ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BTS จบแล้ว] レインコート `raincoat ❥ vga & kookmin .

    ลำดับตอนที่ #15 : レインコート 15

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.83K
      37
      25 ม.ค. 59

    レインコート

    `raincoat

     

     

    15
     

        



                โฮซอกกับฮยอนอูเปลี่ยนเป้าหมายจากโรงฝึกเคนโด้จังหวัดเป็นโรงพยาบาลแถวนั้นแทน ถึงจะรู้ว่ายุนกิไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าตกใจประกอบมีไข้ทำให้ร่างกายอ่านล้าจนหมดสติไปพวกเขาก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี

    ถึงพวกเขาจะไม่รู้จักสนามกีฬาจังหวัดแต่ก็รู้จักโรงพยาบาลตามที่จีมินบอก และใช้เวลาไม่นานทั้งคู่ก็มาถึง

    "เป็นยังไงบ้าง" ฮยอนอูรีบวิ่งไปหาจีมินที่นั่งรออยู่ตรงหน้าห้องฉุกเฉินพร้อมด้วยเด็กหนุ่มรุ่นน้องอีกสองคนที่ยังสวมกีฮากาม่าเปียกโชกอยู่

    "ยุนกิไม่เป็นอะไรหรอก ฟื้นแล้วแหละ ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบปากคำอยู่" จีมินว่า โฮซอกกับฮยอนอูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

    "แล้วผู้ชายคนที่ถูกแทงเป็นยังไงบ้าง" โฮซอกเป็นคนถามขึ้นมาบ้าง

    "ไม่รู้สิ ยังไม่ออกจากห้องฉุกเฉินเลย" จีมินมองไปทางประตูห้องฉุกเฉินแล้วจึงเอ่ยต่อ "คนร้ายก็ยังจับไม่ได้เสียด้วยสิ"

    "ยุนกิเห็นหน้าคนร้ายไหมนะ" โฮซอกพึมพำออกมาอย่างอดห่วงไม่ได้ ถ้ายุนกิเห็นเรื่องอาจจะง่ายขึ้นมา ตำรวจอาจมีโอกาสตามจับตัวคนร้ายได้มากขึ้น

    "ไม่รู้สิ แทฮยองยุนกิว่าไงบ้างไหม" จีมินหันไปถามเด็กหนุ่มที่ยืนหน้าเครียดอยู่ แทฮยองหันไปมองจีมิน เงียบไปเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าไปให้

    "ไม่ได้บอกอะครับ"

     

     

    "ผมไม่เห็นหน้าเขาครับ"ยุนกิเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนอยู่บนเตียงผู้ป่วย มือขาวจับผ้าห่มเล่นไปมาแก้กังวลขณะที่มีตำรวจสองคนยืนสอบปากคำเขาอยู่แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ดุหรือกดดันเขาก็ตาม

    "งั้นก็แย่หน่อยล่ะ" นายตำรวจคนที่ถือปากกากับสมุดจดพูดขึ้น "คงต้องรอให้คุณคยองวอนฟื้นแล้วแหละ"

    ยุนกิเม้มริมฝีปากอย่างอดกังวลไม่ได้ เขาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจฟังไปแล้วแต่เขาคิดว่าไม่น่าช่วยอะไรได้มากนัก แค่รูปร่างกับส่วนสูงคร่าว ๆ คงจะทำให้ตามจับได้ยาก

    "งั้นก็คงไม่มีอะไรแล้วแหละไม่ต้องคิดมากนะ" นายตำรวจอีกคนพูดด้วยรอยยิ้มเพราะเขาเองก็เข้าใจยุนกิที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

    "แต่..."ยุนกิเอ่ยออกไปอย่างไม่ค่อยแน่ใจ "เหมือนเขาจะคิดว่าผมเห็น"

    "หื้ม... ว่าไงนะ"

    "ครับ เหมือนเขาจะคิดว่าผมเห็นหน้าเขาถึงได้รีบยกฮู้ดมาคลุม ตอนนั้นเขาดูตกใจมาก ๆ เลยครับ"

    "ผู้ปกครองมาหรือยังน่ะ" นายตำรวจเอ่ยพลางจดรายละเอียดลงในสมุด "แดฮยอนไปดูให้หน่อย ถ้ามาแล้วคุยให้ด้วยเลยนะ"

    "โอเคพี่" นายตำรวจคนที่ชื่อว่าแดฮยอนเดินออกไป ยุนกิมองหน้านายตำรวจอีกคนที่ยังอยู่ในห้อง

    "มันแย่ – ใช่ไหมครับ"ยุนกิถามออกไป คนเป็นตำรวจเงยหน้ามามองเขาก่อนจะพยักหน้าให้ จริง ๆ แล้วยุนกิเองก็พอจะรู้อยู่เหมือนกัน

    "มันก็มีโอกาสที่เขาคิดจะปิดปากนาย" นายตำรวจตอบ "แต่ก็มีโอกาสที่จะไม่เหมือนกัน เขาเองก็คงกลัวความผิดมาก อาจจะหนีไปไกล ๆ แล้วก็ได้"

    "ครับ"ยุนกิพยักหน้า

    "แต่ยังไงก็ระวังไว้ก่อนจะดีกว่า พยายามอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวแล้วกันนะ ถ้าเห็นไม่ชอบมาพากลก็แจ้งฉันมาไว้ก่อนเลย" เขาว่าพลางฉีกกระดาษสมุดออกมาเขียนเบอร์โทรศัพท์ไปให้ยุนกิ "อ่ะนี่ ให้ผู้ปกครองนายเก็บไว้ด้วยนะ"

    ยุนกิรับมา เขาพยักหน้าไปให้นายตำรวจ ชื่อตามเขียนไว้ในนั้นคือบังยงกุก "ขอบคุณครับ"

    ยงกุกพยักหน้าให้ "งั้นฉันออกไปก่อน แล้วจะเรียกคนอื่นมาให้"

    แล้วนายตำรวจคนนั้นก็ออกไป ยุนกินั่งมองมือของตนเองที่เล่นผ้าห่มไปมาอยู่ครู่หนึ่งเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น เป็นเพื่อนของเขากับซอกจินที่เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าทั้งกังวลและโล่งใจไปในคราวเดียวกัน

    "เป็นยังไงบ้าง" จีมินถามขึ้น ยุนกิส่งยิ้มไปให้พร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ

    "โอเคแล้ว"

    "ตำรวจว่าไงบ้าง" ซอกจินถามก่อนจะเดินมานั่งข้างเตียง ยุนกิยื่นแผ่นกระดาษที่นายตำรวจคนนั้นให้มาไปไว้ตรงหน้าซอกจิน ชายหนุ่มเลิกคิ้วแต่ก็เลือกที่จะรับแผ่นกระดาษมาก่อนจะถามต่อ "ตำรวจให้ไว้เหรอ"

    "ครับ เผื่อมีเรื่อง"ยุนกิว่า "พี่เมมเลย ให้พ่อกับแม่เมมเบอร์ไว้ด้วย"

    "โอเค" ซอกจินพยักหน้า "คุณน้ากำลังคุยกับตำรวจอีกคนอยู่ มีเรื่องร้ายแรงเหรอ"

    "ไม่แน่ใจ แต่เหมือนเขาจะคิดว่ากิเห็นหน้าเขา"ยุนกิตอบออกไป

    "เอาเถอะ" ซอกจินว่า "ยังไงพี่ก็ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรกิหรอก"

    ยุนกิพยักหน้าก่อนจะยิ้มออกมาทำให้ทุกคนเบาใจไปได้ว่ายุนกิไม่ได้กังวลมากนัก

    "อยากกลับเลยไหม หรืออยากนอนพักก่อน" ซอกจินถามต่อ

    "กลับเลยฮะ อยากนอนที่บ้านมากกว่า"ยุนกิแทบจะตอบไปในทันที ได้ยินดังนั้นซอกจินก็ลุกขึ้น เขาวางมือบนเส้นผมของยุนกิ

    "เดี๋ยวพี่ไปบอกพยาบาลให้"

    "อื้อ"ยุนกิพยักหน้าหงึกหงักตอบไปแล้วซอกจินก็เดินออกจากห้อง โฮซอกรีบปราดมานั่งแทนที่ของซอกจินจนยุนกิแทบสะดุ้ง

    "เป็นยังไงบ้าง"

    "ก็โอเค ตอบไปแล้วนะโว้ย"ยุนกิตอบกับไปด้วยน้ำเสียงขุ่น ๆ เล็กน้อยแต่โฮซอกกับหัวเราะร่าแล้วหันไปพูดกับจีมินและฮยอนอูแทน

    "โอเคแล้วจริงด้วยว่ะ"

    "ไอนี่นี้"ยุนกิยกขาขึ้นทำท่าจะหมุนตัวมาถีบเพื่อน โฮซอกเห็นดังนั้นก็รีบเด้งตัวลุกขึ้น

    "อย่าเพิ่งซ่านักเลย"ฮยอนอูเอ่ยพลางหัวเราะ "น้องสองคนนั้นกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ กีฮยอนเพิ่งเอามาให้น่ะ"

    น้องสองคนนั้นคงไม่พ้นจะเป็นจอนจองกุกกับคิมแทฮยอง... อ่า แทฮยอง – ตายล่ะ แล้วเขาจะกล้ามองหน้าหมอนั่นได้อย่างไรกัน

    คิดแล้วก็อดรู้สึกนั่งไม่ติดพื้นไม่ได้ ให้ตายสิ นี่เขาโดนเด็กนั้นจูบ... จริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย

    เป็นคำถามที่ถามใครไม่ได้เสียด้วย

    "ยุนกิ ยุนกิ"

    "ห๊ะ" เขาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินโฮซอกแหกปากเรียกชื่อตนเอง คนตัวเล็กบนเตียงหันไปมองเพื่อนตนเองตาปริบ ๆ

    "เรียกตั้งนาน คิดมากอะไรหรือเปล่า" โฮซอกขมวดคิ้วถาม "อย่าคิดมากสิ เดี๋ยวทุกอย่างก็โอเคเองแหละ"

    "อะอื้ม!ฉันก็หวังอย่างนั้น"ยุนกิตอบก่อนจะฉีกยิ้มไปให้เพื่อนรักที่ชอบจะกัดกันอยู่บ่อย ๆ

    "ดีมาก!!แล้วทีนี่ก็ช่วยเล่าให้ฟังอย่างละเอียด ๆ ทีดิ"

    "โฮ่ย ไม่เอา ๆ ๆ เพิ่งเล่าให้ตำรวจฟังไป"ยุนกิส่ายหน้า

    "เล่าดิ เล่ามา" โฮซอกเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงอีกครั้งพร้อมกับลากเก้าอี้มาให้ชิดเตียงที่สุด "เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย"

    ยุนกิกลอกตาอย่างอดเหนื่อยใจไม่ได้ เขารู้ว่าอย่างไรเสียโฮซอกก็ต้องคะยั้นคะยอให้เขาเล่าอยู่ดี สุดท้ายเขาก็ต้องเล่าตามที่โฮซอกต้องการโดยมีจีมินกับฮยอนอูยืนฟังเงียบ ๆ

    เขาเล่าจบพอดีกับที่พ่อกับแม่เขาเดินเข้ามาเพื่อจะพาเขากลับบ้าน ยุนกิไม่ได้เป็นอะไรมากอยู่แล้ว จริง ๆ ถ้าไม่ดันหมดสติไปเสียก่อนคงจะไม่ต้องมาโรงพยาบาลให้คนอื่นแตกตื่นกันแบบนี้หรอก

    ว่าแล้วก็คิดไปถึงตอนที่หมดสติ

    แทฮยอง...

    ยุนกิเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองที่แม่ของเขาเตรียมมาให้ พอเดินออกมาก็เจอกับกีฮยอน จองกุก และแน่นอนว่าต้องมีแทฮยอง – ให้ตายสิ เขาไม่กล้ามองหน้าแทฮยองจริง ๆ นะ

    "ขอโทษทีนะ คนที่เห็นเหตุการณ์อีกมีใครบ้าง" ก่อนที่ยุนกิจะคิดไม่ตกยิ่งกว่านี้ว่าควรจะหลบแทฮยองอย่างไรดีนายตำรวจคนที่ชื่อยงกุกก็เดินเข้ามาก่อน เรียกให้แทฮยองหันไปมองที่เขาแทนที่จะเป็นยุนกิ

    "ผมสามคนครับ" จองกุกเป็นคนตอบแล้วชี้ไปที่แทฮยองกับจีมิน

    "ขอถามพวกรายละเอียดนิดหน่อยนะ สะดวกหรือเปล่า" ยงกุกว่า แต่ทั้งสามก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการให้ความร่วมมือกับตำรวจอยู่แล้ว ยิ่งตำรวจจับคนร้ายได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น

    "ได้ฮะ" จีมินเดินแยกออกไปพร้อมกับจองกุกและแทฮยองโดยไม่ลืมหันมาคุยกับยุนกิ "กลับไปก่อนเลย ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวกลับเองได้"

    "เดี๋ยวผมไปส่งก็ได้" จองกุกโพล่งออกไปทำให้คนอื่นหันไปมองเด็กหนุ่มอย่างแปลกใจ เขารีบเอ่ยแก้ตัวขึ้น "พี่ยุนกิจะได้ไม่ต้องห่วงไง สถานการณ์แบบนี้ด้วย"

    "เอางั้นก็ได้"ยุนกิพยักหน้ารับ เขายังคงเลี่ยงที่จะไม่มองไปทางแทฮยองอยู่ดี เขารู้ว่าเป็นเพราะแทฮยองช่วยไว้เขาถึงไม่โดนทำร้าย แต่เขาไม่รู้จริง ๆ นี่ว่าควรจะพูดหรือแสดงออกอย่างไร พอนึกถึงแล้วก็อดร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้า จะให้ยอมรับว่าเขินนี่ก็ไม่ใช่มินยุนกิแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็ขอเวลาให้เขาหน่อยเถอะ...

    ยุนกิเลือกที่จะก้มหน้าแล้วเดินตามแม่ของตนเองไปเงียบ ๆ ส่วนแทฮยองก็เดินตามตำรวจไปข้าง ๆ กันกับจองกุก

    "พี่เขาคงตกใจน่าดูเนอะ" จองกุกเอียงตัวมากระซิบด้วย แทฮยองพยักหน้าตอบกลับไป "ก็นะ เจอคนโดนแทงต่อหน้าแถมยังเกือบโดนเองด้วยอีก"

    "คงงั้นแหละ"แทฮยองพึมพำรับคำไปแต่เขาก็อดคิดไม่ว่าเมื่อครู่ยุนกิจงใจหลบสายตาไปจากเขา แต่แทฮยองเองก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ในเมื่อเขาเองเป็นคนทำให้เกิดบรรยากาศแปลก ๆ ขึ้นมาเอง

    เขาไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมาในตอนนั้น

    แต่จริง ๆ พอคิดย้อนกลับไปมันก็ทำให้รู้สึกดีนะ...

    นั่นแหละมันถึงทำให้เขารู้สึกสับสนกับการกระทำของตนเอง เขาแน่ใจในความรู้สึกของตนเองแต่ไม่แน่ใจกับยุนกิ เขาไม่ควรเอาแค่ความรู้สึกตนเองเป็นที่ตั้ง

    ปัญหาจะอยู่ในหัวเหมือนฝูงผึ้งแตกรังบินวนอยู่ในนั้น เขาคงได้ปวดหัวกับเรื่องนี้ไปอีกพัก อย่างน้อยก็คงก่อนจะคุยกับยุนกิอีกครั้ง ก็ตอนนี้เขาจับทางอีกคนไม่ถูกเลยนี่

    แทฮยองไม่หวังจะให้ใครเข้าใจเขาหรอกเขาถึงไม่เล่าให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนสนิทอย่างจองกุก ถึงอยากเล่าหรือปรึกษาขึ้นมาจริง ๆ เขาก็เรียบเรียงออกมาเป็นประโยคไม่ได้หรอก คงจะมีแต่งงกันไปเสียเปล่า

     

     

    จริง ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรมากนักแค่ถามถึงรายละเอียดของเหตุการณ์เพิ่มเติมเล็กน้อยพร้อมกับกำชับว่าหากมีอะไรให้แจ้งไปที่ทางตำรวจทันที

    พอถึงเวลาทุกคนก็แยกกันกลับบ้านของตน แน่นอนว่าจอนจองกุกกระตือรือร้นที่จะทำตามสิ่งที่ตนเองรับไว้ เขากางร่มให้รุ่นพี่ตัวเล็กแล้วพาเดินไปขึ้นรถประจำทาง

    จีมินค่อนข้างจะทำตัวไม่ถูกที่มีเด็กหนุ่มตัวสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดมากางร่มให้แบบนี้ ใบหน้าน่ารักเลยเอาแต่ก้มมองพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝน

    "ขึ้นสายไหนก็บอกได้เลยนะครับ" จองกุกด้วยรอยยิ้มกว้าง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ารุ่นน้องคนนี้จะอารมณ์ดีมากจากไหน แต่เป็นแบบนี้ก็ดีกว่ามาแบบหน้ามุ่ย ๆ อยู่แล้วนี่เนอะ

    "ได้ ๆ เดี๋ยวบอกเอง" จีมินพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มไปให้อีกคนบ้าง เขาเป็นคนชอบยิ้ม ยิ่งถ้าเจอเรื่องแย่ ๆ ที่บ้านเขาก็ยิ่งรู้สึกดีหากจะได้เจอกับคนที่ทำให้เขาได้ยิ้ม

    "อ่า... ครับ" จองกุกชะงักไปเล็กน้อย – ไม่สิ เรียกได้ว่าแทบเสียศูนย์ไปเลยเมื่อเจอจีมินยิ้มตาหยีให้ จริงอยู่ที่จีมินดูไม่ใช่คนโดดเด่นอะไร แต่พอยิ้มแบบนั้นแล้วไม่ว่าใครก็คงต้องหยุดมองกันทั้งนั้นแหละ

    น่ารักจริง ๆ นะ

    หรือจะเป็นแค่จองกุกเองก็ไม่รู้แหละ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้วไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร – สำหรับเขาตอนนี้ก็คงอยากแค่ทำให้จีมินยิ้มบ่อย ๆ

    ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับจองกุกในการชวนคุย ยิ่งกับคนที่เขาอยากคุยด้วยอย่างพัคจีมินแล้ว พอขึ้นไปบนรถเขาก็ชวนรุ่นพี่ตัวเล็กคุยเรื่องต่าง ๆ เรื่องเรียนบ้าง เรื่องมหาวิทยาลัยที่จะเข้าบ้าง เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมไปถึงเรื่องที่บ้าน...

    บ้านของจีมิน – เจ้าน้องชายตัวแสบของพัคจีมิน

    "มันเป็นปัญหาที่ฉันยอมรับได้นะ" จีมินเอ่ยขึ้น จองกุกยื่นหน้าไปมองคนตัวเล็กเพื่อดูว่าเขาแสดงสีหน้าอย่างไรแต่จีมินก็ยังดูปกติดี "ต่อให้คิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา แล้วมันก็เป็นแบบนี้มานานแล้วด้วย"

    "หมายถึง... ซอนบินเหรอครับ" จองกุกถามแต่จีมินกลับส่ายหน้ามาให้เบา ๆ

    "ทุกคนเลย" จีมินตอบ แน่นอนว่าถึงตอนนี้ไม่ใช่สีหน้าปกติหรอก จีมินดูจะเศร้าอยู่ไม่น้อยแต่ที่แสดงผ่านออกมาทางสีหน้าคงไม่ใช่ทั้งหมดที่รู้สึก "พ่อกับแม่ก็ชอบจะทะเลาะกันบ่อย ๆ ด้วยน่ะ ซอนบินเองเดี๋ยวนี้ก็น่าห่วง แม่โกรธให้ตอนที่โรงเรียนแจ้งว่าน้องฉันหนีเรียนไปสูบบุหรี่ที่ห้องน้ำโรงเรียนจนไม่มีใครกล้าใช้ห้องน้ำนั้นน่ะ"

    "อา..." จองกุกคิดไม่ออกว่าควรจะพูดอะไรออกไปดีเลยแต่พยักหน้าอย่างเข้าใจ ใช่ว่าที่บ้านเขาจะไม่เคยทะเลาะกัน แต่ก็แค่ปัญหาธรรมดาที่ไม่ว่าครอบครัวไหนก็ต้องเจอไม่ได้หนักหนาอะไรแล้วเขาก็ไม่ได้มีน้องชายต่างบิดาที่ร้ายจนเป็นที่รู้กันทั้งโรงเรียนด้วย

    "เฮ้ นายอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ" จีมินหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของจองกุก

    "เปล่าครับ ๆ" จองกุกยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้อ จีมินยิ้มอีกครั้งทำให้เขาต้องยิ้มตามออกมา ทั้ง ๆ ที่เจอเรื่องแย่ ๆ แต่จีมินกลับยังดูสดใสได้เสมอ "พี่ยังดูสดใสเสมอเลยนะครับ"

    นั่น... แล้วก็เผลอพูดออกไปแล้ว

    "เอ้า แล้วไม่ดีหรือไง" จีมินหัวเราะร่าออกมาทันที จองกุกเหวอไปเล็กน้อยก่อนจะรีบโบกไม้โบกมือพัลวัน

    "ไม่ ๆ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น"

    "รู้น่า ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย" จีมินเอ่ยด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ

    "พี่แกล้งผมหรือเปล่าเนี่ย" จองกุกแกล้งทำเสียงงอน ๆ จีมินส่ายหน้าไปให้แต่ยังคงยิ้มกว้างอยู่

    เด็กหนุ่มตัวสูงทำหน้างอแต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา จีมินเอามือเท้าคางแล้วหันไปมองนอกหน้าต่างรถก่อนจะพึมพำออกมา "นายนี่นะ..."

    หยดน้ำเกาะอยู่บนกระจกด้านนอกไหลไปตามแรงลมเมื่อรถเคลื่อนตัว อากาศเย็นสบายแต่เสื้อผ้าที่ชื้นทำให้รู้สึกหนาวเมื่อโดนเครื่องปรับอากาศในตัวรถ จีมินสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ให้รู้ถึงการมีอยู่ของความรู้สึกบางอย่างในอก

    แล้วเขาก็ยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น

    ไม่ว่างเปล่าแล้ว...อายุเขาใกล้สิบเก้ามาอีกหน่อยพร้อมด้วยความไม่แน่ใจ – ไม่แน่ใจว่าถึงอายุสิบเก้า เขาจะไม่เคยมีความรักจริง ๆ น่ะเหรอ

    คนตัวเล็กเหลือบมองเด็กหนุ่มที่เอนหลังพิงเบาะสบาย ๆ จองกุกเป็นคนมีดวงตาเป็นประกายอย่างน่าอิจฉา แถมเมื่อมันประกอบกับส่วนต่าง ๆ ของใบหน้ายิ่งทำให้เขาดูดีไม่น่าแปลกเลยสักนิดที่เขาจะเป็นที่นิยมในโรงเรียน

    คนอย่างจอนจองกุกน่ะเหรอ... พัคจีมินไม่กล้าคิดหรอกนะ

    แต่เขาเก็บจองกุกไว้เป็นรอยยิ้มได้ใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นเหตุผลทำให้เขายิ้ม คนเหล่านั้นมีค่าเสมอ

    จีมินหันไปมองนอกหน้าต่างต่อแล้วแอบอมยิ้มคนเดียวเงียบ ๆ ส่วนจองกุกเองก็เหมือนกัน เขาก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียวอยู่เหมือนกัน...

    ไม่นานนักรถประจำทางก็มาถึงป้ายที่ต้องลง จีมินเดินตามลงมาก่อน จองกุกถือร่มไว้แต่ไม่ได้กางเพราะฝนหยุดไปแล้ว แม้จะรู้สึกได้ถึงละอองน้ำบางเบาปลิวตามลมมาโดนที่ผิวหน้าบ้าง

    "เดินเข้าไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้วแหละ" จีมินว่า "แค่นี้ฉัน—"

    "เดี๋ยวผมไปส่งถึงหน้าบ้าน นำไปเลยครับ" จองกุกแทรกขึ้นก่อนที่จีมินจะพูดจบ

    "เอางั้นหรอ" จีมินก้มหน้าหนีอีกคนเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามาผงกศีรษะให้อีกคน "งั้นตามมาเลย"

    เข้าไปซอยอีกนิดเดียวก็ถึงตามที่จีมินว่า หน้าบ้านมีไม้ยืนต้นปลูกเอาไว้บ้างกับกระถางต้นไม้อีกสามกระถางจีมินเดินไปเคาะประตูบ้าน พอไม่มีเสียงตอบรับเขาก็หยิบกุญแจขึ้นมาไข

    "อ้าว ลืมล็อกกันอีกแล้วเหรอเนี่ย" จีมินพึมพำออกมาแล้วเปิดประตูบ้าน "กินน้ำสักแก้วก่อนไหมล่ะ"

    ความจริงแล้วถ้าจีมินชวนเข้าแบบนี้จองกุกคงแทบจะกระโจนเข้าเลย แต่นี่โทรศัพท์ของเขาดันสั่นเรียกอยู่น่ะสิ พอหยิบขึ้นมาดูก็เล่นว่าเป็นแทฮยอง ลองคิด ๆ ดูแล้วหมอนั่นลืมเอาชุดฮากาม่ามาฝากให้เขาเอาไปส่งซักนี่หว่า...

    "ไม่เป็นอะไรอ่ะครับ ผมลืมของไว้ที่แทฮยอง เดี๋ยวไปเอาก่อน"

    "เอางั้นเหรอ อืม... งั้นวันนี้ก็ขอบใจมากนะ" จีมินยกมือขึ้นมาโบกให้ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้านแล้วปิดประตู จองกุกลากนิ้วโป้งไปบนจอเพื่อรับโทรศัพท์พร้อมนั่งลงที่หน้าประตูบ้านเพื่อจัดการเชือกรองเท้าที่ยาวออกมาเสี่ยงต่อการเหยียบ

    "อยู่หน้าบ้านพี่จีมิน เรื่องกีฮากาม่าใช่ไหมล่ะ" เขาเอียงเอาไหล่ขึ้นดันโทรศัพท์ไว้แนบหูเพื่อที่จะได้มีมือไว้ผูกเชือกร้องเท้า

    'ช่าย'แทฮยองลากเสียงยานคางตอบกลับมา 'บ้านพี่จีมินอยู่ไหนวะ'

    "ก็ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่นะ" จองกุกตอบ

    'งั้นเดี๋ยวเอาไปให้ที่หน้าโรงเรียนแล้วกัน นี่เกือบเขาบ้านไปแล้วนะรู้ไหม'แทฮยองหัวเราะออกมาเมื่อพูดจบประโยค

    "เกือบได้ความลับแตกโดยที่ไม่ต้องให้พี่ยุนกิเอาไปฟ้องพ่อเลยนะ"จองกุกเอ่ยกลั้วหัวเราะก่อนจะปรับเป็นน้ำเสียงจริงจังแล้วเอ่ยต่อ "แต่สักวันพ่อนายก็ต้องรู้เรื่องนี้นะนอกจากแอบเล่นเคนโด้ฉันก็ไม่เห็นนายปิดพ่อเรื่องอื่นได้เลย"

    'รู้แล้วน่า ยังไงก็รีบมาเอาเสื้อแล้วกัน'แทฮยองตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงกังวล เสียงของแทฮยองจะเป็นประมาณนี้ทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้

    "โอเค ๆ จะรีบไปแล้วกัน เจอที่หน้าโรงเรียนนะ" จองกุกกดตัดสายแล้วจึงลุกขึ้นเดินไปจากหน้าบ้านของจีมิน พอเขาเดินออกไปได้สักพักกลิ่นไอของฝนที่เจือจางอยู่ในบรรยากาศก็เปลี่ยนไป มันคลุ้งไปด้วยกลิ่นของบุหรี่ที่ตั้งใจจะจุดตั้งแต่ได้เสียงคนอยู่หน้าบ้านลอยลอดประตูออกมาจากไหนตัวบ้าน

    พัคจีมินไม่ได้สูบบุหรี่แล้วก็ไม่ได้มีใครลืมล็อกบ้าน

     

    TBC

      

         ฮะโหลลลล นี่ฉลองรันชนะครั้งที่4ค่ะ5555555555 กุกมินมาแว้ววว แล้ววีก้านี่ยังไงกันน่ะ โฮ่ยๆ จะเป็นยังไงต่อก็ไม่ยู้-3- จริงๆตอนเขียนเรากังวลนิดหน่อย เพราะเว้นไปพักนึงเราเลยกลัวเรนโค้ทไม่เป็นเรนโค้ท ง่อว์.... เรารักฟิคเรื่องนี้มากเลย อาจจะเพราะอยู่ด้วยกันมานานค่ะ555555 ก็เลยผูกพันธ์กับเรื่องนี้มาก เอ๊ะ นี่มาบ่นอัลไล555555 ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ รักคนอ่านมากๆเลย ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของฟิคเรื่องนี้น้าา เยิ้บบ


    สกรีมก็ #ฟิคเรนโค้ท นะฮะ 

    รักซ์....  


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×