบุหรี่แล้วก็ไม่ได้มีใครลืมล็อกบ้าน
TBC
ฮะโหลลลล นี่ฉลองรันชนะครั้งที่4ค่ะ5555555555 กุกมินมาแว้ววว แล้ววีก้านี่ยังไงกันน่ะ โฮ่ยๆ จะเป็นยังไงต่อก็ไม่ยู้-3- จริงๆตอนเขียนเรากังวลนิดหน่อย เพราะเว้นไปพักนึงเราเลยกลัวเรนโค้ทไม่เป็นเรนโค้ท ง่อว์.... เรารักฟิคเรื่องนี้มากเลย อาจจะเพราะอยู่ด้วยกันมานานค่ะ555555 ก็เลยผูกพันธ์กับเรื่องนี้มาก เอ๊ะ นี่มาบ่นอัลไล555555 ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ รักคนอ่านมากๆเลย ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของฟิคเรื่องนี้น้าา เยิ้บบ
สกรีมก็ #ฟิคเรนโค้ท นะฮะ
รักซ์....
ความคิดเห็น