BJ 2013 :: THANK YOU! I LOVE YOU!
BJ ปีที่4! HBD พี่เเอ้คนสวยค่ะ!!!
ผู้เข้าชมรวม
727
ผู้เข้าชมเดือนนี้
9
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
BJ 2013!!
HBD พี่แอ้!!
นับจากงานวันเกิดไรท์เตอร์อ้อแอ้สุดแสนซาบซึ้งคราว2012แล้ว
ขอปรับเวลาวารี ให้BJปีนี้เวลาผ่านไปร่วม5ปี
ตุเลงเตร่งเตร๊ง เตรงเตร่งเตร๊งเตรเตรงงงงงง ตุ้งแช่!
(เอาซูชิเบอเกอร์ไปเก็บ)
25 เมษายน เวียนมาบรรจบ
เป็นอีกครั้งที่เหล่าสมาชิกวาเรียต่างร่วมมือร่วมใจ ตื่นแต่เช้ามาเตรียมงานวันเกิดของไรท์เตอร์พระคุณท่วมท้นของพวกเขา ซึ่งคราวนี้ด้วยความบรรเจิดของบอสที่อยู่ดีๆลุกขึ้นมาเฮี้ยน สั่งทำธีมงานเป็นยุโรปยุคกลาง เหล่าสมาชิกเลยต้องทำงานหนักกับความอลังการงานสร้างนี้เพื่อให้ออกมาได้ประสิทธิพลดีที่สุด!
“ลุงๆพวกนี้เว่อร์เป็นบ้า”
“ก็คนแก่นี่ ชิชิชิชิชิ”
...หารู้ไม่ว่า....หายนะบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาแล้ว...
“โอ้กกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!”
เสียงร้องโหยหวนน่าเกลียดดังขึ้นจากฝ่ายจัดสถานที่โดยรอบ เรียกให้ทุกผู้ ณ ที่นั้นหันขวับ!
“กรี๊ด! เลวี่ เป็นอะไรไปฮร๊า!!”
ลุสซูเรียที่ใช้วาเรียควอลิตี้วิ่งตามไปเจอคนแรกถึงกับช็อค ใบหน้าละม้ายคล้ายปลาจวดของแสงระวีบิดเบี้ยวบูดเป็นตูดหมู ริมฝีปากหนาเตอะมีน้ำลายฟองฟอดน่าแขยะแขยง ซ้ำมันยังนอนตายในท่าอุบาถจิตเจ๊เป็นที่สุด....
กรุณามโนเอาเอง ว่าสภาพของแสงระวีที่นอนตายตูดโด่ง กางเกงยังถูกถกลงมาถึงโคนขา ซ้ำยังมีไม้ง่ามเสียบตูดอยู่อีกมันน่าคลื่นเหียนอาเจียนขนาดไหน!!
“มะ....มัน....ฝุดๆๆๆๆๆ”
“กรี๊ด! เลวี่จะช็อคตายแล้วฮร่า!!!”
เพียงได้ยินเท่านั้น ลูกน้องทั้งหลายก็ไปคว้าพลั่วจอบเสียม เตรียมฝังกลบด้วยความรัก!
โครม!!!!
นับเป็นบุญอันน้อยนิดของเลวี่ที่กำลังจะหมดบท ลง ณ จุดนี้ที่มีเสียงวินาศดังขึ้นขัดเสียก่อน
“ตาเถร!!”
เจ๊ลุซสุดสวยร้องเสียงหลง ทิ้งกบาลแสงระวีที่ประคองไว้อย่างขยะแขยงเมื่อครู่อย่างไม่ใยดีแล้ววิ่งไปดูสถานการณ์
แน่นอน
พอเห็นชัดๆแล้ว....เจ๊อยากจะเป็นลม!
ซุ้มดอกกุหลาบที่ลงทุนลงแรงนั่งจัดกันมาร่วมสามวันพังพินาศเสียจนไม่เหลือเค้าเดิม ไหนจะทุ่งลาเวนเดอร์ที่บอสบังคับให้วองโกเล่รุ่นที่10นำเข้ามาจากฮอกไกโด บัดนี้กลับบี้แบนปานกล้วยบด!
อย่าให้พูดถึงองค์ประกอบเล็กๆน้อยๆโดยรอบ เละไม่เหลือชิ้นดี เจ๊อยากตาย!!!
“โว้ยยยยย!!! เกิดวินาศสันตะโรอะไรกันฟะ!!!”
เสียงระดับเดซิเบลเกินคนปกติตวาดลั่น พร้อมกับร่างของผู้กองผมยาวสลวยก้าวฉับๆเข้ามาในบริเวณพลางกราดคำถามใส่ทุกผู้ที่ตนเดินผ่าน ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าลูกกระจ๊อกทั้งหลายส่ายหน้าไม่รู้เรื่องพรึ่บ จึงมีเพียงกระเทยกถึกคนงามเท่านั้นที่หันขวับมามองตนทั้งน้ำตา
“สควอโล่ฮ๊า! มีผู้ก่อการร้ายหวังทำลายงานเราฮร่า!!”
“แล้วไหนล่ะผู้ก่อการร้ายที่ว่า?”
“ยังไม่เห็นตัวเลยฮร่ะ....กรี๊ด!!!!”
“อะไรอีกล่ะเฮ้ย”สควอโล่ผงะกับเสียงแหลมบาดหูของลุสซูเรีย ก่อนฉลามคนงามจะเริ่มทำจมูกฟุดฟิด”กลิ่นเหม็นไหม้ที่ไหนวะ....”
“ข้างหลัง!!! ข้างหลัง!!!”
“เว้ย!!!!!!!!!”
เทพกระบี่ถึงกับร้องลั่นเมื่อเห็นต้นตอของกลิ่นที่ไม่ได้รับเชิญ โอ้พระเจ้าช่วยกล้วยซูชิ ผ้าม่านพระเจ้าหลุยส์ย่างไฟแดง!!!
ผ้าม่านสำหรับตกแต่งที่ยาวราวขึงได้ทั้งตัวปราสาท ปักลายพระเจ้าหลุยส์กับพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งอย่างงดงาม บัดนี้ได้มีไฟลุกท่วมอย่างน่าสยดสยอง ดวงตาพระเจ้าหลุยส์ที่ปักด้วยเพชรงามD18กะรัตกำลังกลิ้งเกลือกเหลือกมองฉลามคลั่งอย่างสุดแค้น
อย่าจ้องกูอย่างนั้น กูไม่ได้ทำ!
“เฮ้ย!! มัวแต่ยืนบื้ออะไรกันอยู่วะ!! หาน้ำมาดับไฟเซ่!!!”
“แทงก์น้ำเราถูกเจาะรั่วหมดเลยครับผู้กอง!!”
“ฮะ!! นี่มันเรื่องบ้า....เว้ยยยยยยยยยย!! ผมกู๊!!!!”
พระเจ้าหลุยส์ท่าจะแค้นหนัก บันดาลดลให้ไฟจากผ้านั้นลามมาติดปลายผมอันงอนงามของสควอโล่อย่างรวดเร็ว ฉลามหนุ่มแทบกรี๊ดแตก วิ่งเร่าๆสะบัดผมไปมาหวังจะให้ไฟดับ ก่อนให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่เมื่อไฟจากปลายผมนั้นก็ลามไปยังทุกที่ที่มันถูกสะบัดผ่าน
วาเรียจะสิ้นก็คราวนี้แหละเจ้าข้าเอ๊ย!!!
ซ่า!!!!
มวลน้ำขนาดใหญ่สาดซัดลงมาก่อนที่ทั้งหมด ณ ที่นั้นจะกลายเป็นหน่วยลอบสังหารย่างไฟแดงตามพระเจ้าหลุยส์ไป เคราะห์ดีที่ไฟมันไม่ได้ติดทนนาน ยอมดับไปเสียแต่โดยดี
และทุกคนก็หันไปโฟกัสยังฮีโร่ผู้กู้วิกฤตินี้เป็นตาเดียว!!
“ฟราน!! ไหงสภาพแกยับเยินขนาดนั้นฟะ!!!”
“อูย อย่าพูดสิผู้กองจ๊าดง่าว มีแสนจะเจ็บปวดรวดร้าวแทบไม่อยากนึกถึง”กบฟราน เจ้าของวีรกรรมช่างสรรหาผู้นำดอกไม้ไฟน้ำมาปลดปล่อยเหยื่อทั้งหลายจากกระทะยักษ์ถอนหายใจเฮือก ใบหน้าเนือยอยู่เสมอเปื้อนคราบเขม่าควันจนดำปี๊ เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แถมหมวกกบคู่ใจยังมีมีดปักเป็นรูปหัวใจอีกต่างหาก”ดีนะที่มีไหวตัวทัน ไปเอาดอกไม้ไฟของเล่นที่หนูเวลเด้ส่งมาให้เมื่อเดือนก่อนมาดับไฟ ไม่งั้น...ไม่เหลือซากแหง”
ว่าพลางเดินไปดูใจรุ่นพี่ผมยาวที่นั่งลูบผมแสนรักอยู่ข้างๆเจ๊ลุสที่ยังคงเรียบเรียงเรื่องไม่ถูก
“นี่มันเรื่องอะไรกันฮระฟราน? ผู้ก่อการร้ายบุกจริงๆเรอะ!”
“หรือว่าอยู่ดีๆไอ้บอสสันขวานมันเกิดเฮี้ยน ลุกมาทำลายงานที่ตัวเองรีเควสต์หาเรื่องกระทืบลูกน้องน่ะ!”
“อูย ใจเย็นฮับทุกๆท่าน...”
เจ้ากบยกมือไปดึงมีดที่หลังกบาลตัวเองออก พบเป็นมีดปักลายคล้ายของเจ้ารุ่นพี่โรคจิต แต่ขนาดเล็กกว่าครึ่งหนึ่งของต้นแบบ
“มีว่ามีรู้แล้วแหละ....ว่าเป็นฝีมือใคร”
.........
อีกด้านที่ไม่มีใครมองเห็น
“ฮัดชิ้ว!”
“ชี่ เบาๆหน่อย”
’เงามืด’
ได้คืบคลานเข้าไปในห้องนอนของบอสหน่วยล่าสังหารอย่างรวดเร็ว...
..........
และก็ตัดไปอีกด้านให้คนอ่านมึนเล่น....
“อื้ม....”
ริมฝีปากสองคู่ประกบกันแนบแน่น มือไม้ของผู้อยู่เบื้องบนค่อยๆเคลื่อนจากใบหน้าหวานไปยังเอวคอดก่อนจะรั้งตัวอีกฝ่ายเข้ามาแนบชิด ก่อนจะสะดุดเมื่อเล็บคมๆจิกลงมาที่หลัง
“อะไรล่ะ....อย่าขัดสิ”
“รุ่นพี่ นี่มันเช้าแล้วนะ”
เบลเฟกอลกลอกตาขึ้นไปมองเพดาน ก่อนจะแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างเคย
“ชิชิชิ ไม่ต้องห่วงน่า เจ้าชายไม่เกี่ยงเรื่องเวลาหรอก”
“บ้า ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นซักหน่อย”ร่างบางเบื้องล่างพูดเสียงขุ่น ดวงตาสีทองมองสามีที่อยู่ดีๆลุกขึ้นมาเฮี้ยนอยากมีซัมธิงรองกันเอาตอนเช้า ทั้งๆที่เมื่อคืนตัวเองบอกเองแท้ๆว่าจะพักบ้างอะไรบ้าง ของดอย่างว่าซักสี่ห้าคืน
พูดอย่างกับเราตัณหากลับ อยากทำทุกคืนอย่างงั้นแหละ ถุ้ย!!
“แล้วห่วงเรื่องอะไรล่ะคะที่รัก”
“อี๋ ไม่ต้องมาทำเสียงหวานเลย ไม่ใจอ่อนหรอก”จาเมเลียว่าพร้อมกับดันหน้าอีกฝ่ายออกห่าง”ห่วงว่าถ้าอยู่ดีๆมีคนมาเรียกจะทำยังไงต่างหากเล่า”
“ก็ไม่ต้องตอบหรอก เจ้าชายล็อคประตูแล้ว”
“แล้วถ้าเขาได้ยินเสียงล่ะ”
“แหม จนป่านนี้ เขารู้กันทั่วปราสาทแล้วล่ะจ้ะว่าเราทำอะไรกันไปบ้าง”เบลพูดติดตลก แต่ดูท่าเจมี่จะไม่ขำด้วย...ดูถลึงตามองสามีเข้าสิ อย่างกับจะเชือดให้ตายคามือ”น่า เจ้าหญิงของเจ้าชาย อย่างอนเลยน่า นะ?”
“ไม่ได้งอนซักหน่อย”
“งั้นก็ทำนะ ทำนะ ทำนะ”
“บ้า! พูดไม่รู้...อื้อ”อีกครั้งที่ริมฝีปากร้อนประกบลงมา สัมผัสที่รุกล้ำเข้ามาไม่ได้หมายจะเอาชนะแบบปกติที่เจ้าตัวชอบทำ หากแต่กลับค่อยๆกวาดเอาความหวานในโพรงปากอีกฝ่ายไปอย่างอ่อนโยน เจมี่ที่เมื่อครู่ทำท่าจะยันชายหนุ่มให้กระเด็นตกเตียงไปค่อยๆลดการ์ดลง ก่อนจะยอมโอนอ่อนผ่อนตามไปในที่สุด
และทั้งคู่ก็คงจะตกลงสู่โลกของสองเรา
เปรี้ยง!!!
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!”
ถ้าไม่มีคนที่ชื่อว่าสเปลบี สควอโล่ถือกำเนิดขึ้นมา
ฝ่าตีนเรียวงามของฉลามบุกจอมแหกปากยันประตูนำทัพจนกลอนพังนำเข้ามาก่อนเป็นรายแรก ตามมาด้วยผองเพื่อนวาเรียระดับสูงทั้งหลายที่ตามเข้ามาด้วยสภาพไม่จืด และทั้งหมดก็ทำหน้าตาไม่จืดเมื่อเห็นสภาพค้างเติ่งของสองสามีภรรยาที่ถูกขัดจังหวะกลางคัน
“เอิ่ม ให้เวลาพวกเอ็งสามนาที จัดการตัวเองให้เรียบร้อยซะ”
พรึ่บ!!!
ไวประดุจแสง สองเมฆาวายุต่างพร้อมใจกันลุกพรึ่บไปแต่งตัวคนละทิศคนละทางก่อนจะกลับมานั่งประจำที่ภายในเวลาที่กำหนดพอดีเป๊ะ
“มีธุระอะไร...แต่เช้าคะ....”
ฝ่ายผู้หญิงนั่งอายม้วน ส่งสายตาพิฆาตให้ไอ้คนข้างๆที่มันนั่งชิลไร้ยางอายสิ้นดี
“รีบๆพูดล่ะ เจ้าชายจะได้ปฏิบัติกิจกามต่อ”
“อีตาเจ้าชายโรคจิต!”
ผัวะ!!!
“ขอเข้าเรื่องล่ะนะ”สควอโล่มองเบลที่ลงไปกองอย่างสมเพชก่อนจะเริ่มเล่าถึงเหตุการณ์โลกาวินาศที่เพิ่งเกิดขึ้นมาสดๆร้อนๆ ฝ่ายเจมี่ที่นั่งฟังอย่างตั้งใจ(ส่วนเบลก็ตายซากอย่างที่เห็นกัน)ถึงกับนั่งไม่ติดเตียง แต่ก็ทรุดลงไปนั่งได้ใหม่เมื่อผู้กองผมยาว(ไหม้ๆ)หยิบสิ่งหนึ่งออกมา
“ไอ้เบล นี่ใช่มีดของแก....ไม่สิ”
“...”
“ใช่มีดของไอ้แฝดนรกลูกแกหรือเปล่า?”
เบลกะพริบตาปริบๆ
เจมี่อ้าปากค้าง
แต่ก่อนที่พ่อแม่ผู้ต้องสงสับจะได้ขยับอะไร ประตูที่กลอนพังอยู่แล้วก็ถึงคราววินาศถล่มลงมา!
โครม!!!
“ไอ้....พวก....สวะ....”
ไอสังหารคุกรุ่นมาพร้อมกับชายหน้าบากผู้น่าประหวั่นพรั่นพรึงตะลึงงึนงัน....แสนศักดิ์!!!
แซนซัสหันควับหลังจากไล่คนเขียนไปตายทางจิต ดวงตาสีเลือดจ้องมองเหล่าลูกน้องอย่างเดือดดาลยิ่งกว่าตาเพชรของพระเจ้าหลุยส์ ก่อนจะเขวี้ยงอะไรบางอย่างพุ่งตรงไปยังเบลกับเจมี่ที่อ้าแขนรับแทบไม่ทัน!!!
ซึ่ง ‘อะไรบางอย่าง’นั้น แน่นอนว่าต้องเป็น
....
เป็น
....
เป็น!!!
.....
เป็นถุงลายบาร์บี้ตาหวานปิ๊งสองถุง....
อย่าเพิ่งเงิบกัน เพราะว่าไอ้ถุงสองถุงนี่มันดิ้นได้ค่ะพี่น้อง!!!
พรึ่บ!!
และเมื่อถุงถูกเปิดปากออก ก็ปรากฏ!!
“แฮ่ก!! นึกว่าจะขาดอากาศหายใจตายซะแล้ว”
“หนอย!! ทำกันได้นะแซนนัปปี้!!”
สิ่งมีชีวิตสองพระหน่อที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกันดิ้นหลุดออกมาจากที่คุมขัง หนึ่งเป็นเด็กผู้ชายเจ้าของเรือนผมสีชมพูอ่อนยาวเลยมาถึงกลางหลัง นั่งหอบหายใจแฮ่กเนื่องจากขาดอากาศมาเป็นเวลานาน ผิดกับเด็กผู้หญิงผมทองเป็นลอนสวยพลิ้วที่นอกจากจะหอบหายใจดังฟืดฟาดแล้ว ยังไม่วายส่งสายตาอาฆาตให้กับ ‘คุณลุง’ ของตนไม่ได้เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
ใช่แล้ว
หากทุกท่านยังจำกันได้
ฝาแฝดตัวน้อยเมื่อคราวBJ2012 บัดนี้ได้กลายเป็นสองแฝดแสบนรกวัย5ขวบไปเสียแล้ว!
“เบรนดัน เจสซี่ เล่นอะไรของพวกลูกเนี่ย!”
เจมี่ร้องเสียงหลง พลางพยายามจับตัวลูกสาวไม่ให้ถลาเข้าไปหาลุงที่ตอนนี้ยังเดือดปุดๆไม่หาย
“หม่าม๊า! ก็ตาลุงแซนนัปปี้น่ะสิ ใจร้ายกับเด็กตัวน้อยๆได้ลงคอ!”
เอิ่ม ก็ดูพวกแกเรียกเขาเข้าสิ....
“อาเฮีย หลานเขาไปทำอะไรอาเฮียเหรอคะ”
หญิงสาวถามพาซื่อ เรียกอารมณ์ของขึ้นจากบอสวาเรียเพิ่มทวีคูณ แต่เมื่อเห็นดวงตากลมโตสีทองของน้องสาวสุดรักแล้วแซนซัสก็พยายามสะกดอารมณ์ ค่อยๆกัดฟันพูดออกไป
“ไอ้พวกเด็กสวะนี่....มันแอบย่องเข้าไปในห้องตอนฉันหลับอยู่”ว่าพลางชักสิ่งไม่มีชีวิตที่เรียกว่า”ค้อน”ที่หยิบติดมืออีกข้างออกมา”แล้วกะจะเอาไอ้นี่ทุบหัวเพื่อให้ฉันความจำเสื่อม”
พรืดดดดดดดด!!!!
หายใจสะดุดอากาศพร้อมกันทั้งกลุ่ม
“เอาค้อนทุบกบาลบอสวาเรียให้ความจำเสื่อมเนี่ยนะ กร๊าก! ลูกใครวะคิดไปได้!!”
“หุบปากไปเลยปะเกย์เฒ่า”
“แก๊!!! ไอ้เด็กเวรปากเสีย!!”
“ร่มๆไว้ฮร๊าสควอโล่!!”ลุสซูเรียรีบพุ่งเข้ามาบล็อกก่อนที่ผู้กองผมยาวจะได้ฆาตกรรมเด็กแฝด ก่อนจะหันไปพูดกับสองแฝดด้วยรอยยิ้มหวานหยดย้อย”คือ พวกเจ๊มีเรื่องอยากถาม....”
“อี๋ อย่ายิ้มนะ”
“สยองอ่ะ ตุ๊ดแก่”
...เป็นอันต้องเอาเจ๊ลุซซี่กับสควอโล่ไปเก็บทั้งคู่เพื่อความปลอดภัย...
“สรุป พวกนายเป็นคนทำใช่มั้ยฮับ”
ฟรานแต่เพียงผู้เดียวที่สามารถควบคุมสติอารมณ์ไม่ว้ากใส่เด็กน้อยน่าสงสาร(?)ถามด้วยเสียงเรียบเรื่อย ก่อนจะได้คำตอบเป็นเด็กน้อยทั้งสองคนพร้อมใจกันหันก้นให้แล้วส่ายใส่อย่างกวนตีนโคตรๆ
“ม่ายบอก ม่ายบอก”
“เราม่ายบอกกบ เราพูดภาษาอ๊บม่ายเป็น”
“มีว่ามีเอาบอสไปเก็บก่อนดีกว่าฮับ เดี๋ยวใครแถวนี้จะเสียลูก”
หมดสิ้นซึ่งความอดทน ลากบอสออกไปยังเบื้องนอก ณ บัดนั้น
“โด่ พวกไร้ความอดทน”
“งั้นเราก็ไปบ้าง...”
“หยุด!!!!”
ประหนึ่งคำประกาษิตขัดเป็นตายของผู้เป็นพระแม่ สองแฝดที่ทำท่าจะย่องหนีถึงกับยอมนั่งลงกับเตียงแต่โดยดี
“แจซเมเนีย บรันเดนเชีย....”
“หยา...”
“เรียกชื่อเต็มแสดงว่าหม่าม๊าจะแปลงร่าง”
“จะเงียบดีๆหรือถูกตีก่อนแล้วค่อยเงียบ”
...กริบ...
“หม่าม๊าไม่รู้หรอกนะว่าทำไปเพื่ออะไร”เจมี่กอดอก ทำหน้าดุ”แต่ทำแบบนี้มันเกินไปแล้วนะ”
“ตรงไหนกัน สมเป็นลูกเจ้าชายดีออก”
“Shut your fucking mouth up”
....พ่อกริบตามลูกก็ได้...
“ไหน รายงานมาซิว่าทำอะไรลงไปบ้าง”
แจซเมเนียกับเบรนดันเชียหันมามองหน้ากันปริบๆ ก่อนที่สองแฝดจะค่อยๆพูดเสียงอ่อย
“ก็...เอาสว่านเจาะแท็งก์น้ำ...”
“ล่อกบไปตกหลุมกับดัก...”
“เอาไม้ง่ามเสียบตูดตาลุงปลาจวด...”
“ทำลายสวนดอกไม้....”
“เผาผ้าม่าน....”
“จะทุบหัวแซนนัปปี้แต่ไม่สำเร็จ...”
....
พระเจ้าคะ
5ขวบยังขนาดนี้ ถ้าสองคนนี้โตขึ้นไปจะขนาดไหนคะ บอกเจมี่ที!!!
“ชิชิชิ เจ๋งนี่หว่า อย่างงี้แหละลูกเจ้าชาย”
“ใช่ป่ะ ปะป๊าชอบใช่ป่ะ”
“เย้ ปะป๊าอยู่ข้างเราล่ะ!”
“หยุดเลย ทั้งพ่อทั้งลูก!!”
เจมี่ล่ะเพลีย อีตารุ่นพี่บ้า เลี้ยงให้เด็กเสียคนตามตัวเองได้ยังไง!
“ขะ...ขอโทษค่ะหม่าม๊า...”
“จะไม่ทำอีกแล้วครับหม่าม๊า...”
เมื่อเห็นว่าแม่เริ่มหน้าเหมือนยักษ์ขึ้นเรื่อยๆ สองฝาแฝดก็ทำหน้าจ๋อย ผงกหัวขอโทษคนละทีอย่างน่าสงสารจนเจมี่เองอดใจอ่อนไม่ได้ แต่เพื่อไม่ให้ลูกเสียคนไปมากกว่านี้ ต้องเก๊กหน้าเป็นหม่าม๊าใจแข็งไว้ก่อน!
“ดี ไปขอโทษพวกลุงป้าน้าอาด้วยนะ แล้วหลังจากนี้ก็ทำตัวสงบเสงี่ยมสำนึกผิดไป”
“เอ่อ...”
“อ่า....”
“เข้าใจไหม?”
“รับทราบ!!”
ตะเบ๊ะรับคำเสียงดังฟังชัด ก่อนที่จะได้เวลาแฝดนรกถอยหลังออกจากห้องไป
“หม่าม๊านี่ใจร้ายกับลูกจังเลย...”
และได้เวลาเด็กโข่งนี่เหยียดแข้งเหยียดขา สองแขนทำเนียนรวบตัวคุณแม่ที่เพิ่งเก๊กหน้ายักษ์ใส่ลูกเข้ามากอดจากด้านหลัง ก่อนใบหน้าคมคายจะซบลงกับบ่าภรรยาสุดที่รัก ทำเสียงงุ้งงิ้งจนน่าหมั่นไส้
เจมี่พ่นเสียงเฮอะ ค้อนวงใหญ่
“ก็ปะป๊าเอาแต่สปอยล์ลูกจนจะเสียเด็กน่ะสิ”
“โธ่ ปะป๊ารักลูกนี่นา”
รักลูกไม่ถูกทางล่ะสิไม่ว่า!
“แต่ว่า...นี่ก็ได้เวลาของปะป๊ากับหม่าม๊าแล้วใช่ม้า...”
น้ำเสียงเด็กโข่งเริ่มเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ไม่น่าไว้วางใจ มือกร้านเลื่อนไปสะกิดชายเสื้อนอกคนในอ้อมกอดให้ค่อยๆเลิกขึ้น แต่ยังไม่ทันที่เบลจะได้รุกล้ำต่อ หรือเจมี่จะได้ฆาตรกรรมสามีที่รักยิ่ง ลูกกระจ๊อกคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากช่องแอร์อย่างรวดเร็ว!!
จะให้ขัดกันไปถึงไหนวะไอ้ข้าวปั้นเน่า!!
“แย่แล้วครับ ท่านเบลเฟกอล ท่านจาเมเลีย!!”
“ชิชิชิ มีอะไร....บอกไว้ก่อนนะ เหตุผลไม่เพียงพอมีเชือดแน่”
...เอื๊อก...
“พอแน่ครับท่าน!!!”
“อะไรล่ะคะ?”
“ท่านแจซเมเนียกับท่านเบรนดันเชีย จี้ตัวคนเฝ้ายามหน้าปราสาทให้พาออกไปในเมืองแล้วล่ะครับ!!!!”
.....
จากสายข่าวกล่าวมา เจ้าสองแสบมันมาลง ณ ห้างใกล้ๆนี้เอง
“ชิชิชิ เจ้าชายชักอยากเชือดลูกตัวเองซะเล้วสิ”
“อย่าเชียวนะยะ ให้เจมี่ฟาดซักคนละสิบทีก็พอแล้ว!”
หญิงสาวพูดเสียงขุ่นขณะก้าวขาฉับๆไปอย่างมั่นใจราวกับว่ารู้ว่าลูกตัวแสบไปหลบอยู่ที่ไหน ใจจริงอยากจะทักท้วงเล็กน้อยว่าเดินมั่วๆไปไม่มีทางเจอหรอก แต่เมื่อเห็นดวงตาสีทองวาวขวางๆของแม่เจ้าประคุณแล้วก็ไม่กล้าขัด
...เจ้าชายไม่ได้กลัวเมียนะ เกรงใจเฉยๆ...
“อ๊ะ นั่น....”
คุณภรรยาหูไวหันขวับตามคำอุทานของชายหนุ่มที่ชี้นิ้วไปอีกทางกับที่ตนเดินฉับๆอยู่ เห็นผมยาวๆสีชมพูอันแสนจะคุ้นตาของลูกชายกำลังมุ่งหน้าไปทาง...ร้านขายบราเซียคุณผู้หญิง...
แม่เจ้า ห้าขวบเข้าร้านขายบรา!!?!!
“มัวแต่ยืนอึ้งอะไรกันล่ะรุ่นพี่ ตามไปสิ!!!”
ยอดคุณแม่รีบออกตัวลากคุณพ่อวิ่งเข้าร้านขายบราไปโดยไม่แคร์สายตาพนักงานที่มองมาแม้แต่น้อย ดวงตาทั้งสองคู่ของบุพการีกวาดหาลูกแฝดทั่วทั้งร้าน ก่อนจะพบว่าเจ้าแฝดชายมันกำลังจะจิ๊กบราลูกไม้สีดำ!
“เบรนดัน!!!”
“หยา! หม่าม๊านี่นา~!”
ดูมัน ดูมันทำหน้า ตอแหลเหมือนพ่อเด๊ะ!!
“พี่สาวครับ!!”เจ้าลูกชายตัวแสบวิ่งไปหาพนักงานร้านที่ยืนทำหน้าเหลอหลากับเด็กน้อยผู้มีสตรีทำหน้ายักษ์เดินตามมา แต่ก็ยังอุตส่าห์ฟังเด็กพูดได้โดยสติครบถ้วน”บราตัวนี้ พ่อผมฝากซื้อให้อิหนูนะฮะ คนหัวทองๆชี้ๆปิดหน้านั่นน่ะฮะ เก็บเงินที่เขาน้า~”
“อ๋อ ดะ ได้ค่ะ...”
ฟิ้ว~!!!
“พูดอะไรของลูกน่ะ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”
แล้วมันก็เผ่นออกไป ทิ้งให้หนุ่มหล่อผมทองผู้ถูกกล่าวหาถูกสาวๆทั้งร้านจับจ้อง โดยมีแบ็คกราวด์เป็นสาวผมชมพูที่คาดว่าเป็นมเหสีเอกวิ่งสี่คูณร้อยตามลูกไป
อนาถแท้ เบลเฟกอล
...
ทว่า การไล่ล่านั้นไม่จบลงง่ายๆ!!
“เจสซี่!!!”
คราวนี้ไปเจอลูกสาวกำลังงมของอยู่ในร้างเครื่องแต่งกายชาย!
“อ๊ะ หม่าม๊า รับ!!”
แปะ!
เจมี่รับของที่ว่ามางงๆ ก่อนจะแทบปามันทิ้ง
“ใครเสี้ยมสอนให้ปากางเกงในจีสตริงของผู้ชายใส่บิดามารดรบ้างฮะ!!!!”
....
ไล่ล่ากันต่อไป ไม่ว่าจะเป็น....ร้านเหล้า!!
เบลกำลังอยู่ระหว่างการเดินทอดน่องตามหาอย่างไม่รีบร้อน
“ชิชิชิ ออกมาซะดีๆน่าลูกรัก”
“เหล้าชนิดไหนอร่อยสุดอ่ะ”
“เจ้าชายชอบวิสกี้...เฮ้ย!!!”
ไม่ทันจะได้รู้สึกตัว ก็เห็นลูกชายตัวแสบยิ้มแป้นให้พร้อมลากขวดวิสกี้หายไปต่อหน้าต่อตา!
....
หรือแม้กระทั่ง...เซ็กส์ช็อป!!
“เข้ามาในที่แบบนี้ทำไมเนี่ย!!”
เจมี่แทบประสาทกินเมื่อลูกสาวเฟดหนีเข้ามาถึงข้างในร้านมืดๆอันเต็มไปด้วยอุปกรณ์ไม่พึงประสงค์ทั้งหลายแหล่...จะว่าไปมีบางอย่างไม่เคยเห็นเลยนะ...เดี๋ยวสิเจมี่! สติอย่าเพิ่งเตลิด!
“แจซเมเนีย! ออกมาเดี๋ยวนี้!”
“จ๋า หม่าม๊า~”
กรี๊ด!! มันออกมาจากหว่างขาตุ๊กตายาง!!!
“แฮ่ ตัวนี้หนูให้นะ!”
พลั่ก!
คุณแม่จำเป็นต้องโยกตัวหลบทันควันเมื่อแจซเมเนียออกแรงผลักตุ๊กตายางใส่เต็มรัก ก่อนยัยเด็กผมลอนตัวแสบจะวิ่งหายไปในความมืด!
....
และที่สุดท้าย....คิดแลนด์ แดนเด็กเล่น!!
“แฮ่ก..แฮ่ก....หายไปไหนนะ...”
“ชิชิชิ เจ้าชายไม่รู้ รู้แต่เจ้าชายอยากเชือด....”
ตุบ! ตุบ!
“ปาป๊า หม่าม๊า! ทางนี้!”
หันขวับตามเสียงเรียก พบเป้าหมายกำลังยืนปาลูกบอลหลากสีใส่ผนังอยู่ในบ้านบอลอย่างสนุกสนาน...หนอย ไอ้พวกตัวจิ๋วเจ้าเล่ห์ เลือกหลบในที่ที่เขาห้ามผู้ใหญ่เข้านี่หว่า....
....
มันจะดูถูกวาเรียควอลิตี้ไปหน่อยแล้ว!!
“รุ่นพี่!”
“จ๋า?”
“เข้าไปกัน!!”
ฟ้าว!!!!
ไม่ถามความเต็มใจอีกฝ่ายซักคำ เจมี่ก็ลากเบลวิ่งแหกด่านคนเฝ้าบ่อบอลไปราวกับเจมส์บอนด์ก็มิปาน!!!
ทางฝ่ายสองแสบก็ไม่ยืนปาบอลอีกต่อไป ทั้งคู่จับมือกันแล้ววิ่งหายเข้าไปภายในส่วนที่ทำไว้ให้เด็กปีนเล่นเพื่อขึ้นไปสู่สไลเดอร์ทรงกลมกลวงสามทางที่ยกสูงกว่าหัวเบลไปไม่ถึงเมตร ซ้ำชั้นที่ให้ปีนนั้นยังแบ่งยิบย่อยไปถึงสามชั้น...ดูยังไงก็ไม่มีทางที่ผู้ใหญ่จะขยับได้สะดวกภายในนั้น
“รุ่นพี่เข้าไปในนั้นนะ”
“หา?”เบลถึงกับเหวอแดก เอานิ้วไล่ขี้ไซส์ตัวเองให้คนสั่งดู”ให้เจ้าชายเข้าไปจะไม่ติดตายเรอะ?”
“ก็เดินย่อๆสิ! เดี๋ยวเจมี่จะเฝ้าข้างนอกตรงหน้ารูสไลเดอร์เอง”
“เธอตัวเล็กกว่าเจ้าชาย เข้าไปเองไม่ดีกว่าเหรอ”
“เอ๊ะ! ยังจะเถียงอีก!”
...จ้ะ...เข้าก็เข้าจ้ะ...
เจ้าชายโรคจิตบ่นงึมงำก่อนจะยอมย่อตัวเข้าไปแต่โดยดี ไอ้เขาก็ไม่เคยเล่นแบบนี้เลยค่อนข้างตื่นตาตื่นใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพข้างใน เบาะของเล่นหลากสีที่ตั้งไว้เป็นหย่อมๆคล้ายกับฐานฝึกทหารขณะเล่นเพื่อให้เด็กเล่นฉายชัดในสายตาโดยอาศัยแสงสลัวๆจากหลอดไฟที่ติดไว้ข้างๆ
“...!”
ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อที่เท้าเกิดเจ็บแปลบ ยกดูก็พบมีดของเล่นขนาดจิ๋วที่เขานั่งทำให้ลูกปักติดเท้ามา...และเมื่อมองไปเบื้องหน้า ก็พบมีดเหล่านี้ตกอยู่เป็นหย่อมๆราวกับจะใบ้บอกทางให้
“ชิชิชิ....โตขึ้นเป็นอัจฉริยะเหมือนพ่อแน่ๆ”
แต่หลอกแบบนี้ก็ยังเด็กไปนะเด็กน้อย
มือใหญ่เก็บมีดนั่นเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะถอยหลังเดินไปทิศที่ตรงกันข้ามกับถนนสายมีดอย่างมั่นใจ...เป็นไปตามคาด ทางที่เขาเดินมามีทางลัดสำหรับขึ้นไปยังชั้นบนสุดโดยไม่ต้องผ่านชั้นสองให้เสียเวลา สำหรับผู้ใหญ่แถมยังตัวโตก้าวยาวๆไม่กี่ก้าวก็สามารถถึงจุดหมายได้อย่างไม่ยากเย็น
...มันเข็ญใจตรงที่ต้องก้มตลอดเวลานี่ล่ะ อู๊ย..ปวดเอว
“ปะป๊าตามมาถึงจริงๆด้วย”
เบลหันตามเสียงคุ้นหูของลูกชายที่ดังออกมาจากอุโมงค์สไลเดอร์ที่อยู่ตรงกึ่งกลางชั้น ก่อนเสียงสดใสของลูกสาวจอมแก่นแก้วจะดังตามมา
“ปะป๊าเราเก่งจัง~”
“ชิชิชิ รู้ตัวแล้วก็ออกมาซะ”
“ไม่ออก”
“ให้เลือกนะ จะออกมาตอนนี้เจอปะป๊าสุดแสนใจดีที่สุดในสามโลก แล้วกลับไปนั่งกินไอติมกันอย่างมีความสุข หรือจะสไลด์ลงไปเจอหม่าม๊าหน้ายักษ์ตีก้นข้างล่าง”
“เราไม่สไลด์ลงไปหรอก”
“เราจะหลบอยู่ในอุโมงค์นี่แหละ ให้ปะป๊าหม่าม๊ารอจนแห้งไปเลย~”
ไอ้เด็กเปรต…
“เดี๋ยวก็ได้รู้กันว่าใครจะแห้งก่อนใคร”พูดเข่นเขี้ยว”รอปะป๊าอยู่ในนั้นนั่นแหละ เดี๋ยวพ่อจะจับออกมาเชือดเรียงตัว”
“ว้าย กลัวจังเลย~”
ได้เสีย!!
ไม่รอช้า ร่างสูงก็สอดตัวเข้าไปในอุโมงค์ตรงกลางนั่นทันที มือสองข้างอ้าเตรียมคว้าคอลูกมาหักคอจิ้มน้ำพริกเต็มที่!
ทว่า
สิ่งที่เขาพบ กลับเป็นเพียงลูกบอลยางที่ติดหนึบกับผนัง และบนลูกบอลยางนั้นมีสิ่งที่เรียกว่า’เครื่องบันทึกเสียง’ติดอยู่
“เสียรู้แล้วน้า~ ปะป๊าเบล~”
พลั่ก!!
เสียงประสานสดใสดังขึ้นเหนือหัว พร้อมกับฝ่ามือเล็กสองคู่ที่ออกแรงผลักเขาจนเสียหลักลื่นไถลลงไปตามราง!
และปรากฏการณ์เสียรู้เด็กก็ไม่จบแค่นั้น
กึก!!
...ตัวติด....
ความเย็นวาบที่ขากับเสียงกรี๊ดของเจมี่ทำให้เขารู้สึกได้ว่าตอนล่างนั้นรอดพ้นอุโมงค์ไปสู่เบื้องล่างแล้ว...อนิจจา แต่ท่อนบนกลับไม่อำนวย...
....ตัวเลยติดแหง่ก ถูกอุโมงค์บีบอย่างน่าอเนจอนาถใจยิ่งนัก...
อุโมงค์กลางตอนปลายจะแคบกว่าปกติ ผู้ใหญ่ตัวโตๆอย่างปะป๊าน่ะติดชัวร์~
เสียงอธิบายลั้ลลาเกินจำเป็นของแจซเมเนียดังขึ้น พอมองๆดูแล้วมันเป็นบอลยางติดเครื่องบันทึกเสียงที่คงเผลอคว้าตอนไถลลงมา แวบแรกเบลกะจะปาทิ้งด้วยความหงุดหงิด ติดแต่คำพูดต่อมาของลูกขัดเขาเอาไว้ก่อน
เราบอกก็ได้ ว่าทำไมถึงป่วนแบบนี้
น้ำเสียงติดตลกหายไป เหลือเพียงน้ำคำที่จริงจังที่สุดเท่าที่ผู้เป็นพ่อเคยได้ยิน
ก็เพราะว่า วันนี้...ปีนี้...พวกเราตั้งใจจะ...
คำสารภาพสุดท้ายเข้าสู่ประสาทรับรู้ของผู้ฟัง ก่อนที่เสียงจะตัดไปแล้วเบลถูกลากออกมาได้สำเร็จ
.............
“สุดท้ายก็จับไม่ได้....”
เจมี่พูดเสียงอ่อย หลังจากตัดใจที่จะไล่ล่าแล้วมานั่งหมดแรงอยู่ที่ม้านั่งภายนอกห้าง ในหัวยังสับสนว่าตัวเองเลี้ยงลูกผิดวิธีหรืออย่างไร ถึงแสบนรกได้ขนาดนี้
กระป๋องโลหะเย็นเจี๊ยบสัมผัสเข้าที่แก้ม
“น่า เลิกทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเถอะ”
“รุ่นพี่นี่ก็ชิวเกินเหตุ”หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น ทำหน้าเครียดใส่อีกฝ่ายที่เพิ่งกลับมาจากไปกดน้ำส้มกระป๋องมาให้ดื่มดับกระหายคลายความเหนื่อย แต่สิ่งที่ได้กลับมาดันเป็นรอยยิ้มกวนสหบาทาขั้นสุดยอด พร้อมกับปลายนิ้วเรียวที่จิ้มจึ้กเข้ากลางหน้าผาก
“ชิชิชิ เธอนั่นแหละเครียดเกินเหตุ”
“นี่! ห้าขวบจุดไฟเผามันไม่ธรรมดาแล้วนะรุ่นพี่!”
“เด็กโตมาในวาเรียเป็นแบบนั้นแปลกตรงไหน”
...เออว่ะ...
“แต่อย่างน้อยก็น่าจะแยกแยะหน่อยนะว่าตอนไหนควรทำไม่ควรทำน่ะ”ยอดคุณแม่ยังหาเรื่องเถียง”ตอนนี้พวกที่ปราสาทคงหัวหมุนแย่ จะเอาอะไรมาจัดเลี้ยง”
“อ้อ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก”
“เอาอะไรมาคอน...อุ๊บ”คำถามถูกสกัดไปด้วยจูบหอมหวานเบาๆพอให้คนช่างแย้งยอมเงียบซักครู่หนึ่ง ก่อนเสียงทุ้มจะกระซิบอะไรบางอย่างข้างหู
ผลดังคาด ดวงตากลมโตของอีกฝ่ายเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน
“ชิชิชิ เข้าใจที่เจ้าชายพูดนะ”เจมี่พยักหน้าหงึกๆ ปากยังอ้าค้างเพราะช็อค แต่แล้วก็ถูกเบลดึงตัวให้ลุกขึ้นทั้งๆที่หน้าตายังดูไม่จืด”ดังนั้น มากับเจ้าชายหน่อย”
“หา...?”
“เราจะตอกหน้า ‘พวกชอบเซอร์ไพร์ส’ กัน”
..........................
การตัดฉากเปลี่ยนองก์ครั้งสุดท้าย
ย้อนกลับไปที่ปราสาทวาเรีย
ถึงแม้ว่างานจะล่ม
ไฟจะไหม้
ดอกไม้จะบรรลัย
วาเรียก็ยังคงยืนหยัด ที่จะจัดงานวันเกิดให้คุณแอ้ต่อไป!!
เมื่องานธีมยุโรปกลางเกิดการมิวแทนต์ กลายเป็นเพียงดินเนอร์เล็กๆใต้แสงไฟ ณ สวนหน้าปราสาทที่มีเพียงแขกผู้มีเกียรติกับเหล่าหัวหน้าระดับสูง เนื่องด้วยเหล่าลูกน้องเกิดอาการหวาดผวา กลัวมือดีจะบึ้มงานอีกระลอก ทั้งหลายเลยลงทุนรับประทานพอยซั่น คุกกิ้งจนหามตัวเองเข้าโรงพยาบาลกันไปเป็นแถว
“งานปีนี้เรียบผิดคาด”พี่แอ้สุดสวย หนึ่งในแขกผู้มีเกียรติพูดพลางเอาส้อมจิ้มอาหารจึ้กๆ”แต่ฉันก็เข้าใจพวกนายดี อย่าเศร้าไปเลยนะ”
...วาเรียทุกผู้หันไปมองไรท์เตอร์สุดที่รัก ก่อนจะกลับมามองตัวเอง...
แสงระวีอายแทนที่ยังทำหน้าซีด เสียวตูดอย่างสุดซึ่งไม่เสื่อมคลาย
เจ๊ลุสคนงามที่นั่งทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก กวาดตามองสวนดอกไม้แสนสวยซึ่งเป็นอดีตไปแล้วอย่างอาลัยอาวรณ์
เจ้ากบฟรานที่ถึงแม้หน้ายังนิ่ง แต่ดูไปก็รู้ว่าอารมณ์ไม่นิ่งเท่าไหร่
ฉลามคลั่งผู้น่าสงสารที่นั่งลูบผมตัวเองที่ยังดำและคงกลิ่นเหม็นไหม้ไว้ติดทนนานยิ่งกว่าสีซีซั่นโฟร์
สุดท้าย....คุณบอสแซนซัส ที่ทำหน้าเซ็งลูกน้องเหลือจะกล่าว ณ จุดนี้
“จริงด้วยครับ ผมว่าเราหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า”
ฟง แขกผู้มีเกียรติอีกคนยิ้มเทพบุตร พลางทำท่าจะควักสำรับไพ่ในแขนเสื้อออกมา(ซึ่งทุกคนก็แลดูเห็นดีเห็นงาม เตรียมควักตังค์ออกมาวางเดิมพันกันเป็นแถว) แต่ก็ต้องเป็นอันชะงักเมื่อมีของมีคมพุ่งเข้าใส่เสียก่อน!!!
หมับ!!
“...อันตรายนะครับเนี่ย...”
สมกับเป็นสุดยอดปรมาจารย์ เพียงแค่นิ้วนางนิ้วก้อยก็สามารถคว้าสิ่งนั้นไว้ได้ ดวงตาสีนิลพินิจมอง....”มีดจิ๋วแบบเบลเฟกอลเลยนี่ครับ”
“มีอะไรเขียนไว้ด้วยแน่ะ!”
จากการทักของคุณแอ้ ฟงเลยอ่านออกเสียงให้ทุกคนนะที่นั้นฟังกันช้าๆชัดๆ
“Buon Compleno ….”
กรุ๊ง...กริ๊ง...
เสียงกระดิ่งดังขึ้นทันทีที่ฟงอ่านจบ พร้อมกับกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายลงมาเป็นเอฟเฟ็คคู่กับสปอร์ตไลท์ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเปิด และแสงสว่างนั้นก็นำสายตาของทุกผู้ไปพบกับ....
“Happy Birthday!!!”
“Wish you happiness!!”
จักรยานปั่นคู่สีชมพูหวานขับเคลื่อนออกมาจากความมืด ซึ่งผู้ที่อยู่บนนั้นนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน...คู่เด็กแฝดชายหญิงที่รู้จักสรรหาชุดที่เข้าคู่กันจนแม้แต่แซนซัสยังเผลอหลุดยิ้ม แขนเล็กๆนั้นมีตะกร้าขนาดพอดีตัวอยู่กันคนละสี่ห้าตะกร้า ซึ่งของที่อยู่ภายในถูกกลบด้วยดอกไม้ซึ่งคุ้นตากันดีว่าเคยอยู่ในสวนสวยของลุสซูเรีย
ใบหน้าน่ารักแย้มยิ้มกว้าง ผิดกับยิ้มเกรียนๆที่พวกเขาเจอมาในวันนี้
...พระเจ้า....ไอ้เด็กผีสองตัวนี่มันไปล้มหัวฟาดพื้นมาหรืออย่างไร!!!
กึก
สองแฝดลงจากจักรยาน ก่อนจะแยกย้ายกันวิ่งดุ๊กๆเข้าหาผู้ใหญ่ทั้งหลายที่ยังคงนั่งดูเชิงว่าพวกเขาจะทำอะไรยังไง วางระเบิดซ้ำหรือไม่!!
“ให้!”
ตะกร้าในมือของแจซเมเนียยื่นให้เจ๊ลุสเป็นรายแรก
“อะไรกันฮระนี่...ว๊าย! บราที่เจ๊อยากได้นี่นา!”
ตามมาด้วยแสงระวี
“....คอนดอมรสน้ำลายอัลปาก้า....”
ติดๆกันด้วยฟราน
“...นี่มัน...ภาพถ่ายน่าอายของรุ่นพี่เบลใส่กรอบนี่ฮับ...”
ทางด้านบรันเดนเชีย ก็ได้วิ่งไปยังอีกฟากของโต๊ะ
“เหวย...ครีมบำรุงผม!”
สควอโล่ที่ได้รับเป็นรายแรกของฝั่งนี้ถึงกับอ้าปากค้าง
“....วิสกี้ชั้นดีเรอะ....”
แซนซัสรับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่รอช้าก็รินลงแก้วในบัดดล
“...มีของผมด้วยหรือครับนี่...ขอบคุณนะ”
ฟงรับตุ๊กตาซาลาเปาของเล่นมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มตามแบบฉบับ
“โห! อะไรกันนี่ เอเวอรี่ติงอิสท่านฟง!!!”
คุณแอ้ก็รับของขวัญมาด้วยความอะเมซิ่ง....เด็กพวกนี้ไปหามาจากไหน!
“ว่าแต่ ทำไมอยู่ดีๆตบหัวกบาลแตกแล้วอยากลูบหลังขึ้นมาล่ะฮับ”
ฟรานยิงคำถาม เรียกให้ทุกคนที่มัวแต่เห่อของขวัญรู้สึกตัว หันขวับมองสองแฝดแล้วทำหน้ายิงคำถามปานจะมีเควสชั่นมาร์กผุดขึ้นบนหน้า ซึ่งแฝดผู้ถูกถามหันมามองหน้ากันคล้ายจะปรึกษาว่าบอกดีหรือไม่
ในขณะที่กำลังลุ้นรอคำตอบกันอยู่นั่นเอง
กรุ๊ง~ กริ๊ง~
“ชิชิชิ ก็เด็กมันอีโก้แรงไงล่า~”
ก็ได้มีเด็กโข่งเจ้าเก่าเจ้าเดิมชิงตอบแทน!!
จักรยานปั่นคู่สีชมพูปิ๊งแบบเดิมเคลื่อนเข้ามาประหนึ่งเดจาวู แต่บนนั้นกลับกลายเป็นพ่อแม่ของเด็กแฝดที่พวกเขาทั้งหลายนึกว่าไปตามลูกจนลืมกลับปราสาทช่วยกันปั่นเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ซึ่งทั้งเบลทั้งเจมี่นั้นก็มีตะกร้ากลบดอกไม้อยู่ด้วยกันคนล่ะใบเช่นกัน
ทันทีที่สองสามีภรรยาลงมาจากจักรยาน ลูกสาวลูกชายตัวแสบก็วิ่งเข้าไปชนพ่อกับแม่กันคนละที!
“ปะป๊าหม่าม๊าก็อปมุกอ้ะ!”
“ไม่น่าบอกปะป๊าเลย!”
ใช่
เรื่องที่เจ้าพวกนี้บันทึกเสียงสารภาพไว้ คือการที่พวกมันจะเป็นคนจัดเซอร์ไพร์สวันเกิดคุณแอ้เองทั้งหมด!!
“หมายความว่ายังไงวะไอ้เบล!”
คนถูกถามหัวเราะชิชิชิแล้วจัดการบอกแจ้งแถลงไข
“เรื่องของเรื่องคือเจ้าพวกเปี๊ยกนี่อยากทำเซอร์ไพร์สบ้างหลังจากนอนร้องแอ๊ดูชาวบ้านชาวช่องเขาทำมาสามสี่ปี”ว่าพลางขยี้หัวเจ้าเด็กจอมแสบสองคนอย่างมันเขี้ยว”แต่ตรรกะเด็กมันคิดว่าพูดยังไงผู้ใหญ่คงไม่ฟัง เลยจัดการทำลายการจัดงานของเราซะ ของตัวเองจะได้มีคิวแทรก แถมยังเด่นที่สุดในสามโลกอีกต่างหาก”
....ได้ฟังแล้วก็อึ้งทึ่งเสียว....
สรุปที่ทำไปทั้งหมด ไอ้พวกเด็กปีศาจพวกนั้นมันหวังดีใช่มั้ย!
“แต่ยังดีที่มีสำนึก เลยล่อพวกเจ้าชายออกไปติดกับเพื่อซื้อของมาตอบแทน”ถึงท่อนนี้ก็เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่อนจะเปลี่ยนโหมดเป็นหันไปยิ้มอ้อล้อกับหญิงสาวข้างกาย”นิสัยแนวๆนี้เหมือนใครก็ไม่รู้เนอะ”
เจมี่มองค้อนวงใหญ่ เอามือตีเบลแล้วพูดทำนองว่าอย่าท่ามากนัก ก่อนสองผู้ให้กำเนิดจะย่อตัวลงในระดับเดียวกันกับลูกแฝด พร้อมแย้มรอยยิ้มหวานที่เด็กเห็นแล้วเผลอถอยหลังคนละก้าว
ดวงตาสี่คู่สบกันนิ่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่ทุกคนสร้างให้เป็นใจ ลุกออกจาโต๊ะอาการไปหลบมุมมองอยู่ข้างๆ
“แต่สงสัยพวกลูกจะยุ่งกับเซอร์ไพร์สวันเกิดเจ๊แอ้มากเกินไปหน่อย”
น้ำเสียงอ่อนโยนพูดเรียบเรื่อย เบลกับเจมี่หันไปมองหน้ากัน ก่อนสองมือของวายุเมฆาจะหยิบบางสิ่งออกมาจากตะกร้า....ร็อคเก็ตเงินสองเส้นรูปหัวใจสลักลวดลายก้อนเมฆเทียบเคียงไปกับเส้นอ่อนช้อยราวกับสายลม ซึ่งทั้งสองอันนั้นต่างมีชื่อสลักด้วยเพชรเม็ดเล็กๆอยู่บนตัวร็อคเก็ต
Jazmenia
Brendanshia
“จนลืมไปแล้วว่าวันนี้ก็เป็นวันเกิดของตัวเองด้วย”
ดวงตาสีทองเหมือนแม่ของสองแฝดเบิกกว้าง มองพ่อกับแม่ที่บรรจงสวมสร้อยให้ตนด้วยแววตาที่สั่นไหวคล้ายจะร้องไห้อยู่มะรอมมะร่อ
แต่ทั้งสองก็กลั้นน้ำตาไว้
แล้วรีบยื่นตะกร้าในมือออกไปสุดแขน
ดอกไม้ภายในถูกกระทุ้งออกไป จนปรากฏให้เห็นสร้อยลูกปัดทำมือสีทองแบบเด็กๆที่ตกแต่งต่างกัน เส้นที่แจซเมเนียยื่นให้เบลเป็นลูกปัดทองสลับลูกปัดรูปมีดอันเล็กๆ ส่วนที่เบรนดันเชียยื่นให้เจมี่เป็นลูกปัดทองสลับลูกปัดรูปผีเสื้อสีม่วงสวย
และที่จุดกึ่งกลางของสร้อยลูกปัดทั้งสอง ก็มีจี้สลักตัวหนังสือไว้
Tiamo PAPA
Tiamo MAMA
“เรารู้ว่าวันที่พวกเราเกิด มาม๊าต้องเจ็บหนักขนาดไหน”
“และปาป๊าก็เอาแต่สลบแล้วสลบอีก กรี๊ดแล้วกรี๊ดอีก”
“ขอบคุณ ที่ให้กำเนิดพวกเรามา...แง้!!!”
ทิ้งท้ายด้วยคำพูดสุดซึ้ง
แต่ก็ไม่วาย ปล่อยโฮโผเข้าหาพ่อกับแม่จนได้
ทั้งแขกผู้มีเกียรติและเหล่าวาเรียทั้งหลายที่หลบมุมอยู่ต่างทยอยออกมาร่วมวงความซาบซึ้งไปด้วย แถมบรรยากาศยังเป็นใจมากขึ้น เมื่อดอกไม้ปริศนาได้ถูกปล่อยโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า พร้อมกับทำนองดนตรีที่เปิดคลอเบาๆไปด้วยกัน
I’ll be loving you forever,
Deep inside my heart you leave me never,
Even if you took my heart,And tore it apart,
I would love you still, forever,
We’ve had our fun,
We’ve made mistakes,
But who’d have guessed along that road,
We’d learn to give and take,It’s so much more than I could have dreamed,
Cause you make loving you, so easy for me,
There is no one in this world
Who can love me like you do,
That is the reason
….that I,Wanna spend forever with you,….
และเผื่อใครอยากรู้
ว่าใครคือผู้ทำการสร้างฟีลลิ่งปริศนานี้...
“ฮู่ว์ ฟินิชไปอีกปีเด้อค่ะเด้อ”
สาวเหลือน้อยหน้าตาน่าหักไม่เปลี่ยนแปลง ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่บนบอลลูนรูปอัลปาก้าด้วยท่าทางประดุจไมเคิล แจ็กสัน มือข้างหนึ่งทำการโปรยดอกไม้ และอีกข้างหนึ่งก็ควบคุมฝ่ายเสียงด้วยความมั่วซั่วรวดเร็วหาผู้ใดเปรียบ
เธอหันมา ฉีกยิ้มสยองแบบไททันให้กล้อง
“เอ๊า มัวส่องหน้าซูทำอิหยังเล่ารีดเดอร์ บีเจสองซีโร่หนึ่งซั่มจบแล้วเด้อ!!!!”
!!!!THE END!!!!
::TALK::
....
//กราบหลายๆคนที่อาจคุ้นหน้าและไม่คุ้นหน้า//
ขออภัยในความมั่วซั่วรั่วชิบหอยครั้งนี้นคะ แต่ซูก็มามุกเดิมค่ะ เขียนด้วยใจ เอิ้ว!!//ไปตายซะ
ก็สุขสันต์วันเกิดพี่แอ้สุดสวยของซูนะคะ!! แต่งเป็นปีที่สี่แล้ว ระดับความมั่วอัพทุกปี แง
ในตอนนี้ แจซเมเนียกับเบรนดันเชียโต5ขวบแล้ว แสบเอาโล่เอาหอกเอาปลากรอบกันเลยทีเดียว เผื่ออ่านเล้วใครไม่เก็ท แจซเมเนียหัวเหลือง เอ๊ย ผมสีทองเหมือนพ่อ แถมเป็นลอนเพื่อความไฮโซ ส่วนเบรนดันชียได้ผมชมพูจากแม่ ปล่อยยาวสยายประดุจซันซิลเลยทีเดียว
ไม่แน่ใจว่าคาแรคเตอร์จะถูกใจหรือเปล่า ตอนนี้แม้กระทั่งเจมี่เองซูก็ไม่แน่ใจว่าหลุดหรือเปล่า ขอโทษ ณ ตรงนี้ด้วยค่ะ
ส่วนเพลง ใครอยากฟังต่อ คลิกโลด
สุดท้ายนี้ ขอสุขสันต์วันเกิดพี่แอ้อีกครั้ง ขอให้พี่มีความสุข เป็นพี่สาวที่น่ารักของน้องๆตลอดไปนะคะ!!!
//แฝงเผื่อใครอ่านฟิคอื่นของซู-ยูแอนด์มี50เปอร์ มิเชลเล่0เปอร์ค่ะ*เผ่น*
ผลงานอื่นๆ ของ Sushi_Burger ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Sushi_Burger
ความคิดเห็น