[Yongseo] Shortfic:Blue light - [Yongseo] Shortfic:Blue light นิยาย [Yongseo] Shortfic:Blue light : Dek-D.com - Writer

    [Yongseo] Shortfic:Blue light

    สืบเนื่องจากคอนเสิร์ตBlue night in seoulค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    956

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    956

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    5
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ธ.ค. 55 / 20:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ไรเตอร์ชอบอ่านฟิคยงซออยู่แล้วค่ะ

    อ่านมาก็หลายเรื่องแล้ว แต่ไม่เคยแต่งเองซะที

    ครั้งนี้มัน
    ฟินไม่ไหวแล้วจริงๆ

    โกกูมาทุกคนไปฟินแลนด์กลับมากันหรือยังคะ??

    แม้ว่าจะเป็นช่วงสอบของไรเตอร์ แต่ไรเตอร์ก็ยังต้องแบ่งเวลามาพิมพ์Short ficนี้ให้ได้

    เพราะเรื่องของยงซอมัน
    วนเวียนอยู่ในหัว จนไรเตอร์ อ่านหนังสือสอบไม่รู้เรื่องเลยค่ะ



    เป็นเรื่องแรกที่แต่งเพื่อยงซอ ติชมกันได้เลยนะคะ




    ปล. ไว้ว่างๆและดาวน์โหลดโปรแกรมPhotoshopได้ ไรเตอจะมาตกแต่งให้สวยกว่านี้นะคะ ฮี่ๆ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Blue light

                      บรรยากาศก่อนคอนเสิร์ต ผู้ชมมากมายหลั่งไหลเข้ามาจับจองที่นั่งในHall หลังเวทีเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน 4หนุ่ม CNBLUE เจ้าของคอนเสิร์ต กำลังเดินไปเดินมาด้วยความตื่นเต้น

                      “ฮยองฮะ จะขึ้นคอนเสิร์ตแล้วยังจะไปห้องน้ำอีกหรอฮะ” มินฮยอกเอ่ยทัก ลีดเดอร์ของวง จองยงฮวา ที่ตอนนี้กำลังตั้งท่าหันออกไปทางห้องแต่งตัว ทั้งๆที่จะต้องขึ้นเวทีในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

                      “เปล่า” ยงฮวา ตอบปฏิเสธโดยไม่ได้หันไปมองหน้าคนถามเลย ความสนใจของเขา อยู่ที่สมาร์ทโฟนในมือเท่านั้น

                      “อ๋อ ที่แท้ก็ส่งข้อความอยู่นี่เอง” จงฮยอน ถือโอกาสชะโงกหน้าเข้าไปดูบนหน้าจอมือถือของลีดเดอร์ ทำให้ยงฮวารีบสะบัดตัวหนี เพื่อปกปิดความลับ (อิย้งแกยังต้องปิดบังอะไรอีกหรอยะ -- ไรเตอร์)

                      “กลัวเขาไม่มาหรือยังไงก็ไม่รู้” จองชินเอ่ยแซวมาจากที่ไกลๆ

                      “เรื่องของฉันน่า” คนถูกแซวเอ่ยตัดบท ก่อนจะนำมือถือไปฝากไว้ที่พี่ผู้จัดการ “ฝากด้วยฮะ”

       

      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

                      เสียงกรี๊ดต้อนรับดังขึ้น เมื่อบนเวทีมีการเคลื่อนไหว ทั้ง4หนุ่ม เปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วย เพลง Hey you ระเบิดความมันส์กันตั้งแต่เริ่มต้นคอนเสิร์ตเลยทีเดียว สมกับเป็นวงร็อคชื่อดัง

                      บนที่นั่งคนดูชั้น2 มีสาวสวยคนหนึ่ง กำลังก้มหน้ากดโทรศัพท์เพื่อส่งข้อความไปยังใครบางคน

                      “คอนเสิร์ตเริ่มแล้ว ออกมากันหรือยัง” ยุนอาส่งข้อความไปหาทิฟฟานี่ สมาชิกในวงอืนคนหนึ่งที่บอกว่าจะตามมา แต่นี่เริ่มคอนเสิร์ตแล้วก็ยังไม่มาเสียที

                      “กำลังขึ้นรถตู้ไปแล้ว เจอกันนะ” แม่หมี ตอบข้อความกลับมาในทันที

                      “คนอื่นๆล่ะ ยุนอา” คยูฮยอนที่เพิ่งเดินมาถึงเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นรุ่นน้องร่วมค่ายนั่งอยู่โดยปราศจากเพื่อนร่วมวงคนอื่น โดยเฉพาะคนสำคัญ

                      “สวัสดีค่ะ คยูฮยอนโอปป้า อึนฮยอกโอปป้า” ยุนอาโค้งทักทายเล็กน้อย “พวกนั้นเพิ่งเลิกจาก Music Bankเองค่ะ อีกสักพักคงจะถึง”

                      “งานรัดตัวแต่ยังไงก็ต้องมาให้ได้หล่ะสิ ฮ่าๆ” คยูฮยอนเอ่ยแซว ก่อนจะเดินเลยไปนั่งยังที่ที่จงฮยอน จองไว้ให้กับบรรดาคยูไลน์

                      “คงอย่างนั้นมั้งคะ ฮะๆ” ยุนอาหัวเราะตามไปด้วย

                      “สวัสดีค่ะ คุณยุนอา” ยูอี สาวร่างสูงโปร่ง เดินเข้ามาทักทาย คยูฮยอน อึนฮยอก และยุนอา

                      “คุณยูอีก็มาเหมือนกันหรอครับเนี่ย” อึนฮยอกมองยูอีด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม สาวสวยขนาดนี้มาอยู่ตรงหน้า เป็นใครจะไม่ติดตาตรึงใจล่ะ

                      “คุณยูอีก็ต้องมาอยู่แล้วหล่ะค่ะ” ยุนอาหันไปตอบแทนด้วยความหมั่นไส้ในความเจ้าชู้ ของรุ่นพี่อึนฮยอก

                      “มาให้กำลังใจเจ้ามินฮยอกหรอครับ” คยูฮยอน ช่วยไขความกระจ่างให้แก่อึนฮยอก ดูเหมือนจะมีเจ้าไก่คนเดียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย ในขณะที่ยุนอาพยักหน้าถี่ๆเพื่อยืนยันให้แก่รุ่นพี่

                      “อุ๊ย คุณคยูฮยอนทราบหรือคะ” ยูอีถามตาโตด้วยความตกใจ ที่จริงก็เพิ่งจะคุยกันเท่านั้นเอง

                      “เบิร์นนิ่งรู้โลกรู้ครับ ฮ่าๆๆๆ” เบิร์นนิ่งที่ว่าก็คือยอดชายนายจงฮยอน สมาชิกคยูไลน์ของเขานั่นเอง

                      “จงฮยอนโอปป้านี่จริงๆเลยนะคะ ฉันกับคุณมินฮยอกเพิ่งเริ่มคุยกันเองค่ะ” ยูอีตอบด้วยความเขินอาย

                      “คนเลือดกรุ๊ปโอน่ะครับ ชอบหลุดปากออกมาเป็นประจำเลย”

                     

      คอนเสิร์ตยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเพลงที่เล่นจะเริ่มช้าลง เพื่อให้คนดูได้เก็บแรงบ้าง การแสดงเพลงช้าก็ซึ้งกินใจ ไม่แพ้ความมันส์จากเพลงเร็วเลย  ขณะที่เพลงใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น ร่างบาง3คน ก็เดินเข้ามายังที่นั่งชั้น2ด้วยความเร่งรีบ

                      “โอ่ย นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว” ทิฟฟานี่บ่นทันทีที่หย่อนก้นลงนั่นที่เบาะ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับยูอี

                      “ก็ออนนีนั่นแหละ มัวแต่หาต่างหูอยู่ได้ เห็นมั้ยคะฉันบอกแล้วว่าให้เก็บให้เป็นที่ตั้งแต่แรก” ซอฮยอนหันไปบ่นกับแทยอนที่นั่งอยู่อีกข้าง โดยมีแม่หมีทิฟฟานี่คอยเสริมทัพ

                      “แต่ก็มาทันไม่ใช่หรือไง” แทยอนเกาหลังคอด้วยความเขิน

                      “แต่ก็มาไม่ทันไปตั้งหลายเพลงนะคะ” ซอฮยอนตอบกลับหน้ามุ่ย “ฉันยิ่งอยู่ได้ไม่นานอยู่ด้วย พี่เค้าคงยังไม่ได้ร้องSarang bitหรอกนะคะ” เธอบ่นกับตัวเอง ก่อนจะหันไปถามยุนอาที่มาก่อนตั้งนานแล้ว

                      “ยังหรอกจ้ะ” ยุนอาเรียกความสบายใจกลับคืนมาให้กับมักเน่น้อยได้มากโข ถ้าเธอมาไม่ทันเพลงสำคัญที่เขากำชับนักหนาว่าต้องมาฟังให้ได้ คนตัวโตแต่นิสัยเป็นเด็กประถมต้องงอนเธออีกแน่ๆเลย หลังจากที่งอนไปแล้วรอบหนึ่ง เพราะเธอบอกว่าไม่สามารถอยู่ได้จนจบคอนเสิร์ตเพราะต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณลุง

                      “โล่งไปที” ซอฮยอนพ่นลมหายใจออกมาทางจมูก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ส่งข้อความรายงานหาเขาเพื่อเป็นหลักฐานว่าเธอมาถึงเมื่อไหร่

      “โอปป้า ฉันมาถึงแล้วนะคะ กำลังใจอยู่ตรงนี้แล้วนะ ไฟท์ติ้ง!!

        

                      “เอ๊ะ” ผู้จัดการวงซีเอ็นบลู สะดุ้งตกใจจากแรงสั่นในกระเป๋ากางเกง นิ้วอวบหยิบสมาร์ทโฟนของเจ้าลีดเดอร์ที่ฝากเอาไว้ขึ้นมา ทันทีที่เห็นว่าเป็นซอฮยอน เขาก็รีบเดินไปส่งซิกที่ข้างเวที ตามที่ได้ตกลงกับยงฮวาเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

                      “ซอฮยอนมาแล้ว” พี่ผู้จัดการ ขยับปากบอกยงฮวาที่หันหลังกลับมาพอดี ก่อนทำท่าชี้ออกไปยังที่นั่งชั้น2 ที่สำรองไว้สำหรับเพื่อนๆของทั้ง 4หนุ่ม ยงฮวาหันไปมองตามทิศทางของมือที่ชี้ออกไป ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เฝ้ารอ เธอใส่สีฟ้าทั้งชุดมาเชียร์เขาขนาดนั้น ไม่ให้รักได้ยังไง

                      “Love light” ยงฮวา เอ่ยชื่อเพลงต่อไปทันทีที่เพลงเดิมจบลง สายตาจดจ้องไปที่หญิงสาวชุดสีฟ้าที่จับผมด้วยความเขินอาย

      คือเท โบมยอน อูลกูล ลี บัลเก จีกู

      คือเท โบมยอน กาซึมมี ดูกึน ดูกึน

      อาอีชอรอม ซูจูบเกมัลฮาโก

                      เวทีตรงจุดที่ยงฮวายืนอยู่ยกระดับสูงขึ้นจนสายตาของเขาอยู่ระดับเดียวกับเธอที่นั่งอยู่บนชั้น2 แม้ว่าจะไม่สามารถใกล้ชิดกันได้มากกว่านี้ เขาไม่สามารถให้เธอมานั่งชิดขอบเวทีได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้สบตาเธอตรงๆโดยมีแค่อากาศเท่านั้นที่คั่นอยู่ระหว่างเรา สายตาของยงฮวาและซอฮยอนสอดประสาน สื่อความหมายออกมาถึงความรักที่มีให้กันตลอดมา แม้จะมีบางช่วงที่ห่างกันไปแต่เราสองคนก็กลับมาอยู่เคียงข้างกันในที่สุด เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาคิดถึงเธอมากขนาดไหน และเขารู้สึกเสียใจมากแค่ไหนกับช่วงที่ผ่านมาที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้กันและกันเลย ยิ่งการงานประสบความสำเร็จมากขึ้น ทั้งเขาและเธอก็มีเวลาว่างน้อยลง วงของทั้งสองโด่งดังข้ามทวีป ต้องมีการทัวร์คอนเสิร์ตหลายต่อหลายครั้ง ทำให้โอกาสที่จะนัดมาเจอกันตามประสาคนรักดูจะมีน้อยลงไปทุกที การคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ดูเหมือนจะไม่พอเสียแล้ว เมื่อความคิดถึงมันมากจนเกินไป

                  “คือเดนาเยซารัง...........บิท”

                     

                      “Love light” ทันทีที่นักร้องนำบนเวทีเอ่ยชื่อเพลงต่อไป บรรดาพวกพี่ๆก็หันมาเอ่ยแซวน้องเล็กที่นั่งเขินกันใหญ่ จะไม่ให้แซวได้ยังไง ก็พ่อเจ้าประคุณมองจ้องมาที่น้องเล็กของพวกเขาล็อคเป้าหมายชัดเจนเสียขนาดนี้ ยุนอาที่มองตามสายตาของยงฮวามาชนกับซอฮยอน อดไม่ได้ที่จะหันไปกรี๊ดกับทิฟฟานี่ด้วยความอิจฉา

                      “เห็นสายตาของยงฮวามั้ยๆ” ยุนอากระซิบกับทิฟฟานี่ด้วยความตื่นเต้น

                      “ชัดเป๊ะ!!” ทิฟฟานี่บีบมือยุนอาตอบ อิจฉาไม่ไหวแล้ว ทำไมมักเน่ของเธอถึงได้โชคดี มีแฟนหนุ่มที่เปิดเผยชัดเจนขนาดนี้นะ นี่ถ้าไม่ได้เป็นไอดอลกันทั้งคู่ ป่านนี้คงประกาศลงหน้าหนังสือพิมพ์ให้รู้กันทั้งเมืองไปแล้ว

                      “โอ๊ย อิจฉา” แทยอนโวยวายออกมาบ้าง เมื่อเห็นสายตาของนายจองยงฮวาจับจ้องที่น้องสาวของเธอตลอดไม่ยอมละสายตาไปไหนเลย

                      “ออนนี” ซอฮยอนหันไปดุใส่ออนนีทั้งสามที่นั่งกระซิบกระซาบ กรี๊ดกร๊าดแซวเธอกันอยู่นั่น โอปป้านะ ไม่รู้จักอายคนอื่นเขาบ้าง แฟนๆยิ่งคอยจับจ้องเธอกับเขาอยู่ด้วย

                      “ยงฮวาเนี่ยน่ารักจังเลยน้า” พี่ผู้จัดการของซอฮยอน เอ่ยชมยงฮวาให้ฟังเช่นกัน แต่เธอไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ เพราะโอปป้า ก็ชมยงโอปป้าอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ถ่ายรายการด้วยกันเมื่อ3ปีก่อนแล้ว

                      “โอปป้าพูดแบบนี้จะแย่งยงโอปป้าไปจากฉันหรือคะ” ซอฮยอนหันไปเอ่ยแซวพี่ผู้จัดการยิ้มๆ

                      “หืม?? ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย” พี่ผู้จัดการกันมาปฏิเสธเป็นพัลวัน “ใครจะไปแยกเธอสองคนออกจากกันได้เล่า อาจารย์ลีซูมานยังทำไม่ได้เลย”

                      แต่ยังไม่ทันที่ซอฮยอนจะได้ตอบอะไร โทรศัพท์ในมือก็สั่นเตือนข้อความเข้าขึ้นมาเสียก่อน เธอเปิดอ่านดูก็พบว่าเป็นคุณพ่อนี่เอง ที่ตามเธอไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณลุง และขณะนี้ท่านก็จอดรถรออยู่ข้างหน้าHallแล้ว

                      “จบเพลงนี้ฉันต้องไปแล้วค่ะ คุณพ่อฉันมารับแล้ว” ซอฮยอนบอกกับพี่ผู้จัดการ ก่อนจะหันไปลาพี่ๆคนอื่น พอเพลงจบ เธอก็รีบลุกออกไปทันที โดยที่ไม่ลืมโบกมือให้กับคนพิเศษที่เพิ่งลงจากเวทีไฮโดรลิคหลังเพลงจบ

                     

                  ...ซุมกยอโท twinkle ออจอนา นุนเน ฮวัก ตวีจันนา...

                      “ยงโอปป้า คอนเสิร์ตจบแล้วหรอคะ” ซอฮยอนทักทายเสียงใสทันทีที่รู้ว่าปลายสายเป็นใคร เธอกลับมาที่บ้านได้สักพักหนึ่งแล้ว และกำลังอ่านหนังสือรอโทรศัพท์จากคนๆนี้อยู่ดีพอดี

                      (ใช่แล้ว เหนื่อยมากเลย) ปลายสายส่งเสียงออดอ้อน

                      “โอปป้า ไปอาบน้ำแล้วก็พักผ่อนเยอะๆนะคะ พรุ่งนี้ยังต้องขึ้นคอนเสิร์ตอีกวันนึงนะ”

                      (มาอาบน้ำให้หน่อยสิ) ยงฮวาส่งเสียงออดอ้อนอีกแล้ว ยงโชดิ้ง

                      “ยงโชดิ้ง ฉันอยู่ที่บ้านค่ะ” ใบหน้าหวานย่นจมูกใส่ด้วยความหมั่นเขี้ยว

                      (ฮะๆ คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอสบายดีใช่มั้ย) เสียงทุ้มหัวเราะชอบใจ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง

                      “สบายดีค่ะ ท่านบ่นว่าอยากไปให้กำลังใจโอปป้าด้วยนะคะ วันหลังว่างๆโอปป้ามาทานข้าวที่บ้านฉันสิคะ โอปป้าไม่ได้มานานแล้วนะ คุณพ่อกับคุณแม่ท่านคิดถึง”

                      (ฝากสวัสดีท่านด้วยนะ รู้สึกผิดจังที่ไม่ค่อยได้ไปหาคุณพ่อตากับคุณแม่ยายเลย)

                      “โอปป้านี่ล่ะก็ จริงๆเลยนะคะ” ซอฮยอนหัวเราะออกมาด้วยความเขินอาย

                      (พี่เห็นเธอที่คอนเสิร์ตด้วย ใส่ชุดสีฟ้าเชียวนะ)

      “ถ้าโอปป้าได้ดูMusic bank โอปป้าจะรักพวกฉันมากๆเลยหล่ะค่ะ พวกเราใส่ชุดMCเป็นสีฟ้าทุกคนเพื่อฉลองให้กับคอนเสิร์ตBlue nightเลยนะคะ แต่ว่าทิฟฟานี่ออนนีให้ฉันใส่ตัวที่ฟ้าที่สุดเลย”

                      (น่ารักดีออก เวลาที่เห็นเธอใส่สีฟ้าแบบนั้นน่ะ ฮยอนใส่ชุดอะไรก็สวยอยู่แล้ว)

                      “ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวานเลยค่ะ ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับโอปป้าเลยนะ”

                      (เอ๊ะ เรื่องอะไรหรอ)

                      “เพลงซารัง บิท ไงคะ เดี๋ยวคนอื่นก็เอาไปเป็นประเด็นหรอก” (โดยเฉพาะโกกูมาใช่มั้ยจ๊ะซอ พวกเรารักหรอกนะถึงได้จิ้น อิอิ ---ไรเตอร์)

                      (ก็พี่อยากร้องให้เธอจริงๆนี่ ไม่คิดว่ามันโรแมนติกหรอ)

                      “โอปป้า!! ฉันเขินนะคะ” ซอฮยอนทักท้วง “มิน่าล่ะ โอปป้าถึงกำชับให้ฉันอยู่ดูเพลงซารัง บิทให้ได้”

                      (ก็เพลงนี้มันเป็นของเธอนี่ และมันก็จะเป็นเพลงของเธอตลอดไป เหมือนตัวพี่ที่จะเป็นของเธอตลอดไปนี่แหละ)

                      “เลี่ยนจังเลยค่ะโอปป้า” ซอฮยอนทำทีเป็นไม่พอใจ แต่ตัวเองกลับยิ้มแก้มแทบปริ

                      (รู้หรอกว่ากำลังเขินอยู่) และคนปลายสายก็ดันรู้มากอีกต่างหาก มีอะไรบ้างนะที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับตัวเธอ

                      “โอปป้าไปพักผ่อนเถอะค่ะ จะเที่ยงคืนแล้ว ฉันต้องนอนแล้วหล่ะ” ร่างบางหาวหวอดเล็กน้อย

                      (อ้าว ดึกแล้วหรอเนี่ย กู๊ดไนท์นะครับ ซารัง บิทของพี่)

                      “ค่ะ โอปป้าไฟท์ติ้งนะคะ”

                      (เอ้อ พรุ่งนี้เธอก็แวะมาอีกสิ ครอบครัวของพี่ก็จะมาพรุ่งนี้ด้วยนะ เธอก็มานั่งดูกับคุณแม่ของพี่ได้เลย) ทันทีที่กำลังจะวางสาย เสียงทุ้มนุ่มก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน ซอฮยอนจึงยกโทรศัพท์แนบหูตามเดิม

                      “เรื่องนั้นฉันทราบแล้วค่ะ คุณแม่ของโอปป้าโทรมาหาฉันแล้วหล่ะ แต่ว่าถ้าฉันไปนั่งกับครอบครัวของโอปป้ามันต้องเป็นข่าวแน่ๆเลยค่ะ”

                      (นั่นสินะ เสียดายจัง พี่อยากเห็นเธอที่คอนเสิร์ตอีกอ่ะ)

                      “เดี๋ยวฉันจะไปหาโอปป้าที่หลังเวทีดีมั้ยคะ เหมือนตอนนั้นไง” ซอฮยอนกำลังพูดถึงคอนเสิร์ตListen to the cnblue ในตอนนั้นเธอกับเขายังเป็นคู่รักจำแลงในรายการวาไรตี้ชื่อดัง เธอแอบไปดูคอนเสิร์ตของเขา นั่งชื่นชมความสามารถของเขาอยู่ในมุมไกลๆ จากนั้นก็แอบไปเซอร์ไพรส์เขาหลังเวทีเมื่อจบคอนเสิร์ต และในวันนั้นเองก็เป็นวันแรกที่เธอได้พบกับครอบครัวของยงฮวา

                      (ตอนนั้นเธอเป็นลูกสะใภ้ปลอมๆ แต่ตอนนี้เธอเป็นลูกสะใภ้จริงๆแล้วหล่ะ ฮิฮิ)

                      “โอปป้า!!” เสียงหวานเอ่ยดังขึ้นด้วยความเขิน “ไม่เอาแล้ว ฉันไปนอนจริงๆแล้วดีกว่าค่ะ แล้วเจอกันนะคะ”

                      (Good nightนะครับ ซารัง บิท)

                      ทันทีที่วางสายจากคนรัก ซอฮยอนก็เดินไปหยิบไอพอดออกมา สงสัยคืนนี้เธอคงจะต้องฟังเพลงซารัง บิทอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ว่าแล้วก็ เปิดซ้ำไปเรื่อยๆเลยดีกว่า



       


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×