ไม่เคยลืม "เตอร์" (ปฐมบท) - นิยาย ไม่เคยลืม "เตอร์" (ปฐมบท) : Dek-D.com - Writer
×

    ไม่เคยลืม "เตอร์" (ปฐมบท)

    ความรักไม่แบ่งเพศใช่ไหมครับ อีกเรื่องที่เป็นความทรงจำดีๆ สุข เศร้า เหงา รัก .......กับงานเขียนครั้งแรกของผม

    ผู้เข้าชมรวม

    86

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    86

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 ก.ย. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ในขณะที่ผมกำลังเก็บกวาดห้องนอน.....ซึ่งบ้านหลังนี้ผมไม่ได้กลับมานานแล้วตั้งแต่ย้ายไปเรียน เมื่อเรียนจบก็ทำงาน จนเกือบลืมบ้านที่ต่างจังหวัดไปเลยพอมีโอกาสได้หยุดหลายวันก็เลยอยากกลับมาดูครับ....สภาพบ้านเป็นบ้านปูนสองชั้น บริเวณบ้านยังเห็นต้นไม่ขนาดใหญ่ผมจำได้ลางๆว่าผมเองเป็นคนปลูก...ภาพในอดีตทยอยกลับมาผมเดินเข้าบ้านจึงหยิบกุญแจดอกเก่าขึ้นมาไข เป็นกุญแจที่ผมเองเป็นคนล็อกมันไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ภายในสภาพบ้านยังดูไม่เก่า แต่ฝุ่นที่สะสมมาเป็นสิบปีหนาได้เรื่องเลยล่ะครับ ผมเริ่มมหกรรมทำความสะอาด จนมาถึงห้องนอนผมในขณะที่กำลังจะเก็บที่นอนเมื่อยกที่นอนขึ้น ผมพบกับสมุดเก่าๆเล่นหนึ่ง มันคุ้นๆจนรู้สึกใจหายเลยครับ ผมหยิบสมุดขึ้นมาแล้วเปิดสมุดออก มีรูปเก่าๆ สามสีใบตกออกมาจากสมุด ก้มหยิบรูปแล้วพลิกรูปขึ้นมาดู...มีหยดน้ำหยดหนึ่ง หยดลงบนรูปภาพ น้ำตาผมเองมันแทบไม่เคยไหลมาเป็นสิบปีแล้วนับตั้งแต่วันที่ผมจากบ้านหลังนี้ไปตอนนั้นผมเองก็เรียนอยู่ ม4 ......... ภาพในอดีตที่ผมคิดว่าลืมได้แล้วกลับผุดขึ้นมาในความคิด......>>>>>บรรยากาศตอนเช้า มีรถรับส่งนักเรียนเต็มหน้าโรงเรียนไปหมด ผมเดินเข้าไปได้สักระยะหนึ่งจะมีสนามบอลอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนอาคารที่ผมอยู่นั้นอยู่สุดถนนทางเข้าโรงเรียน ซึ่งไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไร "เฮ้ยระวัง....." ผมยังไม่ทันหันหน้าไปทางเสียงนั้นลูกฟุตบอลก็ลอยเข้าเต็มหน้าผมเรียกว่าล้มทั้งยืนเลยทีเดียวครับ.... "เป็นไรมากไหม ขอโทษนะ" มือข้างหนึ่งถูกยื่นออกมาผมยื่นมือจับแล้วก็ดึงตัวเองขึ้น ใบหน้าของเจ้าของฝ่ามือนุ่มๆที่ดึงผมขึ้นมาตรงหน้าผมพอดี เป็นใบหน้าที่ทำให้ผมยื่นอึ้งไปชั่วขณะ ใบหน้าเรียวได้รูป คิ้วหน้า ตากลมโต ผิวขาวใส มีรอยแผลเป็นตัดปลายคิ้วด้านซ้ายมันทำให้ดูน่ารักขึ้นมากเลยทีเดียว เขาสูงกว่าผมเล็กน้อยรูปร่างสมส่วนครับ ก็เป็นนักกีฬาฟุตบอลนี่นา “เราขอโทษนะ ไม่เป็นไรนะ....” ผมไม่ได้ตอบอะไร เขาหันหลังแล้ววิ่งออกไปขว้างลูกฟุตบอลให้เพื่อนแล้ววิ่งตรงไปยังกลางสนาม...........เช้าวันนั้นผมแทบไม่ได้เรียนอะไรเลยเพราะยังตะลึงไม่หาย...นั่งเม่อทั้งคาบใบหน้านั้นยังคงลอยติดในความคิดของผม
             เที่ยงแล้วทุกคนพักกลางวัน....ในขณะที่ผมเดินออกมาเป็นคนสุดท้ายเพราะเป็นเวรลบกระดานดำ....วันนี้เป็นอีกวันที่ผมเดินไปโรงอาหารคนเดียว ซื้อข้าวแล้วหาที่นั่งกินข้าววันนี้คนเยอะมากเพราะเป็นวันเปิดเรียนวันแรก...ผมน่ะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากกับบรรยากาศแบบนี้เพราะผมอยู่โรงเรียนนี้มาสามปีแล้วพอจบ ม
    3 ก็เรียนต่อที่นี่เลย  ผมหาโต๊ะเพื่อจะนั่งกินข้าวมีโตะหลังโรงอาหารตัวหนึ่งว่างพอดี ... “มีใครนั่งอีกไหม .... เราขอนั่งด้วยคนนะ...” ผมเงยหน้าขึ้นมองคนเมื่อเช้านี้....ผมได้แต่พยักหน้า เขานั่งลง ตรงข้ามผมพอดี เราเตอร์นะ(อ่านว่า เตอ ไม่ใช่เต้อ นะครับ) นายล่ะ” “เราชื่อมาร์ช” ผมตอบ “เรื่องเมื่อเช้าขอโทษด้วยนะ” “ไม่เป็นไรหรอก” “นายอยู่ 4/2 ใช่ป่ะ ” เตอร์ถาม  ผมพยักหน้าเป็นการตอบ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหน จนเตอร์กินข้าวหมดแล้วและก็ขอตัวออกไป.. หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็ไปเก็บตัวหาอะไรอ่านที่ห้องสมุด จนหมดเวลาพักกลางวัน ผมเดินกลับห้อง น่าจะเป็นคนสุดท้ายที่เข้าห้อง ผมเดินฝ่าสายตาเย็นชาของเพื่อนๆเข้าไปนั่งซึ่งอยู่แถวหน้าติดกับหน้าต่างห้อง โต๊ะในห้องเป็นแบบให้นั่งคู่กัน แต่ข้างๆตัวผมไม่มีใครนั่ง ถึงจะขึ้น ม4 เพื่อนๆในห้องแทบทั้งหมดคือเพื่อนๆที่เรียนตอน ม.ต้นด้วยกัน สามปีที่ผมเรียน ผมไม่มีเพื่อนสนิทแม้แต่คนเดียว แม้แต่เพื่อนในห้องเดียวกัน ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของห้องเพื่อยากเป็นที่สนใจ ช่วยเหลือเพื่อนทุกเรื่องแต่สายตาที่ได้รับกลับมา ผมถูกมองเป็นคนที่ชอบทำตัวเด่น ทำดีเอาหน้า อยากให้คนชม ในสายตาเพื่อนๆจึงไม่มีใครอยากคบกับผม ผมเองก็คงเป็นคนอย่างนั้นแหละครับเพราะผมถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตเพียงคนเดียวตั้งแต่ ป6 พ่อแม่ผมแยกทางกัน ทิ้งให้ผมอยู่กับพี่ชาย ซึ่งพี่ชายผมก็ต้องออกไปหางานทำเพื่อหาเงินส่งให้ผมเรียน มันเลยคงเป็นสาเหตุที่ผมมักเรียกร้องความสนใจ อยากมีค่าในสายตาคนอื่น...................
             เสียงกริ่งหมดเวลาดังขึ้น ผมเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน บ้านผมไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไร.... “เดินกลับหรอ เราไปส่งไหม” มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาจอดตัดหน้าผม เตอร์อีกแล้ว (อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น เจอสามเวลา เช้า กลางวัน เย็น) ผมก็ใจง่ายขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์ไป ก่อนถึงบ้านผมจะผ่านแม่น้ำสายใหญ่ริมแม่น้ำเป็นสวนสาธารณะซึ่งบรรยากาศตอนเย็นๆ มันดีมากๆเลยล่ะครับ ลมก็เย็นสบาย ขอแวะที่นี่แปปนึงได้ป่ะ ... เอาดิ ผมตอบ “อากาศดีจังเลยนะ...แล้วคำพูดมากมายก็ออกมาจากปากของเตอร์ไม่หยุด ... “เราน่ะเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ พอดีโรงเรียนเขาให้โควตานักกีฬาน่ะได้ทุนเรียนฟรีจนจบ ม
    6 เลยนะ เราน่ะย้ายมาอยู่กับแม่..ก็ยังไม่มีเพื่อนที่ไหนเลย ก็มีแต่นายนี่แหละ” ผมกับเตอร์คุยกันนานมากจน เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น “มึงอยู่ไหน” ไอ้มายด์พี่ชายผมเองโทรมา “กำลังกลับบ้านทำไม่อ่ะ” “จะมืดแล้วนะมึงรีบกลับมาเลย” ผมน่ะเกรงใจไอ้พี่ชายคนนี้เอามากๆ เพราะมันหาเลียงดูแลผมเหมือนมันจะรู้สึกว่ามันเป็นพ่อผมไปทุกวันๆ แต่ผมก็ไม่เคยโกรธมันนะเข้าใจครับคนทำงานมาเหนื่อยๆ แถมเสียสระส่งน้องเรียนอีกต่างหาก .... ผมสนิทกับเตอร์เร็วมากเราไปไหนมาไหนด้วยกัน กิข้าวด้วยกัน ผมนั่งรอเตอร์ซ้อมฟุตบอล แล้วก็มานั่งคุยตรงสวนสาธารณะบ่อยๆ คงเป็นเพราะผมไม่เคยมีใครคุยด้วยนานขนาดนี้ ถึงรู้สึกสนิทกับมันขนาดนี้...วันนึงเหตุการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์แบบเพื่อนๆเราต้องเปลี่ยนไป.... เสาร์อาทิตย์ถ้าไม่มีซ้อมฟุตบอลเตอร์ก็จะมาที่บ้านผมเป็นประจำจนมันเองก็สนิทกับพี่ชายผมเข้านอกออกในได้เหมือนคนในบ้านเดียวกัน .... “วันนี้ขอนอนค้างด้วยคนนะ” เตอร์นอนบนเตียงนอของผมเปิดฉากคุยกับผมในขณะที่ผมกำลังนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “ทำไมอ่ะ” (จริงๆก็อยากตอบว่าได้เลยแต่ต้องรักษาสถานะเพื่อนไว้ให้นานที่สุด) “พอดีแม่กูไปทำธุระ สองวันอ่ะ” “ได้ดิ” ผมตอบ วันนั้นเราก็คุยกัน เล่นเกมกันบ้างจนเย็น พี่ชายสุดหล่อผมกลับมาพอดีพร้อมซื้อกับข้าวมามากมายเลยผมบอกว่าเตอร์จะมาค้างด้วยพี่ชายผมก็ไม่ได้ถามอะไรพยักหน้าแล้วก็เดินไปอาบน้ำ เย็นวันนั้นเราสามคนกินข้าวแล้วก็แยกย้ายขึ้นห้อง.......>>>>>มีต่อนะครับ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น