ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Are you sure? | KAIHUN ft.exo | #จริงเหรอวะจงอิน |

    ลำดับตอนที่ #3 : 02 | ก็แค่หน้าตาน่ารักทั่วไป

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 825
      11
      10 ต.ค. 58



               ได้ข่าวมาว่าพวกน้องปีหนึ่งได้ทำการคัดเลือกรุ่นน้องที่จะร่วมกระกวดเดือนคณะแล้วและต้องมีการคัดเลือกแต่สาขาก่อนถึงจะได้ไปประกวดในระดับคณะ เป็นงานเล็กๆ ที่รุ่นพี่แต่ละชั้นปีจะไปรวมตัวกันดูน้องๆ แต่ละสาขา มีตอบคำถามเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ โชว์ความสามารถพิเศษ แล้วก็ยืนหน้าตาดี


                แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้พวกเขาไม่พลาด ไปนั่งกองกันอยู่ที่หอประชุมก่อนเวลาคัดเลือกถึง 10 นาที กลุ่มชาย 4 คนยืนอยู่ด้านหลังสุดของหอประชุมในขณะที่คนอื่นๆ ทยอยกันเดินเข้ามา แต่เด็กๆ ปี  1 นั่งรวมกันอยู่ก่อนแล้ว


                ห้องประชุมไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายนัก นักศึกษาในคณะศิลปกรรมนี้ก็ไม่เยอะเช่นกัน เสียงคุยจ้อกแจ้กค่อยลงเมื่อแสงไฟที่เวทีเตี้ยด้านหน้าหรี่ลง จงแดหยุดคุยกับเพื่อนในรุ่นและหันมาตั้งใจดูแบคฮยอนที่เป็นพิธีกรวันนี้


                แบคฮยอนอยู่รุ่นเดียวกับพวกเขาและมักจะได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรจำเป็น ไม่ว่างานไหนมันก็ต้องออกไปยืนพูดอยู่หน้าเวทีตลอด และคนก็มักจะฟังมันเสมอ พวกเขาก็สนิทกับแบคฮยอนในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นที่เล่นหัวกันได้แต่ไม่ได้ถึงขนาดที่ว่าต้องตัวติดเป็นกลุ่มเดียวกันแล้วไปด้วยกันทุกที่


                น้องๆ ในแต่ละสาขาเดินทยอยกันออกมาตามเสียงเรียกชื่อของแบคฮยอน จงอินมองตรงไปที่หน้าเวทีที่เด็กปีหนึ่งหน้าตาดีทยอยเดินออกมาพร้อมกับชุดนักศึกษาเรียบร้อย คนของแต่ละสาขาล้วนส่งเสียงให้กับเด็กในคณะของตัวเอง


                แน่นอนว่าทันทีที่น้องโชรงสาขาการละคอนเดินออกมาซี่โครงเขาก็แทบหักเพราะแรงกระทุ้งจากเพื่อนรอบตัว ทั้งเสียงเป่าปากของพวกมัน ข้อศอก สายตาล้อของพวกมันอีก คิมจงอินค่อนข้างที่จะเอือมระอากับการพยายามจะอธิบายแล้วว่าไม่ได้คิดจะจีบน้องเขามาเป็นแฟน แค่เห็นว่าน้องเขาน่ารักดีก็แค่นั้น แต่ก็ดูเหมือนไอ้เพื่อนพวกนี้จะไม่เชื่อเขาเลยสักนิด


                “ไอ้พวกเหี้ย กูเจ็บ”          


                “อะไรวะ มึงชอบน้องคนนี้เหรอเพื่อนในคณะอีกคนหันมาถามพร้อมกับชี้ตรงไปที่น้องโชรงที่กำลังเดินไปที่ข้างเวที


                “ไอ้จงอินมองตั้งแต่วันแรกแล้วจงแดหันมาพูดกระซิบกระซาบ จนจงอินทนไม่ไหวต้องดันหน้าไอ้เพื่อนตัวดีออกไปไกลๆ ก่อนจะแก้ต่างให้ตัวเองน้องก็น่ารักดี แต่ก็ไม่ได้กะจีบ


                “ร๋อ?”


                “จ้ะ พวกมึงจะมาจับผิดอะไรกูนักหนา ทีพวกมึงม่อน้องกูยังไม่ว่าสักคำ


                “ก็อยากรู้อ่ะ เห็นมึงเงียบๆ นึกว่าจะลักไก่ลู่หานหันมาเสริมทัพ กูเกลียดเวลาพวกมึงสามัคคีเรื่องของกูมาก


                “กูยังไม่อยากมีแฟนไง พวกมึงนี่ก็เสือก กลัวแต่กูจะไม่มีเมีย เดี๋ยวถ้าอยากมีจะหาเอง


                “อ้าว นึกว่าหาเองไม่ได้ชานยอลหันมาเสริมแล้วหันไปตีมือกับจงแด และลู่หานที่หัวเราะถูกใจอยู่ข้างๆ ไม่เว้นแม้แต่ไอ้เพื่อนในคณะอีกคนที่เข้ามาร่วมบทสนทนา


                “จ้ะ พี่ชานยอลเดือนเก่า


                ชานยอลหัวเราะ แต่หลังจากนั้นเรื่องของเขาก็ถูกลืมไปเมื่อเสียงของแบคฮยอนประกาศชื่อน้องเซฮุนที่มาจากสาขาออกแบบสื่อสารเดินออกมา มันน่าประหลาดใจมากที่เสียงเชียร์มันจะดังขนาดนี้ แน่นอนว่ากลุ่มเพื่อนเขาด้วยแหละที่เสียงดังเกินกว่าเหตุ


                จงอินเห็นเด็กขี้อายที่สนามบอลในวันนั้นอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อย ไทด์สีแดงถูกผูกถูกระเบียบเป๊ะ ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกหวีจนเรียบ แก้มกลายเป็นสีแดง รอยยิ้มของน้องดูเป็นรอยยิ้มเขินๆ มากกว่าที่จะเป็นรอยยิ้มการค้า ริมฝีปากมันวาวสะท้อนแสงไฟจนเป็นประกาย น่าจะเป็นเพราะลิปกลอสที่ถูกรุ่นพี่จับทา จนจงอินเริ่มสับสนว่านี่น้องมาประกวดเดือนหรือดาว


                โอเซฮุนเดินเป็นจังหวะมาตรงกลางลาน ก่อนที่จะเอามือไขว้หลังแล้วยิ้มให้กล้อง ก่อนที่จะยกกำปั้นขึ้นบังปากกลั้นยิ้มแล้วรีบเอาลงเมื่อคุมสติได้ ก่อนที่จะก้มหน้างุดเดินกลับไป


                คิมจงอินไม่ได้รู้ตัวว่าเขาเอาแต่มองน้องเดือนของสาขาออกแบบสื่อสารจนไม่ได้มองน้องผู้หญิงที่อยู่ข้างกัน เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าจำหน้าน้องผู้หญิงไม่ได้เลยก็ตอนที่พวกเพื่อนของเขาเริ่มคุยกันว่าน้องคนไหนจะชนะ


                “มึงว่าคนไหนจะเป็นดาว กูว่าน้องโชรงของไอ้จงอินก็เด่นมาก” <- จงแด


                “กูว่าน้องออกแบบสื่อสารก็สวยนะ” <- ชานยอล


                “เออกูก็เห็นด้วยกับมึงชานยอล แต่กูว่าของสาขาเราก็ดีอ่ะ ไอ้เหี้ย กูให้ทุกคนชนะ.. ชนะใจกู” <- ลู่หาน


                “ไอ้เหี้ยลู่หานไม่เคยจะคุยรู้เรื่องเลยจงอินพูดเปรยใส่เพื่อนก่อนที่เขาจะโดนลู่หานสวนกลับมาว่าแล้วมึงว่าใคร? เห็นนั่งดูเงียบๆ นี่คิดว่าใครครับ? จากการวิเคราะห์


                จงอินนิ่งไปพักหนึ่ง เขาจำหน้าใครแทบไม่ได้ด้วยซ้ำเลยเลือกที่ตอบส่งๆ ไปว่าคิดเหมือนไอ้จงแด ซึ่งก็โดนแซวเหมือนเดิมเพราะพวกมันคิดว่าเขาเชียร์น้องโชรง


                .... คือ..กูจำได้คนเดียว


                “แต่จากประสบการณ์กูนะ ยังไงน้องเซฮุนก็ไม่น่าจะได้เดือน น้องน่ารักไป กูว่าซอกจินได้ชานยอลพูดช้าๆ และก็คงจะเป็นแบบนั้น น้องดูขี้อายมากกว่าที่พวกเขาคิด ในตอนที่แสดงความสามารถ ส่วนใหญ่จะเป็นการร้องเพลง แร็ป เต้น แต่ของน้องเซฮุนน้องกลับบอกว่า


                “ผม.. ร้องเพลงได้ฮะ


                “อ๋าา งั้นน้องร้องเลยครับ เพื่อนๆ รอฟังอยู่ เอาสักท่อนสองท่อนพอหอมปากหอมคอ อย่าให้ต้องน้อยหน้าแบคฮยอนพูดเจือยแจ้วในขณะที่น้องเซฮุนดูจะหน้าซีดลงถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง


                เกิดเด็ทแอร์อยู่หลายนาทีจนคนรอบๆ เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง แบคฮยอนตบหลังน้องเบาๆ ก่อนที่เซฮุนจะเงยหน้าขึ้นมามองล่อกแล่กพลางหันไปมองหน้าที่สาขาตัวเองที่ข้างเวลาที่กลืนน้ำลายลงคอแล้วเริ่มร้องเพลง


                ทุกคนในหอประชุมนิ่งสนิทจากเสียงของน้อง ไม่คิดว่าจะขนาดนี้

     


                อย่าบอกว่าเขาใจร้ายเลย


                แต่แบบ..

               


                เสียงเป็ดร้องยังเพราะกว่า

     


                “ขอเสียงปรบมือให้น้องเซฮุนจากสาขาออกแบบสื่อสารหน่อยครับ โอโห ผมนี้พูดไม่ถูกเลยแบคฮยอนพูดออกไมค์เสียงดังและหัวเราะแฮะๆ อย่างที่มันชอบทำ เป็นกู..กูก็ไม่พูดไม่ออกแบคฮยอน... หลังจากที่น้องเซฮุนร้อง(?)จบ มีเสียงปรบมือดังไปทั้งหอประชุมไหนจะเสียงแซวนั่นอีก ใบหน้าขาวเปลี่ยนเป็นแดงจัดจนลามไปถึงหู ก่อนจะหันหลังแล้วเดินหายไปหลังเวทีด้วยความรวดเร็ว


                “มึงว่า.. ไอ้พวกพี่เลี้ยงกล้าปล่อยมาได้ไงชานยอลพูดขึ้นเหมือนสติมันจะหลุดนิดหน่อย


                “ถึงน้องจะร้องเหี้ย แต่น้องก็น่ารักนะ” <- ลู่ห่าน


                “น้องทำอะไรก็น่ารัก เมื่อกี๊จะถือว่ากูไม่ได้ยิน” <- จงแด


                “เป็ดร้องยังเพราะกว่า.. โอ๊ย!อีกแล้ว กูโดนอีกแล้ว กูผิดอะไร ออกความเห็นไม่ได้เลย หัวกูบุบจนกลายเป็นรอยมือพวกมึงหมดแล้วมั้ง


                “อย่าว่าน้องไอ้เหี้ย น้องน่ารัก


                “น้องน่ารักแล้วเกี่ยวเหี้ยไรกับร้องเพลงไม่เป็น


                “ไม่ครับจงอิน ผมไม่ยอมรับความคิดเห็นของคุณในเรื่องนี้ลู่หานหันมาโบกมือพลางเม้มปากแน่น มึงจะสปอยด์น้องจนน่าหมั่นไส้เกินไปละสัส


                ในตอนท้ายพวกเขาได้รับดอกกุหลายมาถือกันคนละดอก เป็นการโหวตให้น้องๆ ว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นเดือนและดาวประจำคณะ ถึงพวกเขาจะมีโอกาสได้โหวต แต่ก็คิดเป็นคะแนนเพียงสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น


                แน่นอนว่ากลุ่มชายฉกรรณ์เดินไปหาใคร


                จงแดและลู่ห่านเบียดฝูงคนเข้าไปมอบดอกไม้ให้น้องเซฮุน จากที่เขายืนมองอยู่นอกวงแล้วคิดว่าน้องคงจำไอ้สองตัวนั่นได้เพราะเจอกันที่สนามบอล เด็กนั่นยิ้มกว้างจนตาหยี พูดคุยกับเพื่อนเขาไม่กี่ประโยคและรับดอกไม้ขึ้นไป จากนั้นก็รับดอกไม้จากคนอื่นๆ ที่เบียดกันเข้าไปให้กำลังใจจนดอกไม้เกือบเต็มอ้อมกอดอยู่แล้ว


                “มึงไม่เข้าไปเหรอหันไปถามชานยอลที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา


                “กูเป็นเดือนเก่าอ่ะไม่มีสิทธิ์โหวต มึงไปดิชานยอลยื่นดอกไม้ของมันมาให้เขาด้วย จงอินรับมาแล้วเดินไปข้างหน้า อ่าห์เขาควรจะเอาให้ใครล่ะทีนี้


                ควรจะให้น้องโชรงที่เขาจำหน้าได้คนเดียวหรือเอาให้น้องเซฮุนที่ร้องเพลงเสียงเป็ดแต่หน้าตาน่ารักดี ยังไงน้องก็คงไม่ได้ตำแหน่งอยู่แล้ว? แต่ถ้าเขาเอาไปให้น้องโชรงให้พวกเพื่อนนั่นมันต้องแซวเสียงดังแน่ๆ แต่ถ้าเอาให้น้องเซฮุนกูก็โดนแซวเหมือนกัน


               

                กูแดกกุหลาบแทนได้มั้ยถ้างั้น






               ไอ้เหี้ย น้องเซฮุนกูเลยไม่ได้เป็นเดือนเลย เพราะมึงแน่นอนจงอิน ถ้ามึงไม่เอาดอกไม้ไปให้ไอ้น้องซอกจินนะ น้องได้แล้ว ไอ้ผีลู่หานบ่นมาตั้งแต่คืนวันที่ประกาศผลประกวดดาวเดือน มึงจะฝังใจอะไรนักหนากูอยากรู้

     

                “ยังไงน้องก็ไม่ได้เป็นอยู่แล้วไอ้เหี้ย ดูก็รู้ น้องซอกจินเต้นบีบอยได้ ไม่ตื่นคนยังดีกว่าน้องเซฮุน ได้รางวัลขวัญใจช่างภาพไปก็ดีแล้วจงอินร่ายยาวรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ซึ่งดูไอ้ลู่หานจะเอาน้องเขาเป็นเดือนให้ได้

     

                จงอินเองก็แอบคิดว่าน้องเซฮุนเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นเดือนคณะหรอก น้องดูโล่งอกมากตอนที่ไม่มีชื่อตัวเองติดรอบ 3 คนสุดท้าย แต่ได้รางวัลขวัญใจช่างภาพแทน

     

                แต่น้องเขาดีนะมึง!”

               

                “กูว่านะ ที่น้องเซฮุนไม่ได้เป็นเดือนเพราะน้องอ่ะจะสวยกว่าดาวจงแดพูดขำๆ ซึ่งลู่หานก็พยักหน้าตาม

     

                “เออจริงเสียงหัวเราะดังไปทั่วบริเวนจนคนแถวนั้นหันมามองโต๊ะพวกเขาเป็นตาเดียว

     

                “อีกอย่างนะ กูว่าน้องเขาไม่ได้อยากเป็นเดือนหรอก น้องเขาแม่งเขินขนาดนั้นตอนร้องเพลง แถมยังดูโล่งอกอีกอ่ะตอนที่ไม่โดนเรียกชื่อ 3 คนสุดท้าย

     

                “เหรอวะ? มึงเห็นเหรอ

     

                “เออ กูก็อยู่กับพวกมึง

     

                “แต่กูไม่เห็นนะ กูมัวแต่มองน้องสาขาตัวเองจงแดพูด

     

                “…”

     

                “เออกูก็มองน้องเยริลู่หานเสริม

     

                “…”

     

                “กูก็มัวแต่วุ่นวายกับไอ้พวกรุ่นพี่... ไหนบอกว่าไม่สนใจน้องเขา..ชานยอลพูดเสริมเป็นคนสุดท้าย พวกมันทั้งหมดหันมาจ้องเขาเป็นตาเดียว แค่นี้!!! แค่นี้กูก็โดนตั้งข้อหาได้!!!

     

                “… แล้วไงวะ กูก็มองหมดแหละ

     

                “อ่อเหรอจงแดโบกมือปัดๆ ใส่เขา ก่อนจะหันไปก้มหน้าสนใจสมาร์ทโฟนในมือตัวเองต่อ ส่วนจงอินเลือกที่จะหลบสายตาเพื่อนตัวเองแล้วเล่นเกมในโทรศัพท์แทน

     

                “วันนี้พวกมึงเตะบอลมั้ย กูต้องไปช่วยงานในสโม เลิกแล้วกูจะไปหาชานยอลทำท่าจะลุกขึ้น ลู่หานและเขาพยักหน้า แต่จงแดบอกว่าจะไปนั่งเล่นเฉยๆ ไม่ได้ลงเตะ กลายเป็นว่าช่วงนี้เขาต้องไปเตะบอลบ่อยขึ้นเพื่อนเพราะไอ้ลู่หานมีควิซ เผลอๆ จะโดนจับแข่งจริงๆ

     

     

     

     


     

     

     

                ชานยอลทำงานที่สโมบ้างเป็นครั้งคราว เกี่ยวกับงานประชาสัมพันธ์ คิมจงอินก็เพิ่งคิดได้ว่านี่มันช่วงเพิ่งเปิดเทอม กิจกรรมก็มากมายแถมไอ้ชานยอลผู้ซึ่งเคยเป็นเดือนคณะเก่าก็ต้องโดนลากไปช่วยงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ แตกต่างจากพวกเขาที่ไม่ค่อยมีใครมายุ่งเท่าไหร่ เพราะแทนที่จะไปช่วยกลายเป็นทำให้งานช้าลงกว่าเดิม

     

                ในตอนเย็นที่สนามบอล กว่าชานยอลจะมาหาพวกเขาอย่างที่บอกก็สามทุ่ม แต่พวกเขาก็ยังเตะบอลกันไม่เสร็จอยู่ดี เวลาล่วงเลยไปจนถึงห้าทุ่ม เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้พวกนี้จะมานั่งเฝ้าให้เสียเวลาทำไม ถ้าเป็นเขาป่านนี้กลับไปนอนแล้ว

     

                เนี่ย น้องเซฮุนก็ไปช่วยงานสโมชานยอลพูดช้าๆ ในขณะที่กดสมาร์ทโฟนในมือไปด้วย ลู่หานพยักหน้ารับรู้ซึ่งมันก็น่าจะบอกจงแดไปแล้วจงแดเลยนอนนิ่งๆ อยู่บนแสตนด์แทน

     

                ละเป็นไง ทำไรมั่งลู่หานทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ กับชานยอล แล้วยื่นขวดน้ำไปให้ชานยอลเปิดฝาให้เพราะมันเป็นมนุษย์ผู้เปิดฝาขวดน้ำเองไม่ได้

     

                ก็เรื่อยๆ อย่างที่เคยทำ น้องเซฮุนถูกเรียกมาช่วยเรื่องงานประชาสัมพันธ์เหมือนกูนี่แหละ ทำแทนน้องเดือนที่ไปเก็บตัวประกวดงานใหญ่อ่ะ

     

                “อ๋อ..

     

                “เออ พี่ทงเฮมันชวนไปกินเหล้า ไปมั้ย?” ชานยอลถามซึ่งก็คงไม่ต้องถามจงแดรายนั้นคงไปอยู่แล้ว

     

                “วันนี้?”

     

                เออ

     

                “ไปก็ได้ ไม่ได้เจอพี่มันนานแล้วชานยอลพยักหน้าแล้วหันมาหาเขา

     

                ก็ได้ ไปทั้งงี้นะ กูไปแปปเดียว

     

                แล้วแต่มึงเถอะ

     

     

     


     

     

                        หลังจากนั่งพักกันจนพอใจ พวกเขาทั้งสี่ก็ไปที่ร้านเหล้าหลังมอร้านประจำ มันเป็นร้านเปิดโล่ง ชานยอลเดินนำเข้าไปก่อนเพราะมันเป็นคนนัดกับทงเฮเอาไว้ จงแดชี้ไปที่โต๊ะเกือบจะกลางร้านที่มีมือโบกอยู่ พวกเขามองดีๆ ก็เห็นว่าเป็นรุ่นพี่คนสนิท หลังจากที่ฝ่าฝูงคนจนเดินเข้าไปถึงพวกเขาทั้งหมดต่างก็ทักทายกับพี่ทงเฮและรุ่นพี่อีกสองคนข้างๆ กัน


                ทงเฮเรียนอยู่ปีสี่และสนิทกับชานยอล พวกเขาทยอยเข้าไปทักทายและจัดแจงที่นั่ง รินเครื่องดื่มแอมกอฮอล์แจกจ่ายกันคนละแก้วโดยจงแดเป็นคนรับหน้าที่นั้น


                ไหนว่าจะจีบน้องปีหนึ่งทำไมไม่โผล่หัวไปที่คณะเลยล่ะลู่หานเปิดประเด็นหลังจากที่ทุกคนนั่งได้เข้าที่เข้าทางและทักทายกันเสร็จหมดแล้ว ทงเฮสำลักเบียร์เล็กน้อยส่วนชานยอลกับจงแดก็เอาหัวเราะ เขาก็เช่นกัน ก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าพี่ทงเฮมันจะจีบใคร


                ปีสี่มีโปรเจ็คมั้ยล่ะครับ พวกกูก็ต้องหายไปเตรียมตัวนิดนึง แต่ข่าวสารก็ไม่ได้ขาด


                “แบบนี้แสดงว่าดำเนินการแล้ว?” หลังจากจบประโยคของจงแดที่เอ่ยถามขัดขึ้นมากลางประโยค ทงเฮไหวไหล่นิดหน่อยก่อนจะเลี่ยงไปจิ๊บแก้วเบียร์เพิ่มอีกอึกสองอึก จนชานยอลทนไม่ไหวพูดขึ้นมาแทนว่า แอดไลน์น้องไปตั้งแต่วันแรกที่จงแดแม่งส่งมาให้กูแล้ว ขูดคอกูจะเอาให้ได้ ไม่ยอมไปขอเอง ก๊ากกาก


                “กับพี่มึงพูดงี้เหรอชานยอลทงเฮพูดแทรกเสียงเพลงและเสียงล้อของเด็กรุ่นน้องและเพื่อนของตัวเอง


                “กล้าหือกับผมเหรอพี่ ระวังตกข่าวเหอะ ผมนี่สาระอับเดตเลยนะทำงานสโมกับน้องอยู่ทุกวัน


                “เห้ย เรื่องนี้มึงไม่ได้บอก


                “ก็แค่ทำงานสโมป่ะวะ พี่ก็คุยกับน้องอยู่ไม่ใช่ไง๊


                “ก็น้องไม่ได้เล่าให้ฟังป่ะวะ


                “น้องยอมคุยกับพี่ด้วยเหรอ? น้องน่ารักป่ะ ไหนขออ่านไลน์หน่อย หยอดมุกเก่ามากๆ ระวังน้องเกิดไม่ทันลู่หานแบมือขอโทรศัพท์แต่ทงเฮกลับปัดมือของลู่หานทิ้ง ก่อนจะกลับมาพูดสีหน้าจริงจัง โคตร น่า รัก เลย แต่นะแต่..ชายฉกรรจ์ทั้ง 7 คนนิ่งเงียบเพื่อที่จะรอฟังคำถัดไปจากปากของชายหนุ่มร่างเล็กที่แม่งยกเบียร์ขึ้นจิบพร้อกับถอนหายใจ พี่มึงจะลีลาอะไรนักหนากูลุ้น


                มึงพูดสักทีเถอะพี่


                “กูว่าจีบยาก


                มึงคิดว่าอย่างน้องนี่ง่ายเหรอวะเพื่อนพี่ทงเฮถามขึ้นมา ทงเฮส่ายหัวนิดหน่อย ไม่เว้ย คือกูไม่ได้ว่าน้องง่าย แต่น้องแบบ.. ขีดเส้นชัดมากว่ากูคือรุ่นพี่นะ กูหยอด กูชวนไปเที่ยว กูชวนคุยทุกวันน้องแม่งตอบมาแต่ พี่ทงเฮใจดีจัง ไม่เป็นไรครับผมเกรงใจ’ ‘พี่ทงเฮตลกนะฮะ’ ‘พี่ทงเฮไปนอนเถอะครับผมต้องทำงานก่อนล่าสุดกูเจอ พี่ทงเฮว่างเหรอฮะ เห็นทักมาทั้งวันเลยนี่กูโดนด่าแล้วใช่ป่ะ?”


                “พี่มึง.. กูว่าน้องรำคาญมึงนะ” <- ลู่หาน


                “ไม่น่าเลยพี่กู” <- จงแด


                เสียดายเวลามั่งมั้ยพี่” <- ชานยอล


                ยังจะถามอีกเหรอว่าโดนด่ามั้ย ถ้าเป็นกูกูไม่กล้าทักน้องเขาไปอีกแล้วนะเว้ย” <- ผมเอง


                ก็น้องแม่งด่าเหมือนไม่ด่าอ่ะ


                “น้องเขาเกรงใจมึงไงทุกคนพูดพร้อมกันโดยพร้อมเพรียง แต่หลังจากที่ตอกย้ำกันจนพอใจก็มานั่งปลอบพี่ชายคนสนิทกันหมือนเดิม บอกแม่งไปว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก รำคาญมากๆ เดี๋ยวก็คงชินไปเอง


                แล้วมึงอ่ะจงอิน ได้ข่าวว่าจะจีบน้องโชรงป่ะไม่ต้องสงสัยเลยว่าพี่มันรู้ได้ยังไง ชานยอลปากสว่างแน่นอน


                ไม่เว้ยพี่ ไม่ได้กะจะจีบ มองเฉยๆ


                “เห่ย ชอบก็จีบเลยระวังหมาจะคาบไปแดก เอาแต่มองอยู่ได้


                “มึงจะไม่จีบน้องจริงๆ ใช่มั้ยวะ เห็นมึงพูดย้ำหลายรอบละ แต่มึงบอกว่ามึงชอบน้องเขานี่หว่าลู่หานวกกลับเข้าเรื่องนี้อีกรอบ จะบังคับให้กูจีบน้องเขาให้ได้จริงๆ


                จริงๆ เว้ย ชอบแบบชอบมองกับชอบแบบอยากได้มาเป็นแฟนแม่งไม่เหมือนกันป่ะวะ หรือพวกมึงไม่คิดงั้น


                “ถ้าชอบมองก็ต้องอยากได้เขามาเป็นแฟนจะได้มองนานๆ ไม่ใช่เหรอวะจงแดพูด


                ไม่อ่ะ มองก็แค่มองป่ะวะ ไม่ได้รู้สึกอยากได้มาเป็นแฟน


                “แล้วเป็นแฟนนี่แบบไหน ยังไม่เคยเห็นมึงจีบใคร.. หรือมึงจีบแต่เงียบวะไม่บอกพวกกู” <- ชานยอล


                มึงมีความลับกับเพื่อนกับฝูงเหรอ” <- ลู่หาน


                มีเหรอเรื่องที่พวกมึงไม่รู้อ่ะจงอินอยากถอนหายใจใส่หน้าเพื่อนที่ละคนเรียงตัว พวกมันรู้ทุกเรื่องของเขา ไม่ต้องบอกก็รู้ ปีศาจมากๆ รอบก่อนแค่คิดจะจีบน้องปีสองพวกมันก็แซวจนนึกว่าจีบไปแล้ว แซวจนน้องเขาหนี ชีวิตกูนี่..


                ก็เผื่อมีหลุดรอดไรงี้จงแดพูด


                กูจะตามติดมึงไปทั้งชีวิตนี่แหละ ไม่ต้องห่วงนะเพื่อนรักลู่หานพูดแบบนั้นแล้วหันมายิ้มจนหน้ายับไปทั้งหน้า เขาใช้มือผลักหน้าเพื่อนสนิทของตัวเองออกแล้วเปลี่ยนเรื่องไปคุยกับพี่ทงเฮเรื่องโปรเจ็คก่อนที่ชีวิตจะไม่ปลอดภัยไปมากกว่านี้

     

     


     

     

                วันนี้เขาต้องไปหามุนกยูที่สนามเล็กเพื่อที่จะเอาหนังสือการ์ตูนที่ยืมมาตั้งแต่เดือนก่อนไปคืนมัน และแน่นอนว่าเพื่อนชาวสมาชิกก็ไปด้วย(ยกเว้นชานยอล) เพราะน้องเดือนในใจพวกมันรับน้องอยู่ที่นั่น


                พวกเขาเดินไปยืนอยู่หลังแถวที่น้องๆ นั่งแยกกันเป็นแถวสั้นๆ 4 แถว ก่อนที่พวกรุ่นน้องที่นั่งว่างๆ ไม่ได้ทำอะไรจะกวักมือเรียกให้เขาเข้าไปหา ซึ่งมุนกยูก็เป็นหนึ่งในนั้น


                หลังจากคืนหนังสือแล้วเราก็นั่งคุยกับรุ่นน้องที่ว่างงานกันเล่นๆ พวกเขาไม่ได้รีบ และพวกน้องนี่ก็ว่าง แน่นอนว่าจงแด และลู่หานอยากจะแอบส่องเด็กไปด้วยเรื่อยๆ


                เออ พวกพี่ชอบน้องเป็ดใช่มั้ยมุนกยูชี้นิ้วถามหน้าทะเล้น แต่พวกเขาทั้งสามกลับทำหน้างงว่าเป็ดอะไรของมันวะจนมุนกยูต้องหันไปชี้นิ้วใส่น้องเดือนคณะเรืองแสงได้ที่นั่งอยู่คนที่สองของแถวริม


                ทำไมเรียกน้องเป็ดรอบนี้คิมจงอินเป็นคนถาม กูไม่รู้จริงๆ ว่างุ่ยคืออะไร แล้วมันงุ่ยยังไง


                พี่แม่ง.. เวลาเห็นรูปน้องพวกพี่เห็นรูปน้องทำปากเป็ดป่ะ ปากบึนๆ แบบนี้อ่ะมุนกยูพยายามที่จะทำให้ดูแต่น่าหมั่นไส้มากกว่า


                อ่อ กูเคยเห็น แต่เป็นรูปหลุดนะจงแดพูด


                เออนั่นแหละพี่ ตอนน้องต้องออกมาเต้นข้างหน้าแม่งชอบทำ ทำจนคนอื่นทัก เลยโดนเรียกน้องเป็ดไปจนกว่าจะจบรับน้อง


                “เออ ตอนร้องเพลงก็เสียงเหมือนเป็ด โอ๊ย! สัส!” ลู่หานมือวางอันดับหนึ่งในการปกป้องน้องเป็ดไม่ปล่อยให้เขาได้หายใจ ในขณะที่มุนกยูหัวเราะจนตัวสั่น เออจริงพี่ เหมือนจริง


                ในระหว่างกิจกรรมในที่สุดน้องเป็ดก็โดนเกมลงโทษต้องลุกขึ้นกับน้องอีก 2 คน ยังใส่นักศึกษากันอยู่เลยกับป้ายห้อยคอตัวเล็กๆ ที่เขียนว่าน้องเซฮุนแล้วมีรูปเป็ดวาดอยู่ข้างล่าง พอน้องประหม่า ปากเป็ดก็เริ่มมาอย่างที่มุนกยูบอก แต่ไม่ยักน่าหมั่นไส้อย่างที่มันทำให้ดู


                คุยไปคุยมาจนเลิกกิจกรรม จากการที่น้องเซฮุนได้ลุกขึ้นนั้นโดนทำโทษด้วยการโดนแป้งเทลงหัว น่าสงสารเหลือเกินหัวหงอกไปทั้งหัวแต่เพื่อนตัวเล็กของน้องที่จำได้ลางๆ ว่าชื่อคยองซูก็ใช้มือปัดไปหัวเราะไป สุดท้ายพวกเขาเลยชวนกันไปกินข้าวต่อโดยมีมุนกยูไปด้วย เขาเห็นน้องเป็ดกับเพื่อนของน้องเดินไปอีกฝากของสนาม คิดว่าคงกลับบ้านเพราะนี่มันจะสองทุ่มแล้ว


                คิมจงอินไม่ควรมองน้องจนสุดสายตาขนาดนั้นนะครับลู่หานกล่าวเมื่อเห็นว่าเขายังยืนอยู่ที่เดิม


                พวกมึงเดินแล้วก็ควรจะเรียกกูมั้ยล่ะ


                “เรียกหลายรอบแล้ว ห่า แดกข้าวสิ ไม่แดกน้องจงแดพูดแล้วหัวเราะ


                ขี้เกียจเถียง... คิดจงอินคิดแบบนั้น







                เมื่อเรามาถึงร้านข้าว นั่งกันไม่นานชานยอลก็ตามมา พวกจงแดลู่หานเล่าเรื่องที่เขามองน้องเซฮุนจนไกลลิบ แน่นอนว่าเขาได้รับสายตาที่มองมาทางเขาเป็นหนึ่งเดียวกันไม่เว้นแม้แต่ไอ้มุนกยู


                “พวกมึงควรใจเย็นๆ กูไม่จีบน้องหรอก ไลน์ที่พวกมึงให้มากูก็ไม่ได้แอด เช็คก็เช็คไปแล้วป่ะวะ


                คิมจงอินพูดอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อสมาชิกในกลุ่มเพื่อนมองว่าเขาเองนั้นมีอะไรที่ไปวุ่นวายกับน้องที่รักของพวกมันเหลือเกิน แค่เรื่องอีอีมันก็แค่นั้นจริงๆ บอกให้พวกมันไปถามมุนกยูแล้วก็ยังไม่เชื่อ เอาโทรศัพท์ไปเช็คแล้วก็ยังไม่เชื่อ หน้าตากูเชื่อไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอนี่สงสัย


                “ตอนอีอีผมอ่ะไม่ได้คิดอะไร แต่กลัวพี่จะคิดอะไรมุนกยูพูดยิ้มๆ นี่ยังเป็นรุ่นน้องกูอยู่มั้ยถามใจ


                “จริงเหรอครับจงอิน ผมจะเชื่อคุณได้แค่ไหน


                สมาชิกกลุ่มมองเขาเป็นตาเดียว น่ากลัวมาจริง จงอินมองสบตาไปทีละคน เขายอมรับว่าน้องเซฮุนน่ารักบวกกับที่เจอในระยะใกล้และได้มีโอกาสคุยด้วยแล้ว เขาก็ไม่เคยปฎิเสธสักทีว่าน้องไม่น่ารัก


                “เออสิ! ถ้ากูจีบน้องนะ พวกมึงเอาคลิปกูตอนเมาไปประจานได้เลยสมาชิกตบเข่าร่วมกันเสียงดัง ป๊าบ! พร้อมกับชี้หน้าเขาพร้อมกับสายตาที่จ้องเขม็ง


                “จำคำตัวเองไว้นะครับ จงอิน


                ในตอนนี้เขาก็ยังคิดถึงคำพูดตัวเอง น่ารักแบบชอบมอง กับน่ารักแบบอยากได้มาเป็นแฟนมันไม่เหมือนกัน และเขามั่นใจ ว่าสำหรับน้องเซฮุนก็คงเป็นเหมือนอย่างน้องโชรง


     

                   มั้ง?

     

     

     

    Talk : -

    สวัสดีค่ะ . _ .

    เค้าดีใจมากๆ เลยที่มีคนชอบ ฮื่อออ

    จงอินก็ยังคงเป็นจงอินค่ะ ลองนับดูเลยว่าจงอินชมน้องว่าน่ารักในใจไปกี่ครั้งแล้ว

    55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555


    ปูลู. แท็ก #จริงเหรอวะจงอิน คำว่า เหรอ มี สระเอ ด้วยนาจา ><


    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×