คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 02 | ก็แค่หน้าตาน่ารักทั่วไป
ได้ข่าวมาว่าพวกน้องปีหนึ่งได้ทำการคัดเลือกรุ่นน้องที่จะร่วมกระกวดเดือนคณะแล้วและต้องมีการคัดเลือกแต่สาขาก่อนถึงจะได้ไปประกวดในระดับคณะ เป็นงานเล็กๆ ที่รุ่นพี่แต่ละชั้นปีจะไปรวมตัวกันดูน้องๆ แต่ละสาขา มีตอบคำถามเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ โชว์ความสามารถพิเศษ แล้วก็ยืนหน้าตาดี
แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้พวกเขาไม่พลาด
ไปนั่งกองกันอยู่ที่หอประชุมก่อนเวลาคัดเลือกถึง 10 นาที
กลุ่มชาย 4 คนยืนอยู่ด้านหลังสุดของหอประชุมในขณะที่คนอื่นๆ
ทยอยกันเดินเข้ามา แต่เด็กๆ ปี 1 นั่งรวมกันอยู่ก่อนแล้ว
ห้องประชุมไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายนัก
นักศึกษาในคณะศิลปกรรมนี้ก็ไม่เยอะเช่นกัน
เสียงคุยจ้อกแจ้กค่อยลงเมื่อแสงไฟที่เวทีเตี้ยด้านหน้าหรี่ลง
จงแดหยุดคุยกับเพื่อนในรุ่นและหันมาตั้งใจดูแบคฮยอนที่เป็นพิธีกรวันนี้
แบคฮยอนอยู่รุ่นเดียวกับพวกเขาและมักจะได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรจำเป็น
ไม่ว่างานไหนมันก็ต้องออกไปยืนพูดอยู่หน้าเวทีตลอด และคนก็มักจะฟังมันเสมอ
พวกเขาก็สนิทกับแบคฮยอนในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นที่เล่นหัวกันได้แต่ไม่ได้ถึงขนาดที่ว่าต้องตัวติดเป็นกลุ่มเดียวกันแล้วไปด้วยกันทุกที่
น้องๆ ในแต่ละสาขาเดินทยอยกันออกมาตามเสียงเรียกชื่อของแบคฮยอน
จงอินมองตรงไปที่หน้าเวทีที่เด็กปีหนึ่งหน้าตาดีทยอยเดินออกมาพร้อมกับชุดนักศึกษาเรียบร้อย
คนของแต่ละสาขาล้วนส่งเสียงให้กับเด็กในคณะของตัวเอง
แน่นอนว่าทันทีที่น้องโชรงสาขาการละคอนเดินออกมาซี่โครงเขาก็แทบหักเพราะแรงกระทุ้งจากเพื่อนรอบตัว
ทั้งเสียงเป่าปากของพวกมัน ข้อศอก สายตาล้อของพวกมันอีก
คิมจงอินค่อนข้างที่จะเอือมระอากับการพยายามจะอธิบายแล้วว่าไม่ได้คิดจะจีบน้องเขามาเป็นแฟน
แค่เห็นว่าน้องเขาน่ารักดีก็แค่นั้น
แต่ก็ดูเหมือนไอ้เพื่อนพวกนี้จะไม่เชื่อเขาเลยสักนิด
“ไอ้พวกเหี้ย กูเจ็บ”
“อะไรวะ มึงชอบน้องคนนี้เหรอ”
เพื่อนในคณะอีกคนหันมาถามพร้อมกับชี้ตรงไปที่น้องโชรงที่กำลังเดินไปที่ข้างเวที
“ไอ้จงอินมองตั้งแต่วันแรกแล้ว”
จงแดหันมาพูดกระซิบกระซาบ
จนจงอินทนไม่ไหวต้องดันหน้าไอ้เพื่อนตัวดีออกไปไกลๆ ก่อนจะแก้ต่างให้ตัวเอง
“น้องก็น่ารักดี แต่ก็ไม่ได้กะจีบ”
“ร๋อ?”
“จ้ะ
พวกมึงจะมาจับผิดอะไรกูนักหนา ทีพวกมึงม่อน้องกูยังไม่ว่าสักคำ”
“ก็อยากรู้อ่ะ เห็นมึงเงียบๆ
นึกว่าจะลักไก่” ลู่หานหันมาเสริมทัพ
กูเกลียดเวลาพวกมึงสามัคคีเรื่องของกูมาก
“กูยังไม่อยากมีแฟนไง
พวกมึงนี่ก็เสือก กลัวแต่กูจะไม่มีเมีย เดี๋ยวถ้าอยากมีจะหาเอง”
“อ้าว นึกว่าหาเองไม่ได้”
ชานยอลหันมาเสริมแล้วหันไปตีมือกับจงแด
และลู่หานที่หัวเราะถูกใจอยู่ข้างๆ
ไม่เว้นแม้แต่ไอ้เพื่อนในคณะอีกคนที่เข้ามาร่วมบทสนทนา
“จ้ะ พี่ชานยอลเดือนเก่า”
ชานยอลหัวเราะ
แต่หลังจากนั้นเรื่องของเขาก็ถูกลืมไปเมื่อเสียงของแบคฮยอนประกาศชื่อน้องเซฮุนที่มาจากสาขาออกแบบสื่อสารเดินออกมา
มันน่าประหลาดใจมากที่เสียงเชียร์มันจะดังขนาดนี้
แน่นอนว่ากลุ่มเพื่อนเขาด้วยแหละที่เสียงดังเกินกว่าเหตุ
จงอินเห็นเด็กขี้อายที่สนามบอลในวันนั้นอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อย
ไทด์สีแดงถูกผูกถูกระเบียบเป๊ะ ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกหวีจนเรียบ แก้มกลายเป็นสีแดง
รอยยิ้มของน้องดูเป็นรอยยิ้มเขินๆ มากกว่าที่จะเป็นรอยยิ้มการค้า
ริมฝีปากมันวาวสะท้อนแสงไฟจนเป็นประกาย น่าจะเป็นเพราะลิปกลอสที่ถูกรุ่นพี่จับทา
จนจงอินเริ่มสับสนว่านี่น้องมาประกวดเดือนหรือดาว
โอเซฮุนเดินเป็นจังหวะมาตรงกลางลาน
ก่อนที่จะเอามือไขว้หลังแล้วยิ้มให้กล้อง
ก่อนที่จะยกกำปั้นขึ้นบังปากกลั้นยิ้มแล้วรีบเอาลงเมื่อคุมสติได้
ก่อนที่จะก้มหน้างุดเดินกลับไป
คิมจงอินไม่ได้รู้ตัวว่าเขาเอาแต่มองน้องเดือนของสาขาออกแบบสื่อสารจนไม่ได้มองน้องผู้หญิงที่อยู่ข้างกัน
เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าจำหน้าน้องผู้หญิงไม่ได้เลยก็ตอนที่พวกเพื่อนของเขาเริ่มคุยกันว่าน้องคนไหนจะชนะ
“มึงว่าคนไหนจะเป็นดาว
กูว่าน้องโชรงของไอ้จงอินก็เด่นมาก” <- จงแด
“กูว่าน้องออกแบบสื่อสารก็สวยนะ”
<- ชานยอล
“เออกูก็เห็นด้วยกับมึงชานยอล
แต่กูว่าของสาขาเราก็ดีอ่ะ ไอ้เหี้ย กูให้ทุกคนชนะ.. ชนะใจกู” <- ลู่หาน
“ไอ้เหี้ยลู่หานไม่เคยจะคุยรู้เรื่องเลย”
จงอินพูดเปรยใส่เพื่อนก่อนที่เขาจะโดนลู่หานสวนกลับมาว่า “แล้วมึงว่าใคร? เห็นนั่งดูเงียบๆ นี่คิดว่าใครครับ?
จากการวิเคราะห์”
จงอินนิ่งไปพักหนึ่ง
เขาจำหน้าใครแทบไม่ได้ด้วยซ้ำเลยเลือกที่ตอบส่งๆ ไปว่าคิดเหมือนไอ้จงแด
ซึ่งก็โดนแซวเหมือนเดิมเพราะพวกมันคิดว่าเขาเชียร์น้องโชรง
.... คือ..กูจำได้คนเดียว
“แต่จากประสบการณ์กูนะ
ยังไงน้องเซฮุนก็ไม่น่าจะได้เดือน น้องน่ารักไป กูว่าซอกจินได้” ชานยอลพูดช้าๆ และก็คงจะเป็นแบบนั้น น้องดูขี้อายมากกว่าที่พวกเขาคิด
ในตอนที่แสดงความสามารถ ส่วนใหญ่จะเป็นการร้องเพลง แร็ป เต้น แต่ของน้องเซฮุนน้องกลับบอกว่า
“ผม.. ร้องเพลงได้ฮะ”
“อ๋าา งั้นน้องร้องเลยครับ เพื่อนๆ รอฟังอยู่
เอาสักท่อนสองท่อนพอหอมปากหอมคอ อย่าให้ต้องน้อยหน้า” แบคฮยอนพูดเจือยแจ้วในขณะที่น้องเซฮุนดูจะหน้าซีดลง…
ถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง
เกิดเด็ทแอร์อยู่หลายนาทีจนคนรอบๆ เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง
แบคฮยอนตบหลังน้องเบาๆ
ก่อนที่เซฮุนจะเงยหน้าขึ้นมามองล่อกแล่กพลางหันไปมองหน้าที่สาขาตัวเองที่ข้างเวลาที่กลืนน้ำลายลงคอแล้วเริ่มร้องเพลง
ทุกคนในหอประชุมนิ่งสนิทจากเสียงของน้อง ไม่คิดว่าจะขนาดนี้
อย่าบอกว่าเขาใจร้ายเลย
แต่แบบ..
เสียงเป็ดร้องยังเพราะกว่า
“ขอเสียงปรบมือให้น้องเซฮุนจากสาขาออกแบบสื่อสารหน่อยครับ โอโห
ผมนี้พูดไม่ถูกเลย” แบคฮยอนพูดออกไมค์เสียงดังและหัวเราะแฮะๆ
อย่างที่มันชอบทำ เป็นกู..กูก็ไม่พูดไม่ออกแบคฮยอน... หลังจากที่น้องเซฮุนร้อง(?)จบ
มีเสียงปรบมือดังไปทั้งหอประชุมไหนจะเสียงแซวนั่นอีก ใบหน้าขาวเปลี่ยนเป็นแดงจัดจนลามไปถึงหู
ก่อนจะหันหลังแล้วเดินหายไปหลังเวทีด้วยความรวดเร็ว
“มึงว่า.. ไอ้พวกพี่เลี้ยงกล้าปล่อยมาได้ไง” ชานยอลพูดขึ้น…
เหมือนสติมันจะหลุดนิดหน่อย
“ถึงน้องจะร้องเหี้ย แต่น้องก็น่ารักนะ” <- ลู่ห่าน
“น้องทำอะไรก็น่ารัก เมื่อกี๊จะถือว่ากูไม่ได้ยิน” <- จงแด
“เป็ดร้องยังเพราะกว่า.. โอ๊ย!” อีกแล้ว กูโดนอีกแล้ว
กูผิดอะไร ออกความเห็นไม่ได้เลย หัวกูบุบจนกลายเป็นรอยมือพวกมึงหมดแล้วมั้ง
“อย่าว่าน้องไอ้เหี้ย น้องน่ารัก”
“น้องน่ารักแล้วเกี่ยวเหี้ยไรกับร้องเพลงไม่เป็น”
“ไม่ครับจงอิน ผมไม่ยอมรับความคิดเห็นของคุณในเรื่องนี้” ลู่หานหันมาโบกมือพลางเม้มปากแน่น
มึงจะสปอยด์น้องจนน่าหมั่นไส้เกินไปละสัส
ในตอนท้ายพวกเขาได้รับดอกกุหลายมาถือกันคนละดอก เป็นการโหวตให้น้องๆ
ว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นเดือนและดาวประจำคณะ ถึงพวกเขาจะมีโอกาสได้โหวต
แต่ก็คิดเป็นคะแนนเพียงสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
แน่นอน… ว่ากลุ่มชายฉกรรณ์เดินไปหาใคร
จงแดและลู่ห่านเบียดฝูงคนเข้าไปมอบดอกไม้ให้น้องเซฮุน
จากที่เขายืนมองอยู่นอกวงแล้วคิดว่าน้องคงจำไอ้สองตัวนั่นได้เพราะเจอกันที่สนามบอล
เด็กนั่นยิ้มกว้างจนตาหยี พูดคุยกับเพื่อนเขาไม่กี่ประโยคและรับดอกไม้ขึ้นไป
จากนั้นก็รับดอกไม้จากคนอื่นๆ
ที่เบียดกันเข้าไปให้กำลังใจจนดอกไม้เกือบเต็มอ้อมกอดอยู่แล้ว
“มึงไม่เข้าไปเหรอ” หันไปถามชานยอลที่ยืนอยู่ข้างๆ
เขา
“กูเป็นเดือนเก่าอ่ะไม่มีสิทธิ์โหวต มึงไปดิ” ชานยอลยื่นดอกไม้ของมันมาให้เขาด้วย
จงอินรับมาแล้วเดินไปข้างหน้า อ่าห์… เขาควรจะเอาให้ใครล่ะทีนี้
ควรจะให้น้องโชรงที่เขาจำหน้าได้คนเดียวหรือเอาให้น้องเซฮุนที่ร้องเพลงเสียงเป็ดแต่หน้าตาน่ารักดี
ยังไงน้องก็คงไม่ได้ตำแหน่งอยู่แล้ว? แต่ถ้าเขาเอาไปให้น้องโชรงให้พวกเพื่อนนั่นมันต้องแซวเสียงดังแน่ๆ
แต่ถ้าเอาให้น้องเซฮุนกูก็โดนแซวเหมือนกัน
กูแดกกุหลาบแทนได้มั้ยถ้างั้น
“ไอ้เหี้ย น้องเซฮุนกูเลยไม่ได้เป็นเดือนเลย เพราะมึงแน่นอนจงอิน ถ้ามึงไม่เอาดอกไม้ไปให้ไอ้น้องซอกจินนะ น้องได้แล้ว ไอ้ผี” ลู่หานบ่นมาตั้งแต่คืนวันที่ประกาศผลประกวดดาวเดือน มึงจะฝังใจอะไรนักหนากูอยากรู้
“ยังไงน้องก็ไม่ได้เป็นอยู่แล้วไอ้เหี้ย
ดูก็รู้ น้องซอกจินเต้นบีบอยได้ ไม่ตื่นคนยังดีกว่าน้องเซฮุน
ได้รางวัลขวัญใจช่างภาพไปก็ดีแล้ว” จงอินร่ายยาวรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ซึ่งดูไอ้ลู่หานจะเอาน้องเขาเป็นเดือนให้ได้
จงอินเองก็แอบคิดว่าน้องเซฮุนเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นเดือนคณะหรอก
น้องดูโล่งอกมากตอนที่ไม่มีชื่อตัวเองติดรอบ 3 คนสุดท้าย แต่ได้รางวัลขวัญใจช่างภาพแทน
“แต่น้องเขาดีนะมึง!”
“กูว่านะ ที่น้องเซฮุนไม่ได้เป็นเดือนเพราะน้องอ่ะจะสวยกว่าดาว”
จงแดพูดขำๆ ซึ่งลู่หานก็พยักหน้าตาม
“เออจริง” เสียงหัวเราะดังไปทั่วบริเวนจนคนแถวนั้นหันมามองโต๊ะพวกเขาเป็นตาเดียว
“อีกอย่างนะ
กูว่าน้องเขาไม่ได้อยากเป็นเดือนหรอก น้องเขาแม่งเขินขนาดนั้นตอนร้องเพลง
แถมยังดูโล่งอกอีกอ่ะตอนที่ไม่โดนเรียกชื่อ 3 คนสุดท้าย”
“เหรอวะ?
มึงเห็นเหรอ”
“เออ
กูก็อยู่กับพวกมึง”
“แต่กูไม่เห็นนะ
กูมัวแต่มองน้องสาขาตัวเอง” จงแดพูด
“…”
“เออกูก็มองน้องเยริ”
ลู่หานเสริม
“…”
“กูก็มัวแต่วุ่นวายกับไอ้พวกรุ่นพี่...
ไหนบอกว่าไม่สนใจน้องเขา..” ชานยอลพูดเสริมเป็นคนสุดท้าย
พวกมันทั้งหมดหันมาจ้องเขาเป็นตาเดียว แค่นี้!!! แค่นี้กูก็โดนตั้งข้อหาได้!!!
“…
แล้วไงวะ กูก็มองหมดแหละ”
“อ่อเหรอ”
จงแดโบกมือปัดๆ ใส่เขา
ก่อนจะหันไปก้มหน้าสนใจสมาร์ทโฟนในมือตัวเองต่อ
ส่วนจงอินเลือกที่จะหลบสายตาเพื่อนตัวเองแล้วเล่นเกมในโทรศัพท์แทน
“วันนี้พวกมึงเตะบอลมั้ย
กูต้องไปช่วยงานในสโม เลิกแล้วกูจะไปหา” ชานยอลทำท่าจะลุกขึ้น
ลู่หานและเขาพยักหน้า แต่จงแดบอกว่าจะไปนั่งเล่นเฉยๆ ไม่ได้ลงเตะ
กลายเป็นว่าช่วงนี้เขาต้องไปเตะบอลบ่อยขึ้นเพื่อนเพราะไอ้ลู่หานมีควิซ เผลอๆ
จะโดนจับแข่งจริงๆ
ชานยอลทำงานที่สโมบ้างเป็นครั้งคราว
เกี่ยวกับงานประชาสัมพันธ์ คิมจงอินก็เพิ่งคิดได้ว่านี่มันช่วงเพิ่งเปิดเทอม
กิจกรรมก็มากมายแถมไอ้ชานยอลผู้ซึ่งเคยเป็นเดือนคณะเก่าก็ต้องโดนลากไปช่วยงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
แตกต่างจากพวกเขาที่ไม่ค่อยมีใครมายุ่งเท่าไหร่
เพราะแทนที่จะไปช่วยกลายเป็นทำให้งานช้าลงกว่าเดิม
ในตอนเย็นที่สนามบอล
กว่าชานยอลจะมาหาพวกเขาอย่างที่บอกก็สามทุ่ม แต่พวกเขาก็ยังเตะบอลกันไม่เสร็จอยู่ดี
เวลาล่วงเลยไปจนถึงห้าทุ่ม เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้พวกนี้จะมานั่งเฝ้าให้เสียเวลาทำไม
ถ้าเป็นเขาป่านนี้กลับไปนอนแล้ว
“เนี่ย น้องเซฮุนก็ไปช่วยงานสโม” ชานยอลพูดช้าๆ
ในขณะที่กดสมาร์ทโฟนในมือไปด้วย ลู่หานพยักหน้ารับรู้ซึ่งมันก็น่าจะบอกจงแดไปแล้วจงแดเลยนอนนิ่งๆ
อยู่บนแสตนด์แทน
“ละเป็นไง ทำไรมั่ง” ลู่หานทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
กับชานยอล
แล้วยื่นขวดน้ำไปให้ชานยอลเปิดฝาให้เพราะมันเป็นมนุษย์ผู้เปิดฝาขวดน้ำเองไม่ได้
“ก็เรื่อยๆ อย่างที่เคยทำ น้องเซฮุนถูกเรียกมาช่วยเรื่องงานประชาสัมพันธ์เหมือนกูนี่แหละ
ทำแทนน้องเดือนที่ไปเก็บตัวประกวดงานใหญ่อ่ะ”
“อ๋อ..”
“เออ
พี่ทงเฮมันชวนไปกินเหล้า ไปมั้ย?” ชานยอลถามซึ่งก็คงไม่ต้องถามจงแดรายนั้นคงไปอยู่แล้ว
“วันนี้?”
“เออ”
“ไปก็ได้
ไม่ได้เจอพี่มันนานแล้ว” ชานยอลพยักหน้าแล้วหันมาหาเขา
“ก็ได้ ไปทั้งงี้นะ กูไปแปปเดียว”
“แล้วแต่มึงเถอะ”
หลังจากนั่งพักกันจนพอใจ พวกเขาทั้งสี่ก็ไปที่ร้านเหล้าหลังมอร้านประจำ มันเป็นร้านเปิดโล่ง ชานยอลเดินนำเข้าไปก่อนเพราะมันเป็นคนนัดกับทงเฮเอาไว้ จงแดชี้ไปที่โต๊ะเกือบจะกลางร้านที่มีมือโบกอยู่ พวกเขามองดีๆ ก็เห็นว่าเป็นรุ่นพี่คนสนิท หลังจากที่ฝ่าฝูงคนจนเดินเข้าไปถึงพวกเขาทั้งหมดต่างก็ทักทายกับพี่ทงเฮและรุ่นพี่อีกสองคนข้างๆ กัน
ทงเฮเรียนอยู่ปีสี่และสนิทกับชานยอล
พวกเขาทยอยเข้าไปทักทายและจัดแจงที่นั่ง
รินเครื่องดื่มแอมกอฮอล์แจกจ่ายกันคนละแก้วโดยจงแดเป็นคนรับหน้าที่นั้น
“ไหนว่าจะจีบน้องปีหนึ่งทำไมไม่โผล่หัวไปที่คณะเลยล่ะ” ลู่หานเปิดประเด็นหลังจากที่ทุกคนนั่งได้เข้าที่เข้าทางและทักทายกันเสร็จหมดแล้ว
ทงเฮสำลักเบียร์เล็กน้อยส่วนชานยอลกับจงแดก็เอาหัวเราะ เขาก็เช่นกัน
ก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าพี่ทงเฮมันจะจีบใคร
“ปีสี่มีโปรเจ็คมั้ยล่ะครับ พวกกูก็ต้องหายไปเตรียมตัวนิดนึง
แต่ข่าวสารก็ไม่ได้ขาด”
“แบบนี้แสดงว่าดำเนินการแล้ว?”
หลังจากจบประโยคของจงแดที่เอ่ยถามขัดขึ้นมากลางประโยค
ทงเฮไหวไหล่นิดหน่อยก่อนจะเลี่ยงไปจิ๊บแก้วเบียร์เพิ่มอีกอึกสองอึก
จนชานยอลทนไม่ไหวพูดขึ้นมาแทนว่า “แอดไลน์น้องไปตั้งแต่วันแรกที่จงแดแม่งส่งมาให้กูแล้ว
ขูดคอกูจะเอาให้ได้ ไม่ยอมไปขอเอง ก๊ากกาก”
“กับพี่มึงพูดงี้เหรอชานยอล”
ทงเฮพูดแทรกเสียงเพลงและเสียงล้อของเด็กรุ่นน้องและเพื่อนของตัวเอง
“กล้าหือกับผมเหรอพี่
ระวังตกข่าวเหอะ ผมนี่สาระอับเดตเลยนะทำงานสโมกับน้องอยู่ทุกวัน”
“เห้ย
เรื่องนี้มึงไม่ได้บอก”
“ก็แค่ทำงานสโมป่ะวะ
พี่ก็คุยกับน้องอยู่ไม่ใช่ไง๊”
“ก็น้องไม่ได้เล่าให้ฟังป่ะวะ”
“น้องยอมคุยกับพี่ด้วยเหรอ? น้องน่ารักป่ะ ไหนขออ่านไลน์หน่อย หยอดมุกเก่ามากๆ ระวังน้องเกิดไม่ทัน” ลู่หานแบมือขอโทรศัพท์แต่ทงเฮกลับปัดมือของลู่หานทิ้ง ก่อนจะกลับมาพูดสีหน้าจริงจัง “โคตร น่า รัก เลย แต่นะแต่..” ชายฉกรรจ์ทั้ง 7 คนนิ่งเงียบเพื่อที่จะรอฟังคำถัดไปจากปากของชายหนุ่มร่างเล็กที่แม่งยกเบียร์ขึ้นจิบพร้อกับถอนหายใจ พี่มึงจะลีลาอะไรนักหนากูลุ้น
“มึงพูดสักทีเถอะพี่”
“กูว่าจีบยาก”
“มึงคิดว่าอย่างน้องนี่ง่ายเหรอวะ” เพื่อนพี่ทงเฮถามขึ้นมา
ทงเฮส่ายหัวนิดหน่อย “ไม่เว้ย คือกูไม่ได้ว่าน้องง่าย
แต่น้องแบบ.. ขีดเส้นชัดมากว่ากูคือรุ่นพี่นะ กูหยอด กูชวนไปเที่ยว
กูชวนคุยทุกวันน้องแม่งตอบมาแต่ ‘พี่ทงเฮใจดีจัง
ไม่เป็นไรครับผมเกรงใจ’ ‘พี่ทงเฮตลกนะฮะ’ ‘พี่ทงเฮไปนอนเถอะครับผมต้องทำงานก่อน’ ล่าสุดกูเจอ ‘พี่ทงเฮว่างเหรอฮะ เห็นทักมาทั้งวันเลย’ นี่กูโดนด่าแล้วใช่ป่ะ?”
“พี่มึง..
กูว่าน้องรำคาญมึงนะ” <- ลู่หาน
“ไม่น่าเลยพี่กู”
<- จงแด
“เสียดายเวลามั่งมั้ยพี่” <- ชานยอล
“ยังจะถามอีกเหรอว่าโดนด่ามั้ย ถ้าเป็นกูกูไม่กล้าทักน้องเขาไปอีกแล้วนะเว้ย”
<- ผมเอง
“ก็น้องแม่งด่าเหมือนไม่ด่าอ่ะ”
“น้องเขาเกรงใจมึงไง”
ทุกคนพูดพร้อมกันโดยพร้อมเพรียง
แต่หลังจากที่ตอกย้ำกันจนพอใจก็มานั่งปลอบพี่ชายคนสนิทกันหมือนเดิม
บอกแม่งไปว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก รำคาญมากๆ เดี๋ยวก็คงชินไปเอง
“แล้วมึงอ่ะจงอิน ได้ข่าวว่าจะจีบน้องโชรงป่ะ” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพี่มันรู้ได้ยังไง
ชานยอลปากสว่างแน่นอน
“ไม่เว้ยพี่ ไม่ได้กะจะจีบ มองเฉยๆ”
“เห่ย
ชอบก็จีบเลยระวังหมาจะคาบไปแดก เอาแต่มองอยู่ได้”
“มึงจะไม่จีบน้องจริงๆ
ใช่มั้ยวะ เห็นมึงพูดย้ำหลายรอบละ แต่มึงบอกว่ามึงชอบน้องเขานี่หว่า” ลู่หานวกกลับเข้าเรื่องนี้อีกรอบ จะบังคับให้กูจีบน้องเขาให้ได้จริงๆ
“จริงๆ เว้ย ชอบแบบชอบมองกับชอบแบบอยากได้มาเป็นแฟนแม่งไม่เหมือนกันป่ะวะ
หรือพวกมึงไม่คิดงั้น”
“ถ้าชอบมองก็ต้องอยากได้เขามาเป็นแฟนจะได้มองนานๆ
ไม่ใช่เหรอวะ” จงแดพูด
“ไม่อ่ะ มองก็แค่มองป่ะวะ ไม่ได้รู้สึกอยากได้มาเป็นแฟน”
“แล้วเป็นแฟนนี่แบบไหน
ยังไม่เคยเห็นมึงจีบใคร.. หรือมึงจีบแต่เงียบวะไม่บอกพวกกู” <- ชานยอล
“มึงมีความลับกับเพื่อนกับฝูงเหรอ” <- ลู่หาน
“มีเหรอเรื่องที่พวกมึงไม่รู้อ่ะ” จงอินอยากถอนหายใจใส่หน้าเพื่อนที่ละคนเรียงตัว
พวกมันรู้ทุกเรื่องของเขา ไม่ต้องบอกก็รู้ ปีศาจมากๆ
รอบก่อนแค่คิดจะจีบน้องปีสองพวกมันก็แซวจนนึกว่าจีบไปแล้ว แซวจนน้องเขาหนี
ชีวิตกูนี่..
“ก็เผื่อมีหลุดรอดไรงี้” จงแดพูด
“กูจะตามติดมึงไปทั้งชีวิตนี่แหละ ไม่ต้องห่วงนะเพื่อนรัก” ลู่หานพูดแบบนั้นแล้วหันมายิ้มจนหน้ายับไปทั้งหน้า
เขาใช้มือผลักหน้าเพื่อนสนิทของตัวเองออกแล้วเปลี่ยนเรื่องไปคุยกับพี่ทงเฮเรื่องโปรเจ็คก่อนที่ชีวิตจะไม่ปลอดภัยไปมากกว่านี้
วันนี้เขาต้องไปหามุนกยูที่สนามเล็กเพื่อที่จะเอาหนังสือการ์ตูนที่ยืมมาตั้งแต่เดือนก่อนไปคืนมัน
และแน่นอนว่าเพื่อนชาวสมาชิกก็ไปด้วย(ยกเว้นชานยอล)
เพราะน้องเดือนในใจพวกมันรับน้องอยู่ที่นั่น
พวกเขาเดินไปยืนอยู่หลังแถวที่น้องๆ
นั่งแยกกันเป็นแถวสั้นๆ 4 แถว ก่อนที่พวกรุ่นน้องที่นั่งว่างๆ
ไม่ได้ทำอะไรจะกวักมือเรียกให้เขาเข้าไปหา ซึ่งมุนกยูก็เป็นหนึ่งในนั้น
หลังจากคืนหนังสือแล้วเราก็นั่งคุยกับรุ่นน้องที่ว่างงานกันเล่นๆ
พวกเขาไม่ได้รีบ และพวกน้องนี่ก็ว่าง แน่นอนว่าจงแด
และลู่หานอยากจะแอบส่องเด็กไปด้วยเรื่อยๆ
“เออ พวกพี่ชอบน้องเป็ดใช่มั้ย” มุนกยูชี้นิ้วถามหน้าทะเล้น
แต่พวกเขาทั้งสามกลับทำหน้างงว่าเป็ดอะไรของมันวะจนมุนกยูต้องหันไปชี้นิ้วใส่น้องเดือนคณะเรืองแสงได้ที่นั่งอยู่คนที่สองของแถวริม
“ทำไมเรียกน้องเป็ด” รอบนี้คิมจงอินเป็นคนถาม
กูไม่รู้จริงๆ ว่างุ่ยคืออะไร แล้วมันงุ่ยยังไง
“พี่แม่ง.. เวลาเห็นรูปน้องพวกพี่เห็นรูปน้องทำปากเป็ดป่ะ ปากบึนๆ
แบบนี้อ่ะ” มุนกยูพยายามที่จะทำให้ดูแต่น่าหมั่นไส้มากกว่า
“อ่อ กูเคยเห็น แต่เป็นรูปหลุดนะ” จงแดพูด
“เออนั่นแหละพี่ ตอนน้องต้องออกมาเต้นข้างหน้าแม่งชอบทำ ทำจนคนอื่นทัก
เลยโดนเรียกน้องเป็ดไปจนกว่าจะจบรับน้อง”
“เออ
ตอนร้องเพลงก็เสียงเหมือนเป็ด โอ๊ย! สัส!” ลู่หานมือวางอันดับหนึ่งในการปกป้องน้องเป็ดไม่ปล่อยให้เขาได้หายใจ
ในขณะที่มุนกยูหัวเราะจนตัวสั่น “เออจริงพี่ เหมือนจริง”
ในระหว่างกิจกรรมในที่สุดน้องเป็ดก็โดนเกมลงโทษต้องลุกขึ้นกับน้องอีก
2 คน ยังใส่นักศึกษากันอยู่เลยกับป้ายห้อยคอตัวเล็กๆ
ที่เขียนว่าน้องเซฮุนแล้วมีรูปเป็ดวาดอยู่ข้างล่าง พอน้องประหม่า ปากเป็ดก็เริ่มมาอย่างที่มุนกยูบอก
แต่ไม่ยักน่าหมั่นไส้อย่างที่มันทำให้ดู
คุยไปคุยมาจนเลิกกิจกรรม
จากการที่น้องเซฮุนได้ลุกขึ้นนั้นโดนทำโทษด้วยการโดนแป้งเทลงหัว
น่าสงสารเหลือเกินหัวหงอกไปทั้งหัวแต่เพื่อนตัวเล็กของน้องที่จำได้ลางๆ
ว่าชื่อคยองซูก็ใช้มือปัดไปหัวเราะไป สุดท้ายพวกเขาเลยชวนกันไปกินข้าวต่อโดยมีมุนกยูไปด้วย
เขาเห็นน้องเป็ดกับเพื่อนของน้องเดินไปอีกฝากของสนาม
คิดว่าคงกลับบ้านเพราะนี่มันจะสองทุ่มแล้ว
“คิมจงอินไม่ควรมองน้องจนสุดสายตาขนาดนั้นนะครับ” ลู่หานกล่าวเมื่อเห็นว่าเขายังยืนอยู่ที่เดิม
“พวกมึงเดินแล้วก็ควรจะเรียกกูมั้ยล่ะ”
“เรียกหลายรอบแล้ว
ห่า แดกข้าวสิ ไม่แดกน้อง” จงแดพูดแล้วหัวเราะ
ขี้เกียจเถียง...
คิดจงอินคิดแบบนั้น
เมื่อเรามาถึงร้านข้าว
นั่งกันไม่นานชานยอลก็ตามมา พวกจงแดลู่หานเล่าเรื่องที่เขามองน้องเซฮุนจนไกลลิบ
แน่นอนว่าเขาได้รับสายตาที่มองมาทางเขาเป็นหนึ่งเดียวกันไม่เว้นแม้แต่ไอ้มุนกยู
“พวกมึงควรใจเย็นๆ
กูไม่จีบน้องหรอก ไลน์ที่พวกมึงให้มากูก็ไม่ได้แอด เช็คก็เช็คไปแล้วป่ะวะ”
คิมจงอินพูดอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อสมาชิกในกลุ่มเพื่อนมองว่าเขาเองนั้นมีอะไรที่ไปวุ่นวายกับน้องที่รักของพวกมันเหลือเกิน
แค่เรื่องอีอีมันก็แค่นั้นจริงๆ บอกให้พวกมันไปถามมุนกยูแล้วก็ยังไม่เชื่อ
เอาโทรศัพท์ไปเช็คแล้วก็ยังไม่เชื่อ หน้าตากูเชื่อไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอนี่สงสัย
“ตอนอีอีผมอ่ะไม่ได้คิดอะไร
แต่กลัวพี่จะคิดอะไร” มุนกยูพูดยิ้มๆ
นี่ยังเป็นรุ่นน้องกูอยู่มั้ยถามใจ
“จริงเหรอครับจงอิน
ผมจะเชื่อคุณได้แค่ไหน”
สมาชิกกลุ่มมองเขาเป็นตาเดียว
น่ากลัวมาจริง จงอินมองสบตาไปทีละคน
เขายอมรับว่าน้องเซฮุนน่ารักบวกกับที่เจอในระยะใกล้และได้มีโอกาสคุยด้วยแล้ว
เขาก็ไม่เคยปฎิเสธสักทีว่าน้องไม่น่ารัก
“เออสิ! ถ้ากูจีบน้องนะ
พวกมึงเอาคลิปกูตอนเมาไปประจานได้เลย” สมาชิกตบเข่าร่วมกันเสียงดัง
ป๊าบ! พร้อมกับชี้หน้าเขาพร้อมกับสายตาที่จ้องเขม็ง
“จำคำตัวเองไว้นะครับ จงอิน”
ในตอนนี้เขาก็ยังคิดถึงคำพูดตัวเอง
น่ารักแบบชอบมอง กับน่ารักแบบอยากได้มาเป็นแฟนมันไม่เหมือนกัน และเขามั่นใจ
ว่าสำหรับน้องเซฮุนก็คงเป็นเหมือนอย่างน้องโชรง
มั้ง?
Talk : -
สวัสดีค่ะ . _ .
เค้าดีใจมากๆ เลยที่มีคนชอบ ฮื่อออ
จงอินก็ยังคงเป็นจงอินค่ะ ลองนับดูเลยว่าจงอินชมน้องว่าน่ารักในใจไปกี่ครั้งแล้ว
55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
ปูลู. แท็ก #จริงเหรอวะจงอิน คำว่า เหรอ มี สระเอ ด้วยนาจา ><
ความคิดเห็น