ผีเหรียญ...ใครว่าไม่มีจริง - ผีเหรียญ...ใครว่าไม่มีจริง นิยาย ผีเหรียญ...ใครว่าไม่มีจริง : Dek-D.com - Writer

    ผีเหรียญ...ใครว่าไม่มีจริง

    เขาว่ากันว่าการที่เหรียญเลื่อนได้ เกิดจากขั้วแม่เหล็กโลกทางเหนือและทางใต้ ทั้งที่ควรเป็นแบบนั้น แต่...

    ผู้เข้าชมรวม

    3,676

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    3.67K

    ความคิดเห็น


    20

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ม.ค. 60 / 14:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ประสบการณ์ตรงจากการเล่นผีเหรียญภายในวัด เพียงเพราะไม่เชื่อว่า...บางสิ่งจะมีอยู่จริง
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                  ทุก ๆปีนักเรียนชั้นม.4 จะมีการเข้าค่ายพุทธมณฑลที่วัดเสมอ เพื่อให้ฝึกทำวัดและถือศีลชำระกาย มันคงเหมือนทุกๆปี ถ้าปีนั้น ฉันและเพื่อน ๆไม่เจอเหตุการณ์สยองที่จำไม่รู้ลืม เพียงเพราะ อยากลอง


                    ในคืนสุดท้าย หลังจากที่เราทำวัดเย็น และอาบน้ำเสร็จ เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม อาจารย์เดินเข้ามาปิดไฟ ทั้งสั่งให้นักเรียนทุกคนเข้านอนตามมุมที่ได้จัดไว้ ซึ่งพวกฉันได้นอนห้องหลังพระประธาน ลักษณะห้องเป็นออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่เฉพาะด้านหลังพระประธานจะมีห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆให้พัก มีช่องหน้าต่างยาวสุดตัวห้องทำด้วยกรอบไม้และตัดไม้เป็นลูกกรงซี่ มองออกไปเห็นเมรุเผาศพชัดทีเดียว


                  ตอนแรกฉันคิดว่าจะนอนหันหลังให้เมรุนั่น แต่ปรากฏด้วยขนาดพื้นที่จำกัด ผนวกกับจำนวนคนที่มากเกินพอ ทำให้ต้องนอนหันเท้าเข้าหากัน โดยคนจำนวนหนึ่งจะต้องนอนได้ชมจันทร์แสนสวยได้อารมณ์เกินบรรยายกับเมรุนั่น ซึ่งเผอิญฉันดันเป็นหนึ่งในนั้นซะด้วย   

               

                   แต่ค่ำคืนจะเข้านอนแต่หัววันตามครูสั่งก็ใช่ที่ ด้วยความคิดอุตริของเด็กมัธยมปลาย ทำให้พวกเราพากันจับกลุ่มล้อมวงเล่นผีเหรียญ แต่คนเล่นน่ะมีแค่วงละสองสามคนเท่านั้น นอกนั้นผู้ติดตามเฝ้าดูบวกให้กำลังใจกันแบบมือสั่นหน้าซีดแต่ไม่ยอมนอน จะมีก็แต่เปิ้ล เด็กสาวเซนส์แรงที่เห็นผีประจำรีบเข้านอนก่อนเพื่อน แถมย้ำอีกต่างหากว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามปลุกเด็ดขาด

       

                   ตอนนั้นพวกเราได้แต่ส่ายหน้าหัวเราะให้กับคำพูดนั้น เพราะจะบอกว่าไอ้ที่น่ากลัวน่ะ น่าจะเป็นหน้าขาววอกที่ประโคมแป้งแบบจัดเต็มของเพื่อน ๆที่ล้อมวงมุมดูการละเล่น 'ผีเหรียญ' มากกว่า ยิ่งถือไฟฉายส่องกันคนละกระบอกสองกระบอกเห็นเป็นแสงแวบไปแวบมาด้วยแล้ว ถือว่าสยองไม่น้อยทีเดียว แล้วการละเล่น 'ผีเหรียญ'ก็เริ่มต้นขึ้น พร้อมหมอกจางๆและควันที่คล้ายมีคล้ายไม่มี

       

                พอเริ่มดึกสงัด หมอกโรยตัวลงมาเห็นเป็นควันขาวขุ่นจาง ๆด้านนอกรอบเมรุ บรรดาพวก "อยากลองก็เริ่มหดหัว เลิกเล่นไปตาม ๆกัน แต่ย้ำว่าเลิกเล่นนะ ไม่ใช่เลิกมุง!! ถึงจะกลัวแค่ไหน แต่พี่แกก็แค่คว้าผ้าห่มมาคลุมโปงโผล่หน้าขาว ๆมาหลอกคนเล่นต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจากสี่วง สุดท้ายก็เหลือวงฉันวงเดียว วงที่ทุกคนใจต้องจดใจจ่อกับการเคลื่อนของเหรียญที่เคลื่อนที่เร็วจนนึกว่าใครเป็นคนจับเลื่อน

       

                   เรื่องขึ้นหลังจากที่ฉันและปลาท่องคาถาจบ ฉันเป็นคนเอ่ยคำเชิญ ตอนนั้นฉันคิดไม่ออกว่าจะเชิญใครจึงบอกขอเชิญใครแถวๆนี้ ซักพักเหรียญค่อยๆเดินเอื่อยๆ พวกฉันยิงคำถามยอดฮิตก่อนว่าคุณชื่ออะไรคะ

       

                    เหรียญค่อยๆเลื่อนเป็นคำไทยโบราณเพราะเป็นตัวที่เลิกใช้แล้ว ไม่ว่าจะ ค.คน ข.ขวด ซึ่งทำให้ฉันเดาว่าคนที่เชิญมาน่าจะเป็นคนไทยโบราณ แต่ฉันไม่กลัวเพราะเชื่อตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าเหรียญเดินเพราะแรงแม่เหล็กจากขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ เลยยังคงปากดีต่อไป

       

                    "คุณเป็นอะไรตายคะ"

       

                     เท่านั้นเหรียญหยุดเดินทันที พวกฉันได้แต่งงๆ จึงเคาะมือสามครั้งเชิญออก จากนั้นเราท่องคาถาเชิญใหม่คราวนี้เพื่อนฉันเป็นฝ่ายเชิญบ้าง ด้วยความคะนองเลยเอ่ยเชิญ พุ่มพวง ดวงจันทร์ แต่ผลออกมาคือใครไม่รู้เข้ามา เหรียญเลื่อนเริ่มเร็วพอสมควร จนมือที่จับเหรียญชักขยับตามไม่ค่อยทัน จากคำถามสรุปได้ว่า

       

                    …เธอเป็นผู้หญิงอายุ 67 ปี แต่เมื่อถามว่าเธอเป็นอะไรตาย เหรียญก็หยุดเช่นเดิมแต่พวกเราเด็กชอบลองยังไม่ยอมแพ้ เชิญมาอีก...

                    

      คราวนี้เป็นเด็ก 5ขวบ แต่เหมือนเดิมเมื่อถามว่าเป็นอะไรตาย เหรียญก็หยุดเดิน?!…

       

                     พวกฉันจึงตกลงกันว่าเราจะไม่ถามคำถามนี้ และอุตริขอเชิญ ทัณ ธณวานิช เพราะตอนนั้นเพิ่งเสียไปหมาด ๆ ทันทีที่พูดจบเหรียญเดินเร็วจนฉันและปลาต่างตกใจเพราะมันทำให้นิ้วของเราทั้งคู่เกือบหลุดออกจากเหรียญ (ถ้าใครไม่เคยเล่นคงไม่รู้ว่าการที่นิ้วหลุดโดยไม่ได้เชิญออก วิญญาณที่เชิญกลายเป็นวิญญาณตามติดพวกเราได้ เพราะเขาจะกลับไม่เป็นถ้าไม่มีใครเชิญกลับ ตามความเข้าใจส่วนตัว ณ เวลานั้น)

       

                       ฉันรีบถามทันทีว่าเขาคือใคร เขาเลื่อนไปบอกไม่ใช่คนที่พวกฉันเชิญ และเลื่อนไปยังตัวอักษร ท...เ...น...ศ  ปลาถามขึ้นบ้าง

       

      "คุณชื่อทเนศเหรอคะ"

       

      ตอนนั้นพวกเรายังครื้นเครง เดากันอย่างสนุกสนานว่าน่าจะเป็นคนยุคนี้เพราะสะกดคำเหมือนอย่างที่เรา ๆใช้กัน แต่ที่น่าสะดุดใจคือการเคลื่อนของเหรียญเร็วจนนิ้วฉันและปลาเกือบหลุดหลายครั้ง แต่เพราะมันก็ทำให้อ่านข้อความได้เร็วดี จึงไม่มีใครทักท้วง

                        พวกฉันและเพื่อน ๆต่างสนุกกับการถามเรื่องอนาคต การเรียนและความรัก จนเวลาเกือบห้าทุ่ม พวกเราก็หมดคำถาม ตั้งใจจะเชิญวิญญาณในเหรียญกลับ แต่จู่ๆ เหรียญกลับเลื่อนบอกพวกเราว่า

       

      "ถ้าหมดเรื่องถามแล้ว ขอเล่าอะไรบ้างได้บ้าง"

                 

                      ทั้งฉันและปลาต่างมองหน้ากันเลิกลั่ก เริ่มนึกกลัวขึ้นมาเฉยๆ จอยหนึ่งในคนมุงพูดตอบได้ค่ะขึ้นมาเฉย แบบไม่เกรงใจคนเล่น แถมยังเอ่ยอย่างใจกว้าง

       

                     “มีปัญหาอะไรก็เล่ามาเถอะ”

       

                       ฉันและปลาได้แต่อึกอัก ถามกันไปมาว่าแกล้งเลื่อนเหรียญหรือเปล่า เหรียญยังคงเลื่อนอย่างรวดเร็ว เขาบอกว่า เขาเกลียดแม่!!

       

                       จอยยังคงเป็นผู้ถามว่า ทำไม เขาบอกว่า นั่นไม่ใช่แม่แท้ๆ เขาเป็นห่วงพ่อเขามาก และเขาเกลียดอาเขา  เขาบอกชื่อและนามสกุลอาของเขา ซึ่งอ่านแล้วน่าจะมีอยู่จริง

       

                       แต่พวกฉันยังไม่เข้าใจว่าเขาต้องการสื่ออะไร  เขาเล่าต่อว่า เขาต้องการขอความช่วยเหลือให้เราช่วยหาถุงดำให้หน่อย

       

      ถุงดำ?!

       

      ภาพศพที่โดนฆ่ามักจะใส่ถุงดำ ผุดขึ้นมาในหัว

       

                   เหรียญจู่ๆก็หักมุม และไปหยุดที่คำว่า ใช่ จอยโพล่งออกมาว่า

       

                     “ใช่อะไร....หมายถึงถุงดำคือถุงที่ใส่ศพใช่ไหม

       

      ดูเหมือนจะไม่ใช่แต่ฉันที่คิดภาพนั้น เพียงแต่ไม่มีใครพูดออกมาเหมือนจอย  จอยหันมามองหน้าเพื่อนๆแวบหนึ่งแล้วถามเหรียญว่า

       

       “จะให้พวกเราทำยังไงล่ะ” แล้วเหรียญก็เลื่อนต่ออย่างรวดเร็ว

       

                       ไม่รู้ว่า เป็นเพราะยังตกใจเรื่องถุงดำหรือเพราะเหรียญเลื่อนเร็วทันที ทำให้นิ้วฉันและปลาหลุดออกจากเหรียญ เหรียญเหวี่ยงไปด้วยความเร็ว ไปยังขอบแผ่นกระดาษและหยุดลง

       

                        พวกฉันตกใจกันใหญ่ รีบท่องคาถาเชิญทันที แต่ไม่ทันทีจะบอกเชิญ เหรียญก็เดินต่อ ทันทีที่ฉันและปลาแตะนิ้วที่เหรียญ ฉันถามว่า เขาใช่ทเนศหรือเปล่า เขาไม่ตอบแต่ยังคงเล่าต่อ

                     

                        เขาต้องการให้พวกเราช่วยไปหาถุงดำซึ่งถูกฝังอยู่ที่วัดๆหนึ่งในจังหวัดสระบุรี พวกเราต่างถามขอรายละเอียดว่าวัดชื่ออะไรและอยู่บริเวณไหน แต่เขาตอบว่าบอกไม่ได้ แม้กระทั่งชื่อพ่อและแม่และนามสกุลของเขา เขาก็ไม่อาจบอกได้

       

                       จอยยังคงโพล่งขึ้นมาอย่างไม่ได้สนใจอะไรอีกเช่นเดิม

       

      “ถ้าไม่บอกแบบนี้เราก็คงช่วยอะไรไม่ได้หรอก”

       

      เท่านั้นเอง เหรียญก็เลื่อนเร็วขึ้นทั้งๆที่เร็วอยู่แล้ว

       

       

       

       

       

      ....เหรียญเลื่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับตัวอักษร 4 ตัวนี้

       

      โกรธ!!’

       

                      พวกเราต่างตกใจ รีบพูดว่าอย่าโกรธจะทำบุญกรวดน้ำไปให้ แต่เขาไม่ต้องการ แม้จะบอกว่าจะทำสังฆทานไปให้เขาก็ไม่เอา

       

                      ไม่รู้ควรหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่ต้องมานั่งกล่อมผีตอนเกือบตีหนึ่ง แต่เวลานั้นความกลัวแผ่ซ่านเข้ามาในจิตใจพวกเราทุกคนจนหัวเราะกันไม่ออก เวลาผ่านไปนานพอควร เหรียญจึงยอมเลื่อนช้าลง ราวกับเพิ่งนึกได้ว่าต้องการอะไรนอกจากบอกคำว่าโกรธ

                     เหงาถูกแทนที่ ก่อนจะเลี่อนอธิบายคำนี้ว่า เขาไม่โกรธก็ได้ แต่ขอคนไปอยู่ด้วย!!

       

                       เท่านั้นวงแทบแตก

       

                     จอยรีบพูดขึ้นมาก่อนว่า จะเอาใครคนเล่นหรือคนที่ดู เขาบอกจะเอาคนที่เล่น นั่นก็มีแต่ฉันกับปลา จอยถามต่อว่าแล้วจะเอาใครบอกพยัญชนะตัวต้นของชื่อเล่นมา เหรียญค่อยๆเลื่อนไปยัง ""

       

                  ฉันแอบลอบถอนหายใจ แม้จะดูแอบชั่วไปนิด แต่เวลานั้นขอแค่ให้เรื่องพ้นตัวเป็นพอ แต่ดูเหมือนเหรียญจะรู้ความคิด จึงวกกลับมา "ทุกคนพูดพร้อมกันว่า อ้อมเหรอ!!  ซึ่งก็คือฉันเอง!!

       

                       ฉันหน้าเสียแทบร้องไห้ จอยเริ่มกล่อมเหรียญต่อบอกว่า

       

      "อ้อมมีพ่อมีแม่ถ้าเอาเขาไปแล้วไม่สงสารพ่อแม่เขาเหรอ คุณเองก็เคยเห็นเคยรู้ว่าการที่เห็นคนที่เรารักมองเราจากไปเป็นยังไง แล้ว สุดท้ายอ้อมต้องมีห่วงเหมือนคุณ"

       

                       หลังจากกล่อมไปนานมากในความรู้สึกฉัน เหรียญดูสงบลง และยอมรับของที่จะทำสังฆทานและทำบุญไปให้ เท่านั้น ฉันและปลารีบเคาะอัญเชิญวิญญาณในเหรียญออกทันที ด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใน จากนั้นจึงแยกย้ายกันไปนอน ซึ่งเป็นเวลาเกือบตีสาม

       

                      แม้จะล้มตัวลงนอนแต่ฉันกลับนอนไม่หลับ สักพักหัวใจฉันพลันตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ขนตามตัวพร้อมใจกันลุกเกรียว เมื่อได้ยินเสียงเดินเป็นจังหวะตรงทางเดินแคบ ๆระหว่างเท้าฉันและเพื่อนฝั่งตรงข้าม

       

      สุนัขด้านนอกพร้อมใจกันหอนรับเป็นทอด ๆ โดยมี อะไรบางอย่าง เดินวนกลับไปกลับมา จนกระทั่งรู้สึกเหมือนเขาหยุดยืนดูตรงปลายเท้าฉัน!!

       

                      ฉันรีบสวดมนตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ วันรุ่งขึ้นเหตุการณ์สยองยังดำเนินต่อไป เปิ้ลที่นอนเร็วกว่าเพื่อนตาแดงเหมือนอดนอน

       

                      เธอรีบมาถามว่าเมื่อคืนเป็นไงบ้าง เพราะทันทีที่เธอหลับตาล้มตัวลงนอน เธอเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาเหมือนนายจันหนวดเขี้ยวยืนกลางวงผีเหรียญของพวกเรา

       

                      แต่พอลืมตาก็เห็นแต่วงพวกเราที่นั่งเล่นเฉยๆ พอหลับตาก็เห็นอีกว่าเขายังยืนอยู่ สักพัก ก็เป็นผู้หญิงแก่ และเด็ก มีผู้ชายหนุ่มใส่เสื้อสีฟ้ามายืนข้างๆกลุ่มแล้วจู่ๆก็เดินเข้าไปในกลางกลุ่ม

       

                     พวกแรกที่ไปยืนกลางกลุ่มก็ยังคงอยู่แถวนั้นเหมือนเป็นคนมุงดูแต่ใบหน้ากลับไม่ได้ก้มมองกระดาษเหมือนพวกเรา แต่ทอดสายตามองแบบที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่ากำลังมองอะไรอยู่

       

                 นอกจากนี้ยังมีคนเดินตลอดคืน ฉันฟังได้แค่นั้นก็ขนลุกซู่เพราะเธอไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่คำบอกเล่าของเธอราวกับเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน!!

       

       

                 จากนั้น จอยก็ตื่นขึ้นมา พวกเราเดินไปหาเธอที่กำลังมีท่าทางตกใจกวาดสายตามองทั่ว เธอเล่าว่าเธอฝันเห็นผู้ชายผิวขาวหน้าตาดี ใส่เสื้อสีฟ้ายืนยิ้มให้เธอ เธอยิ้มตอบแต่แล้วจู่ๆเขาก็บอกเธอว่าเขาชื่อทเนศ

       

                 เธอจำได้ว่าเธอตกใจกลัวมาก คำว่า 'จะพาไปอยู่ด้วยผุดขึ้นมาในหัว สักพักเธอก็สะดุ้งตื่น ตอนนี้เหลือปลาที่ยังคงนอนหลับหน้าเครียด จนใครคนหนึ่งในพวกเราเดินไปปลุกเพราะต้องเก็บที่นอน

       

                ปลาตื่นขึ้นมาหน้าซีดพร้อมเล่าว่า เธอฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่ศาลไทยสวยมาก เขาพยายามเรียกเธอให้ข้ามลำธารไปหาเขา แต่พอเธอถามว่าเขาชื่ออะไรเขาบอกเขาชื่อทเนศ ทำให้ปลากลัวและไม่กล้าข้ามไปหา

       

                 เขาพยายามกวักมือเรียกและค่อยๆเดินลุยแม่น้ำเข้ามาหา แต่ปลาตื่นก่อนที่เขาจะข้ามมาถึง และที่สำคัญ เขาใส่เสื้อสีฟ้าอ่อนเหมือนที่เปิ้ลบอกก่อนหน้านี้!!

       

                 ฉันได้แต่สงสัยว่าทำไมเขาไม่มาเข้าฝันฉันหรืออาจเป็นเพราะฉันห้อยพระ แต่คนอื่นไม่ได้ห้อย เย็นวันนั้นทันทีที่ถึงกรุงเทพพวกเรารีบไปซื้อสังฆทานเพื่อเตรียมทำบุญให้เขาทันที

       

                     นับจากวันนั้น ฉันไม่คิดจะกลับไปเล่นผีเหรียญอีกเลย!! 

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×